ค้นพบหลักฐาน มนุษย์ต่างดาวคือผู้วาดภาพผาแต้ม อ.โขงเจียม อุบลราชธานี จริง! หรือ เท็จ!

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Siani_3D, 14 มกราคม 2011.

  1. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    Time machine เครื่องมือทะลุมิติ


    ที่นำเรื่องนี้มากล่าว เพราะมีภาพวิญญาณ ดวงหนึ่ง ที่ถ่ายไว้เมื่อ วันที่ 8 มีนาคม 2551 เวลา 1 ทุ่ม 11 นาที

    ดูในครั้งแรกก็คิดว่าเป็นดวงวิญญาณธรรมดา แต่เมื่อพิจารณา รัศมีรอบๆ กลับพบว่า มีลักษณะเหมือนกำลังโผล่ออกมา

    จากอีกมิติหนึ่ง ถ้า ดวงวิญญาณดวงนี้ เป็น ทรงกลม ส่วนที่ โผล่ออกมา ก็เป็นเพียง 2 ใน 3 ส่วน เท่านั้น ซึ่งแสดงว่า
    ยังเหลือ อีก 1 ส่วน ที่ถูกบดบังไว้โดยกำแพงมิติ

    [​IMG]
    ภาพดวงจิตที่กำลังโผล่ ทะลุ กำแพงมิติ

    แต่เมื่อผมได้วิเคราะห์ ในเชิงลึกยิ่งขึ้น กลับพบ ว่าดวงจิต ดวงนี้ไม่ใช่ ดวงวิญญาณ ของผู้ที่ตายแล้ว

    หากแต่เป็น ดวงจิต ของผู้มาจากดาวดวงอื่น ที่มีความเจริญทางเทคโนโลยี ยิ่งกว่าโลกมนุษย์

    เพราะให้ท่านสังเกตดู ตามที่ผมลงเส้นเอาไว้

    เส้นสีแดง แสดงลักษณะเหมือนวัตถุ หรือโลหะอะไรซักอย่าง ขอเรียกว่า เครื่องไทม์แมชชีน (Time machine)

    แสงสว่างสีขาว ที่อยู่นอกเส้นสีฟ้า ขอเรียกว่า กำแพงมิติ (Space wall)

    เส้นสีขาว และ วงกลมสีขาว แสดงให้เห็น ว่า มีทรงกลมสีเขียวบ้าง สีม่วงแดงบ้าง ขนาดเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง
    อยู่ในเครื่องมือนี้ หลายเม็ด ที่หลุดออกมาจาก กำแพงมิติ (Space wall) ขอเรียกว่า โมเลกุลกำแพงมิติ(Space wall Molecule )

    เส้นสีฟ้า แสดงให้เห็น ขอบเขตของดวงจิต

    โดยมี เส้นสีส้ม เป็นตัวเดินเส้น ภายในดวงจิต แสดงให้เห็นลักษณะเหมือนสวมหน้ากาก มีแว่นตา

    เส้นสีดำ แสดงตำแหน่งของดวงตา ท่านผู้นี้มีเขี้ยวแหลม ซะด้วย


    [​IMG]

    มนุษย์ต่างดาว ผู้ที่กำลังผ่านกำแพงมิติ รูปร่างก็จะบิดเบี้ยว

    จากภาพนี้ แสดงว่า ไทม์แมชชีน (Time machine) ในนิยายวิทยาศาสตร์ มีจริง !!

    รวมทั้ง กำแพงมิติ (Space wall) และ กำแพงเวลา (Time wall) ก็มีอยู่ จริงๆ !!

    การสร้าง อุโมงค์มิติ (Space hole) ในจินตนาการ ของนิยายวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน !!

    แต่จากที่ถ่ายภาพได้ มนุษย์ต่างดาว ท่านนี้ เปิดกำแพงมิติเพียงรูเล็กๆ ผมจึงขอเรียก ว่า รูเข็มมิติ หรือ

    Space needle eye ตามการคาดคะเน นะครับ ที่เขาทำเป็นรูเล็กๆ น่าจะมีเหตุผล ดังนี้

    1.เพื่อให้สูญเสียพลังงาน ในการทะลุกำแพงมิติ ในปริมาณที่น้อยที่สุด

    2.เพื่อไม่ให้มิติส่วนอื่น กระทบกระเทือน หรือ ให้มีผลกระทบกระเทือน น้อยที่สุด

    3.เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่อ ระดับพลังงานของดวงจิต น้อยที่สุด ในการที่จะรักษาสภาวะสมดุลย์แห่งสสาร หรือ สภาวะสมดุลย์ของพลังงานแห่งดวงจิต ในระหว่างเคลื่อนที่ผ่านกำแพงมิติ

    4.เพื่อให้สามารถไปได้ในทุกสถานที่ ด้วยความแม่นยำ

    5.เพื่อให้เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะเร็วกว่า ความเร็วแสงหลายล้านเท่า เพราะนี่คือ ความไวของ ดวงจิต


    เป็นเนื้อหาต่อเนื่องมาจาก การแกะรอย ดาราจักร ของมนุษย์จากดาวอื่น ผู้วาดผาแต้ม ครับผม

    นี่เป็นเพียงข้อมูลบางชิ้นที่ผมเพิ่งจะนำมา เล่าสู่ฟัง การแกะรอยผาแต้ม ยังไม่ถึงครึ่ง นะครับ

    มีครั้งหนึ่ง ที่ ท่าน รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ ได้สนทนาเรื่องเกี่ยวกับ มนุษย์ต่างดาว เอาไว้ว่า

    " การเคลื่อนที่ จากจักรวาล หนึ่งมายังอีกจักรวาลหนึ่ง ของ มนุษย์ต่างดาว เค๊าคงไม่ได้ เคลื่อนที่มา ด้วยกายหยาบๆ อย่างที่เราเข้าใจ น่าจะเคลื่อนที่มาด้วย ดวงจิต โดยการมียานแม่ ห่อหุ้ม ดวงจิต ของผู้โดยสารทั้งหมด เพื่อป้องกัน การแตกสลาย ของดวงจิต หรือ ดวงวิญญาณ เขาจึงข้ามจักรวาลต่างๆมาได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีใครมองเห็น "
     
  2. pvatt

    pvatt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +52
    คุณ Siani_3D น่าจะตั้งกระทู้ใหม่ไปเลยดีใหม่คัรบ
     
  3. one14300

    one14300 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +212
    ไปเรื่อย...................................
     
