มีใครเป็นลูกหลานเสด็จปู่พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราชบ้างครับ

ตอนนี้ได้รู้จักคนลาว 1 คน นั่งสมาธิทีไรเห็น เรากับเค้าเปนพญานาคสีกะสีขาว แบบยืนที่ลำน้ำโขงอ่าค่ะ ทำไงดี ภาพติดหัวตลอดเลย

 

วัน พฤหัส ที่ 26 ส.ค. ก็ได้ไปสักการะหลวงปู่ยี วัดดงตาก้อนทอง จ. พิษณุโลก ท่านก็ประสิทธิ์ศาสน์ศิลป์ให้เป็นอย่างดี ได้มีโอกาสสนทนากับญาณธรรมท่านอยู่พักนึง รวมทั้งได้อาราธนาให้ท่านจารแผ่นทองและอธิษฐานเพื่อหล่อพระอุปคุต ท่านได้อธิษฐานน้ำผึ้งขมที่ผมนำไปถวาย ให้เป็นยารักษาโรคด้วย ขณะที่ท่านทำพิธีอยู่นั้น ฟ้าฝนทั้งฟ้าแลบ ฟ้าร้อง กระหน่ำลงมาอย่างหนัก เมื่อเสร็จพิธีฝนฟ้าก็สงบ

วันเสาร์ที่ 28 ส.ค. 53 ได้ไปทำพิธีอัญเชิญหัวใจพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ที่พระธาตุบังพวน ไปสถิตย์รวมกับองค์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ณ พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ จ. หนองคาย ปู่ฤษีจักรวาล(ปู่ฤษีเจ้าจักรวาล)ท่านเมตตาลงมาทำพิธีให้ ก็มีปรากฏการณ์อัศจรรย์ สำหรับผู้ที่อยู่ในพิธีดังกล่าว เช่น มีแมลงปอฝูงใหญ่ มาบินทักษิณาวัตร รอบๆพระธาตุบังพวน ขณะทำพิธี รวมทั้งมีลมพายุ พัดผ่านวนไปวนมาบริเวณพระธาตุบังพวน

สำหรับปู่ฤษีจักรวาล ท่านท่องเที่ยวไปมาอยู่ในจักรวาล ท่านเคยมาหาผมครั้งนึงเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ท่านย่อส่วนลงมาอยู่ในจิต ท่านคุยกับผมอยู่ 3 วัน ตอนนั้นท่านมาประสิทธิ์วิชาให้ ท่านบอกว่าท่านเคยเป็นอาจารย์ของผมมาก่อน จากนั้นท่านก็หายไปเลย 10 ปี มาเจอท่านอีกครั้งก็ตอนทำพิธีอัญเชิญหัวใจพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ที่หลวงปู่ทองทิพย์ ท่านมาทำศาสน์ศิลป์ไว้ให้เมื่อตอนที่ท่านมาบูรณพระธาตุบังพวน

วันถัดมาพ่อพระอินทร์ ท่านลงมาบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องผู้ที่จะมาวางศิลาฤกษ์ ปราสาทพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ทั้งสี่ทิศ พ่อจะลงมาวางศิลาฤกษ์เอง ขณะที่กำลังจะพิจารณาว่า ท่านจะมาทำยังไง ใช้ใครทำแทน แล้วแต่ละทิศจะต้องจัดวางสิ่งของในพิธีอย่างไร ก็ปรากฏเป็นกระแสญาณของพระพรหม พระอิศวร พระนารายณ์ ท่านจะลงมาทำพิธีให้ในแต่ละทิศ ตามหลักธาตุคือ ดิน น้ำ ไฟ ลม และ อากาศธาตุ ก็เป็นเรื่องแปลกสำหรับผม ที่ได้ทราบว่ามหาเทพทั้งสี่ ท่านจะลงมาวางศิลาฤกษ์ด้วยตนเอง แต่ถ้าย้อนกลับไป ตอนที่หล่อพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ มหาเทพทั้งสี่ท่านก็ได้อธิษฐานสร้างองค์พระ โดยมีหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร เป็นผู้นำแผ่นทองไปให้ท่านเหล่านั้น และนำกลับลงมาให้ผมนำไปหล่อองค์พระ

