รู้ไว้ใช่ว่า..หมอดูชี้"ภัย""เมืองไทยท้ายปี" "แรง"ทั้งคน-ธรรมชาติ

​

ไม่จบง่าย ๆ สำหรับกรณีการปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลด้วยต้นไม้ โดยเฉพาะต้นปาล์มยะวา และต้นไทรอังกฤษ จากเดิมตอนมีการนำต้นไม้มาปลูกเพิ่มและมีกระแสข่าวประมาณว่ามีเรื่องการ “ปรับฮวงจุ้ยทำเนียบฯ” เข้ามาเกี่ยวด้วย ตามมาด้วยกระแสข่าวที่ว่าปรับแล้วยิ่งไม่ดี ซึ่งวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาก็มีการรื้อถอนต้นปาล์มยะวาและต้นไทรอังกฤษออกไป แล้วก็มีซินแสฮวงจุ้ยบางคนชี้ประมาณว่า...ทำอย่างนี้ยิ่งเละ???
“ทำตอนนี้ยิ่งซวยมากขึ้น จะทำให้ดวงตกอย่างหนักจนเหลือศูนย์ ต้องเจอเคราะห์กรรมอย่างหนัก จะโดนถึง 3 เด้ง โดยเฉพาะดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งเรื่องโดนลอบสังหารและสุขภาพ เรื่องยุบพรรคจนต้องยุบรัฐบาล และเรื่องระเบิดการเมืองที่จะรุนแรงขึ้น” ...นี่เป็นการระบุของ อ.มาศ เคหาสน์ธรรม หมอดูฮวงจุ้ยเจ้าของฉายาซินแสไฮเทค ต่อกรณีการรื้อถอนต้นไม้ในทำเนียบฯ ล่าสุด พร้อมกันนี้หมอดูรายนี้ก็ยังทายทักเชิงการเมืองอีกหลายจุด

กับเรื่องนี้...ก็แน่นอนว่าสุดแท้แต่ใครจะเชื่อ-ไม่เชื่อ??

อย่างไรก็ตาม หากจะว่ากันเรื่อง “ฮวงจุ้ย” ในมุมของ อ.มาศ ก็น่าพิจารณา ซึ่งหมอดูฮวงจุ้ยรายนี้ได้สะท้อนผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ว่า... อะไรที่เป็นไสยศาสตร์ไม่ใช่ฮวงจุ้ย เพราะฮวงจุ้ยเป็นวิทยาศาสตร์ โดยหลักการนั้น “ฮวง” คือ “ลม” ส่วน “จุ้ย” คือ “น้ำ” ดังนั้น “ฮวงจุ้ย” จึงเป็นหลักวิชาการของ “พลังงานที่มากับลมและน้ำ” เป็นเรื่องการบริหารพลังลมกับน้ำให้มาในทิศทางที่ถูกต้อง เพื่อความรุ่งเรืองของมนุษย์

นอกจากนี้ ฮวงจุ้ยจะรวม 3 ชะตาคือ “ชะตามนุษย์-ชะตาฟ้า-ชะตาดิน” โดยมีจุดสำคัญ 5 จุดที่ต้องคำนึงถึง คือ... 1.ชัยภูมิ ทิศทางลม, 2.ลานโล่งด้านหน้า, 3.ทิศทางของประตูต้องถูกยุค, 4.จุดที่อยู่นาน ๆ เช่น โต๊ะผู้บริหาร การตลาด บัญชี, 5.สิ่งที่กระจายพลังออกมา เช่น น้ำพุ พัดลม แอร์ เตาไฟ

อ.มาศบอกอีกว่า... มีอีก 2 สิ่งเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับฮวงจุ้ย สิ่งแรก “จักรวาลแบ่งเป็นยุค” แบ่งเป็นยุคละ 20 ปี ปัจจุบันอยู่ในยุค 8 หรือโซน 8 และสิ่งที่สอง อุปกรณ์ดูฮวงจุ้ยที่เรียกว่า “จานหล่อแกน” หรือแผนภูมิกาลเวลาของจักรวาล โดยการดูจะมี 4 ทิศทาง เริ่มจากทิศตะวันออก-ธาตุไม้ ทิศตะวันตก-ธาตุทอง ทิศเหนือ-ธาตุน้ำ ทิศใต้-ธาตุไฟ แผนที่บนจานหล่อแกนแต่ละช่วงทิศจะแบ่งช่องย่อยอีก 8 ช่องย่อย จะบอกว่าช่องย่อยไหนทำมุมสอดคล้องกับจักรวาลในยุคนั้น ๆ สำหรับยุคปัจจุบัน ถ้าตรงกับเลข 8 ก็จะดีที่สุด

พร้อมกันนี้ อ.มาศยังยกตัวอย่างกรณี “ฮวงจุ้ยทำเนียบรัฐบาล” ของไทย โดยบางช่วงบางตอนก็เช่น... ตัวอาคารมีส่วนเว้าแหว่งอยู่ด้านหลัง เหมือนนักโทษที่โดนมัดมือไพล่หลัง ด้านสวนฝั่งซ้าย เรียกว่าฝั่งมังกรเขียว เป็นพลังหยาง จะมีผลกระทบต่อผู้ชาย ส่วนสวนฝั่งขวา เรียกว่าฝั่งเสือขาว พลังจะกระทบต่อผู้หญิง

