เรื่องบังเอิญในโลกมีจริงหรือไม่และตวามลับไม่มีในโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย โดเรม้อน, 22 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    มีคนพูดว่า โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ
    กับ ความลับไม่มีในโลก
    คุณคิดว่าอย่างไรกับคำเหล่านี้จริงหรือไม่อย่างไร
    จงตอบแบบวิทยาศาสตร์ด้วยนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2011
  2. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    กระทู้แนะนำ
    หน้าด้านหน้าทนเข้าไว้...แล้วจะได้ดี
    สนามรบสนามสุดท้าย!
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width="50%">ความจริงท้าทายตลอดเวลา
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    </TD><TD vAlign=top align=left width="50%">




    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width="50%">เมื่อมีโอกาสทำความดีเราจะต้องตั้งใจทำ
    ท่านจิตโต
    มองกว้าง คิดไกล ใฝ่สูง (ความสุขที่ยั่งยืน)
    ประทีป ตั้งมติธรรม (เจ้าของศุภาลัย)
    ทำได้ทุกอย่าง ที่ผู้อื่นไม่คิดจะทำ
    อันตรายจากการว่าพ่อแม่ และจ้วงจาบผู้มีบุญคุณ ผู้ทรงศีล-ทรงธรรม

    ทีแรกคิดว่าเอาหลักธรรมที่มีมูลและน่าใช้ปัญญามาให้ศึกษากันแต่ถูกมองว่าไม่ดี
    เลยคิดจะเลิกเล่นอินเตอร์เน็ตซักปี เลย
    ตั้งจิตว่า ถ้ามีนิมิตหมายว่า ควรหาข้อความดีๆมานำเสนอต่อจงแสดงนิมิตหมาย เลยเห็นชื่อกระทู้ต่างๆวันนี้ และได้นึกถึงคำพูดของหลวงพ่อฤาษีลิงดำจากเพื่อนว่าฝากลูกศิษย์ไว้หลายแสนคนที่จะเข้าสู่ยุคศิวิไลด้วยกัน จึงมีเหตุจำเป็นต้องอยู่ปล่อยมุขต่ออีกหลายปรเด็น ให้ประเทืองปัญญาเล่น สงสารพยัคคึ พยัคคา ที่ตาดำๆ อารมณ์อย่าเหนือความดี อย่าใช้อารมภ์เหนือความถูกต้อง


    </TD></TR></TBODY><.24/TABLE>
     
  3. ธรรมภูมิ

    ธรรมภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +142
    ผมก็เคยเป็นอาการนี้ และเตือนตัวเองว่า "ท้อได้แต่อย่าถอย ล้มได้แต่ต้องลุก"
     
  4. โดเรมี่

    โดเรมี่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +9
    บางครั้งชีวิตคนเราไม่ได้สำเร็จรูปเหมือนบะหมี่ การทำความดีต้องอาศัยเวลา กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้
    (อย่าลืมใส่ถั่วก่อนนะคะ) เป็นกำลังใจให้เสมอเรยย
     
  5. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    ทำความดีไว้เถอะใจเย็นค่อยบอกสอนเขา น้ำกำลังเชี่ยว
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** สัจจะการกระทำเที่ยง นอกนั้นไม่เที่ยง ****

    ทำตัวตามน้ำ ทางรอดเป็นเรื่องเฉพาะตน
    เกิดเป็นคน สุดท้ายต้องพึ่งผลการกระทำที่ทำไปแล้ว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    การถือกำเนิดของมนุษย์ เป็นเรื่องบังเอิญหรือเพราะพระเจ้า ยังไม่มีข้อสรุปครับ
     
  8. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    จะว่ามีก็มี จะว่าไม่มีก็ไม่มี ต่อให้บังเอิญจริงๆ ถ้าคิดว่าไม่บังเอิญมันก็ไม่บังเอิญอยู่ดี ก็เราตัดสินมันไปก่อนแล้วนี่ครับ สาธุ สาธุ
     
  9. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    ขอบคุณคุณมากๆเลยนะครับ



     
  10. โดเรม้อน

    โดเรม้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    848
    ค่าพลัง:
    +75
    อัญมณีแห่งดวงดาว

