ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    ดีใจจังใช้ได้แล้ว ขอขอบพระคุณทางทีมงานเวปพลังจิตทุกท่านครับ

    [​IMG]
    แนะอย่าตื่นตระหนก หลังไม่มีหลักฐานชี้ชัด ลั่นหากเกิดจริงก็พร้อมรับมือ
    4 มิ.ย. 54 รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวจังหวัดระนองต่างต้องแตกตื่นกันทั่วเมือง เมื่อพระกัมมัฏฐาน ปวตฺตโน แห่งสำนักสงฆ์ป่าถ้ำธารน้ำลอด จังหวัดชุมพร ได้ทำหนังสือเวียนแจ้งเตือนชาวภาคใต้ให้ระวังภัยสึนามิครั้งใหญ่ ในช่วงระหว่างวันที่ 4-15 มิถุนายนนี้
    โดยหนังสือเวียนดังกล่าวได้ระบุว่า จะเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินยุบตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้ ขณะที่ภาคใต้ของไทยในปีนี้จะเกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ 3 ระลอก ซึ่งระลอกแรกจะเกิดในช่วงวันที่ 4-15 มิถุนายน พ.ศ.2554
    โดยจะเกิดแผ่นดินไหวในทะเลอันดามันแถบประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 5 ทุ่ม และจะเกิดคลื่นสึนามิที่รุนแรงกว่าที่เกิดเมื่อปี พ.ศ.2546 พัดพาเข้าสู่ชายฝั่งประเทศไทยเวลาประมาณ 02.50 นาที ส่งผลกระทบต่อ 6 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ภูเก็ต ตรัง พังงา สตูล และระนอง
    ด้านนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ก็ได้ออกมาขอร้องประชาชน และนักท่องเที่ยวอย่าตื่นตระหนกกับข่าวลือดังกล่าวแล้ว ภายหลังมีชาวบ้านหลายครอบครัวได้ขายที่หนีไปอยู่ที่อื่น
    ไม่มีใคร หรือเครื่องมือใดจะสามารถพยากรณ์เหตุแผ่นดินไหว และสึนามิล่วงหน้าได้


    [​IMG]
    เผยพบผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 57 เร่งอพยพประชาชนว่า 2 หมื่นหนี
    4 มิ.ย.54 สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า ที่รัสเชียได้เกิดหตุระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ก่อนเกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งระหว่างไฟลุกไหม้ก็มีเสียงระเบิดเป็นระยะ ๆ เนื่องจากเป็นที่เก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ กว่า 1 หมื่นตัน
    ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 57 คนต้องอพยพประชาชนใกล้เคียงกว่า 28,000 คน และทำให้กระจกหน้าต่างบ้านเรือนในละแวกนั้นแตกกระจายเสียหายจำนวนมาก ซึ่งหตุดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกราว 1,200 กิโลเมตร นับเป็นเหตุคลังแสงระเบิดครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึงสัปดาห์
    Mthai news
    <EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=480 src=http://www.youtube.com/v/gzxkZMx4koY?version=3&hl=th_TH allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] ปภ.เตือน15จังหวัดรับมือภาวะฝนตกหนัก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อธิบดี ปภ.เตือนชาวบ้านพื้นที่เสี่ยง15จังหวัด เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก ดินถล่ม น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมฉับพลัน


    วันนี้ (3มิ.ย.) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวเตือน ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวม 15 จังหวัด ได้แก่ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง เตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักในช่วงระหว่างวันที่ 3-7 มิ.ย.นี้

    ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม โดยเฉพาะที่ลาดเชิงเขา และใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ต้องหมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ เช่นน้ำในลำธารเปลี่ยนสีเป็นสีเดียวกันกับดินบนภูเขา สัตว์ป่าแตกตื่น มีเสียงดังอื้ออึงจากป่าต้นน้ำ ฝนตกหนักนานเกินกว่า 6 ชั่วโมง ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตร ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มขึ้นได้ ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ในทันที ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> เด็กจีนขายไตหาเงินซื้อไอแพด </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>กระแสความต้องการไอแพดของวัยรุ่นจีน ทำให้เด็กหนุ่มจีนวัน 17 ปี ยอมขายไตตัวเอง เพื่อนำเงินไปซื้อไอแพด2


    เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุน่าตกใจเมื่อ นายเจิง เด็กหนุ่มชาวจีน อายุ 17 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลอานฮุย ยอมขายไตเพื่อนำเงินไปซื้อไอแพด 2

    โดย นายเจิง ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า เขาต้องการซื้อไอแพด 2 แต่ไม่มีเงิน เมื่อเห็นโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตว่าจะจ่ายเงินให้ 2 หมื่นหยวน หรือประมาณ 1 แสนบาทเป็นค่าไต เขาจึงติดต่อกับนายหน้าทางอินเทอร์เน็ต หลังจากตกลงกันเรียบร้อย นายเจิงจึงเดินทางไปยังเมืองเฉินโจว ในมณฑลหูหนาน เพื่อผ่าตัดไตที่โรงพยาบาลท้องถิ่น โดยการผ่าตัดเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากใช้เวลาพักฟื้น 3 วัน นายเจิงจึงกลับบ้านพร้อมเงิน 22,000 หยวน หรือราวๆ 110,000 บาท

    การกระทำของ นายเจิงไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง เมื่อกลับบ้าน นางลิว ผู้เป็นมารดาได้สอบถามว่า นายเจิงซื้อไอแพด 2 มาได้อย่างไร


    นายเจิงจึงสารภาพเรื่องราวทั้งหมด นางลิวจึงแจ้งตำรวจเพื่อหวังหยุดขบวนการนี้ แต่เมื่อพยายามติดต่อนายหน้า กลับพบว่าโทรศัพท์มือถือของนายหน้าถูกปิด ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อสอบถามไปยังโรงพยาบาลก็ได้รับคำตอบว่าไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะแผนกที่ดำเนินการผ่าตัดได้รับการติดต่อจากนักธุรกิจคนหนึ่ง

    อย่างไรก็ตาม การค้าอวัยวะทางอินเทอร์เน็ตถือเป็นเรื่องปกติในประเทศจีน แม้รัฐบาลจะพยายามหยุดยั้งการกระทำนี้ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    สาธุ สาธุ สาธุ ขอขอบพระคุณทีมงานเวปพลังจิตทุกท่านที่ได้ทำการกู้ข้อมูลและเวปบอร์ดได้กลับมาให้ติดตามข่าวสารอีก
    ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้ที่เข้ามาโพสข่าวต่างๆทุกท่าน ขอให้สุขกายสุขใจค่ะ

    ขออนุญาตเพื่มเติมข่าวเรื่องเชื้ออีโคไลที่ระบาดอยู่ในยุโรปตอนนี้ ดิฉันอยู่ประเทศเบลเยี่ยม โชคดีที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และไม่มีคนติดเชื้อเพิ่มเติมในประเทศที่กระทบ แต่ยังไม่สามารถตรวจได้ว่าเชื้อนั้นมาจากอะไรแน่ ตั้งแต่ได้ดูข่าวและติดตามมาทุกวัน เกิดความรู้สึกหลายอย่างคละเคล้ากันในเวลาเดียวกันที่ได้รับฟังและดูข่าว ทั้งเศร้าใจและกลัว เมื่อเห็นภาพผัก (แตงกวาและมะเขือเทศ) ที่ยังสดๆ และปลอดภัย ที่เพิ่งเก็บมาจากสวน เป็นภูเขาน้อยๆหลายลูกที่ต้องทำลายทิ้ง ทั้งๆที่อีกซีกโลกหนึ่ง หรือแม้แต่ในประเทศนี้ยังคนอีกมากมายที่ต้องไปขอแบ่งอาหารจาก ธ.อาหาร และในอนาคตข้างหน้า คงจะมีสักวันที่ผู้คนจะไม่มีอะไรกิน

    สงสารชาวสวนมาก หากเหตุการณ์นี้ยังไม่คลี่คลาย คงต้องสิ้นเนื้อประดาตัวกันไปบ้าง แถมอีกเรื่องที่อาจเป็นสาเหตุให้ชาวสวนล้มละลายคือ อากาศที่ร้อนและแห้งอย่างยาวนาน ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงวันนี้ ฝนตกนับวันได้ ดินแตกระแหง ทำให้มันฝรั่ง ข้าวโพด(ให้สัตว์กินหน้าหนาว) และผักอื่นๆที่จะออกผลภายในสองเดือนข้างหน้า แห้งเฉาตายไปแล้วกว่าครึ่ง
    ดิฉันเองปลูกผักสวนครัวกินเล็กน้อยยังต้องให้น้ำสองครั้งต่อวันและก็รับน้ำล้างจานไว้รดผัก ธรรมชาติที่เกิดขึ้นตอนนี้คงมาเตือนมนุษย์ครั้งสุดท้ายให้เตรียมความพร้อมจริงๆ

    ขอให้ทุกท่านเตรียมกายเตรียมใจกันทุกวินาทีนะค่ะ

    บุญรักษาค่ะ
     
  4. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    ส่วนมากไม่เข้าใจในคำร้องแต่เข้าใจเรื่องการเสพอารมณ์...เป็นคำที่ฟังแล้วลึกๆๆๆ...เลิกเสพอารมณ์ได้..จึงเลิกเกิดแลิกแก่เลิกตาย....อนุโมทนาครับ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "คลื่นมนุษย์ 800 ล้านคน"จากประเทศจีน กำลังอดอยากขาดแคลนอาหาร!!!
    จีนก้าวกระโดด By โดย บิล แม็กคิบเบน

    [​IMG]

    ผมอยากไปดูด้วยตัวเองว่า การขยายตัวอย่างไร้ทิศทางจะส่งผลอย่างไร และทุกสิ่งก็เกินความคาดหมาย

    ระหว่างนั่งเครื่องบินจากนิวเจอร์ซีย์ไปกรุงปักกิ่ง ผมบังเอิญอ่านพบบทความนี้ในหนังสือพิมพ์ไชนาเดลีย์ "รายงานข่าวแจ้งว่า ที่กรุงปักกิ่ง ช่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศหลายคนเสียชีวิตเพราะตกจากที่สูง เนื่องจากขณะนี้ คลื่นความร้อนแผ่เข้าปกคลุมทั่วประเทศ เครื่องปรับอากาศจึงขายดี ส่งผลให้หลายบริษัทขาดแคลนช่างผู้ชำนาญในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ผู้ประกอบการบางรายแก้ปัญหาด้วยการรับคนงานที่ไม่ผ่านการฝึกมาทำงานชั่วคราวเพราะถือคติน้ำขึ้นต้องรีบตัก...(บางราย)ถึงกับไม่จัดหาเข็มขัดนิรภัยให้คนงานเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย"

    บทความนี้นอกจากจะน่ากลัว เนื้อหายังสะท้อนภาพเมืองจีนในใจผมได้อย่างชัดเจน ผมจึงฉีกบทความนี้จากหนังสือพิมพ์แล้วเก็บเข้าแฟ้ม ผมมีแฟ้มส่วนตัวที่อัดแน่นด้วยเรื่องราวของเมืองต่างๆในจีนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอกสีดำขมุกขมัว หรือโรงงานที่จ่ายค่าแรงถูกเยี่ยงทาส กลุ่มคนบริโภคนิยมที่หมกมุ่นกับการซื้อรถโดยไม่คำนึงถึงผลเสียด้านสิ่งแวดล้อม ผมอยากไปเห็นด้วยตัวเองว่าสภาพการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร จะได้กลับมาเล่าต่อได้ถูกต้องถึงผลของการพัฒนาที่ไร้ทิศทาง

    อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่แท้จริงในการเขียนรายงานเกี่ยวกับสถานที่ใดสถานที่หนึ่งคือไม่มีเรื่องไหนถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด ไม่ใช่เพราะมุมมองในเรื่องนั้นผิด จริงอยู่ว่าในเมืองจีนมีเรื่องเล่านับไม่ถ้วนเกี่ยวกับสภาพโรงงานที่เลวร้าย การละเมิดสิทธิมนุษยชน การทุจริตในระดับต่างๆ และการทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ความจริงไม่ได้จบลงแค่นั้น

    วันที่สามในจีน ผมปีนขึ้นไปนั่งในรถโฟล์กสวาเกนรุ่นเจตตาซึ่งขับโดยนักออกแบบซอฟต์แวร์ชื่อเหวิน เจียะ ผมรู้จักเขาผ่านเพื่อนอีกที เราสองคนมุ่งหน้าไปเขตอุตสาหกรรมหรงเฉิงทางตะวันตกเฉียงใต้ของปักกิ่ง ที่นี่เป็นเขตชนบทที่มีโรงงานหนาแน่นมากและมีทางหลวงแผ่นดินเชื่อมกับเมืองเทียนสินได้ด้วย เทียนสินเป็นที่ตั้งของท่าเรือขนาดใหญ่ที่สุดในจีน เหวิน เจียะพาผมไปที่โรงงานผ้าม่านห้องน้ำชื่อเฮอเป่ย หรงเฉิง เล่อ เจีย ผมพบกับเป่า จีจวิน เจ้าของโรงงานวัย 40 เศษ รูปร่างสูงเพรียวและท่าทางเอาการเอางาน เขาเริ่มทำธุรกิจเล็กๆในอพาร์ตเมนต์ที่ปักกิ่งเมื่อสามปีที่แล้ว ภายในหนึ่งปี เขาก็มาเช่าโรงงานแห่งนี้ ตอนนี้มีคนงานประมาณ 100 คน เป่าพาผมเดินดูห้องทำงาน คนงานส่วนใหญ่อายุระหว่าง 18 ถึง 22 ปี ขะมักเขม้นกับการยกม้วนผ้าโพลีเอสเตอร์ยาวๆลื่นๆมาวางบนโต๊ะขนาดใหญ่มาก จากนั้นก็เย็บริมและเจาะรูตาไก่ ผ้าม่านที่ทำเสร็จแล้วจะบรรจุใส่ถุงพลาสติกและเรียงใส่กล่อง

    เนื่องจากอากาศช่วงนี้ร้อนมาก คนงานจะทำงานตั้งแต่ 7.30 น. ถึง 11.30 น. พักกลางวันแล้วกลับมาทำงานอีกครั้งตอน 15.00 น. ถึง 19.00 น. เราเยี่ยมชมการทำงานได้ไม่กี่นาทีก็ถึงเวลาพักกลางวัน ทุกคนกรูกันไปที่โรงอาหาร วันนั้นมีข้าวกับถั่วลันเตา ต้มมะเขือ เกี๊ยว และน้ำซุปชามใหญ่ ทั้งหมดนี้ราคา 1.7 หยวนหรือประมาณแปดบาท

    ขณะทุกคนกินอาหารกลางวัน เราก็เดินต่อไปที่ห้องนอนในหอพักสำหรับคนงานหญิง แต่ละห้องมีเตียงสองชั้นสี่หลัง เตียงหนึ่งเอาไว้เก็บกระเป๋าและเสื้อผ้า ที่เหลือสำหรับนอน แต่ละห้องมีเด็กสาวอยู่รวมกันประมาณสี่ถึงห้าคน ในห้องมีโต๊ะสำหรับใช้ร่วมกันหนึ่งตัว พัดลมเพดานหนึ่งตัว ถัดจากห้องนอนก็เป็นห้องพักผ่อนซึ่งมีโทรทัศน์จอยักษ์หนึ่งเครื่อง และห้องถัดไปมีโต๊ะปิงปองหนึ่งตัว "คนงานคนไหนสามารถเอาชนะผมได้ จะได้เบียร์หนึ่งขวดเป็นรางวัล" เป่าเล่า

    คนงานกว่าครึ่งมาจากมณฑลเดียวกับเป่า เถ้าแก่หนุ่มอนุญาตให้ผมสัมภาษณ์คนงานได้ตามสบาย ตู้เผ้ยถังเป็นเด็กหนุ่มขี้อายวัย 20 ยิ้มของเขาดูซื่อ ดวงตาแจ่มใส เขาได้เงินเดือนประมาณ 1,000 หยวน ทำงานได้ไม่ถึงสองปี เขาก็เก็บเงินได้ 12,000 หยวน ตู้เล่าว่าอีกปีหรือสองปีก็คงเก็บเงินได้มากพอจะสร้างบ้านหลังเล็กๆที่บ้านเกิดและแต่งงาน ส่วนหลิว เซี่ย เด็กสาววัย 18 เล่าว่าอยากช่วยให้พี่ชายเรียนจบมหาวิทยาลัย ที่จริง พี่ชายของหลิวเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซานตงเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้โดยอาศัยเงินรายได้ของเธอจากโรงงานแห่งนี้นั่นเอง

    นี่ผมพลัดหลงเข้าไปในโรงงานดีเยี่ยมที่สุดในจีนหรือไม่ สถิติบอกไม่ใช่หรือว่าคนงานจีนสูญเสียนิ้ว แขน หรือมือเพราะอุบัติเหตุในโรงงานปีหนึ่งหลายหมื่นคน ซึ่งในเรื่องนี้เป่ากล่าวว่า เขาคิดว่าโรงงานในเมืองจีนประมาณร้อยละ 70 ถึง 80 มีสภาพการทำงานคล้ายกับโรงงานของเขา เหตุผลหนึ่งที่โรงงานไม่เอาเปรียบลูกจ้างก็เพราะเถ้าแก่เป็นคนดี อีกเหตุผลคือผ้าม่านห้องน้ำที่เขาผลิตนั้นส่งไปขายในร้านไอเคีย บริษัทใหญ่แห่งนี้จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโดยไม่แจ้งล่วงหน้าปีละหลายหน สิ่งที่ไอเคีย ให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือสภาพความเป็นอยู่ของคนงาน โดยใส่ใจกับรายละเอียดขนาดนับจำนวนห้องน้ำที่มีให้คนงาน เมื่อแนะนำให้แก้ไขสิ่งใด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเหล่านี้จะผลักดันให้มีการปรับปรุงไปเรื่อยๆ "ซึ่งทำให้ต้นทุนสูงขึ้นแต่ผมก็ยินดี เพราะถือว่าสิ่งที่เขากำหนดให้ปรับปรุงนั้นเป็นการช่วยยกระดับโรงงานให้ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับโรงงานในประเทศที่พัฒนาแล้ว" เป่ากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

    ผมเริ่มมองเห็นภาพความเปลี่ยนแปลงในเมืองจีนรางๆเมื่อเห็นกิจการของโรงงานแห่งนี้กับอีกหลายแห่ง แต่พอไปเยือนเมืองอี้อูในช่วงท้ายๆของการเดินทาง ผมถึงเริ่มเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าธุรกิจผลิตสินค้าของจีนมีพลังมากมายเพียงไร เมืองอี้อูเป็นที่ตั้งของนครการค้านานาชาติที่จะทำให้คุณตกตะลึงราวกับได้ไปเยือนกำแพงเมืองจีน แม้จะสร้างเสร็จเพียงร้อยละ 40 แต่ก็มีอาคารใหญ่สองหลังยืนตระหง่าน มีผลงานยืนยันว่าสินค้าทุกอย่างที่ผลิตในโลก คนจีนสามารถผลิตได้ถูกกว่า

    ตัวอย่างเช่น ในแผนก "กระเป๋าเดินทางและกระเป๋าถือ รวมทั้งกระเป๋านักเรียน" มีแผงกว้างสามเมตรยาวสี่เมตรประมาณ 800 แผง แต่ละแผงเป็นตัวแทนของแต่ละโรงงาน ผู้ประกอบการทุกโรงงานจัดร้านอย่างสวยงามเพื่อดึงดูดลูกค้าด้วยความหวังว่าจะได้รับคำสั่งซื้อสักสิบ หรือ 20 หรือ 30,000 ใบ แผนกกระเป๋านี้กินพื้นที่แค่ครึ่งชั้น ส่วนพื้นที่ชั้นบนทั้งหมดเป็นสินค้า "เครื่องมือหนักและ อุปกรณ์ตกแต่ง" พูดง่ายๆคือมีตั้งแต่แม่แรงรถยนต์ไปถึงเครื่องขูดเนยแข็ง

    ที่อาคารหนึ่งมีร้าน "ของเล่นทั่วไป" หลายร้อยแผง เดินไป 20 นาทีก็หลุดเข้าไปในแผนก "ของเล่นไฟฟ้า" จากนั้นเป็นแผนก "ของเล่นแบบเป่าขยาย" สุดท้ายคือแผนกใหญ่ที่สุด "ของเล่นทำด้วยผ้า" ชั้นต่อมาแบ่งระหว่างดอกไม้ประดิษฐ์และเครื่องประดับผม ขึ้นไปอีกชั้นเป็นแผนก "ของที่ระลึก" มีสินค้ากิฟต์ช็อปทุกอย่างที่มีอยู่ในโลก

    เมื่อได้มาเยือนนั่นแหละ ผมถึงเข้าใจสิ่งที่ตัวเองได้อ่านได้เห็นมาก่อนหน้านั้น ตัวอย่างเช่น ชุนหมิงเป็นเมืองชนบทเล็กๆอยู่บนเนินเขาในมณฑลเสฉวน ผู้ชายส่วนใหญ่ในเมืองนี้ทำงานในเหมืองแร่ถ่านหินชั่วคราว ทุกคนต้องพยายามให้แคล้วคลาดจากการเป็นเหยื่อของเหตุเหมืองถล่มหรือระเบิด แต่ละปี ในจีนมีคนงานเหมืองเสียชีวิตเพราะเหมืองแร่ระเบิดประมาณ 6,000 คน สถานที่แห่งนี้น่ากลัวไม่น้อยทีเดียว

    ล่ามพาผมไปเดินรอบๆย่านที่อยู่อาศัยซึ่งมีอาคารหลังหนึ่ง ในนั้นมีคนอาศัยอยู่ร่วมกันราวเจ็ดแปดครอบครัว ผมเห็นหมูหลายตัวนอนอยู่ในห้องติดกับห้องครัว หนึ่งในสมาชิกที่อาศัยอยู่ในอาคารแห่งนั้นคือ จ้าว หลินเทา เด็กหญิงวัย 12 ขวบพูดภาษาอังกฤษตามที่ได้เรียนจากโรงเรียนในหมู่บ้านอย่างภาคภูมิใจ แต่พอเราถามเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ หนูน้อยก็น้ำตาร่วง แม่เธอไปทำงานที่โรงงานในเมือง ทิ้งให้เธอกับน้องสาวอยู่กับพ่อซึ่งชอบทุบตีสองคนพี่น้อง รัฐบาลจัดการศึกษาขั้นต้นจนถึงมัธยมสามแบบให้เปล่า หลังจากนั้นนักเรียนต้องจ่ายค่าเล่าเรียน

    เรื่องของจ้าวเป็นเพียงตัวอย่างชีวิตนักเรียนเกือบ 500 ล้านคนในจีน นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงกล่าวกันว่าการอพยพย้ายถิ่นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติกำลังเกิดขึ้นในจีน ทุกปีจะมีประชากรหลายร้อยล้านคนหนีความอดอยากสิ้นหวังในพื้นที่เกษตรกรรมมุ่งหน้าไปทำงานที่โรงงานทั้งหลายซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของอี้อู

