"ท่องแดนมหัศจรรย์ (นรก สวรรค์ บาดาลและหิมพานต์) กับข้าพเจ้า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 6 สิงหาคม 2011.

  1. payapro

    payapro สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +9
    รอฟังอยู่น่ะครับ ^^
     
  2. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    พี่ คุรุวาโร เคยเห็น ไปเจอ มังกร บ้างไหมครับ
     
  3. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    อนุโมทนาทนาสาธุค่ะ แม้แต่การแผ่เมตตาก็ต้องทำจิตใจให้บริสุทธิ์ค่ะ ไม่งั้น สงสารคนรับแย่เลยค่ะ
     
  4. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    มังกรเคยเจอครั้งเดียวครับ ตอนนั้นทำรูปเจ้าแม่กวนอิมหักตรงมังกรพอดี ฝันไปว่ามีงูใหญ่มารัดกายผมแล้วผมก็ปวดหลังอยู่สามวัน เลยเข้าฌานดู เห็นมังกรรัดกายตัวเองอยู่ แล้วมีเจ้าแม่กวนอิมมารับกลับไป เจ้าแม่บอกกับผมว่าอย่าทำรูปท่านหักอีกครับ เจ้าแม่นั้นร่างกายสว่างไสวมากครับ แล้วมังกรก็เลื้อยขึ้นไปบนฟ้าครับ
     
  5. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    เมื่อคนตายใหม่ๆนั้น ถ้ายังไม่สิ้นอายุขัย เขาจะต้องหาทางไป ถ้าเขาตายที่ไหนอย่างน้อยเขาต้องอยู่ที่นั้นไม่ต่ำกว่าสามวันครับ แล้วเขาก็จะหาที่ไปครับ
     
  6. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    รับโทษจากกรณีฆ่าสัตว์ทำอาหารครับ ซึ่งเป็นก่อนการมาบวชครับ และรับโทษ 1เดือนของมนุษย์ครับ
     
  7. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    ขอตอบที่ละข้อครับ
    1.ไม่จริงครับ เพียงแต่เขาต้องรับโทษก่อนเท่านั้นครับ
    2.คนที่ตายไปแล้วนั้น ไม่มีร่างกายครับ มีแต่มโนวิญญาน มีการทรมารจริงครับแต่ผมเขาอนุญาติให้ดูในส่วนที่ดูได้เท่านั้นครับ ข้างในนั้นร้อนมากครับ เหมือนหน้าร้อนแล้วเราไปยืนตากแดดตอนเที่ยงวันแล้วก่อกองไฟรอบๆตัวเรานะครับ ร้อนขนาดนั้นนะครับ กลับมาสามวันผมยังไม่หายร้อนเลยครับ ส่วนพวกเขารู้สึกอย่างไรผมตอบแทนพวกเขาไม่ได้ครับ
    3.พระอาจารย์มั่น เคยเล่าเรื่องนี้อยู่ครับ ท่านเคยไปโปรดเทวดาของชาวเยอรมันนะครับ
     
  8. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    อนุโมทนา สาธุด้วยค่ะ

    จะตามอ่านเรื่อยๆ ได้เกร็ดความรู้ทางธรรมดีค่ะ
     
  9. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ตอนเด็กๆ เป็นโรคภูมิแพ้แต่พอโตมาก็หาย สงสัยจะมีเชื้ออยู่เหมือนกัน
     
