ภัยพิบัติในอนาคตที่กำลังจะมา... ท่านลืมเรื่องสำคัญอะไรไปหรือไม่

เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ การเห็นสิ่งต่างๆในนิมิต ไม่สามารถเชื่อถือได้ ถ้าใครได้ปฎิบัติหรือเรียนสมาธิจากพระอาจาย์ต่างๆที่สอนสมาธิ ท่านจะเน้นยํ้าเสมอว่าไม่ควรยึดติดในนิมิต ไม่ควรนํามาเป็นสาระ เพราะนิมิตเหล่านั้นจะเป็นตัวกางกั้นไม่ให้จิตได้พัฒนาให้สูงขึ้นไปอีก
เคยได้ฟังธรรมจากพระอาจาย์ ท่านบอกว่าหลังจาก พระศรีอาริยเมตไตร บังเกิดขึ้นและหมดยุคของ พระศรีอาริยเมตไตร ตราบนั้นโลกก็จะถึงกาลอวสาร ก็จะนับกัปกันใหม่

 

สาธุจริงค่ะ นิมิตมีทั้งจริงและหลอกแต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราึถึงไหน เมื่อเรา้ข้ามพ้นจุดนั้นมาได้สักระยะแล้ว


ผู้ปฏิบัติบางคนพอถึงระดับหนึ่งเจอนิมิต ก็ใช้จิตตนเองอุปาทานปรุงแต่งต่างๆนานา จนคิดว่าตนเหนือกว่าคนอื่นก็มีทั้งๆที่เป็นสภาวะ "จิตหลอกจิต"


แม้ผู้เจอนิมิตจริงแต่หากไม่ปฏิบัติสม่ำเสมอ และฮึกเหิมในสิ่งที่ตนรู้ก็ไม่แปลกที่จะเสื่อมเป็นธรรมดา




ลองอ่านบทความด้านล่างจากครูบาอาจารย์ดูนะค่ะ แล้วพิจรณากับเรื่องราวภัยที่หลายๆท่านเตือนกันมา ดิฉันเชื่อว่าจะให้ประโยชน์กับท่านได้ไม่น้อยเลยทีเดียว




"นิมิต เมื่ออธิบายมาถึง ฌาน สมาธิ ภวังค์ ดังนี้แล้ว จำเป็นจะลืมเสียไม่ได้ซึ่งรสชาติอันอร่อย คือ นิมิต ซึ่งเกิดขึ้นในระยะของสิ่งเหล่านั้น ผู้เจริญพระกรรมฐานย่อมปรารถนาเป็นอย่างยิ่งแทบทุกคนก็ว่าได้ ความจริงนิมิตมิใช่ของจริงทีเดียวทั้งหมด นิมิตเป็นแต่นโยบาย(อุบายวิธี)ให้พิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริงก็มี ถ้าพิจารณานิมิตนั้นไม่ถูกก็เลยเขวไปก็มี ถ้าพิจารณาถูกก็ดี มีปัญญาเกิดขึ้น นิมิตที่เป็นของจริงคือนิมิตเป็นหมอดูไม่ต้องใช้วิพากษ์วิจารณ์อย่างนี้ก็มี นิมิตนั้นเมื่อจะเกิดก็เกิดเอง เป็นของแต่งเอาไม่ได้ ...........ฯลฯ."

หลวงปู่เทส เทสก์รังสี (ส่องทางสมถวิปัสสนา)​

 

เปนความในใจที่อยากจะพูดนานเเล้วครับ

ถ้ามีปุ่มไลค์ จะไลค์ให้สัก ร้อยครั้ง

 

อิทธิฤทธิ์แพ้บุญฤทธิ์

บุญฤทธิ์แพ้กรรม​

 

ขออนุโมทนา และ ขอบพระคุณ คุณcoolz เป็นอย่างยิ่ง...เห็นด้วยกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้นครับ

ตอนนี้คนเรา "จิตหลอกจิต"กันมากมายเหลือเกิน...เชื่อสังขารความคิดที่ผุดขึ้นมาว่าเป็นเรื่องจริงแล้วก็ปรุงแต่งกันไป...จนหลงลืมที่จะเจริญสติอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน

หากเรามีกรรมที่จะต้องมีอันเป็นไป...อย่างไรมันก็ต้องเป็น...หนีไม่พ้น

ถ้าไม่มีเหตุที่จะต้องมีอันเป็นไป...มันก็รอด

...อย่าไปหมกหมุ่นฟุ้งซ่านกับเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่มากเกินไป...แล้วหันมาสร้างที่พึ่งภายในกันให้มากๆดีกว่าครับ ^ ^

 

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ทาน ศิล ภาวนา นี่คือเกาะป้องกันภัยพิบัตครับ พยายามเร่งรัดตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมนะครับรวมทั้งกระผมด้วยครับ

 

ขออนุโมทนากับข้อธรรมะที่คุณ Coolz นำมาเผยแพร่ด้วยครับ
เป็นประโยชน์มากครับสำหรับชาวพุทธที่ตื่นกลัวภัยพิบัติที่เชื่อกันว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

 

โมทนาสาธุคะ การเกิดภัยพิบัติ สิ่งที่ควรเตรียมคือ เตรียมจิตของตัวเอง ให้มีสติ คะและต้องหมั่นให้ทาน รักษาศิล สวดมนต์ไหว้เจริญกรรมฐานภาวนา เจริญสติคะ เราต้องฝึกฝนคะคนส่วนมากทำอะไรไม่ค่อยมีสติ รู้หายใจแต่ไม่เคยดูลมหายใจ ถ้าเราไม่เตรียมจิต ของเรา เราขาดสติ จิตรับไม่ได้เตรียมอะไรไว้ก็ตาม มันก็ช่วยเราไม่ได้คะ บุญรักษาคะ

 

เราควรจะอยู่ในศีลธรรมเอาไว้ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องของอนาคตปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ครับ

 

ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้
ในการเตือนสติที่ดีและเป็นประโยชน์มาก

 

ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ และผู้เผยแพร่ความรู้ในการตอบกระทู้ครับ
ขอให้ทุกท่านจงเจริญในทางแห่งความหลุดพ้นทุกท่านเทอญ

 

ชอบจังครับ..รอคอย คำๆนี้มานานแล้ว "อิทธิฤทธิ์หรือจะสู้บุญฤทธิ์"

 

เป็นคำพูดที่ดีมากครับ ขอคราวะ สมัยพุทธการดูอย่างพระเทวทัตมีอิทธิฤทธิ์เเต่ก็ไม่สามารถนี่กฎเเห้งกรรมใด้จริงใหมครับ ที่ในใจมีเเต่คิดร้ายพระพุทธเจ้า

 

เห็นด้วยทุกประการ เราไม่ควรหายใจโดยทิ้งลมไปเปล่า ทุกลมหายใจเข้าลมหายใจออกควรมีสติ ระลึกรู้ ไม่ว่าภัยพิบัติจะมารูปไหน มีจิตตั้งมั่นดูเขาไปเหมือนเราอยู่ในโรงละคร โลกแสดงละครให้เราดู -ตายไม่กลัว กลัวเกิดมากกว่า สาธุ

 

ทำสมาธิภาวนา
เจริญสติ พัฒนาปัญญา
รู้สึกตัวบ่อยๆ
รู้เนื้่อรู้ตัวเสมอๆ
ทำปัจจุบันให้ดี
ทำทุกขณะให้เจริญ

 

อนุโมทนา สาธุ ๆ
ในบุญกุศลทุกอย่างด้วยครับ
นิพพานัง ปัจจโย โหตุ

 

อยากให้ไปอ่านในเว็บนี้ (clickตรงวิธีฝึกจิิตให้มีพลังเลย)

"วิธีฝึกจิตให้มีพลัง"
​

[FONT=&quot] โดยพระธรรมเจติยาจารย์ (พระอาจารย์วิริยังค์ สิรินฺธโร) วัดธรรมมงคล[/FONT]​

 

อนุโมทนา สาธุ ด้วยทุกประการ ค่ะ คุณ coolz

 

อนุโมทนากับข้อความดีๆครับ เป็นประโยชน์แก่ผู้รู้น้อยยิ่ง สาธุ