สับสนตัวเองค่ะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vilavan, 13 พฤษภาคม 2012.

  1. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    เบื่อหน่ายคลายกำหนัด ตัดปัญหา
    วิราคา ปะหานกิจ ปิดสังสาร
    ชาติกำเนิด ก่อเกิดภพ บริบทมาร
    ไตรลักษณ์สาม รู้แจ้งจบ พบสัจจธรรม

    อนิจจาเที่ยงแท้ ฤา ธาตุขันธ์
    ทุกข์ขังบัง อิริยาบทเปลี่ยน สุขหรือไฉน
    อัตตาลวง อหังกาซ้อน โมหะกินใจ
    บัณฑิตไซร้รู้แจ้งชัดลงหลัก อนัตตา

    ปิดมายาเพียรรู้ดูจิตพินิจ เพ่ง
    ภายในเด่นกายใจค้น พบจุดหมาย
    หยุดทางต่ำ ล้ำทางธรรม กรรมมลาย
    ถึงที่หมายสลายทิฎฐิ สถิตย์สัมมา

    เหงาใจเราภาวนาแก้ วิภาวตัณหา
    เกิดปัญญาสติธรรม คำสั่งสอน
    สงบสะอาดสว่างว่าง อย่างชินบวร
    สงัดสอนวิเวกจิตเจนจบ ปฎิเวธ ธรรม
     
  2. ขุนบรม

    ขุนบรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอถามและขอปรึกษาได้ไหมครับ

    ผมเองมีความรู้สึกแบบเดียวกับคุณเลยครับ เมื่อค้นลงไปในดวงจิตตัวเอง มันคือความเหงาบางอย่างในดวงจิต ผมค้นหาแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบของจิต แต่ผมมักจะเห็นปัญหาได้ชัดขึ้น นั่นคือสภาวะบางอย่างในจิตลึกๆ และเป็นต้นเหตุแห่งการพยายามไขปริศนา ซึ่งผมไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า จะมีกุญแจในการไขปริศนาปรากฏขึ้น ที่ทำให้พบเจอกับตำราประวัติศาสตร์มากมาย

    จนกระทั่งได้รับรู้สภาวะของจิตตนเองและตอบได้คร่าวๆ ในมุมหนึ่ง ว่า เนื้อแท้ของจิตเราจริงๆ มันไม่ได้เหงา แต่สิ่งที่มาเคลือบต่างหากที่เข้ามาป่วนให้เราสับสน อันเป็นสีปฏิปักษ์อยู่ คล้ายๆ ฝุ่นสีดำมาเกาะดวงแก้ว นั้นเป็นตัวหลอกให้เรามีความดิ้นรนต่างๆ นานา ก็เพราะจิตเรามีอะไรมาแฝงอยู่ข้างนอก แต่เราก็อาจอาศัยจิตคนอื่นที่มีความเข้ากับเราได้มาช่วยไปก่อนได้ให้ความรู้สึกตรงนี้จางลง

    แต่ในอีกมุมหนึ่ง จิตของเราเองที่ผ่องใสนั้น ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดของสิ่งที่มีอยู่ และการค้นหาสิ่งอีกสิ่งหนึ่ง ที่จะทำให้จิตข้างในหายเหงา คืออารมณ์คล้ายๆ อย่างนั้นน่ะแต่ผมใช้ภาษาไม่ถูก กลับทำให้ผมได้พบกับ รายละเอียด ที่สัมพันธ์กับสภาวะของ ธาตุอุปนิสัย และเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ ต่างๆ

    จึงได้ทราบว่า สิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา และอุปนิสัยลึกๆ ของเรา มีดวงชะตา คือ สภาวะความรู้สึกทางจิต สัมพันธ์กันกับสิ่งที่มีธาตุคล้ายตัวเรา เช่น เมื่อใดประเทศไทยอุดมสมบูรณ์เราก็จะไม่เหงา ถ้าหากธาตุภายในดวงจิตเราคล้ายคลึงกับประเทศไทย อันนี้ผมก็คาดเดาว่าคนที่เกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์หรือการสืบทอดสภาวะโบราณๆ บางอย่าง จะมีความรู้สึกในจิตที่ถูกอะไรแปลกๆ แบบนี้ค่อนข้างเยอะ ตามหลักการที่มีคนตั้งไว้ในอีกกระทู้หนึ่งในช่วงนี้ อันนั้นแค่คำอธิบายในส่วนภายนอก

    ถ้าอ่านกระทู้ของคุณคนที่ใช้ชื่อเป็นอักษรจีน น่าจะรู้เรื่องกว่าอ่านของผมเยอะในประเด็นนั้น

