ท่านทราบถึงความปรารถนาในโพธิญาณของตนเองเมื่อไหร่...?

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NikuSeed, 9 กันยายน 2009.

  1. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    อนุโมทนา สาธุ

    แล้วท่าน "มารวิกะ" ทราบตัวท่านเองมั้ยครับ ว่ามีอะไรป็นตัวนำ?

    ก็ ตามที่ท่านกล่าวมาล่ะครับ พระโพธิสัตว์นี่ มีการเอา เมตตามาสู้กับความทุกข์จากวัฏสงสาร
    ถ้าครั้งไหน เมตตาแพ้ ก็จบด้วยการลาพุทธภูมิ...

    ตรงเรื่องรถบรรทุกเกือบชนนี่ รู้สึก "โอ้โห" มากๆเลยครับ ^^
     
  2. osrihomjun

    osrihomjun สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ผมเพิ่งปราถนาไม่นานมานี้ครับ เพื่อนแนะนำเวบนี้มา2-3 ปีแล้วแต่ก็ไม่ได้เข้ามาอ่านมากมาย เพิ่งเข้ามาอ่านได้ไม่กี่เดือนอ่านเรื่องของประวัติหลวงพ่อปาน แล้วก็อ่านของหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำที่ท่านเคยปรารถนาพุทธภูมิ รู้สึกเข้าใจง่ายกว่าหนังสือธรรมะ ที่เคยอ่าน ถูกใจที่ท่านกล้าเขียนเรื่องสิ่งที่ท่านทำทั้งดีและไม่ดี เกิดศรัทธาอย่างประหลาดอ่านเรื่องพุทธภูมิแล้ว คิดว่าถ้าเรามีความสุข เราจะชวนคนอื่นให้มีความสุขด้วยเราจะไม่สุขคนเดียวแล้วทิ้งใครไว้ข้างหลัง คิดว่าถ้าเราเริ่มเคลื่อนที่ไปหาสิ่งนั้น ขอแค่ใจรู้ว่ากำลังเคลื่อน ซักวันก็ต้องไปถึงแม้จะนานแสนนานเพียงใดก็ตาม และมีความสุขมากที่รู้ว่ามีท่านทั้งหลายที่ปรารถนาพุทภูมิเดินไปด้วยกัน ช่วยกันดีให้ถึงที่สุดไปเลย
     
  3. osrihomjun

    osrihomjun สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    สำหรับผมนั้น ศรัทธาธิกะ ชอบครับ
     
  4. osrihomjun

    osrihomjun สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +6
    ผมเพิ่งปราถนาไม่นานมานี้ครับ เพื่อนแนะนำเวบนี้มา2-3 ปีแล้วแต่ก็ไม่ได้เข้ามาอ่านมากมาย เพิ่งเข้ามาอ่านได้ไม่กี่เดือนอ่านเรื่องของประวัติหลวงพ่อปาน แล้วก็อ่านของหลวงพ่อ ฤาษีลิงดำที่ท่านเคยปรารถนาพุทธภูมิ รู้สึกเข้าใจง่ายกว่าหนังสือธรรมะ ที่เคยอ่าน ถูกใจที่ท่านกล้าเขียนเรื่องสิ่งที่ท่านทำทั้งดีและไม่ดี เกิดศรัทธาอย่างประหลาดอ่านเรื่องพุทธภูมิแล้ว คิดว่าถ้าเรามีความสุข เราจะชวนคนอื่นให้มีความสุขด้วยเราจะไม่สุขคนเดียวแล้วทิ้งใครไว้ข้างหลัง คิดว่าถ้าเราเริ่มเคลื่อนที่ไปหาสิ่งนั้น ขอแค่ใจรู้ว่ากำลังเคลื่อน ซักวันก็ต้องไปถึงแม้จะนานแสนนานเพียงใดก็ตาม และมีความสุขมากที่รู้ว่ามีท่านทั้งหลายที่ปรารถนาพุทภูมิเดินไปด้วยกัน ช่วยกันดีให้ถึงที่สุดไปเลย<!-- google_ad_section_end --> สำหรับผม ศรัทธาธิกะ ชอบครับ
     
