มนุษย์ต่างดาว : เราจะติดต่อเขาได้อย่างไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขนุติโก, 6 มีนาคม 2011.

  1. ขนุติโก

    ขนุติโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    ยังเป็นที่กังขากันในวงการวิทยาศาสตร์ ว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นมีอยู่จริงหรือเป็นเพียงเรื่องในจินตนาการ มีองค์การและหน่วยงานต่างๆ ทั่วโลก ที่ทุ่มเทค้นคว้าเพื่อไขความลี้ลับของสิ่งมีชีวิตนอกโลก และแม้จะไม่มีรัฐบาลใดที่กล้ายืนยันอย่างเป็นทางการว่ายูเอฟโอ หรือจานผีนั้นมีอยู่จริง แต่พวกเขาก็เตรียมตัวกันอยู่เงียบ ๆ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ... วันที่มนุษย์ต่างดาวติดต่อโลกเป็นครั้งแรก

    องค์กรหนึ่งที่เฝ้ารอการติดต่อจากนอกโลก เพื่อยืนยันความเชื่อว่ามนุษย์ไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวในจักรวาล ได้แก่ สถาบันเซ็ตติ (Search for Extraterrestrial Intelligence – SETI) ซึ่งเป็นสถาบันของเอกชนที่ใช้เครื่องตรวจวัดคลื่นวิทยุทางไกลที่ประจำอยู่ในหอดูดาวทั่วโลก เพื่อตรวจดูบนฟ้าว่ามีการส่งสัญญาณชั้นสูงจากที่ใดบ้าง

    แม้จะยังไม่เคยพบสัญญาณบ่งชี้ใด ๆ จากมิตรนอกโลก แต่เซ็ตติก็ได้จัดทำร่างข้อตกลงระหว่างประเทศที่ว่าด้วยการตอบกลับจากสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่ใช้ชื่อว่า “ข้อตกลงที่ว่าด้วยหลักปฏิบัติในกิจกรรมติดตามการตรวจจับสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก” (Declaration of Principles Concerning Activities Following the Detection of Extraterrestrial Intelligence) เพื่อกำหนดว่าบรรดานักดาราศาสตร์จะต้องทำอะไรและหลีกเลี่ยงอะไร หากพบว่ามีการติดต่อจากนอกโลก

    ข้อตกลงข้อหนึ่งระบุว่า นักดาราศาสตร์ที่ลงนามในข้อตกลง จะต้องเก็บข่าวการติดต่อจากนอกโลกไว้เป็นความลับสุดยอด จนกว่าสมาคมดาราศาสตร์และทางการจะได้รับแจ้งข้อมูล นอกจากนี้ข้อตกลงยังกำหนดไว้ว่า ถ้าตรวจจับคลื่นวิทยุใดที่มั่นใจได้ว่ามาจากนอกโลก สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศจะขอให้รัฐบาลทั่วโลก สั่งระงับการใช้คลื่นความถี่ช่วงเดียวกันนั้น




    ยานไพโอเนียร์ 10 ทูตนำสารไปยังเพื่อนต่างแดน
    การติดต่อครั้งแรก

    ราว ๆ ปี 1999 นักวิทยาศาสตร์ที่เซ็ตติเชื่อว่า พวกเขาได้รับการติดต่อจากนอกโลกเป็นครั้งแรก

    ในครั้งนั้นนักดาราศาสตร์นั่งไม่ติดเก้าอี้กันนานถึง 12 ชั่วโมง หลังตรวจพบสัญญาณที่ส่งมาเป็นรูปแบบ จากระยะห่างจากโลกไปในอวกาศถึง 1 ล้านไมล์

    สิ่งแรกที่พวกเขาทำ คือการแจ้งข่าวไปยังนักดาราศาสตร์ทั่วโลก ให้ปรับกล้องโทรทรรศน์เพื่อหาจุดกำเนิดสัญญาณ แต่การหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้พ้นระยะที่กล้องโทรทรรศน์จะมองเห็นได้

    ดักลาส วากอช เจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่ส่งสัญญาณตอบกลับเผยว่า ขณะที่เซ็ตติกำลังเจรจากันภายในว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป สถานการณ์กลับพลิกผันเพราะทีมงานยืนยันได้ว่า แท้จริงแล้วสัญญาณดังกล่าวถูกส่งมาจากดาวเทียมตรวจสอบดวงอาทิตย์ “โซโห” (SOHO) ซึ่งโคจรอยู่ห่างจากโลกราว 1 ล้านไมล์



    นาซาส่งบัตรเชิญ

    ข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงกันบ่อยขึ้น เมื่อมีการจัดตั้งองค์การบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐฯ หรือองค์การนาซา ขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950

    นาซาลงนามร่วมกับสถาบันบรูกกิงส์ สถาบันของเหล่านักคิดชั้นนำของสหรัฐฯ เพื่อหาคำตอบให้คำถามต่าง ๆ เกี่ยวกับจุดกำเนิดของจักรวาล ในรายงานความหนากว่า 100 หน้าที่รู้จักกันในชื่อ “รายงาน บรูกกิงส์” นั้น มีการเอ่ยถึงมนุษย์ต่างดาวเพียงเล็กน้อย แต่ข้อความสั้น ๆ ในนั้นสร้างภาพลักษณ์มนุษย์ต่างดาวที่ไม่น่าพิศมัยสักเท่าไร เพราะเป็นการเตือนว่าการพานพบกับสิ่งมีชีวิตที่มีวิถีแตกต่าง ทั้งในด้านกายภาพและความคิด จะนำมาซึ่งความแตกแยกในสังคมมนุษย์ได้



