ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ยังมีแนวทางประสานความร่วมมือกันในแบบพาหุภาคีครับ

วันนี้ดร.สมิทธิ ท่านเมตตาเดินทางมาให้สัมภาษณ์เรื่องภัยพิบัติที่"เมตตาภิรมณ์"และท่านเมตตายินดีแบ่งปันข้อมูลด้านภัยพิบัติ รวมทั้งประสานการร่วมมือในการช่วยเหลือป้องกันภัย ระหว่างมูลนิธิภัยพิบัติ ที่ท่านเป็นประธาน กับกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติและ ต่อไปคาดว่าจะมีโครงการร่วมกันอีกในหลายโครงการครับ

ข้อมูล เนื้อหา วิดีโอกำลัง จัดทำเพื่ออัพโหลดขึ้นเวบอยู่ครับ ขอเวลาสักนิดหนึ่ง

 

แค่อยากให้ ทุกคนเริ่มต้น และตระหนัก เตรียมตัว ด้วยตนเองก่อนน่ะครับ ถึงเวลาที่ร่วมมือกัน มันจะทำให้มันง่ายขึ้น อะไรๆ ก็ราบรื่นขึ้น จะได้มีแรงช่วยเหลือ คนที่ไม่พร้อมต่อไป

ผมอยากรณรงค์ แค่นี้ล่ะครับ ทุกวันนี้ สถานการณ์ปกติ ครับ สิ่งที่มันสื่อสารกันได้ทั่วประเทศไทย คือ internet

วันนี้ ถึงมีโครงการต่างๆนานา แต่ผมยังคิดว่า ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด สำหรับสมาชิกที่มาร่วมกิจกรรม สิ่งที่เป็นสื่อกลางได้ ก็คือโลกไซเบอร์นี่ล่ะครับ

ดังนั้น แนวทางปฏิบัติจริง อยากรณรงค์แค่ เริ่มต้น โดยการเตรียมตัว และช่วยเหลือตนเองไปก่อน

โดยส่วนตัว ยังไม่เกิดเจอภัยพิบัติกับตัวเอง แต่ถ้าหากไม่มีการซักซ้อม หรือลงมือเลย เวลาเกิดภัยจริงๆ คงปรับตัวค่อนข้างลำบาก แต่ถ้าสถานการณ์บังคับ ก็คงตามเวลาที่จะสามารถปรับตัวได้

สิ่งที่เห็นผลได้จริง ต้องลงมือปฏิบัติครับ จะเตรียมใจ จะเตรียมกาย จะเตรียมด้านไหน ก็แล้วแต่กำลังของแต่ละท่าน ที่พร้อมที่จะลงมือครับ

ผมคิดว่า คนอ่านหลายๆท่าน ที่ได้เข้ามาอ่านที่นี่ โชคดีมาก ได้รับรู้ข่าวสารด้านภัยพิบัติ และก็มีการเตรียมการกันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย

แต่มันก็ยังมีอีกคนหลายล้านคน ที่ไม่ทราบเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติและการเตรียมการนี้เลย

ดังนั้น ผมก็อยากให้ คนที่อ่านในนี้ ได้เตรียมตัว และรู้จักพึ่งพาตนเองไว้ก่อน ก่อนที่จะมาร่วมมือกันทำอะไรร่วมกันน่ะครับ

เหมือนกับ ทหารที่ออกไปรบ ที่ต้องเตรียมทั้งยุทโธปกรณ์ ปืน กระสุน เสบียง และพร้อมใจกันออกรบน่ะครับ

 

ดูแลตัวเอง และคนรอบข้างดีๆกันด้วยนะครับ ช่วงนี้ อากาศไม่ค่อยดีเลย

 

โหร คมช.ทำนายนายกฯอภิสิทธิ์ อยู่ยาวได้อีก​

​

โหร คมช.ทำนายสถานการณ์บ้านเมืองมีเรื่องวุ่นวาย แต่ไม่ถึงขั้นนองเลือด โดยนายกรัฐมนตรี ยังบริหารประเทศต่อไปได้

อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดัง ได้เปิดตัวหนังสือ "เปิดนิมิต 3 เรื่องเล่าฉบับ อ.วารินทร์ " มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเรื่องคำทำนายต่าง ๆ รวมถึงเรื่องบาปบุญ คุณโทษ และเวรกรรม โดยมี แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ไปร่วมเสวนาแสดงความคิดเห็นด้วย

ทั้งนี้ อ.วารินทร์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในช่วง 2-3 เดือนหลังจากนี้ว่า จะมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นบ้าง แต่จะไม่รุนแรงนองเลือดอย่างที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์จะเป็นลักษณะนี้อีกระยะ จากนั้นบ้านเมืองก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะยังสามารถนั่งบริหารประเทศต่อไปได้ ส่วน พล.อ. ประยุทธ จันทร์โอชา ที่ขึ้นมารับตำแหน่ง ผบ.ทบ. คนใหม่นั้น จะเป็นผู้ที่มาช่วยคำบัลลังก์ และประคับประคองบ้านเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อย ส่วนเรื่องอักษร ป. ที่จะได้ขึ้นมาเป็น นายกรัฐมนตรี ต่อจากนายอภิสิทธิ์ นั้น อ.วารินทร์ ยังยืนยันคำทำนายเรื่องนี้เหมือนเดิม แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียดว่าเป็นใคร

อย่างไรก็ตาม อ.วารินทร์ ได้เตือนนักการเมือง และผู้ที่ทำประโยชน์ให้บ้านเมือง แล้วนำผลประโยชน์ไปใช้เพื่อส่วนตัวและพวกพ้อง ให้ระวังกรรมจะตามทัน รวมถึงพวกที่นำงบประมาณ ซึ่งได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของประชาชนในรูปแบบของการเสียภาษี ไปใช้ในการไม่ถูกต้อง จะได้รับผลแห่งการกระทำด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ อ.วารินทร์ ยังได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องถึงภัยพิบัติธรรมชาติ ในช่วงเดือน ตุลาคม- พฤศจิกายนนี้ ที่จะเกิดในภาคใต้ คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ทั้งนี้ อ.วารินทร์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้คนไทย ก้าวผ่านความขัดแย้งต่าง ๆ แล้วหันมาปรองดองเพื่อชาติบ้านเมือง เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของพวกเราทุกคน

ข่าวทีวีช่อง 3 วันอังคาร ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ที่มา http://www.krobkruakao.com

 

แจ้งข่าวด่วน สึนามิจะเข้า ฝั่งอ่าวไทยพร้อมอันดามัน พร้อมกันใน วันที่ ๓๐ ธ.ค.๕๓ เวลาประมาณเที่ยงคืนถึง ตี ๒ ครับ (ลักษณะของน้ำจะกระโจนเข้าใส่ชายฝั่งทั้ง ๒ ด้านพร้อมกัน)

จุดที่ปลอดภัย

จ.นครศรีธรรมราช สำนักสงฆ์ ธรรมเจริญ (อ.ร่อนพิบูลย์)
เขามหาชัย (มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช)
จ.สงขลา สถานที่ เขาตังกวน , สำนักสงฆ์ถ้ำฤาษี, สวนสาธารณะหาดใหญ (ตรงพระใหญ่)
และสถานที่ภูเขาสูงที่มีพระใหญ่ทั่วประเทศ

ภาคเหนือแผ่นดินไหว
ภาคอีสานแผ่นดินยุบ
ภาคใต้หนักสุด แผ่นดินจมหายตั้งแต่ ชุมพร ถึง จ.นราธิวาส ให้เตรียมกระจายข่าวอพยพคนก่อนวันที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ครับ สาธุ

ช่วยกันกระจายข่าวด้วยครับ
๐๘๙ - ๗๔๘๙๔๖<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ทั่วทุกภาคมีฝนฟ้าคะนองตกหนักบางแห่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2553 พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 32 องศาลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สธ.สั่งลุยบริษัทผลิตนำเข้าอาหารเจกว่า3ล. </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>“จุรินทร์”สั่งลุยบริษัทผลิตนำเข้าอาหารเจ ผสมเนื้อสัตว์ มูลค่ากว่า 3 ล้าน หลอกลวงผู้บริโภคช่วงเทศกาลกินเจ


วันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ. พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และพล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก. ปคบ. ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า จากนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่มุ่งหวังให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยจากการเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยในช่วงเทศกาลกินเจที่กำลังจะมาถึงในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยผู้บริโภค ประกอบกับการได้รับเรื่องร้องเรียนจากชมรมเจแห่งประเทศไทยให้ตรวจสอบอาหารเจ เนื่องจากสงสัยว่ามีการลักลอบผสมเนื้อสัตว์

ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้ลงพื้นที่เพื่อสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารเจจากท้องตลาดจำนวน 18 รายการ

ส่งตรวจวิเคราะห์ พบว่ามี DNA จำเพาะของเนื้อสัตว์ในอาหารเจจำนวน 2 รายการ ได้แก่ กุ้งส้มเล็ก เจ อย.10-3-05445-1-0001 และลูกชิ้นปูอัดเจ อย.10-3-05445-1-0066 โดยทั้ง 2 รายการเป็นของบริษัท อาหารเจหยงฝั้น จำกัด จึงได้ขยายผลตรวจสอบบริษัทดังกล่าว โดย อย. ได้ประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นำกำลังเข้าตรวจค้นบริษัท อาหารเจหยงฝั้น จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 48/31 หมู่ 1 ซอยบางกระดี่ 19 (จุลพงษ์) ถ.บางขุนเทียน แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ผลิตและนำเข้าอาหารเจ โดยมีใบอนุญาตผลิตอาหารเลขที่ 10-1-07252 ได้รับเลขสารบบอาหารจำนวน 12 รายการ และใบอนุญาตนำหรือสั่งอาหาร ฯ เลขที่ 10-3-05445 ได้รับเลขสารบบอาหารจำนวน 110 รายการ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จากการตรวจค้นพบอาหารเจไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 5 ตู้ ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

1. อาหารเจที่เคยมีประวัติตรวจพบ DNA จำเพาะของเนื้อสัตว์ 3 รายการ ดังนี้
- กุ้งส้มเล็ก เจ เลขสารบบ อย. 10-3-05445-1-0001
- ลูกชิ้นปูอัดเจ เลขสารบบ อย. 10-3-05445-1-0066
- ลูกชิ้นเอ็นหมูเห็ดหอมเจ เลขสารบบ อย. 10-3-05445-1-0009
2. อาหารเจที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้องกว่า 20 รายการ
3. พบการผลิตอาหารเจที่ฉลากแสดงเป็นอาหารที่นำเข้า คือ ลูกชิ้นเห็ดหอมเจ เลขสารบบอย. 10-3-005445-1-0027

ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังได้นำหมายค้นเข้าตรวจสอบสถานที่เก็บอาหารเจของบริษัท อาหารเจ หยงฝั้น จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 66/8 หมู่ 3 ถนนเอกชัย ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ผลตรวจสอบพบอาหารเจแสดงฉลากไม่ถูกต้อง 17 รายการ จำนวน 1,397 กิโลกรัม อาทิ
- ไก่แช่เหล้า
- เอ็นหมูแม็คโคร
- เนื้อห่านรมควัน
- แฮมรมควัน

เจ้าหน้าที่จึงได้อายัดของกลางทั้งหมดจากทั้ง 2 แหล่ง รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท พร้อมเก็บตัวอย่างอาหารเจดังกล่าวส่งตรวจวิเคราะห์ ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมแจ้งข้อหา ดังนี้

- ข้อหาผลิตและนำเข้าอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท
- หากผลการตรวจวิเคราะห์พบว่ามี DNA จำเพาะของเนื้อสัตว์ จะเข้าข่ายเป็นอาหารที่มีฉลากเพื่อ
ลวงหรือพยายามลวงผู้อื่นให้เข้าใจผิดในเรื่องคุณภาพหรือลักษณะพิเศษอย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 พันบาทถึง 1 แสนบาท

