ประสบการณ์ที่ทำให้เรามั่นใจ ว่าเราคือ "พุทธภูมิ"

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย KomAon11, 11 กรกฎาคม 2006.

  1. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    ขั้นปรมัตถบารมีขั้นต้นๆ แล้วล่ะครับ แต่ถ้าใกล้ๆ เต็มคงแทบจะไม่เข้ามาในเวปนี้เท่าไหร่ ผมเองก็คล้ายๆ กัน ทราบขึ้นมาเอง ว่าปราถนาพุทธภูมิ โดยไม่มีใครมาบอก เสียอย่างเดียว่าคุณเวปสโนว์มีจุดหมาย แต่ผมไม่มี เพื่อนผมเคยทักไว้เหมือนกันว่า บารมีแกเต็มจนไม่รู้จะอย่างไรแล้ว เป็นดวงจิตที่เต็มเปี่ยมสว่างไสว แต่ก็ยังไม่บรรลุซะที(ก่อนจะมาเกิดเป็นมนุษย์) ขึ้นอยู่กับตัวแกเอง จริงหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าตัวเองมีอุปนิสัย "ใช้จิตดูจิต" ตลอดเวลา ไม่ว่าจะ ดีใจ เสียใจ รัก โลภ โกรธ หลง แม้แต่ทำกรรมชั่วช้าลามก จิตแรกคือตัวเราในชาตินี้ ณ ปัจจุบันรับอารมณ์ใด เกิดความรู้สึกอะไร คิดอะไร และต้องการอะไร ส่วนอีกจิตนึง จะวางเฉย นิ่งๆ ไม่สนใจอะไร ไม่มี รัก โลภ โกรธ หลง วางเฉยหมด แล้วก็ดูอีกจิตนึงพิจารณาดูว่าเกิดอารมณ์ใดๆ บ้าง เป็นไปอย่างไรบ้าง อะไรเป็นเหตุ อะไรจะเป็นที่สุด ที่ยกมาทั้งหมดไม่ใช่จะยกให้ตัวเองดีกว่าใคร แต่จะให้ดูว่า ที่สุดแล้วสิ่งที่พุทธภูมิต้องทำให้มากที่สุดคือดูใจของตน ว่าสิ่งที่ตนจะกระทำนั้นทั้งดีและชั่ว เป็นไปตามที่ตนต้องการจริงๆ หรือเปล่า บุญกุศลใดๆ ก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าชนะใจตนเอง พระโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์กระทำเพื่อชนะใจตนเองทุกพระองค์ มีอยู่เพียงแค่นี้ ไม่ว่าจะยกพระสูตรไหน เรื่องเล่าใดๆ การบำเพ็ญบารมีอะไรก็แล้วแต่ ล้วนแต่สูงที่สุดก็คือชนะใจของตนเองได้ทั้งสิ้น ถ้าชนะใจตนเองได้ ธรรมะอะไรต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไปศึกษาให้มากความ เรื่องนี้พิสูจน์แล้วด้วยตัวผมเอง ขันธ์ 5 ในชาตินี้จิตที่เกิดในชาตินี้แทบจะไม่มีอะไรดีเลย ความชั่วเต็มร้อย บุญก็ไม่มีใจจะทำ ความดีก็ทำแค่เท่าที่ตนเองพอใจ พูดได้เต็มปากว่าเลว 100% แต่ทำไมผมทำตัวอย่างนี้ มีจิตใจอย่างนี้ แล้วจึงเข้าใจธรรมะได้ อันนี้ตอบได้เลยว่า ธรรมะทั้งหมดเกิดขึ้นที่ใจเพียงส่วนเดียวจริงๆ ไม่เกี่ยวภาวะแวดล้อมภายนอกเลย แต่ที่ยังเป็นไปตามภาวะแวดล้อมเพราะจิตตนเองแพ้กิเลสยอมให้มันเป็นหัวหน้า ถ้าถามผมตอนนี้ว่าอยากได้บุญไหม ผมตอบได้เลยว่าเฉยๆ ไม่อยากได้ พอใจทำเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น กำลังใจแย่กว่าที่ทุกๆ คนจะคิดได้
    ที่ยกขึ้นมาพูดทั้งหมด จะให้คิดดูว่า "เรา" เริ่มที่จะ "เข้าใจ" จิตใจของ "เรา" เองบ้างหรือยัง พุทธภูมิต้นๆ ถึงกลางปลายๆ ที่ลำบากมากไม่ใช่เพราะต้องเรียนรู้ทุกข์ทุกอย่างอย่างเดียว แต่เพราะยังไม่เริ่มเรียนรู้จิตใจของตนเอง จึงยังต้องสร้างบารมีกันมากมาย อยากให้ฟังพระประวัติของสมเด็จองค์ปฐม ได้ข้อคิดมากมาย เกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมีของพุทธภูมิ พระองค์ท่านบอกข้อสงสัยในการบำเพ็ญบารมีแทบจะทุกข้อที่สงสัยเกี่ยวกับพุทธภูมิ วันหลังจะแกะจากเสียงเป็นตัวหนังสือให้อ่าน และวิเคราะห์ให้ดูว่าพระองค์ท่านทรงหมายถึงอะไรบ้าง ถึงจะเข้าใจไม่มากแต่ก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับพุทธภูมิบ้าง
     
