เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 20 พฤศจิกายน 2011.

  1. phimphan

    phimphan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +7
    หมดเวลาขายยาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รออ่านอยู่ค่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  2. ยัย fame

    ยัย fame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +104
    ยาหมดพอดี..............เก็บร้าน กลับบ้านนอนแล้ว.......
     
  3. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    [​IMG]Toplus99....มาแล้วววว....นะจ๊ะ

    ค่อยๆอ่าน ช้าๆค่อยๆเป็น ค่อยๆไป จะช่วยเสริมอรรถรสดีนัก...แล

    ขอขอบคุณ ที่หลายคนได้ติดตามเนื้อหามาจนถึง ช่วงนี้

    คำแนะนำก่อนอ่านเนื้อเรื่องตอนนี้..

    ขอให้ทุกท่าน เลื่อนลงไปเปิดไฟล์แนบ MP3 ด้านล่างนี้ก่อน มีให้เลือก3รส 3 อารมณ์เพื่อฟังประกอบการอ่านเพื่อให้ถึง..อารมณ์ที่ ซาบซึ้งกินใจ ประดุจดังเข้าไปอยู่ในหัวใจของหญิงผู้เป็นแม่ ในเนื้อเรื่อง..ทีเดียว...

    ไม่เชื่อลองดู..

    #เด็กสาวที่ถูกพรากดวงจิต
    ตอนย่อย...โอ้แก้วตาดวงใจของแม่

    วันนี้......ที่รอคอยด้วยหัวใจที่จดจ่อที่จะจุดประกาย ความหวังของการได้คืนกลับมาของสติสัมปชัญญะของอาหมวย ลูกสาวที่เป็นดุจแก้วตาดวงใจของพ่อแม่
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    “…..โอ้..อาหมวย ลูกจ๋า...ลูกรักของเตี่ย-ของมาม๊า /ความเจ็บป่วยของลูกมันทำให้พ่อกับแม่ ปวดร้าวทรมานหัวใจมาเนิ่นนาน เวลาปีกว่าแล้วที่ลูกเป็นเช่นนี้ เทียบได้กับทุกข์ของพ่อ-แม่ นานนับสิบปีทีเดียว....ลูกรู้มั๊ย..
    ขอให้ลูกรักจงรู้ไว้ว่า...ยามลูกยังเล็กทารก เมื่อลูกร้องไห้เสียงดัง ด้วย<O:p</O:pเจ็บป่วยไข้ หัวใจของทั้งพ่อและแม่ยังสุดแสนเจ็บยิ่งกว่าลูกรักเป็นร้อยเท่าพันเท่า..แต่ทุกวันนี้ลูกแทบจะไม่พูดไม่พูดคุยกับพ่อกับแม่เลย
    ......ทั้งเตี่ย ทั้งมาม๊า.ยอมเหนื่อย ยอมเสียเงินทองที่เฝ้าอดออมมานับแต่หนูยังไม่เกิดมาทุกหยาดเหงื่อ ทุกหยดน้ำตา ลำบากมาก็เพื่อหนู พ่อแม่ยอมเหน็ดเหนื่อยทุกอย่าง เพื่อการเล่าเรียน เพื่ออนาคตของหนู
    <O:p</O:p

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2011
  4. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    #ตอนย่อย..พญานาค ผู้ตกเป็นจำเลยสังคม><O:p></O:p>
    <O:p</O:p

    .........เมื่อทั้งพ่อ แม่ และบรรดากลุ่มญาติๆชุดใหญ่ของ อาหมวย ที่ได้เดินทางมาถึง จึงมุ่งสู่เข้าเขตปะรำ มณฑลพิธีใหญ่ ช่อฉัตรบายศรีมากมายหลายชั้น ให้ดูเลื่อมใสศรัทธาศักดิ์สิทธิ์มิใช่น้อย เข้าร่วมพิธีการแสดงมุทิตาระลึกกราบไหว้เหล่าครูบูรพาจารย์ทั้งในทางโลกและทางธรรมของท่านพระอาจารย์สำนักสงฆ์รูปนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    .........โดยทางคณะพราห์ม ผู้ประกอบพิธีการบวงสรวง หลังจากที่ได้รับมอบหมายงาน ให้จัดทำพิธีกรรม ได้แนะให้กลุ่มญาติๆที่มาให้นั่งลงที่ใต้ร่มเต็นท์ผ้าใบท่ามกลางอากาศที่ค่อนข้างปลอดโปร่ง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    การประกอบพิธีกรรมเพื่อทำการสู่ขอดวงจิตของสาวน้อยที่ชื่อ อาหมวยได้เริ่มขึ้นในช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 โมงของวันนั้น..นั่นเอง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ทั้งนี้ได้ กำหนดให้หนึ่งชายร่างทรงวัยกลางคน เป็นสื่อกลางประทับร่างขององค์พญานาคเพศผู้เมืองบาดาล<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    และอีกร่างทรงหญิงวัยกลางคนเช่นกันซึ่งเรียกกันว่าแม่แดง ผู้จะเป็นสื่อร่างทวยเทพชั้นผู้ใหญ่เพื่อเจรจาขอดวงจิตของ เด็กสาวกลับคืนสู่ร่างเดิมให้พ่อแม่ได้ชื่นใจ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    และทำการเชิญพานทองเหลืองใบใหญ่ด้านในมีเครื่องบริขารขันธ์5 (อันมีธูป เทียน ดอกไม้อย่างละ5 คู่) อันเป็นสัญลักษณ์แทนดวงจิตที่ ซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในการคุ้มครองรักษาของพญานาคเพศผู้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อพราห์มได้กล่าวอัญเชิญญาณของพญานาค ลงเข้าสู่ร่างทรงเรียบร้อยแล้ว<O:p</O:p
    ซึ่งที่พญานาคในร่างทรงนี้ได้กระทำคือ การโผเข้ากอดพานขันธ์5 ของอาหมวยเอาไว้แน่นแนบอกประหนึ่งดั่งสิ่งที่สุดรัก หวงแหนสุดชีวิต
    <O:p</O:p
    (ให้อ่านว่า แน่น-แนบ-อก ห้ามเป็นอย่างอื่น! เพราะจะะงงและเข้าใจยากนัก..แล)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาการดังกล่าว ดูแล้วอดทำให้หลายคนในเหตุการณ์นั้นอดที่จะเวทนาและอดหมั่นไส้ร่างทรงพญานาคไปด้วยไม่ได้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    จากนั้นทางพราห์มได้อ่านโองการ อัญเชิญดวงจิตญาณแห่งเทพดาชั้นผู้ใหญ่ เพื่อลงมาสถิตย์ยังร่างของแม่แดง<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    การเจรจา<O:p</O:p
    <O:p></O:p>
    “ #@^%$#)!%’’:: ?” เทพชั้นผู้ใหญ่ สวรรค์เบื้องบนเริ่มต้นเจรจาพาที
    <O:p></O:p>
    ....#%&0&#@@**%#” ฝ่ายพญานาคตอบกลับไป

