ค้นพบหลักฐาน มนุษย์ต่างดาวคือผู้วาดภาพผาแต้ม อ.โขงเจียม อุบลราชธานี จริง! หรือ เท็จ!

สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ครับ.....

ใครไปรู้เราอาจได้ทฤษฏีใหม่ในแนวคิดของคนไทยเรา.....

 

ทึ่ง!...ในบทวิเคราะห์ที่ยาวมาก
แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง
จะถูกหรือผิดก็ไม่เป็นไร...
โดยส่วนตัวคิดว่า หน้าผานี้ (คือผาแต้ม)กับแม่น้ำโขงน่าจะมีมาหลายพันหลายหมื่นปีแล้ว บริเวณหน้าผาเหมือนฉากหินกว้างและยาวไปตามสายน้ำ และเป็นฉากที่รับแสงแดดเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น การเขียนรูปภาพลงบนหน้าผา ก็เหมือนกับแสดงการเซ่นไหว้บวงสรวงต่อเทพเจ้า (คือพระอาทิตย์) จึงมีการเขียนภาพลักษณะนี้ขึ้น
คิดได้แค่นี้แหละ...ยังสมองทึบ ปัญญาตัน...

 

ขอบคุณมากครับสำหรับบทความที่เอามาให้ได้อ่านกัน

 

...รูปที่ผาแต้ม ..เคยไปดู มานานแล้ว และ รู้สึก ขำ ปนกับความผิดหวัง เสียใจ ที่ เจ้าหน้าที่ โบราณคดี ระบุว่า รูป มนุษย์ห้วโต นั้น เป็น สุ่มปลา ส่วนรูปปลาวาฬ ก็ เป็นปลาบึก... คนสมัยโบราณ ยังไม่มีภาษาตัวหนังสือ ก็ ใช้ อักษรภาพ แทน และ พยายามจะ สื่อความหมายให้ เหมือนจริงมากที่สุด หาก รูปมือคน ทำได้ เหมือนจริงขนาดนี้...ก็ไม่ควรไปตีความว่า ปลาวาฬ เป็น ปลาบึก มันคนละ สเปชี่ส์ กันเลย.... และ ทำให้ คุณค่าทางโบราณคดีเสียหาย...

..ด้านบนของผาแต้ม เป็นชั้นหินทราย ที่ มีระลอกคลื่น ของ ท้องน้ำ ซึ่งในอดีตน่าจะ เป็นทะเล ไม่ใช่ แม่น้ำโขง...

....สุ่มปลาอะไร...ที่ ใช้จับปลาในทะเล หรือ น้ำที่ลึกๆ ได้...

..จะบอกอะไร กับคนอื่น...ก็ควรจะ กล้าๆเป็นตัวของตัวเองหน่อย เอาให้เหมือนเจ้าของกระทู้... ชาวบ้านจะได้ แง่คิดหลายๆทาง....

..รู้แบบนี้...วาดให้ปลาวาฬมันพ่นน้ำเสียเลย...จะได้ ชัดเจนขึ้น..แต่ ก็ อีกนั่นแหล่ะ..เดี๋ยวข้าราชการ ก็จะ ไปตีความกันอีกว่า ปลาบึกกำลังพ่นน้ำ...ทีนี้ล่ะก้อ ไปกันใหญ่เลย...

 

กระทู้นี้ถูกใจมากเลยครับ โดยเฉพาะ ภาพที่ออกมาจากยาน เหมือนจริงๆ ท่าน จขกท. วิเคราะห์ ดีครับ จริงๆไม่จริงยังไม่รู้ แต่ชอบครับ โดยเฉพาะ การตัดต่อพันธุกรรม ปลาบึกเนี่ย สุดยอด

นับเป็นข้อมูลแนวใหม่ ถ้ามีอีกมาต่อเลยนะครับ

 

หรือว่าเป็นพวกเราเองที่วิวัตรตัวเองถึงขีดสุดสร้างเครืองข้ามมิติย้อนกลับไป555ขำๆๆครับขออภัย

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ดีๆได้มองมุมของสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาบนโลกอีกมุมมองหนึ่ง

 

เชื่อว่ามีอยู่จริงครับ แล้วแต่มุมมองแต่ละคน อย่างรูปที่เห็น มองเป็นอะไรครับ พึ่งขุดพบเร็วๆ นี้ในประเทศไทยแถวภาคกลาง

 

สุดยอดจริง ๆ ครับ เป็นการวิเคราะห์ได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง

 

น่าติดตามครับ ผมไปดูมาเเล้วด้วยครับ
เเต่ไม่ได้วิเคราะห์อะไรเลย

 

เยี่ยมครับ

 

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ให้ชมกระทู้ดีดีนะครับ
สำหรับผม เป็นไปได้หมดตามจินตนาการณ์ครับ
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเขามีเทคโนโลยีขนาดนั้น น่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้ครับ

