จะไปดู นรก สวรรค์ พรหม นิพพานได้อย่างไร?

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Tanunchapat, 26 ตุลาคม 2010.

  1. Tanunchapat

    Tanunchapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +3,191
    [​IMG]
    เมื่อหลวงพ่อได้ยืนยันให้ข้าพเจ้าทราบ อย่างแน่ชัดแล้วว่า นรก สวรรค์ พรหม และนิพพาน มีจริงตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ก็ทำให้ข้าพเจ้าอยากที่จะได้ไปรู้ไปเห็นกับเค้าบ้าง จะได้ไม่ต้องมาเป็นมนุษย์หลงโลก หรือปลาหลงหนองน้ำเน่าอย่างที่หลวงพ่อว่าอีกต่อไป ดังนั้นข้าพเจ้าจึงรีบถามหลวงพ่อต่อในทันใดว่า

    “ ถ้านรก สวรรค์ พรหม นิพพาน มีจริง แล้วผมจะไปดูกับเขาบ้างได้ไหมครับหลวงพ่อ?”

    หลวงพ่อหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ถามข้าพเจ้าว่า

    “เออ ที่คุณอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือได้มาจนทุกวันนี้นั้น เป็นเพราะคุณเชื่อตามครูที่เขาสอนคุณใช่หรือไม่?”

    ข้าพเจ้านิ่งคิดเพราะไม่ทราบว่าหลวงพ่อจะมารูปใดแน่ แต่ก็ตอบว่า

    “ครับ ต้องเชื่อครู”

    “ ถ้าครูสอนว่า ก.ไก่ ต้องเขียนอย่างนี้ ข.ไข่ ต้องเขียนยังนี้ แต่คุณไม่สนใจ กลับหนีไปเล่นหยอดหลุม ทอยกองเสีย คุณจะรู้ไหมว่า ก.ไก่ เขียนอย่างไร ข.ไข่ เขียนอย่างไร?”

    หลวงพ่อถามไปเรื่อยๆ

    “คงไม่ทราบครับ” ข้าพเจ้าตอบอย่างระวัง

    “ถ้าครูสอน กอ-อะ-กะ,กอ-อา-กา แล้วคุณไม่ฟังไปเล่นหยอดหลุม ทอยกองอีก คุณจะอ่านออกเสียงกับเขาได้ไหม?”

    หลวงพ่อถามต่อ

    “คงไม่ได้ครับ” ข้าพเจ้าตอบตามความเป็นจริง

    “คราวนี้ถ้าครูสอนให้อ่าน ตาดี ตีงู....แล้วคุณก็ยังหนีไปเล่นหยอดหลุม ทอยกองอีก คุณคิดว่าคุณจะผสมคำอ่านไปกับเขาได้ไหม?”

    หลวงพ่อถามยิ้มๆ

    “คงไม่ได้ครับ” ข้าพเจ้าตอบ

    “รวมความว่าที่คุณอ่านหนังสือออก เขียนหนังสือได้ เพราะคุณเชื่อตามที่ครูสอนแน่นะ”

    [​IMG]

    หลวงพ่อถามย้ำ

    “ครับต้องเชื่อครู”

    “นั่นแหล่ะ เหมือนกัน ถ้าคุณอยากจะไปดูว่า นรก สวรรค์ พรหม และนิพพานมีจริงหรือไม่ คุณก็ต้องเชื่อและปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซิ คราวนี้คุณลองถามตัวเองดูซิว่า คุณเคยในทานไหม เคยรักษาศีลไหม เคยเจริญพระกรรมฐานไหม เคยเจริญวิปัสสนากรรมฐานไหม เคยบูชาพระหรือไหว้พระสวดมนต์เป็นประจำไหม

