...ร่วมแชร์บอกเล่าเรื่อง หลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง...

ผ้ายันต์หลวงปู่ยี สวยสุดยอดครับ

 

ขอบคุณที่ลงรูปให้ดูครับ

 

หลวงพ่อคือเพชรน้ำเอกที่หาได้ยากยิ่งคุณธรรมและคุณวิเศษของท่านล้วนเป็นที่ยอมรับ ขนาดหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ของกระทรวงมหาดไทยฉบับหนึ่งสมัยนั้นยังเคยนำเรื่องราวของท่านลงประกาศเกียรติคุณ เรื่องราวของท่านมีมากมายกล่าวกันไม่จบครับ

 

ยืนยันอีกเสียงครับ ท่านเกินกว่าคำว่า สุดยอดครับ

 

อยากได้พระเครื่องหลวงปู่สักองค์....^^

 

เป็นกำลังใจให้ครับพี่ ไม่มีอะไรจะมาบดบังความศรัทธาที่ตัวเรา มีต่อองค์หลวงปู่ท่านครับ....ซักวันท่านจะมาโปรดคุณเองครับ..

 

ของหลวงพ่อนะครับหากใครมีพกติดตัวได้เลยเพียง1เดียวไปทั่วทิศได้อย่างสบายใจ100%ครับ สมัยก่อนมีหลายท่านครับที่ได้พระจากท่านแบบปาฏิหารย์อย่างเช่นท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ครั้งที่ไปลองหลวงพ่อ ขอให้คุณman_12สมปราถณานะครับ

 

เหรียญรุ่นแรกของคุณชนคุณก็สุดยอดแล้วครับขึ้นคอได้เลยครับ

 

ขอบคุณครับพี่ ว่างจิต ผมมีแต่เหรียญรูปไข่ กะว่าจะหาเหรียญเสมา ก็ยังหาไม่ได้
ซักทีครับ แต่ก็จะพยายามต่อไปครับ

 

ขอบคุณครับ คุณชนคุณและคุณว่างจิต.......

 

มีอีกเรื่องครับ...

ตอนนั้นช่วงที่หลวงปู่ท่านยังเป็นฆราวาส ได้เที่ยวไปหลายที่แต่ท่านก็ได้มาที่จ.พิจิตร และได้พบกับพวกเสือกลุ่มนึง พวกเสือพวกนั้นเห็นหลวงปู่เป็นแค่คนแก่ๆ ขี้เมาคนนึง ก็เลยพากันรุมแกล้งและขอดูว่ามีอะไรปล้นได้บ้าง หลวงปู่ท่านจึงพูดว่า "พวกมึ..มัดมือมัดเท้ากรูไว้ แล้วโยนกรูลงไปในคลองนั้นเสีย"
พวกเสือได้ยินดังนั้นก็งงกันทุกคน แต่ก็ไม่ขัดเจตนา..
ก็พากันมัดหลวงปู่จนแน่น (ก็พากันบ่นว่าอยากตายหรือไงวะไอ้แก่นี่...) แล้วก็โยนลงไปในคลอง อย่างที่หลวงปู่บอก... เวลาก็ผ่านไป 1 นาที... 2 นาที
พวกเสือก็จะลงไปช่วย

"เฮ้ย.. ไอ้แก่มันตายหรือยังวะ" คนแรกถาม..

"กูว่า.. ลงไปช่วยมันดีกว่า" คนสองว่าต่อ

เสร็จสิ้นความคิดคนแรกก็กระโดดน้ำ "ตูม.." ลงไปหา...

แปปนึงก็ขึ้นมา... "เฮ้ย.. ไม่เจอว่ะ"

ลงไปใหม่ ขึ้นมาอีก... "เฮ้ย.. มันหายไปไหนวะ"

........

