สงครามนักวิชาการ หมากลองเชิงของอิทธิพลทางเศรษฐกิจขั้วทุนนิยมและมาร์กซิส

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย นรมิตร, 26 กรกฎาคม 2011.

  1. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    นโยบาย ขึ้นค่าแรง ๓๐๐ บาท คือ "หมากลองเชิง" หากทำได้จริง
    แสดงว่าอิทธิพลของกระแสเศรษฐกิจสายสังคมนิยม (+ มาร์กซิส)
    มากกว่าสายทุนนิยม


    นี่ไม่ใช่แค่เรื่อง นโยบาย ๑ นโยบาย แต่เป็นเรื่อง "กระแสโลก" ที่
    ใช้ประเด็นของนโยบายนี้เป็น "ตัวหมากลองเชิง" ประลองกำลังกัน
    ว่ากระแสของทุนนิยมและสังคมนิยมในประเทศไทย อะไรจะเหนือ
    กว่ากัน...
     
  2. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    สงครามการงัดข้อกันระหว่างขั้วทุนนิยมและสังคมนิยมเริ่มดุเดือดขึ้นแล้ว


    สิ่งนี้มีมานานหลายปีมากแล้วในโลก แต่ในประเทศไทย เพิ่งดำเนินไปอย่างช้าๆ
    แต่ตอนนี้ มันกำลังเข้าสู่อัตราเร่งทางการปรับตัว เมื่อมองกระแสโลกปัจจุบันแล้ว
    ผมมองว่า "ทุนนิยมกำลังเสื่อมอำนาจ" และ "สังคมนิมยม กำลังมีอำนาจ" ซึ่งก็
    ไม่แตกต่างจากนายกอภิสิทธิ์ฯ ที่พยายามปรับเปลี่ยนนโยบายของประเทศที่มีมา
    แต่เดิม ให้สอดคล้องกับกระแสโลกคือ มีความเป็นสังคมนิมยมมากขึ้นซึ่งเห็นได้
    นโยบายภาพรวม คือ "นโยบายรัฐสวัสดิการ" นั่นเอง และยุคต่อมาของพรรคเพื่อ
    ไทย ก็ยิ่งนำแนวคิดของสังคมนิยมเข้ามามากขึ้น (ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะประเทศจีนก็
    ทำให้เห็นแล้วว่าเขาประสบความสำเร็จมากแค่ไหน และโลกกำลังเปลี่ยนไปมาก
    แค่ไหน) โดยส่วนตัวแล้ว ผมมองว่าไม่ใช่ใครจะแพ้หรือจะชนะแต่ "ผลลัพธ์ของ
    การรวมกันของทุนนิยมและสังคมนิยม" ควรจะเป็นเช่นไร มากกว่า เพราะเวลานี้
    ยังยากเกินไปที่จะเอาแพ้เอาชนะกันอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ ดังนั้น ทางรอดที่
    เราควรจะปรับตัวรับกระแสโลกจึงเป็น "การยอมรับที่จะผสมผสานสองแนวคิดนี้"
     
  3. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    แนวคิดที่หนึ่ง "รวมหัวกันแล้วใช้แผนการเดียวกับที่ประเทศจีนใช้"


