ท่านทราบถึงความปรารถนาในโพธิญาณของตนเองเมื่อไหร่...?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NikuSeed, 9 กันยายน 2009.

  1. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    อนุโมทนา สาธุครับ สำหรับทุกท่านปราถนาพุทธภูมิ

    ขอให้ทุกท่านสมหวังกับสิ่งที่ปราถนาครับ
     
  2. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +526
    ความเมตตา สงสาร มันมีอยู่มากครับ ตราบใดที่ยังมีสัตว์ให้สงสาร ตราบนั้นผมจะยังยืนยันตามเดิมตลอดไป ตราบจนถึงพร้อมด้วยพระโพธิญาณ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2010
  3. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    อนุโมทนา..สาธุ ในการปรารถนาโพธิญาณ ทุกๆท่านครับ
    ขอให้ทุกท่านอย่าท้อถอยง่ายๆ และสมหวังกันทุกคนนะครับ
     
  4. leonids

    leonids เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +103
    รู้สึกประมาณ 3 ปีนี้เองเกิดจากความเมตตา สงสาร เห็นปัญหา ความเดือดร้อนของคนอื่น ๆ
    ดิฉันทำงานให้คำปรึกษา ชี้แนวทางคนอื่น (เป็นนักพยากรณ์ดวงชะตา) ที่จริงก็ทำงานมาหลายปีแล้ว ทำไปเรื่อย ๆ ก็เห็นดวงชะตาคนมาก เข้าใจในสัจธรรมของมนุษย์มากขึ้น
    เห็นทั้งความทุกข์ ความสุข และอะไรอีกมากมาย
    เคยถามตัวเองเหมือนกันทำไมต้องมาทำอาชีพนี้ ทั้งที่ไม่เคยมีความคิดที่ทำอาชีพนี้มาก่อน
    แต่ตอนนี้ตัวเองคิดว่า คำตอบที่ตัวเองรู้สึกคือ ถูกส่งมาช่วยเหลือคนและสัตว์ รู้ได้ลางสังหรณ์ว่า ถูกส่งมาจากที่ไหนดิฉันก็ไม่ทราบ แต่ต้องมาช่วยเหลือ
    ให้คำชี้แนะนำคนที่มีความทุกข์ จากนั้นความเมตตา ก็มีมากขึ้นจนเผื่อแผ่ไปถึงสัตว์ที่อยู่รอบตัว
    อันนี้คือประสบการณ์ของตัวเองค่ะ
     
  5. คนเดินเดี่ยว

    คนเดินเดี่ยว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +44
    เกิดที่ใจอยาก

    ผมไม่รุ้ว่าเวลาไหนเมื่อไรแต่ใจนึกชอบขึ้นมาเฉยๆเกิดแต่ความอยากเปนเหตุอยากไห้ตัวพิเศษกว่าคนอื่นๆอยากได้มากๆกว่าคนอื่นๆแรกๆผมก้อยากได้พลังพิเศษจากญาณบารมีอยากเหาะได้เดินบนอากาศได้อยากถอดจิตได้แต่เมื่อยังเด้กพอเติบใหญ่จากภายในความคิดเปลี่ยนไปนิดน่อยแต่ความอยากความโลภผมทวีคูณคนอื่นบอกความอยากจาลดผมกับอยากเพิ่มอยากที่จาช่วยพ่อแม่พี่น้องลูกเมียของผมไห้เห้นแสงธรรมอยากให้เขาเหล่านั้นไปกะผมเรอไปก่อนผมเรอไปรอผมแต่กำลังใจผมยังไม่ถึงขั้นจานำพาคนอื่นไปด้วยยังโลภแต่ไม่มากพอจานำเขาเหล่าอื่นไปด้วยได้(โลภจำกัด)เพราะรู้ว่าวาสนาไม่ถึง
    ปัจจุบันผมรุ้ว่าผมอยากผมติดความเป็นตัวผมของผมอยู่อย่างหนาแต่ความรีบของผมกลับกันเปนว่าไม่มีความรีบ(ผมไม่ได้ปะมาทว่าจะไม่ตกนรก)แต่คิดว่าเจอกับสิ่งเหล่านั้นได้และจะทนไห้ได้ผมจะเฝ้าในมุมมืดผลักดันเขาเหล่านั้นไปรอผมเรอหลุดไปก่อนผมจึงพอใจผมเกบเวลไปอย่างช้า ถ้าผมรีบไปผมก้ไปคนเดียวเสียดายกะคุณค่าที่รู้สึกได้อยากไห้เขาเหล่าผมได้รู้ด้วยไปด้วยกะผมเพราะเปนที่รักของผม(ในทุกชาติที่ผ่านไปและจะมาถึง)กับคำถามผมรู้ว่าไม่นานมานี้เองที่ผมโลภมาก จากคำที่แค่ว่า หิริโอตตัปปะ เปนนิพพาน
     
