!!ระหว่างคุณ telwada กับ คุณ การุณย์ ใครจะแน่กว่ากัน!!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย gungun, 29 มกราคม 2007.

  1. ปีศาจร้าย

    ปีศาจร้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,240
    เราว่ามาแบ่งฝ่ายตีกันเองดีกว่า ลุงแกอายุมากแล้ว ไม่น่าไปรบกวนแกเลย เหอๆๆๆ (ครายอยากเจอมารกระชากโลหิตก็เข้ามา ย๊ากๆๆๆๆๆๆ)
     
  2. รัศมีธรรม

    รัศมีธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +330
    อ่านพบทีแรกเกิดความรู้สึกไม่พอใจมาก อ่านอีกครั้งอยากจะหาวิธีช่วยเหลือท่านให้ก้าวเดินต่อไป พอเข้ามาอ่านวันต่อมาน่าตลก ขำ ๆ และก็ยังอยากช่วยท่านให้ก้าวเดินถูกทาง นี่คงเป็นบททดสอบจิตใจเราได้อีกบทนึง ว่าเรายังต้องพยายามต่อ ฝ่ายดำกับฝ่ายขาวกำลังพอๆ กัน... แต่ฝ่ายขาวชนะได้ในยกนี้... ดีใจ ๆ
     
  3. รัศมีธรรม

    รัศมีธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +330
    คือว่าอ่านครั้งแรกมีความรู้สึกว่าศาสนาถูกบิดเบือน ศาสดาถูกลบหลู่ และต้องปกป้องศาสนา แต่ถ้าท่านทั้งสองไม่ได้ถูกครอบงำด้วยอวิชชา ท่านก็คงไม่เป็นเช่นนี้ แล้วด้วยจุดมุ่งหมายแรกของการปฏิบัติของท่าน ท่านก็คงไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนี้ แต่ใครล่ะจะสามารถพาท่านลัดเลาะมาให้ถูกทางได้
     
  4. midias

    midias เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +2,191
    คนมีฤทธิ์ มัก ไม่พูด แฝง อยู่กับคนธรรมดา คนธรรมดา มีพลังเท่าหางอึ่งบอกว่าข้าเป็นเทพ ข้าปราบมารได้ พอมารมาจริงๆ ล่ะ ก็ ใส่เกียร์หมาประจำ ผมละเบื่อ ถ้ามีฤทธิ์ ไม่จำเป็นต้องใช้คาถา ไม่ต้องหาลูกแก้วให้วุ่นวาย ไม่ต้องบริจาคมากมายเพื่อขึ้นสวรรค์ ไม่จำเป็นต้องบริจาคทีเดียวเยอะๆ เพื่อ ข้าจะได้บุญมากกว่าใครๆ
    พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยทำสิ่งที่บอกข้างต้น เลย ซักครั้ง อย่าหลงทางนะเพื่อนเอ๋ย
     
  5. ziplord

    ziplord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +272
    แวะมาดูเฉยๆ คนตั้งกระทู้ไม่สมควรจะตั้งขึ้นมานะ จริงๆแล้วมันเหมือนกระพือให้ออกมาเถียงกันไปกันมาไม่จบไม่สิ้น ยุให้ผู้หลงผิดตีกันมันบาปนะ
    ใช้สติคิดดีๆก่อน อย่าเอาอัคติมาใช้ห้ำหั่นกันเลยจะดีที่สุด ใครที่เขาหลงตัวกู่ไม่กลับก็ให้วางเฉยๆจะดีกว่ามาจองกรรมให้เกิดกรรมอันไม่สิ้นสุดต่อกัน มันไม่ดีเลย ผมมองไม่เห็นผลดีในการตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะตั้งด้วยความนึกสนุกหรือเพื่อจุดประสงค์ใด เพื่อให้เขาเกิดการถกเถียงกัน ทะเลาะกัน
    อยากให้ใช้สติกันให้มากสักหน่อย ไม่อยากให้สร้างกรรมไม่ดีต่อกัน ปีนี้ใครๆหลายคนทำนายว่าคนไทยจะแตกความสมัครคี อย่าให้เป็นดั่งคำทำนายเลยนะ
    อยากให้รู้จักการปล่อยวางกันบ้าง อย่าพยายามผูกใจเจ็บต่อกันอย่าพยายามจ้องทำบาปต่อกันไม่ว่าจะบาปมากบาปน้อยก็ตาม ขอให้อยู่กันอย่างมีความสุขอย่าหาทุกใส่ตัวและอย่าความสุขบนทุกข์ของคนอื่นเลยจะดีที่สุดนะครับ