ต่อมาก็ได้อาราธนาหลวงปู่ทองทิพย์ ท่านมาสงเคราะห์เรื่องการเตรียมของต่างๆในการวางศิลาฤกษ์ ซึ่งต้องเตรียมล่วงหน้าหลายอย่าง งานวางศิลาฤกษ์นี้จะเป็นการรวมญาณของสามร่มโพธิ์ศรีด้วย ผมก็รอดูว่าจะมีปรากฏการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างในการทำพิธี

ก็ระลึกนึกถึงคำพูดของหลวงปู่ทองทิพย์ ที่ท่านเคยกล่าวว่า "ที่นี่เป็นใจกลางโลก ใจกลางพระศาสนา จะเฮ็ดอะไรก็ให้รีบเฮ็ด เดี๋ยวเทพเทวดาเขาก็จะลงมาเฮ็ดบารมีกันแล้ว"

 

คืนวันเสาร์ที่ 4 ก.ย. ได้อาราธนาหลวงปู่ทวดลงมาเพื่อขอคำปรึกษา เกี่ยวกับศาสน์ศิลป์ ในการกำหนดตำแหน่งธาตุ ตามทิศทั้งสี่ของปราสาทพระพุทธเจ้าห้าพระองค์และการวางองค์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์แต่ละพระองค์ให้ตรงตามทิศทั้งสี่และธาตุทั้งห้า หลวงปู่ท่านก็ได้ให้ความกระจ่างในเรื่องดังกล่าว

จากนั้นก็ได้สอบถามหลวงปู่ทวดเรื่องของทิศที่มหาเทพแต่ละพระองค์ จะทำพิธีวางศิลาฤกษ์ พ่อพระอินทร์ท่านก็เมตตาลงมาสงเคราะห์ให้พรบางอย่างและบอกวิธีการให้ พร้อมทั้งให้สร้างสิ่งของบางอย่างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญญลักษณ์แทนพระองค์ ก่อนจะกลับพ่อพระอินทร์ท่านก็บอกว่าท่านจะลงมาหาอีกตอนปลายเดือนนี้ที่ภูเขาควาย เท่าที่ทราบภูเขาควายเป็นอาณาเขตสำคัญแห่งนึงของพระอินทร์

พิจารณาดูแล้ว พ่อพระอินทร์ท่านก็ติดตามเกี่ยวกับการสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์มาตลอด เพราะเป็นงานของท่าน ผมเพียงแต่รับบัญชามาทำหน้าที่ตามที่ท่านสั่งเท่านั้น

ดังนั้นการที่ต้องสร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ โดยใช้พระแก้วมรกตเป็นต้นแบบและก็ทำองค์พระเป็นสีเขียวมรกตทั้งห้าพระองค์ ก็เป็นการสื่อถึงได้สองนัยยะคือเกี่ยวกับสีเขียวของพระอินทร์ และสีเขียวซึ่งเป็นจีวรของพระสงฆ์ในยุคพระศรีอริยเมตรัย

ช่วงนี้ก็ต้องเร่งให้ช่างโรงหล่อ สร้างหุ่นขี้ผึ้งต้นแบบของพระอุปคุต เพื่อเททองหล่อในวันออกพรรษา สองพันกว่าปีก่อนได้ไปอาราธนาพระอาจารย์ขึ้นมาปราบพญามาร ผ่านมาถึงกึ่งพุทธกาลก็ต้องไปอาราธนาพระอาจารย์ขึ้นมาอีกครั้งนึง ปู่ฤษีมุนีดาบสท่านบอกว่าเมื่อเป็นหน้าที่ก็ต้องทำไปจนครบห้าพันปี

พิจารณาไปพิจารณามา ก็มาถึงบางอ้อเรื่องของพระเจ้าอโศก ที่ผมไปกราบพระศพท่านพ่อลี กับลูกศิษย์ท่านเมื่อหลายปีก่อน แล้วกายทิพย์ท่านพ่อลีท่านออกมาคุยด้วยเป็นภาษามคธ ก็ได้อธิษฐานขอคุยกับท่านถึง 3 วาระ ผ่านมาหลายปีจึงจะเข้าใจความเป็นมาได้ก็ตอนที่ปู่ฤาษีมุนีดาบสท่านไขปริศนาให้นี่แหละ เมื่อมาถึงจุดนี้ก็ต้องหาโอกาสไปที่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี บ้านเกิดของท่านพ่อลี เพื่อไปนำเอาฆ้องของที่นั่นมาถวายที่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์