  6. ใต้แสงดาว

    ใต้แสงดาว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +80
    ตอนเด็กๆเห็นรูปพระพุทธเจ้าเดินบนดอกบัว รู้สึกชอบเลยทำตามบ้าง มารู้ตัวก็ช่วงที่เริ่มศึกษาธรรมะจากหนังสือโลกทิพย์บ้าง ชาดกพระเจ้า500ชาติบ้างและหนังสือธรรมะอีกมากมายจากหอสมุด วิทยาลัยสมัยเรียน ตอนนั้นอยากบวชมากอยากเป็นพระธุดงอยู่ตามป่าตามเขา สุดท้ายต้องโดนกระแสโลกธรรมซัดเซล้มลุกคุกคลาน ดีบ้างเลวบ้างปะปนกันไป ตอนนี้รู้ดีชั่วจนสิ้นแล้ว อยากอยู่อย่างสงบโลกนี้ไม่มีอะไรเลยจริงๆสิ่งต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตเหมือนความฝัน เหมือนเราโดนมรสุมพัดพาหาทิศทางไม่เจอ แล้วมาหยุดที่จุดๆหนึ่งนั่นคือสิ่งที่เราปรารถนาคือพระโพธิญาณที่ไม่เคยลืมเลือนไปจากใจเราเลย..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2011
  7. ดาวพุธ

    ดาวพุธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +483
    เรื่องก็เริ่มจาก รู้สึกสงสารคนบนโลก....อยากช่วยให้ทุกคนพ้นทุกข์แม้ตัวเองจะลำบากก็ยอม อ่ะ....ตอนนั้น ไม่รู้จัก พระโพธิญาณ หรอกครับ<O:p</O:p
    <O:p
    ต่อมาโตขึ้น....รู้สึกขนลุกและปีติทุกครั้ง ที่ได้ยินคำว่า “พระโพธิญาณ” แต่ก็ไม่เคยคิดอยากจะเป็นพระพุทธเจ้าเลย เพราะรู้สึกไกลตัว….<O:p
    <O:p
    ระยะเวลาผ่านไป.....รู้สึกว่าตนเองมี “อะไรบางต้องทำ” แต่ดันไม่รู้ว่า คือ อะไรที่ต้องทำ....ก็เลยแปลกๆ ......เคยอ่านเจอว่า....อาการแบบนี้ คือ มีเจ้ากรรมนายเวรตามทวง หรือ ไปทำอะไรไม่ดีกับใครไว้จึงรู้สึกติดค้าง.........เลยกลัวๆๆ<O:p
    <O:p
    ต่อมา......มีโอกาสได้ไปกราบหลวงตาม้า.....ได้นมัสการเรียนถามหลวงตา เรื่องการสร้างบารมี.....หลวงตาเมตตาให้คำตอบกลับมามากพอสมควร...<O:p
    <O:p
    อยู่มาวันหนึ่ง.........นั่งสมาธิตามปกติ.......จิตเกิดอาจหาญขึ้นมา.....ตั้งจิตอธิษฐาน....”ขอต่อกระแสพระโพธิญาณ”.... <O:p
    <O:p
    ตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้........มีสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง 2 อย่าง คือ<O:p
    1.อาการที่รู้สึกว่ามี “อะไรบางต้องทำ” ก็หายไปซะเฉยๆ…..<O:p
    2.เห็นพระพุทธรูป ทีไรแล้วจะเกิดปีติ ทุกครั้ง<O:p
    <O:p
    ทุกวันนี้ ผมเองก็ไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นอะไร เพราะก็ยังรู้สึกว่า ตัวผมยังเป็นพวกหัวเต่าที่ผลุบๆ โผล่ๆหาความมั่นคงไม่ได้ ดังนั้น ผมจึงสอนตัวเองว่า ความสำคัญคงไม่ได้อยู่ที่การมาเป็นพุทธภูมิได้อย่างไร หากแต่อยู่ที่ผมจะ <O:p
    “วางแผน” <O:p
    “ลงมือ” <O:p
    “ตรวจสอบ” <O:p
    “ปรับปรุง” คือ PDCA ภารกิจแห่งพุทธภูมิ อย่างไร และเมื่อไหร่(คือ มี due date).........และ นี่ก็คือ งานยากสำหรับผมอ่ะครับ<O:p
     