นพ. พิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า ในช่วงเทศกาลกินเจ ผู้บริโภคที่รับประทานอาหารเจ ล้วนแต่ต้องการงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์

ซึ่งถือเป็นการสร้างบุญอย่างหนึ่ง ดังนั้นการกระทำของผู้ประกอบการรายดังกล่าวถือเป็นการทำบาป และไร้ซึ่งจริยธรรม จึงขอเตือนผู้ผลิตและผู้จำหน่ายอาหารเจ ขอให้มีจริยธรรมในการประกอบการ สำหรับผู้บริโภค อย. จะพยายามทุกวิถีทางไม่ให้ผู้บริโภคถูกหลอกลวง หากพบเห็นการผลิต การจำหน่าย และการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่หลอกลวงผู้บริโภคโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง

ขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ โดยแจ้งมายังสายด่วน อย. โทร 1556 หรือ Email :1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสามารถมาร้องเรียนได้ด้วยตัวเองที่ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย. อาคาร 1 ชั้น 1 ทุกวันเวลาราชการ หรือร้องเรียนที่ บก.ปคบ. ตู้ปณ. 459 ปณศ. สามเสนใน พญาไท กทม. 10400 เพื่อ อย. และ บก.ปคบ. จะได้ติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด รวมทั้งลงโทษสถานหนักแก่ผู้กระทำผิดกฎหมายต่อไป

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สนพ.คาดน้ำมันในประเทศปรับขึ้นใน 1-2วัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สนพ.คาดน้ำมันเตรียมปรับขึ้นใน 1-2 วัน ตามราคาตลาดโลก ขณะที่แอลพีจียังตรึงราคาถึงก.พ.54

<!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>-->

นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ 1-2 วันมีโอกาสจะปรับขึ้น หลังจากราคาตลาดโลกสูงกว่า 81 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าการตลาดน้ำมันของผู้ค้าต่ำกว่า 1 บาทต่อลิตร


ส่วนราคาก๊าซหุงต้มตลาดโลก ล่าสุดขยับขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยสูงถึง 690 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน มีผลให้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องจ่ายส่วนต่างการนำเข้าให้แก่ บมจ.ปตท. ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายเดียวในสัดส่วนสูงขึ้น แต่ภาพรวมยังไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการเรียกเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อ เพลิงแต่อย่างใด ล่าสุดเงินกองทุนที่ไหลเข้ายังอยู่ระดับ 700-800 ล้านบาทต่อเดือน


ทั้งนี้จากการหารือร่วมกับธุรกิจพลังงาน เพื่อประเมินปริมาณผลิตแอลพีจีและการใช้แอลพีจี ในช่วงไตรมาส 4 และปี 2554

พบว่า การใช้ปีหน้าจะยังขยายตัว 8-9% และประเทศไทยยังจำเป็นต้องนำเข้าแอลพีจี คาดว่าไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 ตันต่อเดือนในปีหน้า แม้โรงแยกก๊าซฯ ที่ 6 จะกลับมาเดินเครื่องผลิตใน 2 เดือนข้างหน้าก็ตาม อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพลังงานมีนโยบายจะตรึงราคาแอลพีจีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 และตามนโยบายนายกรัฐมนตรีกำหนดให้แยกราคา โดยให้ราคาภาคการขนส่งและภาคครัวเรือนเป็นราคาแอลพีจีที่เกิดจากการผลิตก๊าซ ในประเทศ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมจะมีการลอยตัวตามตลาดโลก แนวทางนี้อาจจะทำให้การใช้ภาคอุตสาหกรรมไม่ขยายตัวมากนัก และยังเป็นการลดภาระเงินกองทุนที่จ่ายค่าชดเชยการนำเข้าแอลพีจีอีกด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>
โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันจันทร์ ที่ 4 ตุลาคม 2553 เวลา 13:28 น.] </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=black width=650 bgColor=#f9eab0><TBODY><TR><TD>Popular keyword : Lee Da Hae ลี ดา เฮ, Yoon Eun Hye ยูน อึน เฮ, Song hye kyo ซองเฮเคียว
the one soft จำหน่ายsoftware windows ลิขสิทธิ์ ที่ถูกที่สุดในไทย</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<FORM encType=multipart/form-data method=post name=formtopic action=vote.php target=_blank><INPUT type=hidden name=mem_id> <INPUT value=56410 type=hidden name=topic_id> <INPUT type=hidden name=action_type> <INPUT type=hidden name=vote_score> Vote เพิ่มคะแนนกระทู้นี้ <SELECT name=votepoint> <OPTION selected value=10>10</OPTION> <OPTION value=8>8</OPTION> <OPTION value=6>6</OPTION> <OPTION value=4>4</OPTION> <OPTION value=2>2</OPTION></SELECT> <INPUT border=0 alt="Click here to Vote" align=absMiddle src="http://tnews.teenee.com/etc/vote.gif" width=140 height=58 type=image name=vote_button> </FORM>​

[ เก็บกระทู้นี้ไว้ใน Topic Bookmark | ส่งกระทู้นี้ต่อให้เพื่อน ]
<CENTER></CENTER><FORM id=formlist method=post name=formlist action=56410.html#reply><INPUT type=hidden name=quoteid> <INPUT type=hidden name=replyno>

<TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" border=1 cellSpacing=0 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#eeeeee vAlign=top width=150>

<!-- Avatar -->​

คุณ : ชายไทย
สถานะ : บุคคลทั่วไป
<A href="http://member.teenee.com/" target=_blank>[สมัครสมาชิก] <!-- icon_profile -->

</TD><TD bgColor=#f5f5f5 vAlign=top> ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD>ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเป็นชาติแล้ว ยังมีหน้ามาปรับราคาน้ำมันขึ้นอีก