    เข้าใจแล้วใช่มั๊ยครับ...
    แต่ผู้เขียนไม่เข้าใจเลยต้องฟังต่อ..<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    และเกิดการตอบโต้กันไปมาอยู่พักใหญ่ ดูแล้วเทพชั้นผู้ใหญ่คงต้องใช้ลีลาการต่อรองอย่างเหนือชั้นสุดๆ (ด้วยภาษาที่ทางมนุษย์ไม่เข้าใจเพราะเป็นภาษามิติแห่งโลกวิญญาณ)และด้วยบารมีที่ยิ่งใหญ่ เหนือกว่าเหล่าทวยเทพเทวดา ทั้งหลายให้เคารพและยำเกรงในบุญบารมีของท่าน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    จนในที่สุดและผลออกมาคือ....<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ..ใช่แล้วครับ!!...หลายท่านเดาถูก!!!<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p



    ผลคือ..........<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผลคือ........
    <O:p</O:p
    คือ........<O:p</O:p
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    คือ....


    คืออะไร...โปรดตามละครเรื่องนี้กันต่อไป....เร็วๆนี้เข้าฉายโรงเดิม<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  5. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    #ตอนย่อย..พญานาค ผู้ตกเป็นจำเลยสังคม ภาค2

    จนในที่สุดและผลออกมาคือ....<O:p</O:p
    <O:p> </O:p>
    ..ใช่แล้วครับ!!...หลายท่านเดาถูก!!!<O:p></O:p>
    <O:p</O:pผลคือ..........<O:p></O:p>
    <O:p</O:p
    พญานาคไม่ยอมคืนดวงจิตมอบให้แก่เทพผู้ใหญ่<O:p</O:p
    เพื่อนำกลับอย่างเด็ดขาด ด้วยเหตุผลประการทั้งปวง....<O:p</O:p
    <O:p> </O:p>
    มีอะไรหรือเปล่า?<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผลจากที่ พญานาคตอบรับกลับมาเช่นนั้น สร้างความกระอักกระอ่วนใจแก่เทพระดับสูงท่านนี้อย่างมาก (ช่าง..ไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจ กันบ้างเลย)ห้ามอ่าน เก-ระ-งอก,เก-รง-ใจ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พญานาคตนนี้ช่างดื้อดึงนัก...ครั้นว่าเราจะใช้กำลังอำนาจอิทธิฤทธิ์แห่งตน ข่มบังคับก็อาจตกเป็นขี้ปากแก่ชาวสวรรค์ทั้งหลายได้ เราจะมาเสียผู้ใหญ่เพราะเรื่องของเด็กๆมัน ซะเปล่าๆ
    <O:p</O:p
    อย่ากระนั้นเลย... เห็นทีเรา จำต้องจรจากกลับยังชั้นสวรรค์เทวาลัยของเราเสียดีกว่า อยู่นานไปก็รังแต่จะขายหน้าเสียเท่านั้น....ไปล่ะ..!!..อ้าว!!<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เทพญาณใหญ่ถอนญาณออกจากร่างทรงไปซะงั้น...<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ว๊า!หมดลุ้น....เลย กองเชียร์หลายคนบ่นอุบ

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ==================================<O:p</O:p

    เมื่อเหตุการณ์ออกมาในรูปนี้ เล่นเอากองเชียร์ทั้งหลายที่เฝ้าติดตามอยู่ขอบสนามเวทีจำนวนมากที่คอยติดตามลุ้นเรื่องราวนี้ ตลอดถึงบรรดาคนไทย เชื้อสายไทยมุงแท้ อีกนับร้อย...และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่ของ อาหมวยเกิดอาการเซ็งจัดขึ้นมาอย่างมาก <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    (โถ..นึกว่าแน่!....ถ้าไม่ติดเกรงใจว่าเป็นเทพใหญ่นะ..คงได้โห่กันมั่งล่ะงานนี้)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ดังนั้นแล้ว......ภาระกิจปัญหาหนักจึงตกมาที่ฝ่ายพราห์มพิธีอีกครั้ง เพราะเมื่อได้รับงานมาจากหลวงพ่อแล้ว ต้องปิดงานให้ได้….ต้องจบ ต้องจบ!
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ชะรอย..ต่อไปเห็นทีเราต้องจัดหนักซะแล้วงานนี้
    คนดูเยอะซะด้วย หากงานนี้ไม่สำเร็จ สำนักพราห์มของเรา เสี่ยงมากที่จะเสียกำลังมวลชนได้ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เราต้องอัญเชิญเทพฝ่ายเลิศอิทธิฤทธิ์ (หลังจากได้อัญเชิญฝ่ายบุญฤทธิ์มาก่อนหน้านี้)<O:p</O:p
    ลงมาช่วยพวกเราซะแล้ว เดี๋ยวรอ...อีกหน่อยเถอะน่า ...เดี๊ยะๆ!เดี๋ยวรู้สึก

    (คงคล้ายๆการให้ผู้ใหญ่บ้านใจดีมาคุยแล้วไม่จบ..ต้องเอานักเลงหมู่บ้านมาลุย!) นิสัยอ่ะนะ<O:p</O:p

    อันนี้อ่านข้อความออกมา โดยผู้บรรยายข้างสนามวิเคราะห์จากริมฝีปากของพราห์มที่ขยับขึ้นลงไปมา



    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  6. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    ไม่อยากบอกเลยว่าตรงใจน่ะ
    โชคดี โชคดี โชคดีคร๊าบบบบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ธันวาคม 2011
  7. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    #ตอนย่อย..พญานาค ผู้ตกเป็นจำเลยสังคม ภาค3


    ......ทีมฝ่าย พ่อพราห์ม-แม่พราห์มในคณะทำการกระซิบกระซาบกันมุบมิบๆต่อหน้าต่อตา องค์ร่างทรงองค์ญาณพญานาคหนุ่ม โดยเข้าใจว่าคงไม่ได้ยินที่พวกตนพูดกันแน่เชียว..!
    <O:p</O:p
    ฝ่ายองค์ญาณพญานาค ยังคงนั่งนิ่งสงบสงวนท่า ยิ้มกริ่มในที ในชัยชนะที่ตนเพิ่งมีต่อองค์ญาณเทพผู้ใหญ่ (ที่หน้าแตกเพล้ง!!..กลับสวรรค์ไปแล้ว)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อั๊วแน่...ป๊ะ...