  4. khordsanth

    khordsanth Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +98
    ผมมองดูแล้ว เหมือนจะเป็นรูป "คนยกเมฆ" นะครับ
     
  5. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    การทดลองสร้างปลาบึก จากยีนช้าง ในยุคมนุษย์ถ้ำ Genetic engineering 1 (วิเคราะห์ซ้ำ ครั้งที่ 2)

    วิเคราะห์โดย ยรรยง สินธุ์งาม ฅนค้นผี


    ไปเก็บข้อมูลเพิ่มเติม และทำการวิเคราะห์ซ้ำ พบข้อมูลใหม่ จึงกลับมาบอกเล่า เรื่องเดิมอีกครั้ง ครับ

    ขอนำท่านผู้อ่านย้อนกลับไป ด้วยภาพเดิม

    [​IMG]
    ซึ่งเคยพูดถึง เรื่อง ช้างที่ผาแต้ม การวิเคราะห์ยังเป็นไปในแนวเดิม คือ การผ่าตัด แต่ขอแก้ไข ดังนี้
    เป็นการผ่าตัดเอาอวัยวะภายใน ซึ่งอาจจะไม่ใช่ หัวใจ

    และขอนำเสนอภาพวิเคราะห์เพิ่มเติม ดังนี้

    [​IMG]

    [​IMG]

    ในภาพ จะมี มนุษย์โลกเพศชาย เข้ามาร่วมทำงาน สังเกตจาก มีภาพมือขวา บริเวณเส้น สีชมพู ช่วงท้องช้าง และ บริเวณปลายเส้นสีเขียว บริเวณเท้าช้าง ถ้าดูเส้นสีเขียว ซึ่งน่าจะหมายถึงเส้นเชือก สำหรับผูกรัดช้าง พบว่า เชือกแต่ละเส้นอยู่ในลักษณะคลายตัว แสดงว่า ช้างตัวนี้ ตายแล้ว จึงได้คลายเชือกออก

    เส้นสีฟ้า ยังคงให้ความหมายว่า เป็นภาชนะ สำหรับวางชิ้นเนื้อ จากการผ่าตัด

    เส้นสีชมพู ให้ความหมายว่า เป็นชิ้นส่วนอวัยวะภายใน

    ผมยังไม่เห็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัด ทั้งนี้ ภาพดังกล่าว อาจจะลบเลือนไปตามระยะเวลาแล้วก็ได้

    การที่เรา พบเส้นเชือก พบว่า มีมนุษย์โลก เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว และ ลักษณะของเท้าช้าง ที่แบะขึ้นมา คล้ายกับวางบนพื้นแข็ง จะงอย ที่ปลายงวง เปิดอ้า

    เป็นตัวบ่งชี้ ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ช้างตัวนี้ ไม่ได้อยู่ในน้ำ ไม่ได้กำลังว่ายน้ำ และไม่ได้กำลังดำน้ำ ครับผม


    ผมได้ภาพ ยาน UFO ขนาดใหญ่ ถ่ายได้ช่วงเที่ยงวัน ที่ผาแต้ม เมื่อ 24 มกรานี้เอง อยู่ในสภาพอำพรางตัว ก็กำลังพยายาม แกะ ลายเส้น เพื่อให้ง่ายต่อการดู ....
     
  6. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    หุ่นยนต์ !! ไม่ใช่ "ข้อง" เครื่องมือจับสัตว์น้ำ (วิเคราะห์ซ้ำ ครั้งที่ 2)
    วิเคราะห์โดย ยรรยง สินธุ์งาม ฅนค้นผี
    ท่านผู้อ่านครับ สิ่งหนึ่งที่อยากกราบเรียน เป็นข้อตกลงเบื้องต้น ร่วมกันก็คือ การเปิดใจให้กว้าง หากข้อมูล หรือเรื่องราวที่อ่าน ขัดกับความรู้ ประสบการณ์ อารมณ์ และความรู้สึก ก็ขอให้ท่านคิดซะว่า อ่านนิยาย วิทยาศาสตร์ เรื่องหนึ่ง นะครับ

    ส่วนการสอบถาม ให้กำลังใจ แนะนำแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ตำหนิ ให้ท่านส่งผ่านทางเมล์ จักเป็นพระคุณอย่างสูง ขอรับ


    เล่าเรื่องต่างๆไปหลายต่อหลายหน้า กลับลืมนึกถึง ภาพที่มีลักษณะเหมือน "ข้อง" ซึ่งเป็นอุปกรณ์จับสัตว์น้ำ ที่สานด้วยไม้ไผ่

    2 ภาพข้างล่างเป็นภาพเดียวกัน ถ่ายมาจาก ภาพเขียนกลุ่มที่ 2 กลุ่มภาพผาแต้ม รูปร่างที่คล้ายข้อง

    [​IMG]
    จึงทำให้นักโบราณคดี ตีความว่า เป็นเครื่องมือจับ กักขัง สัตว์น้ำชนิดหนึ่ง เรียกว่า ข้อง

    [​IMG]

    ผมลงลายเส้น เพื่อให้ท่านเห็นชัดเจน ยิ่งขึ้น ตัวซ้ายมือสุด จะเห็นโครงสร้างภายใน คล้ายเป็นที่นั่งบังคับอยู่ภายใน

    ถัดไปตัวที่สอง มี แขนยื่น ออกมาให้เห็น ซึ่งตัวที่สองนี้ มีภาพอธิบายเพิ่มเติม ในช่วงท้าย

    ตัวที่ สาม มีลักษณะลำตัวกลวง ตัวที่ สี่ ทึบเต็มตัว

    จากภาพ รูปข้อง เหล่านี้ อาจจะยังไม่เพียงพอ หากว่าเราจะระบุว่า นี่คือ หุ่นยนต์


    ภาพต่อไปนี้ อาจจะทำให้ความคิดของท่านผู้อ่านเปลี่ยนแปลงไป ...

    ดังที่ ผมและทีมงาน เป็นอยู่ .... ไม่มาก ก็ น้อย ....



