ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. mind stone

    mind stone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +1,296
    ที่บนสวรรค์..เทวดาทั้งสองฝ่ายยังทะเลาะกันอยู่..ฝ่ายทำลายล้างที่จะทำให้เกิดภัยพิบัติก็จะลงมือทำเต็มที่เหมือนกันเพราะว่ามันถึงเวลาแล้ว..แต่เทวดาอีกฝ่ายก็พยายามยื้อไว้..เพราะสงสารลูกหลานที่ลงมาเกิดเยอะแยะ..สถานการณ์ข้างบนจึงยื้อกันอยู่ในลักษณะนี้..
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    แมลงน้ำกรด

    [​IMG]
    ภัยใกล้ตัว! ถูกพิษแมลงก้นกระดก (แมลงน้ำกรด)จนเกือบเสียโฉม
    Mthainews: รายการตีสิบ ออกอากาศคืนวันที่ 8 พ.ค.นำเสนอเรื่องราวภัยใกล้ตัว ที่พิษของแมลงก้นกระดก หรือที่เรียกว่าแมลงน้ำกรดโดนร่างกายจนเกือบเสียโฉม เพราะพิษของมัน คล้ายกับโดนน้ำกรด
    คุณมิลค์ ชมพูนุช ประพัทธาคิณี แอร์โฮสเตสสาว แขกรับเชิญมาเล่าประสบการณ์ว่า เธอถูกแมลงตัวนี้กัดจนเกิดรอยแดง จนกระทั่งผู้โดยสารคิดว่าโดนตบมาจากบ้าน อาการวันที่สามเห็นชัดเจนว่ามีรอยแดง ขึ้นมาเรื่อยๆ หลายจุด
    เธอเท้าความไปว่า ที่บ้านมีแมลงชนิดนี้จำนวนมาก แต่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร เมื่อพบว่าอยู่บนเตียงนอน เลยจับมันแล้วโยนไป แล้วมือที่จับไปโดนน้ำของมันเผลอมาจับใบหน้า เสยผม จนกระทั่งค่อยๆเป็นรอยขึ้นมา ที่จมูก ข้างแก้ม จนค่อยขึ้นทั้งหน้าชัดเจน รู้สึกตึงและแสบที่ใบหน้า คล้ายรอยข่วน ตาเริ่มเป็นสะเก็ด แก้มมีหนอง ปากเป็นแผล
    [​IMG]
    แมลงก้นกระดก (แมลงน้ำกรด)
    เมื่อไปพบแพทย์ทราบว่าอาการชัดเจน เกิดจากแมลงก้นกระดก เพราะคนไทยจะเป็นเยอะ โดยที่ไม่รู้ว่าตัวอะไร แผลจะชัดเจน อยู่ที่เราจะจะรู้หรือไม่
    คุณมิลค์ เล่าว่าบริเวณที่เป็นแผลจะเจ็บมาก จนน้ำตาไหล อาการแพ้แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนแพ้จนเป็นปล้องๆ จนน่ากลัว แพ้มากน้อยแตกต่างกันไป
    [​IMG]
    คุณศิลฤดี ที่ปรึกษากรมวิชาการเกษตร ด้านนิเวศน์วิทยาแมลง กล่าวว่า แมลงชนิดนี้จะมีน้ำในตัวซึมๆอยู่ตลอดเวลา หากโดนนิดเดียวก็เกิดอาการแพ้ได้ ปัจจุบันจะเรียกว่าแมลงเฟรชชี่ ชุกชุมในช่วงเดือนพฤศจิกายน ต่อเนื่องถึงมิถุนายนช่วงที่น้องใหม่ที่ทำกิจกรรมรับน้องมักจะโดน หากตบน้ำพิษจะแตก รับพิษ 2 วันจึงจะพอง ต้องระวังไม่ให้น้ำแตก หากแตกอาจติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งหากเข้าตา เยื่อบุตาจะอักเสบ เมื่อรู้ว่าโดนแมลงแพทย์จะทราบได้ทันทีหากมีอาการ
    การปฐมพยาบาลอย่างรวดเร็วต้องรีบล้างน้ำสบู่ให้สะอาด เพื่อให้เจือจาง
    Mthai News

    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/OHyKDG8ZlL0" frameBorder=0 width=420></IFRAME>
    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/WGsefLW5eB8" frameBorder=0 width=420></IFRAME>
    <IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/5giVEfiZt5k" frameBorder=0 width=420></IFRAME>


    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่านกกว่า 5,000 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนกกระทุง ตายเกลื่อนตามแถบชายฝั่งทางเหนือของประเทศเปรู หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวการเกยตื้นตายของโลมาจำนวนมาก
    ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังหาข้อสรุปที่แท้จริงของเหตุการณ์นี้ไม่ได้ แต่คาดว่าอาจเกิดจากโครงการสำรวจหาแหล่งน้ำมันในทะเลของบริษัทเอกชน
    ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเปรู โต้แย้งว่าน้ำที่อุ่นขึ้นของมหาสมุทรแปซิฟิกน่าจะเป็นสาเหตุของการตายของนกและโลมาในครั้งนี้ เนื่องจากมันก่อผลกระทบต่อแหล่งอาหารของสัตว์เหล่านี้ อีกทั้งผลชันสูตรโลมาก็ไม่พบสารปนเปื้อนใดๆ
    นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมยังกล่าวอีกว่าปรากฎการณ์นี้จะลามไปยังชายฝั่งอื่นๆ และส่งผลให้สัตว์ทะเลและนกจำนวนมากตายลงเช่นกัน
    [​IMG]
    [​IMG]
    แท็ก : ตาย, นกกระทุง, เปรู



    [​IMG]
    MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศเผยคลิปสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ลอยพริ้วไปมากับสายน้ำ ใต้ทะเลลึกกว่า 5,000 ฟุต ความยาว 6 นาที ซึ่งเป็นคลิปของยานสำรวจโลกใต้น้ำ “ROV” (Remotely Operated Vehicle)
    คลิปดังกล่าวถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา ท่ามกลางข้อสงสัยของผู้ชมว่า สิ่งมีชีวิตที่ปรากฎในคลิปนั้นคือตัวอะไร บางคนบอกว่ามันเป็นแมงกระพรุน ขณะที่บางคนบอกว่ามันคือปลาวาฬ แตาบางคนกลับบอกว่ามันคือ ถุงพลาสติกลอยไปมาเท่านั้น
    อย่างไรก็ตาม มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้อาจจะเป็น แมงกระพรุนสายพันธุ์ Deepstaria enigmatica ซึ่งพบอยู่ทางใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ มีลักษณะโปร่งแสง ลำตัวบางมาก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลำตัวกว่า 60 ซ.ม.
    [​IMG]
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    มหาพายุยังไม่มาในตอนนี้ แต่ให้ระวังเรื่องแผ่นดินไหวและแผ่นดินยุบ !!!