ปริศนาธรรมแต่ละเรื่อง จิ๊กซอในการสร้างบารมีแต่ละส่วนนี่ ล้ำลึกเหลือเกิน

และประโยคนึงที่ก้องอยู่ในโสตประสาทของผมจากคำของหลวงปู่ศรีจันทร์ วัดถ้ำวิปัสนาผาชัน อ. ท่าบ่อ จ. หนองคาย ท่านบอกผมไว้ก่อนมรณภาพว่า "เมื่อถึงเวลาต้องพากันสังคายนา พระไตรปิฎกเด้อ " ก็ทำให้นึกถึงพระโมคคัลลานะติสสะ ที่ท่านเป็นผู้นำในการสังคายนาพระไตรปิฎกในสมัยพระเจ้าอโศก ว่าท่านมาเกิดใช้ชาติอยู่ที่ไหนหนอ

และก็นึกถึงคำของหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร ที่ท่านบอกว่า "ปฏิบัติไปหาให้เจอว่าสามเณรที่พระเจ้าอโศกศรัทธาและเปลี่ยนใจจากการทำสงครามแล้วหันมาสร้างพระธาตุเจดีย์ถึง 84000 แห่งนั้น เป็นใครอยู่ที่ไหน" หลวงปู่ท่านบอกว่านี่แค่เหตุจากความศรัทธาในสามเณรองค์เดียว ยังสามารถสร้างพระธาตุเจดีย์ได้ถึง 84000 แห่ง

สำหรับญาติธรรมที่จะไปภาวนาที่ภูเขาควายกับผมในปลายเดือน ก.ย.นี้ ให้เตรียมเต็นท์ ขนาดนั่งคนเดียวพร้อมทั้งผ้ายางกันฝน รวมทั้งให้เตรียมสิ่งของที่จำเป็นไปด้วย ระยะทางขึ้นเขาไปกลับจากวัดพระบาทด้านล่างประมาณ 10 กม. บนยอดเขาไม่มีอะไรเลย เป็นป่ามีแต่ลานหิน น้ำก็ไม่มี ห้องน้ำก็ไม่มี ถ่ายหนักถ่ายเบาบนภูนั้นก็ไม่ได้ ใครถ่ายบนนั้นรับรองว่าได้เจอกระบองยักษ์รักษาสถานที่ ผู้ที่ไปภาวนาบนยอดเขาจะลงมาที่วัดด้านล่างในตอนสายเพื่อทำธุระส่วนตัว พักผ่อน เล่นน้ำตก แล้วกลับขึ้นไปใหม่ในตอนบ่าย

คาดว่าจะมีสิ่งมาทดสอบกำลังใจ ตามที่หลวงปู่ทวดท่านเตือนอย่างแน่นอนครับ ดังนั้นควรฝึกซ้อมภาวนาให้กลางวันกับกลางคืนเหมือนกัน คือ ห้ามหลับ เพื่อให้มีสติครองอยู่ตลอดเวลา สำหรับท่านที่ภาวนายังไม่แข็งแรงขอให้อยู่ภาวนาในเขตวัดด้านล่าง ครับ

 

โอ้ย กว่าจะอ่านจบ แต่ก็สนุกดีครับ ขอบคุณทุกๆท่าน ที่ให้ความรู้ มากมาย

 

อยู่นี้เองกว่าจะหาเจอ ^^

สวัสดีครับทุกๆท่าน

 

สวัสดีทุก ๆ ท่าน ที่มาเยือนมิได้หายไปไหนหรอกก็ไปตามวาระที่ต้องทำครับ

ฝากถึงหลาย ๆ ท่าน ให้ระวังสิ่งที่มาตามกระแสน้ำช่วงนี้มิได้มีแต่น้ำหลากอย่างเดียวแต่มีสิ่งอื่นมาด้วย มีจิตญาณอื่นมาด้วยให้ระวังไว้ด้วยนะครับ

 

สัปดาห์ที่แล้ว 24-26 ก.ย. 53 ได้พาคณะไปภาวนาที่ภูเขาควาย ประเทศลาว ก็โดนทดสอบหลายอย่าง แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

