อธิบาย "นิพพาน" ด้วยวิทยาศาสตร์

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nyeb, 30 มกราคม 2012.

  1. nyeb

    nyeb สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +21
    บทที่ 1 จักรวาล (มีทั้งหมด 10 บท)


    นักวิทยาศาสตร์พบว่า จักรวาลที่เราส่องกล้องมองเห็นในปัจจุบัน มีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับจักรวาลทั้งหมด แม้ว่าจะสามารถพบดาราจักรถึงแสนล้านดาราจักร แต่ความจริงแล้ว ขนาดนั้นเทียบได้เพียงกับขนาดของเม็ดทรายเม็ดหนึ่ง ในห้วงมหาสมุทรแห่งจักรวาล นอกจากนั้น จากการคำนวณพบว่า แม้ภายในจักรวาลเราเพียงจักรวาลเดียวก็ยังมีมิติต่างๆซ้อนทับกันอยู่อีกมากมาย ปัจจุบันมนุษย์รู้จักถึงเพียงมิติที่ 4 และห้องปฏิบัติการเซิร์น(CERN) กำลังค้นหามิติที่ 5 อย่างเอาจริงเอาจัง โดยมีสมมติฐานว่า มิตินี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยความถี่คลื่นแสงปกติ มนุษย์จึงมองไม่เห็น ซึ่งถ้าพบ คงจะพบกับความมหัศจรรย์เหลือคณา
    ><O:p></O:p>
    จากทฤษฎีสตริง (String Theory) คำนวณได้ว่า จักรวาลมีถึงสิบเอ็ดมิติ ถ้ามีสิ่งมีชีวิตอยู่ในมิติที่ 7,8,9 เราจะมองไม่เห็นเขา สภาวะนิพพาน คือสภาวะที่หลุดพ้นจากจักรวาลนี้ ทั้งรูปและนาม จะไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีก คืออยู่เหนือวงจรแห่งปฏิจจสมุปบาทและอิทัปปัจจยตา เปรียบเสมือนการอยู่นอกแอ่งน้ำวนแห่งกาลเวลา ที่มองเห็นมวลสรรพสัตว์ล้วนเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในนั้น ถ้าเข้าใจหลักอิทัปปัจจยตา ก็จะเข้าใจปรากฏการณ์ทางกายภาพทั้งหมด ตั้งแต่ใหญ่สุดอย่างอภิมหาจักรวาล จนเล็กสุดภายในปรมาณู เข้าใจทุกมิติที่อยู่ต่ำกว่า ส่วนความเข้าใจในหลักปฏิจจสมุปบาท ทำให้เข้าใจปรากฏการณ์ทางนาม ทางจิตอย่างแจ่มแจ้ง รู้กฎแห่งกรรม รู้ปัจจัยที่ทำให้มีการเกิดตาย ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยสรุปก็คือ ในสภาวะนั้น จะเข้าใจความลับของจักรวาลทั้งหมด ทั้งรูปและนาม
    <O:p></O:p>
    ภายในจักรวาลยังมีคลื่นความถี่ที่ตามนุษย์มองไม่เห็นอีกมากมาย ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “แสงที่ตามองไม่เห็น” เช่นถ้าตาเราสามารถมองเห็นในย่านความถี่คลื่นโทรทัศน์ เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เราจะเห็นคลื่นช่องเจ็ดเป็นสีหนึ่ง คลื่นช่องสามเป็นอีกสีหนึ่งที่แตกต่างออกไป และสีนั้น เป็นสีใหม่ ที่ตาเนื้อไม่เคยเห็นมาก่อน จะเห็นได้ว่า ผัสสะเป็นตัวกำหนดจักรวาล ถ้าสิ่งมีชีวิตอื่น สามารถเห็นคลื่นความถี่เอ๊กซเรย์ ก็จะมองโลกและจักรวาล ต่างไปจากมนุษย์มากมาย จักรวาลที่เราเห็นเป็นเพียงฉากหนึ่งจากนับล้านๆฉากที่เป็นไปได้ ภาพที่ตาเห็นเป็นเพียงภาพในขอบเขตที่ประสาทสัมผัสสามารถรับรู้เท่านั้น สิ่งที่เราเห็น ล้วนไม่ใช่ความจริงแท้ของจักรวาล หากแต่เป็นความจริงเท่าที่อายาตนะสามารถรับผัสสะนั้นได้