    ทองผาภูมิ สมาชิก

    แบ่งปันความฝัน เมื่อวันที่ 9 -5 -2555 เรื่องเล่าในความฝัน บ้านเราอยู่เขตจอมทอง กทม. ตอนนั้นเป็นตอนกลางวัน เรากับพ่อนั่งมอง พายุหมุนแบบงวงช้าง ตรงหน้าต่างชั้นสอง พายุกำลังมุ่งตรงดิ่งมาที่บ้านเรา ในขณะเดียวกันพวกเรามองเห็นพระองค์หนึ่งปรากฏตัวบนท้องฟ้า ปัดพายุไปอีกทางนึง พวกเราพนมมือขึ้นกล่าวสาธุ ขอบคุณพระองค์นั้น ในฝันเราไม่รู้ว่าพระองค์ไหน เราก็ตกใจตื่น

    10-05-2012, 03:34 PM

    ญานทิพย์ สมาชิก

    มีนิมิตเข้ามาเห็นหลุมยุบกว้างใหญ่ มีซากปรักห้กพังของตึกรามบ้านช่องมีแสงสว่างเกิดจากการฉายไฟ เหตุการณ์น่าจะเกิดเวลากลางคืน ภาพชัดเจนมากๆ น่าจะเป็นเมืองใหญ่

    19-04-2012, 07:15 PM

    Prophecy สมาชิก

    ฝันว่า ผมกับหลวงตามหาบัว เดินไปตามซากของตึกพังเละเทะ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ท้องฟ้ามืดมัวไปหมด มีไม่กี่ตึกที่ยังยืนอยู่

    20-04-2012, 11:01 AM

    ที่่มา "ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2012
  4. ไฟฉาย

    ไฟฉาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +112
    แนะนำหนังน่าดูครับ Take shelter
     
  5. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    11 พ.ค. 55

    เขาไม่ได้ทะเลาะกันหรอก แค่ปรึกษาว่าจะทำอย่างไร?

    ทางโลกบางกลุ่มยังไม่พร้อม รอพร้อมเมื่อไรคงจัดหนัก

    องค์อินทร์๙๗
    ทำการแทน
     
  6. สิงหราชพล

    สิงหราชพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +230
    11 พ.ค. 55

    ชาวต่างดาวแจ้งว่า เมืองไทยรอดเพราะมีผู้มีบุญมากล้น


    รักษาการแทน

    ณ ดาวอัลโดรเมดาที่ 904
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ภัยพิบัติที่จะเกิดกับประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๖๐ !!!

    [​IMG]

    ประเทศไทยนับจาก ปี พ.ศ. 2555-2559 อาจจะเลยไปถึงปีพ.ศ.2560 จะเป็นปีที่ประเทศไทยมีแต่ภัยอันตรายต่างๆ รุมเร้าเข้ามาเล่นงาน ทั้ง “ภัยทางการเมือง” พอเรื่องการเมืองเริ่มจะสงบ หรือเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง ก็ต้องมาเจอกับ “ภัยธรรมชาติ” ที่นับวันจะรุนแรงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะปี “พ.ศ.2557” จะเป็นปีหฤโหดมากที่สุดสำหรับประเทศไทย รวมไปถึงคนไทยอีกจำนวนมาก ที่ต้องสังเวยชีวิตและทรัพย์สินอย่างใหญ่หลวง จาก “ภัยธรรมชาติ” ที่กระหน่ำเข้าใส่อย่างชนิดไม่ทันตั้งตัว

    นอกจากจะเกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากจะไร้ที่อยู่อาศัย พ่อ-แม่-ลูกจะพลัดพรากจากกัน เด็กกำพร้าจะมีมากมายเพราะสูญเสียพ่อแม่ไปกับสายน้ำ ตึกรามบ้านช่องบางแห่งจะทะลายครืนลงมาอย่างน่าตกใจ หรือจะเรียกว่า “ตึกถล่ม” ก็ไม่ผิด ถนนและสะพานหลายแห่งจะเสียหายจนใช้การไม่ได้ ประเทศต่างๆจะระดมความช่วยเหลือมายังประเทศไทย ข่าวใหญ่ข่าวดังไปทั่วโลก กรุงเทพฯและปริมณฑล จะกลายเป็นทะเลสาป ไปในชั่วพริบตา

    ต่างจังหวัดบางจังหวัดจะถูกคลื่นน้ำขนาดใหญ่ถล่มยับเยินแทบจะเรียกว่า ราบเป็นหน้ากลอง ในปีพ.ศ.2557 ธรณีพิโรธสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ไม่อยากพูดว่าเพราะ “เขื่อนบางแห่ง” จะแตกเดี๋ยวจะถูกฟ้องร้อง หาว่าทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว หรือข้อหาทำให้ประชาชนแตกตื่นตกใจ แต่อยากบอกซ้ำอีกครั้งให้ทุกคนจำไว้ว่า ผมเคยพูดว่า “ลูกชายคนเล็ก จะซื้อบ้านในกรุงเทพฯ แต่ผมห้ามไม่ให้ซื้อ” ถึงปีพ.ศ.2557 ทุกคนจะเข้าใจและจะเห็นเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ ตามที่ผมเขียนไว้ในวันนี้

    อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจจนเกินเหตุ เพราะบางเรื่อง หมอดูก็ทำนายผิดมาแล้วเหมือนกัน หมอดูไม่ใช่เทวดา แต่ “หมอนิด” เป็นห่วงทุกคนจึงขอให้ทุกคนอย่าประมาท อยากให้ทุกคนหมั่นสวดมนต์ ภาวนา เอาไว้อย่างสม่ำเสมอ คนมีศีลธรรมจะรอดพ้น คนที่ปฎิบัติภาวนาจะปลอดภัย ไม่ต้องลงทุนซื้อบุญด้วยเงินแม้แต่บาทเดียว เพียงแต่ลงทุนด้วย กาย วาจา ใจ เท่านั้น ก็จะได้อานิสงส์แห่งบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้มากกว่าการสร้างโบสถ์ สร้างเจดีย์เสียอีก
    <O:p</O:p
    ใกล้ๆปลายปีพ.ศ.2557 ประเทศไทยอันตรายในเรื่อง “ภัยธรรมชาติ” ที่รุนแรงที่สุด หลังจากนั้นติดต่อไปถึงปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยยังไม่พ้นภาวะแห่งกรรม เพราะจะมีบุคคล “สำคัญ” ของประเทศสูญเสีย ถึงตอนนั้นจะเกิดการช่วงชิงอำนาจกันระหว่าง “คนมีสี”จะเกิดขึ้นตามมา ปีพ.ศ.2557จะเป็นปีแห่งการทำลายล้าง พ่อค้า-นักธุรกิจและผู้ที่ลงทุนทำธุรกิจต่างๆ ควรจะต้องระวังให้มาก ถ้าไม่หาทางป้องกันให้ดี ท่านจะเสียหายอย่างใหญ่หลวง รวมไปถึงบริษัทหลายแห่ง ยกเว้นบางบริษัทที่ถือครองสินค้าอุปโภค-บริโภคอยู่ในกำมือเท่านั้นแต่ก็ได้รับผลกระทบด้วยไม่มากก็น้อยเหมือนกัน