  8. jakrapat

    jakrapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +127
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    <!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--document.write('<s'+'cript type="text/javascript" src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=16&j=1&code='+new Date().getTime()+'"></s'+'cript>'); // --></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=16&j=1&code=1294746929665"></SCRIPT>[​IMG] <NOSCRIPT></NOSCRIPT>
    ท่านทราบถึงความปรารถนาในโพธิญาณของตนเองเมื่อไหร่...?
    ความคิดนี้ผมมีมาตั้งแต่ ตอนเด็ก ๆ ประมาณ 3ขวบ

    อะไรมันดลใจ...?
    ความทุกข์ทั้งหลายอันเกิดจากความรักก็ดี ความกลัวจากผลของบาปกรรม และไม่ปราถนาที่จะเบียดเบียนสัตว์อื่นอีก
    หลังจากนั้นผมก็ปราถนาพุทธภูมิเป็นพระอนิยตโพธิสัตว์ เพื่อช่วยเหลือสัตว์อื่นให้พ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง ต่อมาก็เกิดมหาปีติ นานมาก อาสวะกิเลศทั้งหลายไม่สามารถ กล้ำกลายเข้ามาในจิตใจได้ ตลอดเวลาที่เกิดมหาปีติ
    ตอนนี้ผทปราถนาแบบศรัทธาธิกะ ถ้าหากกำลังใจมากกว่านี้จะปรานาแบบ วิริยะธิกะต่อไป
     
  9. Ricky

    Ricky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +682
    ถ้าถามว่าทราบเมื่อไหร่ว่าชาติก่อนๆปราถนาพุทธภูมิแล้วล่ะก้อ ผมเพิ่งทราบมาเมื่อไม่นานนี้ล่ะครับยังไม่ถึงปีเลย ราวๆเมษา-พฤษภาปีที่แล้วมีพระท่านพูดให้คิดน่ะครับ ต่อมาราวๆกันยา มีคนที่มีองค์ญาณบอกว่าบารมีเต็มแล้ว(อันนี้ผมพอทราบว่าไปเต็มตอนไหน ผมก้อเลยทราบ) พอต่อมาราวๆพฤษจิกายนไม่ก้อธันวามีเบื้องบนมาบอกเกี่ยวกับเรื่องพระพุทธเจ้า แล้วก้อช่วงธันวา-ปัจจุบัน มีเบื้องบนกับพวกพระชั้นผู้ใหญ่หลายๆท่านมาแนะแนวการบำเพ็ญที่ถูกต้องและมาย้ำกับกระผมอีกบ่อยๆว่าผมเป็นพุทธภูมิ -.-*

    ส่วนเรื่องเป็นประเภทไหนนั้น ผมเป็นวิริยะธิกะครับ มีวิริยะเป็นเสมือนปุ๋ยที่ผมใช้ปลูกต้นไม้ต้นนี้ครับ จริงๆก้ออยากจะเปลี่ยนเป็นแบบธิกะอื่นๆนะครับ แต่พอคิดถึงคนทั้งหลายที่หวังพึ่งเราในอนาคต มันก็เป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้ผมเด้งกลับมาทางสายนี้ต่อ (บังเอิญว่ามีท่านทั้งหลายช่วยกระตุ้นด้วยในยามที่ผมมีกำลังใจลดลง พ่ายแพ้ต่อกิเลสต่างๆ)
     
  10. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +561
    ย้อนหลังไปเกือบยี่สิบปี เมื่อได้อ่านเรื่องการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า ในหนังสือ พุทธกรธรรม เมื่อถึงประโยคที่ว่า พระโพธิสัตว์บำเพ็ญเพื่อสัตว์โลกให้พ้นจากวัฏสงสารแล้ว แม้ต้องลงไปว่ายน้ำในทะเลไฟ ก็สามารถกระทำได้