  2. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +3,656
    ไม่แน่นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2006
  3. ยอดยาหยี

    ยอดยาหยี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +2,697
    ขอนิพพานก้อพอค่ะ พูทธภูมิคงไม่ไหวแค่นี้ก้อไม่อยากเกิดแล้ว T T ศีล 5 ก้อจะแย่แล้ว ความผิดพลาดมันบ่อยไปหน่อย
     
  4. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    ผู้ที่ละความอยากได้ แม้กระทั้งนิพพานเราก็ไม่อยาก ถือว่าสอบผ่าน
     
  5. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    จริงๆ ความอยากนี้ก็มีความต่างกันบ้างครับ


    ผู้ที่อยากไปถึงพระนิพพาน ถ้าหากท่านผู้นั้นตั้งกำลังใจถูก ท่านก็ไปได้.... นั่นคือ ท่านเป็นผู้หมั่นตรวจจิต รักษาจิต ให้พ้นจากกองกิเลส มีสติ ศีล ธรรม..

    ส่วนผู้ที่อยากไปนิพพานอีกพวกหนึ่ง หากท่านต้องการไปพระนิพพาน แต่ท่านไม่รู้การปฏิบัติ การวางกำลังใจให้ถึงพระนิพพาน ... ท่านต้องการแทบตาย ท่านก็ไปไม่ถึง
     
  6. BiMode

    BiMode เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +2,322
    ความอยากใดๆที่ไม่มีอกุศลจิตเข้าประกอบไม่จัดเป็นโลภะ, ถือว่าไม่บาป. ความอยากที่จะพ้นทุกข์ก็เช่นกันฉันนั้น...
     
  7. BiMode

    BiMode เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +2,322
    ฟังมาจากหลวงตาจรัญ.
     
  8. daynight

    daynight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +130
    เคยรู้จัก น้องคนหนึ่ง เขาบอกว่า เขามีจิตปรารถนา เป็นพระพุทธเจ้า ก็เลยถามเขาว่า ทำไม ถึงอยากจะเป็น เหนื่อยนะ ยากด้วย พอเข้ามาในเวบนี้ เพิ่งได้อ่านกระทู้ไม่นาน ทำไม ถึงอยากจะเป็นพระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์ กันจัง มันเสี่ยงกับการอยู่กับกิเลส ถ้าไม่ดี ก็ตกนรกเลยะ
     
  9. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +526
    คิดแบบนี้ไม่ดีนะครับ การที่จะไปทักท้วง ขัดขวางหรือ เบี่ยงเบนความคิด

    ของผู้ที่ คิดปราถนาโพธิญาณ ไม่ให้ปราถนาตามที่ตั้งใจไว้ ถ้าเค้าคิดว่าเหนื่อย ลำบากมาก


    เดี๋ยวเค้าก็ ลากันไปเอง แต่อย่าไปห้าม รึทักท้วงจะดีกว่าครับ ไปขวางทางบุญแบบนั้น


    เดี๋ยวจะเป็น มาร ไม่รู้ตัวเอานะครับ
     
  10. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    เป็นธรรมดา

    ที่หลายท่านสงสัย แม้ผมเองในอดีต โดนดุมาเยอะ ท่านมักจะบอกว่า
    ให้รู้ด้วยตนเอง


    จนมีโอกาสได้เข้ามาปฏิบัติ กับหลวงป๋า เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดฯ ที่ราชบุรี

    ปฏิบัติมหาสติปัฏฐานสี่ ตามแนววิชชาธรรมกาย ดั้งเดิมที่ตกทอดมาจาก

    หลวงพ่อวีระ รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ซึ่งรับวิชชาจากหลวงปู่สด มา