    กระนั้นก็ตาม ประชากรในชนบทยังจัดว่าหนาแน่นมาก ความจริงแล้ว สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจไม่ใช่ความหนาแน่นของประชากรในเขตเมือง แต่เป็นความแออัดในเขตชนบท ไร่นาในหลายๆเมืองมีพื้นที่เฉลี่ยไม่ถึงครึ่งไร่ แต่มีประชากรดำรงชีพประมาณ 800 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 60 ของประชากรจีนทั้งประเทศ รายได้เฉลี่ยของชาวชนบทตกอยู่ประมาณหนึ่งในสามของรายได้ชาวเมือง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่สหประชาชาติจะทำนายว่า ในปี 2573 ชาวจีนกว่าร้อยละ 60 จะย้ายไปอยู่ในเมือง

    ถ้าต้องการชะลอการหลั่งไหลเข้าไปอยู่ในเมืองก็ต้องหามาตรการยกระดับรายได้ของชาวชนบท ซึ่งขณะนี้มีผู้พยายามลงมือแล้ว ตัวอย่างเช่น เหริน ซูผิง อาศัยอยู่นอกเมืองเฉินตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน เมื่อปี 2527 เขาเป็นเพียงชาวนาจนๆซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากไฮเฟอร์อินเตอร์เนชันแนล องค์กรการกุศลเพื่อพัฒนาชนบทจากสหรัฐฯแห่งนี้มอบกระต่าย 48 ตัวให้เขาพร้อมกับอบรมวิธีเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ "ทีแรกผมไม่เชื่อหรอกว่าจะได้ของฟรี เหมือนสวรรค์เมตตาแท้ๆ" เขากล่าว

    ภายในไม่กี่ปี เหรินก็กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านเมื่อประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์กระต่ายขาย แถมยังเลื่อมใสในอุดมการณ์ของไฮเฟอร์อินเตอร์เนชันแนลซึ่งเน้นการแบ่งปันความมั่งคั่ง ไม่นาน เขาก็นำกระต่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ 20 ตัวไปแจกให้ชาวไร่ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการกับเขา นอกจากนี้ยังสร้างโรงเรียนฝึกอบรมการเลี้ยงเพาะพันธุ์กระต่าย ซึ่งโครงการไฮเฟอร์ระบุว่ามีชาวไร่ชาวนาผ่านการอบรมไปแล้วราว 300,000 คน "เพียงสองหรือสามปี คุณก็สามารถมีรายได้ปีละ 10,000 หยวน"

    แต่โครงการอย่างไฮเฟอร์ช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่มีพลังเหนือกว่าคือแรงผลักดันของเขตชนบทที่แออัดกับแรงดึงดูดของเขตเมืองซึ่งเต็มไปด้วยโอกาสดีๆในชีวิต คืนหนึ่งซึ่งอากาศร้อนอบอ้าว ผมขับรถจากกลางกรุงปักกิ่งไปที่หมู่บ้านซึ่งเมื่อก่อนเป็นชนบทเล็กๆ แต่ตอนนี้แวดล้อมด้วยเมืองใหญ่และเป็นที่อยู่ของแรงงานอพยพ หลายหมื่นคน รถเราแล่นเรื่อยๆไปตามถนนในหุบเขาจนไปถึงบ้านของเชา จ่งหลง วัย 57 เขามาจากมณฑลเจียงซีตั้งแต่ปี 2530

    "หมู่บ้านของเราอดอยากมาก" เขากล่าว "เนื้อสัตว์ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่"

    ญาติของเชาเริ่มตั้งทีมก่อสร้าง หน้าที่ของเชาคือปั่นสามล้อซึ่งมีอุปกรณ์ก่อสร้างไปส่ง ไม่นานเขาก็เรียนรู้วิธีปูกระเบื้อง ต่อด้วยการฉาบปูนและทาสี เขาเริ่มธุรกิจของตัวเองและเก็บเงินสร้างบ้านได้สองหลัง ให้แม่อยู่หลังหนึ่ง อีกหลังปล่อยเช่า เมื่อปีที่ผ่านมา ลูกสาวคนที่สองของเชาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ตอนนี้ทำงานอยู่ในบริษัทเภสัชกรรมแห่งหนึ่ง เงินเดือนเริ่มต้น 2,400 หยวน ผมถามว่าตอนลูกคนนี้เกิด เขาคิดไหมว่าลูกจะมีโอกาสเข้ามหาวิทยาลัย เชามองหน้าผมแล้วหัวเราะ

    อยู่กรุงปักกิ่งไม่กี่วัน ผมก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมสังเกตการณ์งานประชุมประจำปีของสมาคมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ผู้ร่วมประชุมกว่า 40 คนเข้าไปอัดกันอยู่ในห้องประชุมซึ่งร้อนอบอ้าว อวิน เจียนหลี อดีตข้าราชการจากมณฑลหูเป่ย์ นำภาพที่นักรณรงค์ในกลุ่มของเธอผนึกกำลังกันเดินเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตรไปตามริมแม่น้ำฮั่นซึ่งกำลังประสบปัญหามลภาวะอย่างหนักเพราะโรงงานเล็กๆหลายแห่งปล่อยของเสียลงสู่แม่น้ำ ในภาพนั้น นักรณรงค์พร้อมใจกันโบกธงผืนใหญ่สีเขียวมีข้อความเป็นภาษาจีนว่า "รักษ์แม่น้ำของเรา" นอกจากนี้ยังมีภาพของอวินเองขณะเข้าร่วมประชุมครั้งใหญ่ๆ และภาพหมู่บ้านริมแม่น้ำซึ่งมีประชากร 3,000 คน ซึ่งเธอบอกว่า 110 คน ในนั้นป่วยเป็นมะเร็ง อวินเล่าว่า เมื่อชาวบ้านร้องเรียน เจ้าหน้าที่ของมณฑลก็มอบเงินให้จำนวนหนึ่งเป็นค่าขุดบ่อน้ำดื่มแห่งใหม่

    ว่ากันว่า แต่ละปีในจีนมีการประท้วงถึง 70,000 ครั้ง เรื่องที่ประท้วงมากติดอันดับคือสารพิษจากโรงงาน เจ้าหน้าที่ของจีนพยายามตอบข้อเรียกร้องของประชาชน ตัวอย่างเช่น พรรคคอมมิวนิสต์ประกาศว่าจะยึดมั่นกับ "เศรษฐกิจครบวงจร" ทั้งนี้เพราะแรงกดดันจากนักสิ่งแวดล้อมในยุโรป คำประกาศเช่นนี้มีความหมายหลายนัย หากเป็นประเทศเดนมาร์กก็หมายถึงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีโรงปั่นไฟ โรงงานยา โรงงานผลิตแผ่นกั้นผนัง และโรงกลั่นน้ำมันตั้งอยู่ใกล้ๆกัน เพื่อให้แต่ละโรงงานใช้กากของเสียจากอีกแห่งเป็นวัตถุดิบในการผลิต แต่ในจีนไม่ใช่อย่างนั้น ทุกวันนี้ คำประกาศดังกล่าวหมายถึงการประชุมซ้ำแล้วซ้ำอีก ตามมาด้วยการสัญญาและประกาศก้องว่าจะเริ่มโครงการนำร่องมากมาย เช่น การเปลี่ยนเศษซัลเฟอร์ให้เป็นปุ๋ย เป็นต้น

    ลืมเรื่องมลภาวะไปสักพัก ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือระบบธรรมชาติเกือบทุกอย่างในจีนกำลังออกอาการบอบช้ำจากการถูกใช้งานอย่างหนักมานานหลายพันปี โดยเฉพาะในครึ่งศตวรรษหลังนี้ ซึ่งมีการใช้ทรัพยากรแบบผิดๆอย่างแพร่หลาย เพื่อให้เข้าใจสภาวะแวดล้อมที่แท้จริงของจีน ผมเดินทางย้อนกระแสน้ำของแม่น้ำชาวซึ่งเป็นต้นกำเนิดอ่างเก็บน้ำเก่าแก่ของปักกิ่ง แม้พื้นที่ลุ่มจะปกคลุมด้วยไร่ข้าวโพดแต่บนเนินเขากลับโล่งเตียน เมื่อปี 2501 ท่านประธานเหมาประกาศนโยบายปฏิวัติแบบก้าวกระโดด ประชาชนเริ่มผลิตเหล็กกล้าในครัวเรือน ข้อสำคัญคือการผลิตเหล็กกล้าต้องใช้ฟืนจำนวนมาก ไม่นานเนินเขาทั้งหลายจึงกลายเป็นเขาหัวโล้น

    ทุ่งหญ้าหายไปพร้อมกับป่าไม้ เมื่อคนในเมืองมากขึ้น ความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ก็เพิ่มขึ้น ผลที่ตามมาคือจำนวนปศุสัตว์มากขึ้น เลสเทอร์ บราวน์ นักสิ่งแวดล้อมอเมริกันซึ่งศึกษาเกี่ยวกับประเทศจีนมานานกล่าวว่า จีนมีแพะแกะ 339 ล้านตัว เทียบกับเจ็ดล้านตัวในสหรัฐฯ "ผมเคยไปดูสภาพในปศุสัตว์หลายแห่งซึ่งเจ้าของต้องเอาเสื้อผ้าของมนุษย์ไปสวมให้แกะเพื่อไม่ให้มันแทะเล็มขนกันเอง" บราวน์เล่าให้ผมฟัง

    เมื่อไม่มีรากต้นไม้ให้ยึดดิน พื้นที่หลายส่วนของเขตชนบทจึงกลายเป็นทราย เขตทะเลทรายขยายออกไปปีละหลายร้อยกิโลเมตร ทุกวันนี้ พายุทรายในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมกลายเป็นฤดูกาลใหม่สำหรับชาวปักกิ่ง

    รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและเร่งดำเนินโครงการรณรงค์ปลูกต้นไม้หลายโครงการ ระหว่างเดินทางทวนแม่น้ำชาว ผมเห็นเนินเขาสีน้ำตาลเป็นหย่อมๆเหมือนคนเป็นสิวผิวปรุประ พอเข้าไปดูใกล้ๆก็เห็นจุดสีขาวซึ่งความจริงแล้วคือหินขัดที่วางเรียงซ้อนกันอย่างดีเป็นกระถางต้นไม้ การจัดวางหินเพื่อให้อุ้มน้ำและประคับประคองต้นอ่อนให้ แข็งแรง กระถางเหล่านี้มีหลายแสนใบ นึกไม่ออกเลยว่าต้องใช้แรงงานคนมากมายเพียงใดกว่าจะสร้างสรรค์งานพิสดารเช่นนี้ออกมาได้

    แม้งานเหล่านี้จะยังไม่สามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมของแม่น้ำชาวให้ดีขึ้น แต่ยิ่งเดินทางสูงขึ้นไปสภาพแวดล้อมก็เขียวขึ้น ที่หมู่บ้านอันห่างไกล ชายชราเล่าให้เราฟังว่า เมื่อเจ็ดปีก่อน ในหุบเขามีแต่ทราย ต่อมารัฐบาลจ่ายเงินให้ชาวบ้าน 4,000 หยวนเพื่อล้อมคอกสัตว์ไม่ให้เที่ยวกินหญ้า เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว

    แต่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้จะสามารถปกป้องสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยจากการคุกคามของทะเลทรายได้จริงหรือ แม้ภาคใต้ของจีนจะอุดมสมบูรณ์ดี แต่ ภาคเหนือยังแห้งแล้งอยู่มาก ขณะน้ำในแม่น้ำชาวและสายอื่นๆถูกผันไปหล่อเลี้ยง เมืองต่างๆที่เติบโตขึ้นริมสองฝั่งแม่น้ำ แต่ปักกิ่งต้องหาน้ำมาเลี้ยงตัวเองด้วยการขุดลึกลงไปใต้ดิน ด้วยเหตุนี้ ระดับน้ำใต้ดินจึงพร่องลงไปหลายเมตรเมื่อเกิดภาวะภัยแล้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา "ในอีกแปดถึงสิบปี หลายเมืองในภาคเหนือจะไม่มีน้ำใช้" หม่า จวิน ผู้เขียนหนังสือ วิกฤตการณ์น้ำในจีน (Chinaีs Water Crisis) คาดการณ์ "รัฐบาลดำเนินโครงการขนาดใหญ่มากมายเพื่อผันน้ำจากแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำสาขา แต่โครงการเหล่านี้จะทำให้ปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมรุนแรงยิ่งขึ้น"