    พวกนี้ จะเดินหมากคล้ายการปิดประเทศ คือ ทำให้ภายในประเทศเกิดภาวะ
    "ยากแก่การลงทุนของชาวต่างชาติ" เพื่อปกป้องไม่ให้ทุนต่างชาติเข้ามาที่
    ประเทศไทยมาก และอาจทำให้นายทุนไทยต้องย่อยยับในท้ายที่สุด ซึ่งใน
    ปัจจุบัน ญี่ปุ่นหลังประสบภัยพิบัติก็พร้อมจะย้ายการลงทุนมายังเมืองไทยแต่
    เพราะ "นโยบายขึ้นค่าแรง" อาจทำให้กระแสการลงทุนของต่างชาติชะงักลง
    ทั้งย้ายไปที่ประเทศเวียดนามแทน (ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญและคล้ายไทยมาก)
    ดังนั้น จึงไม่ใช่แค่เรื่องนายทุนจะกำไรหรือขาดทุน แต่เป็นเรื่อง "หมากยาว"
    หวังผลยาว คือ "การปิดกั้นนายทุนต่างชาติ" ไม่ให้เข้ามาลงทุนฯ ในไทยได้
    ง่ายเกินไป เฉกเช่นที่ประเทศจีน ดำเนินนโยบายกีดกันการค้า เพื่อที่จะรอให้
    "นายทุนจีนเข้มแข็งขึ้นก่อนจึงค่อยเปิดประเทศ" นั่นเอง ดังนั้น นายทุนใหญ่
    เช่น ครือซีพี จึงออกมาเห็นด้วยกับนโยบายนี้ อย่างไม่น่าเป็นไปได้ ว่าทำไม
    นายทุนจึงยอมเฉือนเนื้อตัวเอง เพราะนี่คือ "การรวมหัวกันของนายทุนเพื่อที่
    จะต่อสู้กับนายทุนต่างชาติ" ซึ่งต่างประเทศเช่น อเมริกา, ญี่ปุ่น เขาทำเช่นนี้
    มานานแล้ว ทว่า นโยบายนี้ ดีที่สุดแล้วหรือ? ถ้าเทียบกับ วิธีของลูกชายคุณ
    ธนินท์ ทำสำเร็จมาแล้ว คือ การ "ยอมเปิดรับก่อน" ให้เขามาร่วมลงทุน แล้ว
    ปล่อยให้ธุรกิจอ่อนแอถึงที่สุด เขาจะยอมถอนตัวไปเอง เป็นการปลดแอกเอา
    อิทธิพลต่างชาติออกไปโดยละมุนละม่อม ที่ต้องเปิดรับก่อน เพราะเราเองนั้น
    ยัง "ไม่มีเทคโนโลยีของตัวเอง" เราจึงต้องเปิดรับเช่น ร่วมลงทุนกับต่างชาติ
    ก่อเกิดเป็น "ออเร็นจ์" พอได้เทคโนโลยีเขามาเต็มที่แล้ว พร้อมขาดทุนยับ ดู
    เหมือน "คนงี่เง่าบริหารงาน" ฝรั่งเลยไม่เอาด้วย ถอนทุนหมด ผลปรากฏว่าก็
    ได้ฮุบเอาเทคโนโลยีนั้นเป็นของคนไทยเสีย (ปลดแอกประกาศอิสรภาพโดย
    สันติวิธี) ภายหลังจึงค่อยๆ ซึมซับเอามาเป็นเทคโนโลยีของไทย ดังนั้นคนที่
    ดูงี่เง่าเหมือน "อิเอซาดะ" ก็กลายเป็นคนที่ใช้ "ความโง่ได้อย่างชาญฉลาด"
    ที่สุด และวิธีการนี้ ไม่ควรนำมาใช้กับนักลงทุนไทยรายอื่นๆ หรอกหรือ?....
     
  4. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    ใช้ความโง่ให้เป็นประโยชน์ โง่จนถึงที่สุด ล่อให้เขามาล้วงกินตับ
    ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เรา รอจนทุนนิยมล่มสลายขาดทุนยับ เรา
    ก็จะ "ตายแล้วเกิดใหม่" พร้อม เทคโนโลยีต่างๆ ก็ตกเป็นของเรา
     
  5. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    คนไทยส่วนใหญ่ "โง่มากถึงมากที่สุด" แต่นี่คือสิ่งที่ธรรมชาติจัดสรรให้
    บางครั้ง มันอาจไม่ใช่จุดอ่อนเสมอไป เพราะแม้แต่ประเทศอินเดียที่ครั้ง
    หนึ่ง "สกปรกที่สุด" ดูเหมือนเป็นจุดอ่อน แต่มหาตมะ คานธีร์ ก็ใช้เป็น
    "เครื่องไล่ต่างชาติ" จนปลดแอก เอาเอกราชคืนให้อินเดียได้สำเร็จมา
    แล้ว แล้วเหตุใด "ไทยจะใช้ความเป็นไทย" เอาชนะต่างชาติบ้างไม่ได้?
     
  6. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    เปิดประเทศให้เต็มที่ เสรีไปสุดๆ
    ร่วมทุนกับต่างชาติแบบโง่ๆ
    แล้วโกงกินสบัดช่อไปเลย
    ทำตัวงี่เง่า เอาให้ล่มจม


    พอล่มแล้วเราก็กู้คืนมา
    เป็นของเรา พร้อมปฏิรูปใหม่


    เจ๋งไหม?
     
