ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    เมื่อประมาณสอง - สาม สัปดาห์ก่อน ผมดูรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เขาออกข่าวว่า มีพายุคลื่นรังสีสุริยะที่เกิดจากการระเบิดตัวของดวงอาทิตย์อย่างแรง พลุ่งออกมาในสุริยะจักรวาล และพายุคลื่นรังสีสุริยะนั้นกำลังกระจายออกสู่ห้วงอวกาศ พลังงานความร้อนของมันมีมากมายมหาศาล และจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออวกาศ ดวงดาว และสิ่งต่างๆ ที่มันแผ่กระจายไปถึง คาดว่าโลกของเราก็จะได้รับผลกระทบนั้นด้วยเช่นกัน แต่รายงานข่าวกล่าวว่ายังไม่สามารถประเมินความเสียหายที่จะได้รับได้ ส่วนเรื่องที่ว่าจะมาถึงโลกมนุษย์เมื่อไรนั้น ผมจำเวลาไม่ได้ ก็คงอีกไม่กี่ปีมั้งครับ หากเพื่อนคนใดได้ชมรายงานข่าวนี้และจำรายละเอียดได้ ลองมาเล่าสู่กันฟังนะครับ ผมเห็นว่ามันไปสอดคล้องกับข้อความข้างบนที่เขียนกันไว้ ที่ว่าจะมีคลื่นพายุรังสีจากดวงอาทิตย์น่ะครับ เลยหยิบมาเล่าให้ฟัง
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ** เหตุการณ์ชำระโลก ที่จะทำให้เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงนั้น จะเกิดขึ้นตามรหัส 11
    ซึ่งช่วงเวลาที่จะเกิดความรุนแรงมากที่สุด จะเป็นช่วงเวลาทีพระอาทิตย์มีจุดดับ 11 จุด

    ** วันที่ 16 สิงหาคม 2546 ได้เกิดจุดดับบนดวงอาทิตย์ (พายุสุริยะ) เป็นจุดที่ 10 ล่าสุด ซึ่งส่งผลให้ระบบสื่อสาร ดาวเทียม อิเล็คโทรนิคเกิดการรวนโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะบ่ายวันที่ 16 สิงหาคม ส่งผลให้ 7 รัฐกับ 2 เมืองใหญ่ใน US เกิดเหตุการณ์ไฟดับอย่างไม่ทราบสาเหตุ เป็นระยะเวลา 29 ชั่วโมง (2+9=11)

    ** วันที่ 21 สิงหาคม (2+1+8=11) นักวิทยาศาสตร์ค้นพบช่องโหว่ของบรรยากาศ เหนือแอตแลนติก เพิ่มจาก 1 เป็น 2 รู

    ** โรค SARS จะกลายพันธุ์และจะกลับมาระบาดอย่างรุนแรงอีกครั้ง (มนุษย์ 2 ใน 3 ของโลกจะได้รับผลกระทบจากเชื้อโรคนี้)

    ** เหตุการณ์ชำระโลกครั้งสุดท้ายจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ ขอให้ทุกคนเตรียมตัวเตรียมใจให้ดี **

    คัดลอกมาจากhttp://www.piupun.com/newage/ ศาสตร์แห่งอภิปรัชญา .. ศรัทธาใหม่ของโลก
     
  3. snapshot

    snapshot บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่ใช่เฉพาะท่านเว็บมาสเตอร์และผองเพื่อนเท่านั้นที่ทราบ

    มีท่านผู้รู้บอกผมเช่นกัน ลองเข้าเว็บนี้ดูสิครับ ช่วงท้ายของเว็บจะมีบอก

    http://beautifulman.freehomepage.com/
     
  4. คนเคยนับถือคริสต์

    คนเคยนับถือคริสต์ บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พระเมสซีอาร์ในคัมภีร์ไบเบิล กับพระศรีอารย์ในพระไตรปิฏก

    ผมเองเคยนับถือคริสต์มาก่อน ผมไป Search คำว่า "The 3th world war" ใน yahoo.com ผมพบกันประโยคที่ว่า :

    Signs from God. The Messiah comes. We have the end of the World. Signs from God. The Messiah comes. We have the end of the World and already 3th World war.

    สังเกตคำว่า The Messiah ให้ดี ***

    ผมเพิ่งประจักษ์วันนี้เองว่า ที่ผมได้ยินได้ฟังมาเสมอตลอด 27 ปี ของชีวิตผมที่เป็นคริส (คาทอลิก) นั้น คำว่า "พระเมสสิอาร์" (Messiah)ในคำภีร์ไบเบิล ชื่อไปตรงกันพระศรีอาริยเมตไตร ในพระพุทธศาสนา นั่นเอง แต่เรียกย่อเป็น เมต-ศรีอาร์ ก็เท่านั้นเอง

    แต่ก่อนไม่เคยเอะใจมาก่อนเลย ได้ยินได้ฟังว่า พระผู้ไถ่จะมาช่วย บางครั้งใช้คำว่า พระแมสซี แต่ไม่เคยมีใครในโบสถ์พูดให้ฟังเลยว่าพ้องกับพระศรีอาริยเมตไตร หรือ พระศรีอารย์ พระบรมโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนา

    คราวนี้ผมเริ่มเชื่อสนิทใจขึ้นแล้วครับ
     
  5. คนเดิม

    คนเดิม บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พระผู้ช่วยให้รอด ทั้งของคริสต์และพุทธ

    ทางคริสต์ ตอนเด็ก ๆ ผมได้ยินในโบสถ์เรียกว่า พระผู้ช่วยให้รอด หรือ พระเมสซีอาร์ ผมก็ยังไม่เอะใจ ได้ยินใครพูดหลายครั้งก็ยังไม่เอะใจ จนเมื่อผมได้มาสัมผัสในครั้งนี้ ใช่เลยครับ ชัวร์เลยว่าเป็นท่านเดียวกันกับในคัมภีร์ไบเบิล ท่านนอสสตราดามุสไม่ยอมบอกละเอียดเท่านั้นเอง เกรงว่าคริสต์กับพุทธจะตีกันหรือเปล่า

    ต่อไปนี้สังเกตคำว่า The Messiah ถ้าอ่านเป็นคำภาษาไทย ก็น่าจะเป็น "เมสสิอา" ใช่ไหมครับ (ซึ่งทางคริสต์หมายถึงพระผู้ช่วยให้รอดครับ ตอบในฐานะเคยเป็นคริสต์มา 27 ปี ครับ) ซึ่งก็คือ พระ เมตรไตรย ซึ่งย่อชื่อเป็น "เมตร" และก็อีกชื่อคือ "ศรีอารย์" ในคำทำนายของนอสสตราดามุสได้รวมคำสองคำนี้เข้าด้วยกัน เลยกลายเป็น "พระเมสสิอา" หรือ "เมตร-ศรีอารย์" "พระศรีอาริยเมตไตร" นั่นเอง ประจักษ์หรือยังครับ (mes=เมตร, siah=ศรีอาร์) ไงครับ!

    ลิงค์ของคำทำนายทางคริสต์ ซึ่งตรงกับ พุทธทำนาย

    http://www.zevo.de/111.htm

    ตัวอย่าง : Signs from God. The Messiah comes. We have the end of the World and already 3th World war. The Mankind faces the Doom and as well the biggest ever experienced Holocaust. Each second Human being ends up in the Pond of Fire. If the Messiah is not coming now (Jesus Christ, Son of God, King of the Jews), God will come as Devil-and Germany brought the entire Mankind into Hell. Owing to the Brandenburger Nazi gate in Berlin every Human will be punished as hard as Adolf Hitler. That means Hell forever:Final Solution (Endlösung)
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล

    ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก
    และเป็นประเทศแรกที่มีผู้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้
    เป็นแห่งเดียวของโลก โดยใช้พลังจิตในการขับเคลื่อน
    โดยที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้
    ให้เกิดพลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
    และทรัพยากรธรรมชาติของโลก
    ให้เสียหายอย่างเช่นในปัจจุบัน
    นอกจากนี้ต่อมไพนีล หรือตาที่ 3 ของมนุษย์
    จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
    จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีต

    ตามความคิดของผม ยานอวกาศที่ว่าน่าจะหมายถึง"จักรรัตนะ" ของพระเจ้าจักรพรรดิ์ ลองอ่านข้อความต่อไปนี้ดูนะครับ

    ที่สุดแห่งเทคโนโลยี ยุคชาววิไล

    เมื่อนั้น พระราชาก็เริ่มคิดค้นถึงเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ที่เป็นที่รวมของทุกสิ่งทุกอย่าง คือ เป็นเครื่องมือที่สามารถจะดึงอณูธาตุที่มีในอากาศมาขึ้นรูปเป็นวัตถุสิ่งของต่างๆได้ตามปรารถนา โดยไม่ต้องได้ตัดไม้เพื่อมาทำกระดาษ ไม่ต้องขุดดินระเบิดหินเพื่อมาทำซีเมนต์หรือก้อนอิฐ ไม่ต้องผลิตคอมพิวเตอร์เป็นจอๆ แบบมีแป้นควบคุมนี้มาใช้ ด้วยว่า ข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ มีความสิ้นอายุไป แล้วก็กลับกลายเป็นของเสียในภายหลัง มีความล้าหลัง มีคุณสมบัติหลายอย่างไม่ตรงตามปรารถนา ประกอบกับในเวลานั้น ปัญหาขยะในโลกก็ยังคงมีอยู่ แม้ว่าเทคโนโลยีที่พยายามพิจารณาดีแล้วนั้นจะก่อมลพิษน้อยก็ตาม แต่มันก็ยังมีอยู่ สืบต่อไปในระยะกาลประมาณหนึ่ง ก็มีอันต้องสะสมกันล้นพื้นที่ได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ พระราชาจึงพิจารณาเพื่อสร้างวัตถุอันเป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยีขึ้นมา คือจักรรัตนะ หรือจะเรียกว่า เครื่องควบคุมพลังงานหรือธาตุในจักรวาลให้เป็นไปตามใจปรารถนา ก็ได้

    ก็จักรรัตนะนี้นั้น เมื่อปรากฏสำเร็จขึ้นมาแล้ว จะมีคุณสมบัติในการควบคุมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในขอบเขตเท่าที่ใจนึกได้ โดย เครื่องมือชนิดนี้จะตอบสนองโดยตรงต่อความนึกของมนุษย์ ในการป้อนข้อมูลเข้าจักรรัตนะ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยแป้นพิมพ์ ไม่ต้องอาศัยหน่วยความจำภายนอก และขอบเขตในการควบคุมธาตุ กว้างใหญ่ไปเท่าที่ใจของผู้เป็นเจ้าของจะนึกถึงได้ ... จักรรัตนะนี้ รับข้อมูลเข้าไปในรูปของอารมณ์จิต จึงมีอานุภาพเป็นทิพย์ มีความสามารถในการเร่งพลังงานข้ามมิติแห่งกาลเวลาเข้าไปยังภพภูมต่างๆในต่างมิติได้ สามารถจะไปนรกสวรรค์ได้ ไปพรหมโลกได้ คือ ไปได้ทุกที่ที่มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เท่าที่ใจของเจ้าของจะนึกถึง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็จะใช้งานแค่ในขอบเขตจักรวาลหนึ่งเท่านั้น ไม่ค่อยนำไปใช้งานข้ามแกแล็กซี่นัก แต่ในความจริง จักรรัตนะ สามารถเดินทางข้ามแกแล็กซี่ได้