    เมื่อขึ้นไปถึงต้นน้ำของแม่น้ำชาว เราก็ข้ามหุบเขาไปอีกสองสามลูก จากนั้นก็ขับรถกลับปักกิ่งโดยใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำขาวซึ่งแห้งพอๆกัน ระหว่างทางเราเห็นเสาไฟแรงสูงตั้งเรียงรายเป็นแนวยาว หอสูงสร้างด้วยเหล็กกล้าเหล่านี้สร้างต่อๆกันทอดข้ามภูเขาสูงๆต่ำๆเหมือนกำแพงเมืองจีน เมื่อปี 2547 จีนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 50 กิกะวัตต์ และปี 2548 เพิ่มเป็น 70 กิกะวัตต์ ประมาณว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าที่จีนพยายามเพิ่มขึ้นในแต่ละปีเท่ากับครึ่งหนึ่งของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในอินเดีย นับเป็น การเพิ่มปริมาณความต้องการพลังงานมากที่สุดในโลก

    พลังงานใหม่เกือบทั้งหมดมาจากถ่านหินซึ่งจีนมีอยู่มหาศาล เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ประกาศแผนสร้างเตานิวเคลียร์ปีละสองเตาทุกปีไปถึงปี 2563 แม้จะบรรลุเป้าหมาย กระแสไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์คิดเป็นเพียงร้อยละสี่ของปริมาณกระแสไฟฟ้าทั้งประเทศ ที่สุด จีนก็หันไปเผาถ่านหิน ซึ่งเชื่อว่าปีนี้จะทำสถิติใหม่เกิน 2,000 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม แม้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้ามาป้อนได้สูงสุดขนาดนี้ จีนก็ยังต้องดิ้นรน กระเสือกกระสน เพราะเมื่อปี 2547 ประชาชน 23 มณฑลจากทั้งหมด 31 มณฑลต้องประสบภาวะขาดแคลนไฟฟ้า "ในบางมณฑล โรงงานไฟฟ้าทำงานสัปดาห์ละสามหรือสี่วันเท่านั้น" หยาง ฟู่เฉียง รองประธานมูลนิธิพลังงานซึ่งอยู่ในกรุงปักกิ่ง กล่าว

    สาเหตุที่ทำให้จีนต้องการไฟฟ้ามากมายขนาดนี้คงเป็นเพราะเกษตรกรพากันหลั่งไหลสู่เมืองใหญ่ หยางกล่าวว่า คำนวณคร่าวๆแล้ว แต่ละปีน่าจะมีคนอพยพมาอยู่ในเมืองใหญ่ไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน พวกเขาทำงานหาเงินมาซื้อตู้เย็นเครื่องเล็กๆหรือเครื่องปรับอากาศ คนงานเหล่านี้ทำงานในโรงงานผลิตผ้าม่านห้องน้ำและกระเป๋าเดินทางซึ่งต้องใช้พลังงานทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่การสร้างกระท่อมคอนกรีตหลังเล็กๆสำหรับซุกหัวนอนก็ต้องใช้ทรัพยากร ร้อยละห้าของเชื้อเพลิงที่ใช้ในเมืองจีนหมดไปกับการผลิตซีเมนต์

    ยังมีรถยนต์อีก สิบปีก่อน ในเมืองจีนแทบจะไม่มีรถยนต์ แต่ปัจจุบัน จีนเป็นตลาดรถยนต์อันดับที่สามของโลก ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2548 ยอดขายรถยนต์ในจีนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละสิบ พอสิ้นปี สรุปว่ายอดขายทั้งหมด 5.6 ล้านคัน ถ้าอยากไปดูตลาดรถยนต์ใหญ่ๆในปักกิ่ง คุณต้องจอดรถไว้ไกลๆ อาจจอดที่ปั๊มน้ำมันซึ่งมีพนักงานคอยโบกให้เข้าจอด หรือริมถนนที่มีคนขายของส่งโค้กให้ลูกค้าที่เดินผ่านไปมา

    ใช่ว่าจีนจะไม่ตระหนักถึงปัญหาใหญ่ที่เกิดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วและไร้ทิศทาง พาน หยู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า มหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของจีนนั้น "จะพบจุดจบในเร็วๆนี้ เพราะสิ่งแวดล้อมรับมือไม่ไหว ห้าในสิบเมืองที่มีมลภาวะมากที่สุดในโลกอยู่ในจีน พื้นที่หนึ่งในสามของจีนประสบปัญหาฝนกรด ครึ่งหนึ่งของน้ำในแม่น้ำใหญ่ที่สุดเจ็ดสายของจีนใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย" แต่หากไม่มีการเติบโตรวดเร็วขนาดนั้น ประเทศก็ไม่สามารถรองรับการหลั่งไหลเข้าสู่เมืองใหญ่ของชาวชนบท จะดึงดูดให้ชาวไร่ชาวนายอมจมปลักอยู่ในที่ดินขนาดไม่ถึงครึ่งไร่ได้อย่างไรในเมื่อพวกเขาได้ข่าวว่าคนในเมืองกินอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์

    ด้วยเหตุนี้ จีนจึงต้องดิ้นรนต่อไป ด้านหนึ่งก็ต้องพัฒนาให้รวดเร็วเพียงพอสำหรับการขยายตัวอย่างไร้ขีดจำกัดของแรงงานอพยพทั้งหลาย ส่วนอีกด้านก็ต้องรักษาสมดุลในการใช้พลังงานและทรัพยากรเพื่อไม่ให้ประเทศชาติยับเยินหมดสภาพ

    ทางการจีนวางเป้าหมายว่าจะพัฒนาเศรษฐกิจให้โตสี่เท่าในปี 2563 แต่จะจำกัดการ ใช้พลังงานให้เพิ่มขึ้นเพียงสองเท่า ดูเหมือนเป้าหมายหลังนี้จะเป็นไปได้ยาก เพราะช่วงสองสามปีนี้ยอดกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูงมาก แต่อย่างน้อย รัฐบาลระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรแล้วว่ามีการผ่านกฎหมายควบคุมอาคารใหม่ โดยกำหนดว่าอพาร์ตเมนต์ ต่างๆจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าอพาร์ตเมนต์รุ่นเก่าถึงร้อยละ 50 นอกจากนั้น รัฐบาลจะหยุดให้เงินอุดหนุนด้านพลังงานแก่อุตสาหกรรมหนักทั้งหลาย

    คืนสุดท้ายที่ผมอยู่ในเซี่ยงไฮ้จบลงที่การเดินเล่นในย่านอาคารเก่าสไตล์ยุโรปซึ่งเรียงรายหันหน้าไปทางริมแม่น้ำหวงผู่ ฝั่งตรงข้ามคือเขตผู่ตงซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบแดงด้านการพัฒนาเมืองสมัยใหม่ของจีน สัญลักษณ์อันโดดเด่นของเขตผู่ตงได้แก่หอคอยต่างๆที่ผุดขึ้นมาพร้อมกับแสงนีออนอันงดงาม เช่น จินเหมาทาวเวอร์ซึ่งมีโรงแรมสูงที่สุดในโลกอยู่บนชั้นสูงสุด 34 ชั้น และโอเรียนทัล เพิร์ล ทีวี ทาวเวอร์ ซึ่งมี ลูกโลกสีชมพูแจ๊ดเปล่งประกายอยู่กลางท้องฟ้า นอกจากนี้ยังมีอาคารออโรราซึ่งติดโทรทัศน์จอยักษ์กลางแจ้งฉายภาพโฆษณาสินค้าอย่างต่อเนื่อง มีคนนับหมื่นยืนดูภาพ ความงดงามเหล่านี้ท่ามกลางความมืด ในที่นี้รวมถึงคนที่เพิ่งมาจากชนบทซึ่งดูออกไม่ยากโดยดูจากเสื้อผ้าโทรมๆ แต่ใบหน้ายังมีน้ำมีนวลผิดกับคนในเมือง

    ผมไม่มั่นใจว่าประเทศจีนจะสามารถขจัดปัญหาความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาอย่างรวดเร็วกับการทำลายสิ่งแวดล้อมได้หรือไม่ (พื้นดินในเขตผู่ตงกำลังทรุดตัวหนักเพราะเซี่ยงไฮ้สูบน้ำใต้ดินออกไปใช้มากเกินไป) แต่ทิวทัศน์ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำหวงผู่ก็ช่างเต็มไปด้วยความหวังสำหรับคนที่ยืนดื่มด่ำกับแสงสียามค่ำคืนเบื้องหน้า

    ที่มา http://www.readersdigestthailand.co.th/article/2129
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2011
  6. Prompiriya

    Prompiriya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,081
    นี่ขนาดประเทศจีนยังแย่งกันแล้วอีก2ปีประเทศด้อยพัฒนาจะเป็นอย่างไร---------------------
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภูเขาไฟชิลีปะทุและไฟป่าที่สหรัฐฯ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ชิลีต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 3,000 คนหลังจากภูเขาไฟทางใต้ของประเทศเกิดปะทุขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีและส่งผลกระทบไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาร์เจนติน่าแล้ว ขณะที่ไฟป่าที่รัฐแอริโซน่า สหรัฐอเมริกาก็ยังไม่สามารถควบคุมได้

    ภูเขาไฟปูเยฮู ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซานติอาโก้ไปทางใต้ 800 กิโลเมตรได้พ่นแก๊สและเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าสูง 10 กิโลเมตร เมื่อวานนี้ หลังจากที่เกิดแรงสั่นเทือนในตอนเช้ากว่า 20 ครั้ง ซึ่งเป็นสัญญานเตือนก่อนที่ภูเขาไฟดังกล่าวจะปะทุขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ทางการชิลีต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มขึ้นจาก 600 คนเป็น 3,500 คนและประกาศเตือนภัยระดับสูงสุด ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

    กระแสลมยังได้พัดพาเอาเถ้าถ่านของภูเขาไฟไปยังอาร์เจนติน่า เจ้าหน้าที่ต้องปิดจุดข้ามพรมแดนไปอาร์เจนติน่า ขณะที่เถ้าถ่านภูเขาไฟยังทำให้อาร์เจนติน่าต้องปิดสนามบินนานาชาติในเมืองบาริโรช ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไฟ 100 กิโลเมตร และเตือนประชาชนในเมืองดังกล่าวให้สวมใส่หน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน ถ้าเป็นไปได้ให้อยู่แต่ในบ้านและถ้าไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยงการขับรถเพราะทัศนวิสัยเลวร้าย

    ขณะที่รัฐแอริโซน่า สหรัฐอเมริกา ทางการต้องอพยพประชาชนเกือบ 2,500 คนออกจากพื้นที่ทางตะวันออกของรัฐแล้วเนื่องจากไฟป่าที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 วันก่อนยังควบคุมไมได้และเริ่มลุกลามใกล้เข้าสู่แนวเขตรัฐนิว เม็กซิโกแล้ว รายงานระบุว่า ควันจากไฟป่าไปไกลถึงเมืองอัลบูเกอกี้ในรัฐนิว เม็กซิโก ทางการประกาศเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในบ้านและประกาศเตือนภัยหมอกควันไปจนถึงเช้าพรุ่งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกือบ 1,000 นายทุ่มเทความพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมไฟป่าที่ตอนนี้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้ว 350,000 ไร่ นับเป็นไฟป่าครั้งรุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของแอริโซน่า

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

    การระบาดของเชื้ออีโคไลในเยอรมนี เริ่มคงที่

    [​IMG]