  7. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    ก็เจ๋ง เเต่กลัวว่ากำลังเป็นมันจะไม่ใช่ เพื่อยังงี้!!!!
     
  8. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    กลัวว่าจะหวังเพื่ออย่างอื่น หรือเปลี่ยนเเปลงระบบ..นะสิ
     
  9. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    โลกนี้ กำลังจะเปลี่ยนไปทั้งโลกอยู่แล้ว
    ประเทศไทยก็มีวาระต้องเปลี่ยนแปลง
    ตามอนิจจังด้วย ขึ้นอยู่กับว่า


    เราจะเป็นผู้เปลี่ยนเอง หรือให้คนอื่นเปลี่ยนให้
     
  10. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8

    การปฏิรูปจำเป็นต้องมี ไม่เช่นนั้น
    ประเทศไทยจะปรับตัวตามโลกไม่ทัน
    ทว่า ณ ขณะนี้ ไม่มีใครยอมเปลี่ยน
    เพราะเห็นแก่ตัว กลัวเสียผลประโยชน์
    กันทั้งนั้น


    ทางเดียว ก็คือ ต้องให้มหภาพถูกเปลี่ยน
    โดยเราไม่ได้ลงมือ จากนั้นค่อยเข้าไป
    ช่วยในกระบวนการช่วงท้ายๆ เราก็จะ
    ไม่ถูกต่อต้าน การปฏิรูปจึงยังพอมีหวัง


    เอาง่ายๆ พวกที่รุกป่าสงวน รู้ทั้งรู้ว่าทำผิด
    เขายอมไหม? เอาแค่นี้ ก็รู้แล้วว่าปฏิรูป ไม่ใช่ง่ายๆ
     
  11. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    [​IMG]


    จะให้ลงท้ายปฏิรูป ก็โดนม้าแยกร่างแบบ
    ซางหยางนี่ ไม่เอานะ คิดถึงคนทำงานมั่ง
    ไม่ใช่รอตายแล้วมาให้ยศกัน มันไม่ดีหรอก
     
  12. นรมิตร

    นรมิตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    119
    ค่าพลัง:
    +8
    สงครามเศรษฐกิจระหว่างจีนกับญี่ปุ่น


    ตอนนี้จีนกำลังเดินหมากล้อมญี่ปุ่นอยู่
    ญี่ปุ่นกำลังโดนไล่ต้อนให้หาที่ลงทุนใหม่
    ได้ยาก ตั้งตัวไม่ติด ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป
    ขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจในเอเชียเดิมต้อง
    เปลี่ยนจากญี่ปุ่นเป็นจีนแน่นอน


    และนั่นทำให้จีนแข็งแกร่งขึ้นและอันตรายมากขึ้น
    ดังนั้น จำเป็นที่เราจะต้องช่วยญี่ปุ่นเอาไว้ก่อนเพื่อ
    คานดุลยภาพอำนาจในเอเชียไว้
     
  13. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    เรากำลังมองดูสังคม วิ่งเคลื่อนไป เเต่วิถีสุดท้าย ที่คนจะเอาตัวรอดได้ก็คือ วิถีพอเพียง
     
  14. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91
    นายทุนเมื่อเข้าไปประเทศไหนเขาจะไม่ยอมถ่ายทอดเทคโนโลยี
    ให้ง่ายๆหรอกครับ เขาเอาหินมากองแต่เอาขยะมาเทไว้

    ผมชอบประเทศทางยุโรปมากกว่า สร้างนายทุนสัญชาติมาเอง
    เรื่องพวกนี้ขึ้นอนู่กับการปล่อยทุน นะ

    ญี่ปุ่นตอนก่อนสงครามโลกก็ส่งคนของเขาไปร่ำๆเรียนๆที่ยุโรป
    พอกลับมาประเทศก็เอาประดิษฐ์พลิกแพลงแก้ไขให้ดีขึ้นเป็นของ
    ตนเอง พอหมดสงคราม รัฐบาลเทเงินทุน เพื่ออุตสาหกรรมรถยน
    และอุตสาหกรรมหนักโดยเฉพาะ

    ต่างจากประเทศไทยที่เททุนมั่วซั้วให้ไปเก็งที่ดิน บ้าน กันเสยเลย

    คุณ จขกท คห คิดดีนะครับ แต่ลุ้นหนักมากไปหน่อย
     

แชร์หน้านี้

Loading...