    จดหมายเชิญถึงมนุษย์ต่างดาวขนาด กว้าง 6 นิ้ว ยาว 9 นิ้วที่ทำอะลูมิเนียมชุบทองติดไปกับยานไพโอเนียร์ 10 เพื่อบอกตำแหน่งของโลกว่าตั้งอยู่ที่จุดใดในอวกาศ



    ปี 1972 บรรดาวิศวกรวุ่นวายอยู่กับการส่งยานอวกาศไปนอกวงโคจรโลกเป็นครั้งแรก นาซาตัดสินใจเมินเรื่องอันตรายของมนุษย์ต่างดาวที่ระบุไว้ในรายงานบรูกกิงส์ และจัดทำบัตรเชิญให้มนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลกส่งไปพร้อมกับยานอวกาสไพโอเนียร์ 10 จดหมายเชิญใบนั้นทำเป็นแผนที่จากอะลูมิเนียมชุบทอง ระบุตำแหน่งของโลกในจักรวาล ไม่มีใครรู้ว่าบัตรเชิญสุดพิเศษจะถึงมือผู้รับเมื่อไร แต่การติดต่อกับโลกครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมปี 2003 ชี้ว่า ยานไพโอเนียร์ 10 กำลังเดินทางอยู่ห่างจากโลกถึง 7,000 ล้านไมล์

    ทำไมมนุษย์ต่างดาวไม่มาซักที ?

    แต่ถ้าแขกซูเปอร์วีไอพีอย่างมนุษย์ต่างดาวตัดสินใจมาเยือนโลกจริงๆ ล่ะก็ คนใหญ่คนโตในนาซาและทำเนียบขาว คงไม่ออกมายืนต้อนรับและขอจับมือเป็นแน่แท้ แต่พวกที่จะปราดเข้ามาหาเหล่ามนุษย์ต่างดาวกลับจะกลายเป็นทีมเอฟบีไอ ที่แต่งตัวเตรียมพร้อมเต็มที่ในชุดป้องกันอาวุธชีวภาพ

    แทนที่จะได้นอนกลิ้งสบายใจบนเตียงใหญ่ในไวท์เฮาส์ พวกเขาอาจจะถูกส่งตัวด่วน ไปที่ศูนย์ตรวจโรคสัตว์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ บนเกาะพลัม เพื่อให้คุณหมอจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติมาตรวจเช็คร่างกาย ส่วนจานบินยูเอฟโอที่สร้างความฮือฮาของพวกเขา จะถูกทีมตรวจค้นฉุกเฉินมาจัดการลากไปเก็บที่กระทรวงพลังงานนิวเคลียร์ ที่นิวเม็กซิโก ใกล้กับห้องทดลองนิวเคลียร์ชั้นนำของสหรัฐฯ (แน่ล่ะ ใคร ๆ ก็ต้องเดาไว้ก่อนว่ามนุษย์ต่างดาวใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการขับเคลื่อนยาน)

    หลังจากศึกษาพฤติกรรมมนุษย์มานาน มนุษย์ต่างดาวก็คงรู้แล้วล่ะว่าพวกเขาจะเจออะไรบ้างหากตัดสินใจรับบัตรเชิญมาเยือนโลก และนี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่พวกเขาเลือกจะแอบไปเที่ยวตามชนบทไกล ๆ มากกว่าจะลงมา "เซย์ไฮ" กับ
    สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนในเมืองใหญ่





    *ไม่ควรเชื่อหรือหลงไหลมากนะครับอ่านพอความบันเทิงแล้วเก็บไปคิดวิเคาห์*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2011
  2. Dont"

    Dont" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    434
    ค่าพลัง:
    +17
    เป็นอีกความรู้นึงนะครับเนี่ย
     
  3. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    ใช่จะติดต่อกับพวกเขาได้อย่างไร ได้เพียงแต่เห็นเท่านั้นเอง
     
  4. ratrat

    ratrat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +479
    จริงอย่างว่านะ มนุษย์ต่างดาวคงแอบศึกษา คนในโลกนี้แล้ว
    และก็คงจะไม่ยอมเชื่อใจคนในโลกอีกนั่นแหละ จริงไหมล่ะ
    น่าเชื่อถือซะที่ไหนกัน เขาไม่เสี่ยงง่ายๆหรอก กลัวเสียใจ
    ภายหลัง เอ้อ
     
  5. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    ลองโทรถาม 1133 สิ เผื่อจะรู้น่ะ...อิ อิ
     
  6. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    ยังมีหวังมีหลายคนที่เขาไว้ใจและเชื่อมั่นเราได้พบเขาแน่แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปค่อยๆเข้าใกล้กันเพื่อจะไดรู้ว่าต่างคนต่างไม่มีอันตรายเพราะพลังในตัวของบางคนอาจจะกระทบกับลักษณะทางกายภาพ ก่อนพบกันต้องทดสอบว่ามนุษย์คนนี้ไม่สร้างอันตรายไม่มีหลุมดำ จิตใจสะอาดผ่องใสจึงจะเจอกันได้ ตอนนี้ใช้ Biophone ไปก่อน
     

แชร์หน้านี้

Loading...