กิจสำคัญกึ่งกลางพุทธกาลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธะทั้งสามพระองค์เป็นอย่างไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 23 ธันวาคม 2011.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เมื่อถึงกึ่งกลางพุทธกาล พระพุทธศาสนาจะหักกลาง
    พุทธะสามพระองค์รับผิดชอบในกิจที่แตกต่างกัน คือ


    1. พระพุทธเจ้าสมณโคดม รับผิดชอบนำสัตว์เข้านิพพาน ไม่มีกิจอื่น
    2. พระพุทธะจี้กง รับผิดชอบดูแลเรื่องภัยพิบัติและกรรมมวลมนุษย์
    3. พระพุทธะตั๊กม้อ รับผิดชอบดูแล "จิตญาณ" ของสัตว์ ฟื้นฟูให้
    กลับสู่ความเป็น "โพธิ" ไม่หลงโลก หลงทาง นำพระโพธิสัตว์ขับ
    เคลื่อนธรรมด้วย "ธรรมจักร" ในกึ่งกลางพุทธกาล


    บริวารของพระพุทธะทั้งสามพระองค์ ย่อมได้รับกิจทำหน้าที่ตามส่วน
    ตามกำลังบุญบารมีที่กระทำมาได้นั้น ไม่ก้าวก่ายหน้าที่กัน ไม่หลง
    ทางไปทางอื่น ผู้มีบุญบารมีสัมพันธ์กับพระพุทธะพระองค์ใด ขอจง
    รับกิจนั้นกระทำไป มุ่งหน้าตรงทางของตน ไม่เป็นอื่น กิจต่างๆ
    จะดำเนินไปด้วยดี
     
  2. Indesol

    Indesol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2011
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +30
    TT^TT สบสนในหน้าที่ ผิดไปแล้วค้า __/|\__
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    วิธีการตรวจสอบตัวเราว่ามีกิจใด ง่ายๆ


    พระพุทธะสามพระองค์จะทรงประสานธรรม
    หรือสื่อสารลงมาด้วยวิธีการต่างๆ อันอัศจรรย์
    ท่านสามารถรับหรือสัมผัสได้เมื่อวาระมาถึง
    เมื่อนั้น ท่านก็ตรงทางแห่งพุทธะองค์นั้นๆ ได้
    เช่น ถ้าท่านได้รับการสื่อสารจากพระสมณโคดม
    แสดงว่ากิจของท่านไม่มีอื่น นอกจากชำระกรรม
    ของตัวเองให้หมดแล้วตรงทางสู่นิพพานเสีย อนึ่ง
    ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยตาทิพย์หรือตาเนื้อ เช่น บาง
    คนถูกลากพาเข้าไปอนุตรธรรมสายพระพุทธะจี้กง
    ท่านจงเข้าใจว่าบุญกรรมนำพามา ก็ทำกิจอันควร
    ให้ตรงทางไป ไม่ต้องขัดขืนมาก กิจท่านจะราบรื่น


    บางท่านแม้พยายามบวชเข้าร่วมในพระพุทธศาสนา
    ก็ไม่สามารถทำได้ รอบตัวมีแต่คนเมา ได้รับการสื่อ
    จากพระพุทธะจี้กงก็มี นั่นคือ กิจของท่าน ก็ขอให้
    เดินตรงทางตามหน้าที่ของท่านไป อย่าได้สับสน
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้มีบุญสัมพันธ์กับพุทธะเพียงองค์เดียว


