รถพลังงานลม (Air Car)

จากวิกฤตพลังงานที่ใกล้จะถึงจุดระเบิดในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ สามกลุ่มประเทศ ทั้งในยุโรป อเมริกาและเอเชีย ต่างก็เร่งวิจัยพัฒนารถยนต์ของตนให้สามารถใช้เชื้อเพลิง ทดแทนน้ำมันที่ปัจจุบันยิ่งจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกู่ไม่กลับในขณะนี้ ดังที่เราได้เห็นได้ยินจากข่าวสารกันบ่อยๆ มีรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกที่หลายหลาย ทั้งรถยนต์ที่ใช้พลังงานก๊าซ LPG , NGV, รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์, น้ำมันไบโอดีเซล, รถยนต์พลังไฮโดรเจน และที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อต้นปีก็คือ “รถพลังงานลม” หรือ “Air Car”


พลังงานลม แล้วรถมันจะวิ่งยังไง?



สำหรับ Air Car หรือ รถยนต์พลังงานลม เชื่อว่าหลายคนอาจนึกไปถึงวิธีการขับเคลื่อนของเรือใบในทะเล ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการทำงานของเครื่องยนต์ Air Car นั้นก็ใช้หลักการเดียวกันกับเรือใบ กล่าวคือ Air Car ใช้ลมในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์โดยการปล่อยอากาศที่มีความดันสูงพุ่ง เข้าไปหมุนเพลาอีกทีต่อจากนั้นกลไกของรถก็จะขับเคลื่อนให้รถวิ่งไปได้


ซึ่งความเร็วที่รถวิ่งได้อยู่ที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระยะทางที่รถวิ่งได้ไกลสุดคือ 200 กิโลเมตรต่อการเติมอากาศหนึ่งครั้ง ค่าใช้จ่ายในการเติมอากาศรถยนต์นั้นค่อนข้างถูกกว่าการใช้งานพลังอื่นอย่างมาก และที่น่าประทับใจที่สุดของ Air Car ก็คือเป็นรถยนต์ที่ไม่ปล่อยมลพิษใดๆ ออกมารบกวนธรรมชาตินั่นเอง


ออกแบบและพัฒนาเครื่องยนต์พลังลมคือนาย Guy Negre จากบริษัท MDI ประเทศลักเซมเบิร์ก ซึ่งเค้าก็ได้วิจัยพัฒนามาเกือบ 15 ปีแล้ว จนมาประสบความสำเร็จเอาเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา บัดนี้ Negreได้มอบสิทธิบัตรแก่ TATA Motor ในการผลิตรถยนต์พลังลมที่ประเทศอินประเทศอินเดียแล้วเป็นทีเรียบร้อย ซึ่ง Model(รถต้นแบบ) คันแรกเป็นรถที่วิ่งในเมืองที่ชื่อ “TATA CityCAT” โดยประมาณ CityCAT ต้นแบบคันนี้ถูกตั้งราคาไว้ที่ประมาณ 400,000 บาท (ที่ประเทศอินเดีย ราคาเมืองไทยเท่าไรก็ต้องบวกภาษีเข้าไปอีกครับ) TATA Motor วาดหวังไว้ว่ารถพลังลมรุ่นแรกนี้ จะทำยอดขายได้ดีในสภาวะวิกฤตพลังงานเวลานี้




ข้อมูลจากเว็บ ▷▷ Air Car รถพลังงานลมจาก TATA Motor | รถใหม่

 

อยากได้จัง พี่ ซื้อให้ผมซักคันได้ไหมคับ

 

อยากได้เหมือนกันค่ะ สะใจจริงๆ ไม่ต้องใช้น้ำมัน ใช้แก๊ส

 

อยากได้จังเลย เห็นว่ารถของทาทา ก็ไม่แพงมาก คุณภาพก้เจ๋งมากด้วย หากมาขอซักคันแล้วกันนะ

 

ในยุคโลกาภิวัฒน์ นี้มนุษย์ได้คิดค้น และประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค ปัญหาทางด้านพลังงาน เป็นปัจจัย นึง ที่ทำให้มนุษย์ได้ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อทดแทนแหล่งพลังงานจากซากฟอสซิล นับวันก็เริ่มหมดลงไปเรื่อยๆ ปัญหา มลพิษทางอากาศ สภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ นวัตกรรมยานยนต์ มี ทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เช่น รถพลังงานลม รถพลังงานน้ำ (HO2) รถพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทยอยกันออกมาโชว์ให้ชมเชย กันเป็นระยะๆ เป็นทางเลือก ของยุคน้ำมันแพงเช่นนี้ นวัตกรรมนี้ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของยุคของการใช้พลังงานจากซากดึกดําบรรพ์ ส่วนนวัตกรรมใหม่นี้ ซึ่งไม่ก่อมลพิษจากไอเสียของเครื่องยนต์ไม่ก่อมลภาวะ 100% ทั้งยังมีแหล่งพลังงานที่สะอาดและไม่มีวันหมดไปจากโลกนี้ การเปลี่ยนยุคของยานยนต์พลังสะอาดนี้ ลดความเสี่ยงของสารก่อมะเร็ง จากรถที่ใช้น้ำมัน ซึ่งมีสารก่อมะเร็งหลายชนิด มนุษย์เสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ปอด มะเร็งในเม็ดเลือด ซึ่งโรคเหล่านี้มนุษย์ที่ไม่ได้สวมหน้ากากป้องกันป่วยโรคนี้ และ คร่าชีวิตของมนุษย์ที่ป่วยโรคมะเร็ง ปีละ 20,000 คนขึ้นไปนับผู้สูบบหรี่ แต่ได้รับควันไอเสียจากรถยนต์ การเกิดของนวัตกรรมใหม่ของยานยนต์นี้เป็นจุดเปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ลดการเสี่ยงต่อโรคต่างๆ อีกด้วย...