    [​IMG] [​IMG]
    หุ่นยนต์ รูปข้อง Robot

    ผมกลับไปเก็บข้อมูลซ้ำ นับครั้งไม่ถ้วน เมื่อได้เครื่องมือที่ทันสมัยขึ้น ความละเอียดของภาพก็มีมากขึ้น ทำให้ผมลงลายเส้น เก็บรายละเอียดของ หุ่นยนต์รูปข้อง ได้ชัดเจนขึ้น ภาพหุ่นตัวนี้สำคัญมาก เพราะจากที่เก็บข้อมูลมา
    ไม่มีภาพอื่นอีกเลย ที่ รูปข้อง จะยื่นแขนออกมาให้เห็น

    มือมี 3 นิ้ว มือข้างขวา ชูสัญลักษณ์ คล้ายคลึงกับ สัญลักษณ์ เทพเจ้า " รา " หรือ สุริยะเทพ ของ อารยะธรรม ไอยคุปต์ ที่อียิปต์ แต่ก็ยังไม่ฟันธงว่าจะเป็นเช่นนั้นเลยทีเดียว เพราะยังคงทำการวิเคราะห์เพิ่มเติมอยู่

    [​IMG] รูปดวงตา สัญลักษณ์ เทพ อเมนราห์ เทพพระอาทิตย์ ของอียิปต์



    นี่แหละครับ แม้ตัวผมและทีมงาน ที่เคยวิเคราะห์ ว่า หุ่นยนต์ถือ เคียว จนทำให้ มองกระบวนการที่เกิดขึ้น
    ในภาพ คือ การประหาร ผู้นำใน การก่อจราจล ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว อาจจะลงโทษเพียงแค่ การคุมขัง ก็อาจจะเป็นได้

    ดังที่เคยกล่าวเอาไว้ ในหน้าที่ผ่านๆมา เกี่ยวกับการ อัพเดท ข้อมูล จะเป็นไปอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีข้อมูลอะไรใหม่ๆผมและทีมงาน ก็เดินตะลุย บุกป่าฝ่าหนาม ปีนเขา ไต่หน้าผา เพื่อหาข้อมูลในภาคสนาม บางครั้งใช้เวลาเป็นวันๆ ทำงานแข่งกับแสงตะวัน ยิ่งหน้าหนาว ยิ่งมืดค่ำเร็ว

    เมื่อเก็บภาพมาแล้ว ก็นำเข้าสู่ห้องแล็ป จำแนกข้อมูล ออกเป็นหมวดหมู่ เข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ย่อย หรือถอดรหัสรายภาพ จากนั้น ก็นำมาประมวลผล วิเคราะห์ภาพรวม เข้าสู่ขั้นตอนการตีความ การแปลความหมาย และการเขียนรายงาน ซึ่งก็คือขั้นตอนที่นำเสนอบนหน้าเว็บ นี่แหละ

    แม้ว่า ผมจะสามารถ ถอดรหัส จากภาพเขียนกว่าสี่พันปี ออกมาได้ ก็ใช่ว่า มันจะถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์ ถ้าท่านผู้อ่าน พบเห็นอะไร ที่เป็นประโยชน์ ในการพัฒนาองค์ความรู้ ของชาติเราในครั้งนี้ ทางทีมงานขอน้อมรับทุกประเด็น โดยสื่อสารผ่านทางอีเมล์ ข้างล่าง จักเป็นพระคุณอย่างสูง ครับผม


    โปรดติดตามตอนต่อไป...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2011
  7. ไกลโพ้น

    ไกลโพ้น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +33
    ไม่ลองศึกษาเรื่อง ช้างกับปลาวิจัยดู มันเข้ากันได้ไง ลองผสมดูสิ เผื่อทำอย่างเขาใด้ ผมเคยแต่เอามะกูดมาทาบกับมะนาว มันใช้ใด้ ก็ว่าจะเอามะพร้าวมาทาบกับตะขบเหมือนกันเผื่อมันทำใด้
     
  8. ไกลโพ้น

    ไกลโพ้น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +33
    แต่เรื่อง มนุษย์ต่างดาวผมเชื่อ เพราะพุทธเจ้าท่านบอกไว้ว่ามี ผมเชื่อในพระพุทธเจ้าก็เลยเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว แต่หลักฐานที่คุณพยายามอธิบายมา มันดูเลื่อนลอยยังไงไม่รู้เหมือนจิตนาการเอา
     
  9. ratrat

    ratrat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +479
    เคยไปเที่ยวดูมาแล้ว แต่ก็คิดว่าเป็นมนุษย์ถ้ำเขียนไว้ ยังสงสัยว่า
    เขาใข้สีอะไรหนอ ถึงได้อยู่ทนทานขนาดนี้ (น่าเอามาใช้ทาสีบ้าน)
    พอมาอ่านบทความที่เป็นงานวิจัยชิ้นนี้ บอกได้เลยว่าทึ่งมาก วิเคราะห์
    ได้ละเอียดจนมองเห็นวิทยาการ ของผู้ที่อยู่นอกโลก น่าคิด น่าทึ่ง
    ต้องขอขอบคุณผู้วิจัยและทีมงานจริงๆ ที่มีความพยามยาม จะสื่อให้
    ผู้ที่ได้ชมภาพเขียนโบราณได้รู้โดยใช้แนวคิดแบบวิทยาศาตร์เข้าช่วย
    ขอบคุณจริงๆ
     
  10. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    บทวิพากษ์ แนวคิด มนุษย์ต่างดาว จากจารึก ผาแต้ม 1

    วิพากษ์โดย ยรรยง สินธุ์งาม ฅนค้นผี

    บทวิพากษ์ แนวคิดมนุษย์ต่างดาว จากจารึกผาแต้ม

    หลังจากเปลี่ยนชื่อเรื่อง เป็น มนุษย์ต่างดาวผาแต้ม การสัมผัสเกี่ยวกับเพื่อนต่างดาว จากกล้องถ่ายภาพมีเพิ่มขึ้น และเข้าใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้ในวันไหว้เจ้า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 54 ที่เพิ่งผ่านมา มนุษย์จากดาวดวงอื่นได้ ขับยานพาหนะ ไปลอยซุ่มบันทึกเหตุการณ์ ที่ผมกำลังทำพิธีไหว้ ช่วง 5 ทุ่มกว่า ผมบันทึกภาพเครื่องไหว้ เก็บไว้ แต่เปิดมุมกล้องกว้าง จึงได้ภาพ เหมือนดวงตาสองดวง สะท้อนแสงแฟลช สีเขียวเหลือง อยู่บนหลังคา ก็เข้าใจว่าเป็นแมว