    เคยรู้จักระงับนิวรณ์ 5 บ้างไหม เคยทรงพรหมวิหาร 4 บ้างไหม...เป็นต้น ถ้าคุณไม่ตอบ ฉันก็จะตอบแทนให้ในหลักใหญ่ๆ ว่าทานนั้นคุณอาจทำบ้างโดยเต็มใจบ้างไม่เต็มใจบ้าง ศีล ของคุณเอาแต่ศีล 5 เฉยๆ ก็รู้สึกว่าจะกระพร่องเต็มที โดยเฉพาะศีลข้อ 5 ของคุณนั้นขาดกระจุย ยิ่งการเจริญภาวนาด้วยแล้ว คุณไม่มีเลยนะ นี่ฉันพูดชี้ให้คุณเฉพาะแค่ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งเป็นบันได 3 ขั้น เท่านั้นนะ

    เมื่อเป็นเช่นนี้คุณก็คงตอบตัวเองได้ใช่ไหมว่า คุณนั้นหาได้เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอน ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาอย่างจริงจังไม่ ดังนั้นการที่คนอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ เพราะไม่เชื่อครูฉันใด คุณก็ย่อมไม่มีวันได้ไปเห็น นรก สวรรค์ พรหม และนิพพาน เพราะคุณไม่เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าฉันนั้น”

    ข้าพเจ้านั่งตาปริบๆ ฟังหลวงพ่ออย่างตั้งอกตั้งใจ แม้ใจซึ่งเต็มไปด้วยมิจฉาทิฐิอยากที่จะโต้แย้งบ้าง แต่ก็อับจนปัญญาไม่ทราบว่าจะโต้แบบใด เพราะหลวงพ่อพูดความจริงทุกอย่าง จึงได้แต่ส่งเสียงอึกอักอยู่ในลำคอ หลวงพ่อเห็นข้าพเจ้านั่งฟังด้วยอาการสงบ ก็พูดว่า

    “การที่พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักการให้ทานนั้น ก็เพราะทานเป็นพื้นฐานของบุญขั้นแรก หากเป็นคุณปฏิบัติตามได้จะมีผลอย่างมหาศาล คุณลองพิจารณาดูจะเห็นได้ว่า ทุกครั้งที่คุณควักเงินออกบริจาคเป็นทานจิตของคุณในขณะที่ให้ทานย่อมไม่มีความโลภใช่ไหม เพราะถ้ายังมีความโลภ คุณก็บริจาคทานไม่ได้เงิน 10 บาท 20 บาทก็มีความหมายใช่ไหม

    และจิตคุณขณะที่ให้ทานก็ย่อมไม่มีความโกรธใช่ไหม เพราะถ้าคุณมีความโกรธอยู่ใครมาขอแค่ 1 บาท คุณก็ไล่ตะเพิดไปแน่ๆ ใช่ไหม และเมื่อจิตไม่มีโลภ ไม่มีโกรธ ก็ย่อมไม่มีความหลงใช่หรือไม่และผลที่ตามมาจากการให้ทานบ่อยๆ นี้เองจะทำให้คุณเกิดพรหมวิหาร 4 ใน 2 ข้อแรกคือ เมตตา( ความรัก) และกรุณา(ความสงสาร) ขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    [​IMG]

    และเมื่อความเมตตา กรุณาเกิดขึ้นในจิต ก็จะทำให้คุณยิงนก ตกปลา ฆ่าชีวิตคนและสัตว์ไม่ได้ จะลักขโมยของผู้ใดก็เกิดความสงสารเห็นใจ จะเป็นชู้กับลูกเมียใครก็ทำไม่ได้จะโกหกมุสาใครแม้แต่นัดเขาไว้ไม่ไปตามนัดก็สงสารเขา จะเสพย์สุรายาเมาก็สงสารลูกเมียในที่สุดคุณก็จะรักษาศีล 5 ได้โดยไม่ยากเย็น เป็นการก้าวเข้าสู่บันไดขั้นที่ 2 ของบุญได้ใช่ไหมและเมื่อใดศีล 5 ของคุณบริสุทธิ์ การเจริญพระกรรมฐานซึ่งเป็นบันไดขั้นที่ 3 ก็ย่อมไม่มีอุปสรรคมากนัก”