    อ่านตอนนี้ เกิดปิติขึ้น ยกมือขึ้นจบ อธิษฐานว่า ท่านได้กระทำบารมีและสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าได้บำเพ็ญความดี และสำเร็จเฉกเช่นเดียวกันด้วยเถิด

    หลังจากนั้นก็กระทำความดีและอธิษฐานเรื่อยมา
    นับสิบปีผ่านไป ได้พบหลวงปู่จวบ วัดพลับ หรือวัดราชสิทธาราม ฝั่งธนบุรี
    ท่านเป็นพระดี นั่งทางใน ตอบปัญหาต่าง ๆ ของลูกศิษย์ได้
    เมื่อสบโอกาส จึงถามท่านว่า ที่ผมปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้านี่ ผมคิดไปเองหรือเปล่า

    ท่านนิ่งไปสักพัก แล้วตอบ ทำมาทางนี้
    เพราะฉะนั้น เวลาคนมาถามว่า เขาปรารถนาฯหรือเปล่า
    ผมมักตอบว่า เขารู้สึกอะไรบ้างเวลาอ่านเรื่องการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า

    และต่อมาเหมือนแม่เหล็กดึงดูด ให้ได้พบคุณลุงผู้กระทำบารมีมามาก มาพาไปทำบุญกับพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี อีกมากมากหลายองค์

    ปรารถนาประเภทใด ๆ ไม่เคยคิด ทำไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ ๆ เดี๋ยวถึงวาระ จะรู้เอง

    สิ่งที่อยู่ในใจ ความดี หรือบารมี ๓๐ ทัศ ทำให้เต็ม
    จะเร็วจะช้า ไม่รีบร้อน (ใครรีบไปก็เชิญก่อน แซงไปได้เลย)

    มีสิ่งหนึ่งที่อยากบอก คือ เมื่อเราฝึกตน ทำบุญมาดีแล้ว เราจะพบครูอาจารย์ที่ดี
    บุญนั้นอธิษฐานได้ เมื่อเรากระทำมากพอ
    ที่เหลือนั้นอยู่ที่เรา อยู่ที่จิตเรา นิพพานอยู่ที่จิต บารมีอยู่ที่จิต

    ลองไปอ่านเรื่อง ยาจกเข็ญใจทำทานในสมัยพุทธกาลดูสิ
    ทำทานด้วยเข็ม กระเทือนสามโลกธาตุ แม้แต่พระอินทร์ยังต้องมาโมทนา
    ยิ่งใหญ่ขนาดไหน
     
  11. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    อนุโมทนาครับ
    รู้สึก 10 ข้อนี้ผมจะมีมาตั้งแต่เด็กแล้วนะครับ
    ช่วง 1-4 ปี ผมจำอะไรไม่ได้เลย และ ไม่พูดออกมาสักเดียว จนที่บ้านกลัวจะเป็นใบ้เลยเอาใบบอนมาตบปาก
    ช่วง 5 ปี ไปเล่นน้าในลำตลอง แม่ลำให้ฟังว่า เล่นลอยน้ำ คว่ำหน้า แล้วอยู่กลางลำคลอง ลอยไปเรื่อย แม่ตกใจ แม่แปลกใจเหมือนกันว่าตกน้ำ แล้วรอยได้อย่างไร แถมดึงขึ้นมา ก้อร้องจะไปลอยนำใหม่
    ช่วง 5-8 ปี ส่วนใหญ่จะนั่งพิจารณาเอง มีความคิดเหมือนผู้ใหญ่ซัก 70 ปี ไม่ชอบเล่นกับเพื่อน ดูเหมือนเป็นสิ่งไร้สาระ ชอบสอนคนอื่นโดยเฉพาะผู้ใหญ่ ว่าสิ่งไหนถูก สิ่งไหนผิด ผู้ใหญ่เถียงไม่ได้ด้วย เพราะเราพูดจริง
    ช่วง 8-12 ปี เข้าห้องสมุดอ่านหนังสือ ค้นคว้าด้วยตัวเองที่ห้องสมุดชั้นประถม โดย ไม่ต้องมีใครสอน เข้าทั้งเช้า กลางวัน เย็น เพราะชอบศีกษาเรื่องราวต่างๆของโลก และหัดนั่งกรรมฐานเองตามหนังสือ ชอบอ่านนิทานสอนใจ เรื่องราวทางโลก และ ธรรมมะ โดยเฉพาะประวัติพระพุทธเจ้า แล้วตัดสินใจว่าชีวิตนี้จะไม่มีคู่ เพราะคิดว่า จะออกจากโลกนี้ได้ ต้องวางห่วงทั้งหลายทั้งปวง จึงไม่สร้างห่วงอะไรเลย
    ช่วง 12-16 ปี ชอบศึกษาประวัติ หลวงปู่โต หลวงปู่ทวด รักท่านมาก ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แล้วรู้สึกว่าสามารถสัมผัสใจคนได้ ว่าแต่ละคนมีนิสัยอย่างไร มีจริตอย่างไร และต้องการอะไร ตาชอบไปเห็นนิมิตต่างๆมากมาย เป็นมาตั้งแต่เด็ก ชอบคิดว่าเราเป็นพระพุทธเจ้าอยู่เรื่อย ๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

