หลวงปู่บุดดา เมตตาสอนเรื่อง อิริยาบถ ๔

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ยศวดี, 1 เมษายน 2012.

  1. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ๏ หลวงปู่บุดดา เมตตาสอนเรื่อง อิริยาบถ ๔

    (มีผู้สงสัยว่า ใจปฏิบัติธรรมได้อย่างต่อเนื่อง-เป็นสุข-เพลิดเพลินอยู่ในธรรม แต่กายที่นั่งอยู่ต้องขยับหลายครั้ง) ท่านสอนว่า

    ก) “กายสังขารมันมีอยู่จะไม่ขยับได้อย่างไร จิตสังขารสิอย่าเคลื่อน เพลิดเพลินในธรรมเข้าไว้ กายสังขารปวด-เมื่อย-ขบ ก็ต้องเคลื่อนเป็นธรรมดา อย่าฝืนทุกข์ของกายสังขาร นั่งนาน ๆ ง่อยมันจะกินเอา ยืนนาน ๆ ตะคริวมันจะกินขาแข้งเอา เดินนาน ๆ ก็เมื่อยหมดกำลังเอา นอนนาน ๆ อัมพาตจะกินเอา อย่าทำกรรมฐานแบบโง่ ๆ อย่างนั้นนะ พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอน การฝืนกายสังขารนั้น เป็นการเบียดเบียนตนเอง บรรลุมรรคผลได้ยาก สู้ครบอิริยาบถ ๔ ไม่ได้ แล้วมิใช่ครบอิริยาบถ ๔ แบบโง่ ๆ นะ มรรคผล นิพพาน ก็ไม่ได้เหมือนกัน มัชฌิมา ทางสายกลางเท่านั้นที่จะบรรลุได้ บรรลุพอดี ในทางสายกลาง บรรลุธรรมที่ปัจจุบัน จะบรรลุระดับไหน ก็ต้องทางสายกลางในธรรมปัจจุบันพอดี ๆ เหมือนคนหุงข้าว ถ้าไม่พอดีมันจะสุกไหม แล้วเวลามันสุก มันก็สุกอยู่ในธรรมปัจจุบัน คือ พอดีสุกนั่นแหละ ธรรมะก็เช่นกัน บรรลุได้ในปัจจุบัน เอาความพอดีเป็นที่ตั้ง”

    ข) “ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด ขอให้จิตอยู่ในความสงบ อยู่ในอารมณ์พระกรรมฐาน แยกกายสังขารให้เป็น แยกจิตสังขารให้เป็น วางเฉยให้อยู่ในอารมณ์สังขารุเบกขาญาณ คือ ทุกข์กายต้องระงับ แต่จิตไม่เกาะติดอยู่กับมัน ยอมรับสภาวะทุกข์ของกายโดยดุษฎี บอกมันไว้เสมอ ๆ ว่า มึงตายเมื่อไหร่ กูสบายเมื่อนั้น สำหรับจิตสังขาร เรามีเอาไว้ปฏิบัติธรรม คนฉลาดที่เจริญพระกรรมฐานเป็น เขาเจริญตามแบบพระพุทธเจ้า แบบพระธรรม แบบพระอริยสงฆ์ จิตสังขารจะกระทบเข้ากับอะไรตลอด ๒๔ ช.ม. หรือทุก ๆ ขณะจิตที่กระทบ จะเป็นสัตว์-คน-วัตถุธาตุ หรือ พรหม-เทวดา-นิพพาน-อาบายภูมิ ๔ เขาจะพิจารณาหรือสัมผัสเป็นพระกรรมฐานหมด แล้วใช้ปัญญาแยกออกได้ว่า สาระที่กระทบนี้เป็นธรรมใด ๆ เช่น มนุษธรรม เทวธรรม พรหมธรรม โลกียธรรม หรือ โลกุตระธรรม คนฉลาดเจริญกรรมฐานเป็น เขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่กระทบจิตหมดนั้นเป็นธรรม นี่แหละจงจำไว้ นักเจริญกรรมฐาน จะต้องอยู่ในธรรมอย่างนี้ตลอดเวลา ทำให้ชินจนแยกแยะออกได้ว่า สาระธรรมใดควรเก็บ สาระธรรมใดควรละ อันนี้ทำแล้วจิตติดสมมุติ อันนี้ทำแล้วจิตพ้นสมมุติ พระพุทธเจ้าสอนให้เจริญพระกรรมฐานเพื่อวิมุตติ คือ หลุดพ้นจากกิเลส เพื่อเข้าถึงแดนอมตะ นฤพานจุดเดียวนะ จำเอาไว้”