คืนแรกไปภาวนาที่ยอดเขา ออกเดินทางจากวัดด้านล่างประมาณตีสาม ฝนก็มาตามนัดคือฝนตกตลอด จากตีสามฝนเริ่มตกอย่างหนัก แต่ก็ต้องขึ้นยอดเขาเพราะว่าเอ่ยสัจจะไปแล้ว กว่าคนหัวแถวจะไปถึงยอดเขาก็ประมาณตีห้าครึ่ง หางแถวไปถึงก็ประมาณหกโมง เพราะทางเดินค่อนข้างลื่นเมื่อฝนตก

ระหว่างทางก็มีงูตัวเล็กๆออกมาเล่นน้ำตรงทางเดิน ก็ได้แต่สงสัยว่างูอะไรมาเล่นน้ำตอนดึก เดินมาได้หน่อยนึงก็มีกระแสเสียงมาว่าข้าน้อยเหล่าพญานาคมาต้อนรับ

ประมาณร้อยเมตรก่อนถึงยอดเขา ก็จะปรากฏรูปปั้นยักษ์หญิง-ชาย อยู่ทางซ้าย-ขวาของทางเดิน ก็มีกระแสวูบเข้ามาใกล้ ได้ยินเสียงบอกว่า น้องหล่าหายไปไหนตั้งนาน ไม่มีเพื่อนวิ่งเล่นซ่อนหาด้วยเลย จิตก็ตอบไปว่า พ่อพระอินทร์ท่านให้ไปทำงานศาสนา จากนั้นยักษ์ 2 ตนนั้นก็เข้ามาใกล้เดินขนาบ 2 ข้างไปตลอดทาง

เมื่อไปถึงยอดเขาก็มีกระแสวูบมาอย่างแรง เมื่อมองดูก็เห็นว่ากระสนั้นมาจากรูปปั้นของพระอินทร์ อยู่ในปราสาทเล็กๆ จิตก็บอกว่าพ่อพระอินทร์มาตามนัด ตามที่ท่านบอกไว้เมื่อเดือนก่อน ก็ได้แต่งเครื่องขันธ์สักการะท่าน

ท่ามกลางสายฝนผมก็ให้คณะนั่งสมาธิในศาลาเล็กๆ ส่วนผมปีนขึ้นไปนั่งสมาธิท่ามกลางสายฝน บนแท่นหินสูงหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตามที่หลวงปู่ทวดท่านเคยบอกไว้

พอจิตเริ่มสงบ ก็ทราบได้ทันทีว่าที่นั่งอยู่นั้นเป็นจุดเชื่อมต่อของสามโลก ก็ได้อธิษฐานแผ่เมตตาบารมี ตามแนวทางที่หลวงปู่ทวดท่านบอกไว้ จากนั้นจิตก็สงบเข้าไปอีกรอบนึงสักครู่ก็มีกระแสครูบาอาจารย์ที่เป็นฤษีท่านเข้ามา ก็ถามว่าท่านเป็นใคร ชื่ออะไร ท่านบอกว่าปู่ชื่อปู่นิรนาม ปู่ไม่มีชื่อ แล้วแต่ว่าใครจะเรียกชื่ออะไร ท่านบอกว่า พวกเจ้านี่มีบุญนะที่มาถึงที่นี่ได้ ที่นี่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ พอคิดจะถามท่านว่าศักดิ์สิทธิ์อย่างไร ท่านก็บอกว่าปู่ไปแล้ว ในจิตเห็นท่านลอยละลิ่วไปอย่างเร็วหายไปในภูเขา

นั่งสมาธิได้สักพัก คณะที่อยู่ท้ายแถวก็มาถึง ก็ได้เข้านั่งสมาธิกันตามจุดต่างๆ จากนั้นผมก็ลงจากแท่นหินสูงไปด้านล่าง สักพักปู่โตท่านมาดุเสียงดัง เรื่องที่มีพวกเราใส่รองเท้าเข้าไปในบริเวณสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ทุกคนก็รีบถอดรองเท้านำไปเก็บนอกบริเวณลานหิน ปู่โตท่านบอกให้อธิษฐานของพร ให้ขอในสิ่งเดียว จากนั้นท่านก็ให้เก็นเศษใบไม้และขยะต่างๆ เป็นการใช้หนี้สงฆ์

ประมาณแปดโมงครึ่ง ฝนหยุดตก(ฝนตกตั้งแต่ตีสามยันแปดโมงครึ่ง) ก็เดินทางลงจากเขาไปวัดด้านล่าง

 

