หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

สวัสดีครับทุกท่านหลายท่านได้ครอบครองวัตถุมงคลของหลวงปู่ช่างมีวาสนา. โดยเฉพาะพระกร่ิง พระบูชา ล๊อกเก็ต ใครได้อะไรมาลงให้ชมกันบ้างน๊ะคอยติดตามอยู่ครับ

 

โชคดีมากๆเลยครับ เพราะส่วนมากจะเจอแต่เก้านิ้วครับที่แบ่งให้บูชากัน

 

เสียดายจัง รุ่นนี้ยังไม่มีเลยค่ะ เห็นว่าหายากและมีคนตามหาเยอะมาก เท่าที่เคยเห็น(ของคนอื่น) ผ่านตามีแค่3องค์เองค่ะ ขนาดหาดูยังยากเลยค่ะ โชคดีมากๆเลย

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลและรูปภาพพระกริ่งชุดนี้ ไม่ได้ครอบครองแค่เห็นภาพก็เป็นมงคลแก่ชีวิตของกระผมแล้วละครับ สาธุ

 

พระบูชาห้านิ้วและล๊อกเก็ตเยือนอินเดียของหลวงปู่มีบางส่วนไปอยู่ที่ลูกศิษย์ชาวสิงค์โปร์ครับเท่าที่รับรู้มา.....

 

สาธุ ของหลวงปู่อย่าออกนอกประเทศเยอะนัก เดี๋ยวศิษย์ทางนี้จะไม่มีของให้เก็บ ส่วนของหายากที่อยู่ที่คุณกวาวชไมเมื่อไหร่จะมาอยู่ที่ผมบ้างครับ

 

หวัดดีครับพี่บัติสบายดีนะครับช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้มาอัพเดทสักเท่าไหร่แต่ก็ตามมาอ่านเรื่อยๆนะ่ครับ ว่าแต่ของหายากที่พี่บัติพูดถึงนะ่ผมไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหนบ้างป่านนี้ยังหาไม่เจอเลย...หากลับมายากจริงๆ หุหุหุ

 

555ชิ้นที่หากลับมายากผมว่าไม่ต้องก็ได้ครับ ขอชิ้นที่อยู่ที่บ้านอ่ะครับ(deejai)

 

ภาพผงพุทธคุณ เกศา อัฐิอังคารธาตุ มีอยู่ครับผมถ่ายมาเก็บไว้อยู่ เพื่อเอามาลงในกระทู้นี้ ให้ทุกท่านได้เห็นและศึกษากันครับ

 

เอาอะไรดีล่ะครับ เงาะ ทุเรียน มังคุต ลองกองไหมครับ อิอิ :boo:

 

นั่นแหละครับอย่างที่ทุกท่านกล่าว คุณโชคดีมากๆ ผมเองจริงๆแล้วก็มีส่วนช่วยบรรจุมวลสารกับเขาด้วย พอพระได้แจกออกไปเสร็จ ก็หายเงียบไปเลย ไม่เคยเห็นอีกเลยครับ พระชุด 5 นิ้ว หายากจริงๆครับ


ใต้ฐานพระชุดนี้ บรรจุ เกศาองค์หลวงปู่ จีวร พลอยเสก ก้นบุหรี่ที่องค์หลวงปู่สูบเมื่อสมัยก่อนครับ ซึ่งเป็นการสูบบุหรี่รอบสุดท้ายของท่าน ต่อมาท่านก็เลิกสูบ ก้นบุหรี่ก็เลยไม่มีอีกแล้ว ก้นบุหรี่นี้สำคัญมากนะครับ หลวงปู่บอกว่า ให้เก็บเอาไว้ไม่ให้ทิ้ง บุหรี่เสกของท่าน ยักษ์กลัว ผี อมนุษย์ต่างๆไม่กล้าทำอันตรายเลยครับ ตอนแรกผมก็นึกว่า ยักษ์ที่หลวงปู่ท่านบอกนั้นก็คือ ยุงที่ดูดเลือดเรา แต่ท่านบอกว่า ไม่ใช่...!!! ยักษ์ที่ว่านี่ก็ยักษ์จริงๆนี่แหละ ยักษ์ถือกระบองน่ะ



.


