กำลังใจแด่ "คนดี" ทุกคนครับ

แสงเทียน แม้จะไม่สว่างเท่าแสงอาทิตย์ แต่แสงเทียนมีคุณค่าเสมอในคืนที่มืดบอด ในใจที่มืดบอด​

กำลังใจแด่ "คนดี" ทุกคนครับ

ครั้งหนึ่ง ดร.โชติชัย (อ.ผม) เคยถามผมว่า ผมเคยสงสัยหรือเปล่าว่า คนดีจริง ๆ มีมากแค่ไหน คนเลวจริง ๆ มีมากแค่ไหน และการที่ "คนดีถูกชักจูงไปทำไม่ดี" มีมากกว่า "คนไม่ดีที่ถูกชักจูงมาทำดี" แต่ทำไมสังคมยังอยู่ได้และไม่วุ่นวาย ทั้ง ๆ ที่คน "สีเทา" หรือ "สีดำ" มีอยู่เป็นจำนวนมาก และตามทำร้ายหรือชักจูง "คนดี" ให้เป็นพวกตน

ดร.โชติชัย (อ.ผม) เฉลยให้ผมฟังว่า ก็เพราะว่า "คนดี" แม้จะมีไม่มาก แต่คนดีเก่งขึ้นทุกวันจนสามารถจัดการกับคนไม่ดีและสร้างสมดุลในสังคมได้ คนดีเพียง 1 คน สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ อย่างได้

ตอนแรกผมไม่เชื่อ แต่พอนึกถึง " พระพุทธเจ้า" และ "ในหลวง" ผมก็ยอมรับว่า คนเพียง 1 คน สามารถสร้างสังคมที่ดีได้จริง ๆ โดยเฉพาะ อ.โชติ ได้ให้อะไรกับชีวิตผมมาก

ผมเชื่อโดยสนิทใจที่ "ในหลวง" รับสังไว้ว่า "เราไม่สามารถทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ แต่เราสามารถทำให้คนดีมาปกครองคนไม่ดีได้"

ดังนั้นผมขอให้กำลังใจทุกคนที่ตั้งใจ "ทำดี" ครับ แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ขอให้ "ภูมิใจ" ในความดีที่เราทำ

แม้คนอื่นไม่รู้ ไม่เห็น แต่ตัวเรารู้ เราเห็น
แม้เราไม่รู้ ไม่เห็น แต่เทวดารู้ เทวดาเห็น
แม้เทวดาไม่รู้ ไม่เห็น แต่พระพุทธเจ้าเห็น

อย่าไปคิดว่า "ทำดีแล้วทำไมไม่ได้ดี" แต่จงศรัทธาในความดีของตน และมั่นใจว่า ต้องมีใครสักคนได้รับความดีที่เราทำ พระอาจารย์เล็กเคยสอนไว้ว่า "ทำดีอย่าติดดี แต่จงทำดีเพราะอยากทำดี"

ดังนั้นจงมั่นใจในการทำดีของตนครับ "คนดี" ก็เปรียบเสมือนแสงเทียนเล่มเล็ก ๆ ที่ส่องอยู่กลางแดดครับ จริงอยู่ที่ในตอนกลางวัน คนส่วนใหญ่อาจไม่เห็นคุณค่าของ "แสงเทียน" แต่ในยามค่ำคืน "แสงเทียนจากเทียนเล่มเล็ก" สามารถส่องสว่างและสร้างความอบอุ่นได้ ดังนั้นทำไปเถอะครับ สิ่งดี ๆ ทำไปทีละนิด และอย่าไปหวังว่า เราจะได้สิ่งใดตอบแทนกลับมา "นอกจากความดีที่เราทำครับ"

การเป็น "คนรักที่ดี" ก็เช่นกันครับ หากเราจะรักใครสักคน จงมอบสิ่งดี ๆ ให้แก่อีกฝ่ายครับ ถ้าเรารักเขาจริง เราย่อมปรารถนาที่จะเห็นเขามีความสุข หากวันหนึ่งเขาเลือกที่จะมีความสุขกับคนที่เขารัก เราก็ควรยินดีกับเขาเช่นกัน เพราะความสุขของเขา คือ สิ่งที่เราปรารถนา

ดังนั้น ไม่ว่าจะในสถานะใดก็ตาม ขอให้ทุกท่านเชื่อว่า "คนดี" จะมีทียืนอยู่ในสังคมแน่นอน แม้บางคนจะหาว่า "คนดี" บ้าหรือโง่ก็ตาม แต่ขอให้รู้ว่า "คนดี" ไม่มีวันที่จะทำร้ายใคร ยกเว้นเพียงแต่ว่า "คนดีทำร้ายตนเอง ด้วยใจของตนเอง"

เป็นกำลังใจให้คนดีทุกคนครับ อย่าท้อที่จะทำความดี...แม้ว่าจะไม่มีใครเห็น "คุณค่า" ของเราก็ตาม ขอให้ทำไปเรื่อย ๆ ทำทุกลมหายใจเข้าออกของเรา ทำไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของเราจะ...หมดลง ขอให้เกาะความดีนั้นไว้