    <O:p></O:p>
    ในทางพุทธศาสนาบอกว่า ตลอดชั่วอายุขัย ข้อมูลที่ได้พบเห็นทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในจิต ด้วยรูปของ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ และข้อมูลชุดนี้สามารถข้ามเวลาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถึงขนาดข้ามมิติ ข้ามภพภูมิ ข้ามจักรวาลกันเลยทีเดียว
    <O:p></O:p>
    ข้อมูลที่เก็บไว้ในจิต สะสมมานับร้อยนับพันภพชาติ จึงมากมายมหาศาลจนประมาณไม่ได้ ในสมัยก่อนไม่มีใครคาดคิดว่าจะสามารถเก็บข้อมูลจากห้องสมุดทั้งโลกลงบนที่เดียวกันได้ แต่ปัจจุบัน ไม่เพียงแต่ข้อความ แม้แต่ภาพเคลื่อนไหวจากทั้งโลก Youtube.com ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถเก็บมารวมไว้ในที่เดียวกันได้ การเก็บข้อมูลของจิตอยู่ในระดับที่สูงกว่าสี่มิติ ประสิทธิภาพเหนือกว่าคอมพิวเตอร์ใดๆบนโลกนี้ ดังนั้น จึงไม่ต้องประหลาดใจว่าทำไม จึงสามารถรวมข้อมูลจากทุกภพทุกชาติไว้ได้
    <O:p></O:p>
    เมื่อเสียชีวิต จิตจะเป็นตัวเลือกอายาตนะเพื่อรับผัสสะในภพต่อไป และอาจจะเป็นทวารแปด ทวารสิบ ไม่ใช่ทวารหกแบบมนุษย์ก็ได้ ในสวรรค์ชั้นยิ่งสูง จะยิ่งสามารถรับผัสสะได้ละเอียดมากขึ้น มีรูป รส กลิ่น เสียง รวมไปถึงแสงสี ที่ละเอียด ประณีต งดงาม แบบที่มนุษย์ไม่เคยสัมผัส สุข ณ ที่นั้น มากกว่าสุขทางโลกเป็นหมื่นเป็นแสนเท่า แต่อย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์ทรงพบว่า เป็นสุขที่ไม่จีรังยั่งยืน ในที่สุดเมื่อเสวยบุญหมดก็จะต้องตกลงมาเกิดในภพของมนุษย์หรือเดรัจฉานอีกครั้ง
    <O:p></O:p>
    ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ทวารหก จะเป็นตัวกำหนดให้มนุษย์สามารถรับผัสสะได้เฉพาะมิตินี้เท่านั้น เมื่อเสียชีวิตลงร่างกายสูญหาย จิตได้เป็นอิสระ จะพบกับความจริงของจักรวาล เพราะจิตไม่มีขอบเขตจำกัดของการมองเห็น แม้ขณะมีชีวิตอยู่ ถ้าสามารถตั้งสติสกัดผัสสะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ จิตจะแยกตัวออกจากสมอง ทำให้สามารถเข้าถึงความลับเรื่องมิติ และภพภูมิได้ แต่ถ้ายังยึดติดกับกายเนื้อ ก็จะเห็นเท่าที่ศักยภาพของตามนุษย์สามารถทำได้ นั่นก็คือเห็นแสงสีได้เพียงในขอบเขตความถี่ของสีม่วง และสีแดง <O:p></O:p>
    ( สรุปมาจากหนังสือ ความลับของจักรวาล ทางแห่งนิพพาน ยังเหลือ อีก 9 บท มีเวลาจะมาพิมพ์ต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2012
  2. nyeb