    ผู้เขียนอ่านความคิดขององค์พญานาค(โดยเทียบกับนิสัยตัวเอง)เอาเอง ว่าน่าจะออกมาในรูปนี้เพราะได้อยู่ในเหตุการณ์ในขณะนั้นด้วย เนื่องจากตาดีเห็นการแอบสะแหยะยิ้ม มุมปากนิดๆขององค์พญานาคา ขณะที่ทุกคนเผลอมองไปที่อื่น!<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ฝ่ายพราห์มเมื่อเห็นการนี้แล้วจึงเชิญญาณเทพฝ่ายผู้เป็นใหญ่ทางฤทธิ์ลงมาประทับร่างทรงผ่านแม่แดงเช่นเดิม<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    การเจรจาผลออกมา...เหมือนเดิม คือไม่ยอม! ครับไม่ต้องเดาเสียเวลา!!..สรุปเลยล่ะกัน แต่ต้องขอบรรยายถึงบรรยากาศขณะนั้นซะนิดหนึ่ง..<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คืนดวงวิญญาณเขาคืนร่างมนุษย์เถอะ สงสารพ่อแม่เขาบ้าง เที่ยวได้ไหว้วอน สิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายจนร้อนไปทั้งสวรรค์ชั้นฟ้า กลายเป็นทอล์ออฟเดอะทาวน์ ไปหมดแล้วเจ้ารู้ไม๊!.."


    "มีอย่างที่ไหนเอาดวงจิตเขาลงไปไว้ใต้บาดาล แล้วปล่อยสังขารมนุษย์ให้แม่-พ่อเขา จนไม่มีเวลาทำมาหากินเป็นภาระทุกข์ใจ คอยเลี้ยงดูป้อนข้าวป้อนน้ำ...อยู่ไม่เต็มสติสตังค์อยู่นั่นแหละ ...ใครเค๊าเคย!!" (แหม..ท่านช่างรู้จักต่อว่าจริงๆ)


    "....เราเองก็ต้องเดือดร้อนมาช่วยหลวงพ่อ..ตามคำร้องขอ เพราะท่านเมตตาสงสารลูกหลานท่าน..
    เจ้าเองไม่คิดว่าข้าจะขายหน้า คนอื่นบ้างรึ? ไงๆ ก็คนเคยเห็นๆกันน่า...ไว้หน้ากันบ้างซี่.. น่า..นะ”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ข้าไม่สน..มันเป็นเรื่องของท่าน ท่านไม่รู้เรื่องอะไร!ก็อย่ามาแจมดีกว่า สิ่งนี้ข้ารักสุดหัวใจ..ขอให้เห็นใจข้าด้วย


    "นี่ข้าอุตส่าห์ขอร้องเจ้าดีๆแล้วนะ ข้ามันเทพใหญ่ติดอันดับต้นๆท็อปเท็นของสวรรค์เลยนะเว้ย..ทำอะไรไว้หน้ากันด้วย! (เขาไม่ยอมแล้วยังอยากคุยอวดอีก..เฮ้อ)


    " โอเคๆ ตกลงท่าน เห็นทีว่าข้าคงมอบดวงจิตนี้ไปให้มิได้..ดอก"

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ชะชะช่า !!เอ็งแน่มากนะ เจ้าตกลงแต่กลับไม่โอเค คุยกันดีๆแล้วยังไม่รู้เรื่อง..อยากลองดีนักใช่มั๊ย <O:p</O:p
    ...ก็ได้งั้น.ๆ....งั้นข้าไม่ยุ่งก็ได้.... อ้าว!!!(อีกแล้วเหรอ)


    <O:p</O:p
    เมื่อได้ยินเรื่องราวเช่นนี้....กองเชียร์ที่อยู่ใกล้ๆ...หลายคนทำท่าเหมือนจะหันหลังหนี หลายคนขยับปากเตรียมโห่...เพราะกลายเป็นการมวยล้ม ต้มคนดู..ซะงั้นเชียว

    อีกอย่างส่วนหนึ่งเพราะเก็บกด ผิดหวังมาจากในรอบแรกแล้ว กะว่าขอสักทีเถอะเทพองค์ใหญ่ ก็เทพใหญ่เถอะน่า...

    ตอนโห่นี้ คงโห่หลายคน ท่านไม่รู้หรอกน่าว่าใครมั่ง!!
    อาศัยจังหวะมั่วผสมโรง เพื่อความสะใจมันซะทีเถอะ...(ชักเริ่มไม่เกรงใจแล้ว)



    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่ช้าก่อน..นี้เป็นเพียงแผนหลอกล่อของท่านเทพฤทธิ์เท่านั้น อย่าเพิ่งหมิ่นประมาทท่าน<O:p</O:p
    <O:p
    เพิ่งมาสืบรู้ภายหลังถึงความหมาย ของคำว่า ตกลนี่คือหมายถึง ตกลงไปไว้เมืองบาดาลไง....ร้ายๆ
    </O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  8. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ...ตอนย่อย พญานาค ผู้ตกเป็นจำเลยสังคม

    ด้วยจริตวิสัยของเทพฝ่ายฤทธิ์ที่ไม่ชอบให้ใครขัดใจ แต่ด้วยเหลี่ยมเล่ห์ต้องมีกันบ้าง ทำเป็นยอมจำนนและอาศัยจังหวะที่พญานาคตนนี้ดูท่าว่าจะเผลอ ไม่ระวังกระโจนเข้าหมายแย่งชิงพานขันธ์5 จากร่างทรงพญานาคทันที...

    อ๊าว!!!... ปีพาทย์ กลองระนาด เชิดรัวๆๆๆ...

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ฉากการโรมรัน พันตูจึงเกิดขึ้นทันที

    ------------------------------------------------

    .....ด้วยว่าพญานาคเอง แม้เป็นฝ่ายเทพเดรัจฉานเมืองบาดาลเองก็ใช่ว่าจะด้อยในการอ่านเล่ห์เหลี่ยมกลยุทธของเทพชาวเมืองสวรรค์ เรียกได้ว่า อ่านเกมส์ขาดกระจุย ว่างั้น!

