จริงหรือไม่ถ้านั่งสมาธิเองที่บ้านอาจเป็นบ้าได้

เป็นคนหนึ่งที่เพิ่งสนใจเรื่องธรรมะค่ะ ได้สวดมนต์มาได้สักระยะหนึ่งแล้วแต่อยากลองนั่งสมาธิดูบ้าง แต่ศึกษาแล้วมีหลายท่านกล่าวว่า ถ้าไม่มีคนแนะนำอาจทำให้เป็นบ้าได้ จริงหรือคะ อยากให้ผู้รู้แนะนำสักนิดค่ะว่าควรทำอย่างไรดีคะ(ไม่สะดวกไปวัดน่ะคะ เพราะลูกยังเล็กอยู่ เลี้ยงลูกคนเดียวค่ะ)
**กราบขอบพระคุณทุกความคิดเห็นเป็นอย่างสูงนะคะ **

 

นั่งสมาธิแล้วเป็นบ้า เพราะไปคิดว่าอะไรที่เห็น รู้สึก ได้กลิ่น ได้ยิน ในระหว่างการนั่งสมาธิเป็นจริง
ไม่รู้ว่าเป็นอาการของจิตที่เกิดจากสัญญาเดิมของจิต
พอไม่รู้ว่าเป็นแค่อาการของจิต เป็นมายาสิ่งไม่จริง ก็หลงนึกทึกทักไปเองต่างๆนาๆ
ขอแนะนำให้ศึกษาจากพระธรรมเทศนาของหลวงปู่เทสก์ และหลวงปู่พุธ searchจากgoogleก็ได้ครับ
การนั่งสมาธิให้จิตพบกับความสงบอันเนื่องจากความสงัด สันโดษนั้นไม่ทำให้เป็นบ้าหรอกครับ
แต่ถ้านั่งเพื่อจะได้อำนาจฤทธิ์วิเศษอื่นๆ นั่นแค่คิดตั้งต้นก็พาหลงทางไปแล้วครับ

 

ถ้าเราทำถูกทางไม่เป็นไรหลอกครับ....

พวกที่เขาว่าเป็นบ้าก็เพราะทำแล้วฝืนตนเองฝืนครูบาอาจารย์......

ศึกษาได้นะครับ......ศึกษาจากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระธรรมเทศนาในเวบนี้ก็ได้...หาในแบบที่เราชอบ....แล้วก็ทำได้เลยครับ.....เพราะส่วนใหญ่ท่านกล่าวไว้อย่างละเอียดแล้วนะ......อย่างเช่น พระธรรมเทศนา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อชา อันนี้แน่นอน.....

 

แค่เรารู้สึกถึงลมหายใจของเราที่ผ่านเข้าออกรูจมูกของเรา อาศัยการรับรู้อาการที่ลมเข้าออกที่กระทบจุดสัมผัสนี้ไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เกิดขนิกสมาธิแล้วครับ
สมาธิเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันตลอดเวลา ถ้าไม่นั้นเราทำงานต่างๆที่ต้องconcentrateเช่นการหั่นผลไม้ การขับรถ การคำนวนตัวเลขต่างๆไม่ได้หรอกครับ
การทำสมาธิก็สามารถทำได้ทุกอิริยาบทด้วย
ไม่ใช่พิธีการลึกลับอะไร
การทำสมาธิก็คือการที่เราทำความรู้จักกับจิตของตัวเองตามธรรมชาติที่แท้จริงเท่านั้นเองครับ

 

ลมหายใจเข้าออก ภาวนาว่าพุทโท ก็พอ

 

คนที่ไม่ค่อยนั่งต่างหากมีสิทธ์ที่จะบ้าได้มากกว่า คนที่ไม่นั่งมีสิทธิ์ที่จะชีวิตมีปัญหามากกว่าคนที่ไม่ได้นั่ง คนที่ไม่ได่นั่งมีสิทธิ์ที่จะมีความทุกข์มากกว่าคนที่นั่ง
โดยส่วนตัวผมฝึกคนเดียวแต่ก็มีความสุขและมั่นใจมากขึ้นมากหลังจากปฏิบัติสมาธิ เคยมีอาการปวดหัวบ้างหรือเจ็บหน้าอกบ้างแต่ก็เป็นไม่นานก็หาย เรียกว่าคุ้มสุดๆที่นั่งแม้จะฝึกคนเดียวมาหลายปีก็ตาม


ปัญหาเรื่องทำสมาธิน่ะมันไม่ค่อยมีหรอกจะมีข้อดีมากกว่าเยอะ แล้วอีกอย่างนึงนะ ถ้าคุณมีปัญหาอะไรจริงๆก็มาถามในบอร์ด คนพร้อมจะช่วยคุณมีอีกเยอะ

 