    nyeb สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +21
    บทที่ 2 สัมพัทธภาพกับควอนตัม


    ทฤษฎีสัมพัทธภาพใช้พิสูจน์ความใหญ่โตของจักรวาลที่ยังไม่รู้ว่าขอบเขตของมันอยู่ที่ไหน ส่วนทฤษฎีควอนตัมใช้พิสูจน์ภายในของอะตอมซึ่งก็ไม่รู้เช่นกันว่ามันจะขยายได้โดยไม่สิ้นสุดหรือไม่ นักวิทยาศาสตร์พบว่า บริเวณที่ว่างภายในอะตอม ไม่สามารถใช้กฎของนิวตัน หรือทฤษฎีสัมพัทธภาพมาอธิบายได้ เหมือนกับว่าภายในอะตอมเป็นอีกมิติหนึ่ง ที่อยู่เหนือจากโลกสามมิติ

    ปรากฏการณ์ทางควอนตัม เป็นปรากฏการณ์ในระดับมิติที่ 4 ซึ่งมนุษย์ไม่มีความคุ้นเคย แม้ทฤษฎีสัมพัทธภาพ จะรู้ว่าเวลาหรือ ระยะทางยืดหดได้ แต่ก็ยังเป็นการยืดหดในมิติที่สาม แต่ในระดับมิติที่ 4 ระยะทางและเวลา ไม่มีอยู่จริง เราจึงเห็นอิเลกตรอนหายตัวไปมาได้ แยกร่างได้ สื่อข้อมูลระหว่างกันได้ในพริบตาแม้จะอยู่ห่างกันนับล้านกิโลเมตร

    สตีเวน ไวน์เบิร์ก (Steven Weinberg) นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล บอกว่า สมองมนุษย์อาจไม่สามารถเข้าใจมิติที่ 4 ได้ เพราะสมองถูกสร้างขึ้นเพื่อรับรู้โลกสามมิติเท่านั้น

    ฟิสิกส์ควอนตัม ศึกษาแยกย่อยอนุภาคเล็กลงไปเรื่อยๆ จนพบองค์ประกอบที่สำคัญ เช่นเดียวกับอภิธรรม ก็คือควอนตัมทางจิต พระพุทธองค์ทรงแยกย่อยมนุษย์ลงไปถึงระดับดวงจิต เจตสิก และพลังที่เหนี่ยวนำทั้งหมดในระดับจิต เจตสิก ซึ่งเกิดดับละเอียดถึงในระดับล้านล้านของวินาที จะต่างกันก็แต่ ควอนตัมใช้กล้องจุลทรรศน์ขยาย แต่พระพุทธองค์ทรงใช้กำลังสติไปขยาย

    โรเจอร์ เพนโรส (Roger Penrose) อาจารย์ของ สตีเฟน ฮอร์กิ้ง กล่าวว่า จิตวิญญานมีความสัมพันธ์กับควอนตัม และอาจช่วยอธิบายเรื่อง ชาติภพ ได้ เมื่อคนตายไป ก็ยังมีจิตวิญญาณเชิงควอนตัมที่จะยังคงอยู่ และถ่ายทอดไปในภพหน้าต่อไป
    <O:p></O:p>
    ในเรี่องนี้ วูลฟ์แก็ง เพาลี (Wolfgang Pauli) นักฟิสิกส์รางวัลโนเบลผู้ยิ่งใหญ่ ได้ทำการศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ควอนตัมกับปรากฏการณ์ทางจิต โดยร่วมกับ คาร์ล จุง (Carl Jung) นักจิตวิทยาชั้นนำของโลก สร้างทฤษฎีจิตควอนตัม เพาลี – จุง (Pauli – Jung) ซึ่งบอกว่า จิตเป็นตัวแปรสำคัญที่มีอิทธิพลต่อปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งปวง
    <O:p></O:p>
    นีลส์ บอห์ร ได้บอกไว้อย่างมั่นใจว่า “ปรากฏการณ์ทั้งหมดทางธรรมชาติ เกิดมาจากจิตของมนุษย์ไปรับรู้หรือสัมผัสมันเข้าเท่านั้น” เขามั่นใจถึงขนาดกล้าขัดแย้งกับไอน์สไตน์อย่างรุนแรง ซึ่งไอน์สไตน์ในตอนแรกไม่เชื่อเช่นนี้
    <O:p></O:p>
    อาจกล่าวได้ว่า นักฟิสิกส์ใหม่สายควอนตัม เกือบทุกคนจะสนใจศึกษาในเรื่องของจิต ไบรอัน โจเซฟสัน (Brian Josephson) นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้านักวิทยาศาสตร์ เห็นว่าเรื่องของจิตไม่มีอยู่จริง กลศาสตร์ควอนตัมจะเข้ามาช่วยอธิบาย” ปรากฏการณ์ทางจิตในระดับอภิญญา เช่นที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า “ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิผ่องแผ้ว....ย่อมโน้มน้อมจิตเพื่อแสดงฤทธิ์ คือ แยกคนเดียวเป็นหลายคนได้ ทำให้หายไปก็ได้ ทะลุฝา ทะลุกำแพง ภูเขาไปได้ไม่ติดขัดเหมือนในที่ว่างก็ได้ ผุดขึ้นดำลงดินเหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำ เหาะไปในอากาศก็ได้....”ปัจจุบันนักฟิสิกส์ควอนตัม รู้แล้วว่า สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • cover.jpg
      cover.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.5 KB
      เปิดดู:
      628
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2012
  3. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    สุดท้ายนี้ที่กล่าวไปมาจากความรักส่วนตัวที่ไม่อยากให้ศาสนาถูกบิดเบือนนะจ๊ะ นะจ๊ะ