    เช่น ในอดีตชาติได้ร่วมสร้างบุญบารมีมากับพุทธะมากกว่าหนึ่งองค์
    ดังนั้น ท่านอาจมีกิจมากกว่า 1 กิจแต่จะมีกิจหลักเพียง 1 กิจ ซึ่งจะ
    ขึ้นอยู่กับความสามารถ, บุญบารมี และตัวท่านเป็นผู้เลือกเอง เช่น
    บางท่านอาจจะช่วยงานอนุตรธรรมสายพระจี้กง ถึงช่วงหนึ่ง อาจจะ
    เปลี่ยนไปบวชพระสายเถรวาท และตรงสู่นิพพานไป ก็มี เกิดขึ้นได้
    ไม่แน่นอน แต่จะมีจิตญาณหลักๆ ที่จำต้องเข้านิพพานใน 5,000 ปี
    จะมัวไปสนุกอยู่กับการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ ไม่ได้
    เพราะมีบริวารเกี่ยวเนื่องกันอีกมาก ที่รอเข้านิพพานพร้อมๆ กัน ด้วย
    กรรมเกี่ยวเนื่องกันมา หากผู้นำเข้านิพพานไม่ได้ บริวารจะไม่ได้ด้วย
    เช่น จิตญาณแม่กาเผือก หรือพระนางสิริมหามายา ผู้สำเร็จโสดาบัน
    แล้วบนสวรรค์ขณะพระพุทธเจ้าสมณโคดมทรงเสด็จไปโปรด เป็นต้น
     
  5. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับว่าเป็นบริวารขององค์พุทธะใด หรือว่า ถ้านับถือพระพุทธเจ้าสมณโคดม ก็เป็นบริวารของท่านเลยใช่หรือเปล่า
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    วิธีการตรวจสอบตัวเราว่ามีกิจใด ง่ายๆ


    พระพุทธะสามพระองค์จะทรงประสานธรรม
    หรือสื่อสารลงมาด้วยวิธีการต่างๆ อันอัศจรรย์
    ท่านสามารถรับหรือสัมผัสได้เมื่อวาระมาถึง
    เมื่อนั้น ท่านก็ตรงทางแห่งพุทธะองค์นั้นๆ ได้
    เช่น ถ้าท่านได้รับการสื่อสารจากพระสมณโคดม
    แสดงว่ากิจของท่านไม่มีอื่น นอกจากชำระกรรม
    ของตัวเองให้หมดแล้วตรงทางสู่นิพพานเสีย อนึ่ง
    ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยตาทิพย์หรือตาเนื้อ เช่น บาง
    คนถูกลากพาเข้าไปอนุตรธรรมสายพระพุทธะจี้กง
    ท่านจงเข้าใจว่าบุญกรรมนำพามา ก็ทำกิจอันควร
    ให้ตรงทางไป ไม่ต้องขัดขืนมาก กิจท่านจะราบรื่น


    บางท่านแม้พยายามบวชเข้าร่วมในพระพุทธศาสนา
    ก็ไม่สามารถทำได้ รอบตัวมีแต่คนเมา ได้รับการสื่อ
    จากพระพุทธะจี้กงก็มี นั่นคือ กิจของท่าน ก็ขอให้
    เดินตรงทางตามหน้าที่ของท่านไป อย่าได้สับสน<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. smerosd

    smerosd สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +21
    ศาสนาพุทธ มี ศาสดาองค์เดียวตลอดจนอายุศาสนาจะสิ้นคือ 5000ปี คือ พระพุทธเจ้าสมณโคดม เท่านั้นครับ รูปอื่นคือพุทธสาวกที่ช่วยอุปถัมถ์ค้ำชู ศาสนาให้อายุครบ 5000ปีครับ แล้วศาสนาก็มีแก่นคำสอนเดียวคือ ละกิเลส เข้าสู่พระนิพพานตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
    เรื่องภัยพิบัติเป็นเรื่องของกรรมของแต่ละคนที่จะได้พบเจอ