    ในคืนข้างแรมเวลาใกล้รุ่งระหว่างปลายเดือนเมษายนไปจนถึงเดือนมิถุนายน หากเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ท่ามกลางราตรีอันมืดมิดไม่มีเมฆหมอกและแสงไฟรบกวนสายตา เมื่อเพ่งมองไปยังขอบฟ้าทางทิศเหนือ จะเห็นแถบฝ้าสีขาวจางคล้ายเมฆหมอกทอดเป็นทางยาวเหยียดพาดผ่านท้องฟ้าไปทางทิศใต้ ภายในแถบฝ้าสีขาวจางเป็นทางยาวเหยียดนั้น เต็มไปด้วยดวงดาวขนาดเล็กทอแสงระยิบระยับวับวาวมากมายเหลือที่จะคณานับ เป็นประกายงมจับตาน่าประทับใจ มองดูคล้ายเม็ดทรายที่ทอดตัวไปตามชายหาดยาวไกลออกไปจนสุดขอบฟ้า ภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจที่มวลมนุษยชาติเห็นกันมาหลายชั่วอายุคน จากยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่ง ยังเป็นปริศนาคาใจ ติดข้องอยู่ในความน่าพิศวงสงสัยเรื่อยมา ไม่มีใครสามารถไขความลับแห่งห้วงเวหาให้กระจ่างได้ คนโบราณคิดว่าบนสวรรค์ชั้นฟ้าเป็นวิมานของเหล่าทวยเทพ จึงสร้างเทพนิยายเป็นตำนานเล่าขานสืบต่อกันมา บ้างจินตนาการว่าเป็นแสงไฟประดับประดาวิมานของเทพเจ้าในแดนสุขาวดีให้สว่างไสว บ้างก็แต่งเป็นตำนานเล่าขานถึงบรรพชนของตนว่ามีความสัมพันธ์กับเทพเจ้าในชั้นฟ้า ส่วนนักโหราศาสตร์ของโลกตะวันออกในสมัยอดีตพากเพียรศึกษาค้นหากันมาช้านานนับตั้งแต่ชาวอารยันเริ่มตั้งต้นถิ่นฐานในชมพูทวีป “สมัยพระเวท” เรียกขานแถบฝ้าสีขาวจางอันน่ามหัศจรรย์นั้นว่า “ทางช้างเผือก” นักดาราศาสตร์ชาวกรีกในยุคเฮเลนิคอันรุ่งเรืองเรียกว่า “ทางน้ำนม” (Milky Way) เพราะไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วในยามค่ำคืนนั้น คือ “ดาราจักร” (Galaxy) ที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลดาราจักรหนึ่งในอีกหลายล้านดาราจักรของจักรวาล
    นักดาราศาสตร์ในสมัยโบราณสำคัญผิดคิดว่า “โลกแบน” และเข้าใจว่า “โลก” เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ตั้งนิ่งอยู่กับที่ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ ต่างโคจรหมุนเวียนไปในรูปวงกลมรอบโลกอยู่ตลอดเวลา ความลึกลับของจักรวาลและความเป็นไปในโลกซึ่งไม่มีด้วยใครรู้ความจริง เป็นช่องว่างให้ผู้ที่ตั้งตัวเป็นศาสดาของบางศาสนาอ้างว่าพระเจ้าสร้างโลกและสรรพสิ่งในจักรวาล เขียนคัมภีร์ขึ้นตาวความเชื่อของตน สั่งสอนให้ผู้คนหลงผิด ใช้อำนาจของศาสนาบังคับให้ทุกคนยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งมาช้านาน ชนชาวทวีปยุโรปตกอยู่ภายใต้ “ยุคมืด” มาอย่างยาวนานเกือบ 2,000 ปี จนกระทั่งถึง “ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ” ปัญญาชนชาวทวีปยุโรปได้ศึกษาค้นหาความจริงและความลับของโลกและจักรวาล ไปตามหลักแห่งเหตุผล โดยไม่ยอมอยู่ภายใต้อำนาจครอบงำของศาสนา เทพอวตารผู้มีอัจฉริยภาพทางความคิดได้มาเกิดขึ้นในโลกมนุษย์ ใช้ความอุตสาหะพากเพียรค้นหาความลับของจักรวาล จนกระทั่งพบความจริงแท้ทางดาราศาสตร์เป็นครั้งแรก ปฏิวัติโลกให้เข้าสู่วิทยาศาสตร์ยุคใหม่ในพุทธศตวรรษที่ 20 มีชื่อว่า “นิโคลัส โคเปอร์นิคัส” นักบวชแห่งสังฆมณฑลคาทอลิคเมืองตอรูน ในประเทศโปแลนด์ ได้รับทุนให้เดินทางไปศึกษาทางศาสนาที่มหาวิทยาลัยปาดัว ในประเทศอิตาลี มีความรู้รอบในวิชากฏหมายศาสนจักร วิชาการแพทย์และวิชาดาราศาสตร์ มหาบัณฑิตผู้เฉลียวฉลาดดุจเทพอวตารผู้นี้ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบาทหลวงวิหารเฟราเอนบวร์ก เป็นผู้ค้นพบทฤษฏีใหม่ทางดาราศาสตร์สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ชาวโลกไปทั่ว เมื่อหนังสือ “เด ริวูโลทิโอนิบุส” (De Revolotionibus) แปลว่า การหมุนรอบตัวเองของดวงดาวในท้องฟ้า ตีพิมพ์เผยแพร่ใน พ.ศ.2083 (ค.ศ.1543) อธิบายให้เห็นถึงหลักฐานการค้นพบทฤษฏีใหม่ คือ “ระบบสุริยจักรวาล” ซึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบ โลกและดาวพระเคราะห์ทั้งหลายล้วนแต่โคจรไปรอบดวงอาทิตย์ในรูปวงกลม
    “ทฤษฏีระบบสุริยจักรวาล” ได้ปฏิวัติล้มล้างทฤษฏีเก่าทางดาราศาสตร์ของ “คลอดิอุสปโตเลมี” นักปรัชญาเมธีแห่งเมืองอเล็กซานเดรียลงไปอย่างสิ้นเชิง “คัมภีร์อัลมาเจสต์” อันมีชื่อเสียงที่แต่งขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ.693 (ค.ศ.150) ที่เคยเชื่อกันมาช้านานว่า โลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาลพังพินาศไปหมดสิ้น แต่การค้นพบความจริงทางดาราศาสตร์ ถูกสำนักวาติกันตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นตำรานอกรีต เพราะขัดแย้งกับความเชื่อของฝ่ายคริสต์จักรในกรุงโรม สมเด็จพระสังฆราชจึงทรงประกาศห้ามไม่ให้คริสต์ศาสนิกชนอ่านหนังสือของพวกซาตาน ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของพระสันตะปาปา ซึ่งเปรียบดังตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า เป็นบาปหนาสาหัสจะต้องตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงรับขึ้นไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ ด้วยเหตุนี้หนังสือการค้นพบความรู้ใหม่ทางดาราศาสตร์ ที่มีคุณค่าที่สุดของมวลมนุษยชาติแห่งยุคกลับกลายเป็น “หนังสือที่ไม่มีใครอ่าน (The Book Nobody Read)
    แต่ในสมัยปัจจุบันต้นฉบับของหนังสือดังกล่าว ได้กลายเป็นหนังสือที่มีราคาแพงที่สุดเล่มหนึ่ง จำหน่ายกันในราคาเล่มละ 1 ล้าน 4 แสนบาท หรือ 40,000 ดอลล่าห์สหรัฐ และหายากที่สุด เพราะว่าพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรกเพียง 100 เล่มเท่านั้น จึงเป็นหนังสือดาราศาสตร์ที่นักวิทยาศาสตร์ และนักสะสมของเก่าอยากได้ไว้เป็นสมบัติส่วนตัวมากที่สุด