.

 

สวัสดีครับคุณ จันท์คับ พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ของหลวงปู่มีรายละเอียดอีกมาก ผมอยากให้ทุกท่านได้ศึกษาเอาไว้ครับ ไม่แน่นะครับถ้าถึงเวลาจริงๆ คุณอาจจะได้มาแบบบังเอิญก็ได้นะครับ พระขององค์หลวงปู่มักจะอยู่กับผู้ที่ศรัทธาจริงๆ และมักจะมาแบบไม่คาดฝันเสมอ ถ้าไม่มีพระกริ่งก็หาพระชัยวัฒน์ ไม่มีชัยวัฒน์ก็หาอะไรก็ได้ของท่าน ดีทั้งนั้นหละครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล มากครับ อันนี้จริงๆ ผมเคยเห็นคนที่สิงคโปร์ และชาวฮ่องกง มากราบองค์หลวงปู่ท่านที่วัด และที่โรงพยาบาลบ่อยๆครับ แต่ละคนก็ใส่พระของท่านกันทุกคน

 

ต่อนี้ไปคือประมวลภาพชนวน-มวลสาร และพิธีกรรมในการสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี และแหวนมหามงคล..

ชนวนสำคัญต่างๆ





<!-- google_ad_section_end -->

 

ส่วนหนึ่งของชนวนโลหะ และแผ่นยันต์ 108 นะปถมัง 14(บังคับ) และแผ่นยันต์ต่างๆ มากมาย

 

พิธีเททองพระกริ่ง-ชัยวัฒน์ ธัมมะจารี และแหวนมหามงคล

 

นวะโลหะตามสูตรบังคับ
ต้องประกอบด้วยโลหะทั้ง 9 ชนิดตามนี้ครับ


<!-- google_ad_section_end -->
1.ชิน



2.จ้าวน้ำเงิน




3.เหล็กละลายตัว



4.บริสุทธิ์



5.ปรอท



6.สังกะสี เป็นโลหะธาตุที่ไม่จำเป็นต้องหามาใส่เลย เพราะว่าในทองเหลืองก็จะมีสังกะสีเป็นส่วนประกอบสำคัญอยู่แล้วครับ



7.ทองแดง



8.เงิน



9.ทองคำ



ซึ่งพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี และแหวนปลอกมีดมหามงคลนี้ ได้มีส่วนผสมแร่ธาตุโลหะทั้ง 9 ชนิดครบถ้วนตามตำรากำหนดทุกประการ ซึ่งเป็นการยากมากๆ ที่จะหาแร่ธาตุโลหะทั้ง 9 ชนิดมาประชุมกันได้ครบ ส่วนมากที่ทำกันจะขาดจ้าวน้ำเงิน และบริสุทธิ์ ครับ



.

 

Lord of The ring....

 

