หลวงพ่อเขียน ขันธสโร พระเกจิดัง"เขาคิชฌกูฏ"

หลวงพ่อเขียน ขันธสโร พระเกจิดัง"เขาคิชฌกูฏ"

คอลัมน์ อริยะโลกที่6

สิงหะ อดุลยานนท์




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
"พ ระครูธรรมสรคุณ" หรือ "พ่อท่านเขียน ขันธสโร" เป็นพระที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมพัฒนาช่วยเหลือทางสังคม สาธารณประโยชน์ การศึกษา และอื่นๆ อีกมากมาย

ปัจจุบัน สิริอายุ 78 พรรษา 57 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี และเจ้าคณะอำเภอมะขาม จ.จันทบุรี

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า เขียน ทองคำ เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2473 ณ บ้านกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ (ขณะนั้นเป็นอำเภอมะขาม) จ.จันทบุรี โยมบิดา-โยมมารดา ชื่อ นายอยู่และนางมุ้ง ทองคำ ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม และหาของป่าสมุนไพร

ในช่วงวัยเยาว์ ได้รับการถ่ายทอดวิชาพืช สมุนไพรและของป่าบนเขาคิชฌกูฏ จนมีความชำนาญ

ท่านเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2494 ณ พัทธสีมาวัดกะทิง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี โดยมีพระครูนิเทศคณานุสิฐ วัดหนองอ้อ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูพุทธบทบริบาล วัดพลวง ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2499 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกะทิง พ.ศ.2528 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลชั้นตรี

พ.ศ.2533 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลชั้นโท พ.ศ.2538 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอมะขาม ชั้นโท

พ.ศ.2541 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอมะขาม ชั้นเอก

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เจ้าอาวาสชั้นตรีที่ พระครูธรรมสรคุณ

พ่อท่านเขียน ได้ริเริ่มโครงการนำวัดเข้าสู่โรงเรียน โดยการเข้าไปบรรยายธรรมในโรงเรียนหลายแห่ง แล้วนำร่องด้วยการปฏิบัติจริงในพื้นที่อำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ

พ.ศ.2541 ได้จัดพิมพ์หนังสือเรื่อง "นำวัดเข้าสู่โรงเรียน" ออกเผยแพร่ และจัดพิมพ์หนังสือเรื่อง "อารยธรรมของจันทบุรี-อาณาจักรจันทบูรเมืองเพนียด" ครั้งแรกและจัดพิมพ์ครั้งที่สอง

จากผลงานดังกล่าว สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีมติอนุมัติปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่พระครูธรรมสรคุณ โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑัฒโน) เสด็จประทานปริญญา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2546

รวมทั้ง ได้รับโล่เกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการแนะแนวชีวิตและสังคม ประจำปี พ.ศ.2546 จากกระทรวงศึกษาธิการ

ทุกครั้งที่หน่วยงานราชการ องค์กรการกุศล โรงเรียน หรือประชาชนทั่วไป เข้ามาขอรับความอนุเคราะห์จากพระครูธรรมสรคุณ ท่านไม่เคยปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงได้ขนานนามท่านว่า เทพเจ้าแห่งขุนเขาคิชฌกูฏ

พระครูธรรมสรคุณ มีความชำนาญด้านนวกรรมจิตตภาวนา เหมือนการหยั่งรู้ล่วงหน้า ดังเช่นครั้งหนึ่ง ได้เคยทำนายเมืองจันท์ก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำป่าท่วมจังหวัดจันทบุรี ในเขตพื้นที่กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ อ.มะขาม และ อ.เมืองจันทบุรี ก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองจันท์ ในปี พ.ศ.2542

ท่านยังเป็นผู้ชำนาญด้านพื้นที่ตามเชิงเขาสูง สามารถหยั่งรู้ดินฟ้าได้ล่วงหน้า ประกอบกับการเดินเท้าขึ้นเขาคิชฌกูฏ ได้รวดเร็วจนชาวบ้านเดินตามไม่ทัน

นอกจากนี้ พ่อท่านเขียน เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการจัดงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) ซึ่งอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏ ต.พลวง กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี นานถึง 60 วัน ระหว่างปลายเดือนมกราคม-มีนาคม ของทุกๆ ปี ซึ่งเป็นที่กล่าวขานว่า ใครเดินทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (เขาคิชฌกูฏ) เพื่อนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาคิชฌกูฏ จะได้รับมหากุศล ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง

[FONT=Tahoma,]หน้า 31[/FONT]

http://matichon.co.th/khaosod/view_...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4Tnc9PQ==

 

ผมเพิ่งไปมาเอง ครับ

2วันที่แล้ว

สวยมาก
ประสบการณ์ที่ดีมากครับ............

 

อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

ไปกราบนมัสการทุกปีค่ะ ปีนี้จะไปเดือนมีนาคมนี้ค่ะ

คงจะสวยเหมือนเดิม


_____________________________________________

ทาน ศีล สมาธิ

 

อนุโมทนาค่า..อยากไปไหว้ท่าน ที่บ้านไปไหว้กันก็ไม่ได้ไป..พลาดไป 2 ครั้งแหละ --"

 

หลวงปู่เขียนท่านมรณพาพแล้ว

 

พระของท่านหาบูชายาก คนต่อแถวกันยาวเหยียด อภินิหารท่านก็มีมากครับ

 

ท่านเคยเล่าให้เราฟังว่า เมื่อก่อนไม่มีหรอกวัดกระทิงเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ แต่มีกระทิงมานอนเกลือกโคลนเยอะมากเลยได้ชื่อว่าวัดกระทิง ส่วนในเรื่องอิทธิฤทธิท่านนั้นใครได้สัมผัสเข้าใกล้ท่านได้น่าจะพอเข้าใจได้ เพราะในการเปิดเขาคิชฌกูฏแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย ตรงนั้นเป็นอุทยาน ไหนจะสัตว์ป่าไหนจะอะไรที่เรามองไม่เห็นอีกมากมายถ้าบารมีไม่พอทำไม่ได้แน่ๆ...สาธุ สาธุ