WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

พายุฤดูร้อนถล่มสวนยางจ.เลย เสียหายนับ1,000ต้น


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 เมษายน 2555 เกษตรกรชาวสวนยางที่บ้านนาซำแซง ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ได้เข้าสำรวจความเสียหายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนพัดตั้งแต่ช่วงกลางดึก พบว่าสวนยางเสียหายนับพันต้น โดยเฉพาะสวนยางของนายต๋อง เดชรัตน์ บ้านนาซำแซง ที่ปลูกยางพารามีอายุ 10 ปี ทำการเปิดกรีดมาแล้ว 3 ปี ถูกแรงลมพัดจนต้นยางที่ความสูงระหว่าง 1-2 เมตร หักโค่นกว่า 600 ต้น และสวนยางของนางวิรอน ชินวงศ์ ที่อยู่ติดกัน ต้นยางอายุ 7 ปี หักโค่น 200 ต้น เป็นความเสียหายอย่างสิ้นเชิง รวมทั้งสิ่งปลูกสร้าง ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ถูกแรงลมพัดปลิวไปไกล นอกจากนี้ผลผลิตทางการเกษตรพืชไร่ พืชสวน และ อื่นๆได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง

นายต๋อง เจ้าของสวนยางที่เสียหาย เล่าว่า เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 25 เมษายน 2555 เกิดพายุฤดูร้อน ลบมกระโชกแรง พร้อมลูกเห็บตกลงมากระหน่ำมาอย่างแรง โดยทิศทางของพายุนั้นพัดผ่านสวนยางของตนความกว้างประมาณ 50 เมตร ระยะเวลาเพียง 10 นาที พายุดังกล่าวสามารถพัดหมุนทำให้ต้นยางหักโค่น มากถึง 600 ต้น โดยสวนยางทั้งหมดมี 1,300 ต้น หลังจากนั้น พายุลูกดังกล่าวได้ข้ามถนนสายนาซำแซง-นาหลวง ไปกระหน่ำสวนยางของนางวิรอน ชินวงศ์ เสียหายอีก 200 ต้น โดยแต่ละต้นหักครึ่ง สูงประมาณ 1-2 เมตร เสียหายสิ้นเชิง

ขณะนี้เจ้าของสวนจึงเร่งสำรวจพร้อมถ่ายภาพถึงความเสียหายดังกล่าว เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากทางราชการในกรณีพืชผลทางการเกษตรประสบภัยพิบัติแล้งจากทางจังหวัดต่อไป

 

คนระนองฮือฮาน้ำในบ่อน้ำร้อนรักษะวารินเพิ่มสูง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปอาบน้ำแร่ร้อนที่บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ตั้งอยู่ ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังของ จ.ระนองว่า สังเกตพบระดับน้ำในบ่อน้ำร้อนบ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นผิดปกติจากเดิมกว่า 1 ม.ทำให้ชาวบ้านที่ไปใช้บริการมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา โดยเฉพาะพยายามที่จะโยงเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังบริเวณบ่อน้ำแร่ร้อน ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะรักษะวาริน ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 1 กม.พบว่าระดับน้ำภายในบ่อเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1.50 ม. ซึ่งยังไม่สามารถระบุสาเหตุดังกล่าวที่ทำให้ระดับน้ำแร่ร้อนเพิ่มสูงขึ้นได้ว่าเกิดมาจากสาเหตุใด