นวโลหะ

ความหมายของ นวโลหะ
สิทธิการิยะ ครูบาอาจารย์เจ้าครั้งบรมครูแต่เก่าก่อน เล่นแร่แปลธาตุ ได้ประดิษฐ์ ประสมสูตรโลหะอาถรรพ์สัมฤทธิ์เอาไว้หลายอย่างด้วยกัน อันมี
ไตรโลหะสัมฤทธิ์
ปัญจโลหะสัมฤทธิ์
สัตตโลหะสัมฤทธิ์
และ นวโลหะสัมฤทธิ์
นวะ มาจากศัพท์ทางบาลีคือ.. นวะ แปลว่า 9 ฉะนั้นนวโลหะก็คือ โลหะทั้ง 9 ชนิดนั่นเอง ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อนำโลหะอาถรรพ์ทั้ง 9 ชนิดมาประชุมรวมกันแล้ว จะได้สุดยอดโลหะซึ่งเป็นสิ่งมงคลอาถรรพ์ชั้นสูง สามารถรับกระแสพลังงานธาตุ และพลังจักรวาลต่างๆได้ดี และเมื่อท่านเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญในอิทธิคุณและวิชา ได้เสกอัดพลังลงไป โลหะเหล่านี้ก็จะสามารถตอบสนองกับพลังงานจิตเหล่านั้น ให้เพิ่มพูนมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ขึ้นได้เป็นทวีคูณอย่างที่เรียกกันว่าการ ปลุกธาตุ ตั้งธาตุ หนุนธาตุ ซึ่งก็เปรียบเสมือนตัวรับประจุพลังงานทางจิตอันยอดเยี่ยม กว่าโลหะธรรมดาๆ ยิ่งได้มีการเพิ่มเติมชนวนมวลสารสำคัญที่ศักดิ์สิทธิ์ลงไปด้วย ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงในด้านพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์เป็นที่สุด แต่ทว่า..พลังงานเหล่านั้นหากได้นำมาประชุมรวมกันกับโลหะอาถรรพ์ จะได้ผลออกมาอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับกำลังจิต และความเป็นทิพย์ของท่านเหล่านั้นด้วย ซึ่งหากท่านครูบาอาจารย์ผู้นั้นเป็นผู้รู้จริงทั้งศาสตร์วิชาและคุมธาตุเก่งด้วยแล้ว ของนั้นก็จะมีผลไปในทางที่ดี ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับญาณความรู้ของเกจิอาจารย์เหล่านั้นเองด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดซับซ้อนมาก เพราะเป็นธรรมดาถ้าสิ่งที่ดีหลายๆที่ ยิ่งมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีพลังงานสะสมมากเท่านั้น แต่พลังเหล่านั้นจะไม่โดดเด่นไปทางใดทางหนึ่ง ท่านเกจิเหล่านั้นจึงจำเป็นต้องมีองค์ความรู้ ความสามารถอย่างแตกฉานในการคุมธาตุ ตั้งธาตุ และปรับกระแส คล้ายกับการจัดเรียงประจุให้อยู่ในรูปแบบของสิ่งที่ท่านต้องการ อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อเกิดอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์หรือสิ่งที่เหนือธรรมชาติได้

และผู้ที่ทำสิ่งเหล่านั้นได้ดีที่สุด ก็ต้องเป็นผู้ที่มีญาณตบะ บารมี และอิทธิวิธีอันแก่กล้าทรงไว้ด้วยจตุปฏิสัมภิทาญาณอันบริบูรณ์ พร้อมด้วยความบริสุทธิ์แห่งดวงจิตที่อยู่เหนือกิเลศสิ่งสมมุติและเครื่องเศร้าหมองทั้งปวง นั่นคือ ดวงจิตอันเป็นบริสุทธิคุณแห่งพระอรหันต์ผู้อยู่เหนือโลก ผู้ไม่มีกิเลศและความทุกข์ทั้งปวง ผู้มีแต่ความสุขอันเกษม และมีจิตเมตตาเป็นวิหารธรรมอยู่เสมอ ท่านเหล่านั้นมีอยู่ที่ใดก็จะสามารถสงเคราะห์ผู้คนในทางธรรมได้อย่างดีที่สุด..

ยิ่งถ้าได้การอธิษฐานฤทธิ์บารมี ของพระผู้ทรงไว้ซึ่งบุญญามหาบารมีอันแก่กล้าอย่างอเนกอนันต์ เฉกเช่นพระอริยะมหาโพธิสัตว์เจ้าผู้เป็นตนบุญด้วยแล้ว จะยิ่งทวีความรุนแรงในด้านของอิทธิคุณ ฤทธิคุณ อย่างไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนได้เลย เพราะท่านพระอริยะมหาโพธิสัตว์เหล่านั้นมีอยู่ที่ใด ท่านย่อมสงเคราะห์ผู้คนในทางโลกได้อย่างดีที่สุด..



