หลวงพ่อคึกฤทธิ์ งามจริงๆ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย santosos, 2 กันยายน 2009.

  1. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    หลวงพ่อคึกฤทธิ์ งามจริงๆ ทำบุญกับท่านมาครับ คิดบ่นๆ แล้วท่านมาเจอต่อหน้าเราเลย
     
  2. Rupanama

    Rupanama สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
    ผมได้อ่านหนังสือ คู่มือตรวจสอบโสดาบัน ของท่านด้วย ท่านเขียนดีมากๆ

    โดยเฉพาะ ปฏิจสมุปบาท และ อริยสัจสี่ ได้ความรู้มากๆ เลยครับ
     
  3. พงศ์830

    พงศ์830 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,172
    ค่าพลัง:
    +1,196


    ขอรายละเอียดสำหรับผมคนที่ไม่รู้จักหลวงพ่อคึกฤทธิ์ ;aa44
     
  4. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ช่วยนำธรรมะของพระท่าน มาโพสต์ให้ได้อ่านด้วยก็จะดีมากนะครับ

    ;aa24
     
  5. สี่จุด

    สี่จุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    705
    ค่าพลัง:
    +3,658
    เมื่อวันศุกร์ที่25 เดือนนี้คือ ศุกร์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปที่ตึก c.p. tower สีลม ชั้น 11
    เขาจะจัดให้มีธรรมะขึ้นทุกศุกร์ เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11 (ผิดก็ขออภัย) คิดว่าจะไปหลายต่อ
    หลายครั้ง แต่แล้วเมื่อวันศุกร์อยู่ๆก็ลุกขึ้นขับรถไปเลย รายการเริ่ม 11.30 เราไปตั้งกะยัง
    ไม่ 11 เลย แล้วก็ไม่รู้หรอกว่า วันนี้ ท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ แห่งวัดนาป่าพง มา ไม่เคย
    รู้จักท่าน ไม่เคยเห็นท่านเลย เมื่อเวลา 11.30 ก็มีพระรูปหนึ่งเดินมา เราก็ยกมือไหว้ แต่
    ก็รู้สึกเฉยๆ ก็นั่งทำสมาธิต่อ คนอื่นก็แวะไปรับประทานอาหารว่างที่บริษัทได้กรุณาจัดไว้
    ให้ พอเวลา 12 น. ก็มีพิธีกรมานำสวด เราลืมตาดูเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งนั่งอยู่บนเวที ท่าน
    งามมากๆเลย เหมือนมีแสงสว่างแปลกๆ ตอนแรกเราก็นึกว่า พระรูปนี้คือใครกันหนอ เพราะ
    ท่าทางอายุท่านไม่มาก แต่งดงามจริงๆ หน้าตาบอกได้ถึงความเด็ดเดี่ยว (แต่ในทางไหน
    ไม่รู้ เมื่อท่านมาทางศาสนาก็คงเป็นทางนี้แหละ) หลังสวดมนต์เสร็จ พระอาจารย์คึกฤทธิ์
    ท่านก็เริ่มเทศน์...โอ....ยอมรับเลยว่า ใช่ ท่านมีความพยายามที่จะให้ประชาชนเข้าใจถึง
    แก่นของพุทธวจนะของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านอธิบายทุกเรื่อง อย่างเช่น การ
    เกิดดับ ท่านว่า มันเหมือนกับไฟวิ่งตามป้ายโฆษณา เราจะเห็นมันวิ่งวนไปเรื่อย แต่ที่จริง
    แล้ว ดวงนี้ดับดวงถัดไปก็เกิดแล้วดับเป็นแบบนี้ตลอดไป ...สาธุ....เราเห็นซึ่งคำว่า เกิด
    ดับโดยแท้เลย คือท่านอธิบายเก่ง และทรงภูมิความรู้จริงๆ ท่านรวบรวม....
    หลักสูตร พุทธวจน ธมฺมวินย จากพุทฺธโอฏฺธ
    แนวทางปฏิบัติ คำถามคำตอบตามหลักพุทธวจน ของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล
    วัดนาป่าพง ต.บึงทอหลาง อ.ลำลูกกา ปทุมธานี
     