นางสุดา เกตุจันทร์ ชาวบ้านที่มาใช้บริการแช่น้ำแร่ร้อน กล่าวว่า เดินทางมายังบ่อน้ำแร่ร้อนเกือบทุกวันโดยมาใช้บริการแช่น้ำแร่ร้อน และนำน้ำแร่ร้อนกลับบ้านไปต้มให้มารดาอาบ ซึ่งพบว่าในบ่อแม่และบ่อลูกซึ่งอยู่ข้างถนนมีความผิดปกติของระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจริง ซึ่งตนเองใช้บริการมากว่า 10 ปี สังเกตระดับน้ำจะอยู่ห่างจากปากบ่อลึกลงไปประมาณ 2-3 ม.แต่ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นห่างจากปากบ่อประมาณ 20 ซม.ซึ่งถือว่ามีความผิกปกติอย่างมาก ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือไม่ แต่ตอนนี้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างวิตก และวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปใช้บริการที่บ่อน้ำแร่ร้อนบ้านพรรั้ง ตั้งอยู่ ม.3 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ว่า ความร้อนของน้ำแร่ร้อนมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนรู้สึกได้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่ไปใช้บริการทุกวันจะรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น โดยตามปกติอุณหภูมิของน้ำแร่ร้อนจะอยู่ในระดับประมาณ 65 องศาเซลเซียส แต่ขณะนี้อาจจะเพิ่มสูงมากกว่า

 

ภูเก็ตตื่น ปลาตายเกลื่อน หวั่นภัยพิบัติตามคำทำนาย

ข่าว » ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน » ภูเก็ตตื่น ปลาตายเกลื่อน หวั่นภัยพิบัติตามคำทำนาย



เขียนโดย NaiNat โพสต์เมื่อ วันพฤหัสที่ 26 เมษายน 2555 เนื้อหานี้อยู่ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน

หน่วยงานประมงภูเก็ต เข้าตรวจสอบคลองแสนสุข ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังมีการแจ้งว่า พบปลาน้ำจืดจำนวนมากลอยตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งแต่ละตัวมีน้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม

โดยบริเวณดังกล่าว มีประชาชนมามุงดูเป็นจำนวนมาก และต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ หวั่นว่าปลาที่ตายเป็นจำนวนมากนั้น จะเป็นลางบอกเหตุในเรื่องของแผ่นดินไหว และการเกิดคลื่นสึนามิ ตามข่าวลือเรื่องเกาะภูเก็ตจม



ทั้งนี้คลองดังกล่าวเป็นลำคลองน้ำกร่อย ที่อยู่เชื่อมต่อกับบ่อปลาเอกชนซึ่งมีการเลี้ยงปลาน้ำจืดไว้หลายสายพันธุ์ โดยทางประมงภูเก็ตคาดว่า ปลาที่ตายอาจจะเป็นปลาที่ว่ายมาจากบ่อเลี้ยง เมื่อเจอน้ำเค็มหรือน้ำกร่อยจึงไม่สามารถปรับสภาพได้ ทำให้ลอยตายจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนอย่าแตกตื่น เนื่องจากไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ
Mthai News

 

กราฟแสดงความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กโลก

 

เรือบรรทุกดินล่มกลางเจ้าพระยาที่ ต.ภูเขาทอง อยุธยา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2555 14:44 น.

       เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนายอนันต์ หากิจ ชาวบ้าน ม.2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีเหตุเรือลากจูง ส.สินวิสูตร 1 บรรทุกดินน้ำหนัก 169 ตัน ล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เรือดังกล่าวลอยลำขวางแม่น้ำ ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกันกับเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำตาลทรายล่มเมื่อกลางปี 2554
        ทั้งนี้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 25 เมษายน พบว่ามีเรือลากจูงบรรทุกดิน จำนวน 4 ลำ จากอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง บรรทุกดินเพื่อนำไปส่งที่จังหวัดปทุมธานี ขับผ่านบริเวณดังกล่าวแล้วเกิดอุบัติเหตุล่มลงกลางแม่น้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านบอกว่า ได้ยินเสียงดังบริเวณตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และคาดว่าเรือบรรทุกดินอาจจะชนกับตอม่อสะพาน อีกทั้งน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงนี้ปริมาณน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจทำให้ท้องเรือบรรทุกดินไปชนและกระแทกกับของแข็งใต้แม่น้ำ จึงทำให้เรือรั่วและแตกได้
        ล่าสุด ได้ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของเรือและเร่งกู้เรือ เนื่องจากเกรงว่าเรือที่ใช้สัญจรไปมาในแต่ละวันจำนวนมาก จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

 