    ข้าพเจ้าฟังหลวงพ่ออธิบายอย่างเพลิดเพลิน และคิดตามไปด้วยเหตุและผลโดยตลอด แม้จะยืดยาวเพียงไรข้าพเจ้าก็จดจำได้อย่างแม่นยำและจำได้ตลอดกาลด้วย (สำหรับเรื่องการจำแม่นนี้ อาจเป็นเพราะข้าพเจ้าเคยสร้างสมมาแต่ปางก่อนก็ได้

    เพราะตั้งแต่เด็กข้าพเจ้าข้าพเจ้าสอบได้ที่ 1 มาโดยตลอดก็เพราะสามารถอ่านหนังสือครั้งเดียวจำได้ โดยไม่ต้องนั่งท่องจำเหมือนคนอื่นให้เสียเวลาเลย)
    หลวงพ่อก็คงรู้ว่าข้าพเจ้าเข้าใจที่ท่านพูด และยังมีความในใจที่จะฟังต่ออย่างไมรู้สึกเบื่อหน่าย จึงอธิบายต่อว่า

    “การที่จะนั่งพิสูจน์ค้นคว้า เกี่ยวกับ นรก สวรรค์ พรหม และนิพพาน หรือหลักสูตรพระพุทธศาสนาในเรื่องต่างๆ นั้น จะมาค้นคว้าหากันในด้านวัตถุของโลกวิทยาศาสตร์นั้ย่อมไม่มีทางสำเร็จ เพราะเป็นการค้นหาและพิสูจน์ที่ไม่ตรงจุด ถ้าจะให้ตรงจุดก็จะต้องหัดทรงอารมณ์ดีขั้นต้นๆ 3 ประการให้ได้เสียก่อน คือ 1. เลิกสนใจกับความดีความชั่วของคนอื่น สนใจแต่อารมณ์ของตนเองให้

    ทรงอยู่ในความดีโดนเฉพาะ 2 .ทรงศีล 5 บริสุทธิ์ตลอดกาล ไม่แนะนำให้ผู้อื่นทำลายศีล และไม่ยินดีเมื่อคนอื่นทำลายศีล 3 . ระงับนิวรณ์ 5 ให้ได้เมื่อทรงอารมณ์ดี 3 ประการได้แล้วก็พยายามทรงพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) ให้ครบถ้วนตลอดเวลาที่มีลมปราณอยู่ และให้ทรงได้เป็นปกติด้วยต่อจากนั้นไป คุณก็ฝึกจิตจับนิมิตด้วยกสินอย่างใดอย่างหนึ่ง 3 อย่างนี้ คือ 1.เตโชกสิณ(เพ่งไฟ) 2. โอทาตกสิณ (เพ่งสีขาว) 3. อาโลกกสิณ(เพิ่งแสงสว่าง)

    การเพ่งนั้นเมื่อคุณทรงอารมณ์ขั้นต้นจนเป็นปกติ ผลของการเพ่งไม่มีอะไรยากใช้เวลาอย่างช้าไม่เกิน 7 วัน ก็จะทรงนิมิตเป็นฌานได้อย่างสบาย และใช้นิมิตนั้นเป็นสื่อ นรก สวรรค์ และพรหมโลกได้ และเมื่อใด หากคุณทรงวิปัสสนาญาณได้ อารมณ์ถึงโคตรรภูญาณเป็นอย่างน้อยคุณก็จะสามารถพิสูจน์ได้ว่า

    พระนิพพานนั้นมีจริงอีกด้วยและถ้าจะให้ดีอีกสักนิด เห็นชัดอีกสักหน่อย คุณก็พยายามละโลกธรรม 8 ประการเสียเลยเรื่องได้ลาภเสื่อลาภ ได้ยศเสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา จงปล่อยไป ไม่สนใจเอามาเป็นอารมณ์ หากทำได้เช่นนี้แล้ว คุณก็จะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่า นรก สวรรค์ พรหม และพระนิพพาน นั้นมีจริง อ้าวนั่นคุ๕นั่งหลับไปแล้วรึ”

    “ป่าวครับหลวงพ่อผมเข้าสมาธิฟังครับ ผมถนัดในการนั่งหลับตาฟังเพราะจำได้แม่นยำดี อ้อ หลวงพ่อครับ โคตรภูญาณ คืออะไรครับ?”