    "เหมือนต้นไม้ ไม่ว่าต้นไหนก็มีแก่นแท้เพียงแก่นเดียวเท่านั้น"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2011
  8. ultimatetruth

    ultimatetruth สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +0
    ถ้ารู้แล้วว่าหน้าที่คืออะไร แต่ยังติดวิบากกรรมอยู่ ยังมีวิบากกรรมพ่วงพัน หน่วงเหนี่ยว ทำให้ยังไม่สามารถทำหน้าที่ได้เต็มที่ แต่ก็เริ่มทำไปแล้วเกือบๆ 2 ปี จะต้องทำยังไงให้พ้นวิบากกรรม หรือต้องใช้วิบากให้หมดก่อน? จะมีตัวช่วยไหม? ถ้าทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์หรือล้มเหลวไปเสียก่อนจะเป็นอย่างไร? วานท่านวัชรธรช่วยชี้แนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2011
  9. เซียนถง

    เซียนถง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +126
    ไปศึกษาที่ไหนมา เอาข้อมูลมาปั่นแล้วรวมกันจนไม่รู้อะไรคือแก่นแท้ ท่าคุณลงมือปฏิบ้ติตามแนวทางเพื่อเจริญ ศิล สมาธิ และปัญญา ประกอบด้วยมรรคมีองค์ 8 แล้วละก็ คุณจะไม่มั่วไปศึกษาข้อมูลโน้นเอาข้อมูลนี้มารวมกันเพราะว่ามันตรงกับใจและคิดว่าคุณคิดถูกแล้วหรอกนะ สิ่งที่ได้มันเป็นสัญญาล้วนๆ ลงมือปฏิบ้ติเถอะครับแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่คุณไปอ่านๆมานะมันไม่มีความหมายสำหรับคุณเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านได้ปฏิบ้ติดีแล้ว บัญญัติแล้ว ประกาศแล้วนั่นละ คือทางที่ทำให้คนปฏิบ้ติสามารถรู้ได้ (เฉพาะตน) ไม่ใช่ว่าเอาของลัทธิโน้นลัทธินี้มาป่นกันแบบนี้ เลอะเทอะกันไปใหญ่ เป็นแค่ชาวพุทธแต่ในทะเบียนบ้านแต่ไม่รู้เลยว่า ธรรมที่เป็นผลจากการปฏิบ้ตินั่นเป็นอย่างไร เอวัง............
    อ้อลืมไปอีกอย่าง การจะไปนิพพานได้ ไม่ใช่ว่าหมดกรรมนะคุณ ชำระกรรมหมดแล้วถึงมีสิทธิเข้านิพพานได้ เป็นความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ เมื่อสมัยก่อนผมก็เคยอยากปฏิบ้ติธรรม เลยไปศึกษาข้อมุลมาแบบคุณนั่นละ และก็เข้าใจแบบคุณด้วย แต่รู้ไหมว่าถึงแม้จะเข้าใจอย่างนั้นภายในใจผมมันมีคำถามที่แย้งกับข้อมูลที่ได้มา แต่ก็ทำมาเรื่อยเพราะเห็นว่ามันไม่มีอะไรเสียหาย จนวันหนึ่งผมลองไปปฏิบ้ติธรรมที่วัดมา เดินจงกรม นั่งสมาธิ ที่แรกผมก่ะไป 3 วัน พอเอาเข้าจริงๆ อยู่ 15 วัน และผมก็ได้พบคำตอบ ที่หามานาน ผมบอกตัวเองเลยว่า ตลอดระยะเวลา 12 ปีแห่งการปฏิบ้ติ(กินเจทุกวัน) ของผม เทียบไม่ได้เลยกับการปฏิบ้ติตามกรรมฐาน แม้เพียง 1 นาทีก็เทียบไม่ติด พูดมาซ่ะยาว สรุปว่าคนเราจะนิพพานได้ไม่ใช่เพราะหมดกรรม แต่เพียงเพราะคุณหมดกิเลส หมดเชื้อแล้ว หมดโดยสิ้นเชิงต่างหาก นั่นละนิพพาน
    ผมยังจำได้ขึ้นใจกับคำสอนหลวงปู่มั่น ท่านได้กล่าวไว้ว่า คนเราติดดีแก้ยากกว่าติดชั่ว ติดชั่วมันยังรู้ว่าอันนี้ดีเหรอชั่วมันกลับใจได้ แต่ลองติดดีเข้าให้ คิดว่าดีแล้ว เลยไม่ยอมทำสิ่งที่ดีที่ประเสริฐยิ่งกว่า เพราะความถือตัวว่าตัวเองทำดี
    กิจในพระพุทธศาสนานั่น ถ้าเป็นอรหันต์แล้วก็ถือว่าหมดกิจ ทำไมถึงหมด เพราะกิเลสมันหมดไปแล้วไม่มีเหลือ ถ้าไม่ถึงอรหันต์ ถือว่ายังมีกิจอยู่คือทำตัวเองให้หมดจากกิเลส มีแค่นี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 ธันวาคม 2011
  10. smerosd