  5. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    อนุโมทนา ครับ ^^
    การบำเพ็ญบารมีเพื่อพุทธภูมินี่ มันยาวจนหาใดเทียมเลยนะครับ = ="
    แล้วก็ ลำบากสุดๆๆเลยด้วย
    (ไม่แปลกใจเลยสักนิด ที่อนิยตโพธิสัตว์มีเยอะแยะ แต่ที่ผ่านจนเป็นนิยตโพธิสัตว์มีแค่หยิบมือเดียว)

    จริยธรรม 10 ประการของพระโพธิสัตว์


    1. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า ร่างกายจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
    2. พระโพธิสัตว์ ครองชีพโดยไม่ปรารถนาว่าจะไม่มีภัยอันตราย
    3. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีอุปสรรคในการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์
    4. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาเลยว่า จะไม่มีมารขัดขวางการปฏิบัติภารกิจ
    5. พระโพธิสัตว์ ถือว่าทำงานให้นานที่สุด โดยไม่ปรารถนาจะให้สำเร็จผลเร็ว
    6. พระโพธิสัตว์ คบเพื่อน โดยไม่ปรารถนาจะได้รับผลประโยชน์จากเพื่อน
    7. พระโพธิสัตว์ ไม่ปรารถนาว่า จะให้คนอื่นต้องตามใจตนเองเสมอไปทุกอย่าง
    8. พระโพธิสัตว์ ทำความดีกับคนอื่น โดยไม่ปรารถนาสิ่งตอบแทน
    9. พระโพธิสัตว์ เห็นลาภแล้ว ไม่ปรารถนาว่าจะได้รับ
    10. พระโพธิสัตว์ เมื่อถูกใส่ร้ายป้ายสี ติเตียนนินทาแล้ว ไม่ปรารถนาที่จะตอบโต้
    จาก : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C

    10 ประการนี่ ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ ว่าตัวเองมีครบหรือยัง =w="
    แต่รวมๆแล้ว ก็ประมาณว่า "ชีวิตของโพธิสัตว์ หาความสบายไม่ได้"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2009
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,683
    ค่าพลัง:
    +51,931
    โพธิญาณ ไม่รู้จักหรอก
    แต่เคยกราบพระพุทธรูป แล้วอธิษฐานขอให้ได้พบหลักสัจจะธรรม

    ปัจจุบัน พบแล้ว
    เข้าใจความหมายของสัจจะธรรมแล้ว
    แล้วเห็นว่า สัจจะ เป็นหนทางหลุดพ้นทุกข์ได้จริง เป็นสิ่งสำคัญต่อสัตว์โลก
    สัจจะตัดลดนิสัยต้องปฏิบัติเป็นประจำ นิสัยสันดานที่คอยสร้างกรรม มันจึงจะหมดไปได้จริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,683
    ค่าพลัง:
    +51,931
    เรื่องโลกุตตระธรรม...คือ เรื่องของสัจจะที่นำพาสัตว์โลกพ้นทุกข์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. kaipana