เฮ้อ.....Thailand Only!!!!
<!-- Reply_Detail_Display -->
<CENTER>
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee vAlign=top> </TD><TD bgColor=#f5f5f5 vAlign=top>[ วันจันทร์ ที่ 4 ตุลาคม 2553 เวลา 13:57 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
​

<TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" border=1 cellSpacing=0 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#eeeeee vAlign=top width=150>

<!-- Avatar -->​

คุณ : คนไทย รักเมืองไทย
สถานะ : บุคคลทั่วไป
<A href="http://member.teenee.com/" target=_blank>[สมัครสมาชิก] <!-- icon_profile -->

</TD><TD bgColor=#f5f5f5 vAlign=top> ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD>ใช่ๆๆๆเห็นด้วยกับความเห็นที่ 1 เงินบาทแข็งตัวมันควรจะลดดิ แม้ดอลจะขึ้นแต่บาทแข็งเราต้องซื้อถูกลงจากเมื่อก่อนดิ กรรมของคนไทยที่ส่งให้ใครบางคนเอา ปตท ซึ่งเป็นของคนไทยเข้าตลาดหุ้น ดีนะที่คนของ กฝผ ไม่เห็นด้วย งั้นได้ใช้ไฟกันหน่วยละ 100 บาทละมั้งครับ (ใครคนนั้นคิดเอาเองนะครับ)
<!-- Reply_Detail_Display -->
<CENTER>
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee vAlign=top> </TD><TD bgColor=#f5f5f5 vAlign=top>[ วันจันทร์ ที่ 4 ตุลาคม 2553 เวลา 14:02 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
​

<TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" border=1 cellSpacing=0 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#eeeeee vAlign=top width=150>

<!-- Avatar -->​

คุณ : hhh
สถานะ : บุคคลทั่วไป
<A href="http://member.teenee.com/" target=_blank>[สมัครสมาชิก] <!-- icon_profile -->

</TD><TD bgColor=#f5f5f5 vAlign=top> ความคิดเห็นที่ 4 [อ้างอิง]

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD>เอาเข้าไป เอะอะคิดอะไรไม่ออกก็โทษทักษิณ แม่งคิดเป็นแค่นี้หรือไงว่ะ รัฐบาลนี้เก็บภาษีน้ำมันลิตรล่ะเป็นสิบบาทแม่งไม่ด่ามันมั่ง เก็บไปแล้วก็เอาไปปู้ยี่ปู้ยำโกงกินกันอย่างสำราญ ประชาชนคนโง่ๆ แบบคุณความเห็นที่สองก็ยังก้มหน้าก้มตายอมจ่ายแล้วยังไม่บ่นอีก เฮ้อ โง่ได้ใจจริงๆ คนสมัยนี้
<!-- Reply_Detail_Display -->
<CENTER>
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD bgColor=#eeeeee vAlign=top> </TD><TD bgColor=#f5f5f5 vAlign=top>[ วันจันทร์ ที่ 4 ตุลาคม 2553 เวลา 14:18 น. ] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
​

<TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" border=1 cellSpacing=0 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#eeeeee vAlign=top width=150>

​

คุณ : >>>---Mercy27th---> >>>---½บุปผๅรๅตรี-->
สถานะ : <BIG style="FILTER: glow(color=#FF6699, strength=8)">(สมาชิก)</BIG>


</TD><TD bgColor=#f5f5f5 vAlign=top> ความคิดเห็นที่ 6 [อ้างอิง]

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD>เมื่อก่อนน้ำมันลด 60 สตางค์ คุยฟุ้งดีใจผู้ใช้รถได้เฮ...ทีขึ้น เป็นบาท สาสส
<!-- Reply_Detail_Display -->
<CENTER>
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</FORM>

 

เรียนคุณอนุวัตร

การที่มีการแจ้งบอกให้ระวังสึนามิในวันเวลาที่ชัดเจนแบบนี้ มันจะไม่เกิดขึ้นจริงครับ แต่ก็ไม่ควรประมาท ไม่ควรตื่นตูม อาจจะเตรียมการหาทีมงานเฝ้าติดตามสถานะการณ์เพื่อคอยแจ้งเตือนภัยก็จะดีมาก มีการซ้อมแผนอพพยพก่อนวันที่จะเกิดบ้างก็จะดีไม่น้อย

ทำไมบอกเบอร์ติดต่อ ๐๘๙ - ๗๔๘๙๔๖ ไม่ครบถ้วนแล้วจะติดต่อคุณอนุวัตรได้อย่างไร ฮิฮิ

 

มีกระแสข่าวการชำระล้างโลกมาแล้วครับ

เริ่มการชำระล้างแล้วครับ<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><TABLE id=post3874264 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 09:25 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#[URL="http://palungjit.org/posts/3874264[/URL]

 

​

พายุดีเปรสชั่นบริเวณประเทศลาวอ่อนกำลังลง ส่งผลให้ภาคอีสานมีฝนเพิ่ม พื้นที่เสี่ยง 6จว.ยังต้องระวังน้ำท่วมฉับพลัน
วันนี้ (5ต.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน" ฉบับที่ 13 ระบุว่า เมื่อ เวลา 04.00 น. พายุดีเปรสชั่นบริเวณประเทศลาวได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนาม ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักได้บางแห่ง จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงด้วย

สำหรับร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และที่ราบลุ่มบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่อาจเกิดขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้

 

ดร.ก้องภพ กับคุณ Kongp เป็นคนเดียวกันหรือเปล่าคะ ไม่ทราบจริงๆค่ะ เพราะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ถ้าใช่ ก็ขอความแสดงความยินดีด้วยมากๆๆๆๆๆเลยนะคะ เก่งจังเลยค่ะ

 

โมทนา กับข่าวสาร ที่ จ่า ANUWART แจ้งมาครับ

สำหรับ พื้นที่ภูเก็ต ใด้เตรียมพื้นที่ ในการ เตรียมความพร้อม ทุกระดับ เมื่อเกิดเหตุการณ์ อย่างใด อย่างหนึ่งครับ..