    เอาเป็นผมมาพร่ามๆบอกๆเตือนๆกัน จะฟังไม่ฟังก็แล้วแต่ไม่ว่ากัน
    telwada กับ คุณ การุณย์ เขาจะเป็นยังไงเราๆท่านๆก็รู้กันดี ปล่อยเขาตามแต่เวรแต่กรรมไปก็พอแล้ว อย่าได้เพิ่มเวรกรรมต่อกันอีกจะดีที่สุดนะ
     
  6. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    หงซีกวนในภาพยนตร์ เป็นชายหนุ่มเลือดร้อน มุทะลุ เชื่อมั่นในตนเองสูง แต่ก็ยังคงยึดมั่นในวิถีทางแห่งคุณธรรม เขาฝึกมวยกับบิดาตั้งแต่ยังเล็กจนเติบใหญ่ โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว บิดาของตนเป็นหัวหน้าพรรคดอกไม้แดง ศัตรูตัวฉกาจของราชสำนัก ที่กำลังรวบรวมจอมยุทธชาวฮั่นผู้รักชาติเพื่อทำการขับไล่ชาวแมนจูออกจากแผ่นดิน

    ในวัยแรกรุ่น หงซีกวนออกจากบ้านไปท่องยุทธภพ หาประสบการณ์ในโลกกว้างเพียงลำพัง อันเป็นการหล่อหลอมให้ตนเติบใหญ่ก้าวหน้าทั้งในเรื่องวิทยายุทธและความคิด ทักษะการเอาตัวรอดในโลกกว้าง ประกอบกับความที่เป็นคนเลือดร้อนและเชื่อมั่นในตนเองสูง เมื่อเขากลับมาถึงบ้านแล้วพบเห็นการกระทำหรือคำสั่งหลายอย่างของบิดาที่เขาไม่อาจเข้าใจหรือยอมรับในเหตุผลได้เพราะการที่บิดาเขาต้องปิดบังฐานะหัวหน้าพรรคดอกไม้แดงของตนไว้ให้สนิทนั่นเอง ทำให้หงซีกวนเริ่มไม่เคารพท่าน เหมือนผู้ใหญ่หัวโบราณคนหนึ่งที่เขาไม่จำต้องฟังเสียง

    ในวันแรกที่เขากลับมาถึงบ้าน เขาทดสอบฝีมือกับบิดาของตน ด้วยความรักลูก บิดาของหงซีกวนจึงออมมือให้อยู่หลายส่วน ทำให้หงซีกวนเอาชนะบิดาของตนได้ง่ายดาย ซึ่งนั่นยิ่งก่อความฮึกเหิมลำพองใจแก่จอมยุทธ์หนุ่มมากขึ้น เมื่อพิจารณาถึงการออกจากบ้านไปเผชิญโลกกว้างอยู่หลายปีกับสายตาที่มีต่อบิดาแล้ว ช่องว่างระหว่างพ่อลูกคู่นี้ก็ดูจะมีมากขึ้นอยู่ทุกขณะ

    จวบจนเมื่อเขารู้ความจริงว่าบิดาตนเป็นถึงหัวหน้าพรรคดอกไม้แดงที่นำพาชาวยุทธนับพันร่วมต่อต้านราชสำนักแมนจู และทราบความจริงว่า แท้ที่จริงวิทยายุทธ์ของตนไม่อาจเทียบได้กับบิดา แม้แต่จะเท่าปลายหางลูกอึ่งอ่าง

    อีกทั้งเข้าใจแล้วว่าคำสั่งและการกระทำที่ไร้เหตุผลทั้งหลายของท่านนั้น เป็นไปเพื่อปิดบังฐานะของท่าน เพื่อไม่ให้หงซีกวนเข้าไปพัวพันมีส่วนร่วมจนต้องเดือดร้อน...สิ่งนี้หาใช่สิ่งใดแต่คือความรักของบิดาที่มีต่อบุตร

    เมื่อนั้นเองหงซีกวนพลันสำนึกในความคิดที่บัดซบของตน เขาพยายามบีบช่องว่างนั้นให้หดแคบลงด้วยการเริ่มทำตนเป็นลูกที่ดี และอยู่ดูแลปรนนิบัติท่านอย่างใกล้ชิด ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่ท่านจะตายเพราะถูกยาพิษของนักพรตสำนักบู๊ตึ๊ง ที่ทางราชสำนักเชิญมาปราบพวกกบฏ โดยที่หงซีกวนไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้ นอกจากมองดูท่านจากไปต่อหน้าต่อตา และร่ำไห้แก่การลาจากอย่างทุกข์ระทม

