การสอนสัตว์ให้นิพพานได้ของท่านพุทธทาสเป็นเรื่องจริงค่ะ!

ดวงจิตเป็นสิ่งกลางๆ แต่ไปอยู่ร่างสัตว์อะไรก็ได้ทั้งสิ้น
เมื่อไปอยู่ร่างมนุษย์ ก็สอนได้มากที่สุดถึง " นิพพาน"
ที่เรียกว่า นิพพานแบบสิ้นเชื้อ (จำศัพท์เฉพาะไม่ได้)
หรือบางท่านได้นิพพานแบบยังมีเชื้อชีพดำรงอยู่


นั่นคือ นิพพาน 2 แบบ (จำศัพท์ไม่ได้)

แต่มีนิพพานอีกแบบ คือ "ตทังคนิพพาน" คือ ภาวะ
จิตว่างจากกิเลสทั้งมวลชั่วคราว เป็นนิพพานอีกแบบ
ดังนี้ คำว่า "นิพพาน" จริงๆ เวลาใช้ในความหมาย
ตามศัพท์ จึง ใช้ในความหมายว่า "สูญ"

เช่น กิเลสนิพพาน คือ กิเลสสูญหมด
ขันธปรินิพพาน คือ ขันธ์ห้าสูญโดยดับรอบ
เหลือแต่ดวงจิตอรหันต์ที่อยู่ตรงกลาง
(หากมีตาที่สามจะเห็นวิญญาณเป็นดวง
สำหรับผู้ที่ไปภพภูมิที่สูง และเห็นฟุ้งกระจาย
ในคนที่ไปภพภูมิต่ำ แต่คนที่ไม่ไปต่อภพภูมิได้
วิญญาณจะดับรอบ เหลือแต่ดวงจิตอรหันต์)

แต่สำหรับผู้ที่บรรลุธรรมถึงนิพพานแล้ว
เรามักไม่อธิบายต่อว่าไปไหน ไม่เรียกว่า
ไปนิพพาน เพราะนิพพานไม่ใช่ภพภูมิ
บางทีใช้คำว่าเข้านิพพาน คนที่เข้าใจ
ผิดคิดว่าเข้าเหมือนเข้าฌาณก็มี ส่วน
คนที่เข้าใจก็มี

นี่คือ ขีดจำกัดของคำศัพท์ เราจึงไม่นิยมอธิบาย
ภาวะของผู้บรรลุนิพพานสิ้นเชื้อ เพราะผู้นั้นจะใช้
คำว่า ผู้นั้นนิพพาน ก็งงอีกว่า อะไรของผู้นั้นที่นิพพาน?
คือ ทั้งตัวสูญเลยหรือ? หรือสูญส่วนไหนบ้าง?


เหตุที่ว่าสัตว์นิพพานชั่วคราว

เพราะดวงจิตทุกดวงมีภาวะ "อนิจจัง" บางครั้งเต็มด้วยกิเลส
บางครั้งก็ไม่มีกิเลสจร หายไปเฉยๆ ชั่วคราว (แต่มีอวิชชาอยู่)
เหมือนเมฆจรมาจรไปบังพระจันทร์ฉะนั้น


ดังนี้ สัตว์ย่อมมีภาวะจิตว่างจากกิเลสชั่วคราวได้
จึงเป็นที่มาของวลีที่ว่า สอนสัตว์ให้นิพพานได้

การสอนสัตว์ที่ไม่ใช่มนุษย์สอนได้จริงหรือ?

ตอบว่าสอนได้ เช่น สอนนาค, พรหมณ์, เทวดา ฯลฯ ไปจนถึง
สัตว์ที่มีสมองสูงๆ เช่น ลิง, แมว, สุนัข แต่หากจะสอนได้ขนาดนี้
ต้องมี "อภิญญาอ่านวาระจิตสัตว์" ซึ่งก็มีกันมากมาย

คนที่เลี้ยงสัตว์มักสื่อสารกับสัตว์โดยไม่ผ่านภาษา
คือคุยภาษากันไม่รู้เรื่อง แต่เข้าใจด้วยจิต แบบนี้มีมากมาย
ดาษดื่นและธรรมดามากๆ ชาวบ้านก็มี รู้ใจสัตว์ สัตว์รู้ใจเรา

ดังนี้ การลูบหัวสัตว์ ด้วยเมตตา สัตว์มีจิตสงบชั่วคราว
ก็ยังได้ "ตทังนิพพาน" ณ ตอนนั้นนั่นเอง


ดังนี้ คือ การสอนแบบท้าทายให้พิสูจน์ของท่านพุทธทาส
หน่อยไม่อยากอธิบายมาก เพราะอยากให้เป็นปริศนาไปพิสูจน์กันเอง
จะได้ "ปฏิบัติ" ไม่ใช่ฟังแล้วนั่งเฉย สุดท้ายเห็นปรามาสกันมาก
และเกิดฑิฐิดื้อรั้นไม่เชื่อฟัง ก็จำต้องอธิบายเพิ่มดังนี้ค่ะ


ท่านพุทธทาส สอนไม่ผิดนะคะ...