    สถานการณ์การระบาดของเชื้อแบคทีเรียอีโคไล.ในเยอรมนี ล่าสุดเริ่มมีสัญญานว่าการระบาดอยู่ในภาวะคงที่ และมีแนวโน้มสถานการณ์จะไม่รุนแรงไปมากกว่านี้

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยุโรป เปิดเผยว่าขณะนี้เริ่มมีสัญญานว่า การแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียอีโคไลเริ่มคงที่ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ผู้ป่วยที่รับเชื้ออีโคไลที่เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลทางเหนือของเยอรมนีลดน้อยลง แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดยุติแล้ว

    สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ยังอยู่ที่ 18 คน ติดเชื้อ 1,836 คน นับตั้งแต่ที่มีการตรวจพบเชื้อดังกล่าวครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ศูนย์ด้านโรคระบาดในเยอรมนี ยังคงเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงการรับประทานแตงกวา มะเขือเทศ และผักกาดหอม อย่างไรก็ตามศูนย์ห้องแล็ปตรวจสอบอีโคไลของอียูในกรุงโรม บอกว่า การประกาศเตือนดังกล่าวไม่สมเหตุผล เนื่องจากยังไม่มีการตรวจสอบทางวิทยาศาตร์ที่ชี้ชัดว่า ผักดังกล่าวเป็นแหล่งต้นตอการแพร่ระบาด

    การแพร่ระบาดของแบคทีเรียอีโคไล ทำให้เกิดความหวั่นวิตกไปทั่วโลกและเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของเกษตรกรยุโรปเลยทีเดียว ทั้งนี้รัสเซีย ตลาดส่งออกผักรายใหญ่ของยุโรปได้ออกมาปฏิเสธคำร้องขอของยุโรปที่ให้ยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผักสดยุโรป ขณะที่อังกฤษกำลังถกเครียดว่า ควรห้ามนำเข้าผักที่ผลิตในเยอรมนีหรือไม่ ส่วนสหรัฐฯเริ่มให้มีการมีการตรวจสอบการขนส่งสินค้าจากเยอรมนีและสเปนแล้ว รายงานระบุว่า ผู้ปลูกแตงกวาในแคว้นแซ็กโซนี่ของเยอรมนีต้องทำลายแตงกวาและมะเขือเทศไปกว่า 200 ล้านผลเพียงวันเดียว

    ทั้งนี้รัฐบาลเยอรมนีก็เร่งค้นหาแหล่งต้นตอการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ ล่าสุดกำลังตรวจสอบร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เมืองลูเบ็ค ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เผยว่า กำลังตรวจสอบว่าการแพร่ระบาดเริ่มขึ้นที่งานเทศกาลที่ฮัมบรูก์ เมื่อเดือนที่แล้วหรือไม่ ซึ่งในงานนั้นมีประชาชนและนักท่องเที่ยว 1.5 ล้านคน และร้านอาหารดังกล่าวในเมืองลูเบ็ค ก็เป็นร้านที่มาร่วมงานเทศกาลนี้

    รายงานระบุว่า ลูกค้าหญิง 8 คนซึ่งเป็นนักท้องเที่ยวชาวเดนมาร์คล้มป่วยเมื่อรับประทานอาหารของร้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่สรรพากรหญิงเยอรมนีที่รับประทานอาหารของร้านเสียชีวิตจากการติดเชื้ออีโคไล อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็บอกว่า พนักงานของร้านและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ป่วยจากเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตามได้มีการสั่งตราวจสอบบริษัทที่ขนส่งวัตถุดิบให้กับร้านอาหารเพื่อหาแหล่งต้นตอการแพร่ระบาดที่แท้จริงด้วย

    รายงานล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียอีโคไล.ในยุโรป มี 19 คน และกว่า 2,000 คนในอย่างน้อย 12 ประเทศล้มป่วย ในจำนวนผู้เสียชีวิต 18 คนอยู่ในเยอรมนี และ 1 คนในสวีเดน

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1307267271.jpg
      1307267271.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.3 KB
      เปิดดู:
      3,404
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.9 KB
      เปิดดู:
      3,378
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.2 KB
      เปิดดู:
      3,860
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> [​IMG] แฉ!ถั่วงอกยุโรปต้นตอแบคทีเรียอีโคไล </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เมืองเบียร์เผยพบถั่วงอกต้นตอแหล่ง "อีโคไล" แพร่ระบาด


    วันนี้ (6 มิ.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฮัมบวร์ก ประเทศเยอรมนี ว่า กระทรวงเกษตรแคว้นโลเออร์ แซกโซนี ของเยอรมนี ตรวจพบสาเหตุการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียอีโคโล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตในยุโรป 22 รายแล้ว โดยต้นแหล่งเชื่อว่ามาจากถั่วงอก ที่เกษตรกรในแคว้นโลเออร์ แซกโซนี ทางเหนือของประเทศ เพาะปลูกในฟาร์มเรือนกระจก

    นายเกิร์ต ฮาห์เน โฆษกกระทรวงฯ เผยว่า จากการตรวจสอบของคณะเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่าถ่วงอกท้องถิ่นคือต้นแหล่งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคมรณะ จึงขอเตือนให้ประชาชนงดบริโภคถั่วงอกดังกล่าว ที่มักจะใช้เป็นส่วนประกอบในสลัดประเภทต่าง ๆ

    ด้าน นายไรน์ฮาร์ด บูร์แกร์ ประธานสถาบันโรเบิร์ต คอช ศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติเยอรมนี เผยว่า

    การแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียอีโคไลทั่วยุโรป ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย ทำให้ตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 22 ราย โดย 21 รายอยู่ในเยอรมนี ส่วนอีก 1 รายอยู่ในสวีเดน และยังมีผู้ล้มป่วยจากโรคนี้ 2,153 คน และ 627 รายในจำนวนดังกล่าวเกิดโรคแทรกซ้อนที่แทบไม่เคยพบ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไตวาย ขณะที่โฆษกองค์การอนามัยโลก (ฮู) เผยว่า นอกจากเยอรมนีและสวีเดนแล้ว อีก 10 ประเทศของยุโรป และสหรัฐ มีผู้ป่วยจากการระบาดของอีโคไลอีกประมาณ 90 คน

    แหล่งข่าวในสาธารณสุขเยอรมนี เผยต่อว่า อีก 9 ประเทศในยุโรปที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ตามที่โฆษกองค์การอนามัยโลกแถลงประกอบด้วย ออสเตรียอังกฤษ สาธารณรัฐเชก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สเปน และสวิตเซอร์แลนด์.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD> โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันจันทร์ ที่ 6 มิถุนายน 2554 เวลา 08</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ทั่วปท.รวมกทม.มีฝนเฉลี่ยร้อยละ60-70ของพื้นที่ อุตุฯเตือน6จว.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 6 มิ.ย. 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังปานกลางลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน อาทิบริเวณจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ หนองบัวลำภู และเลย ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในระยะนี้

    สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดนครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    Mthai News: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พบสิ่งก่อสร้างประหลาด บนดาวอังคารผ่านกูเกิ้ลเอิร์ท (Google Earth)
    โดยเดวิส มาร์ติน ผู้เผยแพร่วิดีโอภาพจากกูเกิ้ลเอิร์ท กล่าวว่าพบสิ่งก่อสร้างประหลาด จากการสำรวจพื้นผิวดาวอังคาร ซึ่งวัตถุนั้นมีสีขาว มีความยาวประมาณ 700 ฟุต และกว้างประมาณ 500 ฟุต มีรูปร่างคล้ายทรงกระบอก ซึ่งเดวิดเรียกมันว่า สถานีชีวภาพ เพราะเขาคาดว่ามันน่าจะมีบางอย่างอยู่ในนั้น หรืออาจจะเข้าไปอาศัยอยู่ได้
    ทั้งนี้ เขาสงสัยว่ามันอาจจะเป็นสถานีพลังงานหรือสถานควบคุมชีวภาพ แต่หวังว่ามันจะไม่ใช่อาวุธใดๆ และบางทีมันอาจจะเป็นสถานที่พักเหนื่อยสำหรับนักบินอวกาศของนาซ่า
    อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังหาข้อสรุปของวัตถุดังกล่าวไมได้ แต่สำนักข่าวต่างประเทศยังคงติดตามความคืบหน้าต่อไป
    Mthainews
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย[​IMG]
    <EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=480 src=http://www.youtube.com/v/sTJt0LJZG2k?version=3&hl=th_TH allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED>
    [​IMG]
    Photo:: google.com
    [​IMG] ภูเขาไฟปูเยฮิว ชิลี ระเบิด

    อพยพประชาชนกว่า 3 ,500 คน กระทบไปไกลถึง อาร์เจนติน่า
    5 มิ.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า เกิดเหตุภูเขาไฟ ปูเยฮิว ทางตอนใต้ของชิลีระเบิดเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ทำให้ทางการต้องสั่งอพยพผู้คนกว่า 3 ,500 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย
    ทั้งนี้ หลังจากการระเบิดดังกล่าวได้ทำให้เกิดก๊าซพุ่งสูงกว่า 10 กิโลเมตรในอากาศ และทำให้มีเถ้าถ่านสีขาวปกคลุมไปทั่วเมือง ซึ่งเมือง บาริโลช ของอาร์เจนติน่า ที่อยู่ห่างจากภูเขาไฟลูกดังกล่าวไป 100 กิโลเมตรก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ทำให้ทางการต้องสั่งปิดชายแดนระหว่างชิลีและอาร์เจนติน่า ปิดสนามบิน และเตือนประชาชนให้อยู่แต่ภายในบ้านเรือน และปิดประตูและหน้าต่างเพื่อกันไม่ให้เถ้าถ่านลอยเข้ามา ในบ้านเรือน
    อนึ่ง ชิลี เป็นอีกประเทศที่ตั้งอยู่บนแนว วงแหวน แห่งไฟ ที่มีภูเขาไฟน้อยใหญ่จำนวนมาก บางลูกยังไม่ดับสนิท โดยนอกจากภูเขาไฟแล้ว ชาวชิลียังต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวอยู่เป็นประจำ
    [​IMG] ภูเขาไฟปูเยฮิว ชิลี ระเบิด

    [​IMG] ภูเขาไฟปูเยฮิว ชิลี ระเบิด

    [​IMG] ภูเขาไฟปูเยฮิว ชิลี ระเบิด


    [​IMG] หมา นครพนม

    เชื่อถูกส่งไปขายเป็นอาหารที่เวียดนาม
    5 มิ.ย. จากกรณีที่ พบ สุนัขพันธุ์ไทยนับพันตัวถูกขังกรงอยู่ในกรงขนาดใหญ่ที่ ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เพื่อเตรียมส่งขายไปเป็นอาหารที่ประเทศเวียดนาม
    ทั้งนี้ นายบุญตา อายุ 60 ปี ที่เป็นคนนอนเฝ้ากรงสุนัข ว่าใครเป็นเจ้าของกรงสุนัขแห่งนี้ เปิดเผยว่า มีชายคนหนึ่งชื่อ นายอ๊อดรับซื้อสุนัขมาจากชาวบ้าน แล้วมาขายที่ฟาร์มสุนัขแห่งนี้ โดยหลังจากสุนัขถูกนำมายังฟาร์มก็จะถูกคัดขนาดตามน้ำหนักตัว จากนั้นจะมีคนเวียดนามเดินทางมาซื้อสุนัขดังกล่าวซึ่งทุ่มเงินไม่อั้น นิยมซื้อสุนัขที่มีน้ำหนัก 4 – 8 กิโลกรัมมากที่สุด
    ขณะที่ เมื่อตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย สุนัขก็จะถูกนำใส่กรงขนขึ้นรถไปยังริมฝั่งแม่น้ำโขง แล้วจะมีเรือจากฝั่งลาวมารับเพื่อส่งไปยังประเทศเวียดนามอีกทอดหนึ่ง รายได้จากขายสุนัขนี้ หากตัวเล็กจะขายได้ตัวละประมาณ 400 บาท เมื่อรวมกับค่าขนส่ง ค่าอุปกรณ์ รวมทั้งค่าสินบนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็มีกำไรไม่มากนัก
    สำหรับ นายบุญตา กล่าวว่า ที่มาทำอาชีพนี้เป็นเพราะต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัว แม้จะรู้ดีว่าสุนัขทั้งหมดนี้จะถูกส่งไปฆ่าเพื่อนำไปประกอบอาหารก็ตาม แต่ก็ต้องทำใจ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะไปทำอาชีพอะไร
    ต่อมา ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงและสงสารสุนัขได้ร้องเรียนไปยังสื่อมวลชน ทำให้ตำรวจเข้ามาดำเนินคดีกับ นาย บุญตา แต่ก็ทำได้เพียงเปรียบเทียบปรับเท่านั้น
    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เรื่องดังกล่าวเผยแพร่ออกไป สุนัขที่เคยถูกขังอยู่ในกรงจำนวนนับพันตัวหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย โดยชาวบ้านเชื่อกันว่า สุนัขนับพันตัวถูกเคลื่อนย้ายไปในช่วงเวลากลางคืน
     