    ช่วงเวลาที่หงซีกวนได้ทำตนเป็นลูกที่ดีของพ่อนั้น ช่างแสนสั้นเมื่อเทียบกับทั้งชีวิตที่เกิดมา รวมถึงช่วงเวลาอันเป็นช่องว่างระหว่างตนกับบิดา

    ใช่หรือไม่ว่า ความจริงอย่างหนึ่งอันเป็นบ่อเกิดของทุกข์แห่งปุถุชนเราคือ ไม่ยินยอมใช้เวลาที่มีอยู่ทุกขณะเพื่อความรักแก่กันและกัน และจะยินยอมให้ความรู้สึกเสียดายปนเสียใจเข้ามามีบทบาทเมื่อวันเวลาเหล่านั้นผ่านไปจนไม่เหลือโอกาสแล้ว

    หลายครั้งที่ผมได้ไปงานศพของคนรู้จัก และพบว่าส่วนหนึ่งของคำพูดที่ญาติมิตรผู้ร่ำไห้กล่าวกันบ่อยครั้งคือ หากย้อนเวลากลับไปได้ จะรักและดูแลเขาให้มากกว่านี้...จะประสานรอยร้าวของความสัมพันธ์ให้ดีดังเดิม....ฯลฯ ซึ่งผมมักเกิดคำถามในใจว่า แล้วทำไมไม่ทำเสียแต่แรก เมื่อพิจารณาหาคำตอบแล้วก็พลันรู้ว่า คนเรามักนำ "อัตตา" มากีดขวางสายสัมพันธ์ของความรักกันไว้นั่นเอง คนรักจึงไม่ยอมถกปัญหากันอย่างตรงไปตรงมา ลูกจึงหนักใจที่จะรับฟังคำของบุพการี และเพื่อนก็มักไม่ยินยอมให้อภัยกันในหลายๆครั้ง

    และก็เพราะคนเราไม่อาจคาดเดาหยั่งรู้เวลาตายของตนได้แน่นอน ทั้งที่พระท่านก็สอนแล้วสอนอีก ว่าอย่าตั้งตนในความประมาท แต่คนเราก็มักประมาทว่า เวลาตายคงอยู่อีก 50 - 60 ปีข้างหน้าโน่น สุดท้ายเมื่อรู้ตัวอีกที เวลาที่จะกล่าวคำว่า "รัก" และ "อภัย" แก่กัน กลับต้องบอกกล่าวผ่านควันธูปเปลวเทียน เสียแล้ว

    กลับมาที่เรื่องของหงซีกวนกันต่อ หลังจากนั้นหงซีกวนจึงได้สืบปณิธานต่อจากบิดาในการกอบกู้ราชวงศ์หมิง โดยการขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคดอกไม้แดงคนใหม่

    ในตอนหนึ่งของภาพยนตร์ที่ผมยังจำได้ไม่ลืมคือ ในตอนที่หงซีกวนและสหายทั้งสอง คือ ฟางสืออี้ และหูฮุ่ยเฉียงได้กราบหลวงจีนจื้อส้านเป็นอาจารย์ที่วัดเส้าหลิน ให้ท่านถ่ายทอดสุดยอดวิชาของเส้าหลินเพื่อเพิ่มพูนวิทยายุทธของตนให้ก้าวหน้ามากขึ้น ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในการกอบกู้ราชวงศ์หมิง เพื่อต่อสู้กับกองทัพราชสำนัก และนักพรตจากบู๊ตึ๊งที่ฆ่าบิดาของตน

    สิ่งแรกที่อาจารย์จื้อส้านได้สอนแก่ทั้งสาม คือ การยืนควบม้า

    หงซีกวนถึงกับงุนงงและพยายามบ่ายเบี่ยง แต่ก็ถูกอาจารย์จื้อส้านเอ็ดใส่จนไม่อาจโต้แย้งได้ จึงยอมฝึกยืนอย่างเสียไม่ได้ ตามนิสัยดื้อรั้นของตน ก็จะไม่ให้ฝืนใจฝึกอย่างเสียไม่ได้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อการฝึกยืนควบม้านี่เป็นท่าพื้นฐานที่ไว้ให้คนเริ่มฝึกมวยเขาฝึกกัน จอมยุทธกระเดื่องนามอย่างหงซีกวนผู้ปรารถนาจะได้เรียนสุดยอดวิชาเส้าหลิน กลับถูกจับมาฝึกท่าพื้นฐานราวคนไม่เป็นมวยแทนเสียนี่ ย่อมเป็นการเสียเวลาเปล่าสำหรับเขา