    แต่ประสบการณ์ที่เคยพบ สีของตาแมว น่าจะวาว และ สีเขียวเหลือง ใสกว่านี้ จึงได้ขยายภาพจุดนั้นขึ้นมาดู สิ่งที่พบ ทำให้อึ้งไปเหมือนกัน เพราะจากวัตถุถึงจุดถ่ายภาพ ห่างกันแค่ 10 เมตร ถือว่าเป็นระยะที่ใกล้มาก ผมเองเคยบันทึกภาพดวงตาสองดวง คล้ายๆกัน ที่ ภูน้อย มุกดาหาร ช่วง 3 ทุ่ม หากแต่เป็น สี ขาว ในขณะนั้นมุ่งแต่ศึกษาเรื่องวิญญาณ จึงละเลย ข้อมูลที่แทรกซ้อนเข้ามา เดี๋ยวคงต้องกลับไปค้น file เหล่านั้นดู

    ผมเองก็ตื่นเต้น กับการบันทึกภาพได้ ว่า มีมนุษย์จากดาวดวงอื่น คอยเฝ้าดูพฤติกรรม ซึ่งก็รู้สึกเฉยๆ ยังคงทำตัวตามปกติ หากแต่ผู้ที่อยู่ใกล้ เช่น ลูกศิษย์ สี่ ห้า คน ขณะที่อยู่ด้วยกัน กำลังอธิบายเรื่องราวต่างๆให้เขาฟัง เขาจะหันกลับไปดูที่ประตู แล้วก็พูดคุยกันว่า เหมือนมีใครเดินเข้ามา แล้วก็เดินออกไป ผมก็ไม่พูดอะไร

    มนุษย์จากดาวดวงอื่น ก็คงตื่นเต้นไม่แพ้กัน เมื่อรับรู้ว่า ผมใช้กล้องถ่ายวิญญาณ จับการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ และอาจนำไปสู่การเปิดมิติใหม่ทางการฑูตระหว่างดวงดาว ในระยะเวลาอันใกล้ เฉกเช่นดวงดาวที่เจริญแล้วทั้งหลาย ในจักรวาล นั่นก็คงเป็นเรื่องราวที่ต้องดำเนินไปตามวิถีของเหล่าสัตว์จักรวาล

    เมื่อมองกลับมาเรื่องแนวคิด ของ มนุษย์(ดาวอื่น)กลุ่มนี้ ที่ได้จารึกการเดินทางไว้ บนหน้าผาทั้งหลาย บนดาวโลก ผมขอวิพากษ์ไว้เป็นประเด็นต่างๆซึ่งยังไม่ได้จัดเป็นหัวข้อ แต่จะว่าไปเรื่อยๆ ดังนี้ โดยเสมือนว่า ข้อสรุป จาก ภาพเขียน ที่ผาแต้ม นั้น คือ จารึกของมนุษย์จากดาวดวงอื่น ณ ช่วงเวลาในอดีต ราว 6,000 กว่าปี ที่ผ่านมา

    แม้ว่าผมจะยังแปลความหมายยังไม่ครบทุกภาพ แต่เมื่อ ยานแม่ขนาดใหญ่ ปรากฏตัวให้เห็น ที่ ผาแต้ม นั่นเท่ากับว่า

    เขามายืนยันว่า มนุษย์จากดาวดวงอื่น มีอยู่จริง ผมเองจะไม่ค่อยใช้คำว่า มนุษย์ต่างดาว เพราะฟังดูแล้วให้ความรู้สึกในเชิงลบ เหมือน คนต่างด้าว อะไรทำนองนั้น แต่ที่ใช้ชื่อเรื่องว่า มนุษย์ต่างดาวผาแต้ม ก็เพื่อให้สะดุดหู สะดุดตา ในเชิงโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพราะเป็นคำคุ้นเคย ที่ง่ายต่อการสืบค้น นั่นเป็นความรู้สึกที่ผมอยากให้ผู้คนสนใจ ในเรื่องราวที่ตนนำเสนอ แต่นับจากที่เห็นภาพยานล่องหนในระยะใกล้ ความรู้สึกนึกคิดในลักษณะที่อยากมีชื่อเสียง ในฐานะผู้ค้นพบ เรื่องราวต่างๆ มันกลับหมดไป คงเหลือแต่อยากถ่ายทอดในสิ่งที่พบ ด้วยหลักฐานจากกล้องถ่ายภาพ และ อยากให้ผู้อื่นที่มีพลัง เชื่อมโยง จิตกับวัตถุหยาบ ซึ่งมีกันอยู่ทั่วโลก เปิดใจ ยอมรับ ภาพที่ตนถ่ายได้ อย่างตรงไปตรงมา ก็จะเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะทำให้ ดาวโลกเป็นที่ยอมรับ ในหมู่สหพันธ์ดวงดาว ได้เร็วขึ้น

    การเปิดเผยตัวตน ของมนุษย์จากดาวอื่น ทำให้ผมต้องผ่อนเรื่องการวิเคราะห์ภาพเขียนลงไป โดยปริยาย ทั้งๆที่กำลังถูกวิพากษ์อยู่ในวงกว้าง

    อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เอง ก็กำลังจะเสนอตัวขอเป็น มรดกโลก ในสมาพันธ์ของดาวโลก โดยที่มนุษย์โลกหารู้ไม่ว่า ผาแต้ม เป็นมรดกจักรวาล มาตั้งนานแล้ว !! แม้ว่า มนุษย์บนดาวโลก จะไม่เชื่อ ในเรื่องดังกล่าว ก็ไม่อาจจะไปลบล้างความจริง ดังกล่าวได้ การยอมรับหรือไม่ยอมรับ ของผู้ที่มีอารยะธรรม ล้าหลังกว่า ไม่เป็นเหตุให้สมาพันธ์ดวงดาว สั่นคลอน และ อีกประการ ดาวโลก ณ เวลานี้ มนุษย์โลกมีอายุขัย ที่สั้น เพียง 100 ปี โดยประมาณ
    ต่างจากดาวที่เจริญแล้วดวงอื่นๆ ที่อายุเฉลี่ยของมนุษย์ อย่างต่ำก็ 1000 ปี อย่างสูงก็ 2 หมื่นปี ข้อค้นพบเรื่องของอายุมนุษย์ ผมเทียบเคียง จาก บันทึกในพระไตรปิฎก การที่มนุษย์มีอายุสั้น เราจึงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ส่วนผู้มีอายุ 2 หมื่นปี เมื่อแวะเวียนไปดาวต่างๆ ผู้นั้นก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง โดยไม่ต้องรอให้ใครมาอธิบาย ในบางเรื่อง เพราะบางชิ้นงาน เป็นการทดลองของตนเองและทีมงาน เมื่อ ห้าพันปีก่อน เพียงแวะมาเก็บข้อมูล เท่านั้นเอง