    และ ขอบคุณ อ.พุทธทาส ท่านพระพรหมคุณากรณ์ และ อ.สุลักษณ์ ที่ชี้ทางสว่างทำให้รู้ว่าอันไหนคือของแท้และอันไหนคือของปลอม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2012
  4. Akornlokudorn

    Akornlokudorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +60
    ขอเป็น ปัจจัตตัง เวทิตัปโพ วิญญูหิ ดีกว่าครับ
     
  5. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    5555555555555 มิธรรมดา ท่านนี้ กล่าวได้ชอบแล้ว ปัจจัตตัง..... ใช่แล้ว นิพพานบ้านไหนเขาอธิบายได้ล่ะจะน้อง เมื่อใครสักคนอธิบายมันมันก็ไม่ใช่นิพพานแล้วนะจ๊ะ ที่ใดมีรูปลักษณ์ที่นั้นมีมายา แลจะเอามายามาจับนิพพาน เหมือนเอาน้ำเต้าที่กลมเกลี้ยงมาจับปลาช่อน มันจะไปจับได้ยังไงละจ๊ะ
     
  6. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    5555555555555 ของอย่างนี้มันต้องหุบปากแบบท่านวิมลเกรียรตินะจ๊ะ นะจ๊ะ
     
  7. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    ธรรมก็มีทั้งที่แอยู่ในมิติของสังขตธรรม และ อสังขัตธรรมนะจ๊ะ นะจ๊ะ ข่อยก็พูดถึงในมิติสังขตธรรมนะจ๊ะ เพราะความจริงที่พระพุทธเจ้า หรือ ใครกล่าวล้วนไม่ใช่ความจริง เพราะ ของจริงมันพูดไม่ได้ ปัจจัตตัง..........เป็นเรื่องสันทิฏฐิโก นี่ท่านบอกเองนะจ๊ะ แต่ที่ท่านบัญญติ ทั้งไตรลักษณ์ ทั้งอริยสัจก็ดี เหล่านี้ยังไม่ใช่สัจจะที่แท้เป็นแต่เพียงธรรมที่บัญญติขึ้นเพื่อช่วยให้คนเห็นธรรมที่แท้ เหล่านี้เรียกว่าสังขตธรรม หรือธรรมที่อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่งขึ้น นั้นคือมีพระพุทธเจ้าเป็นมูลเหตุ หรือ ใครก็ตามเป็นมูลเหตุให้เกิดขึ้นมาเพื่อสั่งสอน ให้ผู้คนได้เห็นธรรม นะจ๊ะนะจ๊ะ ถ้าไม่มีมนุษย์ ไม่มีพุทธเจ้า ไม่มีเหตุก็ไม่มีธรรมที่เป็นถ้อยคำบัญญตินี้ ส่วนอสังขตธรรมนะอยู่นี่นานแล้วนะครับ จะมีคนหรือมีก็อยู่นี่นานแล้ว จะมีพุทธเจ้าหรือไม่ธรรมนี้ก็มีอยู่แล้วจ๊ะ นี่ท่านบอกเองเพราะธรรมแบบนี้ไปพ้นจากทัศนมีอยุ่ ไม่มีอยู่ คือไม่ต้องอาศัยเหตุปัจจัย ท่านเรียกว่านิพพานนี่แลคือ อสังขตธรรม