    และเฝ้าระวังภัยอยู่แล้ว จังหวะที่ท่านเทพฤทธิ์โผเข้ามา ได้พลิกกาย เอี้ยวตัวหลบ ปิดป้องไว้ได้ทัน ทำให้ผู้เข้าแย่งถึงกับจั่วลมเปล่า เสียหลักเกือบหัวทิ่มดินในครั้งแรก ผ่ายเทพฤทธิ์เมื่อตั้งหลักได้จึงโดดเข้าแย่งอีกครั้งด้วยวิสัยแห่งฤทธิ์กำลัง" <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    องค์นาคาเองก็มีหรือจะยอมง่ายๆ <O:p</O:p
    “ใจร้ายอ่ะ...ได้ไงมาแย่งของรักของเค๊า... สู้ตายสู้เต็มที่ล่ะวะเป็นไงเป็นกัน...สู้เว้ย!!”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    (ให้นึกถึงภาพกีฬาแชร์บอล..ตอนบอลลงพื้นแล้วนั่งแย่งลูกบอลกัน จะเป็นภาพประกอบที่ใกล้เคียงมากที่สุด....บรรยากาศวันนั้นเป็นอย่างงี้จริงๆครับท่าน)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    และแล้ว ผลการแย่งอุตลุต ผลที่ออกมาคือ...วัตถุธาตุทั้งหลายที่อยู่ใส่ไว้ในพานขันธ์ 5ขันธ์ เกิดกระฉอกออกมา หล่นกระจุยกระจายเต็มพื้นเสื่อปูนั่งในพิธี....<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลายคนเกิดอาการ เหวอ!ทันที การแย่งชิงสิ้นสุดลงแล้ว รู้ผลรู้ผลแพ้ชนะแล้วครับ..ท่าน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผลคือขวัญดวงจิตได้ย้อนกลับคืนที่เดิม เป็นขององค์พญานาคาหนุ่มเจ้าเก่า เจ้าเดิมอีกแล้วครับท่าน!
    <O:p</O:p
    ขอเสียงปรบมือมือดังๆให้พญานาคาด้วยครับ;ปรบมือ;ปรบมือ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ส่วนฝ่ายเทพฤทธิ์เองก็ถูกจับปรับแพ้ฟาล์วตามระเบียบ ทันที<O:p</O:p
    ... แพ้ไม่เป็นท่า!
    <O:p></O:p>
    ...ก็ของเดิมพานขันธ์5 ก็อยู่ในสภาพดีๆ แล้วดันไปทำของเขาเสียทำไมล่ะท่าน?
    <O:p</O:p
    ทางโลกวิญญาณ ให้ยึดกฎกติกาว่าการทำให้ พานขันธ์ของอีกฝ่ายเสียหายนั้น ดวงจิตวิญญาณที่เชิญมาแฝงอยู่ ให้มีสถานะคงอยู่ดังเดิม ...


    กฎกติกาแห่งโลกวิญญาณเป็นเช่นนี้นี่เอง...

    <O:p>--------------------------------------</O:p>
    <O:p</O:p
    <O:pเรื่องยังไม่จบครับ เรามาดูกันว่าพญานาคตนนี้</O:p
    <O:pจะได้รับบทเรียน...อย่างไรบ้าง?</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  9. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อ...ตอนย่อย พญานาค ผู้ตกเป็นจำเลยสังคม


    ฝ่ายพระภิกขาจารย์ หลวงพ่อผู้มีฌานบารมีแก่กล้า ได้เฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยญาณวิธี โดยใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลามานับแต่แรก


    เมื่อเห็นเหตุการณ์ว่านักมวยที่พราห์มเลือก ส่งเข้าชิงแช่มป์ทั้ง 2 รุ่น<O:p</O:p
    ทั้งเทพชั้นสูงและเทพฝ่ายอิทธิฤทธิ์ ต่างถูกสอยร่วงลงไปทั้ง2รุ่น<O:p</O:p
    ท่านเองก็เกรงว่า....ถ้าปล่อยให้เหตุการณ์ ยืดเยื้อออกไปเช่นนี้ <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาจสร้างความโกลาหลในสถานที่นี้ จะเป็นเหตุให้สังคมโลกติเตียน

    สร้างปัญหาภายหลังให้กับทางสำนักธรรมแห่งนี้ได้เพราะแต่ละคนที่มายังสถานที่แห่งนี้มีมากมาย และแต่ละคนก็มีภูมิธรรมที่แตกต่างกัน และพื้นฐานความเข้าใจในมิติที่เร้นลับนี้ ยากนัก...ที่จะอธิบายด้วยคำพูดเพียงสั้นๆ<O:p...

    "หากไม่มีพื้นฐานทางการปฏิบัติธรรมและศึกษาเรื่องฤทธานุภาพแห่งณาณอภิญญา
    ย่อมยากนัก แห่งอัตถาธิบาย"

    ยังคงใช้วิทยาศาสตร์ขั้นต่ำ ที่ตนคิดว่าสูงบวกดีกรีปริญญามหาลัยดัง มาคัดค้านกันวุ่นวายไปหมดอย่างแน่นอน
    <O:p<O:p</O:p
    จึงรีบเข้าไปในพิธีงานด้วยอาการสงบ สมควรแห่งสมณเพศ<O:p</O:p
    ท่านได้กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเข้ม เพื่อทำการตัดบทพิธีกรรมดังกล่าวนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ช่างมันปล่อยมันไป...ไม่ได้ช่างมัน...พอแล้วๆ จบเถอะ!!”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พญานาคา ท่านก็กลับเมืองของท่านไปได้แล้ว!.” <O:p</O:p
    (ขอของดี ของหวงเค๊าแล้ว เค๊าไม่ให้เลยไล่กลับบ้านซะ อะไรทำนองนั้น..หรือเปล่า?)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านเทพผู้มีฤทธิ์ เราขอขอบใจ..ท่านก็กลับเขตแดน
    ของท่านได้แล้วเช่นกันนะ.."

    "เออ!...เราเดี๋ยวจัดการเอง หลวงพ่อพูด
    ขณะนั้นผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ที่แอบเห็นหลวงพ่อชายตามองแบบเคืองๆมาที่จิตญาณของเทพอิทฤทธิ์ที่แฝงอยู่ในร่างทรงสังขาร ก่อนถอนหายใจแรงๆ..

    จากนั้นท่านจึงหันหลัง กลับเข้ากุฏิไปเหมือนครุ่นคิด..อะไรบางอย่าง....

    "เก่งนะท่าน!... แต่ใจร้อนไม่เข้าท่า...พางานใหญ่เสียหมด" ผู้เขียนคิดแทนให้หลวงพ่อแบบเอาใจ ดังคำของคม ของคนชอบสอพอ พูดว่า "หากรู้ประจบ จะพบความเจริญ?"