คุณแม่สมองตายเสียชีวิตเดือนกว่าให้กำเนิดลูกแฝด


คุณแม่สมองตายเสียชีวิตเดือนกว่าให้กำเนิดลูกแฝด
สุดทึ่งคุณแม่สมองตาย เสียชีวิตแล้วเดือนกว่า ให้กำเนิดลูกแฝดได้อย่างปาฏิหาริย์ 

สำนักข่าวต่างประเทศ (26 เม.ย.) รายงานเรื่องราวปาฏิหาริย์คุณแม่ประสบอุบัติเหตุจนสมองตายให้กำเนิดลูกชายขณะที่ตัวเองเสียชีวิตแล้ว

รายงานระบุว่า คุณแม่รายชื่อนี้ นางคริสติน โบลเดน ชาวอเมริกัน ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มในลานจอดรถเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้เข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลรัฐมิชิแกนซึ่งเวลาผ่านไป 5 วัน ทางแพทย์ได้แจ้งกับทางครอบครัวเธอว่า นางโบลเดนมีอาการภาวะสมองตายซึ่งถือว่าเสียชีวิตแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลยังคงเก็บร่างของเธอไว้เนื่องจากเธอยังมีทารกอยู่ในครรภ์และอาจคลอดลูกได้ ซึ่งหลังจากนั้นเดือนกว่า ๆ นางโบลเดน ได้ให้กำเนิดลูกแฝดเพศชาย แต่น้ำหนักตัวไม่ถึง 2 ปอนด์ ถือเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดมากและยากที่เกิดขึ้นในโลก   

อนึ่ง ขณะนี้เด็กทารกยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ซึ่งทางคณะแพทย์ต้องลุ้นว่า เด็กแฝดที่คลอดออกมานั้นจะมีชีวิตรอดหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาทารกที่คลอดในลักษณะนี้มีอัตราเสี่ยงที่จะเสียชีวิตและมีปัญหาสุขภาพในระยะยาว 

ด้านญาติของ นางโบลเดนเล่าว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่นางโบลเดนจากไป แต่ด้วยประสงค์ของพระเจ้าทำให้เธอให้กำเนิดเด็กแฝดขึ้นบนโลก

 

คนระนองฮือฮาน้ำในบ่อน้ำร้อนรักษะวารินเพิ่มสูง<!-- google_ad_section_end -->​

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->คนระนองฮือฮาน้ำในบ่อน้ำร้อนรักษะวารินเพิ่มสูง








<SCRIPT language=javascript> //startVaja("getVaja.php","?id=630214"); </SCRIPT>ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปอาบน้ำแร่ร้อนที่บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน ตั้งอยู่ ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวดังของ จ.ระนองว่า สังเกตพบระดับน้ำในบ่อน้ำร้อนบ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นผิดปกติจากเดิมกว่า 1 ม.ทำให้ชาวบ้านที่ไปใช้บริการมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา โดยเฉพาะพยายามที่จะโยงเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบยังบริเวณบ่อน้ำแร่ร้อน ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะรักษะวาริน ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 1 กม.พบว่าระดับน้ำภายในบ่อเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 1.50 ม. ซึ่งยังไม่สามารถระบุสาเหตุดังกล่าวที่ทำให้ระดับน้ำแร่ร้อนเพิ่มสูงขึ้นได้ว่าเกิดมาจากสาเหตุใด

นางสุดา เกตุจันทร์ ชาวบ้านที่มาใช้บริการแช่น้ำแร่ร้อน กล่าวว่า เดินทางมายังบ่อน้ำแร่ร้อนเกือบทุกวันโดยมาใช้บริการแช่น้ำแร่ร้อน และนำน้ำแร่ร้อนกลับบ้านไปต้มให้มารดาอาบ ซึ่งพบว่าในบ่อแม่และบ่อลูกซึ่งอยู่ข้างถนนมีความผิดปกติของระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจริง ซึ่งตนเองใช้บริการมากว่า 10 ปี สังเกตระดับน้ำจะอยู่ห่างจากปากบ่อลึกลงไปประมาณ 2-3 ม.แต่ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นห่างจากปากบ่อประมาณ 20 ซม.ซึ่งถือว่ามีความผิกปกติอย่างมาก ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวหรือไม่ แต่ตอนนี้ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างวิตก และวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ไปใช้บริการที่บ่อน้ำแร่ร้อนบ้านพรรั้ง ตั้งอยู่ ม.3 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ว่า ความร้อนของน้ำแร่ร้อนมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนรู้สึกได้ โดยเฉพาะชาวบ้านที่ไปใช้บริการทุกวันจะรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น โดยตามปกติอุณหภูมิของน้ำแร่ร้อนจะอยู่ในระดับประมาณ 65 องศาเซลเซียส แต่ขณะนี้อาจจะเพิ่มสูงมากกว่า