    kaipana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +44
    ปรารถนาพุทธภูมิมาหลายปีแล้วครับ
    เมื่อก่อนฟังเทปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เห็นท่านลาพุทธภูมิก็ลาด้วย ตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองปรารถนาหรือไม่
    ทำบุญที่ไหนก็อธิษฐานขอให้เข้านิพพานในชาตินี้ นานเข้าๆ จิตก็เกิดอาการ ปิ๊ง! ขึ้นมา ไม่ใช่ปิ๊งสาวนะครับ
    แต่เดินๆ อยู่ก็คิดขึ้นมาได้เองว่า "เวลาใครเขาทำให้โกรธ เราไม่จำเป็นต้องโกรธก็ได้ มันสิทธิ์ของเรา เขาไม่ได้บังคับเรา
    เราโกรธเองด้วยความเข้าใจผิดว่าต้องโกรธ" จากนั้นก็คิดได้เรื่อยเปื่อยว่า ของที่น่ารักมันไม่ได้บังคับให้คิดรัก
    เรารักมันเองนิยมไปเอง โลกนี้ไม่มีอะไรดีไม่ดี มันก็อยู่ของมันเฉยๆ เราต่างหากนิยมว่าดีไม่ดี แล้วเราก็วิ่งหาของดี รังเกียจของชั่วกัน
    ......ที่สุดมันก็โล่งมากครับ เป็นสุขมาก คือมันว่างจริงๆ ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ เหลืออย่างเดียวก็คือสงสัยว่าตัวเองเป็นอะไรไป
    พอดีช่วงนั้นเพื่อนๆ ที่ปฏิบัติธรรมด้วยกันชวนไปหาอาจารย์ท่านหนึ่ง ผมก็ไปด้วย หวังจะไปถามเขาว่า จิตแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร
    ปรากฏว่าอาจารย์ไม่สอนอะไรผมเลย ผมเห็นแกโม้ๆๆ ว่าเป็นพระโพธิสัตว์บ้าง ปรารถนาพุทธภูมิบ้าง ฟังแล้วรู้สึกว่า
    "เป็นพุทธภูมิหรือ ไม่เห็นจะยาก เราก็เป็นได้ เดียวจะเป็นให้ดู" พอคิดแบบนี้ จิตที่เคยสบายไม่สุขไม่ทุกข์มันตกลงหมดเลยครับ
    ไม่สามารถทรงอารมณ์นั้นได้อีก เพียงแต่จำได้เท่านั้น
    พอมีโอกาสไปหาอาจารย์อีก ก็มโนฯ ไปหาพระข้างบนก่อน บอกท่านว่า "ผมคิดอยากปรารถนาพุทธภูมิ แต่หากยังไม่เคยได้รับพุทธพยากรณ์มาก่อนซึ่งต้องบำเพ็ญอีกนานก็จะขอล้มเลิกความปรารถนาเสีย แต่หากว่าเคยได้รับพุทธพยากรณ์แล้วก็จะขอตั้งปรารถนาพุทธภูมิต่อไป
    หากเคยได้รับพยากรณ์แล้วจริง ขอให้ไปหาอาจารย์คราวนี้ได้พระธาตุกลับมา" ปรากฏว่ารุ่งเช้าก่อนกลับจากบ้านอาจารย์
    อาจารย์หันมามองหน้าผม แล้วพูดขึ้นลอยๆ ว่า "ผมไม่ชวนคนไปนิพพานคนเดียวหรอก ชวนคนเป็นพระพุทธเจ้าดีกว่า"
    แล้วก็หยิบพระธาตุมาให้ รู้สึกงงครับว่ารู้ได้ไง แต่นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็ปรารถนาพุทธภูมิมาตลอด คิดจะลาอีกก็หลายครั้งแต่ก็ไม่ลาขาดสักที

    บำเพ็ญบารมีไปเรื่อยๆ ครับ "การบำเพ็ญบารมี" สำหรับผมหมายถึง การเอาชนะกำลังใจของตัวเองให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2009
  9. mechatum

    mechatum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +11
    เหมือนมีอะไรสักอย่างมากระทบจิต เวลาดูรูปพระพุทธเจ้าแล้วเห็นพระท่านสวยงาม

    และอยากช่วยคนให้พ้นทุกข์เหมือนท่าน แรกๆก็ลังเลเพราะกว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าได้

    ต้องบำเพ็ญบารมีนานมาก แต่พอนึกถึงพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อนมนุษย์

