สั่ ง ส ม . . ส ะ ส ม . .

... อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ ... ดีแล้วชอบแล้ว<!-- google_ad_section_end -->

 

๒๙ ธค ๕๓ : วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

- ตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 2 รูป

- ทำบุญดอกไม้ ธูป เทียนบูชาพระ

- ถวายผ้าห่มพระพุทธรูป สีทอง จำนวน 1 ผืน

- ชำระหนี้สงฆ์











http://palungjit.org/threads/โรงเรียนบ้านกิ่วสะแวกเก่า-อ-แม่แจ่ม-จ-เชียงใหม่.269710/page-7#post4214820

 

๒๙ ธค ๕๓ : นำแท้งก์น้ำ และสิ่งของบริจาคช่วยเหลือไปมอบให้ชุมชน และเด็กนักเรียนที่บ้านกิ่วสะแวกเก่า อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่




























http://palungjit.org/threads/โรงเรียนบ้านกิ่วสะแวกเก่า-อ-แม่แจ่ม-จ-เชียงใหม่.269710/page-7#post4214820

 

๓๐ ธค ๕๓ : สมทบเพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา วัดเจียง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่




http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา-วัดเจียง-อ-แม่แจ่ม-จ-เชียงใหม่.272046/

 

<TABLE cellPadding=6 width=500><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขออนุโมทนาบุญทั้งปวงค่ะ

​

 

๓๑ ธค ๕๓ : วัดพระธาตุลำปางหลวง อ. เกาะคา จ. ลำปาง

- ถวายดอกไม้ ธูปเทียน

- สมทบทำบุญบำรุงวัด

- สมทบทำบุญบำรุงค่าน้ำ-ไฟ

- สมทบร่วมทำบุญถวายผ้าห่มพระธาตุเจดีย์ฯ




ประวัติพระธาตุลำปางหลวง ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตามบ้านเมืองต่าง ๆ จนถึงบ้านสัมภะการีวัน (บ้านลำปางหลวง) พระพุทธเจ้าได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อ ลัวะอ้ายกอน เกิดความเลื่อมใส ได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้างมะพร้าว และมะตูมมาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้งแล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่าลัมพกัปปะนคร แล้วได้ทรงลูบพระเศียรได้พระเกศามาหนึ่งเส้น มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอน ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้น บรรจุในผอบทองคำ และใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับถวายแก้วแหวนเงินทองเป็นเครื่องบูชา แล้วแต่งยนต์ผัด (ยนต์หมุน) รักษาไว้ และถมดินให้เรียบเสมอกัน แล้วก่อเป็นพระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาก็ได้มีกษัตริย์อีกหลายพระองค์ มาก่อสร้างและบูรณซ่อมแซม จนกระทั่งเป็นวัดที่มีความงามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน



ในทางประวัติศาสตร์นครลำปาง วัดพระธาตุลำปางหลวงมีประวัติว่า เมื่อปี พ.ศ.๒๒๗๕ นครลำปางว่างจากผู้ครองนคร และเกิดความวุ่นวายขึ้น ท้าวมหายศจากนครลำพูนได้ยกกำลังมายึดนครลำปาง โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายในวัดพระธาตุลำปางหลวง ครั้งนั้น หนานทิพย์ช้างวีรบุรุษของชาวลำปาง ได้ทำการต่อสู้โดยลอบเข้ามาในวัด และใช้ปืนยิงท้าวมหายศตาย แล้วตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์ ต่อมาหนานทิพย์ช้างได้รับสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าสุลวะลือไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครลำปาง เป็นต้นตระกูล ณ ลำปาง เชื้อเจ็ดตน ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน



พระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลูและเสร็จในปีฉลู เช่นกัน ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนา



วิหารหลวง วิหารขนาดใหญ่ที่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2019 โดยเจ้าหมื่นคำเป๊ก ภายในมีซุ้มปราสาททองเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าล้านทอง ด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทันใจ บนแผงไม้คอสองมีภาพจิตรกรรมเก่าแก่งดงาม เรื่องทศชาติ และพรหมจักร