    การได้ค้นไปในกาย เวทนา จิต ธรรม จึงพบดวงบุญ ดวงบารมี ซึ่งมีในตัวทุกคน แต่เราไม่รู้จักตัวเองกันเลย จึงไล่ไขว่คว้าจากภายนอก

    ดวงบุญ ที่มากขึ้น เข้มข้นขึ้นจะกลั่นเป็นดวงบารมีทั้งสามสิบทัศ

    อยากทราบว่า อะไรเป็นอะไร ต้องทำให้ถึงและรู้เองเป็นปัจจัตตัง



    และสามารถตรวจสอบได้ เทียบกับการที่ครูอาจารย์ท่านอื่นบอกเราว่า

    เราทำอย่างนั้นมา สั่งสมมาอย่างไร เท่าไร

    ทำไมเราต้องบำเพ็ญแบบนี้....
     
  11. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    ขอบคุณทุกท่านนะครับ แต่ละท่านล้วนเป็นผู้รู้มากปฏิบัติมากในพุทธศาสนา ผมได้ความรู้เยอะมากเลยครับ ขออนุโมทนา สาธุ
     
  12. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    อันนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไรจริงๆคุณ ในสมัยที่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จกลับจากโปรด"พระมารดา"ที่ชั้น"ดาวดึง"หลือที่ภาษาช่าวบ้านๆเรียกว่าปาง"เปิดโลก" ในตอนนั้นไม่ว่าผี-เทวดา-ผีนรก-เปรต-อสูรกาย-มด-แมลง-ไส้เดือน-ปลวก-แมลงวัน-ตัวลิ้น-ตัวไล-ลูกน้ำฯฯ ต่างได้เห็นพระรูปพระโฉมองค์สมเด็จพระประธีปแก้วกันทั้งนั้น ในเมื่อได้เห็นพระพุทธเจ้ากันทั้วหน้าก็เกิดชอบใจในความสวยงามความยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า ก็เลย"อยากเป็นพระพุทธเจ้า" ก็ปรารถนาพุทธภูมิ แต่ตราบใดที่"บรามี"ยังไม่เต็มก็มีโอกาสลงนรกได้ทุกเมื่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2006
  13. surad

    surad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2006
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +1,287
    ผมขอเป็นสาวกก็พอครับ
     
  14. หนูน้อย

    หนูน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +1,038
    มีอาจารย์ที่มีญาณรักษาช่วงที่ไม่สบายสุด ๆ ท่านทำปริศนาให้เห็นทำนองว่าให้เลือกเอา ถ้าผ่านไม่ได้ก็ทำมือคว่ำลงเป็นวงกลม ถ้าผ่านได้ก็ทำมือหงายโดยเอาปลายนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้มาจรดกัน นิ้วที่เหลือกรีดออกเหมือนที่เห็นตามพระพุทธรูปบางองค์ค่ะ ? ช่วงนั้นมีเหตุการณ์มหัศจรรย์ต่าง ๆ เกิดขึ้นในชีวิต เช่น ไปปฏิบัติธรรมที่วัดแล้วพิจารณาร่างกายตนเองแบบอสุภกรรมฐาน จนได้กลิ่นเหม็น กลิ่นไหม้ และกลิ่นหอมของร่างกายตนเอง หลังออกจากวัดร่างกายก็เปลี่ยนแปลงไป กิเลสบางอย่างที่เคยมีก็หายไปหรือลดน้อยลง เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2006
  15. รักธรรม

    รักธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +41
    มีเหตุย่อมมีผล
     
  16. รักธรรม

    รักธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +41
    แต่จะบอกอะไรอย่างหนึ่งให้นะครับสำหรับผู้ปรารถนาพุทธภูมิทั้งหลาย พุทธภูมิที่แท้จริงจะไม่ถามใครว่าเป็นพุทธภูมิหรือไม่ เขาจะรู้ตัวของเขาเอง และจะต้องพิสูจน์หมดทุกอย่าง รู้ทุกอย่าง ขนาดกายใจตัวเองแท้ๆยังเที่ยวไปถามคนอื่นผมเห็นแล้วนึกสมเพช หากทำไป บำเพ็ญไปถึงจุดๆหนึ่งแล้วจะรู้ขึ้นมาเอง
    และอุปสรรคอย่างหนึ่งที่จะเจอกันมากสำหรับพุทธภูมิคือจะเจอพระอริยะลองบารมีโดยการชวนให้ลาพุทธภูมิ เพราะยังไงก็ไปนิพพานเหมือนกันหากไม่รักพุทธภูมิจริงแล้ว หากบารมีไม่มากจริงลาพุทธภูมิกันเป็นแถว อย่าลืมอยากรู้อะไรค้นได้ที่จิต
     