    ในปีนั้นธนาคาร ทุกธนาคาร จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สถาบันการเงินหลายแห่งจะสูญเสียอย่างมหาศาล เพราะประชาชนเจอภัยทางธรรมชาติอย่างรุนแรง จึงไม่สามารถที่จะหาเงินมาส่งคืนธนาคารได้ อ่วมแน่ๆสถาบันการเงินทั้งหลาย หมู่บ้านจัดสรรต่างๆ จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ประชาชนจะขยาดกับกรุงเทพฯและปริมณฑลไปนานทีเดียว ราคาที่ดินในเขตที่เจอภัยพิบัติราคาจะตกต่ำลงมากทีเดียว โรงงานบางแห่งจะถูกกระแสน้ำเข้าถล่มจนเสียหาย ถ้าเป็นโรงงานของชาวต่างชาติ หรือแม้แต่ของนักธุรกิจชาวไทยที่โดนน้ำถล่ม จะย้ายฐานการผลิตไปจากประเทศไทยบ้าง ไปต่างจังหวัดที่ปลอดภัยสูงกว่าในกรุงเทพฯและปริมณฑล

    จำไว้ “กรุงเทพฯและปริมณฑล อันตราย” มีสิทธิ์จมบาดาลภายในปี พ.ศ.2557 แต่คิดว่าคงจะยังไม่จมตลอดไป อาจจะจมบาดาลชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่จะรุนแรงมากกว่าปีพ.ศ.2554 ที่ผ่านมาเป็นร้อยเท่า พันเท่า จึงขอเตือนด้วยความเป็นห่วงคนไทยทุกคน ผมมีสิทธิ์ถูกด่า มัดจำล่วงหน้าฟรีๆเพราะดันมาเขียนเรื่องที่ยังอยู่ห่างไกลนานเป็นปีๆ และไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่?

    ผมไม่ใช่นักวิชาการ เป็นเพียงหมอดูธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น แต่อยากให้ทุกคนที่อ่านบทความในวันนี้ ก๊อปปี้ หรือปริ๊นบทความนี้ แล้วนำไปอัดพลาสติกเก็บเอาไว้ดูเล่น เพราะ “หมอนิด” คงจะใกล้บ้ามากขึ้นทุกที จึงมานั่งทำนายเรื่องที่ ยังไม่มี หมอดู ในประเทศไทย คนไหนกล่าวถึงเลย มันจะเป็นไปได้หรือ? มันจะเกิดขึ้นจริงหรือ? ยังไม่มีใครตอบได้ นอกจากกาลเวลาเท่านั้น จะเป็นเครื่องพิสูจน์

    ทางแก้นั้นยังพอมีอยู่บ้างถ้าทุกคนช่วยกันสวดมนต์ภาวนา ขอให้ประเทศไทยรอดพ้นจาก “ภัยธรรมชาติ” หากจะเกิดก็ขอให้อย่ารุนแรงมากนัก ทุกคนต้องร่วมมือและร่วมใจกันภาวนา สามารถช่วยให้บรรเทาลงได้ถ้ารีบทำกันตั้งแต่ตอนนี้ ใครจะด่า หมอนิด ตอนนี้สามารถด่าได้ฟรี เพราะเหตุมันยังไม่เกิด และไม่รู้ว่ามันจะเกิดหรือไม่? ขอให้ทุกคนใช้ “วิจารณญาณ” ในการอ่านบทความในวันนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ สติ ทุกคนต้องมี สติ อย่าเพิ่งตื่นตกใจเกินเหตุ เดี๋ยวจะเป็นกระต่ายตื่นตูมไปกันใหญ่

    อย่าคิดว่า นี่เป็น “หมอนิด” พูดหรือเขียนอะไร แล้วต้องเชื่อไปหมดทุกเรื่อง ถ้าทุกคนไม่ประมาทถึงจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นมาก็ตาม มันก็สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาไปได้เช่นกัน จงเชื่อในความดีที่ท่านได้ทำมาแล้ว และจงทำแต่ความดีตลอดไป จำไว้ว่า “สวรรค์ทางรก...นรกทางเตียน”...เพราะฉะนั้นศีล5 ขอให้ทุกคนรักษาเอาไว้ให้ดีเพราะจะเป็นเกราะคุ้มครองป้องกันยามมีภัย ภาวนาเข้าไว้ภัยทั้งหลายจะไม่มี
    <O:p</O:p
    ด้วยความเคารพ<O:p</O:p
    หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
    5 พ.ค.2555

    ที่มา http://www.mornid.com/home.php
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1818327.jpg
      1818327.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54 KB
      เปิดดู:
      12,669
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  8. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ karan20 [​IMG]
    เคยได้ยินบางท่านว่า " เขากำลังต่อรองกัน "
    เพราะญาติๆของเหล่าเทวดา และพวกที่อาสาลงมาที่โลกมีิอยู่มาก
    ถ้าเตือนบ่อยๆ แล้วไม่เชื่อ ในที่สุดก็ต้องเลิกเตือน คือเอาจริง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ข้อนี้ไม่ใช่ประเด็น ผู้ที่ลงมาเขาย่อมรู้ตัวและหน้าที่ของเขาดีแต่ปัญหาอยู่ที่ผู้ตามคือ

    บางรายเชื่อแต่ไม่เตรียม
    บางรายเชื่อครึ่งๆกลางๆก็ไม่สนใจเตรียม
    บางรายคิดว่าตัวเองมีบุญพอก็อยากวัดดวง
    ผู้ที่เชื่อก็ไปหาที่อยู่เองตามลำพัง
    ความไม่พร้อมของพื้นที่หลบภัย ที่เกิดจากเงินสนับสนุนน้อย ยังเตรียมการไม่ทัน(ข้อนี้สำคัญมากที่เป็นสาเหตุให้มีการเลื่อนอยู่บ่อยๆ)