    ฝึกมาทุกแนว พิสูจมาทุกแนว ก้อไม่เห็นกิเลสลดลง มาเจอท่านอาจารย์วิโมกข์ ฝึกสติปัฐฐาน ดูกาย ดูใจ แล้วรู้สึกว่าความยึดมั่นถือมี่นคลายลงชัดเจน
    จึงฝึกเรื่อยมา
    ตอนนี้รู้แล้วครับด้วยตัวเองว่าเราเป็นใคร มาทำอะไร และมีหน้าที่อะไร ตอนนี้จึงไม่ยึดมั่นในลักษณะใดแล้ว แม้สภาวะของพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ พระอริยะบุคคล และสภาวะอารมใด้ๆก้อตาม วางเสียสิ้นแล้ว
    เพราะยิ่งเข้าใกล้ธรรมมะมากเท่าไหร่ ก้อรู้สึกว่า มันไม่มีอะไร มันเป็นสัจจะ หรือ ธรรมชาติที่มีอยู่แล้วนั้นเอง แค่เพียงเราไปเห็นมัน หรือสัมผัสมันเข้าเท่านั้น ธรรมมะ คือ ธรรมชาติ คือ ความรัก ความกลมเกลียว ความนิ่ง ความสงบ และทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าให้ตอบตรงๆว่าธรรมมะคืออะไร ต้องนิ่งแล้วไม่ตอบอย่างเดียว
    ขออำนวยพรให้ทุกท่านได้ในสิ่งที่หวังแล้วกันครับ ปราถนาอะไร ขอให้ได้ตามนั้น
     
  12. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ผมก็ทราบว่าท่านJIT_ISSARAเป็นคนดี คนหนึ่ง
    ขออนุโมทนาในบุญกุศลของท่านด้วยนะครับ
     
  13. suchat

    suchat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +1,239
    โมทนาสาธุครับกับทุกท่านด้วยครับ
    ของผมปารถนาพุทธภูมิมาสิบเอ็ดปีได้แล้วครับ ใจชอบแบบวิริยะบารมีอยากจะช่วยคนให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เดิมทีก็ปารถนาแบบสาวกภูมินี้ละครับ เพราะศรัทธาและศึกษาสายหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาตั้งแต่อยู่ป.6ปลายๆ ม.หนึ่งต้นๆ ก็มีใจอยากจะนิพพานมาตลอด ใจยังไม่คิดที่จะปารถนาพุทธภูมิ จะไปพระนิพพานทุกครั้ง แต่มาช่วงเรียนม.ปลาย ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับนรก สวรรค์ ทำบุญ ทำกรรมแบบใหนแล้วได้รับผลอย่างไร ออกแนวแบบพุทธมหายาน แล้วพอดีว่าในหนังสือมีเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าในอดีตพร้อมรูปด้วย ตั้งแต่อ่านเรื่องพระพุทธเจ้าตอนนั้น ใจก็เริ่มชอบและปรารถนามาตลอดครับ
     
  14. ตุ๊โต้ง

    ตุ๊โต้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +223
    เริ่มสนใจคำว่าพุทธภูมิ โพธิสัตว์และ การปรารถนาสัมมาสัมโพธิญารณโพธิญาณตั้งแต่ม.4
    รู้ว่าบำเพ็ญมานานเท่าใดตอนจบม.6แล้วกำลังจะเรียนต่อระดับอุดมศึกษาแต่เวลาที่ปรารถนามาเทียบไม่ได้แม้ขี้เล็บองค์นิตยโพธิสัตว์(พระโพธิสัตว์ทั้งหลายที่ได้รับพุทธพยากร
    ณ์แน่นอนแล้วว่าจะได้ตรัสรู้ในกาลข้างหน้าอย่างแน่นอนไม่เปลี่ยนเเปลง)
     