    เมื่อต้องการจะเข้าไปศึกษาเรื่องราวของวัตถุธาตุในจักรวาล เช่น โครงสร้างดาวโลกชมพู โครงสร้างดวงอาทิตย์ หรือเนบิวลา หรือวัตถุอื่นใดในวงกว้างนั้น จักรรัตนะจะเร่งพลังงานเข้าไปไว้ในระดับทิพย์ที่ไม่แตะต้องกับธาตุ4แบบมนุษย์ แล้วแทรกซึมเข้าไปในเนื้อวัตถุธาตุเหล่านั้นได้ มีการนำเสนอโครงสร้างของดวงดาวเหล่านั้นได้คล้ายอย่างที่คอมพิวเตอร์นำเสนอข้อมูลในรูปกราฟฟิก จะต่างกันก็แค่ว่า จอมอนิเตอร์สำหรับจักรรัตนะแล้ว เป็นจอที่ไม่มีขอบเขตแน่นอน

    ไม่ใช่เพียงเท่านั้น จักรรัตนะนั้นเอง ยังมีกำลังอำนาจในการขยายอณูแห่งธาตุเข้าไปยังระดับโครงสร้างที่เล็กลงๆไปเรื่อยๆได้ตามปรารถนา

    เรียกจักรรัตนะว่า เป็นเครื่องมือสารพัดจะนึก สารพัดจะใช้ก็ได้

    เพราะเหตุที่จักรรัตนะมีความพิเศษอย่างนี้ จึงมีอานุภาพครอบงำแม้กระทั่งอานุภาพของเหล่าเทวดา จึงมีอำนาจในการจัดอารักขาป้องกันภัยอันตรายให้พระราชาได้ตามที่พระราชาปรารถนา

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้รู้แจ่มแจ้งโลก เมื่อกล่าวถึงโลกในมุมอันเป็นทีสุดแห่งความเจริญในด้านความรู้เทคโนโลยี พระองค์จึงกล่าวถึง จักรรัตนะนี้ ว่า เป็นสิ่งพิเศษสูงสุด และตรัสเรียกพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้สามารถก่อเหตุปัจจัยให้เหมาะสมในการปรากฏจักรรัตนะนั้นว่า เป็นอัจริยะมนุษย์ เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นอัจริยะมนุษย์ คือสามารถคิดค้นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่อาจจะคาดคิดถึง แม้กระทั่งจะจินตนาการว่ามันมี มนุษย์ทั้งหลายก็ไม่กล้าจะจินตนาการ แต่บุคคลพิเศษผู้นั้น กลับมีกำลังปัญญาข้ามกรอบมนุษย์ทั่วไปนั้นไป จึงกล่าว่า พระเจ้าจักรพรรดิเป็นบุคคลพิเศษ และเพราะความที่พระเจ้าจักรพรรดิทำประโยชน์เกื้อกูลโลก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทวดาและมนุษย์ จึงดำรงอยู่ในฐานะที่ควรเคารพสักการะ ควรแก่การระลึกถึง ผู้ที่ระลึกถึงพระเจ้าจักรพรรดิ มีผลให้เข้าสู่สุคติภูมิได้ หลังจากตายเพราะกายแตก

    พระเจ้าจักรพรรดินั้นเอง คือพระธรรมราชา เป็นราชาโดยธรรม เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลก ในคุณสมบัติต่างๆ

    แม้จะอย่างนั้นก็ตาม พระเจ้าจักรพรรดิผู้พิศษเยี่ยงนั้น ก็เปรียบไม่ได้แม้เสี้ยวหนึ่งในแสนโกฏิเสี้ยวแห่งองค์คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย

    ต่อไปจะได้กล่าวถึงวิธีการสร้างจักรรัตนะ

    จากคุณ : มังคละ [ ตอบ: 21 พ.ย. 47 - 11:14 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 88 | ฝากข้อความ |

    ความคิดเห็นที่ 21 : (มังคละ) อ้างอิง |

    หลักการสร้างจักรรัตนะ

    ขั้นตอนการออกแบบ การออกแบบจักรรัตนะนั้น ประกอบไปด้วยสองส่วน คือส่วนฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ (ให้พิจารณาเทียบเคียงกับเรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันในปัจจุบันนี้)

    การออกแบบฮาร์ดแวร์ของจักรรัตนะ

    ฮาร์ดแวร์ คือส่วนที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตามนุษย์นี้ จักรรัตนะจะถูกออกแบบให้มีรูปเหมือนกงล้อ คล้ายจานบิน คล้ายๆล้อเกวียน แต่ซี่ของจักรรัตนะนั้น จะไม่ปล่อยเป็นซี่แบบอากาศเหมือนซี่รถจักรยาน หากแต่จะบุไว้เป็นตาๆ หากแบ่งส่วนออกก็จะได้สามส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนดุมจักร๑ ส่วนกำหรือซี่จักร๑ และส่วนกงจักร๑

    ส่วนดุมจักรนั้นจะอยู่ตรงกลางสุด ใช้เป็นแกนหมุนได้ ทำมาจากแก้วไพทูรย์

    ส่วนซี่หรือกำของจักรคือส่วนที่อยู่ตรงวงกลาง มีอยู่พันซี่คือ การขีดเส้นในแนวรัศมีของวงจักร และมีการแบ่งซี่เหล่านั้นออกเป็นวงย่อยๆ หรือเรียกว่าเป็นแทร็กๆก็ได้ ช่วงกำของจักรนี้ เมื่อลากตัดวงด้วยแนวซี่จักรแล้ว ก็จะได้เซกเตอร์ของซี่กำ แต่ละเซกเตอร์เอง ทำจากแก้วมีค่าหลากสีสัน มีการสลักรูปต่างๆไว้ในแต่ละเซกเตอร์ คือ รูปแบบต่างๆของแกแล็กซี่ รูปแบบต่างๆของดวงอาทิตย์ ของดวงจันทร์ ของโลก ของเทวดาเหล่าต่างๆ และรูปที่เกี่ยวกับมนุษย์ คือสัญลักษณ์ทั้งหมดที่สลักไว้ จะครอบคลุมเรื่องราวทั้งหมดในแกแล็กซี่

    ในส่วนกงจักรนั้น จะแบ่งออกเป็นร้อยเซกเตอร์ พระอรรถกถาเรียกว่า ร้อยคัน และในแต่ละเซกเตอร์นั้นจะประดิษฐานฉัตรไว้ มีแถวลวดลายดอกไม้ทองคำแล่นโดยรอบขอบเขตแต่ละเซกเตอร์ของกงนั้น วัสดุที่ใช้ทำคันกงจักร คือ แก้วแดงบริสุทธิ์

    หากมองจักรรัตนะในทิศเบื้องบน จะเห็นรูปจักรรัตนะ คล้ายกับดวงอาทิตย์ทอแสงสีรุ้งโดยรอบ แล้วก็มีประกายรุ่งเรืองด้วยแสงจากแก้วมณีแต่ละสี คือ แก้วสีต่างๆที่นำไปทำจักรรัตนะนั้น เปล่งแสงได้ด้วย โดยตรงดุมนั้นจะมีรัศมีรุ่งเรืองที่สุด

    ทีนี้มาดูลายวงจรของจักรรัตนะบ้าง คอมพิวเตอร์ปัจจุบันนี้ มีแผ่นPCBเป็นแผงวงจรนำไฟฟ้าเข้าไปผ่านIC ที่มีคุณสมบัติต่างๆ ซึ่งใตไอซีเหล่านั้น มีลายวงจรเล็กๆ มีความละเอียดระดับไมครอน และในอนาคตยังจะพัฒนาให้ผลิตไอซีที่เล็กลงไปยิ่งกว่านั้นอีก จนท้ายที่สุด มนุษย์จะค้นพบว่า วัสดุทุกชนิด มีคุณสมบัติในการจำทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะสารกึ่งตัวนำ และลักษณะวิธีการอ่านข้อมูลในอณูธาตุเหล่านั้นเอง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบฉายกระแสไฟฟ้าเพื่อตรวจจับสัญญาณแม่เหล็ก หรือฉายเลเซอร์กระทบอะไรเทือกนี้ ..

    ในส่วนนี้ บางที ในอนาคตอันใกล้ มนุษย์อาจสามารถใช้โมเลกุลของธาตุเพียงโมเลกุลเดียวในการทำตัวCPU ของคอมพิวเตอร์ก็ได้ เมื่อมนุษย์เห็นโครงสร้างของอุตอมได้ละเอียดขึ้น มีเครื่องมือระดับละเอียดปานนั้น

    ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมนุษย์ศึกษาถึงความเกี่ยวพันระหว่างจิตกับธาตุ4 แล้ว มนุษย์ก็จะสามารถสร้างวงจรความจำ ทำวัตถุให้เป็นวัสดุเมมมอรี่ได้ โดยการใช้กำลังจิต เมื่อรู้ไปถึงนั่น มนุษย์ก็จะอธิบายได้ถึงการทำเครื่องลางของขลังในสายเทคโนโลยีทางนามว่า มันก็หลักคล้ายๆกับเรื่องเครื่องคอมพิวเตอร์นี้

    คือ ผู้ทีเขาเรียกว่า เป็นผู้อัดพลังจิตนั้น ทำการบริกรรม เพ่งอารมณ์มุ่งหมายอยู่ อธิษฐานไว้ว่า วัตถุนี้ ให้มีคุณสมบัติอย่างนี้ เมื่อกระทบกับกระแสจิตอย่างนี้ของคนนี้ ทำนองนี้นะครับ ซึ่ง คุณสมบัติ ความพิเศษพิศดารของเครื่องลางของขลังเหล่านั้น จะมีอานุภาพมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความรู้แจ้งชัดของผู้อัดพลัง คือ ผู้ป้อนซอฟต์แวร์ให้แก่วัสดุนั้นเอง ซึ่งโดยมากแล้ว ผู้ที่ศึกษาทางการทำเครื่องลางของขลัง เรียนด้วยวิธีสืบทอดกันมา ไม่รู้แจ้งชัดในความข้อนี้ คุณสมบัติของเครื่องลางของขลังจึงกินอาณาเขตแคบๆ ใช้งานได้แคบๆ ทั้งๆที่สามารถประยุกต์ไปใช้งานให้กว้างขวางกว่านั้นมากมาย

    สิ่งที่เด่นชัดที่สุดในเรื่องเกี่ยวแก่เทคโนโลยีทางนามที่ประสานกับหลักการคิดแบบเทคโนโลยีทางวัตถุนี้แล้ว ก็คือ จักรรัตนะ นี้เอง

    คงเคยได้อ่านพบกันมาบ้างว่า ได้ยินว่า เมื่อพระราชาจักรพรรดิพาจักรรัตนะพัดผันไปยังที่ใด มนุษย์ หรือบุคคลใดๆที่มีความคิดว่าจะหยิบศาสตราวุธขึ้นมาเพื่อจะทำร้ายพระองค์หรือทำร้ายใครๆนั้น จะไม่สามารถหยิบจับอาวุธขึ้นมาได้ นั่นก็ด้วยอานุภาพของจักรรัตนะ ซึ่ง พระราชาได้โปรแกรมให้ตอบสนองกับสัญญาณจิตรายบุคคลว่า เมื่อบุคคลนึกคิดอย่างนี้ ขอร่างกายของเขาจงตอบสนองอย่างนี้ เพราะร่างกายมนุษย์หรือเทวดาเอง ก็ประกอบขึ้นมาจากธาตุ4ทั้งนั้น