- ยอดเขานาคเกิด ความสูงกว่า 440 เมตร ( มีพระพุทธมิ่งเมือง ความสูง 45 เมตร บนยอดเขานาคเกิด , พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ,พื้นที่ หลบภัย ศาลาปฏิบัติธรรม มีพระสงฆ์ )
- ยอดเขารัง อยู่ในตัวเมืองภูเก็ต (วัดสามัคคีธรรมเขารัง หลวงปู่สุภา ท่านสร้างและพำนักมาก่อน )

***ระบบสื่อสาร ทั้ง 2 กลุ่ม

---สมาคมวิทยุสมัครเล่น จ.ภูเก็ต HS8AT ระบบทวนสัญญาณ 145.700 - , ---ชมรมวิทยุสมัครเล่นแห่งอันดามัน E29AM ระบบทวนสัญญาณ ที่ 145.6625 - สำนักงานอยู่ที่หาดราไวย์ ส่วน ระบบทวนสัญญาณวิทยุสื่อสาร อยู่ที่ ยอดเขานาคเกิด

และ ระบบ โครงข่ายตาสับปะรด ของเครื่องแดง ช่อง ที่ 27 โดย link ระบบ เข้า คลื่นวิทยุ สื่อสาร ข่ายทหาร...เข้ามา ดูแล ...

ระบบสื่อสาร ทั้ง ekolink ที่ ต่อวิทยุสมัครเล่น ย่าน 145.500 -145.750 เข้าระบบ internet

HS1A ในหลวงพ่อหลวงของสยามประเทศ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=n-tqPY_wzwQ&feature=player_embedded]YouTube - HS1A[/ame]
วิทยุสมัครเล่นกับการสื่อสารฉุกเฉิน
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=lU1GesS6lZ8&feature=player_embedded]YouTube - วิทยุสมัครเล่นกับการสื่อสารฉุกเฉิน[/ame]

สาธิต เครือข่ายฉุกเฉินวิทยุสมัครเล่น
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=5guzLOr8tjA&NR=1]YouTube - สาธิต เครือข่ายฉุกเฉินวิทยุสมัครเล่น[/ame]


http://palungjit.org/threads/กลุ่มป...สื่อสารร่วม-กลุ่ม-ภูเก็ต-พังงา.124284/page-11

 

อยากบอกอะไรเพิ่มเติมนิดนึงว่า....อาจเกิดไม่ตรงวัน ล่วงหน้าบ้าง คล้อยหลังไปบ้าง

อย่าประมาท เพราะเวลาเขาจะชำระกันจริงๆ เขามักรอให้คนไม่สนใจคำทำนาย เยาะเย้ยว่า เห็นมั้ยไม่เห็นเกิดไรเลย ฯลฯ แล้วพอเราประมาทปุ๊บ เขาเล่นงานเลย

ใครเตือนก็ให้ฟังไว้ จะเกิดเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ มันเป็นความลับของสวรรค์

 

ทางที่ดีคือไม่ประมาทด้วยประการทั้งปวง

โมทนาทุกท่านที่นำมาบอกกล่าวค่ะ ขอให้การแจ้งเตือนและอพยพผู้คนเป็นไปด้วยความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ขอบารมีพระสยามเทวาธิราชและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับข้าพเจ้าและผู้ร่วมงานทุกท่านคุ้มครองพวกเราทุกคนให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงค่ะ สาธุ.....

 

ภูเก็ต เมืองเกาะแก้ว รอยพระพุทธบาท รอยที่ ๕ นัมทานที ,อริยะสงฆ์ ๑๑๕ ปี

​

ประชาชนจากทั่วประเทศทั้งชาวไทยชาวต่างชาติกว่า 5 พันคน หลั่งไหลร่วมแสดงมุทิตาจิตสักการะ "หลวงปู่สุภา กันตสีโล" ที่จำเริญอายุครบรอบ 115 ปี โดย "หลวงปูสุภา" ขอให้พุทธบริษัทตั้งมั่นในศีลธรรม หมั่นเจริญกรรมฐาน เพื่อสุขคติและพระนิพพาน และสันติสุขของบ้านเมืองและเชื่อว่าศาสนาจะทำให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความรักและสามัคคีกันได้

ตลอดทั้งวันนี้ (17 ก.ย.) ที่วัดสีลสุภาราม หรือ วัดหลวงปู่สุภา ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 5,000 คน เดินทาง มาร่วมแสดงมุฑิตาสักการะ พระมงคลวิสุทธิ์ หรือ หลวงปู่สุภา กนตสีโล ที่จำเริญอายุวัฒนะครบรอบ 115 ปี โดยมีนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม สำหรับหลวงปู่สุภา นั้นเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถือว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง และมีอายุมากที่สุด จนได้ฉายาว่า "พระอริยะสงฆ์ห้าแผ่นดิน ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี"

สำหรับหลวงปู่สุภา บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ก่อนจะร่ำเรียนศึกษาและจาริกไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงปู่สุภาฯ เดินทางมาภาคใต้ของประเทศไทย โดยปักกรดอยู่ที่เขารัง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่วัดเกาะสิเหร่ จนล่าสุดหลวงปู่สภาฯได้มาสร้างวัดอยู่ที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต บนเนื้อที่ 38 ไร่

โดยวัดมีชื่อว่าวัดสีลสุภาราม เป็นชื่อวัดที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จนถึงขณะนี้

สำหรับกิจกรรมในปีนี้ ทางคณะกรรมการวัดได้กำหนดจัดงาน 2 วัน โดยในวันนี้ (17 ก.ย.53) ได้จัดให้มีพิธีบายศรีสู่ขวัญหลวงปู่สุภา โดยพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์สมณศักดิ์ เจริญพระพุทธมนต์ หลังจากนั้นหลวงปู่สุภาได้ปล่อยนกจำนวน 119 ตัว ถวายภัตราหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 200 รูป