  17. รักธรรม

    รักธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +41
    ตอนนี้พระพุทธเจ้าที่จักรวาลอื่นก็ยังมีอยู่นะครับ อย่าคิดว่าไม่มี เพราะมีอนันตจักรวาลอยู่ พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งจะมีอานุภาพครองได้องค์ละแสนโกฏิจักรวาล
    ดังนั้นห่างจากรัศมีแสนโกฏิจักวาลแล้วจะมีพระพุทธเจ้าองค์อื่นอยู่ครับที่ยังทรงพระชนม์อยู่ตอนนี้
     
  18. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    ไม่เห็นมีใครเล่าอะไรเลยสักคน ผมก็เลยจะเล่านิทานให้ฟัง

    ... กาลครั้งหนึ่ง เด็กชายวัย 7 ขวบได้รับคำสั่งสอนจากบิดาว่า "เกิดมาต้องเป็นคนเหนือคนนะลูก" เค้าก็ครุ่นคิดว่าคนเหนือคนเป็นอย่างไร จึงเข้าใจเอาตามประสาเด็กว่า คงหมายถึงคนที่ทำอะไรแปลกๆได้เช่น เสกของให้หายได้ เหาะได้ รู้อดีต อนาคต อะไรทำนองนั้น เค้าจึงเริ่มหัดเป็นคนเหนือคน โดยเริ่มหัดเล่นกลด้วยตนเอง (เฮอะๆๆ สนุกเลย)

    ... พออายุได้ 12 ปี ก็เกิดอยากจะเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา เพราะท่านมีฤทธิ์เดชสูงสุด เป็นมนุษย์เหนือมนุษย์ เห็นเจ้าแม่กวนอิมบำเพ็ญบารมี (เห็นในโทรทัศน์สมัยนั้นกระมัง) ก็อยากจะเป็นอย่างเจ้าแม่กวนอิม บำเพ็ญบารมี ช่วยเหลือผู้อื่น มีความเมตตา ที่สำคัญมีฤทธิ์เหนือมนุษย์ด้วยแฮะ ก็เลยชอบเอาผ้าห่มมาห่มอย่างพระบ้าง มาห่มอย่างเจ้าแม่กวนอิมบ้าง ทำไม้ทำมือ เล่นอยู่คนเดียว จนเกิดเรื่องเมื่อแม่มาเจอ (555 เล่นคนเดียวคงไม่เป็นไร แต่นี่แม่ กลับมาเจอ ซวยแล้วสิ..) ก็เลยเข้าใจกันผิดนึกว่าลูกชายจะเป็นกระเท้ยกระเทย หลังจากนั้นมาก็เลิกทำอย่างนั้นไปเลย ต่อมาก็เรียนโหราศาสตร์ด้วยตนเองและเก่งขึ้นเมื่อมีครูผู้ใจดีไม่หวงวิชามาสอน(ครูเข้ามาสอนตอนอายุ 18) ฯ เพื่อเป็นคนเหนือคนให้ได้ (ยอมรับมันเลยเนาะ 555)