ฝึกสมาธิไม่เคยทำไห้คนเป็นบ้า อย่างเราชอบหนังสือเรื่องอะไร สักเรื่อง

ถ้าเวาลเราอ่าน เราก็จะมีสมาธิดี ใจก็จะจดจ่ออยู่กับหนังสือนั้นๆ พอมีสมาธิตั้งมั่น

ความรู้ ความเข้าใจในหนังสือนั้น ก็เข้าใจได้ดีไช่ป่าว

ฝึกสมาธิ ก็คือการฝึก ให้ใจอยู่กับปัจจุบัน ไม่หลงไปในอดีต ไม่ใหลไปสู่อนาคต

มีสติ รู้อยู่กับปัจุบันขณะ มีแต่จะทำไห้เรา มีสภาวะจิตที่ปกติมากขึ้น มีการยับยั้งใจได้ดีขึ้น

มีแต่ประโยชน์นะ

คนฟุ้งซ่าน ใจไม่มีสมาธิ ที่เรียกว่าใจแตก โอกาสที่จะเป็นโลกประสาท มีมาก

ทำไปเถอะครับ มีแต่ประโยชน์ ขั้นแรก เอาง่ายๆ ก่อน รู้ลมเข้า ลมออก ก็พอ

ถ้าใจเผลอไปคิดอะไรพอมีสติ ก็ดึงใจกลับมาอยู๋กับลมเข้าออกอย่างเคย

ถ้าให้ดีอีกหน่อย ลมเข้าก็ว่าพุทธ ลมออกก็ว่าโธ ภาวนาในใจไป

้

 

ทำด้วยความไม่รู้ ทำไปก้อทำอย่างไม่รู้ ไม่รู้แล้วยังทำ ใครเห้นเขาว่า บ้า หรือป่าว

 

เวลาปฏิบัติสมาธิ ต้องอยู่ในห้องที่มิดชิด ปิดประตูลงกลอนให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการถูกรบกวนโดยกระทันหัน และไม่รู้ตัว ถ้าปิดล้อคไม่ได้ เช่นอยู่ในห้องพระ ให้นั่งหันหน้าสู่ทางเข้า เพื่อคนที่เข้ามาจะได้เห็นว่ากำลังอยู่ในสมาธิ

หากว่าจิตถอดออกจากร่าง แล้วกลับไม่ทันก็บ้าได้นะครับ

เพื่อนผมไปเรียนมช. ก็ได้ไปบวชเรียนภาคฤดูร้อนอะไรนี่แหล่ะ กลับมาแล้วก็นั่งสมาธิอยู่คนเดียวในห้อง ไม่ได้ล็อคประตู พ่อไปเยี่ยมเห็นลูกนั่งหันหลัง ก็ไปตบบ่าลูก ผลก็คือ สติแตกบ้าไปเลย ก็เป็นคนที่เรียนเก่งมากมากสอบเอ็นติดหมอโควต้า เลยไม่ได้เป็นหมอเลย

 

การฝึกสมาธิ จริงๆไม่ไช่ไปนั่งหลับตาปี๋ ทำท่าจะเข้าฌาณอยู่นั่น อันนั้นไม่ไ่ช่

สมาธิ ทำได้ทุกอริยาบท หรือสี่อริยาบท ตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงตัสไว้ ก็คือ

เดิน ยืน นั่ง นอน ทำได้หมด ทั่งสี่ อริบท แล้วจริงๆ ต้องทำไห้ได้ในสี่อริยาบท

ถึงจะได้ชื่อว่า เจริญสติ เจริญสาธิ อย่างแท้จริง .............................พูดง่ายๆ

ก้คือกิจวัตร ที่เราทำอยู่อย่างไร ก็ทำเป็นปกติ แต่ทำอย่างคนมีสติ มีสมาธิ

ทำด้วยจิตว่าง วางเฉย รู้เท่าทันอารมณ์ที่มากระทบ คนที่มีสมาธิดี งานการ กิจวัตร ที่ทำอยู่

จะอออกมาดี ออกมาเรียบร้อย

คนทำสมาธิ แล้วบ้า มีมูลเหตุอยู่ อยากมีฤทธิ์ อยากเก่ง อยากเห็นทรัพย์สมบัติ

โอกาสวิปลาสมีสูง โอกาสบ้ามีมากอยู่

แต่ถ้าทำเพื่อละ เพื่อบรรเทา เพื่อนคลายกำหนัด คลายกิเลส ทำไปเหอะไม่บ้าหรอก

ที่มันบ้ากันทุกวันนี้ บ้าโลก บ้ารวย บ้าหวย บ้าโกรธ บ้าการพนัน บ้าผู้หญิง บ้าหลง

หลงว่าจะอยู้ค่ำฟ้า เห็นคนอื่นตาย คิดว่าตัวเองจะไม่ตาย นี่มันบ้ากันทั้งนั้น

ทำเถอะ ปฏิบัติไห้มาก ทำไห้มาก ผลดีจะตกอยู่กับตัวเรา

ใจใส ใจเย็นใจสงบ ใจสว่าง ทำไห้เกิดขึ้นได้ด้วยการ เจริญสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานนะ

 

ไม่หรอกจ้า เพราะเราก็นั่งสมาธิที่บ้านเหมือนกัน

 

จริง หากคนนั้นมีจิตใจไม่ปกติอยู่แล้ว และไม่จริงหากคนนั้นเป็นคนที่มีสติปกติ

 

ไม่จิงหรอกคุณ...........ก่อนนั่งสมาธิคุณก็อาราธทนาครู อาจารย์ที่คุณเคารพสิ บอกกล่าวผู้ใหญ่ท่าน แล้วท่านก็จะมาช่วยเอง ติดขัดตรงไหนเดี๋ยวท่านก็มาปรากฏในนิมิตเราเองแหล่ะ อฐิฐานเอาสิจะไปยากอะไร คนเราสำเร็จที่จิตนะ ไม่ได้สำเร็จที่ไหน

 

บ้าก็บ้าซิว่ะ......ถึงจะบ้าแต่ว่าไมโง่.....(เพลงนะครับเพลง)*-*

 

ไม่จริงเสมอไป แค่อาจจะมี % สูงกว่า ^ อยู่คนเดียวจะฟุ้งซ่านได้

 

ก่อนนั่งต้องบอกใครบ้างเพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ตัวเองครับ

 

พูดแปลกๆ เป็นคนมีศาสนาป่าว(สงสัย) ถ้ามีก็นึกถึงเจ้าของศานา ผู้ก่อตั้งศาสนานั่นละ

บูชาท่านน่ะแหละ เช่น ถ้าศาสนาพุทธก็ไห้บูชา อาราธนาพระรัตนตรัย

เป็นต้น ก่อนจะนั่งสมาธิ บูชาพระรัตนตรัย พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ท่านผู้มีคุณทั้งหมด...............................

แล้วก็นั่งได้เลย

 

จริงๆมันก็มีทั้งผลดีกับผลเสียอ่ะครับ แต่ผลดีมันเยอะกว่าผลเสียมากนัก

ก็เหมือนการขับรถ ถ้าขับรถดีคุณก็จะสามารถไปไหนมาไหนด้วยรถส่วนต้วได้ แต่ถ้าคุณขับรถยังไม่เก่งแล้วไปขับ (หรือต่อให้ขับเก่งแต่ประมาท) ก็อาจถึงแก่ชีวิตได้ แต่ยังไงซะสมาธิก็เป็นสิ่งที่คนเราควรจะฝึกครับ

 

#มีคนมากระซิบที่ข้างหู

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าไม่ใช่ผู้มีสัมผัสพิเศษอะไรเลย แต่อยากให้ทุกคนลองพิจจารณาดูให้ทีค่ะว่า อาการแบบนี้ หมายความว่าอย่างไรกัน
ทุกวันก่อนนอนจะสวดมนต์ แผ่เมตตา และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลทุกครั้งค่ะ จนกระทั่งวันหนึ่งจะนอน แต่ก่อนนอนได้กำหนดลมหายใจว่าพุทโธ และท่องในใจว่า พรุ่งนี้ตื่น6โมงเช้า(เหมือนสะกดจิตตัวเองน่ะค่ะ) เนื่องจากเกรงว่าจะตื่นใส่บาตรตอนเช้าไม่ทัน(ต้องทำกับข้าว+หุงข้าว เพื่อใส่บาตรด้วยค่ะ) ปรากฎว่าตอนเวลา 5.58น.มีคนมากระซิบข้างหู ขณะนั้นประมาณกึ่งหลับกึ่งตื่นค่ะ พอได้ยินเสียงกระซิบเท่านั้นแหละค่ะ มันร้อนวูบไปทั้งตัวเหมือนใจเราตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม จากอาการง่วงนอนก็หายเป็นปลิดทิ้ง ในใจก็นึกว่าผี หรือ เทวดามาปลุกนะ แต่ในใจก็ได้แผ่เมตตาไป (ส่วนใจลึก ๆคิดว่าเป็นผีมาปลุก เหมือนกลัวเราใส่บาตรให้เขาไม่ทัน) วันนั้นแทนที่จะได้ตื่นขึ้นมาหุงข้าว ทำกับข้าว ต้องรอให้ 6โมงครึ่งค่อยตื่นแล้วก็ออกไปใส่บาตรเลย ยอมรับว่ากลัวมากค่ะ :'(

 

ทุกคนมีเทวดาประจำตัวครับ อย่าคิดมาก