-------
ที่มา :
เนชั่นทันข่าว Breaking News=
ภาพประกอบกระทู้จากอินเตอร์เน็ต<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->C5-WarRoom Falkman<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

นักวิชาการมช.แนะอย่าตื่นตระหนกหลุมไฟพิษณุโลก

รศ.ดร.อนุชา พรมวังขวา อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงปรากฎการณ์แผ่นดินเกิด ความร้อนระอุจนมีควันไฟพวยพุ่งขึ้นมา เหตุเกิดที่ถนนสายบ้านแยง-นครไทย ม.9 ต.หนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกหรือตกใจ ส่วนที่กรมควบคุมมลพิษแจ้ง เตือนห้ามประชาชนเข้าไปใกล้พื้นที่ดังกล่าวเพราะอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากมีก๊าซหลายชนิดที่สะสมอยู่จึงต้องตรวจสอบให้ ละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ ประชาชนไม่ต้องวิตกกังวลว่าพื้นที่ที่เกิดหลุมไฟจะระเบิดหรือปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง อาจเป็นไปได้ที่มีไฟลุกขึ้นมาแต่ ใช้น้ำรดพรมลงไปก็ช่วยให้ไฟสงบได้ การลุกไหม้ของพื้นดินบริเวณนั้นเพราะผิวดินสะสมความร้อนไว้มากจนระอุ นอกจากนี้พื้นดินจุด ที่เกิดเหตุยังมีการสะสมของเศษวัชพืชต่างๆจนเกิดเป็นก๊าซ VOLATILE ขึ้นมา ซึ่งมีคุณสมบัติติดไฟได้เองโดยธรรมชาติอยู่แล้ว เช่นเดียว กับคุณสมบัติของลิกไนต์หากนำมากองรวมกันไว้กลางแดดก็สามารถลุกติดไฟได้เอง ก๊าซ VOLATILE ถือเป็นก๊าซกลุ่มเดียวกับที่นำมาใช้ทำบ้องไฟ

ส่วนกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลังเหยียบลงไปในพื้นดินบริเวณดังกล่าวจนเกิดรอบไหม้ที่เท้า เป็นไปได้ว่าอาจเกิดเกิดจากการ ถูกน้ำกรดเข้มข้น ซึ่งสามารถทำให้เกิดรอยไหม้ที่ผิวหนังได้ โดยควันไฟที่เกิดจากการเผาไหม้เมื่อเจอกับไอน้ำในชั้นบรรยากาศก็จะกลาย เป็นกรดเข้มข้นได้เช่นกัน

"การลุกไหม้ของพื้นดินบริเวณนั้นถือเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะช่วงนี้สภาพอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าวแม้อุณหภูมิอยู่ประมาณ 38 -40 องศาเซลเซียส แต่พื้นดินรับความร้อนและสะสมความร้อนไว้มาก อุณหภูมิของผิวดินจึงสูงถึงประมาณ 60 -70 องศาเซลเซียส เมื่อมีการสะสมของเศษวัชพืชต่างๆรวมกันไว้มากจนอุณหภูมิเพิ่มสูงถึงจุดเดือด 100 องศาเซลเซียสก็ทำให้เกิดการลุกไหม้ขึ้นมา" รศ.ดร.อนุชา กล่าว

 

<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>ชาวบ้านลพบุรีแตกตื่นพบควันไฟพวยพุ่งจากใต้ดิน!!