    ถ้ามัวนิ่งเฉยก็ระวัง....ยกเล้าให้ดี

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คำทำนาย มี 2 ด้าน "ข้อเสีย-ข้อดี"
    <O:p
    [​IMG]

    "เมื่อมองถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นที่เฮติ อยากให้มองว่าเป็นสัญญาณเตือนให้คนหันมาใส่ใจในความปลอดภัยของตนเองและสังคมมากขึ้น รวมทั้งมองเห็นถึงความเอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ของคนทั่วโลก ที่สะท้อนให้เห็นว่าคนเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก ในความมืดยังมีสิ่งที่สวยงาม ความรัก ความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ ทำให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้

    เป็นการระบุของ นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต ต่อกรณีเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในปี 2553 นี้ ที่ดูจะสอดคล้องกับ “คำทำนายทายทัก” ของหมอดูหลาย ๆ คน<O:p จนอาจทำให้บางคนเกิด “วิตกจริต-จิตตก”<O:p และจะไม่เป็นผลดีทั้งต่อตนเอง-คนรอบข้าง<O:p ทั้งนี้ อธิบดีกรมสุขภาพจิตบอกว่า... ความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องเชื่อโดยมีพื้นฐานอยู่บนเหตุผล มองอย่างรอบด้าน 360 องศา และต้องไม่ทำให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อน<O:p

    “คนเราให้ความสนใจในเรื่องการทำนายทายทัก เพราะมีความสุขน้อยลง ขาดที่พึ่งทางใจ จึงจำเป็นต้องหาที่ยึดเหนี่ยว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่ทั้งนี้ อยากให้มองว่า ความเชื่อมีทั้งข้อดีและข้อเสีย”<O:p

    อธิบดีกรมสุขภาพจิต บอกต่อไปว่า... ถ้ามองในภาพรวมของสังคม ก็อาจมองได้ว่า การทำนายทายทักในทางลบ แล้วบอกให้คนเข้าวัด ทำบุญ ฟังธรรม หรือสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตรงนี้ก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะทำให้ศาสนาเข้ามาอยู่ในจิตใจของคนในสังคมได้มากยิ่งขึ้น ตรงนี้ก็ต้องถือว่าเป็นข้อดี<O:p

    ส่วนในระดับบุคคล สามารถมองได้ว่า การทายทักในทางลบเป็นการช่วยเตือนให้ต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิต ให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องไม่เชื่อมากจนทำให้ความคิด อารมณ์ พฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม<O:p “กลายเป็นความหวาดกลัว ตื่นตระหนก ไม่กล้าที่จะทำอะไร ทำให้เสียหน้าที่การงาน จนเปิดโอกาส จนเป็นช่องทางให้ผู้ประสงค์ ร้ายเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากเรา ทำให้ตนเองและครอบครัวต้องเดือดร้อน ซึ่งจะยิ่งทำให้ความทุกข์เข้ามาแทนที่อย่างไม่สิ้นสุด” ...อธิบดีกรมสุขภาพจิตระบุ<O:p และทิ้งท้ายว่า...

    ถ้าเรายึดมั่นในการทำความดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน และรู้จักวิธีสร้างขวัญกำลังใจให้ตนเอง ซึ่งทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ ถ้าเรารู้จักมองวิกฤติให้เป็นโอกาส เราก็จะหาทางออกให้กับตนเองได้ทุกสถานการณ์ โดยคำทำนายก็จะเป็นส่วนเสริมให้เราดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท<O:p “เสริมให้เราดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท ทั้งด้านลบและด้านบวก” ...นพ.ชาตรีว่าอย่างนี้<O:p

    ทางด้าน นพ.เทอดศักดิ์ เดชคง จิตแพทย์ประจำกรมสุขภาพจิต ให้ข้อคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า... คนเราให้ความสนใจการทำนายทายทัก เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งภายใต้ความไม่รู้ และความอยากรู้ ทำให้คนเราพยายามหาข้อมูล เพื่อจะทำให้สบายใจขึ้น โดยความเชื่อและคำทำนายต่าง ๆ มีทั้งด้านบวกและด้านลบ<O:p

    ด้านบวก คือ ทำให้เราเกิดกำลังใจ มีที่พึ่งในแง่จิตวิทยา การที่เรารู้ว่ามีทางออกในชีวิตจะช่วยสร้างความหวังกำลังใจให้เกิดขึ้นได้ ถ้ามองในแง่นี้คำทำนายที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเรื่องที่ดี และส่งเสริมสุขภาพจิตได้ด้วย<O:p

    “แต่ถ้าบางครั้งคำทำนายเป็นไปในลักษณะ สร้างความตื่นตระหนกจนเกินไป หรือแบบที่มองไม่เห็นทางออก เช่น การทำนายถึงวันสิ้นโลก การไปเชื่อคำทำนายแบบนี้จะทำให้เรารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำตอนนี้สูญเปล่า ไม่มีความหวัง ถือเป็นความเชื่อที่ไม่สร้างสรรค์”<O:p

    จิตแพทย์ประจำกรมสุขภาพจิต ระบุต่อไปอีกว่า... เราควรแยกแยะให้ออกว่า ความเชื่อลักษณะใดเป็นความเชื่อที่ทำให้เกิดขวัญกำลังใจ ซึ่งถ้าขวัญกำลังใจดีเราก็จะสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ได้ สามารถวางแผนชีวิตของตนเองได้ สามารถทำความดีและทำสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่เรารัก รวมถึงมีกำลังใจที่จะทำงานให้เต็มกำลัง เราก็จะได้รับผลดี ดังนั้น เราจึงควรจะแยกแยะให้ออกว่าควรจะเชื่อแบบใด เพื่อให้เกิดประโยชน์<O:p

    สำหรับคำทำนายที่ทำให้รู้สึกหดหู่จนเกินไป แถมยังทำอะไรไม่ได้ จิตแพทย์ประจำกรมสุขภาพจิตบอกว่า... ก็อาจต้องมีการจัดการตนเอง โดยรับรู้ให้น้อยลง หรือหาวิธีอื่นที่ทำให้สบายใจขึ้น โดยตั้งอยู่บนความสมเหตุสมผล<O:p “เช่น ถ้าเรามีเคราะห์ แล้วทำบุญ ทำทาน สร้างพระ ปล่อยนก ปล่อยปลา ถือว่าสมเหตุสมผล แต่ถ้าต้องสะเดาะเคราะห์ มีพิธี กรรมหรือมีการบูชายัญที่ต้องสูญเสียเงินทองจนทุกข์ใจมากยิ่งขึ้น ถือเป็นความเชื่อที่เป็นหนทางเพิ่มทุกข์และทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น” ...นพ.เทอดศักดิ์ ระบุทิ้งท้าย<O:p