    smerosd สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +21


    เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
    เพราะ ปัจจุบันนี้ การตั้งลัทธิมี 2 ปัจจัยหลักคือ
    1.อยากให้คนอื่นได้เดินตามวิถีของตน เพราะคิดว่าตนปฎิบัติดีแล้ว ตนมีทางลัดไปสู่นิพพาน (ความจริงคำสอนพระพุทธเจ้าลัดที่สุดแล้วนะครับ)
    2.พวกหวังผลประโยชน์
     
  11. ultimatetruth

    ultimatetruth สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +0
    กิจแห่งองค์พุทธะและพระโพธิสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ยังมีอีกมากมายที่คนจำนวนมากไม่รู้ และไม่เข้าใจการโปรดสัตว์ของเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ก็อย่าเพิ่งโวยวายไปครับ

    ในยุคขององค์พุทธะพระองค์หนึ่งนั้น มีพระโพธิสัตว์มากมายลงมาช่วยงานกันเป็นทีม เพื่อให้การประกาศพระศาสนา หนักแน่นที่สุด กว้างขวางมากที่สุดเท่าที่บารมีแห่งองค์พุทธะพระองค์นั้นจะเอื้ออำนวย งานแบบนี้จะทำเพียงลำพังไม่ได้ครับ

    อัครสาวกทั้งหลายของพระุพุทธเจ้าในกัปป์เรา ก็ล้วนเป็นพระโพธิสัตว์กันเยอะนะครับอย่าประมาทไป
     
  12. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    กิจไหนเงินเดือนดีสุดครับ สวัสดิการ โบนัส มีมั้ย?

    แล้ว ที่กล่าวว่า "พระพุทธะสามพระองค์จะทรงประสานธรรม
    หรือสื่อสารลงมาด้วยวิธีการต่างๆ"

    จะสื่อสารยังไงครับ 3G ? facebook twitter socialnetwork ?????
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2011
  13. เซียนถง

    เซียนถง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +126
    ความปรารถนาในการเป็นพระโพธิสัตว์นั่นมีอยู่ทุกหมู่เหล่า และก็มีมากมายเหลือเกินที่เดินผิดทาง และก็มีถูกทาง แต่ผมไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นอะไร มีเพียงแต่การทำปัญญาตัวเองให้แจ้ง แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับการเกิดมาเป็นคนแล้ว เพราะถ้าปัญญายังมืดบอด ยังมีมิจฉาฑิฐิอยู่แล้วละก้อ นรกเป็นที่หวังแน่ๆ เกิดมาทันยุคที่มีพระรัตนะตรัยครบ นับว่าหายาก แล้วก็มิจฉาฑิฐิก็เยอะแยะไปหมดที่สอนดีมีเหตุผลแต่แฝงไปด้วยยาพิษ กรรมใครกรรมมัน กรรมดีก็พบเจอสิ่งที่ดีๆเพราะเคยปลูกฝังเหตุที่ดีๆไว้ กรรมชั่วเพราะปลูกเหตุแห่งความไม่ดีเอาไว้ ตัวของเรานั่นละทำตัวเองใช่คนอื่นมาทำ
    ผมไม่อยากออกตัวฟันธงว่า จขกท. ไปเข้าลัทธิไหน แต่บอกได้เลยผม ไปมาเรียบร้อยแล้วแล้วก็ใช้เวลา 12 ปีอย่างที่กล่าวมาในข้างต้นนั่นละ ตอนนี้สำหรับผมแล้ว พระรัตนะตรัยเท่านั่นที่เป็นสรณะอันประเสริฐ ไม่มีสิ่งไหนที่เป็นสรณะสูงยิ่งกว่าพระรัตนะตรัยนี้ไม่มีไม่ว่าโลกนี้เหรอโลกหน้า
    คุณ blackangel ผมชอบฟัง พระพุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน มากๆครับ ฟังบ่อยมากและก็ทำให้เรามีสติและมีกำลังในการปฏิบ้ติดีมากๆครับ โมทนาสาธุด้วย