    จากคุรุชิพมั้งริมโปเช 5555555555555 พอดีมีคนแก่เพี้ยนๆๆในนี้ มาบังคับให้ข้าน้อยเป็นริมโปเชอะไรสักอย่างที่เธอรุ้จัก ข้าน้อยรำคราญที่จะบอกว่าไม่ใช่ยิ่งนัก เลยต้องเล่นกับป้าแกหน่อย5555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2012
  8. siritach

    siritach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2005
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +555
    ผมทีแรก เคยซื้อหนังซื้อมาอ่าน ...แต่พอ คุณหมอ ออกรายการทีวี หมอบอกว่า ไม่เชื่อ ว่าผีมีจริง บอกว่าถ้าตายไปแล้ว จะไม่เหลือความจำ ใดๆ อีก เพราะไม่มีสมอง ผีเป้นแค่พลังงาน ชนิดหนึ่ง
    .. หมอ เขาไม่เชื่อ เรื่องแม่นาค ..แล้วเรื่อง สมเด็จพระพุทธาจารย์โต ละ หลวงโต ปราบแม่นาค ...

    มันขัดแย้งกันมาก ผมว่า คุณหมอ คนนี้ พยายาม เอาวิทยาศาสตร์ มา เป็นตัว ตั้งกฎ ต่างๆ ของสิ่งที่อยู่ เหนือ สัมผัส ทั่วไป พอ ตัวเองมองไม่เห้นผี ไม่เคยเห็นผี ก็ บอกว่า ผีเป้นแค่ พลังงาน ไม่มีความคิด ไม่มีความทรงจำ

    แล้ว วิญาญาณ บรรพบุรุษ ที่มาเยี่ยมลูกหลาน ละครับ แล้ว วิญาญาณที่ โดนฆ่า แล้วมาเข้าเฝ้าบอก ญาติ ว่าตัวเองตายอยู่ที่ไหน ที่เป็นข่าวดังอยู่หลาย ครั้ง

    คนที่ไม่มีประสบการณ์ ด้านนี้ แต่กลับเขียนเรื่องนี้เหมือน กูรู ผู้รู้จริง คุณหมอบอกว่า เคยฝึก ปฎิบัติ แค่ ช่วงหนึ่ง แค่สมารถ มองเห็นล้อรถที่วิ่งอยู่ ช้าลงได้ แค่นั้น แตในหนังสือที่เขียนมา นั้น มันมากกว่า สิ่งที่คุณหมอ สัมผัสได้

    พยายามโยง นักวิทยาศาสตร์+พระพุทธเจ้า +คำสอน .... บอกตรงๆ นักวิทยาศาสตร์ ไม่มีทางรู้ในสิ่ง ที่พระพุทธเจ้ารู้ ครับ แค่ การย้อนอดีตชาติ ของพระพุทธเจ้า ไปยังชาติแรกที่เกิด ได้ นี่ ก้ไม่มีใครทำได้แล้ว เอาแค่ เรื่อง... ผี ธรรดาๆ นักวิทยาศาสตร์ให้คำตอบได้แค่ว่า เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง ..

    เรื่องของเรื่อง คือ คุณหมอ ไม่เชื่อ เรื่องผี ... ไม่เชื่อ ในหลายๆเรื่อง ของศาสนาพุทธ แต่ เชื่อในบางเรื่อง ที่พิสูจน์ได้ จับต้องด้วยกาย เนื้อได้ คุณหมอยังห่างไกล อีกมากครับ จึงทำได้แค่ จับ คู่ หาทฤษฎี มาจับคู่ให้ มันคล้องจอง กับบางเรื่องในพระพุทธศาสนา ที่ตัวเองสัมผัสได้ เท่านั้น ส่วนเรื่องขั้นสูงทางจิตที่ตัวเองสัมผัสไม่ได้ คุณหมอไม่เชื่อ

    ...หนังสือคุณหมอคนนี้ พอที่จะซื้ออ่านได้ครับ เอาเป็นแนวทางได้ ไม่เสียหาย แต่ ไม่ต้องเชื่อทั้งหมดครับ เพราะ คุณหมอเขา ไม่ได้ เห็นด้วยตาของตัวเอง เป้นแค่การ เชื่อม โยง หลักการ ของคนอื่น ให้มันตรงกัน ..