คืนวันเสาร์ที่ 2 ต.ค. ได้อาราธนาหลวงปู่ทวดท่านลงมาให้คำปรึกษาในการสร้างพระอินทร์ และ พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ที่ฝั่งภูเขาควายประเทศลาว

หลวงปู่ทวดท่านแนะนำให้สร้างพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ โดยให้หล่อด้วยโลหะทั้งห้าพระองค์เพราะจะมีพลังมากกว่าที่สร้างโดยถืออิฐก่อปูน เพราะธาตุโลหะนั้นจะเป็นธาตุที่มีพลังมาก หากสร้างด้วยปูนจะมีพลังต่ำแม้ว่าจะสร้างให้มีขนาดใหญ่ก็ตาม

หลวงปู่ทวดท่านบอกว่าหากสร้างพระด้วยโลหะ ขนาดองค์เท่าคนหน้าตัก 30 นิ้ว จะมีพลังมากกว่าพระที่สร้างด้วยปูนหน้าตัก 10 วา ท่านบอกว่าเป็นเรื่องของธาตุ หากสร้างด้วยปูนเมื่อแปรธาตุแล้วจะไม่มีพลัง เข้าใจว่าพระที่สร้างด้วยปูนแล้วศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นไปตามพลังของธาตุที่บรรจุอยู่ภายใน

จากนั้นท่านก็ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะของพระอินทร์ที่จะต้องสร้างไว้เป็นสื่อญาณที่ภูเขาควายและลักษณะของพระอินทร์ที่จะต้องสร้างไว้ที่ฝั่งไทย รวมทั้งอาวุธ ที่ท่านถือด้วย

นอกจากนั้นก็ถามท่านเรื่องของสิ่งที่ตามผมมาจากภูเขาควาย หลวงปู่ท่านบอกว่าผู้ที่ตามผมมาจากภูเขาควาย 2 ตนคือ พญานาคใหญ่ ระดับกษัตริย์นาค ตนนึง และยักษ์ใหญ่ตนนึง ท่านบอกว่าท่านทั้งสองตนเป็นญาติของผมในอดีตแต่ต่างภพชาติกัน เป็นยักษ์และนาคฝ่ายดี เขาตามมารักษาและร่วมสร้างบารมี เขาตามอนุโมทนาบุญที่ผมไปทำตามสถานที่ต่างๆ

หลวงปู่ท่านบอกว่าให้เลือกว่า จะให้ใครอยู่และให้ใครกลับไปอยู่ที่ที่เดิม เพราะถ้ายักษ์กับพญานาคอยู่ด้วยกัน หากตีกันเมื่อไรก็จะวุ่นวาย แต่หลวงปู่่ทวดท่านเน้นว่าอย่าขับไสไล่ส่งเขา ท่านบอกผมว่าถ้าอยากได้ฤทธิ์ก็ให้ยักษ์อยู่ ต่อมาผมมานั่งพิจารณาดูแล้วก็เลยให้นาคกับยักษ์แบ่งหน้าที่กันทำ ห้ามล้ำเส้นกัน(ป้องกันการทะเลาะกัน) โดยให้พี่ยักษ์เป็นผู้รักษาเบื้องหน้า เบื้องบนและเบื้องขวา ส่วนพ่อพญานาค ก็ให้ท่านรักษา เบื้องซ้าย เบื้องหลังและเบื้องล่าง

จากนั้นหลวงปู่ท่านอธิบายถึงเรื่องที่เสื่อ 4 ผืนและเครื่องสักการะ หลังก้อนหินศักดิ์สิทธิ์ที่ภูเขาควาย ที่หายไปได้เอง โดยเห็นได้ด้วยตาเนื้อก่อนคณะผมนั่งสมาธิและเมืออกจากสมาธิเสื่อนั้นก็หายไป หลวงปู่ทวดท่านบอกว่า ดีแล้วที่ได้เห็นจากตาหยาบ ท่านบอกว่าพวกนางฟ้า เทวดาเขาลงมากราบไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น เขาตั้งใจแสดงให้พวกเราเห็นจึงได้มองเห็นเสื่อและเครื่องสักการะต่างๆ