    แล้วสงสารท่าน อยากให้ท่านมีความสุขไม่ต้องมาเกิดให้เป็นทุกข์อีก เลยตั้วใจที่

    อยากเป็นพระพุทธเจ้าเพื่อมาพาท่่านทั้งหลายพ้นทุกข์
     
  10. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    พ่อมาสอนเรื่องการทรงอารมณ์นิพพาน เมื่อพอจะเข้าใจการทรงอารมณ์ ก็เลยหนักไปในทางทำบุญแล้วอธิษฐานขอนิพพานชาตินี้ จนท่านพ่อพระอินทร์ และท่านพ่อสหัม ท่านมาสงเคราะห์ทางนิมิตและสื่อต่างๆ ที่จิตเราจะพอทราบได้ ก็เลยเข้าใจว่า ยังมีหน้าที่ ผูกพันกับท่าน หลังจากนั้นก็มีกระแสโพธิญาณ เข้ามาเรื่อยๆ สรุปได้ว่า ถ้าเราเป็นพุทธภูมิ เราจะมีอาจารย์เป็นพุทธภูมิใหญ่ด้วย อิอิ แล้วจะมีท่านๆ ยืนยันให้เราเอง เรี่องแบบนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ขอให้เราพยายามรักษาศีล 5 ให้ได้ ไล่สเตป รักษาศีลให้ได้ คือไม่ทำชั่ว ไม่คิดชั่ว คือพยายาม ไม่ทำชั่ว ไม่คิดชั่ว ไม่ห่างจากบารมี 30 แน่นอน ทำบุญแบบมีปัญญา แม้นจะเป็นวิริยะ อิอิ บารมี 30 ทัศ เกิดจากกำลังใจของเรา เมื่อเราทำบุญสร้างพระ ก็มีกำลังใจเกิดขึ้น เมื่อเราทำทาน ให้อาหารสัตว์ ก็มีกำลังใจเกิดขึ้น เราก็ใช้กำลังใจที่มหาศาลนั้น อธิษฐานจิต สร้างบุญฤทธิ์ แบบง่ายๆ การโมนาบุญ การปฎิบัติสวดมนต์ภาวนา และที่สำคัญ หน้าที่ทางโลก ก็ต้องเต็มที่ แต่ไม่ยึดติดให้ทุกข์
     
  11. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    พุทธภูมิที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ที่อยากให้ผู้อื่นโมทนาในความดีเรา ก็ต้องระมัดระวัง เพราะบางคนที่แวะเข้ามาเยือน เขาเห็นแค่ตัวอักษร บางทีก็มีอคติในความคิด ที่กลายเป็นวิจารณ์ จนสุดท้ายพัฒนาเป็นโทสะ คือเหมือนเถียงกันไปเถียงกันมา และอีกเรื่องหนึ่งที่ขอฝากไว้ คือ นิมิต ที่เราเห็นนั้น บางทีเป็นการซ้อน ของท่านๆทั้งหลาย ที่สงเคราะห์เราอยู่ เช่น ไปเห็นว่า ท่านนี้ เป็นพระเจ้าตากสิน เพราะจิตเห็นพระเจ้าตากเวลาได้ฟังหรือสนทนา อันนี้เข้าใจผิดไปกันได้มาก เพราะเราก็เคยเป็น อิอิ สุดท้ายแล้ว เราเห็นข้อธรรมที่พ่อได้สอนไว้ คือ นิ่งเสียโพธิสัตว์ จะเป็นอะไรที่ดีที่สุดของพุทธภูมิ อันว่านิ่งเสียนี้ หมายถึง ไม่ต้องไปบรรยายสรรพคุณ ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ แค่พวกเราที่ติดตามกันมา มีใจถึงใจ สื่อกันทางใจให้มากๆ จะพูดก็เวลาได้อยู่ในวงจำกัด คือมีอาจารย์และพี่เลี้ยง ที่จะให้คำแนะนำ และทวนของเก่าให้ เพราะถ้าเราไปพูดเรื่องพุทธภูมิในวง คนธรรมดา ก็จะทำให้หลายคนที่ได้ฟัง ถูกหางเลข เพราะเรื่องบางเรื่องคนธรรมดา ไม่เข้าใจเราหรอก เขามักจะมองว่าเราเพี้ยน หรืออุปาทาน
     