  10. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    ข้าพเจ้าทำสมาธิ แล้วกำหนดจิตไปที่ดินแดนหิมพานต์ ภาพที่เห็นข้างหน้านั้น เหมือนตอนเช้าที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น แต่มีหมอกสีดำๆ ปกคลุมเต็มไปหมด บรรยากาศน่ากลัวมาก ข้าพเจ้าเห็นสัตว์แปลกๆมากมาย บางตัวก็เหมือนแมวผสมสิงโต ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเรียกว่าอะไรครับ นกบางตัวสีสรรสวยงามแต่มีดวงตาสีแดงสุกใสครับ กวางที่นี้ก็แปลกๆตอนบั้นท้ายของกวางนั้นมีลวดลายสีสรรสวยงามมากครับ ต้นไม้ก็ดูแปลกๆจากโลกของเรา แทนที่จะมีใบสีเขียว กลับมีใบสีต่างๆในต้นเดียวกัน เช่น สีเหลือง สีแดง แต่ดูเหมือนต้นไม้แบบพวกใบเฟิร์นนั้นจะเยอะมากกว่าต้นไม้อื่นครับ เมื่อข้าพเจ้าเดินไปเรื่อยๆพร้อมภาวนา"พุทโธ" มีตัวประหลาดตัวหนึ่งจะเข้ามาทำร้ายข้าพเจ้าลักษณะเหมือนตัวเงินตัวทอง แต่ตัวใหญ่กว่า ข้าพเจ้าเลยเปลี่ยนเป็นภาวนา"ภะคะวา พุทโธ ภะคะวา"แทน สัตว์ตัวนั้นกลับหมอบลง ดินแดนนี้มีทั้งหมดสี่แดนครับ มีแม่น้ำนั้นกั้นแต่ละเขตแดน สัตว์ต่างๆหรือใครก็ตามที่อาศัยอยู่ที่นี้ไม่สามารถข้ามเขตแดนได้ ข้าพเจ้าเดินไปเรื่อยๆจนเจอต้นมักกะรีผล ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าของแดนหนึ่งนะครับ ต้นไม้นี้มีผู้หญิงห้อยอยู่ ผิวพรรณเธอนั้นสวยงามมาก แต่เธอมีแค่สี่นิ้วครับ และนิ้วนั้นยาวเสมอกัน เธอมีกลิ่นหอมประหลาดๆคล้ายๆพวกกำยานนะครับ ถ้าเทียบเป็นคนก็น่าจะอายุสัก 16-18 ปีประมาณนั้นนะครับ ขณะที่ข้าพเจ้ายืนดูอยู่นั้นมีคนธรรพ์เหาะลงมา แล้วเด็ดเอานารีผลนั้นไป ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังจะเดินต่อไปนั้น ก็มีพวกฤษี ประมาณ 10 ตน ออกมาจากที่ข้างพงหญ้านั้น แล้วก็พูดว่า"ใครอนุญาติให้เข้ามา อยากลองดีนักหรือไง หา" ข้าพเจ้าตอบไปว่า "แค่อยากรู้ อยากเห็น ไม่ได้ลองดีครับ" ฤษีตนหนึ่งร่ายเวทย์อะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเหมือนมีอะไรสีดำๆพุ่งมาที่ตัวของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเลยร้องเรียกเทวดาให้มาช่วย ข้าพเจ้ารู้สึกว่าปวดแสบ ปวดร้อนตรงที่มีวัตถุดำๆนั้นพุ่งเข้าใส่ครับ เทพธิดามา พวกฤษีหัวเราะชอบใจแล้วพูดว่า "วันนี้จะเอานางฟ้าเป็นเมียดีกว่า"เทพธิดา เรียกพระขรรค์เทวดามาถือไว้ ฤษีนั้นเปลี่ยนท่าที โดยฟ้องเทพธิดาว่าข้าพเจ้าจะมาทำลายต้นไม้ที่พวกเขา พวกเขาหวงหนักหนา ข้าพเจ้าเลยตอบว่า"แค่มาดู ไม่ได้ทำอะไรเลย" เทพธิดาก็บอกข้าพเจ้าว่าดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่ของพวกที่ได้ฌานตอนอยู่เมืองมนุษย์ และก็มีฤทธิ์ทางใจแต่ควบคุมฤทธิ์นั้นไม่ได้ จึงต้องลงมาอยู่ที่นี้ แล้วเทพธิดาก็ใช้พระขรรค์เทวดามาแตะที่ตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็หายจากอาการดังกล่าวครับ ส่วนดินแดนที่เหลืออีกสามดินแดนนั้นเทพธิดาไม่อนุญาติให้ข้าพเจ้าไปครับ เพราะว่ามันอันตรายครับ สัตว์ในดินแดนพวกนี้พูดได้ครับ แต่เป็นภาษาเฉพาะของเขาที่ผมฟังไม่เข้าใจครับ ข้าพเจ้าบอกตัวเองว่าข้าพเจ้าจะทำสมาธิโดยไม่ให้เกิดนิมิตร แล้วจะขยายเป็นฤทธิ์ทางใจ เพราะข้าพเจ้าไม่อยากไปอยู่ดินแดนแบบนี้ครับ
     