 

อันนี้ก็น่าคิดนะครับ...ทำไมไม่ใช้เเสงเลเซอร์แกะสลักไปเลย สวยกว่าวาดอีก ฮิๆๆ

หรืออาจจะเป็นมนุษย์ที่รู้เห็นเหตุการณ์ หรือรุ่นลูกหลาน ที่พยามบอกเล่าเรื่องราวบรรพบุรุษของเขา

 

พระพิฆเณศ บนผาแต้มวิเคราะห์โดย ยรรยง สินธุ์งาม

รูป พระพิฆเณศ บนผาแต้ม

ช่างน่าประหลาดใจ !! เป็นอย่างยิ่ง กับข้อมูล ที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ดังที่พาดหัวเรื่อง ไม่น่าเชื่อว่า ผมได้พบภาพเขียน รูปเล็กๆ บนผาแต้ม มองดูเหมือน รูปพระพุทธรูป อะไรทำนองนั้น


ภาพคล้ายคนนั่งสมาธิ บริเวณผาหมอน

ก็ยิ่งทำให้ประหลาดใจ หลายประการ

ประการที่ 1 เหตุไฉน มนุษย์ต่างดาว จึงได้ เขียนภาพ คล้ายคนนั่งสมาธิ ? ซึ่งปกติแล้วในช่วงยุคก่อนประวัติศาสตร์ เกือบ 4,000 ปี ตามบันทึกโลก ยังไม่มี ศาสนา หรือ ลัทธิใดๆ เกิดขึ้นมาบนโลก

ประการที่ 2 ทำไมภาพนี้ รูปคน ดูมีรายละเอียด มากกว่า ที่จะเป็น ลักษณะ กิ่งไม้ ซึ่ง ต่างจากภาพ คน ทั้งหลายที่ปรากฏบนภูผา


และเมื่อนำภาพมาขยายขึ้น อะไรกันนี่ !!



ทำไม ? ภาพคล้ายคนมีหัวเป็นช้าง !! จึงปรากฏอยู่ในยุคสมัยนั้นได้..!!
ซึ่งภาพลักษณะนี้ คนไทยเรารู้จักกันเป็นอย่างดี เป็น เทพองค์หนึ่ง มีนามว่า พระพิฆเณศ ก็เป็น ความเชื่อตามแนวคิดของ ศาสนาพราหมณ์ แต่ ท่านครับ ยุคนั้นน่ะ ยังไม่มีศาสนาใดๆเกิดขึ้น นี่นา...

เมื่อผมวิเคราะห์ลายเส้น ได้ผลออกมาดังภาพข้างล่าง


ภาพที่วิเคราะห์ลายเส้น เปรียบเทียบกับ ภาพปกติ

เป็นภาพ คล้ายพระพิฆเณศ จริงๆ !! ซะด้วยสิครับ !!



ในภาพ มีรายละเอียด แม้กระทั่ง เครื่องแต่งกาย ในมือ ถืออุปกรณ์อะไรซักอย่าง ไม่แน่ใจ ว่า จะเป็น อาวุธ หรือ เครื่องมือ โดยที่ มือข้างซ้าย กำด้าม มือข้างขวา ประครอง หรือ จับ อีกส่วนหนึ่งเอาไว้ อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ

ถ้า ภาพนี้ ถูกเขียนขึ้น โดยคนกลุ่มเดียวกัน มันจะบอกให้เราทราบว่า ภาพทั้งหมดที่เขาเขียน บนภูผา ซึ่งดูให้เป็นเหมือน ฝีมือเด็กๆ นั้น เป็นการอำพราง เพื่ออนุรักษ์ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ไว้ อย่างที่ผมได้เคย ตอบข้อสงสัย ไว้บนเว็บบอร์ด อย่างแท้จริง !!

สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น ก็คือ เขา วาดจาก สิ่งที่เห็น ?? หรือ วาดจากจินตนาการ ??

จากการศึกษาที่ผ่านมา เราต้องยอมรับ เงื่อนไขที่ว่า เขาบันทึก เพื่อให้เป็น จารึกระหว่างดวงดาว ฉะนั้น ก็น่าจะให้ความเชื่อมั่นว่า เขาต้องบันทึกจากสิ่งที่เป็นอยู่ !! งั๊น ก็แสดงว่า พระพิฆเณศ เทพองค์นี้ มีตัวตนอยู่จริง มาตั้งแต่สมัยโน้น และ เทวดาองค์นี้ ท่านก็คงมาปรากฏ ให้ชาวโลกและมนุษย์ต่างดาว ได้เห็น

อีกแง่มุมหนึ่ง อาจจะมองว่า คนมีหัวเป็นช้าง เป็น ผู้ที่มีความสำคัญ ต่อ ชาวต่างดาว ที่มาบนโลก เช่น อาจจะเป็นเทพเจ้า ที่เขานับถือ

หรือ อาจจะเป็น ผลผลิตของเทคโนโลยี การตัดต่อพันธุกรรม ?? ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อ ให้เป็นที่ยึดเหนี่ยว จิตใจ ของมนุษย์โลก เมื่อมนุษย์ต่างดาวเหล่านั้น ต้องห่างไกลจากดาวโลก เฉกเช่นดัง นิยายวิทยาศาสตร์หลายๆเรื่องได้ เขียนเอาไว้

งง ครับ !! เอ... ทำไมเรื่องราวต่างๆ มันดูปนเปกันไป ทั้ง ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ นวนิยาย ...