    เวลาผ่านไป เกือบครึ่งเดือนหงซีกวนยังคงไม่ได้ฝึกอะไรนอกจากการยืนควบม้า ความหงุดหงิดก็ทับถมมากขึ้นจนไม่อาจอดทนได้อีก จึงไต่ถามเณรน้อยรูปหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยแนะพวกหงซีกวนในเรื่องระเบียบกฎเกณฑ์และเส้นทางในวัด

    " เณรพอจะทราบไหมว่า พวกข้าจะต้องฝึกยืนควบม้าอีกนานเท่าไร"

    "เอ...ข้าก็ตอบแทนท่านอาจารย์ไม่ได้หรอกนะ เพราะตัวข้าเองอยู่ที่นี่มาก่อนท่านตั้งหลายปี นอกจากหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถูวัดแล้ว ข้าก็ได้ฝึกแต่ท่ายืนควบม้าเหมือนกัน"

    "!!?" ขนาดเณรน้อยที่อยู่ก่อนตนมาหลายปียังได้ฝึกแต่ท่ายืนควบม้า แล้วพวกตนเล่า...ในใจหงซีกวนนั้น นอกจากรีบร้อนอยากฝึกวิชาเร็วๆแล้ว ก็ยังรีบร้อนที่จะออกจากวัดเพื่อไปนำพรรคดอกไม้แดงอีก ในที่สุดก็อดรนทนไม่ไหว เข้าไปกราบเรียนถามพระอาจารย์ในทันที

    "อาจารย์ครับ ศิษย์ต้องฝึกยืนควบม้าอีกนานเท่าไร"

    "........." ไม่มีคำตอบจากปากท่าน

    " อาจารย์ครับ ท่านไม่ได้สอนอะไรข้าเลย เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ หากช้ากว่านี้การกอบกู้ราชวงศ์หมิง ขับไล่พวกแมนจูจะไม่ยิ่งช้าไปอีกหรือ ได้โปรดถ่ายทอดวิชาให้แก่ศิษย์ด้วยเถิด"

    อาจารย์จื้อส้านมองดูศิษย์ของตนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลันหันไปทางเณรน้อยผู้นั้น

    "เจ้าสองคนประลองฝีมือกันให้ข้าดูซิ ซีกวน..หากเจ้าเอาชนะเขาได้ ข้าจะสอนวิชาให้เจ้าทันที"

    หงซีกวนดีใจหนักหนา เอาชนะเณรน้อยผู้นี้ให้ได้หาใช่เรื่องหนักหนา วิชาปัดกวาดเช็ดถูหรือจะสู้ตน

    ส่วนเณรน้อยถึงกับหน้าถอดสี ก่อนหน้านี้กิตติศัพท์ของหงซีกวนก็ดังกระฉ่อนเข้ามาถึงในวัด คราวนี้ตนคงต้องเจ็บตัวเป็นแน่แล้ว

    "เพื่อให้เป็นการยุติธรรมในการประลอง ให้เจ้าสองคนใช้เพลงหมัดเส้าหลินชุดนี้ในการประลองเท่านั้น พวกเจ้าทั้งสองจงดูให้ดี"

    เมื่อพูดจบ หลวงจีนจื้อส้านก็ร่ายรำเพลงหมัดเส้าหลินออกมาสี่ห้ากระบวน เป็นเพลงหมัดที่ดูพื้นเพอย่างยิ่ง ผู้มากประสบการณ์การฝึกยุทธอย่างหงซีกวนเพียงยืนดูอย่างสงบนิ่งและสามารถจดจำได้ในทันใด ส่วนเณรน้อยนั้น พยายามขยับมือเท้าตามการร่ายรำของอาจารย์ตนเพื่อจดจำกระบวนท่าเหล่านั้น

    เมื่อหลวงจีนจื้อส้านร่ายรำจบลงก็หันมาถามทั้งสองคนว่าจำกระบวนท่าที่รำให้ดูได้หรือไม่ หงซีกวนเพียงพยักหน้าอย่างมั่นใจ ส่วนเณรน้อยนั้นเพียงจดจำได้เล็กน้อยเท่านั้น

    "เอาล่ะ เจ้าสองคนประลองกันได้"

    แม้เณรน้อยจะไม่มั่นใจในการประลองครั้งนี้ แต่ก็จำใจต้องทำตามคำสั่งอาจารย์ โดยหวังว่าจะได้รับการออมมืออยู่บ้างจากหงซีกวน แต่เมื่อสิ้นสัญญาณสั่งเริ่มจากอาจารย์ หงซีกวนก็พลันโถมเข้าหาเณรน้อยพร้อมหมัดเท้า ตามเพลงหมัดที่ได้รับการถ่ายทอดเมื่อครู่ทันที