  11. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    ข้าพเจ้ารู้สึกว่าสวรรค์นั้น ไปยากนะครับ แต่สวรรค์ชั้นสี่นั้นเป็นที่สุดของความอยากรู้อยากเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าทำสมาธิทั้งวัน ภาวนาทั้งวัน เมื่อถึงตอนกลางคืน ข้าพเจ้ากำหนดไว้ที่สวรรค์ ข้าพเจ้าเห็นบันไดแก้ว ข้าพเจ้าเดินขึ้นบันไดแก้ว มีทางแยกแต่ข้าพเจ้าไม่ไปจะไปสวรรค์ชั้นสี่ ข้าพเจ้าเดินขึ้นบันไดแก้วนานพอสมควร สวรรค์ชั้นนี้อยู่ไกลพอสมควร เรียกว่าเดินเหมือนกับเดินมินิมาราธอนเลยทีเดียวครับ เมื่อไปถึงมีเทวดาสององค์ ถามข้าพเจ้าว่า "มาหาใคร" ข้าพเจ้าตอบว่า"มาหาเทพธิดาสุชาวดีครับ" เทวดาสององค์ บอกว่า อยู่ตรงใจกลางสวรรค์วิมานนั้นใหญ่กว่าใครครับ ข้าพเจ้าไปเจอวิมานแรก ข้าพเจ้าเรียกถามเจ้าของวิมานนั้น เขาชื่อว่า รัตนมณี ชาติที่แล้ว ถือบวชชีจนกระทั่งเสียชีวิตและถือศลีเคร่งครัดมาก เทพธิดารัตนมณีพาข้าพเจ้าไปที่วิมานของเทพธิดาสุชาวดีที่มาช่วยเหลือข้าพเจ้านั้น เมื่อมาถึงข้าพเจ้าพบว่าวิมานของเทพิดาสุชาวดีนั้นใหญ่โตกว่าขอเทวดาองค์ที่ข้าพเจ้าเดินผ่านมาครับ และเจอเทวดาอารักษ์ขาที่มากลับเทพธิดาในครั้งแรกด้วยครับ เทวดาสององค์นั้นจำข้าพเจ้าได้ และบอกให้ข้าพเจ้าเข้าไปได้
     
  12. ยัย fame

    ยัย fame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +104
    1.ถ้าญาติของเราต้องตกนรก เราสามารถช่วยเหลือเขาได้อย่างไร เช่น ทำบุญไปให้ เขาได้รับจริงหรือเปล่า หรือว่าเราเป็นคนได้รับเอง การนั่งสมาธิแล้วแผ่เมตตาจะสามารถส่งถึงหรือช่วยเหลือเขาให้พ้นจากขุมนรกได้หรือไม่

    เคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อจรัญ ท่านบอกว่าการทำกรรมฐานสามารถช่วยเหลือญาติที่ต้องตกนรกได้.....

    ***ถ้าคน ๆ นั่นทำชั่ว ..แล้วลูกหลานทำบุญ หรือทำกรรมฐานไปให้เขาจะพ้นจากขุมนรกหรือเปล่า***

    2. ถ้าเราทำบุญ เพื่อหวังที่ต้องการจะรวยในชาติหน้า จะได้รับบุญมากหรือเปล่า
    ถ้าเราทำบุญ แล้วอุทิศให้กับญาติของเราเพื่อที่จะให้เขามีความสุข อย่างนี้เรียกว่าหวังผล หรือเปล่า เพราะเราไม่ได้หวังผลให้ตนเอง แล้วเราจะได้บุญด้วยไหม

    ***เป็นคำถามที่อยากรู้นะ***
     
  13. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    รอติดตามด้วยคนครับอิอิอิ:cool:
     
  14. doncman2029

    doncman2029 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2011
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +9
    จะรอติดตามเหมือนเดิมนะคับ ท่านคุรุวาโร
     
  15. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    1.การทำบุญ มีองค์ประกอบสามอย่างครับ คือหนึ่งผู้ทำบุญ สองสื่อที่นำบุญไปให้และสามคนรับครับ ถ้าทำบุญกับพระภิกษุที่ถือศลีครบก็จะดีกว่าพระที่ถือศลีไม่ครบ โดยอาจจะดูจากการปฏิบัติของท่านครับ ส่วนการฝึกแผ่จิตตั้งมั่นในกรรมฐานนั้น สามารถส่งถึงได้จริงครับ ส่วนจะพ้นหรือไม่พ้นนั้นเป็นเรื่องที่จะดูอีกทีว่าตกที่ตรงไหนครับ
    2.การทำบุญแล้วหวังผล ถือว่าเจือด้วยราคะ แต่เราอาจจะอธิษฐานให้เป็นโดยอธิษฐานเรื่องนั้นทุกครั้ง เพื่อจะได้ส่งผลในอนาคตครับ การเจือด้วยราคะนั้นหมายความว่า หวังผลให้ตนเองครับ แต่ถ้าเมตตาจิตให้ญาตินั้นเราก็ได้ครับ
     