จากนั้นในช่วงเที่ยงได้มีพิธีมอบทุนการศึกษาในกับนักเรียนที่เรียนดี แต่ยากจน จากโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 139 ทุน ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคเงินสมทบทุนการศึกษาในครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประกอบพีธี หลวงปู่สุภา ได้กล่าวสัมโมนียคาถา ให้พุทธบริษัทตั้งมั่นในศีลธรรม หมั่นเจริญกรรมฐาน เพื่อสุขคติและพระนิพพาน และสันติสุขของบ้านเมืองและเชื่อว่าศาสนาจะทำให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความรักและสามัคคีกันได้

จากนั้นในชาวงบ่าย ได้เปิดโอกาสให้อุบาสก อุบาสิกา ศิษย์ยานุศิษย์ ที่เดินทางมาร่วมงานได้ร่วมกันแสดงมุฑิตาสักการะ พระมงคลวิสุทธิ์ (หลวงปู่สุภา กนตสีโล) รวมทั้งถวายปัจจัย และผ้าไตร

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ก.ย.53 ที่ผ่านมา จัดให้มีมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โดยพระสงฆ์จากวัดวิชิตสังฆาราม พิธีหล่อพระพุทธรูปปางนาคปรกหน้าตัก 69 นิ้ว สูง 4.70 เมตร พิธีเจริญนพเคราะห์ และสวดภาณยักษ์ โดยพระสงฆ์จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์
---------
18.00 ของวันที่ 16 กันยา หลวงปู่สุภา ท่านเมตตา ทรงเป็นประธาน และ ดูแล พิธีสวดภาณยักษ์ ซึ่งสวดภาณยักษ์ โดยคณะสงฆ์สมณศักดิ์ จาก วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤกฏิ์ (ตาม หมายกำหนดการ )
ซึ่งผม นาคา ใด้ อัญเชิญ บาตรนำมนต์ ในพิธี ตามพระอาจารย์ ท่านพรม น้ำพระพุทธมนต์ แก่ สาธุชน ที่เข้าพิธี สวดภาณยักษ์ ในรอบที่ 2 เสร็จพิธี ประมาณ 21.30 น. (คณะกรรมการ แจ้ง ว่า เก้าอี้ ที่นั่งจัดใว้ ประมาณ 10,000 ที่ นั่นไม่เพียงพอ )

 

วันที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7250 ข่าวสดรายวัน


'บินลาเดน'รักษ์โลก?

เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>น้อยคนที่จะไม่รู้จัก 'บิน ลาเดน' บุคคลที่รัฐบาลมะกันขนานนามให้เป็นเจ้าพ่อก่อการร้าย

เผยแพร่ 'เทป' ออกมาทีไร มีแต่คำขู่ทำสงครามสั่งสอนมะริกันล้านชั่วโคตร

แต่คราวนี้มามาดใหม่ พูดผ่านเทปบอกว่า เป็นห่วงเด็กๆ และผู้ประสบภัยในปากีสถานนะจ๊ะ

นอกจากนี้ พี่แกเกาะกระแสห่วงโลกร้อนกะเค้าด้วย บอกให้คนเราหัดมีจิตสำนึกช่วยโลกซะมั่ง แล้วจวกสหรัฐเข้าให้ว่าเป็นจอมมารพ่นพิษก๊าซโลกร้อน

ด้านคนฟังก็ฮากันตรึม คือถ้าไม่กินยาผิดขนาน ก็คงเป็นบิน ลาเดน ตัวปลอมแหงมๆ!?!

เอเชียกระอักพายุฝน



เอพีรายงานเมื่อ 4 ต.ค. ว่า เกิดน้ำป่าไหลหลากในประเทศเวียดนาม หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ในภาคกลางของเวียดนาม เช่น จังหวัดฮาติง ก๋วงบิง และก๋วงตริ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย สูญหายอีก 3 คน ทางการเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่กว่า 14,000 คน ออกไปสู่บริเวณที่ปลอดภัยแล้ว หลังมีรายงานน้ำท่วมสูงกว่า 60 เซนติเมตร ด้านอินโดนีเซีย มีรายงานว่า ชาวบ้านถูกกระแสน้ำหลากซัดเสียชีวิตที่จังหวัดปาปัวตะวันตกจำนวนมาก พบศพแล้วเบื้องต้น 15 ราย บ้านเรือนเสียหายพังทลาย

ตาลิบันถล่มรถน้ำมันนาโต้ล้างแค้น



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>เอพีรายงานวันที่ 4 ต.ค.ว่า กองกำลังติดอาวุธ 8 นายที่อ้างตนว่าเป็นกองกำลังตาลิบัน บุกโจมตีรถขนน้ำมันของกองกำลังนาโต้ขณะจอดอยู่ข้างถนนใหญ่ที่กรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงปากีสถาน มือปืนเปิดฉากยิงเข้าใส่ก่อนจะวางเพลิงรถขนน้ำมัน 13 คันจนเกิดระเบิดและไฟลุกไหม้เสียหายยับเยิน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 5 ราย พยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า กลุ่มมือปืนไล่ให้คนที่อยู่รอบรถดังกล่าวออกไปก่อนจึงลงมือก่อเหตุ

ฝ่ายตาลิบันประกาศว่า ก่อการครั้งนี้เพื่อแก้แค้นที่การโจมตีทางอากาศในอัฟกานิสถานและลามเข้าไปในปากีสถานกว่า 21 ครั้ง ถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังสหรัฐปรับยุทธศาสตร์ลดความเสี่ยงให้กับกองกำลังภาคพื้นดิน กลายเป็นชนวนบาดหมางระหว่างปากีสถานกับนาโต้ทำให้ปากีสถานปิดพรมแดนซึ่งใช้เป็นเส้นทางลำเลียงยุทธปัจจัยของนาโต้สู่อัฟกานิสถาน