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บริเวณกลางทุ่งนา เขตหมู่ 6 ต.ถนนใหญ่ อ.เมือง จ.ลพบุรี หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่บริเวณดังกล่าว มีควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า มีชาวบ้านมายืนจับกุมพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่พบจำนวนหลายสิบคน โดยบริเวณดังกล่าวเป็นบ่อขนาด 10 X 10 เมตร ลึกประมาณ 4 เมตร โดยตามรอยแยกของดินพบว่ามีควันไฟพุ่งขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน

ต่อมานายอานนท์ ศรีรัตน์ นายอำเภอเมืองลพบุรี เดินทางมาดูที่จุดดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังนายศักดา ศิลปาภิสันทน์ นายกเทศมนตรีตำบลถนนใหญ่ อ.เมือง จ.ลพบุรี ขอรถดับเพลิงมาฉีดเพื่อดับไฟ เนื่องจากเบื้องต้นสงสัยว่า อาจจะมีไฟลุกไหม้อะไรอยู่ด้านล่าง เนื่องจากจุดดังกล่าวใช้เป็นสถานที่ทิ้งขยะ แต่ได้เลิกทิ้งมาเป็นเวลาประมาณ 10 ปีแล้ว

ต่อมาเมื่อรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลถนนใหญ่ เดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำไปยังจุดที่ควันไฟพุ่งขึ้นมา ปรากฏว่าหลังจากที่ฉีดน้ำไปแล้ว ควันไฟได้พุ่งสูงขึ้นและแน่นหนากว่าเก่ามาก นอกจากนี้ยังมีความร้อนระอุตามมาด้วย สำหรับควันไฟที่พุ่งขึ้นมายังมีกลิ่นของกำมะถันอีกด้วย

ชาวบ้านใกล้เคียงกว่าวว่า สำหรับที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของนายมุนินทร์ กลางมณี อายุ 72 ปี อดีตข้าราชการครู บ้านอยู่หมู่ 5 ต.ถนนใหญ่ อ.เมือง จ.ลพบุรี และเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2553 พื้นที่บริเวณนี้ก็ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลากว่า 1 เดือน หลังน้ำลดและพื้นดินกลับคืนปกติ ก็มีควันไฟขึ้นมาจากใต้ดินเหมือนเดิม

นายอานนท์ ศรีรัตน์ นายอำเภอเมืองลพบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รายงานให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีทราบแล้ว และจะแจ้งให้อุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี เดินทางมาตรวจสอบต่อไปว่า สาเหตุที่ควันพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน เกิดจากอะไรต่อไป

 

นักวิทยาศาตร์งง!! ธารน้ำแข็งกำลังเกิดขึ้นในเอเชีย

เขียนโดย nattawat_86 โพสต์เมื่อ วันจันทร์ที่ 16 เมษายน 2555

Mthainews: ภาพถ่ายดาวเทียมที่บันทึกโดยดาวเทียมของฝรั่งเศส แสดงให้เห็นเทือกเขาน้ำแข็งทางตะวันตกของเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่  คาราโครัม(Karakoram)เชื่อมพรมแดนจีน-ปากีสถาน และอินเดีย การพบดังกล่าวสร้างความงุนงงแก่นักวิทยาศาสตร์ เพราะเกิดขึ้นสวนกระแสกับธารน้ำแข็งส่วนอื่นๆ ที่กำลังละลายไป
ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส จากศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์นานาชาติ มหาวิทยาลัย เกรนโนเบิล กำลังศึกษาจากภาพที่เกิดขึ้น  ซึ่งอุปสรรคก็คือ พื้นที่แห่งนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงได้


จากการศึกษาที่ผ่านมา ในพื้นที่หนาวเย็นอื่นๆทั่วโลกมีลักษณะคล้ายคลึงกับพื้นที่  คาราโครัม  ที่จะเพิ่มมวลน้ำแข็งอย่างต่อเนื่อง และมีการตรวจวัดทางอุตุนิยมวิทยาแสดงว่าเกิดฤดูหนาวยาวนานขึ้น
ธารน้ำแข็ง Karakoram ยังพบสิ่งผิดปกติคือ เป็นพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยชั้นหินที่หนา แต่มีการละลายและการเพิ่มมวลของพื้นผิวที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดเป็นธารน้ำแข็ง
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษา ว่าเหล่านี้ เป็นผลที่เกิดจาก อุณหภูมิของโลกที่เปลี่ยนแปลง (global warming)ด้วยหรือไม่ ที่จะกลายมาเป็น global cooling หรืออย่างไร 