    เณรน้อยคล้ายจะเสียเปรียบหงซีกวนอยู่หลายส่วน เขาได้แต่ปัดป้องหมัดเท้าเหล่านั้นโดยไม่อาจโต้คืนได้สักครั้ง ฝ่ายหงซีกวนนั้นแม้หมัดเท้าจะว่องไวหนักแน่น แต่กลับไม่อาจหลุดรอดการปัดป้องของเณรน้อยได้เลย

    ฝ่ายหนึ่งจู่โจม ฝ่ายหนึ่งปัดป้อง ทั้งการจู่โจมและปัดป้องล้วนเป็นเพลงหมัดชุดเดียวกัน ไม่ว่าจะอย่างไรการจู่โจมก็ไม่อาจทำลายการปัดป้องนั้นได้ จนเร่งเร้าให้ผู้จู่โจมหงุดหงิด และดุดันโหมโจมตีมากขึ้น
    ฉับพลัน ฝ่ามือของเณรน้อยแปรเปลี่ยนจากปัดป้องเป็นกระแทกกลับทันที ในจังหวะสวนกลับ (counter fist)

    ร่างของหงซีกวนถึงกลับกระเด็นลงไปนอนกับพื้น พร้อมกับความตะลึงลานของเณรน้อยที่ไม่อาจเชื่อตนเองได้ในความร้ายกาจของฝ่ามือตน

    หงซีกวนค่อยๆยันกายลุกขึ้นอย่างยากเย็น แม้จะเจ็บใจที่ต้องพ่ายแพ้ต่อเณรน้อย แต่เขาก็ยอมรับความพ่ายแพ้นี้อย่างลูกผู้ชาย

    เณรน้อยผู้นี้ ดูภายนอกบอบบางไร้พิษสง แต่กลับมีกำลังภายในกล้าแข็งถึงขนาดทำให้เขาหมอบได้ในฝ่ามือเดียว!

    หลวงจีนจื้อส้านยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าวแก่เขา "ซีกวน เจ้าเห็นหรือยัง เณรน้อยแม้ไม่เคยฝึกเพลงมวยเหมือนเจ้า แต่กลับทุ่มเทฝึกฝนพื้นฐานมามากกว่าเจ้าทั้งจิตใจและกำลังภายในเข้มแข็งยิ่งนัก เจ้าตรองดูเถิด ถ้าข้าไม่ใส่ใจในท่าพื้นฐานแก่เจ้าให้มากแล้ว แม้เร่งถ่ายทอดเพลงมวยสุดยอดของเส้าหลินให้เจ้าก็เกรงว่าเป็นการหยิบยื่นความตายแก่เจ้ามากกว่า!"

    หงซีกวนพลันเกิดปัญญา คุกเข่าลงกราบขอขมาอาจารย์ทันที ในความใจร้อนของตน

    นับแต่นั้นมาหงซีกวนก็เพียรฝึกฝนท่ายืนควบม้าต่อไป เมื่อในใจดุจ "ถ้วยชาที่ว่างเปล่า" แล้ว ความเร่งร้อนถือดีของตนก็พลันถูกข่มไว้ ทำให้ท่าพื้นฐานของตนเป็นที่พอใจของหลวงจีนจื้อส้าน จนเริ่มถ่ายทอดวิชาแก่หงซีกวนในเวลาต่อมาไม่นาน

    ศัตรูอย่างหนึ่งของผู้ฝึกยุทธคือ ความใจร้อน การฝึกวิทยายุทธในตัวมันเองจึงเป็นการฝึกตนเอาชนะ ความใจร้อน ดังนั้น การฝึกสุดยอดวิทยายุทธ หากไร้ซึ่งพื้นฐานร่างกาย และจิตใจที่แข็งแกร่งหนักแน่นแล้ว สุดยอดวิชาก็อาจกลายเป็นแค่ มวยตีมดเท่านั้น

    การที่หลวงจีนจื้อส้านบังคับให้หงซีกวนฝึกท่ายืนควบม้า นอกจากเป็นการปัดฝุ่นปูพื้นฐานให้ใหม่ทั้งหมดแล้ว ยังเป็นการบ่มเพาะความแข็งแกร่งของจิตใจให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย

    ความแข็งแกร่งที่ต้องเอาชนะความใจร้อนและความถือดีของตน

    จุดประสงค์ที่หงซีกวนมากราบหลวงจีนจื้อส้านเป็นอาจารย์นี้ อย่างหนึ่งก็เพื่อกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคดอกไม้แดง เพื่อนำพาเหล่าจอมยุทธนับร้อยก่อกบฏต่อสู้กับราชสำนัก ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำก็ทำได้ และใช่ว่าทำแล้วจะสำเร็จดังหมาย และพรรคจะรุ่งหรือจะล่ม ย่อมไม่อาจโต้แย้งได้ว่า ผู้นำมีส่วนในการเหล่านี้อยู่หลายส่วน

    ผู้นำต้องมิใช่เพียงแต่มีวรยุทธเป็นเลิศเท่านั้น หากแต่คุณสมบัติของผู้นำที่คนนับร้อยฝากชีวิตไว้นั้น อยู่ที่สามารถควบคุมจิตใจตนได้มากเพียงใดด้วย ยังไม่นับรวมถึงสติปัญญาในการตัดสินใจต่อเหตุการณ์เฉพาะหน้าซึ่งต้องอาศัยความเยือกเย็นอีกต่างหาก

    ในการประลองกับเณรน้อยนั้นเห็นได้ชัดถึงข้อด้อยนี้ของหงซีกวน เมื่อพิจารณาแล้ว เณรน้อยฝึกฝนท่ายืนควบม้ามาเป็นเวลานาน ซึ่งนอกจากจะสร้างพื้นฐานร่างกายให้แข็งแกร่งแล้วยังเป็นการบ่มเพาะกำลังภายในให้กล้าแข็ง ที่สำคัญคือการมีจิตใจที่เยือกเย็นเข้มแข็ง เมื่อได้ผ่านการอดทนต่อสู้กับความเมื่อยล้า และความน่าเบื่อหน่ายของการยืนย่อขาเฉยๆเป็นเวลานานๆ ซึ่งหากจิตใจไม่เข้มแข็งและสงบเยือกเย็นพอแล้ว ผู้ฝึกย่อมเลิกฝึกกลางคันเป็นแน่ ด้วยเหตุนี้ ในการประลองกับหงซีกวน แม้จะเป็นการประลองครั้งแรกของเณรน้อย แต่เมื่อเขามีจิตใจที่สงบเยือกเย็นและมีสติมากกว่า การเคลื่อนไหวมือเท้าของตนเพื่อปัดป้องการจู่โจมของหงซีกวนย่อมมีประสิทธิภาพ ส่วนคนที่สมาธิสั้นและไม่มีจิตใจเยือกเย็นเท่าอย่างหงซีกวนจึงตบะแตกง่ายเมื่อไม่สามารถเอาชนะการปัดป้องของเณรน้อยได้ เขาจึงเร่งเร้าโหมโจมตีอย่างดุดัน สภาวะจิตใจที่มุ่งแต่จะเอาชนะของหงซีกวนนั้นเองได้เปิด "ช่องว่าง" ขึ้นให้เณรน้อยผู้มีกำลังภายในกล้าแข็งแย่งชิงจังหวะนั้นสวนฝ่ามือกลับซัดหงซีกวนได้ในพริบตา

    จุดอ่อนของหงซีกวนเช่นนี้เองที่หลวงจีนจื้อส้านเห็นว่า หากแม้นหงซีกวนลาจากวัดเส้าหลิน โดยมีเพียงสุดยอดวิชาของเส้าหลินติดตัวไป แต่จิตใจยังคงไม่อาจเอาชนะความใจร้อน และความถือดีในตัวได้แล้ว การเป็นผู้นำพรรคดอกไม้แดงคงต้องสอบตกเป็นแน่ ยังมิพักต้องกล่าวถึงการจะโค่นล้มราชสำนักแมนจูว่าจะสำเร็จหรือไม่

    ใช่หรือไม่ว่า ความจริงอีกประการหนึ่งอันเป็นบ่อเกิดของทุกข์แห่งปุถุชนเราคือ มักจะละเลยเพิกเฉยต่อสิ่งพื้นเพที่จำเป็นเบื้องหน้า แล้วมุ่งสนใจกับ "สีสัน"ที่ยังอยู่อีกไกลมือ

    ครั้งหนึ่ง ในการเทศนาธรรมและปุจฉาวิสัชนาธรรมของหลวงปู่พุทธอิสระ มีผู้ปุจฉาท่านว่า

    "หลวงปู่ครับ โปรดเมตตาสอนธรรมขั้นสูงให้ด้วยครับ"

    หลวงปู่เพียงยิ้มนิดๆ และถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะวิสัชนาสั้นๆว่า

    " ลูกเอ๋ย ศีลห้าน่ะ พร้อมดีหรือยัง"

    ------------------------------------------
    อริญชัย

    http://www.suvinai-dragon.com/aim_7.html
    ---------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 ตุลาคม 2007
  7. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,410
    ตอนนี้ ชกไปกี่ยกแล้วหรอ พักกินน้ำเย็นๆก่อนไหม !!!เด็กเสริฟ์ เสริฟ์น้ำด่วน อ้อ..อย่าลืมเก็บเงินด้วยนะอ้ายซื้อบื้อ เดียวขาดทุน ...5555...
     