    ทั้งนี้ ว่ากันเฉพาะคำทำนายทายทักเมืองไทยในปี 2553 นี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม ภัยพิบัติ-ภัยธรรมชาติ และโดยเฉพาะด้านการเมือง ก็ต้องยอมรับว่าหมอดูหลาย ๆ คนเทน้ำหนักไปในทางเดียวกันคือ “ไม่ค่อยดี” ขณะที่บางคนก็ทำนายแรงถึงขั้น “เละแน่” ซึ่งกับคนที่เชื่อโหราศาสตร์ก็อาจจะเกิด “วิตกจริต-จิตตก”<O:p

    แต่ “ความเชื่อ” ก็มีทั้ง “ข้อดี” และ “ข้อเสีย”<O:p สำคัญคือ...ต้องรู้จักที่จะเชื่อโดยไม่ให้มีข้อเสีย<O:p และหากเชื่อแล้วเกิดข้อดีขึ้นได้...ก็จะดี !!!!!

    โดย Araya | วันที่ 25 มกราคม 2553

    ที่มา http://www.thaihealth.or.th/node/13816
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2012
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สัตว์รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว !!!

    [​IMG]

    จากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบว่า หากสัตว์ป่ามีพฤติกรรมผิดไปจากปกติ มักจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ทั้งนี้เพราะสัตว์มีความสามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งในการเอาชีวิตรอด

    พฤติกรรมผิดปกติของนก
    นกมีความรู้สึกต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะนกพิราบป่าจะไวเป็นพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวในประเทศจีนพบว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน 3 ริกเตอร์ขึ้นไป ฝูงนกพิราบป่าที่อยู่ภายในรัศมี 50 กม. จากศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะรู้ล่วงหน้า และบินหนีไปภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้กาและนกเลี้ยงบางชนิด เช่น นกแก้ว ก็มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวเช่นกัน

    [​IMG] ฝูงนกพิราบหรือกาจะบินหนีไปทันที

    [​IMG] นกในกรงก็แตกตื่นจะหนีออกจากกรง

    พฤติกรรมผิดปกติของปลา

    ปลาน้ำเค็ม
    เมื่อ ค.ศ.1995 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ชาวประมงจับปลาได้มากกว่าปกติ และมีปลาจากทะเลลึกว่ายเข้ามาในเขตน้ำตื้นด้วย

    [​IMG] พบปลาแปลกๆ หรือปลาน้ำจืดในเขตน้ำตื้น

    [​IMG] ก่อนเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียงจะจับปลาได้มากกว่าเดิม 2-10 เท่า

    ปลาน้ำจืด
    ปลาน้ำจืดในแม่น้ำหรือทะเลสาบที่มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวคือปลาคาร์ป ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เคยมีคนเห็นปลาคาร์ปจำนวนมากกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำเหมือนตกใจหนีอะไรบางอย่าง

    [​IMG] ปลาคาร์ปกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำ หรือมีท่าทางลุกลน

    [​IMG] ถ้าปลาดุกมีท่าทางตื่นตระหนก แสดงว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหว

    พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลื้อยคลาน
    ผลการวิจัยพบว่า สัตว์ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก่อนใครคืองู ทั้งนี้เพราะงูจำศีลอยู่ในโพรงดิน (งูในประเทศเขตหนาว) จึงรู้สึกถึงความผิดปกติได้ง่ายเมื่อมีการสั่นสะเทือนของเปลือกโลก มีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ฯลฯ และจะหลับภัยด้วยการเลื้อยขึ้นมาบนดินแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม

    ตัวอย่างเช่นเมื่อ ค.ศ. 1855 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นหนึ่งวัน พบฝูงงูเลื้อยขึ้นมาแข็งตายบนดิน เมื่อ ค.ศ. 1976 หนึ่งวันก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองถังซานในประเทศจีน ก็มีฝูงงูจำนวนมากเข้าไปหลบอยู่ในซอกหิน

    [​IMG][​IMG]

    พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
    กบก็แสดงพฤติกรรมผิดปกติเช่นเดียวกับงู เมื่อ ค.ศ. 1976 ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เมืองถังซานในประเทศจีน มีคนเห็นกบนับพันนับหมื่นตัวพากันอพยพ

    [​IMG][​IMG]

    พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
    [​IMG] สุนัขที่เคยเชื่อง แสดงอาการดุร้ายขึ้นทันที

    สุนัข
    ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ มีรายงานว่าสุนัขจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆ มากที่สุด สุนัขเป็นสัตว์ใกล้ชิดกับคน จึงสังเกตความผิดปกติของสุนัขได้ง่าย และพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว สุนัขจะมีอาการตื่นตระหนก วิ่งไปวิ่งมา บางตัวก้าวร้าวขึ้น ส่วนบางตัวก็เห่าและหอน

    [​IMG] แมววิ่งไปมาอย่างงุ่นง่าน หรือปีนขึ้นต้นไม้สูง

    แมว

    ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวส่วนใหญ่จะหาที่หลบ ญี่ปุ่นมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า “ก่อนแผ่นดินไหว แมวจะปีนขึ้นต้นไม้สูง” และมีคนเห็นเช่นนี้จริงๆ ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวบางตัวแสดงอาการงุ่นง่าน วิ่งไปมา และส่งเสียงร้องอย่างกระวนกระวาย

    [​IMG] หนูพากันหลบหนี

    หนู
    เมื่อ ค.ศ. 1923 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่คันโต หนูพากันหลบหนีไปหมด และตอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ก็พบปรากฎการณ์หนูพากันหลบหนีเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวจะมีหนูติดกับดักเพิ่มขึ้น และหนูบางตัววิ่งพล่านไปทั่ว

    แหล่งข้อมูล
    หนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์ช่วยให้เด็กฉลาด (เรื่อง..เอาชีวิตรอดจากแผ่นดินไหว)

    ที่มา http://www.jirasit.rmutl.ac.th/?p=186
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2012
  11. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    มีคนเตือนให้ระวังสงครามไทย-พม่า ไม่ทราบว่าช่วงไหนค่ะ
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ปีนี้โหร โสรัจจะ นวลอยู่ เตือนให้ระวังสงครามระหว่าง ไทยกับกัมพูชา ครับ
    ส่วนสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ นั้น คงต้องหลังจาก 3 จังหวัดทางใต้
    แยกตัวเป็นอิสระไปแล้วครับ
     
  13. ปิยาจาโร

    ปิยาจาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +254
  14. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ........ภัยพิบัติหนักแบบที่ทำนายกัน ถูกเลื่อนไปแล้ว 40ปี ยังเหลือภัยพิบัติบางส่วนที่ยังต้องเกิดขึ้น แต่มนุษย์ก็พอแก้ไข อยู่กันได้ต่อไป.............
    ที่จะเกิดใน2-3ปีนี้คงไม่หนักไปกว่าที่เคยเกิดมาแล้ว เช่น สงครามโลกที่คนตายเป็นล้าน หรือสึนามิที่คนตายหลายแสนคน
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ไม่เกิน 40 ปี ไม่ได้แปลว่าถูกเลื่อนไปอีก 40 ปี !!!

