ไม่มีอะไรให้ตัด ในเมื่อสรรพสิ่งเป็นธรรมะอยู่แล้ว แล้วจะตัดสิ่งใด?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 6 พฤษภาคม 2011.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไม่มีอะไรไม่ใช่ธรรมะ สรรพสิ่งล้วนเป็นธรรมะ ธรรมชาติแม้จะถูกจัดกลุ่มว่าเป็นธรรมภาคขาว หรือดำ ก็คือ ธรรมอวิชชา, กิเลส, ตัณหา ฯลฯ ล้วนเป็นธรรมะในไตรปิฏกทั้งสิ้น ซึ่งล้วนเป็นหนึ่งใน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ทั้งสิ้นสรรพสิ่งล้วนเป็นธรรมไม่เที่ยง ไม่ใช่ที่ยึดเป็นตัวตนของตน เป็นเช่นนั้นเองอยู่แล้วทั้งสิ้น อะไรก็ไม่ใช่ที่ยึด อะไรก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องตัด อะไรก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องวาง ในเมื่อเป็นธรรมะทั้งสิ้น ไม่เที่ยงอยู่เองแล้วทั้งสิ้นอยู่แล้ว แล้วยังจะตัดสิ่งใด?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 พฤษภาคม 2011
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** นิสัยสันดาน ****

    ถ้าไม่มุ่งหลุดพ้นทุกข์ พ้นจากการเกิดใหม่...ก็ไม่ต้องตัด ไม่ต้องลด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    ตัดกิเลสสสสสสสสสสสสสสสส
     
  4. suppanatt14

    suppanatt14 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +16
    ตัดกิเลส มันจะเหลือตัวเราอยู่รึเปล่า

     
  5. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    ตัวเราไม่มีอยู่แล้ว 5555
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เพราะยังมีกรรม จึงยังต้องมีกิจ
    เพราะต้องกระทำกิจ จึงต้องมีแรงขับดัน
    และแรงขับดันที่เป็นธรรมชาติของผู้มีกรรม ก็คือ กิเลส


    กิเลส จึงเป็นธรรมชาติ ที่ขับดันให้คนหลง
    กระทำกรรม, กระทำกิจ เพื่อชำระวิบากกรรมของตน


    หากสิ้นซึ่งกิเลสเสียแล้ว คนย่อมไม่มีความอยากทำกิจอันใด
    หากยังมีกิจอยู่ เขาจะใช้ธรรมชาติใดเป็นแรงขับดันเล่า หากมิใช่กิเลส?
    นี่คือ "ธรรมะ ธรรมชาติ กิเลสคือธรรมะ คือ ธรรมชาติ" อย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พระชินปัญจระ อรหันต์แล้วทำไมจุติเป็นพรหม ไม่นิพพาน?


    พระอรหันต์ชินปัญจระ บรรลุอรหันต์รวดเร็ว ด้วยวัยเพียง ๗ ขวบ
    ท่านสิ้นอวิชชาแล้ว สิ้นกิเลสแล้ว แต่ "บุญกรรม" ยังก็ไม่สิ้น ยัง
    รับวิบากกรรมทั้งดีและชั่วไม่หมด ท่านมีบุญกรรมจะได้ภรรยาคน
    ที่เข้ามาโอบกอดท่านทางด้านหลัง แต่เพราะขาดซึ่งธรรมชาติที่
    จะขับดันให้ "ชำระกรรมตามธรรมชาติ" เสียแล้ว ท่านจึงไม่เห็นมี
    ประโยชน์ใดในการกระทำกามกับหญิงผู้นั้น แล้วละสังขารจุติยังที่
    พรหมโลกแทน เพราะยังชำระบุญกรรมไม่หมด เสวยกรรมไม่หมด
    เพราะอรหันต์เร็วเกินไป เพราะ "ขาดกิเลส ขาดอวิชชา" จึงไม่ได้
    นิพพาน เพราะ "ผิดธรรมชาติ" ใสเกินไป เร็วเกินไป


    กิเลส เป็นธรรมชาติที่ขับดันให้เสวยบุญกรรมให้หมด จึงนิพพานได้
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** เรามีสัจจะเป็นผู้นำ ****

    สัจจะ เป็นแรงขับดัน ขับเคลื่อน ....ให้สร้างการกระทำใหม่
    หน้าที่ ที่เกิดจาก สัจจะ....มาบอกให้ ตัดลดกิเลสนิสัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** ตัดแรงดึงดูดภายในตนที่มีกับโลก ****