    การไม่ปรากฏตัวให้ชาวดาวที่มีอารยะธรรมล้าหลังได้เห็น เป็นข้อตกลงที่มีกันในสหพันธ์ดวงดาว บางท่านอาจจะแย้งว่า ทำไมคนในยุคโบราณถึงมีโอกาสพบเห็นได้ ก็น่าจะเกิดจาก ในสมัยดังกล่าว การมาปรากฎตัวของมนุษย์จากดาวดวงอื่น ได้สร้างความประหลาดใจให้กับ กลุ่มมนุษย์ดังกล่าว และ ได้ถูกมองว่าเป็น เสมือนเทพเจ้า และ มนุษย์จากดาวอื่น ก็ได้แฝงตัวในลักษณะดังกล่าว อยู่ระยะหนึ่ง โดยหารู้ไม่ว่า วิญญาณที่มาเกิดบนดาวโลก ในกัปล์นี้ มีได้ทุกระดับ ไม่ได้ถูกขวางกั้นไว้ ตั้งแต่ผู้ที่มีจิตใจต่ำ จนถึง ผู้ที่มีจิตใจสูง ล้วนมาเกิดได้ ในยุคสมัยของพระสมณะโคดมพุทธเจ้า จึงทำให้มีการแก่งแย่ง ช่วงชิงอำนาจ เพื่อการครอบครอง เกิดการจราจล ในหลายๆแห่ง ทั่วทุกมุมโลก

    ทำให้สมาพันธ์ดวงดาว ลดระดับเครดิต ทางปัญญา ของ ดาวโลกลง โดยไม่หวงห้าม ในการเข้ามาศึกษาหาความรู้ แต่ห้ามการปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ต่อชาวโลก ถึงแม้จะมีการปรากฎสิ่งก่อสร้าง หลายอย่าง ที่แสดงถึง ความเจริญทางการฑูตระหว่างดวงดาว แต่เหล่ามนุษย์ก็หาได้มีมุมมองที่จะเปิดกว้าง เพื่อสานต่อความสัมพันธ์ดังกล่าวก็หาไม่

    กลับมีเพียงความใจแคบที่ถูกเผยแพร่ ผ่านสื่อต่างๆ อาทิเช่น งานเขียนผ่านหนังสือ จินตนาการผ่านภาพยนตร์ ผ่านการ์ตูน หล่อหลอมความคิดรุ่นต่อรุ่น ให้เข้าใจว่า มนุษย์ต่างดาว คือ ผู้บุกรุก เป็นผู้ดุร้าย เป็นเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัว หรือ เป็นลักษณะในภาพเชิงลบ มากกว่าการเป็นมิตร

    จนเวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ มนุษย์ผู้หนึ่ง ยืนถ่ายภาพยานอวกาศขนาดยักษ์ ที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่พรั่นพรึง บนหน้าผา ท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเย็น เพียงลำพัง กลับกลายเป็นประเด็นที่สมาพันธ์ดวงดาว ต้องเริ่มให้ความสนใจ ในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

    ฅนค้นผี เป็นฉายาที่แสดงเจตจำนงค์ ที่ชัดเจน ประเด็นการค้นคว้าเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ตรงกับธรรมชาติของสิ่งนั้น เป็นแนวทางที่แตกต่าง จากการค้นคว้า เพื่อความบันเทิง เพื่อความสนุก เพื่อความตื่นเต้น หรือ นำไปสู่การขายงานเขียน เพียงเพื่อแลกรายได้ สร้างชื่อเสียง เฉกเช่น มนุษย์โลกทั่วๆไป 20 กว่าปี ที่ย่ำเท้า ถ่ายภาพแบบซื่อตรง อดมื้อกินมื้อ ดื่มน้ำหวาน ต่างข้าวปลาอาหาร คิดค้น ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก โดยไม่ได้ยึดติด กรอบแนวคิด ทฤษฎีสมัยใหม่ ใดๆเป็นหลักตายตัว มีพียงเแนวคำสอนของพุทธศาสนา เป็นเครื่องมือหลัก ยามที่จิตไม่มีสมาธิ ดำรงชีพปกติ เหมือนคนบนโลก มีอาชีพ มีภรรยา มีบุตร ดื่มกินบ้าง แต่พองาม การที่ทำทุกอย่างโดยปกติของมนุษย์ เพียงเพื่ออยากทดสอบว่า

    การศึกษาหรือสัมผัสเรื่อง มิติวิญญาณ หรือ ผู้มีกายละเอียดจากดาวอื่น ไม่ใช่ทำได้เฉพาะผู้ที่เป็น นักพรต นักบวช ถือศีล กินเจ หรือแต่งชุดขาว เพียงเท่านั้น ขอเพียงมีจิตใจที่เป็นกลาง เปิดกว้าง มีสัจจะ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เบาบาง ทำสมาธิบ้าง ก็สามารถสัมผัสมิติดังกล่าว ได้ !!

    และไม่เคยถือว่าเป็นเรื่องแปลก ไม่กลัว ที่จะตาย เพราะ เห็นว่า การเกิด การตาย เป็นเหตุปกติวิสัย เมื่อวางจิตให้ดำรงอยู่เช่นนี้ จนเป็น สันดาน ก็น่าจะสัมผัสมิติดังกล่าว ได้ ครับ

    แต่มนุษย์ทั้งหลายแหล่ หรือ เหล่า วิญญาณทั้งหลาย ต่างล้วนเป็นสรรพสัตว์ ที่ต้องเวียนว่าย ตาย เกิด ในวัฏฏสงสาร อยู่เช่นเดียวกัน เมื่อจิตใจได้ปฏิบัติธรรม จนมีความละเอียดขั้นสูง นับเนื่องแต่ ระดับ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และพระอรหันต์ จึงจะมีพลังที่ละเอียด หลุดพ้นจากแรงดูดของวัฏฏสงสาร เข้าไปอยู่ในมิติ ที่เรียกว่า นิพพาน ซึ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะ ดังที่หลายๆท่านพยายามค้นหากัน ทั้งมนุษย์บนดาวโลก และมนุษย์จากดาวอื่น ครับผม




    ยังมีต่อ...
     