  15. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ กราบอนุโมทนาบุญกับท่านด้วยนะครับ
    แต่ที่ผมศึกษามา(ตามความรู้อันน้อยนิดของผม)ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า

    " ดูกรอานนท์ ตถาคตมุ่งหมายอยู่ พึงทำโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาลให้รู้แจ้งได้ ด้วยเสียง
    หรือทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่มุ่งหมาย ฯ
    อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็พระผู้มีพระภาคพึงทำโลกธาตุอย่างใหญ่ ประมาณแสนโกฏิจักรวาล
    ให้รู้แจ้งด้วยพระสุรเสียง หรือทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่ พระองค์ทรงมุ่งหมายอย่างไร ฯ
    ดูกรอานนท์ พระตถาคตในโลกนี้ พึงแผ่รัศมีไปทั่วโลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาล เมื่อใด
    หมู่สัตว์พึงจำแสงสว่างนั้นได้ เมื่อนั้น พระตถาคตพึงเปล่งพระสุรเสียงให้สัตว์เหล่านั้นได้ยิน
    พระตถาคตพึงทำให้โลกธาตุอย่างใหญ่ประมาณแสนโกฏิจักรวาลให้รู้แจ้งได้ด้วยพระสุรเสียง
    หรือพึงทำให้รู้แจ้งได้เท่าที่พระองค์ทรงมุ่งหมาย ด้วยอาการเช่นนี้แล
    เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้แล้ว ท่านพระอานนท์ ได้กราบทูลว่า เป็นลาภของข้าพระองค์หนอ
    ข้าพระองค์ได้ดีแล้วหนอที่ข้าพระองค์มีพระศาสดาผู้มีฤทธิ์ มีอานุภาพมากอย่างนี้
    เมื่อท่านพระอานนท์กราบทูลอย่างนี้แล้ว ท่านพระอุทายีได้กล่าวกะท่านพระอานนท์ว่า
    ดูกรอานนท์ ในข้อนี้ท่านจะได้ประโยชน์อะไร
    ถ้าศาสดาของท่านมีฤทธิ์ มีอานุภาพมากอย่างนี้ (แต่ตัวท่านเองไม่มี คุณวิเศษอะไรเลย)
    เมื่อท่านพระอุทายีกล่าวอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะท่านพระอุทายีว่า ดูกรอุทายี เธออย่าได้กล่าวอย่างนี้
    ถ้าอานนท์ยังไม่หมดราคะเช่นนี้ พึงทำกาละไป เธอพึงเป็นเจ้าแห่งเทวดาในหมู่เทวดา ๗ ครั้ง
    พึงเป็นเจ้าจักพรรดิในชมพูทวีปนี้แหละ ๗ ครั้ง เพราะจิตที่เลื่อมใสนั้น ดูกรอุทายี
    ก็แต่ว่าอานนท์จักปรินิพพานในอัตภาพนี้เอง ฯ "

    แสดงให้เห็นว่า พระพุทธเจ้าทั้ง ๓ ประเภท(ปัญญา สัทธา วิริยา) ทรงมีความสามารถเท่าเทียมกัน เหมือนกันทุกพระองค์
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708

    จำได้ว่าต้องการมาเกิดเป็นมนุษย์เพราะปรารถนาที่จะ
    1. สอนเรื่องศีล 5 ปิดอบายภูมิให้แก่มนุษย์
    2. รู้จักทุกข์ เพื่อค้นหาหนทางพ้นทุกข์ (นิพพาน)
    3. สั่งสอนสัตว์โลกเรื่องทุกข์ ปัจจัยให้เกิดทุกข์ ล่วงรู้เท่าทันมายาทางโลก
    กึ่งพุทธกาลเป็นต้นไป จะมีมนุษย์ตกนรกมากมาย ตายจากมนุษย์ก็ไปรับโทษในแดนนรก เมื่อพ้นวาระจากนรกก็กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ฯ เสวยทุกขเวทนา เป็นเช่นนี้ เวียนว่ายไม่จบไม่สิ้น สาเหตุมาจากการไม่มีวิชชา ก็เลยทำให้ไม่รู้จักทุกข์ และการขาดศีล 5 นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นอนันต์ เรื่องศีล 5 เป็นเรื่องใหญ่สำหรับยุคปัจจุบัน เหตุแห่งทุกข์ เพียงศีลแค่ 5 ข้อง่ายๆ ยังรักษากันไม่ได้ แล้วจะไปรักษาศีล 10 ศีล 227 ได้ยังไง (แค่ศีล 5 ก็ปิดอบายภูมิได้แล้วนะ)