 

ประกาศเตือนภัย
"พายุฤดูร้อน "
ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 27 เมษายน 2555

     บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27-28 เมษายน 2555 ไว้ด้วย
สำหรับ ทะเลอันดามันและภาคใต้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ในระยะนี้

ประกาศ ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555
ออกประกาศ เวลา 05.30 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
​

 

พายุลูกเห็บถล่มภูเรือบ้านพังเกือบ 40 หลัง : INN News



เกิดเหตุพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก พร้อมลูกเห็บขนาดเท่าลูกมะนาวจำนวนมาก พัดถล่มบ้านเรือนในเขตพื้นที่บ้านบ้านโคนผง หมู่ที่ 9 ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย กระแสลมพายุ ได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชนกว่า 39 หลังคาเรือน จากการสอบถาม นายบุญเติม เรณุมาศ นายอำเภอภูเรือ กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้รับรายงาน มีพายุฤดูร้อน ฝนตกหนักและมีลูกเห็บ ตกทั่วบริเวณตำบลสานตม ประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะเกิดลมพายุกระโชกอย่างแรง ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก พร้อมกับลูกเห็บจำนวนมาก จากนั้นไม่นาน ก็ได้มีลมพายุหมุนมาอีกระลอก เข้ากระหน่ำบ้านเรือนประชาชน เป็นพายุลูกเห็บที่มีขนาดใหญ่และมีปริมาณมาก ลักษณะการเกิดเหตุมีลมแรงและฝนตกปรอยๆ จากนั้นก็มีลูกเห็บตกลงมาไม่ขาดสาย ตกในบริเวณหมู่บ้าน จนพื้นที่ขาวโพลน ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎร เป็นจำนวนถึง 39 หลังคาเรือน มีหลังคาบ้านทะลุเป็นรู ตรวจสอบแล้วมีกระเบื้องและสังกะสี เสียหายมูลค่ากว่า 350,000 บาท ขณะนี้ นายบุญเติม เรณุมาศ นายอำเภอภูเรือ ได้สั่งการโดยด่วน ฝ่ายปกครองอำเภอภูเรือ เข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วน และในวันพรุ่งนี้ จะนำสังกะสีจำนวน 2,000 แผ่น กระเบื้องจำนวน 60 แผ่น เข้าช่วยเหลือราษฎรที่ประสบเหตุวาตภัย

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไทยตอนบนระวังพายุฤดูร้อน-ภาคใต้มีฝนตกหนักได้บางแห่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>27 เมษายน 2555 06:00 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันศุกร์ที่ 27 เมษายน 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27-28 เมษายน 2555 ไว้ด้วย

สำหรับ ทะเลอันดามันและภาคใต้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ
ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัด บริเวณจังหวัดสระแก้วและปราจีนบุรี โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อุตุฯประกาศเตือนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนวันที่27-28เมษายน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>27 เมษายน 2555 05:32 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js" gapi_processed="true"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย"พายุฤดูร้อน " ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 27 เมษายน 2555

บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 27-28 เมษายน 2555 ไว้ด้วย

สำหรับ ทะเลอันดามันและภาคใต้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางพื้นที่ในระยะนี้

ประกาศ ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555 ออกประกาศ เวลา 05.30 น.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

M 3.0, Boca de Yuma, Dominican Republic


27 เมษายน 2555, 7:50:09
Friday, April 27, 2012 00:50:09 UTC
Thursday, April 26, 2012 19:50:09 at epicenter
Depth: 86.00 km (53.44 mi)




M 2.6, Kodiak Station, Alaska


27 เมษายน 2555, 7:36:44
Friday, April 27, 2012 00:36:44 UTC
Thursday, April 26, 2012 16:36:44 at epicenter
Depth: 101.10 km (62.82 mi)