    ข้าพเจ้าตอบแล้วถามต่อ

    “เมื่อคุณเจริญสมถกรรมฐานด้วยการเพ่งกสิณจนได้ทิพจักษุญาณแล้ว คุณก็จะต้องเจริญวิปัสสนาญาณให้เข้าถึงโคตรภูญาณ ยังไงล่ะ โคตรภูญาณนั้นจะอยู่ระหว่างโลกียะกับโลกุตระ คือ ส่วนหนึ่งของใจยังเป็นโลกียชน แต่อีกส่วนหนึ่งของใจจะเป็นโลกุตรชน คือใกล้เป็นพระโสดาบันนั่นแหละ” หลวงพ่อตอบ “เป็นยังไงยังงงๆ ใช่ไหม ไม่เป็นไร ต่อไปฉันจะเขียนคู่มือปฏิบัติพระกรรมานให้ อ่านดูแล้วปฏิบัติตามไปสักวันหนึ่งไม่นานเกินรอคุณก็จะเข้าใจที่ฉันพูดมานี้ทุกอย่างได้เอง”

    หลวงพ่อตอบ

    “เป็นยังไงยังงงๆ ใช่ไหม ไม่เป็นไร ต่อไปฉันจะเขียนคู่มือปฏิบัติพระกรรมานให้ อ่านดูแล้วปฏิบัติตามไปสักวันหนึ่งไม่นานเกินรอคุณก็จะเข้าใจที่ฉันพูดมานี้ทุกอย่างได้เอง”

    “หลวงพ่อครับ แล้วมโนมยิทธิ ล่ะครับไปดูนรก สวรรค์ พรหม นิพพานได้ไหม?”

    ข้าพเจ้ารีบถามเพราะเคยได้ยินบางท่านพูดถึงกัน

    “คุณจะต้องเข้าใจก่อนนะว่ามโนมยิทธินั้น หมายถึงอะไร มโนมยิทธิแปลว่าฤทธิ์ทางใจ ถ้ามโนมยิทธิแบบเต็มกำลังแล้ว ท่านหมายถึงการถอดจิตออกกจากร่างแล้วท่องเที่ยวไปในภพต่างๆ และผู้ที่จะสามารถทำได้ จะต้องทรงวิชชาสาม หรือ ทรงอภิญญา 6คุณไม่เข้าใจอีกละซิ เห็นนั่งทำหน้างงๆ

    [​IMG]

    ไม่เป็นไรถ้าอยากจะรู้ว่าวิชชาสาม หรืออภิญญา 6 มีอะไรบ้าง ฉันจะเขียนไว้ในคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานแล้วคุฯไปอ่านเอาเองก็แล้วกัน เอาเป็นว่าถ้าหากคุณทางฌาน 4 ได้ในกสิณอย่างใดอย่างหนึ่งกสิณ 3 อย่างที่ฉันว่าแต่ขอแนะนำให้เอาอาโลกกสิณ คือเพ่งแสงสว่าง จะเป็นการดีเพราะเป็นกสิณที่สร้างทิพยจักษุญาณโดยตรง เมื่อได้ทิพยจักษุญาณแล้วก็ทำจิตให้โปร่งสว่างไสว

    แล้วกำหนดจิตว่าของร่างกายนี้จงเป็นโพรงก็จะเห็นว่าร่างกายเป็นโพรงใหญ่ต่อจากนี้ก็กำหนดจิตว่า ขอร่างอีกร่างหนึ่งจงปรากฏขึ้นภายในกายนี้ กายอีกกายหนึ่งก็จะปรากฏขึ้นต่อจากนี้ก็ค่อยบังคับกายนั้นให้เคลื่อนไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอาทิเช่น ตับไตไส้ปอด เส้นเลือดทุกเส้น ลำไส้ทุกส่วน ประสาททุกส่วนบังคับให้กายนั้นเดินไปตรวจให้ถ้วนทั่วทั้งร่างกาย จะเห็นว่าแม้เส้นเลือดฝอยเล็กๆ ร่างนั้นก็เดินไปได้อย่างสบาย เสมือนเดินอยู่บนถนนสายใหญ่