    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เอ๊ะ!!หลวงพ่อรูปนี้ ท่านกำลังคิดทำประการใดอยู่กันนะ...?<O:p</O:p

    -----------------------------------------------------
    ตัดภาพมาที่...หมอพราห์มอีกครั้ง
    <O:p</O:p
    เมื่อรับบัญชามาแล้ว จึงต้องทำการพิธีขอส่งญาณเทพทั้งสองฝ่ายกลับถิ่นนิวาสสถานเดิม ตามลำดับขั้นตอนของฝ่ายพราห์มบรรพบุรุษที่สืบสานกันมานานนับร้อยปี
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ทั้งฝ่ายองค์พญานาค ผู้เป็นใหญ่แห่งเมืองบาดาล <O:p</O:p
    (โดยก่อนถอนญาณออกจากร่างทรงผู้ชายคนดังกล่าว องค์พญานาคาได้แอบยักคิ้วข้างซ้าย แพล๊บๆ !!อย่างสบายอารมณ์ สมศักดิ์ศรีผู้ชนะ...
    ให้กับหัวหน้าหมอพราห์ม (ที่ไม่กล้าสบสายตา หันหน้าหนีอาย..ไปที่อื่น) ก่อนไป!!<O:p</O:p
    จังวะภาพนี้ผู้เขียน...แอบเห็นแต่เพียงผู้เดียว..เท่านั้น!!เพราะตาดีเหลือเกิน<O:p</O:p

    และฝ่ายเทพใหญ่ฝ่ายอิทธิฤทธิ์ผู้ปราชัยรายล่าสุด ก็ได้ถอนญาณออกจากร่างสังขาร คือแม่แดง ออกไปเช่นกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ( โดยก่อนนี้ก็มีอาการหน้าเจื่อนๆ ยิ้มฝืนๆอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ทำพลาดท่าเสียทีให้กับพญานาคต่อสาธาณชน...มาแบบหมดรูป )<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สำหรับภาพนี้...เห็นกันทั้งงานพยานเพียบ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    การกล่าวขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง<O:p</O:p
    ปิดท้ายรายการขอคืนดวงจิตของอาหมวย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p...จบลงด้วยความผิดหวังของพ่อแม่ ของอาหมวยอีกเช่นเคย...<O:p</O:p
    พร้อมกับร้องตะโกนก้องอยู่ในใจว่า
    <O:p</O:p
    ฮี่โร่ในโลกนี้...มีจริงมั๊ย?”

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ส่วน...อาหนูหมวย อี ก้อ ยัง เฉยๆ..ม่าย ล่าย รุ้เรื่อง...เหมือง..เลิมมาตั้งแต่ต้นเรื่องจนจะจบเรื่อง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ===================================

    แล้วหลวงพ่อท่านจะทำอย่างไรต่อไป...ขอให้ติดตาม

    ในตอนต่อไป...<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  10. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    เรื่องมันชักช้า ยืดยาดไง ฝ่ายอ่านก็เลยเบื่อๆ เซ็งๆ
     
  11. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    ฝ่ายคนอ่าน ........ ไม่ทันใจ เลย โห่ .................. ฮิ้ว.............
     
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ขอขอบคุณด้วยใจจริง

    ..ในน้ำใจทุกท่าน..แม้แต่เสียงโห่ ฮิ้วว.. ทุกๆเสียง...

    อีกเสียงสะท้อนในภายหลังคุณอาจจะเข้าใจดีขึ้นก็ได้ว่า..กำลังผมพยายาม สื่อสาร

    ถึงท่านด้วยเจตนาใดอยู่? ผมไม่ให้เสียเปล่าหรอก ครับ ขอเวลากันนิดหนึ่ง

    คงไม่เลวร้ายเกินไปหากจะขอเวลา...ให้การเดินทาง

    การที่เขียนทุกตัวอักษรอยู่นี้ ล้วนแต่ต้องใช้กำลังจิต กำลังใจด้วยตั้งใจสูงพอสมควร

    ว่าจะใช้วีธีการเดินเรื่องราวอย่างไร...

    คุณคนทีอ่าน... อ่านแล้วรู้สึกว่าเหนื่อย เพราะมีธุระหรือมีเหตุต้องทำ

    อันนี้ต้องขออภัยจริงๆ ที่คุณบังเอิญผ่านมาอ่านเข้า..เชิญท่านแวะพักที่อื่นได้

    ส่วนผมเองต้องเหนื่อยและใช้เวลาและความพยายาม มากกว่าท่านมากมายนัก....

    แต่ขอให้ท่าน ได้ให้โอกาสตัวเองและลองปล่อยวางดูบ้าง

    ลองให้เดินไปช้าๆ

    ค่อยๆเหลือบมองดู แม้แค่ ถังขยะ ดูดอกหญ้าแห้ง แม้กระทั้งแม่ค้าขายขนมที่อยู่

    ข้างๆทางดูบ้าง....

    อาจเห็นสิ่งเล็กๆที่คุณไม่เคยคิด ไม่เคยเห็น อีกมุมมองก็ได้

    เพราะท่านคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่มีแต่ความเร่งรีบ ให้ได้ดังใจตลอดเวลา

    จนอาจลืม..ลืมแม้แต่เรื่องง่ายๆบางอย่างที่อาจเป็นสิ่งใกล้ตัวคุณมากๆไปก็ได้

    บางครั้งเรื่องง่ายๆ..แม้แต่หนังสือธรรมะเล่มเล็กๆ..บางๆ ที่แนะนำสัจธรรมชีวิต

    ..คุณยังไม่คิดจะหยิบอ่านจับ

    เพราะคุณ....คิดว่าจะไม่มีเวลาให้กับมัน..ทั้งที่มันก็คือชีวิตของคุณเอง



    ขอบอกว่าผมทำแล้วไม่ได้เงินทอง หรือแสวงหาชื่อเสียงใดๆ

    หรือคิดที่จะไปออกหนังสือขายใดๆทั้งสิ้นครับ


    ต่อไปคุณอาจเข้าใจในสื่งที่ผมทำวันนี้ก็ได้...ว่าเจตนาผมเป็นไปโดยสุจริต ไม่มีเจตนาร้าย
    ต่อคนสุจริตธรรมแน่นอน...ครับท่าน


    เราเคยเตือนและบอกท่านแล้วว่าอย่า!! จริงจังจนเกินไป...
    อย่ารีบนัก...มันจะเครียด..มันจะเครียด

    ก็ไม่เชื่อ...!!



    จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

    Toplus99
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  13. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    #ตอนย่อย....มหาภัยร้ายที่ ยิ่งกว่าพิษของพญานาคา ที่สัตว์โลกควรหลบหนี


    หลวงพ่อแล้วเรื่องมันจบยังไง..ญาติโยมอาหมวย เลยต้องกลับบ้านมือเปล่าเหมือนเดิม เลยใช่เปล่าแล้วท่านไม่ช่วยอะไรเขาเพิ่มเลยเหรอ?”