จากนั้นก็เป็นเสียงหลวงปู่ตะโกนมาจากอีกฟากคลองนึง

"กรูอยู่นี่.... พวกมึ...หากรูอยู่หรอ" พร้อมกับเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ (ที่แกล้งพวกเสือได้)

พวกเสือก็พากันตกใจ และรีบวิ่งไปหาหลวงปู่ และรู้ว่ามีอภิญญาแน่ๆ (เพราะมัดกันแน่นมาก) จึงฝากตัวเป็นศิษย์ และให้หลวงปู่สักยันต์ให้ *โดยไม่ได้เป็นอาชีพนะคับผม* แต่ว่าลูกศิษย์นั้นอ้อนวอนขอให้สักให้หน่อย และกว่าจะได้ของดีจากหลวงปู่นั้นก็ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะคับ (ตาแกละเคยบอกว่า "หลวงปู่น่ะ ท่านรู้ว่าใครต้องการอะไร อยากได้อะไร ถ้าหากจิตใจบริสุทธิ์ ไม่มีความโลภมากอยากได้ ท่านก็จะให้วัตถุมงคลที่วิเศษที่สุดไม่มีทางหาที่ไหนได้ แต่ถ้าหากว่าใครที่ไปหาท่านเพราะอยากได้โน่นได้นั่น คนนั้นก็จะไม่ได้รับสิ่งที่ตัวเองหวังไว้"

ตาแกละนี่เคยเป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่เลยคับ เป็นคนที่เคยถวายเส้นให้หลวงปู่ (ตอนบวชครั้งหลัง)
ตอนนั้นหลวงปู่บอกว่า "ต่อไปที่ตรงนี้จะเป็นวัด"
แต่ก็ไม่มีใครเชื่อท่าน (คิดกันว่า ที่กันดารขนาดนี้จะเป็นไปได้ยังไง) และทุกวันนี้ ตรงนั้นก็ได้เป็นวัดป่าศรีถาวร (ที่ผมไปบวชมา) นี่แหละคับ ตอนนั้นยังเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นเก่าๆ แต่ตอนนี้ได้เป็นศาลาของวัดไปแล้ว...

เรื่องของหลวงปู่ยังมีอีกมากมายคับ
ตาแกละเคยบอกว่า "เล่าทั้งปี.. ก็ไม่หมด"..


..ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ ศิษย์วัดป่าศรีถาวร ครับ...

 

หาเลยครับ ของท่านดีจริงๆ..ครับ..

 

สุดยอดมากๆเลยครับ

 

ขออนุญาตขอความรู้ด้วยครับ เหรียญรุ่นนี้ทันหลวงปู่ยีเสกหรือเปล่าครับ

 

ขออนุญาติตอบคำถามของคุณcharoen.bครับ
ไม่ทันครับ สร้างปี2549ในงานพิธีเททองหลวงพ่อยีองค์ขนาดใหญ่โดยมูลนิธิถาวรจิตตถาวโรครับ

 

สวัสดีครับ เนื่องจากผมเป็นนักเขียนหนังสือเกี่ยวกับพระอภิญญา ที่ผ่านมาท่านเจ้าคุณถาวรได้มอบหมายให้รวบรวมเรื่องหลวงพ่อยี ตอนนี้รวบรวมเอาไว้ยังไม่มีการพิมพ์ใดๆ ผมเห็นว่ากระทู้นี้มีประโยชน์จึงมีเรื่องหลวงพ่อยีที่น่านำมาแบ่งปันกันครับ

หลวงพ่อยี เป็นลุกบุญธรรมของหลวงปู่โลกอุดร เรื่องนี้ท่านเจ้าคุณถาวรยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง

ตอนที่หลวงพ่อยีพบหลวงปู่โลกอุดรนั้นเล่ากันว่าหลวงปู่โลกอุดรท่านนี้ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านท่านเป็นพระชราพอพ้นหมู่บ้านออกมาท่านอมปรอทสำเร็จ กลับกลายร่างเป็นพระหนุ่ม พาเด็กชายยีเข้าป่าลึกไปร่ำเรียนวิชากับท่าน

ตอนจะเรียนวิชาหลวงปู่ใหญ่ท่านโยนมีดโกนออกจากย่ามขณะนั้นมีเด็กสี่ห้าคนนั่งอยู่รวมทั้งเด็กชายยี หลวงปู่ใหญ่บอกว่าใครกล้าตัดจมูกมาถวายท่านท่านจะมอบวิชาให้ ปรากฏว่ามีเด็กชายยีคนเดียวเท่านั้นที่กล้าตัดจมูกถวาย เมื่อทำดังนั้นหลวงปู่ใหญ่ใช้มือลูบใบหน้าเด็กชายยีครั้งเดียวแผลกลับสมานกันไม่มีรอยเลือด มีแต่แผลเป็นบางๆปรากฏอยู่ ท่านรับเด็กชายยีฝึกวิชาแล้วส่งเด็กคนอื่นๆกลับถิ่นฐานบ้านช่องตามเดิม