  11. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    มนุษย์จากดาวดวงอื่น ไปเยือนที่บ้าน ในวันตรุษจีน


    ปีนี้ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หรือ ท่านไฉ่สิ่งเอี้ย ได้ครบรอบวาระ การเข้ามาดูแลชาวโลก ตามประเพณีของชาวจีน โดยในปี 2554 นี้ มีช่วงเวลาในการไหว้ เทพไฉ่สิ่งเอี้ย เริ่มเวลา ห้าทุ่ม ถึง หกทุ่มห้าสิบเก้านาที และ โดยส่วนตัว ผมรู้สึกชอบ เทพองค์นี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ ตรงที่ท่าน กินเจ เครื่องไหว้ในปีนี้ จึงเป็นอาหารเจ ขนมหวาน ผลไม้พวกส้ม น้ำชา บัวลอย ที่ไม่มีไข่หวานนะครับ หมู เป็ด ไก่ ปีนี้ จึงไม่ต้องสิ้นชีวิต อันเนื่องมาจาก เทศกาลตรุษจีน ธูป 3 ดอก และไหว้ไปทางทิศเหนือ

    หลังจากที่ผมจัดแจงสิ่งของไหว้เสร็จ เมื่อถึงฤกษ์ดังกล่าว ก็ลงมือ ตามกระบวนการ ในปีนี้ ได้ถ่ายภาพ ไปบนท้องฟ้าทางทิศเหนือ หน้าโต๊ะเครื่องไหว้

    และ ในการบันทึกภาพครั้งนี้ ได้พบแสงสะท้อน ดวงตาคู่หนึ่ง สีเขียวเหลือง อยู่บนหลังคา !!
    อาจจะเป็นแมว ในใจคิดเช่นนั้น

    [​IMG]

    เมื่อนำภาพมาวิเคราะห์
    เอ๊ะ !! อะไรกันนี่ !!

    [​IMG]

    ไม่ใช่แมว !!


    [​IMG]

    ผมแกะรอยเส้น จนตาลาย ได้ประมาณนี้ ครับ

    บ่งบอกว่าเป็นยานพาหนะชนิดหนึ่ง ในส่วนของที่เห็นเป็นแสงสีเขียว คล้ายดวงไฟ
    นั่น ! น่าจะเป็น ห้องบังคับการ เป็นดวงจิต ผู้บัญชาการ ที่อยู่ ณ ตำแหน่งนั้น หรือ

    อาจจะไม่ใช่ผู้บังคับการ หากแต่เป็นผู้บังคับควบคุมยาน ณ เวลานั้น ดวงจิต จึงได้เปล่งคลื่นแสง สะท้อนกับ แสงจากกล้องถ่ายวิญญาณ ของผม ดวงจิตอื่นๆ ที่อยู่ในยาน แม้มีจำนวนมาก แต่อยู่ในสภาพไม่ได้ใช้พลังงาน จึง ไม่สะท้อนแสงแฟลช เป็นประการหนึ่ง อีกเหตุผลหนึ่ง คงเพราะถูกเกราะพลังงานครอบคุมเอาไว้ จึงอยู่ในสภาพล่องหน

    เขาคงมาดูประเพณีของชาวโลก แบบใกล้ชิด .

    ...... เดี๋ยว มีจะมาอัพอีก ครับ ผม .....



    ยรรยง สินธุ์งาม คนค้นผี yanyong007@windowslive.com


    ยังมีต่อ...
     
  12. tonokoong

    tonokoong สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +0
    อ่านแล้วมีเหตุผลดี น่าเชื่อถือครับ:cool:
     
  13. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    จะจริงหรือไม่จริงนั้น ไม่สำคัญ...
    สำคัญที่จินตนาการครับ..
     
  14. O๐.AnGle.๐O

    O๐.AnGle.๐O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +861
    กด like ครับ ^ น่าสนใจ ^
     
  15. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ความเกี่ยวเนื่อง ของ สุริยะเทพ อียิปต์ - ผาแต้ม และวิญญาณ

    วันนี้บันทึกภาพ ดวงอาทิตย์ ขณะส่องแสง หลังก้อนเมฆ เห็นว่าเป็น วิวที่สวยดี จึงเก็บภาพเอาไว้ ในขณะเดินทาง กลับปรากฏภาพดวงวิญญาณ ที่มีรูปลักษณ์ประหลาด

    [​IMG]
    ภาพอาทิตย์ สาดแสง เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2554


    ดังในกรอบ ที่ลูกศร ชี้ ผมจึงขยายภาพในส่วนนั้นขึ้นมา

    [​IMG] ปรากฏภาพคล้ายดวงตา

    เทียบกับรูปดวงตา [​IMG] ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ สุริยะเทพ หรือ เทพอะเมนราห์ ของอียิปต์

    และ ถ้าเราสังเกตจากสัญลักษณ์ ในมือของ หุ่นยนต์

    [​IMG] จากภาพเขียนที่ผาแต้ม พบว่ามีความสอดคล้องกันเป็นอย่างมาก


    สองภาพข้างล่าง นำมาแสดงเพื่อให้ดูเปรียบเทียบกัน กับ สัญลักษณ์ ดวงตา ใต้ยานแม่ ล่องหน

    [​IMG]
    ภาพถ่ายเมื่อ 27 มกราคม 2554 ที่ น้ำตกสร้อยสวรรค์ อช.ผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี


    [​IMG]

    ภาพสัญลักษณ์ รูป ดวงตา ที่ลูกศรชี้ ข้อมูลคนละห้วงเวลา และ เป็นข้อมูล ที่ไม่อาจคาดเดาได้ กลับมีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ ว่า สุริยะเทพ หรือ เทพอะเมนราห์ ของ ชาวอียิปต์โบราณ ก็คือ
    มนุษย์ผู้มาจากดาวดวงอื่น
    สัญลักษณ์ ดวงตา ถอดแบบมาจาก รูปลักษณ์ ของดวงจิต หรือ ดวงวิญญาณ ในขณะที่เขาเหล่านั้น ถอดจิต ออกมาจาก ร่างกายหยาบ เมื่อต้องการ ไปในสถานที่ ซึ่งร่างกายหยาบ ไม่เหมาะในการเดินทาง เช่น การไปในห้วงอวกาศ หรือ อาจจะต้องการแสดงพลังอำนาจ ให้มนุษย์โลก เกรงกลัว และ อาจรวมไปถึง การตาย ของเขาเหล่านั้น

    ...เป็นอะไรที่น่าค้นหามากครับ !!