    <O:p</O:p
    ..ใครบอกเอ็ง ว่าข้าไม่ลงมือทำอะไร คนอย่างข้านะ ฆ่าได้หยามไม่ได้เว้ย!<O:p</O:p
    เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าข้าไม่ยอมสำนวนดีครับน่าจดน่าจำ แต่ผู้เขียนคงไม่นำไปใช้แน่<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พ่อแม่เขา ทุกข์ใจและตั้งใจทำดีขนาดนั้นมีหรือ!ที่ข้าจะไม่ช่วย..”<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ฮ่าๆๆ นั่นไง! อย่าให้รุ่นใหญ่อย่างอาจารย์ข้าลงมือนะเฟ้ย!!รู้จักมั๊ย ฮีโร่ตัวจริง!! องค์นาคราชเอ๋ย แกเสร็จแน่!!<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ท่านทำไงครับ?”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    พอเสร็จพิธีนั้นได้ 2-3 วัน พอว่างจากคนที่มางานพิธี พ่อแม่อาหมวยมันพากันกลับไปแล้ว ข้าเองก็ข้องใจไอ้พญานาคตนนี้ ว่ามันจะมีปัญหาอะไรนักหนา ข้าก็เลยลงไปเจอไอ้องค์นาคราชมันในเมืองบาดาลใต้น้ำ...ด้วยตัวเอง
    ข้าก็ขอคืนดวงจิตไอ้หมวยมันกลับ..พูดดีก็แล้ว ขู่ก็แล้ว แต่มันก็ไม่ยอมให้ท่าเดี้ยว ข้าเลยลุยมันซะเลย!..นิสัยข้ามันใจร้อนมาแต่ไหนแต่ไร..เอ็งก็รู้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แล้วผลออกมาว่าไงท่าน
    ข้าก็เป็นหวัดตั้ง4-5วันไง
    <O:p</O:p
    ไม่ยอมตอบตรงๆ มีพิรุธ...นะนี่!มันเกี่ยวอะไรกับเป็นหวัด<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ก็ธาตุขันท์มนุษย์เดิมมันกำเนิดอยู่บนพื้นดินใช่มั๊ย พอเราลงไปในเมืองน้ำเมืองบาดาลนานๆเข้า ธาตุขันธ์ในพื้นมนุษย์มันจะเริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆ ยิ่งนานเท่าไรก็จะเป็นอันตรายต่อสังขารเดิมมากเท่านั้น เมื่อกลับคืนร่างเดิมไงอ้อ..พอเข้าใจหน่อยๆแล้ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลวงพ่อ! ท่านบอกผมมาตรงๆเลยดีกว่า ผลมันยังไง ใครชนะ?”ลูกศิษย์ก็ดันใจร้อนกว่า<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    มันก็เก่งเหมือนกันว่ะ..โดยเฉพาะเราลงไปชกบนเวทีในถิ่นเค๊า เขาก็ใช้ก็ฤทธิ์เดชได้เต็มที่ เต็มกำลัง ก็อายุมันบำเพ็ญ ตระบะะมากี่หมื่น กี่พันปีแล้วล่ะ เขาก็เก่งของเขาพอตัวแหละ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สรุปคือ?” ต้องปิดงานให้เร็ว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ไม่แพ้...ไม่ชนะนั่นไงว่าแล้วเชียว

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่..ข้าโดนตำหนิจากอาจารย์หลวงปู่ว่ะ

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ก็ข้าดันเข้าไปแส่เรื่องกรรมที่แก้ไขได้ยากของเขา โดยไม่ยอมตรวจดูบุพกรรมผูกพันของเค๊าทั้งคู่ให้ดีก่อน”<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ทั้งคู่ของใครท่าน? ผมไม่เห็นเข้าใจเลย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ผัว-เมียและลูกพญานาคเค๊างัยโอย...มึนงงไปกันใหญ่ แล้วลูกใคร?มาจากไหน?อีกเนี่ย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อาหมวย ตอนนี้ดวงจิตในสังขารรูปนาคีเมืองบาดาล มันตั้งท้องได้ 4เดือนแล้ว นับจากที่ดวงจิตมันลงไปเมืองบาดาล...

    อาหมวย มันเคยเป็นนาคีหรือนาคผู้หญิงของเมืองนี้ล่ะ มันเป็นคู่บารมีกันมา แล้วหนีมาเกิดที่เมืองมนุษย์ ด้วยเรื่องผัวๆเมียๆ เขานั่นแหละ
    <O:p</O:p
    “…นาคผู้ชายผัวมันก็เป็นระดับเจ้านครเหมือนกัน พญานาคกระจอกๆที่ไหนล่ะ<O:p</O:p
    มันออกตามหาของมันมานานแล้ว มันเจอเข้า เลยดึงกลับเข้าเมืองมันคืน...”<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ต้องตรวจดูด้วยญาณวิถีให้ละเอียด จึงจะรู้และเข้าใจ แต่ข้ามันดันใจร้อนซะก่อน..ก็เกือบเสียพระเสียคนไปเหมือนกันถ้าครูบาอาจารย์ท่านไม่มาเตือนซะก่อนนะ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ฮ๊า...อะไรนะครับ!! พญานาคมีเมียเด็กๆ เนี่ยนะ เจอข้อหาพรากผู้เยาว์เลยนะผมว่า !อาหมวยมันเพิ่งอายุแค่12-13 ปีเองนะหลวงพ่อ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แล้วที่เมืองบาดาล นั้นเค๊าไม่มี ตำรวจหรือสารวัตรพญานาคกันบ้างรึไงคิดไปตามประสาโง่
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ชอบพูดอะไรเป็นเล่นอยู่เรื่อย.....เอ็งอย่าไปเทียบกับเวลาในโลกมนุษย์เราซิ..มิติเวลามันต่างกัน
    <O:p</O:p

    <O:p</O:p
    ข้าดูแล้วตอนนี้ อาหมวย มันก็ยินยอมลงไปอยู่เมืองบาดาลกับเขาด้วยแหละ ทำไงได้มีท้องมีไส้กับเค๊าด้วยแล้วนี่นา..


    เอ็งเห็นบางอย่างมั๊ยว่า ภัยที่น่ากลัวนะข้าว่ามันไม่ใช่ พิษของพญานาคที่ว่ามีพิษร้ายแรงยิ่งกว่าสัตว์ทั้งปวงที่มนุษย์โลกหรือแม้แต่เหล่าทวยเทพผู้ใหญ่ที่ยังต้องเกรงกลัวเลย

    ...แต่มีพิษที่ น่ากลัวมากยิ่งกว่าพิษพญานาค คือพิษของ ตัณหาอุปทาน ที่ทำให้สัตว์โลกทั้งหลายหรือแม้ชาวทวยเทพผู้มากบารมีทั้งหลาย หรือพญานาคเองที่ว่ามีพิษร้ายแรงมาก และอาจทำฤทธิ์ดลบันดาลให้ น้ำท่วมโลกท่วมแผ่นดินได้ หากว่าลองหลงโดนพิษร้ายนี้เข้าไป ก็ต้องมาหลงติดค้างวนเวียนว่ายตายเกิดกัน เวียนภพเวียนชาติกันเป็นทุกข์ไม่สิ้นสุด เพราะหลงติดอยู่ในบ่วงตัณหา บ่วงกามราคะ เข้าร้อยรัดพันเกี่ยวให้ตกอยู่ใต้อำนาจแห่งพญามารนี่แหละ