    จากคุณ : มังคละ [ ตอบ: 21 พ.ย. 47 - 11:38 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 88 | ฝากข้อความ |

    ความคิดเห็นที่ 22 : (มังคละ) อ้างอิง |

    การออกแบบซอฟต์แวร์จักรรัตนะ

    ขั้นตอนที่ยากที่สุดของจักรรัตนะก็คือการออกแบบซอฟต์แวร์นี้เอง สมมติว่าออกแบบฮาร์ดแวร์ใช้เวลาสัก1-3ปี การออกแบบซอฟต์แวร์อาจจะใช้ 20-200ปี หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับปัญญาของพระราชาองค์นั้นๆว่า แล่นไปช้าเร็วเท่าไรในการออกแบบ

    การออกแบบซอฟต์แวร์นั้น พระราชาจะต้องประมวลเรื่องระดับความคิดของบุคคลต่างๆที่มีในโลกว่ามีกี่ระดับ แล้วก็แยกแยะงานที่คนแต่ละระดับจะสามารถใช้งานจักรรัตนะได้ ว่า ใครจะใช้งานได้ในขอบเขตใดบ้าง

    เช่นว่า การใช้งานจักรรัตนะในเชิงของการเดินทางจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่งด้วยวิธีการย้ายโมเลกุล หากว่าพระราชาอนุญาตให้มนุษย์ทุกคนใช้เทคโนโลยีนี้อย่างอิสระ จะเกิดอะไรขึ้น? ก็ต้องตอบได้อย่างไม่สงสัยว่า ความวุ่นวายจะเกิด เดี๋ยวก็เดินทางไปโผล่ห้องนอนของคนนั้นคนนี้ แล้วไปทำกรรมลามกต่างๆมากมายได้ง่าย ด้วยเหตุอย่างนี้ พระราชาจะโปรแกรมไว้ว่า ในการเดินทางนั้น จะมีการกำหนดจุดในการปรากฏ เป็นท่า เป็นด่านตรวจคนเข้าเมืองอะไรทำนองนี้ ทั้งๆที่จริง จักรรัตนะสามารถจะส่งคนไปปรากฏในที่ใดๆก็ได้ แต่พระราชาไม่อนุญาตให้ผู้อื่นใช้จักรรัตนะในฟังก์ชันนั้นได้เท่านั้นเอง เพื่อประโยชน์ที่เหมาะสม

    พระราชาก็จะมาพิจารณาเรื่องการเดินทางว่า จะต้องมีลำดับเริ่มต้นอย่างไร คือ เริ่มจากการเดินทางในบ้านในเมืองนั้นก่อน โดยให้ประชาชนกำหนดจุดสถานีขนส่ง หรือป้ายรถเมล์เป็นจุดๆในการเข้าและออก แล้วพระราชาก็จะเป็นผู้ป้อนโปรแกรมว่า อนุญาตการเดินทางด้วยการย้ายมวลสาร ในระหว่างจุดนี้กับจุดนี้ ทำนองนี้ พระองค์จะกำหนดเป็นจุดๆไป แม้การเดินทางทางอากาศ ด้วยวิธีการเหาะไปก็ตาม อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมของแต่ละคน พระราชาก็จะอนุญาตการใช้จักรรัตนะในกิจการการเดินทางด้วยการเหาะไว้ กำหนดเพดานเหาะไว้ กำหนดท่าเข้าท่าออกไว้ เพียงแค่ผู้ใช้งาน ต้องการเดินทาง ก็อธิษฐานกำหนดจุดเข้าจุดออกเท่านั้น จักรรัตนะก็จะควบคุมอณูธาตุในอากาศให้มีความหนาแน่นเข้า ยกร่างกายคนๆนั้นขึ้นสู่เพดาน แล้วก็ส่งไปด้วยระดับความเร็วที่กำหนดไว้ ทำนองนี้

    พระราชาไม่ได้พิจารณาการใช้จักรแค่ในมุมนั้น หากแต่ยังพิจารณาการใช้ประโยชน์จักรรัตนะในมุมของการผลิต มีการกำหนดเจ้าหน้าที่ควบคุมการผลิตว่า ใครสามารถเป็นเจ้าหน้าที่ผลิตสินค้าได้ เหมือนการเดินทางอย่างนี้ บางทีก็ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ในการกำหนดจุด มีการกำหนดโปรแกรมว่า ก่อนที่ประชาชนทั่วไปจะเดินทางได้ ต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่คนนั้นก่อน บอกเจ้าหน้าที่ว่า ต้องการไปลงที่เมืองนั้นๆ ตำแหน่งนั้นๆ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะกำหนดจุด แล้วก็บอกอนุญาต เมื่อเจ้าหน้าที่อธิษฐาน จักรรัตนะจึงจะทำงานในการควบคุมพลังงานแบบนั้นให้สำเร็จ ....

    ผู้อ่านลองคิดดูเถิดว่า มีกิจการอะไรบ้างในโลกนี้ ที่พระราชาต้องประมวลเข้ามาแล้วจัดลำดับ เพื่อทำซอฟต์แวร์คือเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นเป็นอารมณ์จิต แล้วก็อัดอารมณ์จิตนั้นบรรจุไว้ในนิมิตแห่งรูปในจิต แล้วก็อธิษฐานดึงนิมิตนั้นขึ้นมาสู่ความปรากฏเป็นธาตุ4ขึ้นมา

    จะเห็นว่า ต้องได้พิจารณามากมายหลายเรื่องทีเดียว ทั้งเรื่องของมนุษย์และสัตว์ดิรัจฉาน เป็นต้นว่า เมื่อใดราชสีห์เกิดสภาพคิดว่าต้องการกินอาหาร แล้วเกิดความพยายามว่าจะค้นหาอาหาร เมื่อนั้น อาหารตามที่ราชสีห์ปรารถนานั้นจงปรากฏในเบื้องหน้าราชสีห์นั้น เป็นต้น ... เมื่อราชสีห์ได้รับอาหารแล้ว ก็จะไม่ออกล่าเหยื่อ ก็จะไม่ฆ่าเนื้อ เนื้อก็จะอยู่เป็นสุข ไม่ถูกเบียดเบียน สัตว์ทั้งหลายล้วนได้อาหารตรงตามปรารถนา อย่างนี้เป็นต้น

    นั่นคือ สภาพคิดทั้งหมดที่พระราชาต้องได้พิจารณานั่นล่ะว่า จะให้เกิดสิ่งใดขึ้นเมื่อเกิดสภาพคิดอย่างนี้ในสัตว์ตัวนี้ ผู้มีปกติคิดอย่างนี้ มีศีลอย่างนี้ ทำนองนี้ แล้วจงได้ความสำเร็จตามนี้ หรือว่าจงได้ความสำเร็จเป็นอีกอย่างหนึ่ง

    และเมื่อพิจารณาแล้ว จะเห็นว่า ท้ายที่สุด ถึงจะมีเทคโนโลยีดีระดับนั้น สูงสุดระดับนั้น ก็ไม่อาจจะทำให้คนดีกลับชั่ว คนชั่วกลับดีได้ ไม่อาจทำคนไม่รู้ให้กลับรู้ ทำคนรู้ให้กลับไม่รู้ได้ ความเจริญหรือเสื่อมเฉพาะบุคคล เกิดขึ้นเป็นไปตามกรรมที่บุคคลนั้นๆกระทำแก่ตนเอง แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว สัตว์ทั้งหลายในยุคพระเจ้าจักรพรรดิ ค่อนข้างอ่อนโยน เอื้อเฟื้อ อารีย์ เมตตากัน โดยมาก หลังจากตายเพราะกายแตก จึงเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์

    ต่อไปจะได้กล่าวถึงกระบวนการสร้างจักรรัตนะ

    จากคุณ : มังคละ [ ตอบ: 21 พ.ย. 47 - 12:11 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 88 | ฝากข้อความ |

    ความคิดเห็นที่ 23 : (มังคละ) อ้างอิง |

    กระบวนการสร้างจักรรัตนะ

    หลักการสร้างจักรรัตนะ กับหลักการน้อมนำขุมทรัพย์จักรพรรดินั้น ใช้หลักเดียวกัน คือ ขึ้นกับกำลังจิต แต่ ขุมทรัพย์จักรพรรดินั้น เกิดจากกำลังบุญของบุคคลคนเดียว ส่วนจักรรัตนะนั้น เกิดจากกำลังบุญของบุคคลนั้น+กำลังจิตมวลรวมของหมู่มนุษย์ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า การประชุมพร้อมกันแห่งเหตุปัจจัยเพื่อความปรากฏของจักรรัตนะนั้น จะต้องได้อาศัยจิตรวมจากหมู่มนุษย์โดยมากด้วย ซึ่งกระแสจิตเหล่านั้นจะไหลเชื่อมโยงกันเป็นโครงข่ายพลังจิตขึ้น โดยมีความจดจ่อจิตจ้องรวมลงที่พระราชาผู้เป็นต้นเหตุให้พวกเขาเหล่านั้นได้ดำรงชีวิตอย่างสุขสบาย

    ทุกๆวัน พระราชาจะออกแสดงธรรม อบรมพสกนิกรของพระองค์ แล้วพิจารณาราชกิจในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชน มีการอบรมสัมมาทิฏฐิให้ แล้วในช่วงวันอุโบสถ พระราชาจะหลีกเร้นอยู่แต่ผู้เดียว แล้วเพ่งธรรมอยู่ คือ ระลึกถึงอาการของจักรรัตนะ ระลึกถึงอาการมาของจักรรัตนะ ระลึกถึงการใช้งานจักรรัตนะ ซึ่งกระบวนการนี้คือการป้อนซอฟต์แวร์นั่นเอง แต่ โปรแกรมที่พิจารณานั้น จะยังไม่ได้ถูกอธิษฐานด้วยกลไกแห่งฤทธิ์ ตราบที่พระราชายังลงใจไม่ได้ว่า ซอฟต์แวร์ที่พิจารณานั้น เข้าถึงความบริบูรณ์ดีแล้ว ซึ่ง ที่จุดแห่งความบริบูรณ์อันนั้น เมื่อเข้าถึง จะรู้เฉพาะตนเอง จิตจะสงบรำงับลงจนถึงบาทแห่งฤทธิ์เอง

    ในระหว่างที่บรรเทาทุกข์ให้ประชาชนนั้น กระแสเมตตาเพราะความกตัญญูรู้คุณในพระราชาของประชาชนในราชธานีเองและในต่างประเทศก็จะจดจ่อหลั่งไหลเข้าไปสู่พระราชาผู้มีคุณเช่นนั้น แล้วพระราชานั้นอาศัยกระแสจิตเหล่านั้นที่ประสานกันเองโดยอัตโนมัติ มาเป็นปัจจัยหนึ่งในการอธิษฐานถึงความปรากฏแห่งจักรรัตนะ

    ด้วยอาการอย่างนี้ จักรรัตนะจึงมิได้สำเร็จมาจากการประกอบที่โรงงานแห่งใดแห่งหนึ่งบนพื้นดิน หรือบนเทวโลก หรือพรหมโลก หากแต่อุบัติขึ้นมาจากความประชุมพร้อมแห่งกำลังจิตที่กลมกลืนเป็นอันเดียวกันของมหาชน คือ มหาชนนั้น มีความรักความเคารพเป็นอันเดียวกันในพระราชาผู้มีพระคุณของเขานั่นเอง