  12. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ข้อสังเกตอย่างหนึ่ง คือการระลึกชาติ คนที่ระลึกชาติ มีญาณอดีตังญาณแจ่มๆ ในอดีตชาติที่ผ่านมาของตัวเอง แสดงว่าครูอาจารย์ ท่านพยายามบอกใบ้ในเส้นทางการปรารถนาที่เราทำมา ถ้าพอเห็นอดีตลางๆ ก็ให้พอทราบไว้เป็นเรื่องสอนใจ แต่ไม่ต้องไปฟื้นหาตะเข็บ เพราะมันจะวุ่นวาย ปวดหัว อิอิ เช่นย้อนกลับไปได้ประมาณ 1000 ปี เคยเป็นแม่แรงสร้างพระหรือเจดีย์ไว้ นั่นหมายความได้ว่า คุณนั้น ปรารถนาอะไรมา และปัจจุบัน คุณก็ยังเพียรสร้างอยู่
     
  13. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,354
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,305
    อนุโมทนาครับ เป็นข้อธรรมะที่แจ่มแจ้งประทับใจมากครับ สาธุ
     
  14. sa_bye_dee

    sa_bye_dee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +34
    "เราไม่ปรรถนาสุขใดอีกแล้ว" พร้อมกับได้สัมผัสแสงสว่างในตัวท่าน
     
  15. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    ตอนเห็นโอภาส
     
  16. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    อนุโมทนา ทุกท่านด้วยนะครับ ^^

    พึ่งเห็นว่ากระทู้นี้มีคนขุดมาด้วย 'w'
     
  17. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ อนุโมทนากับท่านด้วยนะครับ
     
  18. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
    แรกๆๆ ก็ไม่รู้หรอกครับ ว่าเป็นอย่างไร
    ตอนเด็กๆๆ แม่เล่าให้ฟังว่า ผมไม่ค่อยชอบเรื่องฆ่าสัตว์ แล้วจะค่อยห้ามผู้ใหญ่ตลอดเรื่องฆ่าสัตว์ จนผู้ใหญ่ลำคาญ ไล่ให้ไปไกลๆๆๆ
    พอโตมาอ่านเจอหนังสือเล่มหนึ่ง มีชื่อเรื่องว่า ลูกจ๋าแม่อยู่ไหน
    เรื่องมีว่า มีลูกวัวตัวหนึ่งเพิ่งคลอดได้ประมาณ ๗ วัน เจ้าของได้มาจูงแม่มันไป แล้วแม่ของมันก็หันมามองแล้วน้ำตาก็ไหล แล้วลูกวัวก็ไม่ได้เจอแม่มันอีกเลย จนเวลาผ่านไปจนมันโต(บังเอิญลูกวัวเป็นตัวเมียเหมือนแม่มัน) มันมีลูก แล้วคลอดลูกได้ประมาณ ๗ วัน เหตุการณ์ที่เกิดกับแม่มันก็มาเกิดกับมันคือ เจ้าของมัน มาจูงมันไปจากลูก แล็วมันก็หันมามองลูกมันแล็วน้ำตาไหล มันเลยนึกถึงแม่มันทันทีเลยว่า วันนั้นทำไมแม่มันถึงน้ำตาไหล แล้วแม่มันไปไหน ? คือเจ้าของขายให้กับโรงฆ่าสัตว์...........
    ตั้งแต่นั้นมาผมเลยไม่ทานเนื้อสัตว์ทุกชนิดอีกเลย......
    แล้วมาวันหนึ่งมาอ่านพุทธประวัติ ก็เลยคิดว่านี้ล่ะใช่เลย.....................คือสิ่งที่ต้องการ ครับ
     
  19. Solotel

    Solotel Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +38
    อนุโมทนา สาธุ... กับทุกท่านครับ _A_

    สำหรับผม
    ก่อน 6 ขวบก็นั่งสมาธิเองโดยไม่มีใครสอน (ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเห็นใครทำมาหรือเปล่า)