    เห็นร่างกายเรานี้เป็นโพรงใหญ่คล้ายเรือหรือถ้ำขนาดใหญ่เมื่อท่องเที่ยวในรางกายจนชำนาญแล้ว ก็ควรหาความรู้ในสภาพของอวัยวะต่างๆ ตลอดจนสภาพความสกปรกโสมมในร่างกายของเราไปด้วยเมื่อมีความชำนาญในการเที่ยวและการตรวจสอบสภาพร่างกายของเราดีแล้วก็กำหนดจิตว่าเราจะไปนรกขุมใด สวรรค์ชั้นใด พรหมชั้นใด หรือ พระนิพพาน หรือบ้านใด เมืองใด ดาวดวงใด

    ก็พุ่งกายออกไปก็จะถึงถิ่นที่ประสงค์ทันที ให้เวลาไม่ถึงครึ่งวินาที เมื่อถึงแล้วจิตจะบอกเองว่าสถานที่นั้นเป็นภพภูมิใด บ้านเมืองใด ใครบ้างที่พบโดยไม่ต้องมีคนบอกเพราะสภาพของจิตเป็นทิพย์ กิเลสไม่ได้หุ้มห่อไปด้วย จึงรู้อะไรได้ตามความเป็นจริงเสมอ เป็นยังไงล่ะ นั่งฟังเพลินเลย น่าสนุกนะ

    หากฝึกได้ละก็คุณได้เที่ยวสนุกแน่ ไม่ต้องเสียค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นใดเลยนะ ไม่ต้องไปเที่ยวยืมใครหายใจ ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของบ้านเจ้าของสถานที่ สามารถเข้าไปตรวจสอบอะไรต่ออะไรได้หมดเลยนะ”

    “ครับ ผมจะพยายามฝึก”

    ข้าพเจ้าตอบ เป็นยังไงครับ ท่านผู้อ่านท่านใดอยากรู้ว่า นรก สวรรค์ พรหม และนิพพานมีจริงหรือไม่ จะไม่ลองพิสูจน์โดยการฝึกปฏิบัติตามที่หลวงพ่อสอนบ้างหรือ ยิ่งในปัจจุบันนี้ หนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานของหลวงพ่อก็ยังมีการจัดพิมพ์ขึ้นมาแล้ว

    มิหน้ำซ้ำหลวงพ่อยังได้เมตตาฝึกมโนมยิทธิให้ลูก หลาน ญาติ มิตร อยู่อย่างสม่ำเสมอทุกเดือนที่บ้าน พลอากาศโท ม.ร.ว.เสริม ศุขสวัสดิ์ ณ ซอยสายลมอีกด้วย จึงนับเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งของท่านที่สนใจทั้งหลาย

    อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็แอบภาคภูมิใจอยู่มิใช่น้อยที่คำถามข้อนี้ของข้าพเจ้ามีส่วนช่วยผลักดัน ให้หลวงพ่อต้องจัดทำหนังสือคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานขึ้นมา เพราะหลวงพ่อคงได้พิจารณาแล้วว่าหากไม่จัดทำขึ้น ก็คงต้องนั่งตอบคำถามของข้าพเจ้าซึ่งเป็นคนขี้สงสัยอยู่อย่างไม่มีวันจบสิ้นนั่นเอง

    และแม้ข้าพเจ้าจะหมดสงสัย ลูกหลานญาติมิตรของหลวงพ่ออีกไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนคนก็คงจะต้องสงสัยโน่นสงสัยนี่กันอีก และหลวงพ่อก็คงจะต้องตอบคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอยู่ดี

    ดังนั้นหากท่านผู้อ่านไม่เข้าใจในศัพท์บางคำที่ข้าพเจ้าเขียนก็ดีหรือปฏิบัติไปแล้วติดขัดในขั้นตอนใดก็ดี ขอจงได้อ่านในคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐานบ้าง ไตรภูมิ บ้าง มหาสติปัฏฐาน 4 และหนังสืออื่นๆ ที่หลวงพ่อเขียนเอาไว้เถิด ก็จะเข้าใจได้เอง ยิ่งปฏิบัติ ปัญญาก็จะยิ่งเกิดจนในที่สุดท่านจะสามารถถามเองและตอบเองได้อย่างน่าพิศวง