ตอนเริ่มเรียนวิชานั้นหลวงพ่อยีท่านเล่าไว้ว่าท่านอยู่คนละฝากแม่น้ำกับหลวงปู่ใหญ่พอจะเดินไปหาหลวงปู่เท่านั้นน้ำแหวกออกเป็นสองข้าง น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง

บั้นปลายชีวิตหลวงปู่ยีถูกกลั่นแกล้งใส่ร้ายป้ายสีจากนักข่าว คนที่อิจฉาตลอดจนพระผู้ใหญ่บางท่าน จนมีพระบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราชให้หลวงพ่อโฮมไปพิศูจน์ความจริง

ตอนนี้เล่ากันว่าหลวงพ่อโอมไปวันแรกหลวงปู่ยีกราบหลวงพ่อโฮม วันสุดท้ายที่หลวงพ่อโฮมกลับ ท่านขอกราบหลวงปู่ยีแล้วมารายงานว่า ถ้าเทียบสมาธิระหว่างท่านอับหลวงปู่ยีแล้ว เปรียบได้ว่าหลวงปู่ยีเหมือนบุคคลที่จบการศึกษาแล้วส่วนตนเหมือนเด็กอนุบาล

ขณะที่หลวงพ่อโฮมพิศูจน์หลวงปู่ยีอย่างการบิณฑบาตรเทวดากับต้นไม้ หลวงพ่อโฮม จะเข้าสมาธิอยู่ในพระอุโบสถ ส่วนหลวงปู่ยีก็ออกเดินบิณฑบาตรกับต้นไม้ เปิดฝาบาตรหน้าต้นไม้ใหญ่ภายในวัดแล้วปิดท่ามกลางสานุศิษย์และผู้สังเกตการณ์จำนวนมาก ปรากฏว่าเมื่อเปิดฝาบาตรมาอีกครั้งจะมีข้าวทิพย์สีเหลืองอ่อนกลิ่นหอมอยู่เต็ม พอเดินกลับ ปรากฏว่าหลวงพ่อโฮมมาดักรออยู่แล้วถามว่าคนชุดขาวที่ใส่ข้าวให้คือใคร หลวงปู่ยียิ้มแต่ไม่ตอบเดินกลับกุฏิเฉยๆ

เป็นอันว่าทั้งสองท่านคือหลวงพ่อโฮมและหลวงปู่ยีท่านรู้กันเองภายในด้วยสมาธิ หลวงพ่อโฮมท่านได้สมาธิชั้นสูงแล้วส่วนหลวงพ่อยีท่านเป็นพระอภิญญา

ว่ากันพอหอมปากหอมคมแค่นี้ก่อนนะครับ ข้อมมูลผมก็ได้มาจากวัดปทุมวนารามนั่นแหละครับ ขออนุโมทนาที่ตั้งกระทู้นี้ด้วย

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผม หาต่อไป สักวันคงได้เจอ....

 

ขอโทษด้วยครับที่มาร่วมวงตอบช้า ใช่ครับเหรียญนี้ไม่ทันท่าน
เป็นกำลังใจให้ครับ สักวันต้องเจอของดีแน่นอนครับ

 

ขออนุโมทนาด้วยครับ ข้อมูลเยี่ยมเลยครับ

 

มีโอกาสไปกราบสังขารของหลวงปู่เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2555
ได้มีโอกาสนั่งสนทนากับลูกของหลวงปู่

หากใครมีโอกาสไป.. เมื่อไปถึงบ้าน หากเจ้าของบ้านไม่อยู่ ก็ให้รออยู่สักครู่นะครับ
เพราะเจ้าของบ้านอาจไปไร่ไปนา ที่บ้านเขาเลี้ยงหมาไว้ ถ้าได้ยินเสียงหมาเห่า(เห่าดังมาก) เขาจะรู้ว่ามีคนมากราบหลวงปู่