    ช่วงประมาณ 6-10 ขวบเป็นต้นไปมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนเด็กคนอื่น ในความรู้สึกในการมองเด็กอื่น ๆ ในความรู้สึกที่มองโลก

    ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนา สวรรค์ นรก

    มีความคิดว่าหากมีทั้งบาปและบุญอยากเลือกลงไปรับกรรมในนรกให้หมดสิ้นก่อน และค่อยไปเสวยบุญในสวรรค์ทีเดียว

    มีความคิดว่าถ้าสะสมบุญได้จะไม่ใช้บุญเลยจะเก็บไว้ (เหมือนหยอดกระปุก) แล้วจะใช้ออกมาในทีเดียว

    มีความคิดว่าอยากเรียนรู้หมดทุกอย่าง รู้ทุกอย่างในจักรวาล ลงนรกก็ลงทุกชั้น ขึ้นสวรรค์ก็อยู่ทุกชั้น

    มีความคิดอยากเป็นพระพุทธเจ้าตั้งแต่อายุประมาณ 6-7 ขวบ แต่เมื่อเรียนหนังสือและเข้าใจเองในตอนนั้นว่าพระพุทธเจ้ามีได้แค่องค์เดียว ความรู้สึก... คงสับสน เลยตั้งเป้าหมายว่าถ้าเราไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าก็ขอเป็นรองพระพุทธเจ้าก็แล้วกัน เช่น พระอรหันต์ (ไม่รู้จักพระปัจเจก)

    ชอบฝันว่ามี ภูติ ผี ปีศาจ มารบกวนบ่อย ๆ ในฝัน เมื่อไม่รู้จะทำยังไง ก็จะนั่งสมาธิในฝัน และทุกอย่างก็กลับร้ายกลายเป็นดี

    อาจจะอ่านแล้วดูดี แต่มันก็จบอยุ่ที่ประมาณ 10 ขวบ เพราะหลังจากนั้น 10-32 ผมก็หลงไปกับกระแสโลก หลงเข้าหาอบายภูมิซะเยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับหลุดไปเลย เพราะยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง ก็ทำบุญอยู่บ้าง กว่าจะกลับมาได้ก็ใช้เวลาไร้ค่าไปมากโขอยู่

    เมื่อกลับมาก็เริ่มศึกษาธรรมมากขึ้น อ่านมากขึ้น จนรู้ว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้มีแค่องค์เดียว และใครก็สามารถปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าได้ กำลังใจจึงกลับมาอีกครั้ง ก็เริ่มปฏิบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเรื่อยจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็ยังไม่ได้ก้าวหน้าไปเท่าไหร่หรอกนะครับ คือรู้ตัวว่าปรารถนาอะไร แต่ก็ยังประมาทอยู่(มาก) แต่ก็กำลังตั้งใจปฏิบัติให้มากขึ้นครับ

    ธรรมที่ตั้งเพื่อโพธิญาณนี้ก็ไม่ทราบ ถ้าตัดสินจากความชอบก็คงเป็นปัญญาครับ...
     