วิหารหลวงนี้เป็นวิหารประธานของวัด ตั้งอยู่บนแนวเดียวกับประตูโขง และองค์พระธาตุเจดีย์ เป็นวิหารจั่วรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทรงวิหารโล่งตามแบบล้านนายุคแรก หลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ภายในวิหารบรรจุมณฑปพระเจ้าล้านทอง ด้านในของแนวคอสอง



วิหารพระพุทธ ไม่ปรากฏว่าสร้างเมื่อใด และใครเป็นผู้สร้าง แต่ประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี เดิมเป็นวิหารเปิดโล่งหน้าบันเป็นลายดอกไม้ติดกระจกสี ภายในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่เต็มอาคาร ก่ออิฐถือปูน ศิลปะเชียงแสน และยังปรากฏเงาพระธาตุภายในวิหารอีกด้วย



องค์พระธาตุเจดีย์ภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่าง ๆ ลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลให้พระธาตุหริภุญไชย และพระบรมธาตุจอมทอง



ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศา และพระ อัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง





ซุ้มพระบาท สร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 1992 ภายในมองเห็นแสงหักเหปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ แต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น



วิหารพระนาคปรก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงละโว้ เมื่อ พ.ศ. 1215 พระบิดาของพระนางจามเทวีมอบให้ประดิษฐานไว้





เมื่อหันหน้าเข้าหาวิหารหลวง ด้านขวามือ คือ วิหารน้ำแต้ม หรือวิหารภาพเขียนสี (“แต้ม” แปลว่า ภาพเขียน) สร้างเมื่อ พ.ศ.2044



เป็นวิหารเปิดโล่งที่เก่าแก่ที่สุดอีกหลังหนึ่งทางภาคเหนือ ภายในเป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยที่งดงาม ไม่มีฝ้าเพดาน กำแพงด้านพระประธานเขียนภาพลายทองบนพื้นรักแดง มีภาพจิตรกรรมศิลปะล้านนาบนแผงไม้คอสองที่กล่าวกันว่าเก่าแก่ที่สุด และหลงเหลือเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 21 ลงมา แต่ปัจจุบันภาพเขียนลบเลือนไปมาก และประดิษฐานพระพุทธรูปสัมริดปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 1.25 เมตร สูง 1.25 เมตร





ข้อมูลจาก : www.ezytrip.com/travelsearch/district_attract2.php?chk=701

 

อนุโมทนาบุญส่งท้ายปีเก่ากับน้องเจงค่ะ....

 

ขออนุโมทนาบุญทั้งปวงค่ะ

​

 

๘ ม.ค ๕๔ : ร่วมสมทบเพื่อจัดสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลอุดรธานี​

<o></o>
​

​

<o><o></o></o>
<o></o>
<o>
</o>​

​

<o><o><o><o>
</o></o></o></o>​

ขอบคุณรายละเอียดจาก : Luangta.Com - ˅ǧ?ҁ˒?ч ?ҳʑ?ѹ⹦lt;/a>=​

 

พี่แก้วจะโอนทำเกือบทุกเดือนคือตั้งใจไว้น่ะค่ะน้องเจงแต่ประมาณว่าเดือนนี้ทำบุญสร้างตึงสงฆ์เดือนต่อไปก็วิทยุเสียงธรรมแล้วก็สงเคราะห์โลกเดือนไหนมีกะตังเยอะก็ทำหลายอย่าง....ต้องทำค่ะ

 

<TABLE cellPadding=6 width=428><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

๑๐-๑๑ ม.ค ๕๔ : ร่วมกับเพื่อน ๆ ช่วยกันทำคริสตัลสำหรับประดับผนัง
ถวาย ณ วัดผาซ่อนแก้ว อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์

 

อนุโมทนาจ้า.....

ลูกมือเพียบเลย

ดูแล้วพี่เจง สวยสุด อิ อิ..

 

^___^

อนุโมทนา สาธุ ด้วยคนค่ะคุณเจง
อ้อขอเกาะใบบุญไปด้วยคนนะคะ
เห็นแล้ว ปลื้มใจด้วยค่ะ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
สวยมากเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าอุปกรณ์เพียงไม่กี่ชิ้นจะทำให้เกิดความสวยงามเช่นนี้ได้
เหมือนเมล็ดทับทิมเลยค่ะ สวย ใส งามมากค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญทั้งปวงค่ะ

​