  16. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    เนื่องจากดินแดนสวรรค์ชั้นนี้นั้น ต้องรอเบื้องบนอนุญาติก่อนนะครับ ว่าให้เล่าได้แค่ไหนครับ ระหว่างรอเรามาตั้งคำถามถึงเพื่อนสมาชิกว่า ชาติหน้าอยากเกิดเป็นอะไรครับ
    1.พญานาค เพราะชื่นชอบเป็นการส่วนตัว บ้านเมืองน่าอยู่
    2.สัมเวสี เพราะจะได้กลับไปสู่โลกที่ผ่านมา เมื่อไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไร อยู่กับธรรมชาติ
    3.คนมีฤทธิ์ ในหิมพานต์ ชอบการต่อสู้ ชาตินี้ชอบสิ่งเร้นลับ
    4.เทวดา เพราะส่วนใหญ่เทวดามีแต่สุข ไม่ค่อยมีทุกข์
    5.มนุษย์ เหมือนเดิม จะได้มาทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ว่าดีหรือไม่ดี
     
  17. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    เลือกข้อ 4 ครับ ท่านคุรุวาโร เบื่อกับความวุ่นวายในโลกมนุษย์
     
  18. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ และขอส่งใจไปอีกแรงขอทางสวรรค์ให้ท่านเห็นใจพวกเราให้อนุญาตท่านนำมาเล่าเพื่อเป็นกุศลให้พวกเราได้มีกำลังใจในการปฎิบัติธรรมยิ่งๆขึ้นไป อยากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ และขอเกิดมาเป็นผู้ชายเกิดมาเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ เป็นคำอธิษฐานจิตแต่ไหนแต่ไรมาค่ะ
     
  19. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    5.มนุษย์ เหมือนเดิม จะได้มาทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ว่าดีหรือไม่ดี
     