    ผมไม่ชอบเรื่องเดียว เรื่อง ที่คุณหมอ บอกว่า ไอสไตน์ ศึกษาศาสนาพุทธ ไม่มาก... แต่ทำไม คุณหมอบอกว่า ไอสไตน์ บอกว่า ศาสนาพุทธเป็นศาสนา ทางวิทยาศาสตร์ ..มันขัดแย้งกันเองครับ
     
  9. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ปิสุนาวาจา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
     
  10. เทพเมรัย

    เทพเมรัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +80
    นิพพาน คือธรรมชาติอันเป็นที่สุดหรือความจริงสูงสุด ที่แสดงด้วยหลักศาสนาพุทธ

    วิทยาศาสตร์ แม้จะยังไปไม่ถึงความจริงสูงสุด แต่ก็พยายามและก้าวหน้าไปมาก

    ในเมื่อต่างก็ค้นหาความจริงด้วยกัน แม้ต่างวิธีการ ปลายทางย่อมอธิบายกันและกันได้บ้าง แต่จะอธิบายด้วยวิธีไหน ก็สุดจะเดา
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG] มีคนแก่เพี้ยนๆ เยอะเลย เนาะ บร๊ะเจ้าช่วยกล้วยทอด!!!
     
  12. auychaiqc

    auychaiqc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +135
    "ไอ้พระฤษีลิงดำลิงด่าง"

    คุณหมายถึงใคร..ขอให้แสดงความกล้าหน่อยเพราะถ้าคุณหมายถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง นั่นหมายถึงคุณได้ปรามาสครูบาอาจารย์ของผมและลูกศิษย์ของท่านอีกมากมาย..ผมยังมีกิเลสอีกมากและจะไม่ทนให้ใครมากระทำอย่างนี้กับหลวงพ่อแน่..
     
  13. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    แปลกใจ คุณตั่วเฮียโฮดี้ เป็นได้ถึงขนาดนี้....
    นิพพานคือสัญชาตญานดิบแบบที่คุณโฮดี้แสดงหรือ ฮ่าๆๆๆ
    ถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็คงไปนิพพานกันเยอะแล้วหล่ะ ไม่มาตายๆเกิดๆกันให้สลอนอยู่อย่างนี้หรอก.....มั๊ง-_-!
    แสดงความคิดเห็นโดยไม่ต้องปรามาสกันดีกว่านะคะ เกรงว่าจะได้ไม่คุ้มเสียนะท่าน อาจถึงขนาดปิดกั้นมรรคผล ถ้าไม่รู้จริง อย่าทำพูดเป็นเล่นเอามัน กัดไม่เลือก เว้นๆบ้างก็ได้มั้ง ไม่พูดก็ไม่มีใครว่านิ....จริงป่ะ.....อิอิ พูดตรงห้ามโกรธนะ
    เจริญและเบิกบานในธรรมจ้าาาา;p
     
  14. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    5555555 แล้วข่อยอธิบายตรงไหนล่ะนิ ข่อยบอกว่าถ้าพุดเรื่องนี้ต้องหุบปากแบบวิมลเกรียติ เพราะนิพพานเป็นอสังขตธรรมแสดงด้วยรูปด้วยคำพูดไม่ได้555 อ่านก่อนตัดสินทีหลังก็ดีนะจ๊ะ นะจ๊ะ ที่พูดว่ามันคงไม่ง่ายแบบนี้ ก็ แสดงว่าอันที่จริงก็คิดว่ามันยาก เลยไม่คิดจะเรียนจะหาดูเลยล่ะสิได้แต่ฟังๆๆเขามาใช่ไหม คงได้ดียากนะครับ แถมพวกที่คิดว่าง่ายนะอันที่จริงนะไม่ได้เคยลองเลย นี่ทำความดีละชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ทำได้บ่ เห็นไหมง่ายๆๆเลยแต่แก่จนแปดสิบยังทำไม่ได้เลย ดูสิขนาดท่านติช นันท์ ฮัทท์ ยังยอมรับว่า มันไม่ใช่ง่ายๆๆเลยนะ ทั้งๆที่เข้าใจง่ายใช่ไหม แต่เข้าใจจริงๆๆหรือเปล่าล่ะ