จบลงด้วยภาพพระศรีฯ ทรงเครื่องสีขาว ที่จะจัดสมโภชน์ในงานกฐินพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ เพื่อนำองค์พระไปถวายให้วัดป่าใน จ. ชัยภูมิ และภาพหุ่นขี้ผึ้งของพระอาจารย์ของผมอีกรูปนึงคือพระอุปคุต ที่ท่านเมตตาปรากฏภาพขององค์ท่านให้ผมเห็นในอิริยาบทปราบมาร คือท่านั่งสมาธิ มีนาคปรก 9 เศียร (หุ่นขี้ผึ้งนี้จะคล้ายองค์ท่านประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์) โดยจะจัดเททองหล่อพระอุปคุต ที่พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ จ.หนองคาย ในวันออกพรรษา (23 ต.ค. 53) เวลาประมาณ 10.39 น.<!-- google_ad_section_end -->

 

เรียนสอบถามคุณ Aunyasit ครับ วัดถ้ำวิปัสนาผาชัน อ. ท่าบ่อ จ. หนองคาย อยู่ตรงไหนของอำเภอท่าบ่อครับ เผื่อมีโอกาสจะได้แวะเข้าไป

 

คุณ สิงหนวัติ

วัดถ้ำวิปัสนาผาชัน อ. ท่าบ่อ จ. หนองคาย อยู่เลยตัว อ.ท่าบ่อ ไปเส้นทางที่จะไป อ. ศรีเชียงใหม่ ครับ

ถ้าไปจาก อ. ท่าบ่อ วัดจะอยู่ทางขวามือ หลังวัดติดกับแม่น้ำโขง ช่วงใกล้ถึงวัดถนนจะโค้งครับ หลังจากเสร็จงานศพ หลวงปู่่ศรีจันทร์เมื่อหลายปีก่อน ผมก็ไม่ได้แวะไปที่วัดอีกเลย ตอนนี้ไม่ทราบว่ามีใครอยู่ ส่วนใหญ่ที่วัดนี้ถ้าพระสงฆ์ปฏิบัติไม่เข้มแข็งจะพักอาศัยได้ไม่นาน ภูมิเจ้าที่เขาค่อนข้างแรง มีทั้งพญานาคและบังบด

 

อยากทราบว่าตัวเองมีความผูกพันอะไรกับวัดและสิ่งสวยงามตามวัดไม่ทราบคะชอบไปวัดทำบุญ ชอบลายกนก ชอบภาพวาดที่สำคัญชอบรูปพญานาคมากๆ นิสัยส่วนตัวชอบจะชอบนอนมากๆนอนเยอะมากค่ะคนปกตินอนมากๆจะปวดหัว แต่หนูนอนทีข้ามวันยังๆได้เลย เวลากินก้อชอบนอนกินแม่ชอบบอกว่าเกิดที่งู(มะโรง) ยังทำนิสัยเหมือยงูอีก แล้วชีวิตก็จะเจอแต่งูแต่ทุกครั้งที่เจอกลัวแต่เค้าไม่เคยคิดจะทำร้ายเลย มีเหตุการณ์ครั้งนึงคุณแม่ให้เอาปลาดุกสดแช่ตู้เย็นเราด้วยความที่เป็นเด็กตอนนั้นน่าจะอายุประมาน15เอาปลาล้างน้ำก่อนกะให้เค้าว่ายน้ำแต่เค้ากลับดิ้นหนีจับเท่าไรก็ดิ้น เราเลยพูดกับเค้าว่าถ้าเราไม่ทำตามที่แม่บอกเราจะโดนแม่ว่ายอมเถอะนะแล้วจะทำบุญไปให้อโหสิให้ด้วย แปลกที่อยู่ๆเค้าก้อไม่ดิ้นปล่อยให้เราจับง่ายดายทั้งที่สู้กันมานานมาก อยากรู้ว่ามีอะไรเกี่ยวพันกับน้ำ และการนอนรึป่าวอ่ะคะและเกี่ยวพันกับพญานาคหรือไม่ชอบตอบด้วยนะคะ

 

ผมก็เป็นลูกหลานของพ่อปู่ครับ พ่อปู่สอนให้ทำแต่ความดี ให้ยึดมั่นในพระพุทธเจ้า
ในพระธรรม มีบางครั้งที่ไม่สบายใจพ่อปู่ก็บอกว่า อย่าคิดมากเลยลูก แค่ตื่นเช้ามามีกาแฟกินมีข้าวกินก็สาธุแล้วลูก คนที่เค้าทุกข์กว่าเรายังมีอีกมาก ยังมีอีกหลายอย่างที่พ่อปู่สอนผม เอาไว้จะกลับมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ หรือใครอยากทราบอะไรที่ผมพอรู้ก็จะบอกให้ครับ