ค้นพบดาวเคราะห์คล้ายโลกดวงใหม่ มีแรงดึงดูด-เย็นลบ12องศา



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ภายหลังมีศาสตราจารย์นักคณิต ศาสตร์เคยออกมาพยากรณ์ว่า มนุษยชาติอาจได้ฟังข่าวดีเกี่ยวกับการค้นพบ "โลกใบใหม่" ที่มีสภาพคล้ายโลกภายในปี 2554 ดูเหมือนว่า ผลลัพธ์การค้นพบจะสอดคล้องไปในทางเดียวกับคำพยากรณ์

ล่าสุด นักดาราศาสตร์จากหอดูดาวดับเบิลยู. เอ็ม. เค็ก บนเกาะฮาวายของสหรัฐ เปิดเผยการค้นพบดาวเคราะห์ที่มีสภาพพื้นผิวดิน และบรรยากาศคล้ายโลก อยู่ห่างไปราว 190 ล้านล้านกิโลเมตร หรือราว 20 ปีแสง โคจรรอบดาวฤกษ์สีแดง ชื่อ "กลีส 581" ในระบบดาวฤกษ์กลีส กลางหมู่ดาวสิงโต หนึ่งในสมาชิกกาแล็กซีทางช้างเผือก ซึ่งระบบสุริยะของโลกเป็นสมาชิกอยู่เช่นกัน

ดาวเคราะห์ดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า "กลีส 581 จี" มีแรงดึง ดูดทำให้มนุษย์สามารถเดินบนผิวดาวได้เหมือนกับเดินเหินบนพื้นโลก และมีอุณหภูมิติดลบราว 12 องศาเซลเซียส ซึ่งมนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่า มีน้ำอยู่บนดาวเคราะห์กลีส 581 จี หรือไม่

ดาวกลีส 581 จี ใช้เวลาแค่ 37 วันในการโคจรรอบดาวฤกษ์ ส่งผลให้ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทั้งดาวเคราะหŒยังไม่หมุนรอบตัวเอง ทำให้มีด้านสว่างที่หันหน้าเข้าหาดาวฤกษ์กลีส 581 และด้านมืดก็มืดอยู่ตลอดเวลา โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่า พื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับมนุษย์หากจะไปตั้งรกรากบนดาวเคราะห์ดวงนี้น่าจะเป็นพื้นที่กึ่งกลางระหว่างด้านสว่างและมืด เรียกว่า "พื้นที่สีเทา" (เกรย์โซน)

ดร.สตีเว่น วอกต์ ผู้นำโครงการค้นหาดาวคล้ายโลก ระบุว่า การค้นพบนี้ใช้เวลาสำรวจนาน 11 ปี และดาวเคราะห์ที่ค้นพบมีสภาพคล้ายโลกมากที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบมา มิหนำซ้ำยังอยู่ใกล้มากด้วย ตนสันนิษฐานว่า ดาวเคราะห์ที่มีสภาพแบบโลกนั้นไม่น่าจัดเป็นลักษณะหายากในจักรวาล เพราะถ้าหายากจริงคงไม่เจอบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้

สกัด'ข้าวหอมมะลิ' พัฒนาเครื่องสำอางชะลอแก่



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>แม้ว่าการส่งออก 'เครื่องสำอาง' ของไทยจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยตัวเลขปัจจุบัน โตขึ้นจากปี 2551 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

แต่ไทยยังเสียเปรียบต่างชาติ เพราะต้อง นำเข้าวัตถุดิบซึ่งมีราคาแพง ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง

ล่าสุด คณะนักวิจัยจากศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย ดร.ภก.จีรเดช มโนสร้อย และ ศ.ดร.ภญ.อรัญญา มโนสร้อย เล็งเห็นคุณประโยชน์ของ 'ข้าวหอมมะลิ' ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นอาหารหลักของคนไทย

และนำมาพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีนาโนออกมาเป็น 'เครื่องสำอางข้าวหอมมะลิ' <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>



งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการสนับสนุนทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และบริษัทอุตสาหกรรมเครื่องหอมไทย-จีน เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า

'ข้าว' เป็นแหล่งรวมสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามิน เกลือแร่ หรือเอนไซม์ และสารต้าน อนุมูลอิสระหลายตัวที่มีคุณสมบัติช่วยต้านริ้วรอย ชะลอความแก่และสร้างภูมิต้านทานโรค

นักวิจัยจึงทดลองสกัดวัตถุดิบจาก 'ข้าวหอมมะลิ' ออกมาในรูปผงที่ได้จากการหมักข้าวแล้วนำไปใส่ในถุงขนาดนาโนเมตร (นีโอโซม) เพื่อช่วยเพิ่มความคงตัวและประสิทธิภาพของสารสำคัญในการนำส่งเข้าสู่ผิวหนังในการต้านริ้วรอย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ปัจจัยกรรมวิธีดังกล่าว ช่วยให้นักวิจัยผลิตเครื่องสำอางออกมาได้ 6 ตัวใน รูปของเอสเซนส์ ครีม เจล และซีรั่ม ที่สามารถสู้กับเครื่องสำอางชั้นนำราคาแพงจากต่างประเทศที่ได้จากการหมักข้าวต่างประเทศในเวลานี้ได้



ผลจากการทดสอบผลิตภัณฑ์เจลและเอสเซนส์ พบว่า

มีฤทธิ์ยับยั้ง 'เอนไซม์' ที่เกี่ยวข้องกับการสลาย 'คอลลาเจน' ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยได้ผลใกล้เคียงกับวิตามินซีและผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดที่มีส่วนผสมจากการหมักข้าวต่างประเทศ

ส่วนการทดสอบการแพ้ในอาสาสมัคร 30 คน อายุ 25-45 ปี โดยให้ทาผลิตภัณฑ์บนแขนทุกวัน วันละครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์ หลังเลิกใช้ในสัปดาห์ที่ 9 ได้วัดความยืดหยุ่นของผิวและความชุ่มชื้นของผิวการเปลี่ยนแปลงของสีผิวและประเมินความพึงพอใจ พบว่า อาสาสมัครส่วนใหญ่พอใจผลิตภัณฑ์เอสเซนส์ ครีม มากที่สุด

โดยผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเอสเซนส์ให้ฤทธิ์ลดริ้วรอยได้สูงสุด 70 เปอร์เซ็นต์

ถ้ามีการส่งเสริมต่อยอดต่อไป ไม่แน่ในอนาคตเครื่องสำอางข้าวหอมมะลิของไทย อาจบุกตลาดระดับสากลได้ไม่แพ้ชาติอื่นๆ

จัดใหญ่'บวชทะเล'แห่งเดียวในไทย ชุมพรปลูกฝังจิตอนุรักษ์-พื้นฟูทรัพยากรชายฝั่ง



ชุมพร - นายวัชรินทร์ แสวงการ ประธานคณะกรรมการจัดการอ่าวท้องตมและการท่องเที่ยวโดยชุมชนท้องตมใหญ่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเลบริเวณอ่าวท้องตมใหญ่ หมู่ที่ 1 ต.ด่านสวี อ.สวี และบริเวณใกล้เคียงลดลงไปมาก ชาวบ้านจึงต้องออกไปหากินไกลฝั่งมากขึ้น ทำให้รายได้ลดลง คณะกรรมการจัดการอ่าวท้องตมและการท่องเที่ยวโดยชุมชนท้องตมใหญ่ กลุ่มโฮมสเตย์ท้องตมใหญ่ และกลุ่มอนุรักษ์วัดท้องตมใหญ่ เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ ด้วยการสร้างความอุดมสมบูรณ์กลับคืนสู่อ่าวท้องตมและทะเลใกล้เคียง จึงร่วมกันจัดโครงการ "บวชทะเลท้องตมใหญ่ สงวนรักษาร้อยล้านชีวิต ปีที่ 2" เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวันที่ 13 ต.ค. ณ ท่าเทียบเรือประมงบ้านท้องตมใหญ่

นายวัชรินทร์ กล่าวว่า การจัดโครงการดังกล่าวเพื่อต้องการกำหนดแนวเขตอนุรักษ์ ห้ามทำการประมง เพื่อสงวนไว้เป็นพื้นที่วางไข่ และอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน ทำซั้ง หรือบ้านปลา ซึ่งเป็นปะการังเทียมแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้เป็นที่อยู่อาศัยของกุ้งหอยปูปลาในเขตที่กำหนด สร้างจิตสำนึกให้ชาวบ้านและเยาวชน เสริมศักยภาพชุมชน ในการอนุรักษ์และพื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นต้นแบบในการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ให้กลับคืนมาสู่ท้องทะเล ขยายแนวความคิดให้เป็นตัวอย่างแก่ชุมชนชายฝั่งอื่นๆ และสร้างการมีส่วนร่วมกันในทุกๆ ภาคส่วน

"โครงการนี้มีผู้สนับสนุนคือคณะกรรมการจัดการอ่าวท้องตม การท่องเที่ยวโดยชุมชนท้องตมใหญ่ บริษัท เชฟรอนฯ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งจังหวัดชุมพร สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 12 (ชุมพร) อบต.ด่านสวี เครือข่ายจากภูผาสู่มหานที โครงการนี้ถือเป็นการบวชทะเลแห่งเดียวในไทย ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยได้เตรียมเรือ 20 ลำไว้สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ร่วมงาน ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แต่จะได้รับเสื้อยืด อาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึกด้วย"

 

======================================

5 ต.ค. 53


หลอกคือจริง-------จริงคือหลอก------------ขอบอกให้
อย่าไว้ใจ-----------ธรรมชาติ--------------ยากคาดเดา
ตามสัญญาณ-------ของกระผม-------------ท่านเตรียมเอา
อย่าดูเบา-----------เตรียมความพร้อม-------ดีกว่าเอย


16 ก.พ. 53 กำลังเตรียมการเก็บกวาดทางน้ำ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้สัญญาณภาพมาคือ เห็นรองเท้าบูทข้างหนึ่งใหญ่
กว่าปกติ ซึ่งมีความหมายว่า จะมีงานใหญ่เข้ามา ดังนั้นการรับรู้สัญญาณจาก
แหล่งต่างๆจึงควรรับฟังไว้ ถึงแม้ว่าจะเกิดตรงหรือไม่ตรงวันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
เพียงแต่สือให้รู้ว่ากำลังจะมาและให้เตรียมความพร้อมไว้เท่านั้นเอง

เมื่อคืน หมออุ้มได้มาที่บ้าน ผมได้นำผังการดำเนินงานที่ฐานผาแบ่นให้ดู
และขอให้หมออุ้มช่วยเตรียมบุคลากรทางการแพทย์(ชักชวนเพื่อนหมอ)
ให้มาร่วมงานที่ฐานฯด้วยกันเมื่อยามมีภัย

ส่วนหลานจิ๊บ (อติกานต์) ไปทำงานที่สิงคโปร์ ก็ยังไม่ยืนยันการขึ้นฐานฯใน
ช่วงวันปิยะเพื่อที่จะพาเพื่อนไปดูที่ดินจะซื้อ ใจผมอยากจะทำฐานฯให้สมบูรณ์
ที่สุด เพราะเวลาก็งวดเข้ามาเรื่อยๆ





องค์อินทร์ ๙๗
ทำการแทน


======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอแสดงความยินดีกับ อ.ดร.ก้องภพด้วยครับ ท่านได้รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่น จากองค์การนาซ่าครับ เป็นคนไทยคนแรกเลย

----------------------------------------------

และต้องขอบคุณ คุณ Falkman มากๆเลยครับที่ช่วยสัมภาษณ์ อ. ดร.สมิทธิ เมื่อวานนี้

ดร.สมิทธิ ท่านกล่าวชมคุณFalkman ว่าความรู้แน่นมากๆ (สุดยอดเลย คุณอ๋อเรานี่)

ที่สำคัญท่านยืนยันเรื่องการถอดรหัสพระมหาชนกครับ