  8. noone

    noone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +392
    ผมว่าคุณกรรมการตัดสิน กับคุณเทพจันทรา ทำไม่ถูกต้องนะ ถึงเค้าสองคนจะเป็นยังไง ถ้าไม่สร้างความเดือดร้อนหรือลบหลู่สิ่งสักการะของสังคม ก็ไม่ควรไปรื้อฟื้นเอาพวกเค้ามาสนุก จะติเตียนก็ไม่ควรเร่เปิดกระทู้ใหม่ เป็นการยุให้เกิดการเกลียดชังกันเปล่าๆ
     
  9. gungun

    gungun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +168
    คุณ noone ครับ

    ผมไม่ได้ว่า 2ท่านนั้นลบลู่ เลยนะครับ

    แต่คุณการุณย์ เขาอ้างว่า เขาได้ทำการ "ดับ" พระศรีอาริย เรียบร้อยแล้ว....นี่แค่ตัวอย่างเดียวครับ....ลายละเอียดไปดู กระทู้ ผู้ป้องกันศาสนา ของคุณดวงธรรมโพสครับ

    ผมเป็นกรรมการตัดสิน ........ย่อมต้องไม่นิ่งดูดาย สำหรับผู้ที่นอกลู่นอกทางครับ.....

     
  10. kook1519

    kook1519 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    874
    ค่าพลัง:
    +3,159

    ------------------------------------------------------
    เห็นด้วยเลยค่ะ

    _/l\_
     
  11. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อ่านแล้วนะคุณ ก็ไม่เห็นมีสาระอะไร เป็นเพียงการระบายอารมณ์ความแค้นของพวกสัตว์เดรัจฉาน ที่หลงตัวเองว่า เป็นสัตว์ประเสริฐ มันก็แค่นั้น
    อีกประการหนึ่ง ใครจะล้มมาล้างอะไรข้าพเจ้าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะข้าพเจ้าคือ ศรีอาริยะเมตไตยของจริง สามารถพิสูจน์ได้ และกล้าที่จะให้พิสูจน์ได้ด้วย
    ใครก็ตามที่กล่าวว่า ข้าพเจ้าแอบอ้าง
    ก็ให้นำเอา ศรีอาริยะเมตไตย ในความคิดของพวกคุณออกมา พิสูจน์กับข้าพเจ้าได้ทุกเวลาที่เหมาะสม
    และใครก็ตาม นอกเหนือจากข้าพเจ้าแล้ว หากกล่าวแอบอ้างว่าเป็น พระศรีอารย์ ก็ให้แจ้งความตำรวจและนำมาพิสูจน์ก้บตัวข้าพเจ้าได้ เช่นก้น
     
  12. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,410
    ผมก็ขอตัวตามพ่อมดโลจิไปสอบจอหงวนที่เมืองหลวงก่อนครับ...
    ขงจื้อ...มักให้ความสำคัญกับการอ่านหนังสือมาก คนที่จะก้าวไปเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ได้ ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย และคนที่จะเป็นหัวหน้าคน ก็จะไม่แสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาให้ลูกน้องเห็นจนหมดแต่จะให้ลูกน้องเป็นคนจัดการให้หมด ...
    ดังนั้นคนมีปัญญาชนทั้งหลาย จงแสดงพลังที่แท้จริงออกมาเถิด และข้าจะเป็นคนนั่งชมเอง ..555555555
     
  13. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    ง่ะ
     
  14. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,410
    นั้น..แบบนี้ต้องหายจัยเข้า30วิ ออกอีก30วิ อ่ะสิ
    ข่าวดีนะครับ บัดนี้ ท่านเทพจันทรา สอบ จอหงวนบู๊ เสร็จแล้วครับ ได้รับตำแหน่งเป็น จอมมารเทพจันทรา ... ถ้าผู้ใดจะมาปราบมารหรือเทพ แถวนี้ต้องหยุดหายจัย 1นาทีก่อนแล้วค่อยมาปราบเทพจันทรานะขอรับ จบข่าว...
     