  20. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    :boo: หนูไม่รู้หรอกว่าโพธิญาณ คืออะไร ?
    หนูชอบนั่งสมาธิ ให้ใจสงบ จำไม่ได้ว่านั่งตั้งแต่อายุเท่าไหรตั้งแต่จำความได้ ที่นั่งก็เพราะเป็นคนสมาธิสั้น เวลานั่งสมาธิ ก็จะรู้สึกสุขใจ แต่หนูไม่เคยอ่านหนังสือ ธรรมเลย เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือเอามากๆ หนังสือเรียนยังขี้เกียจอ่านเลยคะ การ์ตูนก็อ่านเป็นบางเรื่อง(อ่านบรีส) ส่วนมากจะชอบดูหนัง หนังที่ดูก็ประเภทบู๊แอคชั่นคะ(หนังผี ไม่ชอบ ถ้าเป็นเรื่อง"ผีชีวะ"ละก็ดูทุกภาคเลยคะ ^^ ดูหลายรอบ หนังรักยิ่งเกลียดเลยคะ หนังชีวิต ไม่มองอะ หนังประวิตศาสตร์ เดินหนีเลย)
    ม.ต้น ก็หลงใหลในวิชาวิทยาศาสตร์มาก มองว่าเรื่องศาสนาเป็นความเชื่อ ถึงจะมีเหตุการณ์แปลกๆ ก็ยัง ไม่ปักใจเชื่อ
    :cool: ตอนนั้น ได้ช่วยพี่ชายคน1 ไว้ พี่ชายท่านนั้น เมลล์มาขอบคุณ และบอกว่า อิจิโกะ เป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ที่มาช่วยพี่เลย พออ่านถึงตรงนี้ เสียงในใจของอิจิโกะ ก็บอกว่า "ไม่ เราไม่อยากเป็นพระโพธิสัตว์ เราอยากเป็นอย่างพ่อ (หนูตอนเด็ก ได้ยกให้เป็นลูกของพระพุทธเจ้าคะ)พอคิดได้ ก็เลยว่าหัวเราะ แล้วบอกว่ากับตัวเองว่า "เรานี้ช่างมักใหญ่จริงๆ จะเป็นอย่างพ่อ" ก็ได้ยินเสียง บอกว่า"เจ้าจะเป็น" ยอมรับว่า ตื่นเต้นมากที่รู้แบบนั้น ถึงจะไม่เข้าใจความหมายเลยก็ตาม
    ช่วงนั้นถูกหลายท่านที่นับถือ ทักว่า หนูมาบำเพ็ญเพื่อจะเป็นพระโพธิสัตว์ แต่หนูไม่สนใจเลย พระโพธิสัตว์ อะไร? ไม่เชื่อไม่สนใจ
    จนวันนี้ตองสอบเข้ามหาลัย หนูเกิดเบื่อทางโลก เลยอธิษฐาน ขอเข้านิพพาน เพราะไม่อยากมาเวียรวาย ตายเกิดแล้ว ก็ถูกเทวดาที่อยู่ด้วย ทักว่า"ไม่ได้ ยังต้องมาเกิด ตามแรงอธิษฐานที่จะเป็นพระโพธิสัตว์"
    ตอนนั้น รู้สึกไม่ชอบเลยคะ เพราะเบื่อมนุษย์ ไม่อยากยุ่งด้วย อยากไปนิพพานเลย
    เข้าสมาธิ พ่อก็มาบอกอีก "อยากเป็นอย่างพ่อ ก็ต้องทำตามปฏิธานเดิมของลูกนะ"
    หนูไม่เข้าใจหรอกคะ จนมีพี่ชาย ท่านหนึ่งเข้ามาถามว่า หนูปราถนาอะไร
    หนูเลยบอกว่า "นิพพานคะ" พี่ชายคนนั้นก็ถามอีกว่า "หนูปราถนาอะไร" หนูก็งง ทำไมพี่ชายถามอีกแล้ว ก็เลยตอบว่า "นิพพานคะ เพราะเบื่อการเกิด (ตอบก็ยิ้มในใจ คิดว่า พี่ชายต้องเห้นด้วยแน่นอน)
    แต่พี่ชาย กลับบอกว่า จะไม่ถามอีกนะ ให้เอาไปคิดก่อน หนูก็งง ทำไม ถึงผิดละ ที่อยากไปนิพพาน
    พี่บอกว่า หนู ปฏิบัติมาหลายอสงไขแล้ว ที่บำเพ็ญมา จะเป็นอย่างพ่อ แต่ก่อนจะเป็นอย่างพ่อ ต้องบำเพ็ญเป็นพระโพธิสัตว์ก่อนเหมือนชาตินี้
    ตอนนี้ หนูก็พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง ถึงจะไม่แจ่มชัดนัก (รู้แต่ไม่เข้าใจเมื่อ6ปีก่อน พึ่งเริ่มเข้าใจเมื่อไม่กี่วันนี้เองคะ)
    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...