    ค) “อยู่กับธรรมปัจจุบันให้มาก ๆ จึงจะอยู่ในทางสายกลางหรือทางพอดี ๆ ของพระพุทธเจ้า เมตตาตัวเองให้มาก ๆ นะ”

    ๓๐ มกราคม ๒๕๓๖มีผู้ไม่ประสงค์ดีมาก่อกวนการปฏิบัติธรรมของพวกเราอยู่อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เฝ้าหลวงพ่อในตอนกลางคืน สมเด็จองค์ปฐมทรงเมตตามาให้กำลังใจ และสอนเรื่อง ธรรมพรตปรามาส

    ก) “กำหนดจิตให้บริสุทธิ์ อย่าให้มีความขุ่นเคือง อาฆาตพยาบาท ขอให้มั่นใจปฏิบัติตามคำสั่งและคำสอนของตถาคต กำหนดจิตตั้งมั่นให้อภัยทานแก่บุคคลทุก ๆ คน ที่ไม่ประสงค์ดี หรือกล่าวคำตำหนิให้ร้ายพวกเจ้า พวกเจ้าจักต้องหมั่นทรงพรหมวิหาร ๔ ให้ชัดเจนขึ้นในจิต อย่าตำหนิกรรม อย่าต่อกรรม ให้หมั่นตัดกรรมด้วยสติปัญญาอยู่เนือง ๆ การอึดอัดขัดข้องจิตย่อมมีอยู่บ้างในบางขณะเป็นธรรมดา เพราะระดับจิตของพวกเจ้ายังไม่มั่นคงในพรหมวิหารทั้ง ๔ ประการ แต่ขอให้ใช้ขันติ อดทน อดกลั้น ข่มใจ ระงับโทสะจริต และวิตกจริตเข้าไว้ พยายามจับอานาปานัสสติเข้าไว้มาก ๆ ควบกสิณภาพพระเข้าไว้ และพยายามระลึกนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก พินิจพิจารณาไปว่า เราก็ต้องตาย เขาก็ต้องตาย เขาตายด้วยจิตมุ่งร้ายทำลายคน จักไปสู่แดนใดก็เรื่องของเขา แต่จิตของเรามุ่งมั่น มรรค ผล นิพพาน การตายถ้าหากตายด้วยความอึดอัดขัดข้องแห่งจิต ก็จักไปไม่ถึงพระนิพพาน”

    ข) “เพราะฉะนั้น จงหมั่นโจทย์จิต ถามจิตอยู่เสมอ ๆ ว่าตายแล้วจะไปไหน อย่าลืมตัว การอาฆาตเคียดแค้นพยาบาทไม่ใช่หนทางที่จะไปพระนิพพานได้ ขอให้พวกเจ้าหมั่นชำระจิตเพื่อกิจพระพุทธศาสนาที่รอพวกเจ้าอยู่ในวันข้างหน้า ภาระใด ๆ อันเป็นหน้าที่ ก็จงรับทำไว้ อย่าให้บกพร่อง”

    ค) “การกอปรกิจในพระพุทธศาสนา มุ่งหวังการหลุดพ้นจากห้วงวัฏฏสงสารเป็นสำคัญ ละได้ซึ่งกิเลส โมหะ โทสะ โลภะ เท่านั้นจึงจะไปได้ ตั้งใจเข้าไว้ อย่าสะสมความเลวของตนเอง และอย่าสะสมความเลวของผู้อื่น หมั่นถามจิตเข้าไว้ว่า พอใจความเลวของตนเอง และพอใจความเลวของผู้อื่น แล้วจิตเจ้าจักไปไหน มิเท่ากับพอใจลงอบายภูมิ ๔ หรือ”

    ง) อนึ่ง ธรรมพรตปรามาส ขอจงอย่าให้เกิดแก่จิตของเจ้า ธรรมใดที่รู้แล้ว แต่ธรรมนั้นยังไม่เกิดแก่เจ้า ก็จงอย่าสงสัย อารมณ์สงสัยนั้นเป็นนิวรณ์ ซึ่งเป็นกิเลสหยาบ อันทำปัญญาให้ถอยหลัง ขอให้รอคอยผลของธรรมที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าด้วยจิตสงบเถิด ธรรมะของตถาคตต้องหยุด จึงจักเห็นความเคลื่อนไหวทั้งปวง กิเลสอาสวะจักสิ้นได้ก็ต้องหยุดดู แล้วหมั่นเพียรละด้วยความสงบ จึงจักสำเร็จได้อย่างแท้จริง”