  10. pongsakn

    pongsakn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +12

    ระบบทุนนิยมที่สาวได้สาวเอาไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะระบบเก็งกำไรในตลาดหุ้นตลาดทุนที่เอาสินค้าที่เป็นฐานและจำเป็นต่อชีวิตมนุษย์ มาเป็นเรื่องเก็งกำไร จนทำให้ทุก ๆ อย่างผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง สร้างความเดือดร้อนทุกข์ยากแก่ประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก ยิ่งมีเงินที่เป็นเรื่องสมมุติมาก ก็ยิ่งทำลายโลกมากขึ้นเท่านั้น เพราะมันทำให้เกิดความแตกต่างฐานะของคนในโลกมากเกินไปจน คนส่วนใหญ่ต้องอดอยากทุกข์ทรมานเดือดร้อนไปทั่วโลก อย่างนี้คงไม่เรียกว่าเป็นการพัฒนาแล้ว เป็นการทำลายโลกมากกว่า แทนที่โลกจะยังอยู่ยาวนาน แต่จะถูกสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์ทำลายให้แตกสลายเร็วยิ่งขึ้น การดำเนินชีวิตของมนุษย์ยุคนี้เร็วเกินไป จนไปเบียดเบียนทำลายสิ่งแวดล้อมที่ไม่สามารถจะรองรับของมนุษย์ได้ ดูตัวอย่างประเทศจีนซึ่งไม่กี่ปีมานี้ ท้องถนนเต็มไปด้วยจักรยาน แต่เดี๋ยวนี้ถนนไม่พอเพียงกับรถยนต์เสียแล้ว แค่ระยะ 10 ปี 20 ปีเอง แล้วคนที่มีพันกว่าล้านคนจะไล่ตามทันได้อย่างไร ความจนกับความรวยมันจึงต่างกันหลายสิบเท่า จนเป็นร้อยเท่าแล้ว แม้แต่ประเทศไทย ค่าแรงขั้นต่ำไม่ถึงหมื่นบาท แต่คนมีรายได้สูงต่อเดือนเป็นหลายล้านบาท ตลอดจนตลาดหุ้นตลาดทุนที่เก็งกำไรอย่างหน้ามืดตามมัวไม่ต่างกับคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จะไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำรายได้มโหฬารได้อย่างไร สักวันหนึ่งก็คงระเบิดออกมาเพื่อให้โลกทั้งโลกมีความสมดุลกันมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นโลกนี้คงไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้แน่นอน
     
  11. Windsong

    Windsong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +293
    ระบบทุนนิยม..ที่เป็นร่างแปลงของสงครามล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจ
    กำลังกัดกินตัวเอง และคนทั้งโลก และกำลังเดินไปยังจุดสุดท้ายคือ
    สงครามเต็มรูปแบบเพื่อแย่งชิงทรัพยากรที่เป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตของมนุษย์..

    น่าห่วงคือ เมื่อถึงเวลานั้น ลูกหลานเรา ประเทศไทยเรา..จะรอดปากเหยี่ยว
    ปากกา จากประเทศล่าอาณานิคมเหล่านี้..ไปได้อย่างไร..
     
  12. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ข่าวเกี่ยวกับเชื้อโรค ที่ฟังจากชื่อดูธรรมดาสามัญ (เรารู้จักมันมานานแล้วไม่ใช่เหรอคะ) แต่กลายเป็นตัวอันตรายที่แพร่ระบาดไปเรื่อยๆ กับอาหาร ร้ายแรงถึงทำให้คนตาย จากเชื้อธรรมดากลายเป็นตัวร้าย.. อันตราย เพราะอะไร กับข่าวพระสงฆ์ที่ก่อความเสื่อมเสีย ที่ช่วงนี้เหมือนจะได้รับรู้ข่าวแบบนี้ติดๆกัน ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้น และรู้สึกเป็นห่วงศาสนาพุทธของเราเหลือเกิน
    สองข่าวนี้ไม่เกี่ยวกันหรอกค่ะ แต่เป็นอะไรที่สะดุดใจผู้อ่านมาก เลยมาเล่าให้ฟัง
    คิดถึงเว๊บพลังจิตมาก โดยเฉพาะกระทู้นี้ ไม่ได้เข้าซะนาน เพราะจะเข้าทีไรเข้าไม่ได้ซักที แล้วก็ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเปิดเน็ทเท่าไหร่ แล้วก็กดอนุโมทนาไม่ได้ด้วยใช่ไหมคะ
     
  13. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    เมื่ออ่านจบจึงพอเข้าใจว่าที่มีคนเคยโพสต์ไว้ ประเทศเรา กำลังจะตกเป็นเหยื่ออาณานิคมยุคของระบบทุนนิยม เพราะความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยกรธรรมชาติเป็นอู่ข้าว อู่น้ำ เหตุการณ์บ้านเมืองปัจจุบันนี้ คือ ยุทธศาสตร์ของการไล่ล่าอาณานิคม ของกลุ่มทุนนิยม คนที่รวมสร้างสถานการณ์ต่างๆ กำลังชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านตน
     
  14. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7494 ข่าวสดรายวัน


    2พรรคดีเบตนิวเคลียร์




    วันที่ 5 มิ.ย. ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในงานเสวนา "ชำแหละนโยบายสิ่งแวดล้อมจริงใจหรือหาเสียง" ว่า ในอนาคตจำเป็นต้องหาพลังงานทดแทน โดยเรื่องพลังงานนิวเคลียร์นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คัดค้าน แต่ไม่ได้เห็นด้วย จึงควรให้ศึกษาก่อน อีกไม่กี่ปีจะตั้งเป้าการใช้พลังงานทดแทน จากเดิมร้อยละ 8 เป็นร้อยละ 20 จากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวล ภายในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในช่วง พ.ศ.2559 เนื่องจากพลังงานที่ใช้อยู่ทุกวันนี้กำลังจะหมดไป

    ด้านปลอดประสพ สุรัสวดี ตัวแทนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลจะเน้นการปฏิวัติพื้นที่สีเขียวบนพื้นดิน ท้องฟ้า ในท้องทะเล และนำมาตรการลดหย่อนภาษีมาจูงใจให้ผู้ประกอบการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันจะไม่เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อย่างแน่นอน รวมถึงจะไม่ศึกษาด้วย เพราะประชาชนส่วนใหญ่กลัวผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ใครจะศึกษาก็ศึกษาไป แต่ประชาชนจะตั้งข้อสงสัยได้ว่าศึกษาแล้วจะแอบดำเนินการหรือไม่


    นักวิชาการแนะเลี่ยงภัยฟ้าผ่าฤดูฝน งดเล่นเน็ตต่อสายโทรศัพท์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ในช่วงฝนฟ้าคะนองของทุกปี มักพบข่าวการเสียชีวิตของประชาชนจากการถูกฟ้าผ่า และบ่อยครั้งมักเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านหรือประชาชนซึ่งอยู่ในที่โล่งแจ้งขณะที่ฝนตก ดังเช่นกรณีล่าสุดมีข่าวนายสุชาติ เอมศรี อายุ 51 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) เกยไชย จ.นครสวรรค์ ถูกฟ้าผ่าขณะที่เดินทาง ออกจากบ้านไปขุดร่องน้ำในที่นาของตนเพื่อไม่ให้น้ำท่วมนาข้าว ซึ่งในเบื้องต้นมีการสันนิษ ฐานว่านาฬิกาข้อมือของนายสุชาติอาจเป็นสาเหตุ

    ดร.คมสัน เพ็ชรรักษ์ หัวหน้าห้องจำลองฟ้าผ่า คณะวิศว กรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ความจริงแล้วโลหะนั้นแทบจะไม่มีผลใดๆ ในการล่อฟ้าเลย ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นคาดว่าน่าจะเสียชีวิตจากฟ้าผ่า เนื่องจากมีกระแสวิ่งตามพื้นเป็นจำนวนมาก

    "สิ่งสำคัญที่ประชาชนควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องฟ้า ผ่า คือ มนุษย์ไม่เพียงได้รับอันตรายจากการถูกฟ้าผ่าโดยตรง แต่ยังมีฟ้าผ่าประเภทอื่นๆ ที่ทำอันตรายได้ กรณีที่พบได้มากคือ กระแสวิ่งตามพื้น คือ จุดที่ถูกฟ้าผ่า กระแสไฟฟ้ายังวิ่งออกไปยังบริเวณโดยรอบ เช่น ฟ้าผ่าต้นไม้ กระแสไฟฟ้าวิ่งจากลำต้นลงมาที่โคนต้นไม้และกระจายออกไปตามพื้นดินที่มีน้ำเจิ่งนอง ถ้าเป็นคนยืนอยู่ใกล้ต้นไม้ ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาที่ต้นไม้ กระแสไฟฟ้าวิ่งลงดิน ผ่านขา ผ่านหัวใจ ผ่านไขสัน หลัง ผ่านสมอง ทำให้หายใจไม่ออก หัวใจอาจจะเริ่มหยุดเต้นและเสียชีวิตในที่สุด" ดร.คมสันกล่าว

    "นอกจากนี้ยังมีอันตรายจากฟ้าผ่าอีกสองประเภท คือ ไฟฟ้าวิ่งเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัสกับสิ่งที่ถูกฟ้าผ่า เช่น หากหลบใต้ต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า เสาอากาศ และมีบางส่วนของร่างกายแตะกับสิ่งที่ถูกฟ้าผ่า กระแสไฟฟ้าก็จะไหลเข้าสู่ลำตัวได้โดยตรง และไฟฟ้าแลบจากด้านข้าง คือ หากคุณอยู่ใกล้ต้นไม้ หรือโครงไม้ของเพิงที่เปิดด้านใดด้านหนึ่ง กระแสไฟฟ้าอาจ "กระโดด" เข้าสู่ตัวคุณทางด้านข้างได้ โดยแม้ว่าคุณจะไม่ได้แตะจุดที่ฟ้าผ่าเลยก็ตาม"

    "ทุกบริเวณใต้เงาเมฆฝนฟ้าคะนองมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดฟ้าผ่าได้หมด ไม่ว่าที่สูง ที่ต่ำ กลางแจ้ง เพียงแต่จุดเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้มากที่สุด คือ จุดที่สูง เช่น ต้นไม้ อาคารสูง ในบริเวณที่โล่งแจ้ง เช่น สระน้ำ ชายหาด สนามกอล์ฟ ฯลฯ