    ลองหลงติด.. หลงโดนพิษ..นี่เข้าไปแล้วแม้แต่ พ่อแม่ผู้มีพระคุณล้นฟ้ามหาสมุทรยังห้ามปรามไว้ไม่อยู่
    ..หรือเพื่อนที่เคยรักใคร่กันนักหนา เพราะตักเตือนด้วยความหวังดี ยังต้องทะเลาะเลิกคบหากันไปไม่รู้เท่าไรเพราะเรื่องนี้ เอ็งว่าจริงมั๊ย
    ต้องคอยเป็นทุกข์คอยห่วงหวง ทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิงกัน บ้างครั้นได้มาแล้วก็ทอดทิ้ง
    เพราะเบื่อหน่ายกัน ก็นอกใจหาใหม่ร่ำไป เป็นทุกข์กับคนโน่น คนนั้น ไปไม่สิ้นสุด
    เห็นมั้ยข้าว่าพิษที่กลัวกว่าพิษทั้งปวงเนี่ย คือพิษตัว ตัณหาอุปทาน นี้แหละ
    เอ็งก็รีบๆหนีภัยนี้ให้ได้นะ เกิดมาเป็นมนุย์อย่าให้สูญเปล่า แม้แต่เทพ พรหมที่ยิ่งใหญ่
    หรือพญานาคที่มีฤทธิ์เดชเกรียงไกร

    เมื่อจะหลุดพ้นจากทุกข์จากพิษร้ายนี้ยังต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์นี้เท่านั้นจึงจะมีสังขารพร้อม
    เพื่อการพิจารณา ขันธ์5 เป็นบันไดไต่เข้าสู่นิพพาน ด้วยธรรมะที่พระพุทธเจ้าค้นพบนี้ล่ะ

    หลวงพ่อได้ให้คติธรรม เพื่อนำไปพิจารณาถึงสัจธรรม...ใกล้ตัว

    ========================
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    “แล้วพ่อแม่ อาหมวย ทำอย่าไงล่ะครับที่นี้”<O:p</O:p

    <O:p</O:p

    เอ็งเชื่อมั๊ยว่า เขาทั้งคู่เองต่างก็เคยมีกรรมหนักที่ต้องชดใช้ ต้องรับความทุกข์ที่ต้องมาจากลูกอยู่ดี ถึงไม่เกิดเรื่องนี้ เขาก็ต้องได้รับทุกข์ จากลูกคนอื่นๆที่จะมาเกิดแทนอยู่ดีนั่นล่ะ”<O:p</O:p

    เอ...เรื่องนี้ถ้าจะว่าไปแล้ว องค์พญานาคาแห่งเมืองบาดาล ที่ออกตามเมีย ฉุดเมียตัวเองที่อาจจะหนีไปที่อื่นเพราะเหตุไม่เข้าใจอะไรกันบ้าง ให้กลับบ้านให้มาอยู่ด้วยกันเหมือนเก่า ก็เพราะรักเพราะห่วงจนตอนหลังมีลูกด้วยกัน ..

    ที่จริงพญานาคตนนี้... แกก็ไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายจนเกินไปเน๊อะ...ท่านว่ามั๊ย ไงๆก็อยู่กันดีๆ
    อย่าทะเลาะกัน ก็แล้วกันล่ะ?
    <O:p</O:p

    ..........อย่างงี้ก็มีด้วยแฮะ ไม่ว่าเมืองมนุษย์ เมืองบาดาลใต้พื้นพิภพ เมืองเทพสวรรค์ ทั้งหลายนี่ มันก็ยังยุ่งไม่เลิก ไม่จบไม่สิ้น...น่าเบื่อ น่าเบื่อจริงๆ


    จบ.. ครับ..จบ
    จบแล้ว..เรื่องนี้

    ไป..ล่ะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  14. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    อ๊าว!...ตัวละครที่มาร่วมแสดงแต่ละตน....ให้มารับค่าตัวได้แล้วครับ
    แต่ละตัวเราจะจ่ายไม่เท่ากันนะครับ!!ตามบทบาท ตามความยากง่ายของตัวละคร

    บท...ป๊ะกับม๊ะ รับไปคนละ 3,000
    ร่างทรงเทพผู้ใหญ่ รับไป 2,000
    ร่างทรงเทพฤทธิ์ รับไป 2,500
    ชาวคณะพราห์ม รับไปคนละ 1,200
    ชาวบ้านไทยมุง รับไปคนละ 300
    ส่วนบท พญานาค พระเอกของเรื่อง รับบทหนักหน่อย.. 4,000

    ส่วน อาหมวย รับไป 1,000
    ทำไมได้น้อยจัง!?ไม่ต้อง งง!
    เพราะบทง่าย แสดงน้อย แค่นั่งนิ่งๆทำตาลอยๆอย่างเดียว

    ส่วนหลวงพ่อเจ้าสำนักสงฆ์ ท่านได้อนุญาตยอมให้ใช้สถานที่เพื่อประกอบการแสดงตลอดเรื่อง และร่วมแสดงนำ
    พร้อมแสดงเทศนาไปในตัวโดยไม่ต้องอ่านสคริป
    ....ท่านไม่ขอรับค่าตัว แต่ขอเปลี่ยนให้เป็นทอดผ้าป่า-กฐิน มาแทนเพราะกำลังสร้างห้องน้ำให้ญาติโยมแก่คณะญาติธรรม ที่มาได้ใช้โดยสะดวก ขออนุโทนาบุญ


    ส่วนผู้เขียนต้องจ่ายเงินค่าตัวนักแสดงทุกคน
    ก็โดนบ่นบ้าง ชมบ้าง อะไรบ้างแต่ไม่ท้อ...
    ยังคงด้านหน้าลุยต่อ....ไม่ท้อ แม้ถูกหยัน!!ยังรักษาปณิธานเดิมด้วยดี
    ...เก่งสุดๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  15. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004

    ถ้าท่านไม่ว่าง...หรือมีธุระรีบด่วน..ก็ขอเชิญครับ...({)
     
  16. tawan13

    tawan13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,263
    ค่าพลัง:
    +4,303
    ใครจะว่า ใครจะอย่างไรก็ช่างเขา
    ผมได้ไปอ่านหนังสือเรื่องจริงอิงนิทาน เล่ม 1 บทที่ 47 เรื่องหลวงพ่อขี้งัว ผมไม่Copy มาลงล่ะ ผมไปโหลดมาอ่าน

    ที่เขียนเนี่ยเกี่ยวไม่เกี่ยวไม่รู้ ผมมาป่วนกระทู้ท่าน toplus99 เฉยๆ ผมชอบอ่านนะได้อะไรเยอะดี ตัดกระพี้ออกไป ผมใช้คำว่า _/\_ ขอบคุณครับ