    สมเด็จองค์ปฐม เมตตาสอน เรื่องกฎของกรรม

    มีความสำคัญโดยย่อว่า

    ก) “จงหมั่นพยายามสำรวจอารมณ์จิตให้พบ ค้นหากิเลสแห่งความโกรธ-โลภ-หลง ให้พบ กฎของกรรม ขอให้ยอมรับนับถือย่างจริงใจ

    ในอดีตชาติ พวกเจ้าก็ล้วนทำกรรมนี้กันมาก่อนทั้งสิ้น วาระนี้พวกเจ้าล้วนทำเพื่อกิจในพุทธศาสนา เศษกรรมอันเป็นผลบาปเล่นงานพวกเจ้าได้แค่ผิวเผินของร่างกายเท่านั้น ถ้าจักดูผลของกรรมจริง ๆ พวกเจ้าก็จักล้วนแต่ต้องตกตายตามกันทั้งสิ้น”

    ข) “อะไรจักเกิดแก่ร่างกาย ขอให้อย่าพึงได้ตระหนก หรือวิตกกังวลให้มาก อันตรายร้ายแรงใหญ่หลวงนั้นไม่มี ขอให้หมั่นตัดอารมณ์วิตกจริตเหล่านี้ทิ้งไป เพราะนั่นไม่ใช่อารมณ์แห่งพระกรรมฐาน มิใช่อารมณ์ที่จักนำพวกเจ้าเข้าสู่มรรคผลนิพพานได้”

    ค) “นิพพะ แปลว่า ดับ อารมณ์จิตจักต้องดับจากกิเลสทั้งปวง โกรธ-โลภ-หลงไม่คงคั่งค้างอยู่ในจิต อารมณ์วิตกจริต ก็คือ อารมณ์หลง หลงอยู่ในความทุกข์อันขุ่นข้องหมองใจ เพราะฉะนั้น พวกเจ้าจักต้องหมั่นระงับอารมณ์เหล่านี้ทิ้งไป พยายามสร้างอารมณ์สังขารุเบกขาญาณให้เกิด จักวางเฉยในร่างกายได้ในที่สุด”

    ง) “กฎของกรรมใด ๆ เกิดกับร่างกายก็จงยอมรับ ไม่มีใครทำเราหรอก เราทำของเราเองทั้งสิ้น กำหนดจิตให้รู้ กำหนดจิตให้เห็นด้วยตาปัญญาทั้งปวง ความสงบจักเกิดแก่จิตของพวกเจ้าได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ขอให้ใช้วิปัสสนาพิจารณาให้มาก ๆ แล้วผลแห่งมรรคธรรมจักเกิดขึ้นในปฏิปทาที่พวกเจ้าหมั่นเพียรอยู่นี้ อย่าท้อถอย หรือขุ่นข้องขัดเคือง อารมณ์จิตจักไม่เป็นสมาธิ ความขาดทุนจักมาเยือน ทั้งขึ้น ทั้งล่อง ต้องพยายามเข้านะ ชำระจิตให้ได้ทุก ๆ วินาที หมั่นทำบ่อย ๆ แล้วความสำเร็จจักปรากฏแก่พวกเจ้าเอง”

    จ) “กายสังขารทุกข์-อย่าฝืน ให้พยายามระงับให้เร็วที่สุด อย่าแบกทุกข์ของกายสังขาร จิตสังขารทุกข์-จักต้องหมั่นฝืน รู้และกำหนดเห็นทุกข์นั้น ๆ หมั่นเอากรรมฐานแก้จริต ๖ มาใช้ ก็จักแก้ทุกข์แห่งจิตสังขารได้”

    กราบขอบพระคุณ เว็บทางนิพพาน เจ้าคะ www.tangnipparn.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2012
  2. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
    satu satu satu.......
     