    สู่แสงธรรม โดย พล.อ.ต.มนูญ ชมภูทีป

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.984161/[/MUSIC]​
     
  2. ศรีสิทธิ

    ศรีสิทธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1,515
    [​IMG]


    อะจีรัง วะตะยัง กาโย ปะฐะวิง อะธิเสสสะติ ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ นิรัตถังวะ กะลิงคะรัง<O:p
    ร่างกายนี้ ไม่ช้าก็มีวิญญาณไป ปราศจากวิญญาณแล้ว ร่างกายก็ถูกทอดทิ้งเหมือนกับท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์


    กราบ อนุโมทานาสาธุ
     
  3. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    “การที่พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักการให้ทานนั้น ก็เพราะทานเป็นพื้นฐานของบุญขั้นแรก หากเป็นคุณปฏิบัติตามได้จะมีผลอย่างมหาศาล คุณลองพิจารณาดูจะเห็นได้ว่า ทุกครั้งที่คุณควักเงินออกบริจาคเป็นทานจิตของคุณในขณะที่ให้ทานย่อมไม่มีความโลภใช่ไหม เพราะถ้ายังมีความโลภ คุณก็บริจาคทานไม่ได้เงิน 10 บาท 20 บาทก็มีความหมายใช่ไหม

    และจิตคุณขณะที่ให้ทานก็ย่อมไม่มีความโกรธใช่ไหม เพราะถ้าคุณมีความโกรธอยู่ใครมาขอแค่ 1 บาท คุณก็ไล่ตะเพิดไปแน่ๆ ใช่ไหม และเมื่อจิตไม่มีโลภ ไม่มีโกรธ ก็ย่อมไม่มีความหลงใช่หรือไม่และผลที่ตามมาจากการให้ทานบ่อยๆ นี้เองจะทำให้คุณเกิดพรหมวิหาร 4 ใน 2 ข้อแรกคือ เมตตา(ความรัก) และกรุณา(ความสงสาร) ขึ้นโดยไม่รู้ตัว


    กราบ อนุโมทนา สาธุ...ยิ่งค่ะ
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p

    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2010
  5. หยก พัทยา

    หยก พัทยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +158
    พยายามละโลกธรรม 8 ประการเสียเลย เรื่องได้ลาภเสื่อลาภ ได้ยศเสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา จงปล่อยไป ไม่สนใจเอามาเป็นอารมณ์ หากทำได้เช่นนี้แล้ว คุณก็จะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่า นรก สวรรค์ พรหม และพระนิพพาน นั้นมีจริง
    อนุโมทนา สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,940
    กราบอนุโมทนาสาธุด้วยครับ....หากเราชาวไทยปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์แล้วก็จะได้ไม่ต้องมาเกิดกันให้วุ่นวายอีก....
     
  7. love_song_music

    love_song_music เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2009
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +907
    กราบอนุโมทนาสาธุ คงมีสักวันที่ผมจะมีโอกาส
    ได้ไปฝึกสมาธิที่ ซ.สายลมบ้างนะคับ
     
  8. Canetion

    Canetion เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    528
    ค่าพลัง:
    +2,026
    อนุโมทนา...สาธุ แนวทางตามคำสอนของหลวงพ่อและครูอาจารย์ค่ะ ^^

    เดื่อนที่แล้วไปฝึก มโนมยิทธิ ที่บ้านสายลมมา บรรยากาศอบอุ่น และสงบสุขมากๆคะ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 พฤศจิกายน 2010
  9. waythai

    waythai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,499
    ค่าพลัง:
    +15,192
  10. ธรรมศึกษา

    ธรรมศึกษา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +2
    ขออนุโมทนาบุญในการให้ความรู้ครั้งนี้ด้วย ครับ...สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...