    เป็นที่น่าสังเกตว่าใน “ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ” ถึงกำหนดเวลาที่โลกจะต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่อีกยุคหนึ่ง ฟ้าดินได้บันดาลให้บังเกิดเทพอวตารอีกผู้หนึ่ง ซึ่งเปรียบดังเป็นมารศาสนามีนามว่า “มาร์ติน ลูเธอร์” นักบวชเยอรมันไม่เห็นด้วยที่พวกนักบวชฉวยโอกาสจากความไม่รู้ของคริสต์ศาสนิกชน เพราะอ่าน “คัมภีร์ไบเบิล” ไม่ออก และไม่เข้าใจความหมายเพราะว่าเขียนขึ้นด้วยภาษาละตินโบราณ พวกนักบวชได้ใช้เป็นเครื่องมือฉวยโอกาสกอบโกยแสวงหาผลประโยชน์จากความโง่เขลาเบาปัญญาของประชาชน ไปบำรุงบำเรอความสุขของตนและพวกพ้อง สร้างความมั่งคั่งร่ำรวยกันไปทั่ว จึงเรียกร้องให้แปลคัมภีร์เป็นภาษาเยอรมันและขอให้ยุติพฤติกรรมหลอกลวงชักจูงคริสต?ศาสนิกชนไปในทางหลงผิด สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงโรมทรงพิโรธ สั่งให้อัศวินผู้แกล้วกล้ายกกองทัพไปจับกุมตัว เพื่อนำไปฟ้องร้องต่อศาลทางศาสนาที่กรุงโรม แต่เจ้าผู้ครองนครในประเทศเยอรมันได้ช่วยคุ้มครองป้องกันจนในที่สุด “มาร์ติน ลูเธอร์” ได้ประกาศจัดตั้งศาสนาคริสต์ใหม่ “นิกายโปเตสแตนต์” แปลว่า “คริสต์ศาสนานิกายที่คัดค้านสำนักวาติกัน” ตรงกับช่วงสมัยที่ “นิโคลัส โคเปอร์นิคัส” ค้นพบทฤษฏีใหม่ทางดาราศาสตร์ดังกล่าวข้างต้น
    การต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความจริงความลับของจักรวาลระหว่าง “ฝ่ายศาสนจักร” กับ “ฝ่ายวิทยาศาสตร์” ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปลายพุทธศตวรรษที่ 20 แม้ว่าสำนักวาติกันแห่งสังฆมณฑลคาทอลิค พยายามใช้อำนาจอิทธิพลครอบงำบีบคั้นอย่างไร แต่ก็ไม่อาจขัดขวางความอยากรู้อยากเห็นความจริงของมนุษยชาติได้ นักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ใน “ยุคการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ” ในทวีปยุโรป ได้มุ่งหน้าค้นหาความจริงและความลับในโลกและในจักรวาลตามหลักแห่งเหตุผลสืบต่อมาอีก 100 ปี เทพอวตารอีกผู้หนึ่งมีนามว่า “กาลิเลโอ กาลิเลอี” นักดาราศาสตร์ชาวเมืองปิซา ในประเทศอิตาลี ได้เริ่มต้นศึกษาค้นหาความลับของดวงดาวที่โคจรไปในท้องฟ้า ตามแนวทางวิชาดาราศาสตร์ของ “นิโคลัส โคเปอร์นิคัส” จนกระทั่งพบความจริงว่า “โลกกลม” โลกหมุนรอบตัวเองพร้อมกับโคจรไปรอบดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ “ระบบสุริยจักรวาล” จึงพยายามคิดค้นแสวงหาวิธีพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ เพื่อเปิดเผยให้ชาวโลกรับรู้ “กาลิเลโอ กาลิเลอี” ถือเป็นนักดาราศาสตร์ยุคใหม่คนแรกที่สามารถไขปริศนาอันลี้ลับดำมืดของจักรวาล ให้มวลมนุษยชาติได้รู้ได้เห็นประจักษ์ตาเมื่อ พ.ศ.2153 ตรงกับสมัยกลางของกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีของสยามประเทศ
    พลตำรวจโท สรรเพชญ ธรรมาธิกุล
    (สรรเพชญ ธรรมาธิกุล)
    4 มิถุนายน 2551
     