  15. nanuu

    nanuu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +55
    อย่าประมาทไปเลย บางทีเขาทั้งสองอาจเป็นพุทธภูมิด้วยซําไป

    สุดท้าย พุทธภูมิก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้เป็นแน่แท้

    เฮ้อ....
     
  16. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    จอมมารโลจิขอประกาศเป็นเพื่อนกับท่านเทวดาขอรับกระผม ^_^แม้ว่าในอดีตเราสองคนจะไม่เป็นมิตรกัน แต่ในปัจจุบันบางครั้งศัตรูที่น่ายกย่องยังดีกว่ามิตรที่ชิดใกล้..แต่ใจห่างธรรรมมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กุมภาพันธ์ 2007
  17. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,410
    ใครแน่ไม่แน่ อันนี้ผมไม่รู้ แต่ที่รู้อาจจะแน่กว่าพวกคุณหลายคนที่โพสด่าคนอื่นก้อได้ ... การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ดีแม้จะผิดจะถูกก้อยังดีกว่าหลายคนที่ไม่คิดจะเริ่มต้นเลยเอาแต่ไปว่าคนนู้นทีคนนี้ที
    ว้าว...หวัดดีลุงเทวดา ไม่เจอชะนานคิดถึงจัง ไม่มีคนทะเลาะด้วย แต่ข่าวลุงนี้ฮิตอีกแล้ว ทุกคนต่างมีความฝัน ฝันแต่ละคนไม่เหมือนกัน ...
     
  18. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    เอ้า...พักกองถ่ายได้แล้ว...คัท คัท คัท....กินเกี๋ยวต๋วยก่อน...เดี๋ยวค่อยถ่ายทำต่อ...จอหงวนเทพจันทรา เสริฟน้ำชาให้ผู้กินกับด้วย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กุมภาพันธ์ 2007
  19. udonteva

    udonteva udonteva

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +348
    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 7.5pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 7.5pt; PADDING-BOTTOM: 7.5pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 7.5pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent"><?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 112.5pt; HEIGHT: 168.75pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 112.5pt; HEIGHT: 168.75pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    <v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra19.jpg"></v:imagedata>
    </v:shape>
    </v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>

    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 7.5pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 7.5pt; PADDING-BOTTOM: 7.5pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 7.5pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top>ชื่อ - ฉายา : หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    เกิด : 1 กรกฎาคม 2445
    คติธรรม คำสอนสำคัญ : ธรรมะเป็นทางแก้ทุกข์ เมื่อจะแก้ก็ต้องสอบทุกข์ก่อน ให้เห็นทุกข์ก่อนเหมือนกับเราทำงานอะไร เราต้องเห็นงานก่อน จึงจะทำได้ ทุกข์อันหนึ่งที่เป็นงานของพวกเราควรทำ ถ้าไม่ทำเราก็ไม่พ้น ฉะนั้นพระพุทธเจ้าทรงสอนพวกเราให้รู้ทุกข์

    <o:p><o:p></o:p>
    <TABLE class=MsoNormalTable style="WIDTH: 100%; mso-cellspacing: 0cm; mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 7.5pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 7.5pt; PADDING-BOTTOM: 7.5pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 7.5pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent"><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 112.5pt; HEIGHT: 168.75pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///F:\DOCUME~1\VICHAK~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://202.44.204.76/narupan/archan/Pra12.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; PADDING-RIGHT: 7.5pt; BORDER-TOP: #ece9d8; PADDING-LEFT: 7.5pt; PADDING-BOTTOM: 7.5pt; BORDER-LEFT: #ece9d8; PADDING-TOP: 7.5pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent" vAlign=top>ชื่อ - ฉายา : หลวงปู่กินรี จนฺทิโย
    เกิด : 8 เมษายน 2439
    คติธรรม คำสอนสำคัญ : ถ้าขาดสติ โอกาสที่จิตใจจะวิ่งไปตามอารมณ์ภายนอกมันก็มีมากขึ้น และอารมณ์ทั้งหลายก็ย่อมครอบงำจิตให้หลงใหลมัวเมาได้ง่ายขึ้น<o:p></o:p>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </o:p>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. FATAL_FRAME

    FATAL_FRAME เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    808
    ค่าพลัง:
    +3,988
    ผู้ละ ...ได้ทุกสิ่ง คือ ผู้ประเสริฐ

    ผู้ยังยึดติด รูป รส กลิ่น เสียง...ชื่อเสียง .. .ใยเล่า ประเสริฐ ได้ เท่า ผู้ละแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...