    ในช่วงที่ปรากฏจักรรัตนะนั้น วันเดือนปี การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ และฤดูกาลจะเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ หนึ่งเดือนมี30วัน 12เดือนเป็น1ปี ทำนองนี้ แม้ฤดูร้อนฤดูหนาวฤดูฝนก็ปรากฏสม่ำเสมอ อันเป็นผลจากกระแสจิตมวลรวม ซึ่งไม่มีสูตรคณิตศาสตร์ที่จะใช้ในการคำนวณ เนื่องจากเป็นเรื่องของนามที่ยากจะหยั่งวัดปริมาณอารมณ์ได้

    เพราะความที่จักรรัตนะสำเร็จได้มาจากกำลังแห่งกระแสจิตมวลรวม จักรรัตนะ จึงมีอานุภาพเป็นทิพย์และตอบสนองโดยตรงต่อกระแสจิตของสัตว์ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยการป้อนข้อมูลทางคีย์บอร์ดหรือกระแสไฟฟ้า

    เพราะความที่จักรรัตนะ สำเร็จมาจากอธิษฐานของพระราชา จักรรัตนะจึงอยู่ใต้อำนาจจิตของพระราชาเท่านั้น ไม่ขึ้นแก่อำนาจจิตของบุคคลอื่น แต่ เพราะความที่ปัจจัยประกอบของจักรรัตนะมาจากกระแสจิตมวลรวมของสัตว์ พระเจ้าจักรพรรดิจึงสามารถแยกแยะขอบเขตอำนาจการใช้งานจักรรัตนะในบุคคลต่างๆได้

    และเพราะความที่จักรรัตนะ ตกอยู่ใต้อำนาจจิตของพระราชาและสามารถจะกำหนดให้ตกอยู่ใต้อำนาจของบุคคลใดๆได้ตามขอบเขตกำหนด พระราชาจึงอบรมพระราชโอรสองค์โต ผู้จะสืบวงศ์จักรพรรดิให้รู้ถึงวิธีการเข้าควบคุมอำนาจจักรรัตนะได้ว่า กระแสจิตเท่าใด มีความระลึกรู้รอบคอบในการบริหารราชกิจเท่าไร จึงจะสามารถหมุนจักรรัตนะได้เหมือนอย่างที่พระเจ้าจักรพรรดิสามารถกระทำ และเมื่อพระราชโอรสองค์นั้นอบรมจิตตนเข้าถึงภูมินั้น ความรู้เฉพาะตนจะปรากฏแก่จิตพระราชโอรสเองว่าสามารถหมุนจักรได้แล้วโดยไม่ต้องรอพระราชาอนุญาต เมื่อนั้น พระราชโอรสจะได้ชื่อว่า เป็นผู้เข้าถึงนามแห่ง ปริณายกรัตนะ ต่อแต่นั้น พระราชโอรสจะเข้าไปพบพระราชาเองโดยธรรม เพื่อขอแบ่งเบาพระราชกิจในการบริหารบริษัทเช่นกัน

    ขุนคลังของพระเจ้าจักรพรรดิเอง ก็อบรมจิตตน จูนจิตเข้าไปตามคำแนะนำของพระราชา จนสามารถจะใช้อำนาจจักรรัตนะในการใช้อานุภาพแห่งตาทิพย์ในการเห็นทรัพย์ทั้งที่มีเจ้าของและไม่มีเจ้าของ ในที่ต่างๆ ทั้งในแผ่นดิน ในแม่น้ำ ในมหาสมุทร หรือในอากาศ ในดวงดาวในอวกาศ เป็นต้น .. นอกจากเห็นทรัพย์แล้ว ขุนคลังนั้นยังมีความสามารถในการใช้จักรรัตนะในการดึงธาตุต่างๆเหล่านั้นจากที่นั้นๆมาไว้ในที่ๆตนกำหนดไว้ได้ด้วย ... เมื่อขุนคลังอบรมตนได้ถึงขีดนั้น จะเกิดญาณแจ่มชัดแก่จิตเองว่า ตนสามารถ แล้วเขาก็จะเข้าไปพบพระราชา เพื่อประกาศความสามารถตนในการแบ่งเบาราชกิจเกี่ยวแก่เรื่องทรัพย์ทั้งหลาย..... เมื่อนั้น่ขุนคลังจึงได้ชื่อว่า คหปติรัตนะ

    เรื่องวิธีการอบรมจิตเพื่อความถึงฝั่งแห่งปริณายกรัตนะ คหปติรัตนะนั้น สำหรับผู้ใส่ใจอยากรู้ ก็สามารถหาอ่านเอาได้ในพระไตรปิฎก และข้อจำกัดคือ ปริณายกรัตนะ พัฒนามาจากพระราชโอรสองค์โต ผู้มีนิสัยใคร่ต่อสิกขา.... ส่วนขุนคลังแก้วนั้น เป็นขุนคลังของพระราชาเอง เป็นผู้มีปัญญา ฟังโอวาทพระราชา แทงตลอดในวาทะเหล่านั้นได้... นั่นก็คือ บุญของท่านเหล่านั้น เนื่องอยู่กับพระเจ้าจักรพรรดิ ไม่อาจปรากฏโดดๆได้ คล้ายอย่างตำแหน่งเอตทัคคะในศาสนาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตำแหน่งเหล่านั้น เนื่องกับพระพุทธเจ้า การอบรมบารมีตนเพื่อถึงฝั่งแห่งบารมีนั้น จึงไม่อาจละการคลุกคลีกับเจ้าต้นบุญในเรื่องนั้นๆ เพราะความที่สิ่งเหล่านั้น มิอาจปรากฏสำเร็จได้ด้วยลำพังตน ไม่เหมือนพระเจ้าจักรพรรดิกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เป็นโจกหมู่ เป็นผู้นำหมู่ ไม่ต้องเดินตามหลังใครนอกจากธรรม

    จากคุณ : มังคละ [ ตอบ: 21 พ.ย. 47 - 13:46 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 88 | ฝากข้อความ |

    ความคิดเห็นที่ 24 : (มังคละ) อ้างอิง |

    ความเป็นอยู่ของมนุษย์หลังจากความปรากฏจักรรัตนะ

    เมื่อจักรรัตนะปรากฏแล้ว ในช่วงใหม่ๆ หมู่มนุษย์บางส่วน จะยังไม่กล้าใช้บริการจักรรัตนะในการเดินทาง ในการผลิตสินค้า ในการนิรมิตอาหารประหนึ่งมนุษย์เป็นเทวดา เพราะความไม่รู้เกี่ยวแก่จักรรัตนะว่า สิ่งที่ปรากฏต่อหน้านั้น มันฝันไปหรือว่า มันเป็นความจริง อาหารที่นิรมิตขึ้น กินแล้วจะมีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนอาหารที่ได้มาจากการขวนขวายขุดพืชตัดผักแร่เนื้อเถือหนังสัตว์มากินหรือไม่?

    แต่ในราชธานีของพระเจ้าจักรพรรดินั้น ผู้คนใช้บริการจักรรัตนะโดยไม่นานนักก็ชิน เพราะในบ้านเมืองของพระราชาผู้เช่นนั้น สิ่งอัศจรรย์ปรากฏเป็นปกติ เป็นต้นว่า ต้นกัลปพฤกษ์ หรือว่าผีสางเทวดา เรื่องของฤาษีชีพราหมณ์ผู้ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม ฤทธิ์อภิญญา เหล่านี้ จะเป็นเรื่องปกติในบ้านเมืองนั้น

    ทีนี้ เมื่อเทคโนโลยีจักรรัตนะปรากฏแพร่หลายไป มนุษย์โดยมากในโลกก็จะเริ่มใช้สอยจักรรัตนะในการเดินทาง ในการผลิตเครื่องใช้ ผักผลไม้และอาหารต่างๆ โดยไม่ต้องไปทำไร่ไถนาไม่ต้องทำมาค้าขายก็ได้ แต่ว่า แม้จะเป็นอย่างนั้น การหาเก็บผัก พืชผล ศึกษาสัตว์ ล่าสัตว์เหล่านี้ ก็ยังมีอยู่ในพวกมนุษย์บางเหล่า เพราะพวกที่คึกคะนองนั้น มีอยู่ในทุกกาลทุกสมัย เขาจะรู้สึกเหมือนกับว่า สิ่งที่ได้มาง่ายๆ มันไม่อร่อย ไม่เร้าใจ ทำนองนี้

    ในตอนที่จักรรัตนะปรากฏแล้ว เรื่องการใช้การสัญจรทางรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน เรือ ก็จะหมดความจำเป็นลง แต่ก็ยังมีผู้ใช้ยานพาหนะเหล่านั้นอยู่ตามความนิยมแต่ละบุคคล จนเวลาผ่านไปหลายปี หลายสิบปี การพัฒนาเทคโนโลยีทางวัตถุที่ต้องใช้กำลังแรงกายแรงความคิดของมนุษย์เหมือนเทคโนโลยีตอนกลางนี้นั้น ก็จะขาดการสืบต่อ ทำให้คนโดยมากไม่ค่อยจะสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุนัก แต่จะหันไปศึกษสิ่งต่างๆ สสารต่างๆในมุมของวิทยาศาสตร์ทางจิต คือพิจารณาเรื่องจิตเป็นองค์ประกอบด้วย

    หากว่าในยุคนั้นยังมีพระพุทธศาสนาอยู่ ผู้คนก็จะเกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัดในโลก บางส่วนก็จะตัดกิเลสเข้าถึงธรรมของพระศาสดาได้ง่าย

    วันเวลาผ่านพ้นไป พระเจ้าจักรพรรดิผลัดองค์จาก1 ไป2 ไป3 4..5..6 ..7 ...8 ยิ่งเวลาผ่านไปนาน มนุษย์ก็ยิ่งขาดความรู้ความใส่ใจในเทคโนโลยีเดิม จนถึงวาระหนึ่ง คือ รุ่นลูกรุ่นหลานพระเจ้าจักรพรรดิ ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ไม่อาจสืบวงศ์จักรพรรดิ ไม่อาจยังจักรรัตนะให้ปรากฏได้ ในเมื่อนั้น ความวุ่นวายจะกลับเกิดแก่โลก

    เมื่อสิ้นพระเจ้าจักรพรรดิและขาดการสืบต่อเทคโนโลยีแห่งจักรรัตนะ ในยามนั้น ผู้คนปรากฏหนาแน่นไปในโลก เพราะความที่อาหารหาได้ง่าย .....แต่พอพระเจ้าจักรพรรดิสิ้นไปแล้ว การเดินทางไปมาหาสู่กันของมนุษย์ก็จะลำบากขึ้นนิดหน่อย เขาก็จะพากันกลับมาศึกษาเทคโนโลยีล่าสุดในทางวัตถุ แล้วก็ประดิษฐ์คิดค้นเพื่อนำกลับมาใช้งานดังเดิม

    ในช่วงจากนั้นมา มนุษย์ก็จะเริ่มกลายออกจากความรู้ทางนามออกไป จิตใจก็หยาบขึ้น แต่ความรู้ทางวัตถุจะรู้กันทั่วไป เขามีความรู้ขนาดที่ว่า จะเอาอะไรผสมอะไรแล้วทำเป็นอาวุธได้ เมื่อความวุ่นวายถึงขีดที่สุด มนุษย์ก็จะเข่นฆ่ากันด้วยความรุ้อันนั้นเอง