    ถ้าผมป่วนไร้สาระ ก็อ่านข้ามๆไปนะครับ ช่วงนี้ผมปวดหัว มึนหัวตื้บๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  17. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ขอกล่าว....กราบขอขมา...ขอได้อโหสิกรรมต่อข้าพเจ้า ที่อาจมีแก่บรรดาพ่อ-แม่ ญาติมิตรและตัวอาหมวย (นามสมมติ)ที่อาจมีโอกาสได้รับทราบ หรือรับรู้ในเนื้อหาการเผยแพร่บทความครั้งนี้ ในลักษณะนี้ โดยที่มิได้ทำการขออนุญาตเสียก่อน

    ทั้งนี้การเล่าสู่เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์จริงเกิดขึ้นครั้งนี้

    กระทำไปโดย ความมุ่งหวัง เพื่อยกเป็นคติธรรมน้อมนำมาพิจารณา แก่สาธารณชนทั้งหลาย

    มิได้มุ่งหวัง หรือเจตนาที่จะหลบหลู่ ดูหมิ่นเกียรติ ทุกท่านด้วยประการทั้งปวง

    จึงขอกล่าวคำขออโหสิกรรมแด่ ทุกดวงจิตดวงวิญญาณที่เกี่ยวข้องทุกท่าน

    มา ณ โอกาสนี้

    Toplus99
     
  18. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004

    ขอบคุณ คร๊าบ ขอบคณหลายๆ....ไม่ถือว่าป่วนหรอกครับ

    เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน...:cool:
     
  19. ตั่วเฮีย

    ตั่วเฮีย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +259
    แรกๆก็โอ หลังๆเริ่มเยอะ ... เลยทำให้ข้อมูลแรกๆเสียน้ำหนักไปเลย...
     
  20. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ตัณหา คือ อะไร ?

    ตัณหา แปลว่า ความอยาก อันได้แก่ ความอยากในอารมณ์ ๖ อย่าง

    ๑. รูปตัณหา ความอยากเห็นรูป

    ๒. สัททตัณหา ความอยากฟังเสียง

    ๓. คันธตัณหา ความอยากดมกลิ่น

    ๔. รสตัณหา ความอยากลิ้มรส

    ๕. โผฏฐัพพตัณหา ความอยากสัมผัสกับสิ่งสัมผัส

    ๖. ธัมมตัณหา ความอยากได้ธัมมารมณ์

    ตัณหาทั้ง ๖ อย่างนี้ เมื่อว่าโดยอาการ มี ๓ คือ กามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา

    ๑. กามตัณหา คือ ความอยากในกาม ได้แก่ อารมณ์ที่น่าใคร่และน่าติดใจ

    ๒. ภวตัณหา คือ ความอยากในอารมณ์ที่น่าใคร่ โดยประกอบไปด้วยภวทิฏฐิ หรือสัสสตทิฏฐิ อันได้แก่ ความอยากของคนที่เป็นสัสสตทิฏฐิ คือ เห็นว่าอารมณ์ หรือ คนและโลกนี้เป็นของเที่ยง เป็นของยั่งยืนเสมอไป

    ๓. วิภวตัณหา คือ ความอยากในอารมณ์ที่น่าใคร่ โดยประกอบด้วยอุจเฉททิฏฐิ ที่เห็นว่า อารมณ์ของตน และโลกเป็นของสูญหมด

    อีกนัยหนึ่ง กามตัณหา คือ ความอยากในกามธาตุ หรือกามภพ ภวตัณหา คือ ความอยากในรูป ธาตุ อรูปธาตุ หรือ รูปภพ, อรูปภพ วิภวตัณหา คือ ความอยากโดยปฏิเสธภพทั้ง ๓

    อีกนัยหนึ่ง ซึ่งกล่าวโดยเกจิวาทะ ได้แก่ กามตัณหา ความอยากในกามธาตุ หรือ กามภพ, รูปตัณหา ความอยากในรูปธาตุ หรือรูปภพ อรูปตัณหา ความอยากในอรูปธาตุ หรือ อรูปภพ และความปฏิเสธในกามภพ รูปภพ อรูปภพ ประกอบด้วยอุจเฉททิฏฐิ เรียกว่า นิโรธตัณหา (ความอยากที่ประกอบด้วยอุจเฉททิฏฐิ)

    ตัณหาเมื่อว่าโดยพิสดาร ตัณหามีถึง ๑๐๘ ได้แก่ ตัณหา ๖ อย่างนั้น (โดยอารมณ์) เมื่อว่าโดยอาการมี ๓ คือ กามตัณหา ภวตัณหา และวิภวตัณหา จึงเป็น ๑๘ ( ๖ x ๓ = ๑๘) เป็นตัณหาภายใน ๑๘ ตัณหาภายนอก ๑๘ จึงเป็น ๓๖ (๑๘ x ๒ = ๓๖) เป็นอดีต ๓๖ ปัจจุบัน ๓๖ อนาคต ๓๖ จึงเป็นตัณหา ๑๐๘ (๓๖ x ๓ = ๑๐๘)

    ตัณหาว่าโดยองค์ธรรม ได้แก่ [B]โลภเจตสิก[/B] ซึ่งมีลักษณะเป็นเหตุแห่งทุกข์ มีหน้าที่ทำให้เพลิดเพลินในอารมณ์ มีความไม่รู้จักอิ่มเป็นผล มีเวทนาเป็นเหตุใกล้ให้เกิด

    [COLOR=#0000ff]ถ้าไม่มีเวทนา ตัณหาก็มีไม่ได้ เช่น สุขเวทนา ทำให้เกิดตัณหา เพราะผู้มีสุขจึงต้องการสุขยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกัน ทุกขเวทนาทำให้เกิดตัณหา เพราะผู้มีทุกข์จึงต้องการแสวงสุข บำบัดทุกข์ อุเบกขาเป็นความสงบภายใน คนจึงเข้าใจว่าเป็นสุข จึงต้องการสุขยิ่งๆ ขึ้นไป และตัณหานี้เองก็เป็นปัจจัยต่อให้[B]อุปาทาน[/B] [/COLOR]

    ********

    [COLOR=red]เห็นมั๊ยล่ะ...เห็นมั๊ย!!![/COLOR]
    ให้หลายคนมานั่งอ่าน....คงไม่อ่าน ก็อ้างว่าเสียเวลา! ไม่สนุก! ไม่เข้าใจ!
    มันเป็นเรื่องของพระของเจ้าท่าน
    อ่านเอาไปสอบ เป็นข้อสอบนักธรรมเท่านั้น
    มีกี่คนที่จะสนใจค้นคว้า..ว่าพระพุทธเจ้าตรัส สอนว่าอย่างไร..ใช่/ไม่ใช่

    งั้นมาฟังนิยาย รั่วๆบ้าๆเพลินกว่ามั๊ง..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...