“ที่ผ่านมามีความพยายามแก้ฮวงจุ้ยสองฝั่ง โดยนำต้นไม้ลงปลูกใหม่ แต่โหรงเหรงเกินไป ด้านหน้าโล่งที่เป็นจุดเด่น ไม่มีต้นไม้ที่จะช่วยกักเก็บลม กักเก็บพลังที่ดีให้อยู่กับตัวอาคาร”

สำหรับสถาปัตยกรรมอาคารทำเนียบฯ มีปีกซ้าย-ปีกขวา โดยปีกซ้ายต่ำกว่าปีกขวา เป็นลักษณะ “2 หัว” ทำให้คนที่เข้าอยู่ในทำเนียบฯ มีแง่คิดคนละทิศคนละทางตลอดเวลา ที่สำคัญปีกซ้ายคือผู้หญิง มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ต่ำกว่าปีกขวาคือผู้ชาย ที่มีรูปทรงเป็นโดม คำวิเคราะห์คือ ผู้บริหารประเทศเป็นผู้ชาย แต่ไปอยู่อาคารที่เสริมพลังผู้หญิง จึงไม่ใช่ฮวงจุ้ยที่ดี ข้อเสนอแนะคือ ควรปรับฮวงจุ้ยใหม่ โดยปลูกต้นไม้ในลักษณะแนวรั้วต้นไม้สูงประมาณ 1 เมตร เป็นรูปโค้งโอบด้านหลัง เพื่อกักลมหรือพลังดีเข้าอาคาร และรูปโค้งด้านหน้า เพื่อให้รั้วต้นไม้เป็นแนววนลมเข้าตัวอาคาร ขณะเดียวกันควรทำสวนน้ำด้านหน้า โดยมีน้ำพุเป็นจุดไฮไลต์ แต่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารประเทศ เรื่องฮวงจุ้ย ทำเนียบฯ ต้องคำนึงว่าจะส่งผลดีต่อประชาชนหรือไม่ด้วย ซึ่งสวนน้ำจึงควรออกแบบเป็น “สวนน้ำมังกร” โดยลากยาวจากมุม ไหลเลื้อยเข้าหาน้ำพุ

“การปรับที่ทำเนียบรัฐบาลที่ผ่านมา และที่พรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าไม่ใช่การปรับฮวงจุ้ย แต่เน้นเรื่องไสยศาสตร์ ความเชื่อ และมีการเอาศาสนามาผสมกัน มีทั้งศาสตร์ไทย เขมร ฮินดู เทพ พระพรหม พระนารายณ์ ปนกันไปหมด” ...อ.มาศระบุ ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นบางส่วนเกี่ยวกับศาสตร์ฮวงจุ้ยในมุมของหมอดูฮวงจุ้ย รายนี้

ทั้งนี้ ล่าสุด อ.มาศ ยังสะท้อนผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ถึง “สถานการณ์ประเทศไทยปลายปี 2553” นี้ด้วยว่า... “เดือน ต.ค. การเมืองจะวุ่นวายขัดแย้งถึงขีดสุดอีก จะเกิดพลิกผันเปลี่ยนแปลงรุนแรง ทำเนียบรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ มีความเสี่ยงที่จะถูกระเบิดหรือไฟไหม้ เดือน พ.ย. คนสำคัญจะถูกพิฆาต ตำแหน่งใหญ่ถูกลิดรอน โรคระบาดกำเริบรุนแรง แต่พรรคประชาธิปัตย์จะมีโชคหล่นทับ 2 เด้ง เดือน ธ.ค. หายนะใหญ่จะมาทางทิศใต้ อาจเกิดแผ่นดินไหว และสึนามิ”

สรุปคือ...ปลายปี 2553 นี้ “ภัยในไทยจะยังแรง”

ใครจะเชื่อ-ฟังหูไว้หู-รู้ไว้ใช่ว่า-ไม่เชื่อ...ก็สุดแท้แต่

แต่ดีที่สุดคือ...“ตั้งตนอยู่บนความไม่ประมาท!!”.



ที่มา เดลินิวส์

 

คนดีๆ อยู่ที่ไหน ๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะมาช่วยเอง ไม่ต้องไปขอร้องบนบาน
คนไม่ดี ต่อให้อยู่ที่ไหน บนบาน ยังไงสุดท้ายก็หนีความจริงไปไม่พ้น

 

"จงเชื่อในกฎแห่งกรรม" ถ้าผู้นำประเทศมีสติและมีผลงาน ตลอดจนคิดดี ทำดี เพื่อประเทศชาติ / ส่วนรวม เชื่อว่าความดีต้องสนองตอบ ในเรื่องของฮวงจุ้ยคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งเพื่อความสบายใจของผู้ทำ เพราะหากผู้ดูฮวงจุ้ย 3 คน แนวทาง 3 อย่าง แล้วจะเชื่อใคร?