  11. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    พระเจ้าแท้มีองค์เดียว
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; mso-border-alt: solid black 1.5pt; mso-padding-alt: 0cm 5.4pt 0cm 5.4pt" class=MsoNormalTable border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: black 1.5pt solid; BORDER-LEFT: black 1.5pt solid; PADDING-BOTTOM: 0cm; PADDING-LEFT: 5.4pt; PADDING-RIGHT: 5.4pt; BACKGROUND: #bfbfbf; BORDER-TOP: black 1.5pt solid; BORDER-RIGHT: black 1.5pt solid; PADDING-TOP: 0cm; mso-shading: white; mso-pattern: gray-25 black" vAlign=top>พระเจ้าแท้ นั้นมี พระองค์เดียว
    อย่ามัวเที่ยว ค้นหา มันน่าเศร้า
    พระเจ้าแท้ นั้นอยู่ คู่กับเรา
    เป็นพระเจ้า ของชาวโลก จงโปรดตรอง

    คือโลกเรา น่าจะเอา เป็นพระเจ้า
    ท่านปวดร้าว กับเรา มานานนัก
    ท่านให้ชีวิต ให้วิญญาณ คงประจักษ์
    ท่านน่ารัก ใช่ไหม ให้คิดดูฯ

    บ.ก.โลกใหม่<o:p></o:p>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  12. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    เรื่องบังเอิญ ไม่มีจริง ทุกอย่างลัวนเกิดจากเหตุผล
    แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่า จะหาเหตุผลเจอหรือเปล่า
     
  13. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ครับ

    เรื่องบังเอิญต้องมีซิครับไม่งั้นจะถูกบรรจุไว้ในพจนานุกรมไทยเหรอครับ:boo:
     
  14. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    เถียงไม่ขึ้นใช่ไหมล่ะ 555 ชนะตามเคย

    เฮ้อชักชินแล้วกับชัยชนะ ใครนะจะมาปราบเรา
     
  15. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    เถียงกันก็ไม่เกิดประโยชน์...
    จะแพ้หรือชนะ...ก็ไม่เกิดประโยชยน์

    แพ้หรือชนะ... สุดท้ายเราก็เป็นมนุษย์ขี้เหม็นเหมือนเดิม
     
  16. LEEBIG

    LEEBIG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +186
    ความลับ ก็คือ ความจริง
    อย่างเช่น มนุษย์ต่างดาว ไม่มีจริงเลย

    เพราะฉะนั้น เรื่องมนุษย์ต่างดาว ก็ไม่ใช่ความลับ เพราะว่าไม่มีจริง
     
  17. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ครับ

    กีฬายังมีแพ้ชนะนี่เขาเรียกว่าการเรียกน้ำย่อย
     
  18. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ทำไมมนุษย์ ชอบแบ่งแยก

    แพ้-ชนะ
    รวย-จน
    ดี-เลว
    จริง-เท็จ
    บ้า-ปกติ
    อื่นๆ

    ทั้งๆที่ทุกอย่า่งล้วนไม่เป็นความจริง ดั่งที่คิด ดั่งที่ตาเห็น

    เคยสงสัยไหมว่าคำเหล่านี้
    เรามักใช้เปรียบเทียบกับคนอื่นๆและสิ่งต่างๆที่ไม่ใช่ตัวเรา
    ทำไมเราถึงไม่เคยใช้กับต้วเราเองเลย
    และเป็นคนอื่นที่ใช้คำเหล่านี้มาตัดสิ้นตัวเราเอง

    เราบอกตัวเองว่า เราปกติ แต่คนอื่นมองเราว่า"บ้า"
     
  19. LEEBIG

    LEEBIG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +186
    แพ้ ชนะ แน่นอนมีจริง
    ดี ชั่ว แน่นอนมีจริง
    รวย จน ใครรวยใครจน ย่อมรู้แก่ใจดี ก็ต้องมีแน่นอน
    จริง เท็จ ใครโกหก ย่อมรู้แก่ใจดีรวมทั้งพวกพ้องด้วย มีจริงแน่นอน
    บ้า หรือไม่บ้า บางคนแกล้งบ้าก็มี เพื่อหลีกเลี่ยงความผิด

    คนดี ย่อมมีแน่นอน
    ส่วนคนชั่ว มักหลบลี้ ปกปิดความชั่ว

    มนุษย์หลีกเลี่ยง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แน่นอน
     
  20. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    ความบังเอิญไม่มีจริง นั้นถูกแล้ว

    เพราะมีเหตุถึงมีผล หรือความประจวบเหมาะขอเหตุและผล

    เพราะว่ามีแขนซ้าย จึงรู้ว่ามีแขนขวา

    เพราะรู้ว่าเหตุ คือการก้าวเท้าซ้าย จริงรู้ว่าผล คือการก้าวเท้าขวา

    ^_^;aa44
     

แชร์หน้านี้

Loading...