    ด้วยนิสัย...จึงพาให้ไปพบโลกุตตระ
    เมื่อ....ได้พบโลกุตตระ
    โลกุตตระ ....จึงบอกหนทางหลุดพ้นทุกข์ อยู่ที่ สัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    แม่น้ำ ขาดฝั่งก็ไม่ใช่แม่น้ำแม่น้ำ ขาดน้ำก็ไม่ใช่แม่น้ำเพราะมีน้ำและมีสองฝั่งจึงก่อเกิดเป็นแม่น้ำตราบใดยังต้องมีแม่น้ำ ก็ยังต้องมี "น้ำและฝั่ง"ตราบใดยังต้องชำระกรรมตกค้าง ก็ยังต้องมีกิเลสตราบเมื่อพ้นจากแม่น้ำแล้ว ฝั่งก็ไม่มี เมื่อหลุดพ้นแล้วแม้กิเลสก็สิ้นไปอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องตัด!ธรรมทั้งหลาย ทั้งขาวและดำ ล้วนปรุงประกอบกันเกิดขึ้นมาอิงอาศัยกันเกิด เรียกว่า "หลักอิทัปปัจจัยตา" ทว่า เมื่อสิ้นแล้วซึ่งการปรุงประกอบ ย่อมหลุดพ้นจากการเวียนว่าย หลักนี้ก็ไม่ต้องใช้หากยังไม่ถึงวาระอันควร ธรรมใดควรเกิด ควรมี ก็จะเกิด ก็จะมีหากถึงวาระอันควร ธรรมใดควรดับ ก็จะดับ สูญไป อย่างง่ายดายไม่เนื่องด้วยวิถี, ไม่เนื่องด้วยกรรมฐาน, ไม่เนื่องด้วยเหตุปัจจัยเพราะเป็นธรรมอันไม่อาศัยการเกิด การดับจากธรรมอื่นใด เพราะพ้นแล้ว คือ นิพพาน
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พระพุทธองค์ทรงเพียรนั่งสมาธิตัดกิเลส ๖ ปีทว่า ท่านก็ยังไม่ทรงตรัสรู้ธรรม เมื่อตรัสรู้ธรรมแล้ว ท่านจึงแจ้งว่าการนั่งสมาธิ ตัดกิเลส ๖ ปีที่ผ่านมานั้น เป็นเพียง "อำนาจแห่งวิบากกรรม"เท่านั้น การตรัสรู้นั้น ไม่เนื่องด้วยวิธีการ ไม่เนื่องด้วยกรรมฐานไม่จำเป็นต้องยึดมั่นถือมั่นที่จะตัด หรือจะดับ ดับได้โดยไม่ต้องตัดทั้งนี้ อยู่ที่ "ปัญญา"
     
  12. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    ผมมีคำถามจะถามท่านว่า ระหว่างอะตอมมีช่องว่างภายในอะตอมกี่หน่วย....ในสากลจักรวาลเรียกหน่วยนั้นว่าอะไร และ..ระยะห่างระหว่างโลกไปดาวลูกไก่ในมิติที่ 4 ห่างกี่....เท่าไร แล้วใครสร้างดวงดาวต่างๆขึ้นมาแล้วใครดูแลคุ้มครองดวงดาวที่ถูกสร้าง โลกโอปาฏิกะมีกีใบใครคุ้มครองบ้าง ไก่กับใข่อะไรเกิดก่อน ช่วยตอบผมที และจะตัดใจจากหญิงที่รักได้อย่างไร
     
  13. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    ตัดบัวยังมีเยื่อใยแต่ตัดใจไม่มีเยื่อไยใครจะทำถ้าไม่เห็นแก่ตัว ทำไม่ได้ สายใยรักแห่งครอบครัว
     
  14. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    ที่มาของเสียงร้อง เมื่อลูกไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อจึงต้องร้องเรียกหาพ้อ พ่อ บ้อ บ้อ ควายบางตัวขาดทั้งพ่อและแม่จึงร้อง ม้อ ๆๆๆๆ แม่และพ่อ รวมเป็น ม้อ ๆๆๆ
    ธรรมะ มี ผู้สร้าง เขาสร้างไว้ให้ทุกชีวิตมีทางออก นึกจะพักรัก ต้องบวช
    นึกจะมีรักต้องสึก
    การจะบรรลุธรรมขั้นสูงจิตรอบรู้เข้าถึงธรรมชาติได้ต้องเชิญเขามาดูเองไม่ต้องป้อนเขาไม่อยากกินอย่ายัด อย่าดันเข้าไปถ้าเขาปฎิเสธมันจะหลุยปุ๊ด

    เอ ทำไมสัตว์ตัวนี้จึงร้องอย่างนี้นะ อ๋อวัวควายมันเกิดเพราะอย่างนี้นี่เอง
    อึ่งอ่างทำไมร้องดังนะ อ๋อในท้องมันมี.......อยู่นี่เอง หางมันถึงไม่มี .... อ๋อ อ๋อ
    อ้อ .... รู้แล้ววางไว้มันสุดยอดนะลองดูสิ
     
  15. ธรรมะ-ดา

    ธรรมะ-ดา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +1
    000

    ทุกสรรพสิ่งเป็นมายา
    ร่วงหล่นลงบนความว่าง
    หายสงสัย ก็สิ้นทุกข์
     
  16. ธรรมะ-ดา

    ธรรมะ-ดา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +1
    000

    เริ่มต้นจากการไม่รู้โดยไม่รู้ตัว เลยสงสัย
    สงสัยเลยเป็นการหาคำตอบต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด จนกระทั่งสุดคำตอบ หรือพอใจ
    หายสงสัย ก็สงสัยต่อไป หรือเลิกสงสัย
    ไม่สงสัย ในเหตุและผล ก็ผ่านแล้ว
     
  17. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    รู้หมดแล้วก็หมดสงสัยเองแหละ
     
  18. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ต รั ส รู้ . . .

    ตัด-ซะ-รู้
    "คิด เท่าไหร่ๆก็ไม่รู้
    ต่อเมื่อหยุดคิดได้ จึงรู้...
    แต่ต้องอาศัยความคิดนั่นแหล่ะจึงรู้..."
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สรรพสิ่งล้วนเป็นธรรม มายานั้น เราสร้างเอง ธรรมะไม่มีว่าง ความว่างนั้น กำหนดเอง สงสัย หรือไม่สงสัย ทุกข์ หรือสิ้นทุกข์ หาย หรือ ไม่หาย ล้วนแต่ "ธรรม" เช่นนั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 พฤษภาคม 2011
  20. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    มิดซีลี.............................................
     

แชร์หน้านี้

Loading...