    ขอแทรก เหตุผลที่ มนุษย์จากดาวดวงอื่น ต้องอยู่ในสภาพล่องหน น่าจะเป็นดังนี้
    (อย่าเพิ่งถามนะขอรับ ว่า ผมรู้มาจากไหน เอาเป็นว่า เป็นข้อคิดเห็น ส่วนตัว ในการค้นคว้าของผู้วิจัย นะ )

    1.ด้วยข้อตกลง ของ สหพันธ์ดวงดาว ในเรื่องการกำหนดระดับ ความสัมพันธ์กับดวงดาวต่างๆ หากดาวที่เจริญแล้ว ก็สามารถ แสดงตนได้อย่างสมบูรณ์ ดาวที่มีความเจริญน้อย ก็ลดระดับลงมา ดาวโลก น่าจะเป็น ดาวอาณานิคม หรือ ไม่ก็เป็น ดวงดาวสาธิต สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษา อารยะธรรมของมนุษย์ในระดับแรกเริ่ม ก็ให้แวะมาที่ดาวดวงนี้

    2.เพื่อความสงบสุข ของธรรมชาติทั้งปวง เป็นความสงบของทั้งผู้ที่อยู่ บนดวงดาว และผู้ที่มาจากที่อื่น หลีกเลี่ยงความบาดหมาง ระหว่างกัน เพราะเพียงลำพังแต่ เผ่าพันธุ์ของมนุษย์โลก ก็ยัง เข่นฆ่า แก่งแย่ง ดินแดนกันอยู่ หามียานต่างดาวมาลอยลำเหนือน่านฟ้า ก็ต้องรบกันอีกแหละ

    นี่น่าจะเป็นเหตุผลหลักๆ ส่วนข้อรองๆ ก็น่าจะมีอีก เอาไว้ เมื่อไหร่ ดาวโลกอัพเกรด ตัวเองขึ้นเป็น ดาวที่เจริญแล้ว ก็ค่อยอ่านรายละเอียดข้อตกลงของสหพันธ์ดวงดาว ฉบับเต็มกันนะครับ ...ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ ?

    ขนาด ซากอารยะรรมปราสาทหิน ก็แย่งชิงกัน !!

    แล้วเมื่อไหร่จะหลุดจากขอบฟ้า ของ ดวงดาวสาธิต แห่งนี้ซะที ...




    ต้องขอกราบเรียนทุกท่านไว้ว่า ณ เวลานี้ การสัมผัส และ การบันทึกภาพ UFO มีเรื่อยๆ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ถ้ามีข้อมูลดีๆ ผมก็จะ นำมา Up ให้ท่านได้รับชม เรื่อยๆ ครับ

    ผมว่า เดี๋ยวก็มีปรากฏการณ์ การเปิดเผย ตัวตนของ ยานแม่ขนาดใหญ่ ให้ชาวโลก ได้เห็น ด้วยตาเปล่า กันเองแหละ คงอีกไม่นาน ...


    ต้องกราบขอประทานอภัย ท่านผู้อ่าน ที่ผมไม่ได้วิเคราะห์ภาพเขียนต่อ เพราะมีข้อมูล ของ มนุษย์ผู้มาจากดาวอื่น เข้ามา และ เห็นว่าเป็นปัจจุบัน ยิ่งกว่าไปศึกษาจารึกผาแต้ม ผมจึงขอนำเสนอ ในประเด็นนี้ก่อน

    และต้องขอกราบเรียนไว้ตรงนี้ ผมเป็นคนธรรมดา เฉกเช่นเดียวกับทุกคนบนโลกมนุษย์ การสัมผัสวิญญาณ หรือ การสัมผัสมนุษย์จากดาวดวงอื่น ทุกท่านก็ทำได้เช่นกัน

    ฝึกที่จิตของเรา

    1.ลดความอยากลงบ้าง ก็พวก ความโลภ โกรธ หลง
    2.เปิดใจ (วิสัยทัศน์)ให้กว้าง อย่ายึดติดกับสิ่งที่เคยรู้มาก่อน ให้รับรู้ตามที่ปรากฎจริง
    3.มองเห็นความตายเป็นเรื่องปกติวิสัย (ไม่กลัวความตาย แต่ไม่ใช่ กล้า บ้าบิ่น นะขอรับ)
    4.เป็นมิตรได้ แม้ว่า เขาผู้นั้นจะประสงค์ร้าย หรือ ประสงค์ชีวิตเรา

    เหล่านี้แหละครับ พื้นฐาน ที่จะทำให้สัมผัส มิติดังกล่าวได้ โดยไม่ยากเย็น
     
  16. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    แนวคิด เกี่ยวกับ ระดับชั้นของดวงดาว ในจักรวาล

    ระดับชั้นดาวเคราะห์ของ สหพันธ์ดวงดาว

    มีเรื่องสำคัญที่อยากจะบอกกับ มนุษย์ดาวโลก ในฐานะของ มนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งเกิดบนโลกใบนี้ ณ ชาตินี้ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เอาเป็นว่า จะเล่าไปเรื่อยๆ เป็นแนวคิดมั่ง เป็นความคิดเห็นส่วนตัว รวมทั้ง ความฝันมั่ง เป็นนิทานมั่ง สลับกันไป ให้สบายอารมย์

    หลายวันที่ผ่านมา ถ่ายภาพท้องฟ้า บ่อยครั้งมาก เมฆสวย ฟ้าใส อาทิตย์งาม ดวงจันทร์สวย เห็นแล้ว ก็มีความสุขไปตามประสา คนที่ชอบบรรยากาศ แบบธรรมชาติ

    กล้องถ่ายวิญญาณมีประสิทธิภาพสูงขึ้น หลังจากที่ได้พูดคุย(ฝ่ายเดียว) ผ่านเว็บไซต์ ไปยัง มนุษย์ผู้มาจากดาวดวงอื่น เพราะสามารถบันทึกภาพ ยานแม่UFOล่องหน ได้ทุกครั้ง ที่ต้องการ

    จึงทำให้คิดไปเพลินว่า เขาเหล่านั้นมาจากดาวดวงไหนน๊า ?

    หน้าตาเป็นยังไง ? ....มาเพื่ออะไร ? .....เป็นอยู่อย่างไร? ....และอีกหลากหลายคำถาม...

    นั่น ! คงเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา นะ.. ตามความเห็นของผม !!

    ....เขาอยากบอก ก็คงจะ บอกเองล่ะครับ...

    เอ...เดี๋ยว ใครเข้ามาอ่านทีหลัง อาจจะหาว่า " อ้าว! เจ้าหมอนี่! บ้าซะแล้ว..! "

    ก็ให้นึกเสียว่า อ่านนิทาน เรื่องนึง นะขอรับ ..