 

แล้วอย่างนี้ คนที่ได้ผลประโยชน์จากน้ำมันจะไม่ต่อต้านกันใหญ่เหรอ เพราะต่อไปใครๆก็อัดลมเข้าเครื่องกันง่ายขึ้น หวั่นวิตกจังเลยกลัวสงคราม

 

เ้พราะ อย่างนี้แหละ ทาทานาโน ถึงไม่ได้เข้ามาสะที
T^T

 

ภาวะนา ให้มันเลิกไปทีเถอะน้ำมันเชื้อเพลงไม่ไหวแล้วคับ

 

ความโลภไม่เข้าใครออกใครT^T

 

ทุกวันนี้ก็เกิดแล้ว ครับ

 

เห็นมาหลายปีแล้ว
รถยนต์แบบเนี้ย
เครื่องหน้าตาอย่างเนี้ย
เขาบอกว่าปีหน้า จะเข้าสู่สายพานการผลิต

นี่รอมาหลายปีแล้ว หลายปีหน้าแล้ว

ก็ยังไม่โพล่

 

รถคันนี้เค้าเปิดตัวจำหน่ายที่ ญี่ปุ่น คงยังไม่เข้าไทยครับ

 

ขอคลิปหลักการทำงานของเครื่องนี้ชัดๆทีดิ อิงริดๆดั้ยนะภาพจ้ะ

 

หากใครได้ทราบ VISION ของ CEO ของ TATA GROUP แล้วจะยิ่งศรัธทาในความคิดของเขาที่จะช่วยเหลือมนุษย์ที่ด้อยโอกาสอีกด้วย เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของเขาในนิตยสารคู่สร้างคู่สม เขาบอกว่าไอเดียที่สร้างรถรุ่นนี้ขึ้นมาเพราะ เขามองเห็นชาวอินเดียที่หอบลูก เมีย หลายคน นั่งรถมอเตอร์ไชค์เก่าๆ คันเดียวโดยที่ไม่น่าจะปลอดภัย เลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชีวิตของคนที่มีเงินน้อยได้ปลอดภัยมากกว่านี้ อย่างน้อยก็มีเหล็กหุ้มเนี้อ ไม่ใช่เนื้อหุ้มเหล็ก เขาก็เลยสั่งการทีมงานว่า ให้ทำรถยนต์ที่มีต้นทุนน้อยที่สุด และ ใช้พลังงานแบบที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ราคาแบบชนชั้นกลางหาซื้อได้ ก็เลยเป็นไอเดียในการสร้างรถรุ่นนี้ขึ้นมา หากมี นักธุรกิจแบบนี้ซัก 1000 คนในโลก โลกคงสดใส...มากกว่านี้เยอะเลยเน๊าะ หากนำเข้าประเทศไทยเมื่อไหร่ จะพยายามเก็บตังค์ซื้อแน่นอน.....

 

เค้าน่าจะคิดพลังงานลมได้ก่อนที่จะเอาน้ำมันมาเติมรถเนอะ
คงจะสดชื่นกว่ากันเยอะ

 

แล้วเมื่อไหร่ถึงจะมาที่เมืองไทยล่ะจ๊ะ ใครเป็นกูรูช่วยบอกหน่อย..เร้ว....

 

งั้นผมขอตอบแล้วกันครับ คือ เค้าไม่ได้เจาะตลาดภายในประเทศไทยครับ คงต้องรอ 5-10ปี กว่าจะเห็นครับ แค่รถใช้ HO2 ยังไม่มีปั้มเลยครับ แต่ของทางสหรัฐเค้ามีปั้มกันแล้วบ้าง นักลงทุนก็เร็วแสวงหาพลังงานใหม่ๆ ที่จะทดแทนน้ำมันแล้ว เพราะผู้ส่งออกน้ำมันก็เริ่มหัวหมอขึ้นราคาน้ำมันดิบแล้ว มันก็เลยทำให้นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนการลงทุนหันมาลงทุนพลังงานสะอาดทางเลือกใหม่ๆ เยอะขึ้นแล้ว นักวทิยาศาสตร์ก็จะหานักลงทุนที่มีความเป็นนักอนุรักษ์นิยม เรื่องนี้คงยังไม่เข้าไทยได้ง่ายๆ หรอกครับ ก็ต้องรอกันต่อไป......

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=uVIwropRMME]Compressed Air Cars - France - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=OJeMnZuOOJU]Air car that runs 200 miles on compressed air. - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=jjSOvbsE460]Air Car Water Car Free Energy Fuel Motor Save Gas Best Engine - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=D-A3XHFT5qc]Air Car (1 of 2) from France - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Dq8aZVLpf-c&feature=related]Air Car (2 of 2) from Australia - YouTube[/ame]​

 

ขอบคุณนะคร๊าบ....บ คุณ วิลเลี่ยม มีรถแต่ไม่มีแหล่งเติมพลังงาน หรือ มีแหล่งเติมพลังงาน แต่ไม่มีรถมาเติม ก็คงต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่ายเน๊าะ ก็คงต้องรอต่อไปจริงๆ นั่นแหละ......เฮ้อ

catt15