  6. สี่จุด

    สี่จุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    705
    ค่าพลัง:
    +3,658
    ท่านแจกซีดีอีกหลายแผ่น ท่านรวบรวมเอง และหนังสือคุณสมบัติพระโสดาบัน วิธีง่ายๆ
    เพื่อความเป็นโสดาบันในชาตินี้ เราเองเดินไปถวายปัจจัยท่านหลังเลิกจากฟังธรรม แต่
    ท่านรับสิ่งของที่ผู้อื่นให้ แต่เราไม่ได้เตรียมของไป จึงถวายเป็นเงิน ซึ่งท่านก็ยิ้มๆ แต่คน
    ติดตามท่านก็ว่า ท่านไม่แตะต้องเงินทอง ไม่รับ จึงนำเข้าเป็นการบุญกับวัดนาป่าพง เรา
    เดินออกประตูแรก คนแจกหนังสือกับซีดี ก็ว่า หนังสือหมดแล้ว เหลือแต่ซีดี พุทธวจน จาก
    พุทฺธโอฏฺฐ เราก็อ้าว เสียดายนะ ก็ว่าจะกลับ เดินไปถึงลิฟท์แล้ว อะไรมาดลใจให้เดินกลับ
    ไปที่อีกประตูหนึ่ง ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่า เดินกลับไปทำไม พอถึงประตูที่สอง มีคนยืนแจกหนัง
    สือ เรายื่นมือไป เขาให้มา แล้วว่า เล่มสุดท้าย มีซีดีอีก 3 แผ่น เป็น โปรแกรมสืบค้น
    พุธวจน จากพุทฺธโอฏฺธ และ ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ (เสียงอ่าน) แผ่น 1-2 ขนลุกเลย
    ทำไมเราถึงได้เดินกลับไป แล้วได้ชุดสุดท้ายมา .....สาธุ.....
     