    แนวคิดเกี่ยวกับ ลำดับชั้น ของดวงดาว ในจักรวาล

    ว่าไปโน่นเลย จากแกะรอยภาพเขียน ผาแต้ม โผล่ไปอยู่ข้างๆ สตาวอร์ ซะแล้ว ก็ลองๆอ่านดูครับ เป็นแนวคิดของกระผมเอง อาจจะออกแนวนิยาย ซักหน่อย พอคลายเครียด

    การที่ สหพันธ์ดวงดาว (พูดประหนึ่งว่า เคยรู้จัก และ สหพันธ์นี้มีอยู่จริง เอาเป็นว่า สมมุติว่ามี นะครับ ถึงจะอ่านสนุก)

    ว่าต่อ สหพันธ์ได้จัดระดับชั้นดาวเคราะห์ หรือ ลำดับชั้นของดวงดาว ที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ ออกเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งก็จะเล่าเท่าที่ผมรู้ นะ



    การแบ่งระดับชั้นดาวเคราะห์ของ สหพันธ์ดวงดาว


    ในกลุ่มที่สิ่งมีชีวิต(มนุษย์ สัตว์ พืช)อาศัยอยู่ได้ ซึ่งอาศัยภาพรวมอารยะธรรมของมนุษย์ ที่อยู่บนดาวดวงนั้น เป็นเกณฑ์ในการแบ่งระดับดวงดาว


    1.ไม่มีอารยะธรรม มนุษย์อยู่ตามถ้ำ ป่าเขา ยังไม่รู้จักสร้างที่อยู่อาศัย ดำรงชีวิตเหมือนสัตว์ป่า เป็นกลุ่มเล็กๆ


    2. อารยะธรรมระดับต้น มนุษย์อยู่ตามถ้ำ ป่าเขา รู้จักสร้างที่อยู่อาศัย ดำรงชีวิตเป็นเผ่า เล็กหรือใหญ่ มีหัวหน้า และมีผู้ทรงอิทธิฤทธิ์เป็นศูนย์รวมศรัทธาของกลุ่ม หรือ ชุมชน มีขอบเขตดินแดนของตน มีการต่อสู้และทำร้ายผู้ซึ่งรุกล้ำเข้ามาในถิ่นของตน มุ่งประโยชน์ของกลุ่มตนเป็นหลัก


    3.อารยะธรรมระดับกลาง มนุษย์อยู่กันเป็นชุมชน สร้างที่อยู่อาศัยได้จากการสังเคราะห์วัสดุที่มีในธรรมชาติ เช่น เหล็ก อิฐ หิน ปูน ทราย ยาง พลาสติก มีระบบในการดำรงอยู่สำหรับสังคมของตนเป็นการเฉพาะ เอื้อประโยชน์ผู้อื่นเป็นหลัก เพื่อให้มีการผสมผสานอารยะธรรมซึ่งกันและกัน ไม่มีขอบเขตของประเทศ ไม่แยกเผ่าพันธุ์ อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และสงบสุข


    4. อารยะธรรมระดับสูง สร้างที่อยู่อาศัย ได้ด้วยพลังงานและวัสดุที่มีในธรรมชาติ เช่น พลังงานไฟฟ้า พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังแรงโน้มถ่วง พลังงานจากแสง พลังงานแม่เหล็ก รวมไปถึงพลังงานจากการสังเคราะห์ทางนิวเคลียร์ มีระบบสังคมร่วมกัน ไม่มีขอบเขตของดินแดน ไม่แยกเผ่าพันธุ์ อยู่ร่วมกันด้วยความสันติ และสงบสุข


    5.อารยะธรรมระดับสูงสุด มนุษย์สามารถสร้างที่อยู่อาศัย ที่สามารถอยู่ได้ในหลายมิติ เช่น บนหรือในพื้นผิวที่เป็นของแข็ง เช่น ดิน หิน พื้นผิวของเหลว เช่น น้ำ โคลน น้ำมัน พื้นผิวอากาศ และ อวกาศ ไม่มีขอบเขต ของดินแดน มีระบบสังคมร่วมกัน ไม่แยกเผ่าพันธุ์ อยู่ร่วมกันโดยสันติสุข



    ดูจากเกณฑ์ข้างต้น ดาวโลก อยู่กึ่งกลางระหว่าง ข้อ 2 กับข้อ 3 แหมเราก็นึกว่า ดาวโลก น่าจะอยู่ระดับกลางไปหาสูง ซะอีก แล้วเขาแบ่งระดับดวงดาว เพื่ออะไร กัน ??

    นั่นนะสิ !! ผมเองก็อยากทราบเช่นกัน ?

    วันนี้พักสายตาด้วยภาพ ยานยูเอฟโอ ลำเล็ก ที่บันทึกภาพได้ที่ เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เวลา 7 โมงเช้า ขณะบันทึกภาพดวงอาทิตย์ ของวันเสาร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 54

    [​IMG]
    ตั้งใจถ่ายภาพให้ได้เสาไฟฟ้า เพื่อเป็นตัวบ่งชี้ ระดับความสูง ของดวงอาทิตย์

    [​IMG]
    ภาพนี้พยายาม ขยายใหญ่สุดๆ แล้ว ให้ดูรู้เรื่อง

    เสียดายมากที่บันทึกได้เพียงภาพเดียว แต่ก็เป็นข้อบ่งชี้อย่างหนึ่ง ว่า เป็นยานUFO เพราะถ้าเป็นเครื่องบิน มนุษย์โลก ก็คงต้องปรากฎในเฟรมภาพ ช็อตอื่นๆ ที่ผมถ่ายต่อเนื่องกัน








    ขอบคุณมากครับ ทุกๆท่าน วิชาการ.คอม และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มนุษย์จากดาวดวงอื่น ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล แม้ร่างกายมนุษย์ของผม ขณะนี้ ยังมีขีดจำกัด ในการรับข้อมูล ท่านก็พยายาม up load
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  17. ballbkkno1

    ballbkkno1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +28
    ผมว่าคนสมัยโน้นมีจิตนาการ คนสมัยนี้ก็ต้องมีจิตนาการกว่า

    [​IMG]
     
  18. ninjabadboy

    ninjabadboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +517
    หลังๆ นี้ ผมว่าไม่ค่อยน่าจะใช่
     
  19. เบสท์คับผม

    เบสท์คับผม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +4
    น่าสนใจมากครับ
     
  20. นิพ

    นิพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +48
    มีความพยายามในการตีความหมายจากภาพวาดผาแต้มมากมายจริงๆคะ ต้องใช้เวลาและความสังเกตุ ความคิดวิเคราะห์ บวกจินตนาการ นับถือๆ ขอบคุณแชร์คะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...