M 2.6, Mammoth Lakes, California


27 เมษายน 2555, 5:19:24
Thursday, April 26, 2012 22:19:24 UTC
Thursday, April 26, 2012 15:19:24 at epicenter
Depth: 4.50 km (2.80 mi)




M 4.3, southwest of Sumatra, Indonesia


27 เมษายน 2555, 5:16:59
Thursday, April 26, 2012 22:16:59 UTC
Friday, April 27, 2012 04:16:59 at epicenter
Depth: 10.02 km (6.23 mi)




M 4.6, Pazarlar, Turkey


27 เมษายน 2555, 5:05:35
Thursday, April 26, 2012 22:05:35 UTC
Friday, April 27, 2012 01:05:35 at epicenter
Depth: 5.76 km (3.58 mi)




M 2.9, Pahala, Hawaii


27 เมษายน 2555, 4:36:39
Thursday, April 26, 2012 21:36:39 UTC
Thursday, April 26, 2012 11:36:39 at epicenter
Depth: 36.90 km (22.93 mi)




M 2.5, Mammoth Lakes, California


27 เมษายน 2555, 4:08:52
Thursday, April 26, 2012 21:08:52 UTC
Thursday, April 26, 2012 14:08:52 at epicenter
Depth: 4.50 km (2.80 mi)




M 5.5, Sinabang, Indonesia


27 เมษายน 2555, 2:21:45
Thursday, April 26, 2012 19:21:45 UTC
Friday, April 27, 2012 01:21:45 at epicenter
Depth: 25.95 km (16.12 mi)




M 3.3, Punta Cana, Dominican Republic


27 เมษายน 2555, 1:43:52
Thursday, April 26, 2012 18:43:52 UTC
Thursday, April 26, 2012 13:43:52 at epicenter
Depth: 43.00 km (26.72 mi)




M 5.1, Mutsu, Japan


27 เมษายน 2555, 1:41:20
Thursday, April 26, 2012 18:41:20 UTC
Friday, April 27, 2012 03:41:20 at epicenter
Depth: 67.19 km (41.75 mi)




M 2.5, Glennallen, Alaska


27 เมษายน 2555, 0:03:27
Thursday, April 26, 2012 17:03:27 UTC
Thursday, April 26, 2012 09:03:27 at epicenter
Depth: 13.70 km (8.51 mi)






__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->C5-WarRoom Falkman<!-- google_ad_section_end -->

 

แผ่นดินลุกเป็นไฟ โผล่อีกที่ลพบุรี

แผ่นดินลุกเป็นไฟโผล่อีกที่ จ.ลพบุรี บริเวณกลางทุ่งนา นายอำเภอเอารถดับเพลิงมาดับไฟ ควันไฟพุ่งมากกว่าเก่า แถมมีกลิ่นกำมะถัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณกลางทุ่งนา เขตหมู่ 6 ต.ถนนใหญ่ อ.เมือง จ.ลพบุรี พบมีควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน โดยบริเวณดังกล่าวเป็นบ่อขนาด 10 X 10 เมตร ลึกประมาณ 4 เมตร ต่อมานายอานนท์ ศรีรัตน์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้ประสานขอรถดับเพลิงมาฉีดเพื่อดับไฟ เนื่องจากสงสัยว่าอาจจะมีไฟลุกไหม้อะไรอยู่ด้านล่าง เนื่องจากจุดดังกล่าวใช้เป็นสถานที่ทิ้งขยะ แต่ได้เลิกทิ้งมาเป็นเวลาประมาณ 10 ปีแล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ฉีดน้ำไปยังจุดที่ควันไฟพุ่งขึ้นมาแน่นหนากว่าเก่ามาก และยังมีกลิ่นของกำมะถันอีกด้วย
ทั้งนี้ ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของนายมุนินทร์ กลางมณี อายุ 72 ปี อดีตข้าราชการครู เมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2553 พื้นที่บริเวณนี้ก็ถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลากว่า 1 เดือน หลังน้ำลดและพื้นดินกลับคืนปกติ

 

Induction Magnetometer