    ในส่วนภายในก็คือ ผมเหงาเพราะอยากคุยอยากเจอกับ "จิต" ที่มีอะไรคล้ายคลึงกับตัวเรา หรือมี อะไรบางอย่างที่ผมใช้คำพูดไม่ถูก เพื่อที่จะให้ "จิต" ของคนผู้นั้น หรือจิตวิญญาณตรงนั้น มาทำให้เราหายเหงา หรือมาพบเจอกัน มันเกี่ยวกับธาตุต่างๆ ภายในดวงจิต ซึ่งพอถึงตรงนี้ มนุษย์เราอาจไม่มีภาษาที่จะบรรยายในสิ่งนั้นแล้วล่ะ

    เมื่อปี 2553 ผมก็แปลกใจมากที่สิ่งที่ผมค้นหาเพื่อทำให้จิตตัวเองหายจากสภาวะแปลกๆเกี่ยวกับความเหงา ได้ไปตรงกับวิชาธรรมกายสายหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ที่ปกติผมไม่เชื่อเรื่องแบบนี้น่ะ ที่ว่าจิตจะมีอะไรเป็นรูปเป็นร่างขนาดนั้น แต่ปรากฏว่า ได้ความรู้บางอย่างที่ตรงกัน

    ถ้าพูดง่ายๆ อยากให้เริ่มแก้ปัญหาจากการค้นหาคนที่มีอุปนิสัยคล้ายกันมากๆ ก่อนนะครับ ผมก็ใช้วิธีนี้แหละ ถามเอาจากคนเหล่านั้นถึงสิ่งที่ตนเองสัมผัสได้ในเรื่องเกี่ยวกับจิต ก็จะพบเลยในสิ่งเดียวกับที่จะมาช่วยแยกแยะกับสิ่งที่คุณเจ้าของกระทู้บอกมา

    ในพระไตรปิฎกยังกล่าวไว้ว่า แม้แต่พระอรหันต์ยังชอบสมาคมกันเป็นกลุ่ม ตามสิ่งที่เหมือนกันภายในจิต
     
  3. ขุนบรม

    ขุนบรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +35
    ผมว่าผมพูดออกนอกเรื่องมากเกินไปในข้อที่ว่า ทำไมถึงเหงา มีอีกเรื่องหนึ่งอยากจะอธิบายแต่ไม่รู้ภาษามนุษย์จะอธิบายสิ่งตรงนี้ได้ว่ายังไงน่ะครับ พูดง่ายๆ ก็คือ สิ่งที่อยู่ในจิต นั่นแหละ

    ที่เป็นเนื้อแท้นะครับ ไม่ใช่เรื่องอดีตชาติหรือการยึดติดสิ่งปรุงแต่ง แต่ผมอธิบายไม่ถูกจริงๆ ก็เลยบอก ลองหาคนที่อุปนิสัยคล้ายๆ กันมาคุยดูก่อนอาจจะเจอ


    กับอีกส่วนหนึ่ง ข้อที่คุณบอกว่า อยากกลับไปในที่ที่คุณเคยอยู่

    ผมได้ค้นพบว่า ในใจตั้งแต่เด็ก มีความผูกพันกับดินแดนแห่งหนึ่ง และก็ดินแดนที่ชื่อว่า เชียง...เชียงอะไรก็ไม่ทราบ และมีแต่ความรู้สึกว่าอยากจะมีโอกาสกลับไปเจอญาติมิตร ที่ทำให้ผมรู้สึกหายเหงาได้

    ดูเผินๆ เหมือนการติดอดีตชาติ แต่ในใจ มันเหมือนเป็นความเคยชินมากกว่า ที่ว่า เวลาผมทำหน้าที่ในความเป็นมนุษย์เสร็จตามที่ตัวเองต้องการแล้ว ก็กลับไปอยู่ที่นั่นในทุกภพทุกชาติ แต่ชาตินี้...ก็กำลังจะหาทางกลับไป แต่มันจะเป็นยังไงและมีเงื่อนไขอะไรบ้าง

    ผมมีความรู้สึกว่า อยากกลับไปในที่ที่เราเคยอยู่ อย่างชัดเจนมากมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กและเป็นวัยรุ่น แต่ก็ไม่เคยสนใจอย่างจริงจังในตอนแรกเพราะมัวแต่ทำหน้าที่ แต่มาภายหลังความเหงาทำให้ผมอยากจะทำอะไรให้ใจตัวเองมีความสุขหรือรู้สึกสบาย ก็เลยมีโอกาสได้มาขุดคุ้ยความรู้สึกในใจอย่างไม่คาดคิด