    แถมนะจ๊ะ ถ้าข่อยเกิดอธิบายขึ้นมาแล้วคุณบอกว่า มันไม่จริงนิแสดงว่าคุณพี่ถึงนิพพานแล้วหรอถึงรุ้ว่าไม่ใช่ ถ้าไม่ แลคุณพี่รู้ได้ไงว่าไม่ใช่ 555 ข่อยไม่ได้อธิบายนิพพานนะจ๊ะ นะจ๊ะอ่านดีๆๆ ข่อยพูดว่ามันเป็นอสังขตธรรม อธิบายด้วยคำพูดไม่ได้ แค่นั้น ตามที่ครูอ.แต่โบราณกาลกล่าวไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2012
  15. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    55555 ก็แล้วแต่จะคิดนะครับ มีฤษีลิงดำ ลิงไฟ ลิงขาว ลิงด่าง ลิงลม สารพัดก็เอาสักคนแล้วกัน ในกรูเกิ้ลนี่เยอะมาก ในอินเดียนี่เป็นร้อยเป็นตั้งแต่ลูกยันพระพุทธเจ้า พระศรี พระอิศวร ก็แล้วแต่จะคิดนะจ๊ะ นะจ๊ะ
     
  16. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
    ไม่ต้องเรียกร้องขอความรักหรอกนะจ๊ะ รู้นะว่าการเป็นคนไม่สำคัญนะมันแย่แค่ไหน ก็เลยต้องเรียกร้องเพื่อแสดงให้โลกเห้นว่าตัวเองมีตัวตน โถ่พ่อหมอนะพ่อหมอ น่าสงสารนะรับยาได้ช่องสาม
     
  17. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ไม่เห็นมีอะไรเลย จะเชื่อได้ยังไง คนเขียนเคยเห็นนิพพานหรือเปล่าก็ไม่รู้ มาเดามาคิดเล่นๆแล้วก็แชร์ความคิดตนเองใช้คำหว่านล้อมให้ดูหน้าเชื่อถือเท่านั้นไม่เห็นจะมีอะไร
     
  18. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ทำไมมัวแต่เถียงกับคนชั่วอยู่เล่าทำไมไม่แจ้งแบนถาวร แล้วก็เอาคำที่เค้าพูด ถ่ายรูปด้วยนะ บอกคนอื่นด้วยก็ดีครับ
     
  19. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234

    เชิญอธิบายเลยค่ะ อยากฟังเหมือนกัน
    อืม....ส่วนตัวคิดว่า ในเมื่อนิพพานมีจริง มันก็ต้องอธิบายได้ค่ะ ของจริงต้องพิสูจน์ทราบได้ ไม่งั้นมันไม่เป็นเหตุเป็นผล ไม่สมเหตุสมผลอ่ะ อะไรที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล สิ่งนั้นไม่มีในพระพุทธศาสนา จ้ะ

    เชิญแสดงความคิดเห็นแต่อย่าปรามาส
    ถ้าจะหักล้างอะไร วิธีที่ดีที่สุดคือการหักล้างด้วยเหตุผลข้อเท็จจริงเท่านั้นค่ะ ถึงจะไม่มีผลเสีย (แต่เรารู้ว่าคุณอ่ะ ไม่แคร์สื่อเท่าไหร่หรอก ใช่ป่ะ^^) นะๆๆๆๆลองอธิบายให้ฟังบ้าง นะ รับรองว่าจะเป็นผู้ฟังที่ดีค่าาาา จุ๊ฟๆ
     
  20. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    เราว่า บางที นิพพานนี้มันอาจจะอยู่ใกล้เรามากๆๆๆๆๆ เหมือน ขนตาของเรานี่แหล่ะ อยู่ติดตาเราเลยอ่ะ แต่เรามองไม่เห็นมันซะงั้น เห็นแต่ แขน ขา หรืออะไรๆที่มันไกลออกไป ออกไป ออกไป.........
    555555555+ขำ^-^
     

แชร์หน้านี้

Loading...