    สำหรับสถานที่หลบภัยจากฟ้าผ่า คือ หลบภายในตัวอาคาร หรือรถยนต์ที่ปิดกระจก โดยมีข้อแม้ว่าต้องไม่สัมผัสกับวัสดุที่เชื่อมต่อกับอาคารหรือตัวรถด้านนอกซึ่งอาจถูกฟ้าผ่าได้ งดการใช้โทรศัพท์แบบมีสาย ถอดปลั๊กโทรทัศน์ และไม่ควรเล่นอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมต่อกับสายโทรศัพท์ ขณะที่คนซึ่งอยู่กลางแจ้งเมื่อเกิดฟ้าผ่าให้นั่งยองๆ ก้มศีรษะเพื่อลดตัวให้ต่ำที่สุด เท้าชิดกันและเขย่งเล็กน้อยเพื่อลดความเสี่ยงกรณีกระแสไฟไหลมาตามพื้น" ดร.คมสันกล่าวทิ้งท้าย

    แพทย์ย้ำหลวงพ่อคูณต้องอยู่รพ.อีก5สัปดาห์ พบภาวะแทรกซ้อนระดับน้ำตาลลดเฉียบพลัน

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> วันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธวัณโรคปอด อยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดและหัวใจโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด โรคสมอง และการติดเชื้อ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เข้าตรวจอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ
    นพ.พินิศจัย เปิดเผยภายหลังตรวจร่างกายหลวงพ่อคูณ ว่า หากเทียบกับวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่หลวงพ่อคูณมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำซึ่งคณะแพทย์สามรรถควบคุมได้ แต่ต้องมาประสบปัญหาเรื่องระบบการทำงานของหัวใจ จนส่งผลให้ระดับน้ำในปอดมีปริมาณมากขึ้นในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ก็สามารถผ่านพ้นไปได้ดี อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลวงพ่อคูณเกิดอาการเสลดอุดตันที่ระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากหลวงพ่อคูณมีปริมาณเสลดในคอเป็นจำนวนมาก แต่ในวันนี้หลังจากที่คณะแพทย์ได้ให้ยารักษา หลวงพ่อคูณมีอากรที่ดีขึ้น ไม่มีไข้ แต่ยังคงมีอาการเหนื่อยและอ่อนเพลียอยู่เล็กน้อย
    นพ.พินิศจัย กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้ระบบการทำงานของหัวใจหลวงพ่อคูณมีปัญหานั้น ได้รับผลกระทบมาจากระดับน้ำตาลในกระแสเลือดลดลงอย่างเฉียบพลัน อีกทั้งหลวงพ่อคูณได้ผ่าตัวทำบายพาสหัวใจเมื่อ 12 ปีก่อน ประกอบกับอายุมากขึ้น โดยระดับน้ำตาลในกระแสเลือดของหลวงพ่อคูณที่ตรวจวัดได้ในช่วงเช้าที่ผ่านมาหลวงพ่อคูณมีระดับน้ำตาลที่สูงขึ้น คณะแพทย์จะต้องจัดยาเบาหานให้เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลไม่ให้มีปริมาณที่สูงจนเกินไป
    นพ.พินิศจัย กล่าวว่า ล่าสุดหลวงพ่อคูณสามารถรับยารักษาวัณโรคที่คณะแพทย์ได้ปรับเปลี่ยนให้ได้ดีขึ้น หลังจากได้ให้ยาฉีดรักษาวัณโรคมานานกว่า 4 สัปดาห์ ยังคงเหลืออีก 4 สัปดาห์ ที่หลวงพ่อคูณยังจะต้องรับยาฉีดเพื่อรักษาโรควัณโรค ซึ่งหากหลวงพ่อคูณไม่รับยาที่เหลือจะทำให้ตัววัณโรคเกิดอาการดื้อยาและจะทำให้การักษายากขึ้น ดังนั้นหลวงพ่อคูณจะต้ออยู่ที่โรงพยาบาลอย่างน้อยอีก 5 สัปดาห์ เพื่อรับยารักษาวัณโรคและจะต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อสังเกตผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
    “คณะแพทย์จะหมดห่วงต่อเมื่อหลวงพ่อคูณได้รับยาฉีดเพื่อรักษาวัณโรคจนครบตามกำหนด ซึ่งจะทำให้การเกิดภาวะแทรกซ้อนลดลงเช่นกัน อีกทั้งหลวงพ่อคูณจะต้องถอดสายยางอาหารเหลวออกและสามารถกกลับมาฉันอาหารเองได้ตามปกติ แต่ขณะนี้คณะแพทย์ยังคงใส่สายยางอาหารเหลวให้กับหลวงพ่อคูณเช่นเดิม เนื่องจากการรับอาหารเหลวผ่านสายยาง หลวงพ่อคูณจะได้รับสารอาหารและยาได้เต็มที่มากกว่าจะฉันเองในช่วงนี้” นพ.พินิศจัย กล่าว
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    12 ปีแห่งมหันตภัยล้างโลก
    (พ.ศ.๒๕๔๙-พ.ศ.๒๕๖๒)

    [​IMG]

    จากหลวงปู่เทพโลกอุดรแจ้งไว้แก่ หลวงปู่ภารตะ ฤาษี (บัวขาว)

    จากสี่เก้า เข้าถึง ปีหกสอง ฟ้าจะร้อง คำราม สุดหวั่นไหว
    ธรณี จะโกรธ เป็นพื้นไฟ พระพรายไซร์ จะถามโถม โจมดีเรา
    พระคงคา จะไหลบ่า หุ้มเปลือกโลก ดาวนอกโลก พุ่งชน คนอับเฉา
    ให้รีบลุก และตื่น เถิดพวกเรา รีบเดินหน้า ถึงธรรม ค้ำชีวา

    ภาคกลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง พีงจำไว้ จมอยู่ใต้ คงคา แน่นักหนา
    ผืนแผ่นดิน คลุมด้วยน้ำ สุดลูกตา ชาวประชา ไร้แผ่นดิน สิ้นชีพวาย
    เหนืออีสาน ตอนล่าง ต่างรันทด แผ่นดินลด หดหู่ ไม่รู้หาย
    เหลือก็น้อย คนบุญ ที่รอดตาย นอกนั้นไซร์ ไร้ชีวิต วิบัติภัย

    บนท้องฟ้า มืดมน ฝนห่าใหญ่ ห่อหุ้มไว้ เจ็ดราตรี อรุณฉาย
    สัตว์เล็กใหญ่ ดับดิ้น แทบวอดวาย ที่ไม่ตาย กลายมีพิษ ปลิดชีพกัน
    พายุลม สลาตัน นับว่าร้าย ก็ไม่ว่าย ต้องแพ้ ลมกรรมหันต์
    ฝนที่ไหน พัดที่ใด ตายฉับพลัน ไม่มีควัน มีแต่พิษ ชีวิตวอดวาย

    ที่มา http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=77655.0

    มหันตภัยล้างโลกได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่เกินอีก ๑๒ ปีข้างหน้าเป็นการเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่

    วันที่ 30 มกราคม 2550 สัญญาณจากจักรวาลบอกเราว่า เป็นการเริ่มนับเวลาจากนี้ไป ที่มนุษย์จะพบภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น จนประสบมหันตภัยล้างโลกในที่สุด ในเวลาอีก 12 ปีข้างหน้า คือประมาณต้นถึงกลางปี พ.ศ. 2562 มนุษย์ทั้งหลาย จงตื่นจากความโง่เขลา จงตื่นจากความเห็นแก่ตัว คิดแต่อยากได้ทรัพย์ หรือวัตถุ จนไม่รู้ว่าธรรมชาติจะเอาชีวิตไปในไม่ช้านี้แล้ว และพึงรักษาธรรมชาติให้สมดุล รักษาจิตให้บริสุทธิ์ร่วมกัน เพื่อลดความรุนแรงของมหันตภัย ให้เกิดน้อยลงมากที่สุด เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของโลกในเวลานี้ ผู้นำประเทศทั้งหลาย หรือผู้ใดที่มุ่งหวังอำนาจ และกระหายสงคราม จงจำไว้ว่าผู้นำเหล่านั้น หรือผู้นั้นเป็นผู้ทำลายโลกที่ร้ายกาจ ​

    สภาพของการเกิดมหันตภัยในระยะเวลา 12 ปี สามารถแบ่งโดยความรุนแรงเป็น 3 ช่วงเวลา คือ
    1. ช่วงแรก เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2550-2551 ระยะเวลา 2 ปีแรก เกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ตามรอยต่อของแผ่นทวีปทั้งหมดที่แตกร้าวไปทั่วดาวดวงนี้ สัตว์ และมนุษย์มีวิธีทำร้ายกัน แบบดุร้ายป่าเถื่อนมากยิ่งขึ้น สัตว์ขนาดเล็กเตรียมปรับตัวรับวิกฤติดังกล่าวแล้ว และเตรียมปรับตัวเพื่อทำลายล้างมวลมนุษย์อีกด้วย โดยการสะสมถ่ายทอดโรค ที่ร้ายแรงมากขึ้น นอกจากนั้นทั่วโลกยังเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงกว่าเดิม และเกิดอุบัติเหตุที่แปลกๆ โดยมนุษย์หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ เช่น ระหว่างปีใหม่ ( พ.ศ. 2550) ที่ผ่านมาเครื่องบินภายในประเทศอินโดนีเซียสูญหายระหว่างบินอยู่เมืองสุราเวสี ไม่สามารถค้นพบได้จนบัดนี้ สาเหตุที่มนุษย์คาดไม่ถึง ก็คือ เกิดจุดตัดสนามแม่เหล็กโลก เกิดขึ้นบริเวณนั้นพอดี เนื่องจากความไม่สมดุล จึงดูดเอาเครื่องบินลำนี้ ออกนอกมิติของโลก เข้าสู่มิติมืดที่ว่างเปล่า หรือเป็นปรากฏการณ์ที่มนุษย์เข้าใจแล้วว่า เสมือนสามเหลี่ยมเมอมิวดา ในแกนกลางมหาสมุทร นั่นคือหลุมมิติในน้ำ แต่ที่จริงแล้ว ยังมีหลุมมิติในอากาศ (ที่เครื่องบินหายไปในช่องหลุมมิติ) และหลุมมิติบนพื้นโลก (ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเนื่องจากมิติซ้อนกันทำให้มองไม่เห็นกัน) เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งลี้ลับ แต่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยสมองที่มีแต่ความอยาก และความต้องการในวัตถุทั้งหลาย

    2. ระยะที่ 2 ตั้งแต่ พ.ศ. 2552-2556 ระยะเวลา 5 ปี โลกร้อนขึ้นด้วยอัตราเร่ง เกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นมากกว่าเดิม และต่อเนื่องจนมนุษย์ทั้งโลกหวาดกลัว กลุ่มมนุษย์ที่มีจิตต่ำจะก่อกวนมนุษย์ด้วยความรุนแรงเหมือนไม่ใช่คน เกิดหลุมมิติมากมายเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง อย่างที่มนุษย์คาดไม่ถึง มีการตายของมนุษย์เป็นกลุ่มใหญ่จำนวนมาก ด้วยอุบัติเหตุและภัยพิบัติ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย พื้นโลกบางส่วนยุบตัวลง เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด อากาศร้อนขึ้นอย่างมาก และอากาศหนาวก็มากขึ้นเช่นกันของแต่ละพื้นที่ จะเริ่มมีพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของมนุษย์น้อยลง ความแห้งแล้งมากขึ้น น้ำในทะเลยกระดับสูงขึ้นจากสาเหตุการยุบตัวของโลก น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และการนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้สมทบด้วยอีกแรงหนึ่ง เริ่มเกิดโรคระบาดจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่ผุดมาจากดินที่ไม่เคยมีมาก่อน เชื้อเหล่านี้ทนทานต่อการทำลาย เพราะปรับตัวจากที่ที่เย็นจัดหรือปรับตัวจากที่ที่ร้อนจัดจึงทนต่อสภาวะที่เปลี่ยนไป