ถ้าเหนื่อยหรือท้อใจก็แวะมาเจอกันที่เว็บพลังจิตได้ครับ

หากเห็นว่ามีประโยชน์ต่อคนที่ท่านรัก ผมอนุญาตให้แชร์ได้โดยไม่ต้องขอครับ

เขียนโดย Komodo ทีมงานเว็บพลังจิต

 

อ่านข่าวคุณตัน อิชิตัน แล้วใจหายครับ

“ตัน อิชิตัน” ลั่นไม่ยอมแพ้ สูญพันล้านนับหนึ่งใหม่ยังไม่สาย

“ตัน ภาสกรนที” กำลังใจเกินร้อย น้ำท่วมโรงงานวอดหลายพันล้าน แต่ยังฮึดสู้ บอกอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่เกิดประโยชน์หากยอมแพ้หรือมัวแต่เสียใจ ทุกอย่างนับหนึ่งใหม่ได้ยังไม่สาย เผยสร้างกำแพงป้องกันน้ำท่วมเต็มที่ แต่น้ำแรงมากต้องมีที่ไปอะไรก็ขวางไม่อยู่

วันที่ 11 ต.ค. รายการ “สรยุทธเจาะข่าวเด่น” บุกนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ผ่าความรู้สึกนายตัน ภาสกรนที ผู้ก่อตั้งบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้รายใหญ่ที่สุด มอบให้รัฐบาลถึง 40 ล้านบาท ให้กระทรวงคมนาคม 30 ล้าน ไม่นับรวมถึงบรรดาเสื้อชูชีพนับหมื่นตัว เรือ และถุงยังชีพอีกมากมาย

นายตันกล่าวว่า ได้เตรียมตัวป้องกันรับมือน้ำท่วม โดยการสร้างกำแพงล้อมโรงงานตั้งแต่รู้ข่าวน้ำเริ่มท่วมพื้นที่เฟสหนึ่ง จนได้กำแพงสูง 3 เมตร ซึ่งตนเชื่อว่าสามารถรับน้ำได้สบายๆ หากกำแพงที่ล้อมโรงงานไม่ล้มลงมาเสียก่อน นาทีนี้ไม่คาดคิดว่าตนจะต้องกลายเป็นผู้ประสบภัย แต่อย่างไรก็ดี ตั้งแต่น้ำท่วมเฟสหนึ่งตนก็ทำใจไว้บ้างแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ต้องยอมรับว่ากระแสน้ำแรงมาก อะไรก็ต้านไม่อยู่ น้ำจำต้องมีที่ไป

เดิมทีวันนี้ตนจะไปธุระที่ต่างจังหวัด แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกน้องเลยแวะเข้ามาที่โรงงาน ทราบว่าน้ำได้ท่วมก่อนที่ตนจะเดินทางมาถึงเพียง 30 นาที ช่วงบ่ายระดับน้ำสูงประมาณ 1.2 เมตร ตกเย็นขึ้นมาถึง 2 เมตรแล้ว จากนี้ไปคงต้องนับหนึ่งใหม่ เพราะทุนกว่า 3 พันล้าน ส่วนใหญ่หมดไปกับอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องจักรทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อโดนน้ำย่อมเสียหายใช้การไม่ได้ แต่ความสูญเสียครั้งนี้ถือว่ายังไม่เรียกว่าเสียหายทั้งหมดในพริบตา อะไรที่พอซ่อมได้ก็ต้องซ่อม แน่นอนมันต้องมีเสียหายบ้าง ส่วนจะเท่าไร ตอนนี้ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินหรือธุรกิจเลย คิดแต่ดีใจที่พนักงานทุกคนปลอดภัย เป็นกัปตันจะทิ้งเรือหนีเอาตัวรอดไม่ได้ ต้องส่งพนักงานออกก่อน และตนจะเป็นคนก้าวเท้าออกจากโรงงานคนสุดท้าย

ส่วนแผนการตลาดที่เตรียมตั้งมูลนิธิตันปันเพื่อการกุศล หากจะต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่ก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีโรงงานบางแห่งอาจหนักกว่าตนด้วยซ้ำไป ตอนนี้ตนคิดว่าตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ กำลังใจสำคัญมาก ถ้ายังมีกำลังใจอยู่ สำหรับตนจะเดินหน้าต่อไป

“มันไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้าเรายอมแพ้ เสียใจ ผมคิดว่าคนไทยทุกคนเดือดร้อนพอๆกัน ไม่เกี่ยวเงินมากหรือเงินน้อย สิ่งสำคัญที่สุดคือกำลังใจ ถ้าเราไม่เสียกำลังใจ เรายังอยู่ได้ ก็อยากให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ช้าไปหรอก ทุกอย่างเริ่มใหม่ได้” นายตันกล่าวทิ้งท้าย

<IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/Cy5noUW_oro" frameBorder=0 width=420 allowfullscreen></IFRAME>

ที่มา : www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000129834