  20. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    เล่าได้ เล่าที่เล่าได้แล้วกันนะครับ เทพธิดาสุชาวดีนั้นพาข้าพเจ้าเข้าไปในวิมาน ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเหมือนเคยมาที่นี้ ข้าพเจ้าเลยบอกเทพธิดาว่า "ห้องนี้เป็นห้องบรรทมใช่หรือไม่ครับ" เทพธิดาตอบว่า"ใช่จ๊ะ" ข้าพเจ้าเดินดูรอบๆภายในวิมานแห่งนี้ พบห้องหนึ่งนั้นมีพระขรรค์เทวดาวางอยู่สองอัน อันหนึ่งนั้นข้าพเจ้าจำได้เป็นของเทพธิดา ข้าพเจ้าเลยถามว่า"อันหนึ่งนั้นเป็นของใครครับ" เทพธิดาตอบว่า"เป็นของเทวดาท่านหนึ่ง เทวดาองค์นั้นมัวแต่ไปเที่ยวเล่น เดี๋ยวก็จะกลับมาจ๊ะ" ข้าพเจ้าคิดในใจว่าเทวดาองค์นั้นช่างโง่จริงๆมีเทพธิดาอยู่เคียงข้างและยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ยังไปเที่ยวเล่นอีก ข้าพเจ้าเลยถามเทพธิดาว่า" หนึ่งวันในสวรรค์ชั้นนี้ เป็นเวลาเท่าไหร่ของโลกมนุษย์ " เทพธิดาตอบว่า "400 ปีจ๊ะ" ข้าพเจ้าเลยถามต่อไปอีกว่า"แล้วในหนึ่งวันเหล่าเทวดาทำอะไรกันบ้างครับ" เทพธิดาตอบว่า"ถ้าเป็นสวรรค์ชั้นนี้ ส่วนใหญ่ก็จะปฏิบัติธรรม แล้วก็ดูโลกมนุษย์ข้างล่าง ถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่ดีก็จะช่วยเหลือเป็นบางเรื่องและก็บางคนที่เกี่ยวพันกับสวรรค์ชั้นนี้เท่านั้น เช่น คราวที่สมณะโคดมบำเพ็ญเพียรนั้น ก็มีแต่เหล่าเทวดาชั้นนี้ให้การช่วยเหลือเพื่อพระองค์จะได้ตรัสรู้ได้จ๊ะ" ข้าพเจ้าเลยถามต่อว่า "แล้วพระศรีอาสน์นั้นตอนนี้อยู่ที่นี้ไหมครับ" เทพธิดาตอบว่า"อยู่ที่ด้านขวาสุดของสวรรค์ชั้นนี้ และมีเทวดาอารักษ์ขาอยู่สององค์จ๊ะ เพราะเหลือเวลาไม่มากที่พระองค์จะไปจุติยังโลกมนุษย์"
    ข้าพเจ้าเลยถามต่อไปอีกว่า"มีเหตุอะไรที่ทำให้เทวดาต้องไปเกิดที่อื่นนะครับ เช่น โลกมนุษย์" เทพธิดาตอบข้าพเจ้าว่า "หนึ่งสิ้นอายุขัย สองสิ้นบุญญขัย สามโกธพลขัยและสี่สุดท้าย คืออาหารขัย" ข้าพเจ้าเลยถามต่อไปอีกว่า"อาหารขัยนั้นเป็นอย่างไรครับ" เทพธิดาตอบว่า "เทวดานั้นจะลืมกินอาหารทิพย์ภายในหนึ่งวันนั้นไม่ได้ ไม่เหมือนมนุษย์เพราะเทวดาไม่สามารถชดเชยกายทิพย์นั้นได้ " ข้าพเจ้าคิดในใจว่าเป็นเทวดาต้องระวังประมาทไม่ได้เลยมัวแต่หาความสุขสำราญแล้วลืมกินอาหารแค่หนึ่งวันก็ไม่ได้ เรียกว่าตกจากสวรรค์ทันที ข้าพเจ้ามองดูพระขรรค์เทวดาแล้วอยากได้ เทพธิดาคงรู้บอกกับข้าพเจ้าว่า"มีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง ชื่อว่าเดิม ท่านได้สร้างเครื่องรางแบบมีดนั้น ท่านได้ปลุกเสกทำให้ของชิ้นนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่าพระขรรค์เทวดาชั้นที่หนึ่ง"ข้าพเจ้าบอกกับตัวเองว่า ถ้ามีคนนำเครื่องรางนั้นมาแลกกับพระอื่นๆที่ข้าพเจ้ามี ข้าพเจ้าคงเลือกเครื่องรางของหลวงพ่อเดิมดีกว่านะครับ ข้าพเจ้าเลยถามเทพธิดาว่า"ทำอย่างไร ถึงจะขึ้นมาอยู่สวรรค์ชั้นนี้ได้ครับ" เทพธิดาตอบข้าพเจ้าว่า"ต้องบำเพ็ญ ทาน รักษาศลี หรือสร้างทานบารมีตลอดชีวิตที่มีอยู่ในโลกมนุษย์นั้น ถึงจะได้มาอยู่ที่นี้จ๊ะ" ข้าพเจ้าถามเทพธิดาอีกว่า"แล้วทำไมคนเชื้อสายจีน นิยมไหว้เจ้าแล้วพวกเขาก็ร่ำรวย" เทพธิดาเลยพาข้าพเจ้าไปที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ศาลแห่งนี้ข้าพเจ้าเห็นเขาปั้นรูปต่างๆ และมีเทวดาชั้นหนึ่งนั้นอยู่ในรูปปั้นเหล่านั้น เทพธิดาอธิบายว่า"เทวดาชั้นนี้นั้น ชอบช่วยเหลือมนุษย์ที่มากราบไหว้ ขอพรต่างๆ ถ้าสิ่งที่ขอนั้นไม่เกินกว่าบารมีที่เทวดาชั้นนี้จะช่วยได้ ท่านนั้นก็จะช่วย และถ้าช่วยไม่ได้ ก็จะคุ้มครองจากวิญญานต่างๆที่มารังคราญนั่นได้จ๊ะ" เนื่องจากเรื่องสวรรค์นั้นค่อนข้างยาวแล้วเขาไม่อนุญาติให้ข้าพเจ้าเล่า เนื่องจากผิดกฏของสวรรค์นะครับ ขออนุญาติจบเรื่องรวต่างๆไว้เพียงเท่านี้นะครับ ขอให้เหล่าเทวดาคุ้มครองผู้อ่านทุกท่านครับ (เทวานัง ปิยะตัง สุตวา)
     

แชร์หน้านี้

Loading...