.

 

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี และแหวนมหามงคล ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ เพื่อให้สิ่งมงคลเหล่านี้ยังประโยชน์ให้เกิดกับพระศาสนา และศาสนิกชนอย่างสูงสุด เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าที่สุดในประวัติศาสตร์พระเครื่องแห่งดินแดนบูรพา ที่ผมต้องหยิบยกข้อความต่างๆเหล่านี้ขึ้นมาเขียนบรรยายถึงคุณค่าอย่างเลิศหรูก็เพื่อต้องการให้ทุกท่านรู้สึกตามที่ผมได้รู้สึกถึงคุณค่าอย่างที่เป็นเช่นนั้นจริงๆ และตอนที่ก่อนจะทำการหล่อพระชุดนี้ องค์หลวงปู่ท่านก็มีความสนใจอยากให้ออกมาดีที่สุดสมดังเจตนารมณ์ขององค์ท่าน เพราะโดยปกติแล้ว องค์หลวงปู่ท่านมีความศรัทธาต่อ องค์พระมหาไภสัชยะคุรุพุทธเจ้า และองค์พระมหาอุปคุตเถระเป็นทุนอยู่แล้ว ยิ่งพระกริ่งชุดนี้ได้ออกแบบมาให้มีลักษณะเด่นขององค์พระทั้งสองที่ท่านนับถือด้วย คือ องค์พระนั้นได้ออกแบบมาเป็น องค์พระมหาไภสัชยะคุรุพุทธที่พระหัตถ์ทรงหม้อน้ำพุทธมนต์ และพระหัตถ์ขวาทรงดอกบัวคล้ายกับพระมหาอุปคุต หากมองเผินๆ ก็คล้ายกับพระกริ่งอุปคุต แต่หากมองดีๆก็คล้ายกับพระกริ่งจีน นั่นเป็นลักษณะพิเศษของพระกริ่งชุดนี้

แม้แต่วันเททององค์หลวงปู่ท่านก็ยังเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุด มาเป็นผู้เทพระของท่านนี้ด้วยองค์เอง และยังมอบไม้เท้าคู่กายที่ใช้มาหลายสิบปีให้แด่ท่านครูบาองค์นั้นเพื่อใช้ในการเททองวัตถุมงคลชุดนี้ด้วยด้วย ทั้งๆที่สมัยก่อนนั้นศิษย์ผู้ที่ประสานงานได้มีความคิดที่จะนิมนต์พระเถระผู้มีอาวุโสภันเต ให้มาในวันพิธีเททองแทนองค์หลวงปู่ ซึ่งมีความคิดในใจเอาไว้ถึงพระเถระผู้มีอาวุโสภันเตถึง 3 รูปด้วยกัน แต่สุดท้ายองค์หลวงปู่ท่านก็เลือกพระผู้ที่เหมาะสมที่สุดจริงๆ ด้วยองค์เอง และก็น่าแปลกเป็นที่สุด พระผู้มีอาวุโสที่ตั้งใจไว้เหล่านั้นก็ไม่อาจมาได้เลยทั้ง 3 องค์ สุดท้ายก็เหลือผู้ที่เหมาะสมที่สุดจริงๆ เพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ ท่านครูบากฤษดา สุเมโธ ตนบุญแห่ง จ.ลำพูน พระผู้ที่องค์หลวงปู่กล่าวชมถึงด้วย เป็นพระมหาโพธิสัตว์ผู้มากด้วยบารมีที่สูงยิ่ง ต่อไปท่านจะมีความสำคัญมาก ให้นิมนต์ท่านมาเป็นผู้เทพระชุดนี้แทน ทุกอย่างจึงลงตัวที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน



.