  7. สี่จุด

    สี่จุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    705
    ค่าพลัง:
    +3,658
    ประวัติพระอาจารย์ คึกฤทธิ์โสตฺถิผโล
    ประวัติในช่วงเป็นฆราวาส <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>พระอาจารย์คึกฤทธิ์ เกิดวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๐๖ ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ กรงเทพฯ ท่านจบปริญญาตรี นายร้อย จปร. สาขาวิศวกรรมเครื่องกล และ ปริญญาโท จากจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย คณะรัฐศาสตร์ จากนั้นท่านได้ รับราชการทหาร โดยมียศหลังสุดในชีวิตฆราวาสเป็นพันตรี
    จุดเริ่มต้นในเส้นทางธรรม
    [​IMG]
    ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ ขณะท่านเรียนอยู่เตรียมทหาร ชั้นปีที่ ๑ ระหว่างปิดเทอม โยมแม่ของท่านได้พาไปบวชกับ หลวงพ่อชา สุภัทโท ที่วัดหนองป่าพงเป็นเวลา ๑ เดือน เป็นครั้งแรกที่ไปสู่ดินแดนแห่งความสงบวิเวก ที่ยังใช้ชีวิตแบบง่ายๆ ตามกุฏิ ใช้การจุดเทียนให้แสงสว่าง เดินตามทางใช้ไฟฉาย น้ำอุปโภค ใช้เชือกผูกกับปิ๊บหย่อนไปในบ่อดิน ช่วยกันดึงขึ้นแล้วเทใส่ถังในรถ เข็นไปไว้ตามกุฏิ ศาลา และที่ต่างๆ อาหารขบฉันที่มีไม่มาก ต้องใช้พระตัวแทนสงฆ์มาจัดแจกแบ่งปันส่วน เพื่อให้เพียงพอกับทุกชีวิตในวัด และได้พบหลวงพ่อชา ได้ใกล้ชิด และสัมผัสกับธรรมะ รวมถึงข้อวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด งดงามน่าเลื่อมใสของท่าน สัมผัสกับจิตบริสุทธ์ทีมีอยู่จริง เกิดใคร่สนใจอยากศึกษา จึงเริ่มมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อครบกำหนดลาสิกขากลับมาสู่การศึกษาเล่าเรียน จึงตั้งใจเริ่มฝึกหัดรักษาศีล ๕ อย่างเคร่งครัด ตามสติกำลังอยู่ตลอดมามิได้ขาด <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>ท่านได้กลับไปยังวัดหนองป่าพงในทุกช่วงเวลาปิดเทอม จนกระทั่งได้มีโอกาสบวชอีกทีในตอนปิดเทอมชั้นปีที่ ๔ ของนายร้อย จปร. ในครั้งนี้ ท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานต่อหลวงพ่อชา ว่า จะใช้ชีวิตฆราวาสอีกเพียง ๑๐ ปี แล้วขอให้มีเหตุปัจจัยผลักดันให้ได้ครองเพศบรรพชิตไปตลอดชีวิต <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ชีวิตในเพศบรรพชิตครั้งสุดท้าย<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หลังจากได้ตั้งอธิษฐานกับหลวงพ่อชาในครั้งนั้น ท่านก็ใช้ชีวิตทางโลกอย่างปรกติเรื่อยมา ท่านเล่าว่าการใช้ชีวิตโดยมีสติและธรรมะอยู่กับตัว ช่วยให้การดำเนินชีวิตทางโลกของท่านเป็นไปอย่างสะดวก ไม่เศร้าหมอง และมีส่วนสนับสนุนความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานเป็นอย่างมาก แต่บางครั้งการมีสติ ก็ทำให้การไปเที่ยวเตร่หรือการเที่ยวเล่นเริ่มไม่เป็นเรื่องสนุกเหมือนอย่างเคย เพราะท่านมองเห็นแต่โทษภัยของการขาดสติ โทษของการที่เผลอเพลินไปกับกิเลสต่างๆ จนในที่สุด เมื่อครบ ๑๐ ปี ตรงกับที่ได้ตั้งอธิษฐานไว้ และเป็นปีที่หลวงพ่อชาได้มรณภาพ ในกาลนั้นเองท่านได้เห็นสัจธรรมความไม่เที่ยงของสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่เว้นแม้แต่ครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพ ท่านจึงอาศัยสิ่งนี้เป็นอันดับแรก เป็นอนุสติเครื่องกระตุ้นเตือนใจ ผลักตัวเองให้ออกจากชีวิตทางโลก ประกอบกับเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย และไม่ค่อยเห็นประโยชน์ในการใช้ชีวิตฆราวาสเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งได้รู้สึกถึงความก้าวหน้าของผลการปฏิบัติ ที่ค่อยๆ ฝึกหัดกระทำมาตลอด ๑๔ ปี นับแต่เจอหลวงพ่อชา สิ่งเหล่านี้จึงรวมมาเป็นเหตุปัจจัยผลักดันให้ท่านเข้ามาบวชอีกครั้ง <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>ครั้งนี้ท่านเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัตร์ ที่สำนักสงฆ์บุญญาวาส จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันเป็นวัดสาขาของวัดหนองป่าพง มีพระอาจารย์ตั๋น (พระอาจารย์อัครเดช ถิรจิตฺโต) เป็นเจ้าอาวาส หลังจากบวชได้ระยะหนึ่ง ในระหว่างออกปลีกวิเวกธุดงค์ร่วมกับพระเถระอีก ๒ รูป ท่านได้มาบำเพ็ญภาวนา พำนักอยู่ยังผืนนาอันเป็นของโยมแม่ท่านยกถวาย ณ.