 

อนุโมทนาค่ะ

เพิ่งเข้ามาครั้งแรก ยังไม่มีเพื่อนเลย ขอสมัครเป็นเพื่อนด้วยคนนะคะ ^^

 

สวัสดีค่ะพี่น้อง หายไปไหนกันหมดหนอ...ออกพรรษาแล้วนะ บั้งไฟพญานาคปีนี้ใครได้ไปดูบ้าง
ท่านใดมีเรื่องราวน่าสนใจก็นำมาบอกเล่า ขยายความสู่กันฟังบ้างเถิด พรเดินทางมาสู่แดนพุทธภูมิตั่งแต่วันที่ 15 ต.ค.
โดยอาศัยเมตตาบารมี ความเอื้อเพื้อเกื้อกูลของกัลยาณมิตรสองท่านที่ได้เมตตาเปิดทางบุญให้แก่พร
เอาไว้ว่าเมื่อเดินทางกลับถึงเมืองไทยแล้ว จะเล่าให้ฟัง เก็บภาพมาให้ดูเยอะเลย แต่ภาพไม่ค่อยคมชัดนะ
เพราะถ่ายภาพด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ พรมาอยู่ไกลบ้าน แต่ก็ยังอบอุ่นใจ ที่แห่งนี้ ได้พบคนที่มีน้ำใจดีหลายท่าน
คอยให้ความช่วยเหลือในหลายๆด้าน แบ่งปันน้ำใจ เอื้ออาทรต่อกันตามประสาคนไกลบ้าน เป็นผู้มาปฏิบัติธรรม

ด้วยความรัก ความคิดถึง ขอส่งกระแสบุญนี้ ข้ามฟ้าข้ามทะเลไป ถึงพี่ชาย พี่สาว น้องชาย น้องสาว ที่รัก ทุกท่านเทอญ

 

โมทนา ด้วยกับ น้องสาว ครับ และ ต้นบุญ คุณแอน (อุดร ) สู่แดน พุทธภูมิ แสวงบุญ ด้วยจิต สว่าง สะอาด สงบ ขอให้น้องพร พบ อริยสัจ
นำพาจิต เข้าถึง อริยมรรค อริยผล ดลใจ ให้ เข้าถึง อริยะบุคคล ขั้นต้น สู่

พระโสดาติมรรค พระโสดาติผล นำสู่
พระสคิทาคามี อนาคามีผล

ใบโพธิ ต้นมหาโพธิ

อิติภะคะวาตา อิติภะคะวะโต สัมมาสัมพุทโธ อุตตะโร มหาอิติ สัมมาพุทธะ โลกุตตระ โคตะโม ด้วย บารมี ๑๐ นะโม พุทธายะ

บุญรักษาคุ้มครอง

 

โมทนากับน้องพร ด้วยค่ะ....

นำประสบการณ์จากการแสวงบุญที่อินเดีย มาเล่าสู่กันฟังบ้าง...และฝากกราบที่หน้าอกงาม ๆ ของเฮียธรรมรัก ฯ ด้วยจ่ะ...ตัวพี่ มิได้หายไปไหน เพียงแต่ต้องไปช่วยงานบุญของคณะอื่นก่อน อาจทำให้ห่างหายกันไปบ้าง... แต่ก็แค่ชัวคราวเท่านั้น...

 

มีข่าวมาประชาสัมพันธ์ค่ะ....

จำหน่าย เสื้อเก๋ไก๋.... คอ V สีผ้าดิบ ราคาถูก.... หมดแล้ว หมดเลย ไม่ทำเพิ่มอีกแล้ว...(k) เพียงตัวละ 100 บ. เท่านั้น (ราคายังไม่รวมค่าจัดส่ง) ** *รายได้นำไปสมทบทุนในงานบุญครั้งต่อ ๆ ไป

SIZE ที่เหลืออยู่เวลานี้คือ...
M (36) จำนวน 13
L (38) จำนวน 4
XL (40) จำนวน 2
XXL (42) จำนวน 3

ตัวอย่างแบบเสื้อ ที่นำไปจำหน่าย ในการเดินทางก่อนหน้านี้...(ทริปกฐินวัดท่าขนุน / ทริปกฐินวัดป่าศิริสมบรูณ์)






ท่านใดสนใจ แจ้งความประสงค์ผ่านหน้ากระทู้ได้ค่ะ...