    3. ระยะที่ 3 ตั้งแต่ พ.ศ. 2557-2561 ระยะเวลา 5 ปี โลกร้อนขึ้นด้วยอัตราเร่ง พอที่จะละลายน้ำแข็งเกือบทั้งหมดของขั้วโลกทั้งสอง เกิดน้ำท่วมโลก โดยที่พื้นที่อาศัยของมนุษย์จะหายไปอย่างน้อยก็ 2 ใน 3 ส่วน ได้แก่ ที่ริมทะเลปากแม่น้ำ และที่ราบลุ่มต่างๆ คงเหลือพื้นที่ราบสูงพื้นที่บนภูเขา ซึ่งส่วนมากเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับกับการเกษตรนัก จึงเกิดการขาดแคลนอาหาร เฉพาะพื้นที่ประเทศไทยนั้นเหลือเพียงภาคเหนือ ภาคอีสาน นอกจากนั้นที่เหลือก็มีสภาพเป็นเกาะแก่งเล็กๆ สรุปได้ดังนี้ บนพื้นดินที่อยู่ตรงกลางทวีปทั้งหลาย ก็จะแห้งแล้งด้วยความร้อนจากใต้ผิวดินประทุขึ้นมา พื้นที่ที่อยู่ริมบริเวณชายฝั่ง หรือค่อนมาทางริมขอบทวีปทั้งหลาย ก็จะถูกน้ำทะเลกลืนกิน บางที่ก็จะยุบหายไป บางที่ก็จะถูกเหวี่ยงออกไปแยกตัวเป็นอิสระ มีแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ทั่วโลก มนุษย์จะเผชิญกับสภาพความแล้งจัด จนต้องอดตาย พบโรคใหม่กับสัตว์สายพันธุ์ดุร้าย และมีพิษ คร่าเอาชีวิตมนุษย์ทั่วไปทั้งโลกนี้เช่นกัน

    โดย Dr.G.G.Junior

    ที่มา http://www.universal-signal.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2011
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]ข้อคิดดีๆของ กังฟูแพนด้า 2[/FONT]​
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>[/FONT]
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<O:p>[​IMG]</O:p>[/FONT]
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<O:p></O:p>[/FONT]
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<O:p></O:p>[/FONT]
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<O:p></O:p>[/FONT]​
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]จุดเด่นของ "โป" คือเป็นคนที่ยอมรับความจริง และเป็นคนที่ไม่ย่อท้อ ที่สำคัญที่สุด โป (แพนด้า) เป็นผู้ที่มีความกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สุดยอดของนักรบผู้กล้า เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว โป ได้กลับมาหาเตี่ยห่าน ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า เตี่ยนั้นไม่ใช่พ่อที่แท้ของตัวเอง แต่ก็ยังคงรักและเคารพเหมือนเดิม เพราะเลี้ยงดู โป มาแต่เล็ก ๆ[/FONT] นับได้ว่าเป็นสิ่งที่หนังพยายามแทรกเอาความรู้สึกนี้ไว้ให้เด็ก ๆ ได้รับรู้เรื่องการกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ

    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]“ปล่อยวางเรื่องราวในอดีต แล้วเลือกว่าปัจจุบันเราจะเป็นอะไร” ประโยคนี้ จะได้ยินราว 2-3 ครั้ง ทำให้เราได้ฉุกคิดไม่น้อยว่า สิ่งที่ผ่านมาแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นความเสียใจ ความแค้น ความสูญเสีย อะไรก็ตาม ทิ้งมันไปเถอะ แต่ทุกวันนี้เราจะทำอะไรดี เราจะเป็นอะไร เราจะอยู่อย่างไร เป็นประโยคที่แทงใจมากครับ[/FONT]

    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]“แม้ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นได้ หากจิตใจปล่อยวาง” อีกประโยคหนึ่ง ที่อาจารย์ชิฟู ได้กล่าวไว้ นี่ก็หมายความว่า หากจิตใจสงบแล้ว เราก็ทำในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก ให้สำเร็จลุล่วงได้นั่นเอง[/FONT]

    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]ประโยคที่ผมประทับใจอีกประโยคหนึ่งคือ ในขณะที่ ผู้ทำนาย ได้พยายามหว่านล้อม ลอร์ดเชน อยู่ ได้กล่าวประโยคที่ว่า "ถ้วยที่เจ้าเลือกเติมเต็มนั้นมันไม่มีก้น" โอ้โห...หมายถึงความต้องการที่ไม่สิ้นสุดนั้นเอง เพราะเมื่อแก้วก้นรั่วแล้ว จะเติมอย่างไรก็ไม่มีวันเต็ม แล้วเราก็เหนื่อยเปล่าที่จะหาอะไรมาเติมอยู่อย่างนั้น นับเป็นประโยคที่สอนใจได้มาก ซึ่งแทรกอยู่ในหนังเรื่องนี้ทั้งหมดครับ [/FONT]

    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<O:p>การต่อสูในแต่ละฉาก เราจะมองเห็นภาพของกลุ่มจอมยุทธ โป กังฟูแพนด้า, พยัคฆ์เสือ (Tigress- ไทเกรส) , อสรพิษไฟ (Viper –ไวเปอร์), เจ้าวานร (Monkey - มังกี้), ตั๊กแตนจอมต่อย (Mantis - แมนทิส), กระเรียนทอง (Crane - เครน) 5 สหายนี้เวลาออกศึก จะทำงานเป็นทีม สังเกตุว่าแต่ละกระบวนท่า จะผสมผสานกันในบรรดา 5 ยอดฝีมือนี้ และจะเห็นบ่อยที่ใช้พลังทั้ง 5 ช่วยเหลือกัน หนังพยายามจะบอกว่า การรวมตัวกันอย่างสามัคคีนั้น เป็นสุดยอดของที่สุด ไม่ว่าเรื่องใด ๆ เรื่องการต่อสู้ ก็เป็นหนึ่ง เรื่องอื่น ๆ ก็ตามมา เช่นการอยู่อย่างสงบสุข เป็นต้น </O:p>[/FONT]
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<O:p></O:p>[/FONT]
    [FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<O:p></O:p>[/FONT][FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]<O:p>[FONT=tahoma, arial, helvetica, sans-serif]อย่างไรก็แล้วแต่ กังฟูแพนด้า 2 ถือได้ว่าคุ้มค่าตั๋วที่เราซื้อไปดูแน่นอนครับ อย่าลืมพาเด็ก ๆ ไปสนุกในโรงกันด้วยนะครับ ขอให้มีความสุขกับการชมภาพยนต์ครับ [/FONT]

    Posted by มัชฌิมาปกร , ผู้อ่าน : 1170 , 23:17:47 น.

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/kintaro/2011/05/28/entry-1
    </O:p>[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2011
  17. nitsuda08

    nitsuda08 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +221
    ชวนคนไทยชมจันทรุปราคาเต็มดวงนานเกิน 100 นาที ครั้งแรกในรอบ 4 ปี!!!

    ในคืนของวันที่ 15 มิ.ย.54 ถึงเช้ามืดของวันที่ 16 มิ.ย.54 คนไทยจะได้เห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในเมืองไทย และมีโอกาสเห็นทางช้างเผือก และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ความพิเศษของจันทรุปราคาครั้งนี้คือมีระยะเวลาคราสเต็มดวงนานเกิน 100 นาที โดยดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสู่เงามืดของโลก เวลา 01.22 น. และจะเข้าสู่ช่วงคราสเต็มดวงตั้งแต่เวลา 02.22 น. ถึง 04.03 น.

    ที่มาข่าว: Science - Manager Online -
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. nitsuda08

    nitsuda08 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +221
    ชวนคนไทยชมจันทรุปราคาเต็มดวงนานเกิน 100 นาที ครั้งแรกในรอบ 4 ปี!!!

    ในคืนของวันที่ 15 มิ.ย.54 ถึงเช้ามืดของวันที่ 16 มิ.ย.54 คนไทยจะได้เห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงในเมืองไทย และมีโอกาสเห็นทางช้างเผือก และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ความพิเศษของจันทรุปราคาครั้งนี้คือมีระยะเวลาคราสเต็มดวงนานเกิน 100 นาที โดยดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสู่เงามืดของโลก เวลา 01.22 น. และจะเข้าสู่ช่วงคราสเต็มดวงตั้งแต่เวลา 02.22 น. ถึง 04.03 น.

    ที่มาข่าว: Science - Manager Online -
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2011
  19. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    สยอง! หนูยักษ์ กินเด็กที่แอฟริกาใต้


    ข่าว » ข่าวต่างประเทศ, ข่าวเด่นประจำวัน » สยอง! หนูยักษ์ กินเด็กที่แอฟริกาใต้
    <SCRIPT type=text/javascript>google_ad_client="pub-0032874521947222";google_ad_slot="7657140061";google_ad_width=468;google_ad_height=15;</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="//pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_0 height=15 marginHeight=0 frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=aswift_0 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>
    เขียนโดย nuntarat</SPAN> โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title="2011-06-06 12:08:10">วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2554</ABBR> เนื้อหานี้อยู่ในหมวด ข่าวต่างประเทศ, ข่าวเด่นประจำวัน
    [​IMG]
    หนูยักษ์แอฟฟริกา
    MThai News: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มีเด็ก 2 คน เสียชีวิต จากการโดนหนูยักษ์ขนาดเท่าแมวแทะตามตัว ที่ชุมชนแออัีดของเมืองในแอฟฟริกาใต้
    ทั้งนี้ เหยื่อรายแรกมีชื่อว่าลูนาที ดีวาดวา วัย 3 ขวบ เสียชีวิตขณะที่นอนหลับอยู่บนฟูกที่พื้น เธอถูกหนูแทะที่ดวงตาจนกลวง โดยเริ่มตั้งแต่คิ้วลงมาจนถึงแก้มและมีชิ้นส่วนเนื้อห้อยลงมา แม่ของหนูน้อยกล่าวว่า เธอไม่มีทางลืมสภาพน่าเวทนาของลูกได้เลย ส่วนพ่อของหนูน้อยมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของหนูยักษ์แน่นอน
    ขณะที่เหยื่อรายที่สอง เป็นทารก โดยคุณย่าของหนูน้อยคนนนี้เล่าว่า แก้มฝั่งขวาของหนูน้อยถูกหนูยักษ์กินหายไปหมด ซึ่งเธอเสียชีวิตขณะที่คุณแม่วัยรุ่นของเธอออกไปเที่ยวกับเพื่อน
    อย่างไรก็ตาม หนูชนิดนี้เป็นหนูยักษ์สายพันธุ์แอฟฟริกา มีขนาดจากหัวถึงหาง 3 ฟุต (90 ซ.ม.) และมีฟันหน้าใหญ่ประมาณ 1 นิ้ว (2.54 ซ.ม.) และมีลูกได้มากกว่า 50 ตัวต่อปี
    [​IMG]
    หนูน้อย ลูนาที ดีวาดวา
    Mthainews


    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] อุตุฯเตือนทั่วปท.รวมกทม.และปริมณฑลมีฝนร้อยละ60-70ของพื้นที่ เตือน6จว.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศ ประจำวันที่ 7 มิ.ย. 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ด้านรับลมมรสุมหรือด้านตะวันตกของประเทศ และภาคตะวันออกมีฝนหนาแน่น และฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตรและเพชรบูรณ์ ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้

    สำหรับ ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัด ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดอุดรธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

     
  20. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949

    แค่ระยะที่ 2 ก็เริ่มเห็นภาพภัยพิบัติชัดเจน เพียงแต่ความสูญเสียด้านชีวิตยังห่างไกลกับคำทำนายที่ว่า มีผู้รอดชีวิตเพียง ร้อยละ ๓๐ คนเลยประมาทว่าคำทำนายไม่แม่น ไม่เป็นจริง งมงาน แต่กว่าจะถึงปี ๒๕๖๒ ลองพิจารณาดูเล่นว่า คำทำนายไม่ใช่เรื่องห่างไกลเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...