ก็คงต้องว่าไปตามภาพที่เห็นละครับ ส่วนจะมีเหตุผล หรือ เรื่องราวเป็นไปอย่างไร นั้น ก็จะค่อยๆ แกะรอยจารึกไปเรื่อยๆ

 

ทำไมต้องให้ลูกหลานต้องมานั่งปวดหัวด้วย ^^ ในส่วนตัวเป็นตอนนั้นหนีเอาชีวิตรอด หรือหาวิธีต่อสู้ครับ หรือวาดภาพแบบไม่ต้องเยอะสั้นๆง่ายๆเอาพอเข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น(วาดทำไมถ้าคนวาดไม่คิดว่าภาพนั้นจะอยู่มาถึงวันนี้) โดยส่วนตัวคิดเอาว่ามาเที่ยวดูธรรมชาติกับเพื่อนนึกสนุกวาดอะไรเล่นเหมือน สมัยหลายๆคนเด็กๆชอบเขียนโต๊ะเรียนแบบนั้น ซนๆ บังเอินภาพนั้นอยู่ตรงนั้นจนมาถึงทุกวันนี้

ผมชอบเจ้าของกระทู้มาก คือเป็นแนวเดียวกับผมเลยชอบเรื่องแบบนี้ คิดไม่เหมือนใคร มองอีกมุมนึงที่หลายๆคนมองข้ามไป

 

ขอโทษนะครับ รู้สึกว่าแต่ละคำอธิบาย จะเป็นการโยงประเด็นซะส่วนใหญ่

 

ดีมากครับ อ่านจบก็รู้สึกน่าสนใจกันเรื่องที่วิจัย เป็นอีกแนวทางที่น่าจะเป็นคำอธิบายการค้นหาข้อมูลในเชิงลึก ดีครับผิดถูกไม่เป็นไรครับเอาใจช่วยครับ

 

...อึ้งกับจินตนาการ ของเจ้าของกะทู้นี้จริงๆครับ เป็นตุเป็นตะเชียว สวดยวด

 

นับถือคนเขียนบทความจริงๆๆ
ถูกผิดเป้นอีกเรื่องหนึ่ง...
แต่ที่แน่ๆๆไม่ใช่หมึกจากจีนแดงแน่นอน ถึงได้อยู่คงทนแบบนี้ 55555

 

<TABLE id=post3780915 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>13-09-2010, 09:03 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #29 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3780915", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 10,997
Groans: 1
Groaned at 473 Times in 325 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 212
ได้รับอนุโมทนา 70,583 ครั้ง ใน 10,101 โพส
พลังการให้คะแนน: 5031


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3780915 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** นิยาย ****

เมื่อ ภัทรกัป ผ่านมาได้พันปี
มีคนผู้หนึ่งมาเกิด มีอำนาจมากคอยเอารัดเอาเปรียบ
รีดไถภาษีผู้ที่เข้ามาอาศัยแผ่นดินของเขา โดยไม่ดูว่ามีรายได้มากน้อยอย่างไร
ทำผู้คนสัตว์โลกเดือดร้อนมาก จิตใจจะว่าเหมือนไม่ใข่มนุษย์ ก็ใช่
จะว่าเป็นสัตว์ร้าย ก็ใช่ จะว่าเป็นยักษ์ ก็ใช่
เขามีอำนาจอิทธิฤทธิ์มาก แบบทศกัณฑ์
จึงไม่สมควรเป็นเยี่ยงอย่างให้กับชาวโลกต่อไป
โลกุตตระ จึงอวตารเป็นมนุษย์เหนือโลกผู้หนึ่ง
มาปราบ ไม่ให้มาทำลายศาสนาของโลกุตตระ

เรื่องพวกนี้ อินเดียจึงเขียนขึ้นเป็นนิยายประจำประเทศ
แต่เขาให้ความเคารพ
อย่างพระวิษณุ พระลักษมี และอีกมาก
คือ มีจริง เป็นผู้สำเร็จไปแล้ว เป็นอมตะ
ศาสนราฮินดู จึงมีมานานมาก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

สมเด็จพระพุทธองค์ ศรีอาริยเมตไตรย์ กับ ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม
<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>