***ท่านชายพจน์... แจ้งไซด์มาใหม่นะคะ เบอร์ที่ท่านเลือก น้องว่าเล็กไปค่ะ...***

 

มาสนับสนุน ร่วมบุญ คณะบึงลับแล จ้า

วันนี้ ใด้คุยกันคร่าวๆ กับเพื่อน ที่ร่วม ปักกลด ด้วยกัน คาดว่า หลังจาก บุญ กฐินวัดป่าเวียงสวรรค์ อ.แม่ทะ ลำปาง แล้ว

จะร่วมเดินทาง ร่วมขนสัมภาระ เพื่อผู้ประสบภัย ทาง หาดใหญ่ สงขลา กันครับ ด้วย กลุ่ม นักวิทยุสมัครเล่น กลุ่มเล็ก

กลุ่มเด็กเลี้ยงแกะ ( ที่ไม่โกหก ) อิอิ...ความถี่ ที่ stand by 144.975 mhz. 4 ภูเก็ต

แฮะๆๆ ไม่ถนัดขนาดเสื้อ แม่พิชญ์ จองใว้ก่อน XL 1 ตัว จ้า (ขนาด เสื้อบึงลับแล แบบเดิม ฮะ )

อย่าลืม น่ะ

เมตตา อัปมาฌาณอนันตจักวาล ด้วย พรหมวิหารธรรม...

อ้างอิง ;
ยอดบุญ ณ วันที่ 2 พย.53 เวลา 07.20 น. จำนวน 12,253.97 บาท

ร่มบุญจะขอปิดรับร่วมบุญกฐินสร้างวิหารพระหยกขาว สำหรับบัญชีนี้ในวันที่ 4 พย.53 เวลา 12.00 น. นะคะ เพื่อขอปิดบัญชีและนำปัจจัยร่วมถวายพร้อมองค์กฐินในวันที่ 6 พย.53 ตามกำหนดการค่ะ

อนุโมทนา..<!-- google_ad_section_end -->

http://palungjit.org/threads/เชิญร่...ขาวมณี-มอบวัตถุมงคลเป็นที่ระลึก.257380/page-4

 

รับทราบค่ะ ท่านชายพจน์...

สนใจอยากขึ้นลำปางด้วยนะคะ แต่เกรงว่าจะกลับลงมาลพบุรีไม่ทัน ทอดกฐิน เวลา 13.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 7 พย. 53 ตอนนี้งานกฐินหลาย ๆ งานเจอโรคเลื่อนเพราะฤทธิ์น้ำท่วม ทำให้หลายงานชนกัน แบบแยกร่างไม่ถูก... ไม่รุ้จะไปงานไหนนี่สิ...

ขอร่วมบุญกะเจ้ร่มบุญด้วยนะคะ จำนวน 999.11 บาท นำไปจัดสรรค์ ทั้งวัดที่ลำปาง และ วัดที่ อ.นครไทย ได้เลยค่ะ...โอนเข้าบัญชี ธ.กรุงไทย ผ่านอินเตอร์เน็ท ให้แล้วค่ะ...สาธุเน๊อ

 

ค่า~แต่คงต้องหลังจากกลับถึงเมืองไทยแล้วนั่นแหละ ตอนนี้ยังไม่ค่อยสะดวกคุยค่ะ เรื่องนี้ต้องเล่ากันยาว
นี่เพื่อนร่วมห้องที่หอพักของวัดไทยพุทธคยาให้ยืมใช้โน๊ตบุ๊คก็เลยแอบชะแว๊บเข้ามาคุยกันได้นิดหน่อย

คิดอยากจะทำอย่างงั้นอยู่เหมือนกันค่ะ สักครั้งนึงน่า~แต่ก็นั่นแหละ พรกลัวคุณพี่เธอจะเส้นตื้น
ถ้าเกิดพรเข้าถึงตัวแล้วคุณเฮียเธอท่านบ้าจี้ดีดเปรี้ยงเข้าให้ พรก๊ะกระเด็นก็เท่านั้น พี่เธอยิ่งตัวโตอยู่ด้วย
ถ้าจะให้ดีพี่พิชญ์เข้าไปกราบด้วยตัวเองดีกว่านะ ดึกแล้วนอนดีกว่า พรุ่งนี้ยังต้องออกเดินทางตั่งแต่เช้า~