 

เด็กอยู่ในท้องแม่ แม่ลูบหัวเด็กที่อยู่ในท้อง
เด็กคิดอะไรก็ไม่รู้ แต่แม่คิดว่าเด็กไม่ได้คิดอะไร
ถ้าสรุปจากที่เล่ามา เด็กคนนั้น ก็ไปนิพพานแล้วสิครับ
แล้วทำไมพระพุทธเจ้า
ถึงต้องบำเพ็ญเพียร มากมาย กว่าที่พระองค์ถึงจะหลุดพ้นได้ละครับ

 

ภูมิความรู้ผมน้อยนัก ทำให้เข้าใจได้ยากยิ่ง

 

ไม่ทราบท่านมีจุดประสงค์ใดจึงมาบิดเบือนเบือนคำสอนของพระพุทธองค์ ผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบาน คำสอนของพระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว พระสงฆ์สาวกปฏิบัติดีแล้ว

 

เคยได้ยินแต่ ตทังคปหาน ตทังควิมุตติ วิขัมภนปหาน วิขัมภนวิมุตติ สมุจเฉทปหาน สมุจเฉทวิมุตติ นะ

ฝากลองพิจารณาโดยบัญญติด้วยครับ

 

หน่อยคงไม่ตกปลาให้ใครกิน ไปตกปลากินเองเถอะค่ะ


เสริชหาคำว่า "ตทังคนิพพาน" ดู
กัลยาณมิตรหลายๆ เว็บ คงให้คำอธิบายไว้


พอแล้วค่ะ หาเองเถอะ เหนื่อย...

 

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ

ไว้จะไปลูบหัวแมวที่บ้านเล่นเอาบุญ เผื่อมันจะได้ตทังคนิพพาน

แต่อ้าวววว...เหนื่อยซะแล้วหรอครับ "ความปรารถนาของผู้อื่นใดยังไม่บรรลุ" เลย ล้อเล่นนะครับ แฮ่ะ ๆ

 

ทำไม คุณถึงไม่ยกข้อความคำสอนของท่านพุทธทาสมาทั้งหมด
คนอ่านแล้วจะได้เข้าใจ ...


ทำไมคุณตั้งชื่อกระทู้แบบนี้

ท่านพุทธทาสน่ะ ครูบาอาจารย์สุดโปรดของดิฉันเลยนะคะ.. ถึงต้องเข้ามา

คุณจะอ้างบุคคลเบื้องสูง ครูบาอาจารย์
กรุณา ยกคำสอนของท่านเองทั้งหมดมาอธิบายเลย จะดีกว่า..
มันจะได้ไม่บิดเบือน คนอ่านจะได้รู้ว่า จริงๆ ท่านสอนอะไร..

นะ.. คนดี นะ
รู้อยู่นะ ว่าคุณมีเจตนาดี

 

คำสอนของท่านมุ่งให้คนปฏิบัติความดี แต่อาจมีบางส่วนที่ยังเข้าใจไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของท่าน แต่หากบังเอิญไปปรามาสพระพุทธเจ้าเข้าก็ซวยไป ยังมีพวกพุทธภูมิบารมีต้นที่มีทิฐิมั่นใจว่าตนเองเข้าใจคำสอนของพระพุทธองค์อย่างลึกซึ้ง แต่ไม่ถูก เป็นมิจฉาทิฐิ ก็ยังต้องตกนรกมีอีกมาก นั่นเป็นความเลวของเขา แต่ความดีของเขาคือ การมุ่งมั่นในพระโพธิญาณ แต่เมื่อผ่านการบำเพ็ญบารมีถึงระดับหนึ่งแล้ว จะมีความเข้าใจได้ตรงตามความเป็นจริง ไม่ต้องตกนรกอีก ที่พวกพุทธภูมิต้องตกนรก ก็เพราะว่า ต้องบำเพ็ญบารมี ให้รอบรู้ เมื่อถึงเวลาตรัสรู้ จะได้สอนเรื่องนรกได้อย่างตรงตามความเป็นจริง พุทธภูมิบารมีต้นที่เสี่ยงต่อการตกนรกเช่นเจ้าสำนักที่ในอดีตถูกยกย่องในเรื่องศีล และพระวัดดังที่บำเพ็ญเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย สำหรับพระพุทธทาสให้ท่านลองไปดูกันเอง ว่าตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหน

 

งง

 

มึน

 

เคยได้ยินพระ(ในเครือข่ายเดียวกัน)ที่วัดชลประทานฯเทศน์ในงานศพ(fightบังคับของวัดนี้)ว่า เอาม้าป่ามาเลี้ยงให้เชื่องก็เรียกว่าสอนม้าให้นิพพาน ผมว่าจาบจ้วงมากนะเอาของสุดสูงไปใช้กับสัตว์เดรัชฉาน

 

ท่านพุทธทาสรับรองศษย์ท่านหนึ่งเป็นแม่ชีที่บริจาคที่ให้ท่านน่ะฮะ
แม่ชีท่านนี้เก็บตัวพูดน้อย ไม่อวดตน ไม่ใช่แม่ชีสันสนีย์นะฮะ


แต่ลูกศิษย์คนอื่น ท่านพุทธทาสไม่ได้รับรอง นั่นหมายความว่า
อาจเทศน์ผิดไป เพราะอ่านพระธรรมเพียงผิวเปลือกไม่ลึกซึ้งนาฮะ

 

จขทก. ท่าทางชอบเที่ยวทะเล เลยออกไปทะเลหลายกระทู้ที่ผ่านมา ระวังจะหาฝั่งกลับไม่เจอ

แนะนำให้ไปดูคำว่า "เวไนยสัตว์" เสียก่อนว่ามีความหมายอย่างไร

หนทางของท่านยังอีกยาวไกล