  3. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    วันหลังจะลงอะไรที่เป็นของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ จขกท.ช่วยทำลิ้งไปที่ต้นทางด้วย

    เพราะปัจจุบันนี้ มักมีผู้ที่หวังดีแต่ประสงค์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

    ชอบนำเอามาแอบอ้างว่าเป็นคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจาย์ท่านนั้นท่านนี้

    ทั้งๆที่เป็นคำพูดเหล่านั้น เป็นคำพูดของตนเอง(เจ้าของบทความ)ที่เป็นผู้อธิบายไว้

    แต่ชอบแอบอ้างว่านั่น เป็นคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านนั้นๆ

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  4. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    จขกท ทำเพิ่มเติมแล้วนะคะ ขอบคุุณคะ ขอให้เจริญในธรรมคะ
     
  5. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    จขกท. ยังสะเปะสะแปะอยู่เลย

    จะวางลิ้ง แทนที่จะยกมาวางทั้งยวง กับเอาลิ้งเฉพาะหน้าเวบ มาวาง

    หัวข้อกระทู้ขึ้นว่า "หลวงปู่บุดดา เมตตาสอนเรื่อง อิริยาบถ ๔"

    แต่ไฉนใจความตอนกลางของเรื่อง กับเอาเนื้อความว่า "สมเด็จองค์ปฐม เมตตาสอน เรื่องกฎของกรรม"

    ก็นี่ไงความไม่มีระเบียบวินัย ก่อจราจล
    ตำรวจจึงเป่านกหวีด เรียกเสียค่าปรับยันป้าย แล้วก็ว่าตำรวจดุ

    นั่นเพราะสุ่มเที่ยง สุ่มบ่าย 12:33 น. นำมาแปะ แต่ไม่มีวินัยบนเส้นทางจราจร
    ดีที่ไม่มีใคร ก๊อปนำไปแปะต่อ อย่างเรื่อง "พระพุทธเจ้าเป็นคนเกาหลี" ซึ่งมีให้เกลื่อน

    แทนที่จะได้อานิสงค์เต็ม
    กลับต้องพิจารณาให้ดีๆ ก่อนจะนำมาวางต่อ
    ต้องแยกแยะอะไรเป็นอะไร ส่วนไหนอะไรยังไง

    ไหนล่ะค่าปรับ ก็จะร้องหาแต่ พ่อหย่ายย... ซึ่งคนละเรื่องกันเลย พิจารณาอีกที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 เมษายน 2012
  6. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เนี้ย....... ลูกเพ่ รู้ไปหมดเลยนะ ทำไมไม่เพิ่มเติมเลยละว่า วางไว้ใต้ใบขับขี่นั้นละ เดียวทำท่าจดให้ 55555555

    ไม่สุ่มเที่ยง สุ่มบ่ายหรอก วันนี้ ชนไป4คัน รอดหวุดหวิด เบรคซะหัวทิ่มเลย เราได้ หลังได้ ตูดไม่ได้ แต่หลังของหลังอีกทีไม่รอด 4 คันรวด อันนี้เรียกจริงๆคราบท่าน พ่อหย่าย ช่วยด้วยแฮะๆ
     
  7. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ก็ดีแล้วที่รอดมาได้ ไม่เคยดูคลิปที่ด่าตำรวจหรอ โมโหร้าย นี่เป็นคุณนี หรอกถึงได้เตือนกัน เกี่ยวกับการโพส ก็เหมือนที่คุณธรรมภูตแกเตือนนั่นแหละ หากมีใครก๊อปเอาไปโพสต่อ มันก็ไม่ดีไง เพราะไม่มีความชัดเจนในที่มา เห็นใจตำรวจไทยบ้าง มีวินัยในการโพสอ้างอิงที่มาโดยชัดเจน จะได้ไม่เสียค่าปรับ ไม่น่าจะงง
     
  8. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    จะบอกอะไรให้ นะจ๊ะ นะจ๊ะ ท่านผู้ ปฏิบัติ ทั้งหลาย ทั้งที่มีรถและกำลังจะมี โปรด สำรวม กาย วาจาใจ ของท่าน ให้ดีดี ที่ ท่านเจอคุณตำรวจ (ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม)โปรดมองที่ชุดของท่านเอาไว้นะ มองเอาไว้ ก่อนที่จะ อวยพรให้ตัวเอง

    เพราะ นั้นคือ ชุดหลวงนะจ๊ะๆๆ อย่าได้บังอาจ อวยพรตัวเองในทางที่เสียหายเป็นอันขาด ไม่ว่าจะกรณีใดๆๆ โปรดรักษาตัวเอง เอาไว้ให้มากๆ
     
  9. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    รู้ไว้ก็ดีแล้วจะได้เปลี่ยน
     
  10. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    พี่หม้อ เปลี่ยน อะไร เปลี่ยน อะไร เหรอจ๊ะ
     
  11. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    นั่นไม่ใช่เมล์ แต่ไว้เสริซหาจุดพิกัด รุ้งตะแคง แวงตั้ง
     
  12. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    พี่..... พี่..... พี่.... เอ่อ ดับสนิท เลย........................
     

แชร์หน้านี้

Loading...