    เหมือนอย่างที่เราเคยได้ยินว่า เมื่อมนุษย์มีอายุขัย สิบปี เด็กอายุ5ปีจะแต่งงานและควรมีลูก เมื่อมนุษย์มีอายุขัยสิบปี จะมีสันดานดุจสัตว์ป่า สมสู่กันไม่เลือกว่าลูกว่าแม่ว่าพ่อหรือพี่น้อง และเต็มไปด้วยโทสะ จับอะไรขึ้นมาก็กลายเป็นอาวุธนำเข้าประหัตถ์ประหารกันสิ้นไปเสียโดยมาก เว้นแต่ในท่านผู้กลัว ที่คิดว่าใครอย่าทำร้ายเรา แม้เราก็อย่าทำร้ายใคร แล้วพากันหนีเข้าป่า ผ่านไปเจ็ดวัน เขาก็ฆ่ากันไปเสียเกือบสิ้น เมื่อสงครามใหญ่ของสัตว์มนุษย์ยุติลงในตอนนั้น พวกหลบเข้าป่าก็จะกลับมาสู่เมือง พบหน้ากันแล้วก็ดีใจว่า ท่านทั้งหลาย ท่านยังมีชีวิตอยู่หรือ? แล้วก็พากันปรึกษากัน ดำรงอยู่ในศีล จนอายุกลับเจริญขึ้น ทำนองนี้

    ทั้งหมดทั้งสิ้น ก็เกิดมาจากความรู้ ความรู้ที่นำไปใช้ในทางผิด กับความรู้ที่นำไปใช้ในทางถูก

    จากคุณ : มังคละ [ ตอบ: 21 พ.ย. 47 - 14:18 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 88 | ฝากข้อความ |

    ความคิดเห็นที่ 25 : (มังคละ) อ้างอิง |

    ยุคพระเมตไตรยสัมพุทธเจ้า

    ได้ยินว่ายุคพระเมตไตรยพุทธเจ้า ก่อนการอุบัติของพระพุทธองค์ จะมีการอุบัติของพระเจ้าจักรพรรดินามว่า สังขะ ก่อน และพระเมตไตรยโพธิสัตว์จะไปเกิดเป็นลูกของมหาปุโรหิตของพระเจ้าสังขจักรพรรดิ

    เพราะอย่างนั้น ยุคของพระเมตไตรยสัมพุทธเจ้าจึงต่างจากยุคพระพุทธโคดมตรงที่ว่า พระเมตไตรยพุทธะอุบัติในยามที่มนุษย์มีเทคโนโลยีมากมายในด้านวัตถุ ส่วนยุคพระโคดมอุบัติในยามที่มนุษย์มีความรู้ไม่มากนักในเชิงวัตถุ

    พระพุทธเจ้าทั้งหลาย สอนโลกด้วยการบัญญัติ รูปนาม ขันธ์ อายตนะ ธาตุ อินทรีย์ เหล่านี้ แต่ความต่างกันบ้างในการอธิบายธรรม ก็ต่างแต่ว่าฐานความรู้ของคนในยุคนั้นมีไปเกี่ยวแก่เรื่องใด

    ในยุคพระเมตไตรยสัมพุทธเจ้า จะสามารถอธิบายธรรมชาติได้ในเชิงของธาตุที่ละเอียดขึ้น แต่ แม้จะอย่างนั้น ก็ยังไม่เกินกรอบแห่งธาตุขันธ์ อายตนะ อินทรีย์เหล่านี้ไปได้เลย มีลำดับการสอนพระสาวกคล้ายๆกัน แม้จะต่างทางปริมาณแห่งพระสาวกบ้างก็ตาม แต่ท้ายที่สุดก็รู้ที่สุดแห่งธรรมได้เช่นเดียวกัน

    ในยุคพระเมตไตรยสัมพุทธเจ้านั้น มนุษย์จะปรากฏหนาแน่น เพราะเป็นยุคที่มีพระเจ้าจักรพรรดิ อาหารหาได้ง่าย คนก็เกิดมาก เกิดมามากอย่างไรพระเจ้าจักรพรรดิก็เลี้ยงไหว ขอเพียงให้มีที่อยู่ และอยู่อย่างสงบ ซึ่ง นั่นมีอยู่ในยุคจักรพรรดิ

    แม้เทคโนโลยีทางการแพทย์และอื่นๆก็ถึงที่สุดในยุคจักรพรรดิ มีการปรับแต่งยีนของมนุษย์เพื่อปิดป้องโรคต่างๆได้ ทำให้มนุษย์ไม่มีโรคอย่างอื่น เว้นแต่โรคที่ไม่ได้เกิดจากพันธุกรรม คือ โรคชรา โรคหิว โรคอิ่ม โรคง่วงนอน เหล่านี้

    เรื่องราวต่างๆที่เขียนมา มาถึงที่สุดแล้ว แม้จะไม่ได้กล่าวถึงเรื่องมณีรัตนะ เรื่องอิตถีรัตนะ เรื่องการน้อมนำลูกผู้มีบุญญาธิการมาเกิดด้วย เรื่องช้างแก้วม้าแก้ว เรื่องต้นกัลปพฤกษ์ เรื่องสิ่งแปลกๆต่างๆ เรื่องหลักการในการเดินทางด้วยวิธีเคลื่อนย้ายตำแหน่ง หรือย้ายโมเลกุล ตามแต่จะเรียก หรือจินตนาการเรื่องเกี่ยวแก่การเดินทางไปตามเส้นมิติแห่งกาลเวลา เพื่อข้ามเครื่องกั้นทางระยะทาง

    และท้ายที่สุด การก้าวข้ามมิติแห่งกาลเวลา เพื่อพ้นไปจากกาลเวลา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดทั้งสิ้น พระพุทธเจ้ารู้ทั่วถึง หมดจด ไม่มีผู้อื่นที่จะแสดงธรรมได้ยิ่งไปกว่านี้แล้ว

    การเขียนจินตนาการของผู้เขียนแบบบอดๆ ฟั่นๆเฝือๆนี้ เทียบไม่ได้เลยกับพระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี้เป็นแต่เพียงความคะนองในบางขณะของผู้เขียนเท่านั้น

    ในกระทู้นี้จะได้หยุดการเขียนลงแล้ว เพราะเบื่อหน่ายในการเขียนนี้เหมือนกัน มันเหม็นคลุ้งเหมือนมูตรแลคูถ

    หากว่าสิ่งใดในนี้ จะเป็นประโยชน์แก่จินตนาการของท่านผู้อ่าน ท่านใดจะหยิบยกไปใช้ประโยชน์ (หากใช้ได้) ผู้เขียนก็อนุญาตไว้เสียโดยไม่ขีดคั่น ใช้ได้เลยตามประสงค์ จะนำไปตัดต่อแต่งเติมอย่างไรก็ตาม เพราะสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ใช่ของผู้เขียน ไม่ใช่ตัวตนของผู้เขียน เป็นสิ่งที่ปรากฏในธรรมชาติ ผู้เขียนมิได้หวงแหนสักนิดนึง

    เอาไว้เท่านี้ล่ะนะครับ

    จากคุณ : มังคละ [ ตอบ: 21 พ.ย. 47 - 14:33 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 88 | ฝากข้อความ |

    คัดลอกมาจาก
    http://larndham.net/index.php?showtopic=13331&st=39
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2009
  7. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,353
    ค่าพลัง:
    +2,011
    ก็อปปี้มา
    http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=3358

    การเตรียมตัวก่อนเกิดภัยจากน้ำท่วมหรือไฟไหม้ในไทย และภัยในอเมริกา
    ตอบคำถามเพิ่ม คลิกที่นี่

    ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า

    "เทวดาบอกตอนเข้าสมาบัติว่า ให้เตรียมชุดของตนเองเป็นพลาสติกแบบสามารถรูดซิฟได้ หมวกพลาสติก รองเท้าพลาสติก มีดมีฝัก วางไว้ในบ้านที่เปิดเผย กุญแจบ้านพร้อมออกจากบ้านได้เลย ท่านบอกว่า เตรียมไว้เพื่อเป็นเคล็ด ถ้าช่วยกันเตรียมอาจจะไม่เกิด"
    ดิฉันถามท่านว่า เฉพาะกรุงเทพฯหรือคะ ท่านตอบว่าทั่วประเทศ

    อ่านแล้วไม่เชื่อก็อย่าเพิ่งลบหลู่นะคะ ครูบาอาจารย์ท่านทำนายเรื่อง Tsunamis ไว้ก่อนด้วยค่ะ

    ถามเรื่องประเทศอเมริกาและสงครามใหญ่

    ท่านบอกว่า เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 ไปถึง 27 ปี
    เทวดามาบอกภัยในอเมริกา มีภูเขาที่อยู่ทางตอนเหนือของชิกาโก ดูลักษณะไม่น่าจะเป็นภูเขาไฟ แต่มันจะปะทุขึ้นมา แล้วก็สกายแลปจะพุ่งขึ้นจากแม่น้ำ Mississipi (เป็นแม่น้ำในอเมริกากลาง) แล้วขึ้นไปชนกันตกลงมาที่อนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ

    จากคุณ ธนวรรณ เมื่อวันที่ 9/2/2548 10:20:50






    ข้อความที่ 1

    มีรายอะเอียดมากกว่านี้มั้ยครับ ...ขอเพิ่มเติมหน่อยนะครับ

    จากคุณ q เมื่อวันที่ 9/2/2548 12:33:14






    ข้อความที่ 2

    สกายแลปคืออะไรคับ

    จากคุณ yeen เมื่อวันที่ 9/2/2548 14:51:59






    ข้อความที่ 3

    งงเหมือนกันคับ

    จากคุณ บอร์ดีการ์ดหน้าเหลี่ยม เมื่อวันที่ 10/2/2548 1:01:26






    ข้อความที่ 4

    จากข้อความของคุณธนวรรณ...
    ผมก็เพิ่งไปหาครูบาอาจารย์ท่านนี้มาเหมือนกันครับ ท่านเป็นลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อที่ชาวเว็ปเราเคารพ ที่หลวงพ่อท่านกล่าวถึงบ่อยๆ ในหนังสือของท่าน เทวพยากรณ์นี้จึงขอให้เพื่อนสมาชิกทุกท่านลองพิจารณาดูนะครับ ลงทุนจัดเตรียมถุงยังชีพแค่ไม่กี่บาท หากเกิดเหตุการณ์ก็ได้ใช้ ไม่เกิดก็ดีไป ถึงยังไงของก็ไม่เน่าไม่เสีย

    จากคุณ ลูกบัว เมื่อวันที่ 10/2/2548 1:27:47
     
  8. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,353
    ค่าพลัง:
    +2,011
    มาช่วยกันเลื่อนภัยพิบัติ

    ด้วยการนั่งสมาธิภาวนานะคะ บอกต่อคนให้ทำบุญกันอย่างทั่วถึง

    ให้พยายามอย่าอยู่ในที่ที่คนอยู่กันมากๆ แหล่งอบายมุขก็ไม่ควรจะไปในระยะนี้

    ช่วงเดือนมีนาใครจะไปเที่ยวเหนือเที่ยวอีสานก็ได้นะคะ

    อย่าอยู่ใกล้อ่าวไทย

    อย่าอยู่ใกล้แนวแผ่นดินไหว


    และบอกต่อกันให้ทำบุญๆๆๆๆๆๆๆๆ

    การทำบุญไม่มีตังค์ก็ทำได้

    นั่งนึกพุทโธๆๆๆๆๆๆๆ จนนิ่ง ก็ได้บุญยิ่งกว่าการถือศีลเสียอีก


    รีบทำนะคะ ใกล้เข้ามาแล้ว มาช่วยกันเลื่อน
     
  9. ป้าน.............