    และแปลกใจมากเลย ชื่อสถานที่บางแห่งที่เคยรู้สึกในใจ มาตรงกับ บุคคลในอดีตที่เราชอบ ในหลายส่วน อย่างที่น่าแปลกใจมาก บุคคลหลายคนด้วยนะครับ คือมีสไตล์อะไรคล้ายๆ เรา แล้วแถมยังมีอะไรที่มาตรงกับสถานที่ที่เกี่ยวกับความรู้สึกในใจผมอีก ตามประวัติแห่งหนึ่งคือ พระธาตุจอมนาง แต่อันนั้นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งน่ะครับ เพราะดินแดนในใจของผมจริง ผมก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เดินไปจนถึงตรง "สบรวก" ที่แม่น้ำโขง แล้วก็รู้สึกว่า เอ... ท่าทางจะต้องเดินเลยไปอีก ตอนนั้นสับสนจริงๆว่า ทั้งประเทศน่ะหมดแล้วเหรอ แต่จริงๆ ที่อยู่ของคนไทยไม่ได้มีแค่นั้นหรอกครับ


    และผมก็ รู้สึกคล้าย ลึกๆ แล้ว มีใจผูกพัน กับบุคคล หรือยังไงก็ไม่ทราบ แต่ในความรู้สึกผมผมรู้สึกเหมือนว่า พวกเขาอยู่ในดินแดนบางแห่ง ในช่วงชีวิตวัยรุ่นและวัยเด็กที่โหยหาคนที่จะมาเข้าใจ ความรู้สึกในใจผมผมก็ตอบไม่ได้จริงๆ ว่า มีอยู่จริงหรือเปล่า แต่มันเหมือนกับว่า สิ่งที่อยู่ในจิตผมคือภาพของบุคคลและกลุ่มบุคคลที่เป็นแบบนั้น

    และก็ยังมีเรื่อง ความรู้สึกในใจเกี่ยวกับ ผู้หญิงผมยาวที่มีเค้าโครงใบหน้าในบางรูปแบบ ที่ผมรู้สึกอะไรบางอย่างด้วยมาตั้งแต่เด็กน่ะครับ

    พ่อขุนผาเมือง ญาติพ่อขุนรามคำแหงแห่งสุโขทัย ไม่ยอมรับตำแหน่งกษัตริย์ไทย กษัตริย์ขอม กษัตริย์ลาว ยศตำแหน่งใดๆ ทิ้งสิ้น แต่กลับออกเดินทางผ่านเวียงจันทน์ และเมืองต่างๆ ในประเทศลาว และรัฐไทใหญ่ด้วยกระมัง กลับไปตามหา นางในใจ ที่ไหนอีกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะประวัติส่วนนี้ไม่ค่อยมีใครรู้ และก็มาอยู่ที่เชียงแสน (ซึ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญที่ ผมและหลายคนก็คงมีอดีตชาติที่ผูกพันกับเมืองนี้อยู่ แต่สภาพมันก็เปลี่ยนไปแล้วเพราะยุคโยนกเชียงแสนยาวหลายพันปีแล้ว)

    ขุนเจือง ก็มีอะไรคล้ายๆ พ่อขุนผาเมือง คือ เกี่ยวข้องกับพระแสงขรรค์ชัยศรี และ ไปอยู่แถวๆ จังหวัดน่านก่อน แล้วถึงไปยุ่งกะเวียงจันทน์ กะเมืองในประเทศลาว รัฐไทใหญ่ แล้วจึงได้ครองเมืองเชียงแสน แล้วก็ไปสร้าง อาณาจักรหอคำเชียงรุ้ง ขึ้นมาได้ยังไงก็ไม่รู้ อันนี้มีเฉพาะในประวัติที่เป็นข้อมูลของชนเผ่าไทลื้อ


    ตัวผมเองเป็นลูกสามัญชน แต่ก็มีอะไรในใจคล้ายๆ กัน จนเขียนได้เป็นเรื่องเป็นราว สิ่งที่อยู่ในใจก็มี ความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่สืบมาตั้งแต่โบราณในทางกายภาพก็มี

    ทำให้ผมมุ่งจะค้นหาคนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าพวกเขามีชีวิตจิตใจเหมือนผม เพื่อตอบคำถามเรื่องหลายสิ่งที่เคยขาดหายไปในจิต (จริงๆ ใช้คำว่าขาดหายก็ไม่ถูก เพราะจิตผมไม่ได้ขาด แต่เมื่อเข้ามาเกิดในโลกมนุษย์ สภาวะของกายทิพย์อะไรตรงนี้มันคงละอย่างกันเลยดูเหมือนขาด คือ กายในโลกเนี่ยมันอาศัยธาตุหลายอย่างมาประกอบกัน)
     
  4. 2please4me

    2please4me สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +11
    เข้มแข็งเข้าไว้ครับ

    ไม่มีใครทุกข์ตลอดไป

    พอปีหน้าก็ดีขึ้นเองละ 5 5 5
     
  5. อาจารย์สัน

    อาจารย์สัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +42
    ผมว่าคุณตอบแบบ ไม่ใช่ปัญญาชนนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...