    [​IMG]

    สาส์นจิตจักรวาล เตือนวันชำระโลก

    7 มิถุนายน 2548 กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

    ปริญญา ตันสกุล นักวิชาการสัมผัสพิเศษ ที่อ้างว่าสามารถสื่อกับจิตรจักรวาล เตือนอีกครั้งหลังเคยเตือนแม่นเรื่องสึนามิ ว่าอีกไม่เกิน 40 ปีจะมีการชำระโลกครั้งใหญ่

    ทั่วโลกเกิดภัยพิบัติ น้ำทะเลท่วมแผ่นดิน เกิดไวรัสตัวใหม่ พร้อมโชว์แผนที่โลกที่ทำขึ้นใหม่แสดงประเทศที่เหลืออยู่และที่หายไป โดยประเทศไทยที่เด่นชัดคือบริเวณด้ามขวานจะขาดเป็น 3 ส่วน ย้ำภัยครั้งนี้ถูกกำหนดมาแล้วและแก้ไขไม่ได้

    หลังจากที่ อาจารย์ปริญญา ตันสกุล วิทยาการอำนวยการ สถาบันพัฒนาบุคลิกภาพมนุษย์ ได้เขียนหนังสือ โดยในหนังสือได้เตือนถึงเรื่องการจะเกิดสึนามิขึ้นในประเทศไทย และเมื่อหนังสือเล่มนี้วางแผงได้เพียง 30 วัน ก็เกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้น ทำให้เป็นที่ฮือฮาและเป็นที่สนใจของบุคคลทั่วไปเป็นอย่างมากว่า เหตุใดถึงสามารถรู้ล่วงหน้าได้ และต่อไปจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นอีก

    เรื่องนี้ อ.ปริญญา ตันสกุล ได้เปิดเผยว่า สามารถสื่อสารกับจิตรจักรวาลได้ ซึ่งจิตรจักรวาลก็คือผู้ให้กำเนิดทุกสรรพสิ่ง ผู้กำหนดชะตาทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไป โดยค้นพบความสามารถตัวเองเมื่อปี 41 และยืนยันไม่ใช่เจ้าลัทธิ เป็นชาวพุทธ แต่ได้ถูกกำหนดให้เกิดมาเป็นผู้สื่อข่าวสารจากจิตรจักรวาล และที่ได้บอกหรือได้เขียนเป็นหนังสือนั้น ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่นำคำของจิตรจักรวาลมาถ่ายทอด ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจมองว่าตนเองบ้า เพ้อและเชื่อไปเองคนเดียว แต่ทุกอย่างที่ผ่านมา สิ่งที่เคยเขียนหรือเคยพูดล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ไม่เคยบังคับใครให้เชื่อ แต่จะเน้นสื่อสารเผยแพร่หลักธรรมให้คนทั่วไปเป็นหลัก โดยจะแทรกสิ่งที่เป็นคำเตือนหรือเหตุการณ์ในอนาคตจากคำบอกเล่าของจิตรจักรวาลลงไปด้วย ซึ่งเมื่อคนทั่วไปมีจิตสำนึกดีแล้ว โลกก็จะเกิดการชำระช้าลง

    "ผมเคยพูดมานานแล้วเรื่องภัยพิบัติ ซึ่งตรงนี้ย้ำอีกทีว่าเป็นสิ่งที่จิตรจักรวาลได้กำหนดไว้แล้ว เนื่องจากถึงเวลาชำระ บวกกับจิตใจคนปัจจุบันต่ำลงมาก จากที่ได้สื่อสารกับจิตรจักรวาล จิตใจดีของคนคือเครื่องหล่อเลี้ยงโลก แต่ทุกวันนี้คนคิดไม่ดีมีมาก จึงตรงกับเวลาแห่งการชำระ และอย่างล่าสุดที่ผมเคยบอกไปในหนังสือ ว่าประเทศไทยให้ระวังสึนามิ พอหนังสือวางได้ 30 วัน ก็เกิดสึนามิขึ้น ตรงนี้ผมก็รู้แล้ว แต่ถ้าถามว่าทำไมไม่เตือนให้คนรู้ ผมอยากบอกว่ามันเป็นกำหนดอยู่แล้ว และถ้าผมบอกไปมันก็จะเลื่อนออกไปอีก ไม่ตรงตามที่บอก รวมทั้งผมไม่อยากให้ใครมามองว่าผมอุตริเป็นนักทำนายด้วย แต่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทุเลาลงได้ด้วยการทำดีต่อกันของคนในโลกมนุษย์ ก็จะผ่อนหนักเป็นเบา แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเกิด การชำระจะต้องเกิด"

    อ.ปริญญากล่าวต่อว่า ที่พูดถึงการชำระบ่อย เนื่องจากเห็นว่ามันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เหตุการณ์ชำระล้างจริงๆ ควรจะเกิดเมื่อเดือนมกราคมปี 46 แต่เนื่องจากมีสาเหตุที่ผมไม่อยากเปิดเผย จึงทำให้เลื่อนออกมา แต่ไม่น่าจะเกิน 40 ปี การชำระโลกครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นแน่นอน จะเกิดภัยหลายๆ อย่างให้โลกเปลี่ยนไป จะเกิดภัยธรรมชาติทุกอย่าง และร้ายแรงกว่าเดิม ที่ที่เกิดแล้วก็จะเกิดซ้ำอีก จะเกิดภัยจากโรคร้าย โดยเฉพาะโรคใหม่คือ ไวรัสทีเรีย เป็นทั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย รักษาไม่ได้ จิตรจักรวาลกำหนดมาให้เป็นสิ่งชำระโลก นอกจากนี้คือภัยจากจิตสำนึกอันไม่สมดุลของผู้นำประเทศ จะเกิดสงครามภายในประเทศ และสุดท้ายภัยเศรษฐกิจ ตรงไหนเสียหายก็จะเสียหายซ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกชำระหมด


    "นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น้อยคนจะรู้คือ ผมเคยทำแผนที่ประเทศไทย และแผนที่โลกฉบับใหม่เอาไว้ ทำตั้งแต่ปี 46 ตอนนั้น เป็นแผนที่หลังเกิดการชำระโลก ซึ่งเชื่อว่าจะได้ใช้กันแน่ๆ พื้นที่โลกจะถูกน้ำท่วม ทั้งน้ำจืดและน้ำทะเล โดยเฉพาะทะเลจะทำให้หลายประเทศหายไป พื้นผิวโลกจะเปลี่ยน โดยบริเวณที่หายไปจะแสดงด้วยสีแดง โดยประเทศไทยที่ชัดๆ คือ ภาคใต้ตรงบริเวณด้ามขวาน จะเป็นพื้นดินยาวลงมาถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือส่วนที่ 1 ต่อมาส่วนที่ 2 เป็นเกาะใหญ่อยู่ตรงกลาง และส่วนที่ 3 คือที่ติดกับประเทศมาเลเซีย โดยจะมีทะเลกันหมดทั้ง 3 ส่วน เกาะภูเก็ต เกาะสมุย และเกาะน้อยใหญ่จะหายไปหมด แต่ละจังหวัดเหลือพื้นที่เพียงน้อยนิด ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว เวียดนาม กัมพูชา ก็จะจมอยู่ใต้ทะเล ส่วนพม่าตอนล่างหายไป จังหวัดทางภาคตะวันตกของไทยกลายเป็นชายทะเล ภาคเหนือจะมีแม่น้ำสายใหม่เกิดขึ้น พื้นที่ของไทยประมาณ 20% จมทะเล"

    อ.ปริญญากล่าวสรุปว่า นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น และขอย้ำว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้น แต่อาจจะช้า เร็ว หนัก เบา คลาดเคลื่อนเล็กน้อย คงไม่เกินในระยะ 40-50 ปีนี้ ซึ่งตรงนี้วิธีแก้ไม่มี เนื่องจากทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว แต่สิ่งที่จะทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ทุเลาลง รวมทั้งเป็นทางช่วยตัวเองจากมหาภัยครั้งนี้คือ ทุกคนจะต้องเร่งทำความดี สร้างความรัก และสร้างจิตสำนึกที่ดี เนื่องจากโลกเราอยู่ได้ด้วยพลังด้านบวกของสิ่งมีชีวิต".

    ที่มา http://www.thaipost.net/index.asp?bk...&cat_id=200100
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2012
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นิมิต 2 วงล้อแห่งภัยพิบัติ ไม่เกินปี 2561 !!!

    [​IMG]

    แจ้งเตือน โดย k - 97 - หน้า 38 - PaLungJit.com

    5 ก.พ. 51

    2 วงล้อ กับ พ.ศ. 2537 ผมได้รับสัญญาณว่า เวลาได้ถูกเลื่อนออกไปอีก ซึ่งเวลาที่จะ<WBR>เกิดความรุนแรง ถึงกับย้ายครอบครัวน่าจะอยู่ภายใน พ.ศ. 2561 ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2012
  17. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498
    สงครามเป็นเรื่องธรรมชาติของสัตว์โลก ซึ่งผมไม่ชอบเลย เพราะรบกันตายเป็นเบือด้วยน้ำมือคนไม่กี่คน
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ได้ข้อสรุปเรื่องช่วงเวลาของภัยพิบัติที่แน่นอนแล้ว !!!
    (กรุณาอย่าสับสนเรื่องช่วงเวลาอีกต่อไป)

    [​IMG]

    12 ปีแห่งมหันตภัยล้างโลก
    (พ.ศ.๒๕๔๙-พ.ศ.๒๕๖๒)


    จากสี่เก้า เข้าถึง ปีหกสอง ฟ้าจะร้อง คำราม สุดหวั่นไหว
    ธรณี จะโกรธ เป็นพื้นไฟ พระพรายไซร์ จะถามโถม โจมดีเรา
    พระคงคา จะไหลบ่า หุ้มเปลือกโลก ดาวนอกโลก พุ่งชน คนอับเฉา
    ให้รีบลุก และตื่น เถิดพวกเรา รีบเดินหน้า ถึงธรรม ค้ำชีวา

    ภาคกลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง พีงจำไว้ จมอยู่ใต้ คงคา แน่นักหนา
    ผืนแผ่นดิน คลุมด้วยน้ำ สุดลูกตา ชาวประชา ไร้แผ่นดิน สิ้นชีพวาย
    เหนืออีสาน ตอนล่าง ต่างรันทด แผ่นดินลด หดหู่ ไม่รู้หาย
    เหลือก็น้อย คนบุญ ที่รอดตาย นอกนั้นไซร์ ไร้ชีวิต วิบัติภัย

    บนท้องฟ้า มืดมน ฝนห่าใหญ่ ห่อหุ้มไว้ เจ็ดราตรี อรุณฉาย
    สัตว์เล็กใหญ่ ดับดิ้น แทบวอดวาย ที่ไม่ตาย กลายมีพิษ ปลิดชีพกัน
    พายุลม สลาตัน นับว่าร้าย ก็ไม่ว่าย ต้องแพ้ ลมกรรมหันต์
    ฝนที่ไหน พัดที่ใด ตายฉับพลัน ไม่มีควัน มีแต่พิษ ชีวิตวอดวาย

    จากหลวงปู่เทพโลกอุดรแจ้งไว้แก่ หลวงปู่ภารตะ ฤาษี (บัวขาว)

    ที่มา http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=77655.0


    มหันตภัยล้างโลกได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่เกินอีก ๑๒ ปีข้างหน้าเป็นการเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่


    วันที่ 30 มกราคม 2550 สัญญาณจากจักรวาลบอกเราว่า เป็นการเริ่มนับเวลาจากนี้ไป ที่มนุษย์จะพบภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น จนประสบมหันตภัยล้างโลกในที่สุด ในเวลาอีก 12 ปีข้างหน้า คือประมาณต้นถึงกลางปี พ.ศ. 2562 มนุษย์ทั้งหลาย จงตื่นจากความโง่เขลา จงตื่นจากความเห็นแก่ตัว คิดแต่อยากได้ทรัพย์ หรือวัตถุ จนไม่รู้ว่าธรรมชาติจะเอาชีวิตไปในไม่ช้านี้แล้ว และพึงรักษาธรรมชาติให้สมดุล รักษาจิตให้บริสุทธิ์ร่วมกัน เพื่อลดความรุนแรงของมหันตภัย ให้เกิดน้อยลงมากที่สุด เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของโลกในเวลานี้ ผู้นำประเทศทั้งหลาย หรือผู้ใดที่มุ่งหวังอำนาจ และกระหายสงคราม จงจำไว้ว่าผู้นำเหล่านั้น หรือผู้นั้นเป็นผู้ทำลายโลกที่ร้ายกาจ​