    "ติดดีนี่แก้ยากกว่าติดชั่วเสียอีก"
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 ธันวาคม 2011
  14. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +215
    พระพุทธเจ้า กับ พระพุทธะ ของเจ้าของกระทู้นี่เหมือนกัน หรือต่างกันอย่างไรครับ
     
  15. โฮดี้๐๐

    โฮดี้๐๐ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +14
    เดี๋ยวนี้กระผมว่าคุณคุณลักษณะหนึ่งใน ทั้งแปดของปัทมสมภพดูแปลกๆไปนะขอรับ
     
  16. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    รบกวน ท่าน ช้วยทําให้เห็นเป็น รูปธรรมทางใจ หน่อยว่าสิ่งนั้น ทางนั้น วิธีนั้น เป็นทางที่เราต้องไปจริงๆ

    ถ้าทําได้ น้องก็ยินยอม พร้อมถวายจิต ของ น้องให้เจ้าค่ะ

    เเต่ถ้าทําไม่ได้ เเสดงไม่ได้ ก็ขอไปทางเก่าดีฟ่า อย่างน้อยก็ไม่ใช้ทาง เลี่ยงเมืองที่มี ซอกซอย เป็นเเสนล้านให้เลี้ยว ให้หลง

    เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
     
  17. dogteam555

    dogteam555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +13
    สัตว์โลกมีกรรมเป็นแดนเกิด

    มีกรรมเป็นตัวกำหนด

    ตัวเลือกมีมากมาย ที่ดีที่สุดมีเพียงหนึ่ง จงเลือกแล้วเดินไปให้สุด

    อย่าถอยหลังไป อันนี้ที อันนู้นที เลือกไว้แล้วหรือยัง

    .........
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    นี่ไม่ใช่ชาติสุดท้ายของบางท่าน
    การชำระกรรมจึงยังไม่เบาบางลงนัก


    ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ด้วยความไม่
    สมบูรณ์แบบนั้นเองที่สมบูรณ์อยู่ในตัวมันเองแล้ว
    ลองดูคนตาบอดบางคนสิ เขายังทำงานเลี้ยงชีพได้ ใช่ไหม
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ข้าพเจ้าไม่ใช่ผู้กำหนดทางของท่าน
    รูปธรรมชัดเจนเกินไป ก็ยึดติดรูปธรรมนั้นได้ครับ


    ชีวิตมีทางไปของมันเอง ธรรมชาตินั้นจะนำพาไป
    ไม่ฝืน ไม่ขืน ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่ติดบ่วงว่องแวะ
    ก็ลอยออกสู่ทะเลได้ ดุจขอนไม้ลอยในแม่น้ำที่
    ไม่ติดสองฟากฝั่ง ย่อมแจ้งแทงตลอดไปเอง
     
  20. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722


    ธรรมนั้นเป็นสรรพสิ่งอยู่แล้ว
    จริงหรือเท็จ, ถูกหรือผิด
    ดูตรงหรือบิดเบือน
    ล้วนธรรมทั้งสิ้น


    เพียงแต่เราแจ้งแทงตลอดหรือยัง?
     

แชร์หน้านี้

Loading...