    เอ๊ะ อย่างนี้จะเรียกว่าปรารถนาในพระโพธิญาณหรือเปล่า?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2011
  17. Sirichut

    Sirichut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +308
    ตอนที่ได้รู้จักคำทำนาย ของหลวงพ่อฤาษีครับ ส่วนตัวแล้วชอบปัจเจกภูมิครับ ทำระยะสั้น เพราะใน 1 อสงไขยไม่รู้ว่าเราจะไปเกิดในภพภูมิใดบ้าง จริงๆแล้วอยากเป็นพรหมนะครับ

    แต่ยายผมซึ่งตั้งใจไปนิพพานชาตินี้บอกว่าเป็นการติดสุข พระโพธิสัตว์ส่วนใหญ่จะเกิดไม่เกินชั้นดุสิตครับ และลงมาบำเพ็ญบารมีเรื่อยๆครับ 100,000 กัปยังนานขนาดนั้นแล้ว อสงไขยคงนานมากๆครับ

    ส่วนตัวแล้วไม่ชอบอยู่ท่ามกลางผู้คนและชอบสันโดษซึ่งแปลว่าอยู่เงียบๆคนเดียวครับ
    คนมักจะแปลว่าประหยัดซึ่ง อันนั้นเรียกว่ามักน้อยครับ ส่วนตัวผมแล้วอยากไปนิพพานเร็วและรู้ตลอดอยากทั้งไกล้และไกล รู้ทั้งโลก ครอบโลก แทงทะลุตลอดโลก ทั้งจักรวาลนี้และจักรวาลอื่นด้วยครับ แต่ 16 อสงไขยก็น่าคิดนะครับ เคยถามหลวงพ่อคำสด ท่านบอกว่าให้ทำปัจจุบันก่อน แล้วจะรู้ทั้งอดีตและอนาคตว่าเป็นเช่นไรครับ ฉะนั้นผู้ปฏิบัติจึงได้เปรียบในจุดนี้มากครับ สามารถมองภาพผ่านทั้งอดีต และอนาคตได้ครับ ส่วนจะไปถึงจุดไหนขึ้นอยู่กับตัวเราเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2011
  18. จารุ

    จารุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    23,747
    ค่าพลัง:
    +236,439
    ผมทราบตอนป.4 ครับ เรียนวิชาพระพุทธศาสนา ตอนนั้นคุณครู พูดถึงอภิเษกสัมโพธิญาณ
    ขนลุกทั้งตัว ขนหัวตั้งเลยครับ:cool:
     
  19. passakorner

    passakorner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +1,034
    ส่วนผมรู้เมื่อไม่กี่วันมาแล้ว และ ได้ อฐิษฐานว่าหากตนเองปราถนาพุทธภูมิจงมีมีเศษไม้และกิ่งไม้หล่นลงมา

    ครั้งแรก กิ่งไม่
    ครั้งสอง ใบไม้
    ครั้งสาม ใบโพธิ์

    และ สืบสาวหาสาเหตุและความคิดแต่ก่อนๆ และ บุคคลอื่นที่มาทัก ก็ประจบเหมาะ ก็ต้องทำสิ่งนี้ให้ดียิ่งขึ้น ที่ปราถนา ก็เพื่อช่วยผู้อื่นเท่านั้น มิได้อยากให้ใครเคารพสักการะ หรือ ใดๆ ทำเพื่อให้ผู้อื่นช่วยตัวเองได้ และมีความสุข ตราบเท่านิพพาน
     
  20. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ท่านที่ปรารถนาทุกท่านครับ การปฏิบัติอย่าให้เลย โคตรภูญาณ นะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นลาพุทธภูมิไปซะก่อน
     

แชร์หน้านี้

Loading...