    ป้าน............. บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    สงครามโลกครั้งที่ 3

    http://free.hostdepartment.com/f/flashthai/

    หวังว่าเราคงคิดถูก ทำทำเว็บนี้นะ
     
  10. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [​IMG]

    ค้นหาความจริงให้กับภูเก็ต...ยอมรับและขอขมา...ก่อนกฏแห่งกรรมจะทำงาน

    อาศัยการค้นคว้าประวัติศาสตร์ ภูเก็ต และเอกสารโบราณทั้งจารึกกัลยาณี เมืองหงสาวดี บันทึกจาวจูกัว เมื่อ พ.ศ. ๑๗๐๐ เศษ คัมภีร์มหาวงศ์ เอกสารงานศึกษาเรื่องศรีวิชัย ของ มจ.จันทร์จิรายุ รัชนี จะขอสรุปสิ่งที่ประมวลออกมาได้ดังนี้

    ที่เกาะภูเก็ต เรียกว่า ซี่-หลาน ในช่วงที่จาวจูกัวมา ตกเป็นเมืองขึ้นของศรีวิชัย ซี่-หลาน ท่านจันทร์ฯ หมายถึง "ลังกา" โดยเข้าใจตามประวัติศาสตร์โลกว่า คือ "ศรีลังกา"

    แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่า "ไม่ใช่" โดยลังกาที่พระเจ้าหงสาวดีส่งคณะฑูตพร้อมพระภิกษุมาแปลงบวชลังกา ตามเส้นทางเดินเรือแล้ว คือที่ "ภูเก็ต" ในปัจจุบัน
    โดยที่ชื่อภูเก็ตเป็นชื่อที่เรียกเมื่อ ๔๐๐ กว่าปีในสมัยโปรตุเกสเข้ามาค้าขายที่เกาะนี้ แต่เดิม ชื่อซี่-หลาน แปลว่า "หญ้าคา" ซึ่งก็ตรงกับลักษณะที่ตั้งของเมืองภูเก็ตที่แต่ก่อนเป็น "ทุ่งหญ้าคา" ซึ่งเรียกว่า "ทุ่งคา" และหญ้าคานี่เองที่นำมารองรักนก รังกา รังไก่ คือที่มาของคำว่า "ลังกา"

    ส่วนที่ถลาง บันทึกชาวอังกฤษ เมื่อหลายร้อยปีก่อนเรียก "จังซีลอน" คือ แหลมสลาง หรือ แหลม ซี่-หลาน นั่นเอง

    คณะฑูตที่มาจากหงสาวดี มา ๒ ลำ ลำหนึ่งมาขึ้นที่ "กลัมพ" นักประวัติศาสตร์ว่า คือ โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา แต่ ในความเห็นของข้าพเจ้าคือ "KALIM BEACH" บริเวณอ่าวป่าตอง ในปจจุบัน ก่อนที่จะเดินเท้า เข้าไปสู่ "ไชยวัฒนบุรี" คือ ทุ่งคา หรือ ตัวเมืองภูเก็ตในปัจจุบัน

    พระเจ้ากรุงลังกานี้ ได้มาตั้งกรุงลังกา โดยอพยพมาจาก อนุราธปุระคือยะลา-ปัตตานี เนื่องจาก พวกอาเจ๊ะและมะละกา ที่นับถืออิสลามมารุกราน ทำลายวัดวาอารามและพระพุทธศาสนา ราวพ.ศ. ๒๐๐๐ สมัยพระบรมไตรโลกนาถ กรุงศรีอยุธยา

    พระพุทธศาสนาที่ซี่-หลานเจริญรุ่งเรืองมาก จาวจูกัว ว่า ที่ซี่-หลาน มีเขาซีหลุนเต้ หรือเขาพระพุทธบาท สมัยที่พระมาจากหงสาวดีก็ได้ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขาสมันตกูฏ หรือเขาสุมณกูฏนี้

    แต่ในเวลาต่อมาไม่กี่สิบปี "โปรตุเกส" ก็เริ่มคุกคาม ซี่-หลาน และเมื่อเกิดจราจลแย่งราชสมบัติ ราชวงศ์ซี่-หลาน ได้ยืมมือโปรตุเกสช่วงชิงราชสมบัติ ในที่สุดตกอยู่ใต้อำนาจโปรตุเกส ต้องเข้ารีตเป็นคริสตัง จากนั้น โปรตุเกสก็ทำลายวัดวา อาราม โค่นทำลายพระเจดีย์ จับสึกพระภิกษุสงฆ์ เผาทำลายพระไตรปิฎกเสียจนหมดสิ้น ...เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราว พ.ศ. ๒๐๗๐ กว่าๆ

    เขาซีหลุนเต้ ก็คือ "เขาโต๊ะแซะ" ในปัจจุบัน มี "วัดเจริญสมณกิจ" อยู่ที่เชิงเขา ซี่หลานหรือลังกา ก็คือ เกาะภูเก็ตในปัจจุบัน

    นั่นหมายถึง "รอยพระพุทธบาท" อยู่บนยอดเขานั้น หากไม่สามารถทำให้คนทั้งหลายพบหลักฐานและเชื่อตาม ก็อาจไม่สามารถแก้กรรมนี้ได้

    "ปลดชนวนกรรม ก่อนที่กฏแห่งกรรมจะทำงาน" และการลงโทษของเทพยดา ฟ้าดิน จะส่งผล
    อย่างเร็ว วันที่ ๑๑-๑๒-๑๓ มีนาคม อย่างช้า ไม่เกินวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๔๘

    หากยังไม่ปักใจเชื่อ ให้จับตาดูที่ "โปรตุเกส" ก่อน เหมือนอย่างที่ "สึนามิ" เกิด ที่ "อาเจ๊ะ" ก่อนแล้วมาเกิดที่อันดามัน เมื่อใดที่ "โปรตุเกส" ประสบภัยพิบัติ เมื่อนั้น ให้รู้ว่า มหาภัยพิบัติ จะเกิดตามมา ที่ "เกาะภูเก็ต"

    ใครที่สนใจพูดคุยรายละเอียด และปรารถนาจะแสวงหาทางแก้ ในการปลดชนวนกรรมนี้ โปรดติดต่อทางโทรศัพท์ ที่ เอกอิสโร 01-7020791 ครับ ekkissaro_w@yahoo.com


    จาก
    http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=3388
     
  11. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,353
    ค่าพลัง:
    +2,011
    ตายน่ะเหรอ อย่าตายแบบสำลักน้ำเลยได้โปรด เข้าฌานไม่ทัน สงสัยได้เกิดเป็นนางเงือกที่อยู่ใต้แม่น้ำโขง ไม่งั้นก็ม้าน้ำ
     
  12. lert

    lert บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ข่างแผ่นดินไหวช่วงที่ผ่านมา

    ก.ทรัพยากรฯ เพิ่มจังหวัดเสี่ยงภัยสึนามิ
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มกราคม 2548 15:23 น.
    นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ได้เสนอเรื่องไปที่คณะกรรมการแผ่นดินไหวแห่งชาติ และกรมโยธาธิการ เพื่อปรับแผนที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวใหม่ จากเดิมกำหนดให้พื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้อย ให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยปานกลาง พร้อมกับเพิ่มจำนวนพื้นที่ขึ้นมา ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และ สตูล นอกจากนี้ยังเสนอให้ปรับพื้นที่ปลอดภัย เป็นพื้นที่ความเสี่ยงน้อย ในจังหวัดระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส



    "สึนามิ" จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นในไทย
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มกราคม 2548 12:55 น.

    ในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง "เราจะรับมือธรณีพิบัติภัยคลื่นยักษ์สึนามิได้อย่างไร" ในการประชุมวิชาการนานาชาติ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เหตุการณ์สึนามิส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกว่าที่ทุกคนคาดคิด โดยส่งผลทางธรณีวิทยาหลายด้าน เช่น บริเวณปลายแหลมปะการังถูกคลื่นซัดหายไป ร่องน้ำลึกเข้ามาอีก 10 กิโลเมตร ปลายแหลมบริเวณเกาะคอเขาหายไป ป่าชายเลนหายไป 2,000 ไร่ โคลนถูกพัดขึ้นมา 200,000 คิวบิกเมตร ส่งผลต่อระบบนิเวศ ที่น่าเป็นห่วงคือ จะเกิดแผ่นดินไหวที่มีความถี่และรุนแรงมากขึ้นในประเทศไทย น้ำเค็มพัดเข้ามาในแหล่งน้ำจืดธรรมชาติ ทำให้น้ำใต้ดินลดลง และทำให้เกิดหลุมยุบ รอยแยกในถ้ำต่างๆ
    ล่าสุด กรมทรัพยากรธรณีได้จัดทำแผนที่เสี่ยงภัยขึ้นมาใหม่ จากเดิมที่มีเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้เพิ่มฝั่งตะวันออก และชายฝั่งภาคใต้เพิ่มขึ้นด้วย โอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขอความร่วมมือนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวและสึนามิในระดับภูมิภาคและนานาชาติ โดยเชื่อมโยงข้อมูลให้รวดเร็วและทั่วถึงมากขึ้น



    เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะนิโคบาร์ เมื่อคืนนี้
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มกราคม 2548 11:51 น.

    เกิดแผ่นดินไหวใกล้กับเกาะนิโคบาร์ในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อคืนนี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.6 ริกเตอร์ โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองบันดาร์อาเจะห์ของอินโดนีเซีย ราว 320 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้เสียชีวิต ทั้งนี้เกาะดังกล่าวเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อเดือนที่แล้ว



    เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหวในต่างประเทศ หลายครั้ง
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 มกราคม 2548 06:50 น.


    มีรายงานข่าว เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาในประเทศไทยเกิดเหตุแผ่นดินไหวบริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์ตะวันตก ในมหาสมุทรอินเดีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.6 ริกเตอร์ และเมื่อเวลา 23.23 น.เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่บริเวณ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.0 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 02.07 น.เกิดแรงแผ่นดินไหวที่รัฐอลาสการ์ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 2.5 ริกเตอร์ ล่าสุดเมื่อ เวลา 03.19 น.เกิดแรงสั่นสะเทือนที่อลาร์สกาอีกครั้งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 2.7 ริกเตอร์


    เกิดแผ่นดินไหว 5.6 ริกเตอร์ ที่อินโดฯ
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 กุมภาพันธ์ 2548 10:24 น.

    นักธรณีวิทยาในอินโดนีเซีย รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.6 ริกเตอร์ ที่เกาะชวา ของอินโดนีเซีย เมื่อเช้าวันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย เหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นใต้ทะเล เมื่อเวลา 03.21 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากทางใต้ของเมืองลูมาจัง ในจังหวัดชวาตะวันออก ราว 19 กิโลเมตร หลังจากที่อินโดนีเซีย เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จนเป็นผลให้เกิดคลื่นสึนามิ มีผู้เสียชีวิตและสูญหายราว 280,000 คน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปีที่แล้ว และเมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา มีแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 6.2 ริกเตอร์ ที่เมืองปาลู บนเกาะสุลาเวสี ทำลายบ้านเรือนหลายสิบหลัง และมีผู้อพยพขึ้นที่สูงอีกหลายพันคน เพราะหวาดกลัวคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำอีกรอบ


    เกิดแผ่นดินไหวบนเกาะชวาของอินโดนีเซีย
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 กุมภาพันธ์ 2548 17:19 น.


    เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงปานกลางบนเกาะชวาของอินโดนีเซียวันนี้ ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกและอาคารบ้านเรือนมีรอยร้าว แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ แผ่นดินไหวครั้งนี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.2 ตามมาตราริกเตอร์ ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองบันดุงไปทางใต้ประมาณ 60 กิโลเมตรเกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. ตามเวลาในท้องถิ่นหรือประมาณ 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย


    กก.จัดสร้างระบบเตือนภัย ห่วงแผ่นดินไหวกระทบน้ำในเขื่อนทะลัก
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 กุมภาพันธ์ 2548 17:05 น.

    นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานคณะกรรมการศึกษาจัดสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้า กล่าวว่าจากกรณีแผ่นดินไหวบนเกาะสุมาตราที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบให้รอยเลื่อนคลองมะรุม และรอยเลื่อนระนองที่พาดผ่านเกาะภูเก็ต มีการเคลื่อนตัว และรอยเลื่อนที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรีด้วย ซึ่งหากทั้ง 3 จุดนี้เกิดแผ่นดินไหวก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเกาะภูเก็ต เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี โดยทาง กฟผ.ได้ออกมายอมรับก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้าเกิดแผ่นดินไหวจริงๆ จะทำให้น้ำทั้ง 2 เขื่อน ไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่โดยรอบภายในเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งคณะกรรมการมีความเป็นห่วงในจุดนี้ และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ถ้าหากศูนย์เตือนภัยแห่งชาติที่จัดสร้างขึ้นที่ศูนย์สื่อสารพลเรือน ถนนรัตนาธิเบศร์ ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.นี้ ก็คงจะสามารถเตือนภัยล่วงหน้าในจุดนี้ได้ และจะสามารถแจ้งเตือนไปยังประชาชนผ่านสื่อต่างๆ หอเตือนภัยตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ภายในเวลา 3 นาที



    เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ไต้หวันต่อเนื่องวานนี้ แต่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 กุมภาพันธ์ 2548 15:24 น.

    สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของไต้หวัน รายงานว่า วานนี้เวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาในท้องถิ่น ได้เกิดแผ่นดินไหว วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.2 ริกเตอร์ นานหลายนาที จากนั้นเวลาเกือบ 13.00 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกครั้งบริเวณเดิม และเขตใกล้เคียง เมื่อวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.3 ริกเตอร์ อย่างไรก็ตาม เหตุดังกล่าวไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ


    กรมอุตุฯ ตรวจแผ่นดินไหวล่าสุด ยันไม่กระทบ 6 จังหวัดใต้
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 กุมภาพันธ์ 2548 14:15 น.

    มีประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องสถานการณ์การเกิดแผ่นดินไหวล่าสุด โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้ตรวจสอบการเกิดแผ่นดินไหวบริเวณทะเลอันดามัน และเกาะสุมาตรา พบว่ามีการเกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อย ไม่มีผลกระทบต่อ จ.ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูลแต่อย่างใด ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก หรือหลงเชื่อข่าวลือ



    เกิดแผ่นดินไหวในเมืองหลวงของพม่า
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 กุมภาพันธ์ 2548 17:32 น.

    สำนักงานธรณีวิทยาในพม่ารายงานว่า เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.5 ริกเตอร์ ที่กรุงย่างกุ้งเมืองหลวงของพม่าในวันพฤหัสบดีนี้ ส่งผลให้ชาวบ้านบางส่วนอพยพออกจากที่อยู่อาศัย โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากทางใต้ของกรุงย่างกุ้งราว 26 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่พม่า กล่าวว่า แผ่นดินไหวก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย จึงไม่มีรายงานความเสียหายและผู้บาดเจ็บ โดยผู้อยู่อาศัยบางส่วนแทบไม่รู้สึก แต่มีประชาชนบางส่วนซึ่งอาศัยอยู่บนอาคารสูงในกรุงย่างกุ้งได้อพยพหนีออกนอกตัวอาคาร
    ทั้งนี้ พม่าเป็น 1 ใน 11 ประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อปีที่แล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 61 คน


    มาเลเซียประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 กุมภาพันธ์ 2548 16:58 น.

    ชาวมาเลเซียในรัฐซาบาห์บนเกาะบอร์เนียวต่างอพยพหนีจากบริเวณพื้นที่ชายฝั่งไปยังพื้นที่สูง หลังเจ้าหน้าที่เตือนว่าอาจเกิดคลื่นสึนามิอีกรอบ โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวทางใต้ของฟิลิปปินส์ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.2 ริกเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ในทะเลห่างจากทางใต้ของเกาะมินดาเนาราว 500 กิโลเมตร ทำให้รัฐบาลมาเลเซีย ประกาศเตือนภัยสึนามิเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เมืองโคตา คินาบาลู ตาเวา และพื้นที่ชายฝั่งหลายแห่ง ซึ่งได้รับแรงสั่นสะเทือน


    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงนอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 กุมภาพันธ์ 2548 10:20 น.

    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงนอกชายฝั่งของปาปัวนิวกินีเช้ามืดวันนี้ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.1 ริกเตอร์ เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือประมาณ 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย มีศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใต้มหาสมุทรใกล้กับหมู่เกาะนิวไอส์แลนด์และนิวบริเทน นักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียเตือนว่า แรงสั่นสะเทือนอาจทำให้เกิดความเสียหายในย่านชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง แต่ไม่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงาน เกี่ยวกับความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน


    เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลใกล้วานูอาตู
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 กุมภาพันธ์ 2548 10:49 น.
    นักธรณีวิทยารายงานว่า เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.7 ริกเตอร์ บริเวณใต้มหาสมุทรแปซิฟิกใกล้วานูอาตูเมื่อเช้าตรู่วันนี้ แต่ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ และรายงานจากหน่วยงานเตือนภัยในมหาสมุทรแปซิฟิกระบุว่า ไม่ได้ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.48 น.ตามเวลาท้องถิ่น ห่างจากกรุงพอร์ตวิลาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 400 ก.ม. ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวของออสเตรเลีย กล่าวว่า แม้วานูอาตูตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกแนวเดียวกับเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย แต่เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับแผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์ ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นยักษ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา แผ่นดินไหวล่าสุดนี้มีศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเลลงไปราว 200 ก.ม.


    แผ่นดินไหวใกล้วานูอาตู ปชช.หนีตายหวั่นสึนามิ
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 กุมภาพันธ์ 2548 11:31 น.

    รอยเตอร์
     
  13. lert

    lert Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +39
    ข้อมูลเรื่องแผ่นดินไหวในประเทศไทย จาก หลายแหล่งข้อมูล เช่น กรมทรัพยากรธรณี

    ส่งรูปมาให้ดูครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • earth 1.gif
      earth 1.gif
      ขนาดไฟล์:
      42.2 KB
      เปิดดู:
      1,216
    • earth 2.gif
      earth 2.gif
      ขนาดไฟล์:
      112.8 KB
      เปิดดู:
      1,193
  14. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
     
  15. พ่อมดเฒ่า

    พ่อมดเฒ่า บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ฝ่ายหนึ่งก็กำลังเติมกุศลกรรมเข้าสู่ระบบ อีกฝ่ายหนึ่งก็กำลังจะเติมอกุศลกรรมเข้าสู่ระบบในวันที่ 14 กุมภา.
     
  16. เหอๆๆๆ

    เหอๆๆๆ บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เรื่องลิขิตฟ้าดินไม่จำเป็นอย่าไปยุ่ง เพราะเมื่อเราทำให้เหตุการณ์หนึ่งเปลี่นเหตุการณ์อื่นๆๆก็จะพลอยเปลี่ยนไปด้วย คำพยากรณ์ต่างๆๆก็จะเปลี่ยนแปลงไปหมด ตามหลักการเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว หันมาเตรียมตัวเราให้พร้อมดีกว่าอย่าให้เกิดมาเสียชาติเกิด เรื่องของคนอื่นอย่าไปยุ่ง
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    จากข้อความที่ 93

    ถามเรื่องประเทศอเมริกาและสงครามใหญ่

    ท่านบอกว่า เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 ไปถึง 27 ปี
    เทวดามาบอกภัยในอเมริกา มีภูเขาที่อยู่ทางตอนเหนือของชิกาโก ดูลักษณะไม่น่าจะเป็นภูเขาไฟ แต่มันจะปะทุขึ้นมา แล้วก็สกายแลปจะพุ่งขึ้นจากแม่น้ำ Mississipi (เป็นแม่น้ำในอเมริกากลาง) แล้วขึ้นไปชนกันตกลงมาที่อนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ

    จากคุณ ธนวรรณ เมื่อวันที่ 9/2/2548 10:20:50

    นอสตราดามุส เคยพยากรณ์เรื่องอุกกาบาตจะมาชนโลก ตามที่ปรากฎในโคลงที่ ซ.1 ค.69 ว่า
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    พระพุทธทำนาย

    เนื้อหาอ้างว่า
    คณะธรรมทูตผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดีย เมื่อ พ.ศ. 2484 ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนาย จากศิลาจารึกเขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน

    แปลได้ดังนี้
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำเตือนครั้งสุดท้าย จากคุณเอกอิสโร วรุณศรี

    http://www.konmeungbua.com/webboard/aspboard_Question.asp?GID=3388

    WHO เตือนไทยเสี่ยงโรคระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 กุมภาพันธ์ 2548 10:35 น.