บริเวณถนนลำลูกกา คลองสิบ จังหวัดปทุมธานี เรื่อยมาจนท่านได้ ๕ พรรษา จากนั้นเป็นช่วงเวลาที่ท่านได้พำนัก อยู่เพียงลำพังผู้เดียว ท่านจึงอาศัยความสันโดษวิเวกนี้ เป็นโอกาสแห่งการปฏิบัติภาวนาอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมทั้งศึกษาธรรม และวินัยจากพระโอษฐ์ควบคู่กันไป <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>ในช่วงหน้าแล้งของแต่ละปี ท่านได้หาโอกาสออกวิเวกตามป่าเขา จนในพรรษาที่ ๗ หลังออกวิเวกธุดงค์ โดยเดินจากเมืองกาญจนบุรีผ่านทุ่งใหญ่นเรศวร ขึ้นจังหวัดตาก และเมื่อกลับมาถึงคลองสิบ ได้เป็นไข้มาลาเรีย นอนป่วยอยู่ผู้เดียวเป็นเวลา ๗ วัน จึงมีคนมารับไปรักษา ผลจากอาพาธครั้งนี้ทำให้ท่านมีอาการอ่อนเพลียต่อเนื่องมาอีก ๕ ปี จึงเริ่มหายเป็นปกติ ในระหว่างนั้นสถานที่ดังกล่าวค่อยๆ ได้รับการพัฒนาตามลำดับ ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ หรือประมาณ ๘ ปี นับแต่ท่านได้มาอยู่บำเพ็ญภาวนาสถานที่แห่งนี้ จึงได้ขึ้นทะเบียนตั้งเป็นวัดนาป่าพงจวบจนถึงปัจจุบัน <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>ท่านได้วางแนวทางการปฏิบัติของพระสงฆ์ในวัดได้อย่างชัดเจน โดยยึดแต่คำสอนที่เป็นพุทธวจนะของพระพุทธเจ้าเป็นแนวทาง ท่านได้วางนโยบายในวัดให้มีความสงบสอดคล้องเหมือนกับการออกวิเวกธุดงค์ กำหนดกิจข้อวัตรของพระในวัดให้กระชับที่สุด และเป็นกฎเกณฑ์ของหมู่คณะที่ต้องเคร่งครัด เพื่อเปิดโอกาสให้พระได้มีเวลาในการภาวนามากๆ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>ผู้ที่จะบวชในวัดนี้ควรจะต้องมีเวลาอย่างน้อย ๑ เดือน เพื่อเตรียมตัวอยู่เป็นผ้าขาวก่อนประมาณ ๒ อาทิตย์ จากนั้นบรรพชาเป็นสามเณรอีกประมาณ ๑ อาทิตย์ แล้วจึงสามารถบวชเป็นพระได้ ทั้งนี้เพื่อฝึกฝนข้อวัตรปฏิบัติ และเป็นการชำระกายใจให้บริสุทธิ์เสียก่อน เนื่องเพราะท่านเห็นว่าการบวชในระยะสั้นๆ นั้นเกิดประโยชน์น้อย และเสี่ยงต่อการทำผิดในเพศบรรพชิตได้ง่าย <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>ท่านเน้นย้ำมากในเรื่องการศึกษาและปฏิบัติธรรมะว่า ควรศึกษาโดยตรงในธรรมะจากพระโอษฐ์เท่านั้น เพราะที่ทรงตรัสถึงขีดจำกัดของสาวกที่เป็นเพียงผู้เดินตามมรรค การแสดงความเห็นของสาวกย่อมมีข้อผิดเพี้ยน ซึ่งเป็นเหตุเสื่อมและเป็นความอันตรธานแห่งธรรมวินัยของตถาคตในกาลยืดยาวนานฝ่ายอนาคต และเป็นเหตุแห่งการนับถือศาสนาพุทธที่ผิดเพี้ยนไปด้วย รวมถึงการนำพระพุทธศาสนาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>ท่านแนะนำการศึกษาพระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ จากหนังสือที่ท่านพุทธทาสได้รวบรวมเฉพาะคำพูดจากพระโอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าโดยตรง ไม่ปนความเห็นของผู้ใด มี ๕ เล่ม คือ ๑.อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคต้น ๒.อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาคปลาย ๓. ขุมทรัพย์จากพระโฮษฐ์ ๔.พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ และ ๕.ปฏิจฺจสมุปฺบาทจากพระโอษฐ์ ซึ่งทางธรรมสภาได้รวบรวมและจัดส่งให้โดยสะดวกแก่ผู้โทรสั่งซื้อ ท่านกล่าวว่า การที่พุทธบริษัทศึกษาและปฏิบัติจากคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยตรงนี้ จะทำให้การภาวนาเจริญก้าวหน้า และเป็นทางเดียวที่จะช่วยสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาที่บริสุทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์
    นำมาจาก วัดนาป่าพง-ประวัติพระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล
     