    ... พออายุได้ 14 ปี ก็เริ่มรู้จักโลกมากขึ้น รู้จักสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ ปั้นพระ เขียนยันต์ ศึกษาคาถาเวทมนต์ ฯ อยู่มาวันหนึ่ง นั่งไปก็คิดไปๆ เกิดความไม่เข้าใจขึ้นมาว่า "ทำไมคนในโลกนี้ ถึงได้ไม่เข้าใจเลยว่าการเกิดขึ้นมาในโลกนี้ มีแต่ความทุกข์ คนนั้นก็ทุกข์ คนนี้ก็ทุกข์ เราอยากจะช่วยคนทั้งหลายให้รู้ถึงทุกข์ภัยอันนี้ ให้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลายนี้จริงๆ " แล้วน้ำตาก็ไหล ๆ ๆ ๆ จนกลั้นความสะอึกสะอื้นไว้ไม่ได้ตามประสาเด็ก หลังจากนั้นมานั่งก็คิด นอนก็คิด ยืนก็คิด เดินก็คิด ทำอย่างไรเราจะช่วยให้คนทั้งหลายมองเห็นทุกข์ที่กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าทุกขณะนั้นได้ ทำอย่างไรเราจะทำให้คนทั้งหลายพ้นทุกข์ได้ ไม่ว่าอย่างไรเราจะต้องทำอย่างนั้นให้ได้
    แล้วก็เกิดอยากจะบวชขึ้นมาก แต่ครอบครัวนั้นหวังว่าลูกชายผู้นี้ จะให้สืบสกุล ทำคุณแก่วงศ์ตระกูล จะให้ครองเรือน ครองทรัพย์สมบัติสืบไป จึงตัดสินใจไม่ให้ลูกบวช ด้วยกลัวว่าลูกจะไม่เป็นดังหวัง เกรงว่าให้บวชแล้วจะไม่ยอมสึก จะยุ่ง เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วมีความเป็นไปได้สูง(มันเอาจริงแน่ๆ มันบวชไม่สึกแน่ๆ) ฝ่ายบุตรก็ตั้งใจจะบวชตลอดชีวิต ก็เพื่อหาทางที่จะทำช่วยให้คนพ้นจากทุกข์ ดังนั้นพ่อแม่จึงนิมนต์ให้หลวงปู่ (เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง มีศักดิ์เป็นปู่แท้ๆ) มาห้ามปราม โดยให้เหตุผล ว่าต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ก่อน แล้วไว้บวชทีหลัง ก็เลยตกลงรับปากตามนั้น หลังจากนั้นมาก็เหมือนพับเรื่องทุกอย่างไว้ แล้วดำเนินชีวิตต่อไปอย่างวัยรุ่นปกติ ใครมีอะไรให้ช่วย พอช่วยได้ก็ช่วยกันไป บางทีก็ขี้เกียจบ้างตามประสาเด็ก แต่เพื่อนทุกคนจะยอมรับนับถือในฐานะเป็นผู้มีน้ำใจ จิตใจดี และมีความเป็นผู้นำ อย่างไรก็ตาม ความต้องการบวชนั้นยังไม่จางไปไหนเลย อย่างไรเสียชาตินี้ก็ต้องตายในผ้าเหลืองให้ได้...

    นิทานยังไม่จบ แต่เล่าไว้เฉพาะตอนที่ปราถนาพุทธภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2006
  19. found_real_951

    found_real_951 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +141
    ขอพูดสักนิด

    พี่รักธรรมครับ ผมเคยถามอาจารย์ของผมมา 2 ท่านนะครับ ผมว่ามันอยู่ที่ตัวผมด้วยว่า เราจะหลงตัวเองรึเปล่า ถ้าเราหลงเมื่อไหร่ อบายก้จับเราตกลงไปเมื่อนั้น บางที เบื้องบนก้ไม่เปิดโอกาสให้ใครต่อใครรู้อะไรง่าย ๆ หรอกนะครับ เบื้องบน อาจจะทรงเมตตากรุณาเรา ให้เรามีกำลังใจก้เป้นได้ โดยผ่านสื่อกลางคือผู้ปฏิบัติที่ทรงศีล เทพ พรหม พระอริยะ ที่สมควรเปิดเผย ผมคิดว่าเป้นเช่นนั้นน่ะครับ แต่สุดท้ายแล้ว การปฏิบัติ สร้างบุญให้ได้รับพระพุทธพยากรณ์ด้วยตนเอง เป้นดีที่สุด แต่คนเราเกิดตายไม่รู้กี่หลายต่อหลายครั้ง ถ้าปฏิบัติถูกต้อง ได้ความสามารถทำให้ได้ระลึกรู้ในพระพุทธพยากรณืของจริงด้วยตนเองได้ยิ่งประเสริฐนัก ผมขอร้องให้พี่อย่าได้ว่าคนช่างถามว่าว่าน่าสมเพ๙นักเลย ผมมีวาสนาที่พบอาจารย์มีการปฏิบัติที่ดี มีจิตที่ดี จึงได้รับการโปรดให้ได้รับรู้ในเรื่องที่สูงค่ามาก พี่เองก้เป้นพุทธศาสนิกชนเหมือนกันโปรดเห้นใจในผู้ไม่รู้ด้วยเถิดครับ
    <!-- / message -->
     
  20. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ความปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าไม่ใช่ความปรารถนาพุทธภูมิ
    ความปรารถนาเมตตาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์เมื่อตนได้ถึงแล้ว (ไม่หลง)

    ต่างหากคือความปรารถนาพุทธภูมิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...