    ชี้เคยประสบปัญหาโรคซาร์สและไข้หวัดนกมาแล้ว จึงอาจเป็นพื้นที่เสี่ยงการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ ด้าน กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระดมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคอุบัติใหม่ทางเดินหายใจ กรณีการเกิดโรคระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ทั้งในและนอกสถานบริการ พร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติงานวิชาการด้านการรักษาพยาบาล

    นายแพทย์ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคไข้หวัดใหญเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกประเทศและเป็นประจำทุกปี โดยจะเกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลกและสร้างความสูญเสียอย่างมหาศาลเป็นระยะๆทุกรอบ 10-30 ปี ในภาวการณ์ปัจจุบัน หากเกิดการระบาดใหญ่ขึ้น เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่มีโอกาสแพร่ระบาดไปทั่วโลกได้ในเวลาอันรวดเร็วตามการขยายตัวของการสื่อสารคมนาคม ซึ่งจะทำให้ประชาชนทั่วโลกเจ็บป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากโดยที่ไม่สามารถทำนายได้ล่วงหน้าได้แน่นอนว่าการระบาดใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อใด

    องค์การอนามัยโลกจึงได้แจ้งเตือนประเทศสมาชิกให้เร่งเตรียมความพร้อมรับมือการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากเชื้อที่เป็นสาเหตุของการระบาดใหญ่แต่ละครั้ง เช่น เชื้อไข้หวัดนก ในขณะที่ประเทศไทยประสบปัญหาการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง(ซาร์ส) ในปี พ.ศ.2546 และปี พ.ศ.2547 ก็พบการระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในสัตว์ปีก ทั้งยังติดต่อมาสู่คน ทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นภาวะเสี่ยงต่อการพัฒนาไปสู่ระยะการระบาดใหญ่ต่อไป

    ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาล กรมการแพทย์จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการด้านการรักษาพยาบาล โดยมีหน้าที่กำหนดแนวทางปฏิบัติด้านการแพทย์และรักษาพยาบาล วางระบบการดูแลบำบัดรักษา ให้คำปรึกษาและติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงาน รวมทั้งสนับสนุนการปฏิบัติการทีมรักษาพยาบาลฉุกเฉินให้สอดคล้องกับงานและพื้นที่

    นอกจากนี้ยังได้ระดมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ได้แก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ โรคปอด และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ มาเป็นคณะกรรมการด้านวิชาการเพื่อจัดทำคู่มือ แนวทางการบริหารจัดการ แนวทางการคัดกรองผู้ป่วยนอก แนวทางการดูแลรักษาพยาบาล การส่งสิ่งตรวจและการบริหารจัดการยาต้านไวรัส และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แนวทางการส่งต่อผู้ป่วยในสถานบริการทางการแพทย์ระดับต่างๆ ตลอดจนแนวทางการเฝ้าระวังและการป้องกันควบคุมโรคในโรงพยาบาลและแนวทางการจัดการผู้เสียชีวิต รวมทั้งจัดทำคู่มือสำหรับอสม. บุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับที่สัมผัสผู้ป่วย เพื่อให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในหน่วยงานระดับต่างๆ และในภาวะวิกฤติจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิชาการด้านการรักษาพยาบาลที่กรมการแพทย์เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง

    ที่สุดแล้วคือ...เธอทั้งหลายจงยังชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด
    หากจะเป็นเคราะห์กรรมจริงๆ แล้ว ก็อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้...เพราะทุกวันนี้ จะหาคนที่จะเชื่อในคุณพระรัตนตรัย ยากเต็มที คงเป็นด้วยเหตุนี้กระมัง...การชำระล้างครั้งใหญ่จึงเป็นทางออกที่ดีกว่าจะทำให้คนสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน หันมาเชื่อว่า "พระพุทธศาสนาคือยาขนานวิเศษ และเป็นศาสนาคู่โลกมาตั้งแต่ ยุคปฐมกัลป์" นี่กระมังจึงเป็นที่มาของ "3 ร่มโพธิ์ศรี" โลกต้องการมนุษย์เพียงแค่ 3 ล้านคน ที่จะสืบพระศาสนาต่อไป เพื่อให้ครบ 5000 ปี

    เพราะสำคัญที่สุดคือ ..คงจะไม่มีใครหาญกล้าที่จะต่อสู้เอาความจริงของ แผ่นดินพุทธภูมิ ทั้งชมพูทวีปและลังกาทวีป กลับคืนมาสู่ ดินแดนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้คือ พม่า ไทย ลาว ในศักราชนี้ คงต้องรอให้แผ่นดินเปิดเผยความจริงเองเสียแล้วกระมัง....ลาก่อนนี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้ายครับ

    จากคุณ เอกอิสโร วรุณศรี เมื่อวันที่ 13/2/2548 11:28:50
     
  20. lert

    lert Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +39
    พบรอยแยกใต้ทะเลที่ระนองผลจากแผ่นดินไหวปลายปี 47

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 มกราคม 2548 17:11 .

    รอยเลื่อนระนอง ซึ่งพาดผ่านแม่น้ำกระบุรี และกั้นชายแดนไทย-พม่า เป็นรอยเลื่อนที่ไม่มีพลัง แต่เมื่อมีแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงเกิดขึ้นก็สามารถส่งผลให้รอยเลื่อนที่ไม่มีพลังสามารถขยับตัวได้

    นักธรณีวิทยาชี้ชัดรอยแยกใต้ทะเลที่ .ระนอง เกิดจากผลกระทบของแรงแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้รอยเลื่อนระนองเกิดการขยับตัว และส่งผลให้เกิดน้ำพุร้อนใต้ทะเล โดยจะเฝ้าระวังรอยเลื่อนที่อาจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง



    นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนธรณีวิทยา 2 สำนักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้าน .ราชกรูด .ระนอง ได้ดำน้ำลงไปสำรวจใต้ทะเลบริเวณอ่าวแหลมสน ห่างจากชายฝั่งประมาณ 500 เมตร และพบรอยแยกกว้างประมาณ 3-4 นิ้วยาว เป็นระยะทางกว่า 1 กม.และแจ้งขอให้กรมทรัพยากรธรณีส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้วนั้น



    ผลการตรวจสอบปรากฎว่า เบื้องต้นที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีฟองน้ำผุดขึ้นมาจำนวนมากและแรงกว่าน้ำเดือดนั้น สามารถสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นผลต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 26 ..47 และทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เนื่องจากในบริเวณ .ระนอง นั้นมีรอยเลื่อนระนอง ซึ่งพาดผ่านแม่น้ำกระบุรี และกั้นชายแดนไทย-พม่า ซึ่งจากการศึกษาเมื่อ 10 ปีที่แล้วพบว่าเป็นรอยเลื่อนที่ไม่มีพลัง แต่เมื่อมีแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงเกิดขึ้นก็สามารถส่งผลให้รอยเลื่อนที่ไม่มีพลังสามารถขยับตัวได้



    นายเลิศสิน กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรธรณี ได้เคลื่อนย้ายทีมพร้อมอุปกรณ์จาก .สงขลา มาที่ .ระนอง อย่างเร่งด่วนแล้ว โดยอย่างช้าวันที่ 20 ..จะเริ่มสำรวจพื้นทะเลในบริเวณนั้น พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิ และแร่ธาตุในน้ำมาตรวจวิเคราะห์ทันที อย่างไรก็ตาม สำหรับรอยเลื่อนระนองนี้พาดผ่านในทะเล ผ่านแม่น้ำกระบุรีเป็นรอยยาวต่อเนื่อง ที่เคยศึกษาเอาไว้รอยเลื่อนดังกล่าวไม่มีพลังแล้ว แต่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวน่าจะส่งผลให้เกิดการขยับตัวได้



    "
    ทางวิชาการเรียกว่า การฟื้นคืนตัว โดยมีสัญญาณบ่งบอกได้จากการที่ที่มีน้ำเป็นฟองอากาศขึ้นมาจำนวนมาก ซึ่งในทางทฤษฎีรอยแยกดังกล่าวจะทำให้เกิดน้ำพุร้อนขึ้น เพราะแผ่นดินได้ปลดปล่อยพลังงานที่สะสมเอาไว้ออกมา แต่ทั้งนี้จะไม่รุนแรงมาก" นายเลิศสินกล่าว



    อย่างไรก็ตาม หากเป็นน้ำพุร้อนที่เกิดจากขยับตัวของรอยเลื่อนจริง ก็จะทำให้น้ำทะเลบริเวณนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้น และอาจทำให้สิ่งมีชีวิตระบบนิเวศน์ต้องมีการปรับตัว แต่จะขอดูรายละเอียดจากการสำรวจทั้งหมดก่อน นอกจากนี้กรมทรัพยากรธรณี ได้ติดตามรอยเลื่อนบริเวณใกล้เคียงที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ซึ่งได้ติดตั้งสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวไว้แล้ว ส่วนรอยเลื่อนระนอง ยังไม่ได้ติดตั้งสถานี เนื่องจากมีข้อจำกัดในอุปกรณ์เครื่องมือ และบุคลากร แต่ทุกคนก็ทุ่มทำงานอย่างเต็มที่



    คาดจะรู้ผลสอบรอยแยกใต้ท้องทะเล จังหวัดระนองใน 2 - 3 วัน

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2548 18:36 .

    นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้อำนวยการทรัพยากรแร่ 2 สำนักทรัพยากรแร่ กรมทรัพยากรธรณี สำรวจจุดที่ชาวบ้านพบรอยแยกของแผ่นดินใต้ท้อง ทะเล ตำบลราชกรูด อำเภอเมือง จังหวัดระนอง มีความกว้าง 3 นิ้ว ยาว 1 กิโลเมตร แต่เนื่องจากคลื่นลมแรง ทำให้มองเห็นฟองอากาศไม่ชัดเจน แต่สันนิษฐาน ว่าน่าจะเป็นผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิ โดยจุดดังกล่าวมีรอยแยกของรอยหินใต้ท้องทะเล และมีสารอินทรีย์ต่างๆ ทับถมจนมองไม่เห็นรอย แยก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ กระแสน้ำและแรงสั่นสะเทือนอาจทำให้สารอินทรีย์หลุด จากแนวรอยแยกเกิดแก๊สบางชนิดพุ่งขึ้นมา แต่ยืนยันไม่มีผล กระทบต่อชาวประมงที่แล่นเรือไปบริเวณดังกล่าว โดยจะขอตรวจสอบรายละเอียดทางธรณีวิทยาอีกครั้ง คาดจะรู้ผลใน 2 - 3 วัน



    ชาวสุราษฎร์ฯ พบดินแยกที่ .เคียนซา เชื่อมาจากแผ่นดินไหว-คลื่นยักษ์

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 มกราคม 2548 12:34 .

    พบรอยแยกและแตกร้าวของแผ่นดินในพื้นที่ .เคียนซา .สุราษฎร์ธานี โดยรอยแยกดังกล่าวอยู่บริเวณสวนยาง บ้านเลขที่ 369/1 หมู่ 10 .พ่วงพรมคร .เคียนซา .สุราษฎร์ธานี นายอำนวย ชูสังข์ อายุ 38 ปี ซึ่งอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า สังเกตเห็นรอยแยกของแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 27 ..ที่ผ่านมา และรอยแยกดังกล่าวขยายใหญ่ขึ้น วัดได้ประมาณ 3-4 เซนติเมตร โดยได้ทดสอบเทน้ำลงไปในรอยแยกดังกล่าวพบว่าน้ำไหลลงไปอย่างรวดเร็ว ส่วนบ่อน้ำหลังบ้านซึ่งระดับน้ำลดลงประมาณ 8-10 เมตร จึงเชื่อว่ารอยแยกดังกล่าวเป็นผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิที่พัดถล่มชายฝั่งทะเลอันดามัน



    อธิบดีกรมทรัพย์ฯ แจงไม่ต้องตื่นตระหนกกรณีรอยแยกระนอง

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 21 มกราคม 2548 16:21 .

    อธิบดีกรมทรัพย์ฯ ร่วมกับอาจารย์จุฬา ออกโรงชี้แจงข้อข้องใจประชาชน กรณีพบรอยแยกที่ระนองและแผนดินขยับตัวจากกรณีแผ่นดินไหว อธิบดีกรมแจงกำลังตรวจสอบรอยแยกว่าเป็นของเก่าหรือของใหม่ ส่วนกรณีแผ่นดินขยับไม่ทำให้บ้านเรือนแตกร้าว เพราะแผ่นดินเคลื่อนไปทั้งแผ่น อาจารย์วิศวสำรวจคลายวิตกเป็นปัญหาของกรมแผนที่ทหาร ซึ่งมีทางออกอยู่แล้ว



    วันนี้ (21 ..) นายสมศักดิ์ โพธิสัตย์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี และ ดร.อิทธิ ตริสิริสัตยวงศ์ อาจารย์จากภาควิชาวิศวกรรมสำรวจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ
     

แชร์หน้านี้

Loading...