    สภาพของการเกิดมหันตภัยในระยะเวลา 12 ปี สามารถแบ่งโดยความรุนแรงเป็น 3 ช่วงเวลา คือ
    1. ช่วงแรก เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2550-2551 ระยะเวลา 2 ปีแรก เกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ตามรอยต่อของแผ่นทวีปทั้งหมดที่แตกร้าวไปทั่วดาวดวงนี้ สัตว์ และมนุษย์มีวิธีทำร้ายกัน แบบดุร้ายป่าเถื่อนมากยิ่งขึ้น สัตว์ขนาดเล็กเตรียมปรับตัวรับวิกฤติดังกล่าวแล้ว และเตรียมปรับตัวเพื่อทำลายล้างมวลมนุษย์อีกด้วย โดยการสะสมถ่ายทอดโรค ที่ร้ายแรงมากขึ้น นอกจากนั้นทั่วโลกยังเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงกว่าเดิม และเกิดอุบัติเหตุที่แปลกๆ โดยมนุษย์หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ เช่น ระหว่างปีใหม่ ( พ.ศ. 2550) ที่ผ่านมาเครื่องบินภายในประเทศอินโดนีเซียสูญหายระหว่างบินอยู่เมืองสุราเวสี ไม่สามารถค้นพบได้จนบัดนี้ สาเหตุที่มนุษย์คาดไม่ถึง ก็คือ เกิดจุดตัดสนามแม่เหล็กโลก เกิดขึ้นบริเวณนั้นพอดี เนื่องจากความไม่สมดุล จึงดูดเอาเครื่องบินลำนี้ ออกนอกมิติของโลก เข้าสู่มิติมืดที่ว่างเปล่า หรือเป็นปรากฏการณ์ที่มนุษย์เข้าใจแล้วว่า เสมือนสามเหลี่ยมเมอมิวดา ในแกนกลางมหาสมุทร นั่นคือหลุมมิติในน้ำ แต่ที่จริงแล้ว ยังมีหลุมมิติในอากาศ (ที่เครื่องบินหายไปในช่องหลุมมิติ) และหลุมมิติบนพื้นโลก (ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเนื่องจากมิติซ้อนกันทำให้มองไม่เห็นกัน) เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งลี้ลับ แต่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยสมองที่มีแต่ความอยาก และความต้องการในวัตถุทั้งหลาย

    2. ระยะที่ 2 ตั้งแต่ พ.ศ. 2552-2556 ระยะเวลา 5 ปี โลกร้อนขึ้นด้วยอัตราเร่ง เกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นมากกว่าเดิม และต่อเนื่องจนมนุษย์ทั้งโลกหวาดกลัว กลุ่มมนุษย์ที่มีจิตต่ำจะก่อกวนมนุษย์ด้วยความรุนแรงเหมือนไม่ใช่คน เกิดหลุมมิติมากมายเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง อย่างที่มนุษย์คาดไม่ถึง มีการตายของมนุษย์เป็นกลุ่มใหญ่จำนวนมาก ด้วยอุบัติเหตุและภัยพิบัติ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย พื้นโลกบางส่วนยุบตัวลง เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด อากาศร้อนขึ้นอย่างมาก และอากาศหนาวก็มากขึ้นเช่นกันของแต่ละพื้นที่ จะเริ่มมีพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของมนุษย์น้อยลง ความแห้งแล้งมากขึ้น น้ำในทะเลยกระดับสูงขึ้นจากสาเหตุการยุบตัวของโลก น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และการนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้สมทบด้วยอีกแรงหนึ่ง เริ่มเกิดโรคระบาดจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่ผุดมาจากดินที่ไม่เคยมีมาก่อน เชื้อเหล่านี้ทนทานต่อการทำลาย เพราะปรับตัวจากที่ที่เย็นจัดหรือปรับตัวจากที่ที่ร้อนจัดจึงทนต่อสภาวะที่เปลี่ยนไป

    3. ระยะที่ 3 ตั้งแต่ พ.ศ. 2557-2561 ระยะเวลา 5 ปี โลกร้อนขึ้นด้วยอัตราเร่ง พอที่จะละลายน้ำแข็งเกือบทั้งหมดของขั้วโลกทั้งสอง เกิดน้ำท่วมโลก โดยที่พื้นที่อาศัยของมนุษย์จะหายไปอย่างน้อยก็ 2 ใน 3 ส่วน ได้แก่ ที่ริมทะเลปากแม่น้ำ และที่ราบลุ่มต่างๆ คงเหลือพื้นที่ราบสูงพื้นที่บนภูเขา ซึ่งส่วนมากเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับกับการเกษตรนัก จึงเกิดการขาดแคลนอาหาร เฉพาะพื้นที่ประเทศไทยนั้นเหลือเพียงภาคเหนือ ภาคอีสาน นอกจากนั้นที่เหลือก็มีสภาพเป็นเกาะแก่งเล็กๆ สรุปได้ดังนี้ บนพื้นดินที่อยู่ตรงกลางทวีปทั้งหลาย ก็จะแห้งแล้งด้วยความร้อนจากใต้ผิวดินประทุขึ้นมา พื้นที่ที่อยู่ริมบริเวณชายฝั่ง หรือค่อนมาทางริมขอบทวีปทั้งหลาย ก็จะถูกน้ำทะเลกลืนกิน บางที่ก็จะยุบหายไป บางที่ก็จะถูกเหวี่ยงออกไปแยกตัวเป็นอิสระ มีแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ทั่วโลก มนุษย์จะเผชิญกับสภาพความแล้งจัด จนต้องอดตาย พบโรคใหม่กับสัตว์สายพันธุ์ดุร้าย และมีพิษ คร่าเอาชีวิตมนุษย์ทั่วไปทั้งโลกนี้เช่นกัน

    โดย Dr.G.G.Junior

    ที่มา http://www.universal-signal.com
     
  19. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    ข่าวลวง ข่าวลือ ความประมาท ย่อมนำความตายมาให้ ยิ่งถ้าตายจากธรรมมะยิ่งน่าเจ็บใจที่สุด
     
  20. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ประคองกายสังขารว่ายากไม่ให้ตาย แต่ประคองธรรมให้อยู่กับเรานั้นยากกว่า เรื่องจริง :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...