  8. Rupanama

    Rupanama สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
  9. Rupanama

    Rupanama สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
  10. ชั

    ชั Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2011
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +48
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ท่านพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ท่านนี้งามครับ....
     
  12. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    ท่านเผยแผ่ให้เข้าใจได้ทุกแง่ทุกมุม ...............สุดยอดจริง ๆ ขอกราบท่านเป็นอาจารย์ต่อจากท่านพุทธทาส ภิกขุ.......
     
  13. =พอ=

    =พอ= Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +27
    เคยฟังท่านเทศน์เข้าใจง่ายดีค่ะ
     
  14. -zen-

    -zen- สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +8
    ท่านเน้นสอนให้ ละนันทิ ครับ
    <dl><dd>คำว่า นนฺทิกฺขยา ราคกฺขโย, ราคกฺขยา นนฺทิกฺขโย เพราะ</dd></dl> ความเพลิดเพลินสิ้นไป ราคะก็สิ้นไป. เพราะราคะสิ้นไป ความเพลิดเพลิน
    ก็สิ้นไปนี้ ท่านกล่าวไว้เพื่อกระทำให้ต่างจากอรรถแห่งคำเหล่านี้ว่า
    นนฺทิ หรือว่า ราโค. อนึ่ง บุคคลเมื่อเบื่อหน่ายด้วยนิพพิทานุปัสสนา
    ชื่อว่า ย่อมละนันทิ ความเพลิดเพลิน เมื่อคลายความกำหนัดด้วย
    วิราคานุปัสสนา ชื่อว่าย่อมละราคะ.
    <dl><dd>ด้วยอันดับคำเพียงเท่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงให้วิปัสสนา</dd></dl> จบลงแล้ว ทรงแสดงมรรคจิตในที่นี้ว่า เพราะราคะสิ้นไป นันทิก็สิ้นไป
    ดังนี้แล้วแสดงผลจิตว่า เพราะนันทิ-ราคะสิ้น จิตหลุดพ้นแล้วแล.
     
  15. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,580
    ปราชญ์แห่งยุคอีกรูปหนึ่ง ยึดแนวทางพุทธวจนะ
     
  16. ploysaisai

    ploysaisai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอบคุณพี่อาภากรอย่างสูงที่แนะนำ...ทำให้สนใจค้นหาอ่านประวัติหลวงพ่อคึกฤทธิ์
    และนำไปสู่การฟังธรรมจากท่านหลวงพ่อต่อไปนะคะ อนุโมทนาบุญกับพี่อาภากร
    ครั้งนี้ด้วยค่ะ
     
  17. ตาวิเศษ

    ตาวิเศษ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมเห็นท่านทาง tv สองครั้ง รู้สึกว่าศัทธา ครับ
    ท่านงาม จริงๆ เพชรในวงการพุทธศาสนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...