ที่มาของพระพุทธรูปทรงเครื่องพระเจ้าจักรพรรดิ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 22 กันยายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    ถาม : ...............

    ตอบ : พระยาชมพูบดี ท่านเป็นกษัตริย์ที่มีอานุภาพมาก สามารถเหาะได้ มีพระขรรค์แก้ว มีธนูวิเศษ

    คราวนี้ท่านเหาะไปเที่ยว ไปเจอปราสาทพระเจ้าพิมพิสารเข้า ปราสาทพระเจ้าพิมพิสารท่านสวย ก็หมั่นไส้อยากจะให้พัง ท่านใช้รองเท้าแก้วลองกระทืบดู ปกติแล้วอานุภาพของรองเท้าแก้ว เขาว่าเหยียบภูเขาจมดินได้

    แต่กระทืบลงไป ปรากฏว่าพระเจ้าพิมพิสารท่านเป็นพระโสดาบัน พุทธานุภาพคุ้มครองอยู่ แทนที่ปราสาทจะพัง กลายเป็นว่ายอดปราสาทแทงทะลุรองเท้าแก้วเข้าไป

    ท่านโมโหก็เลยฟันด้วยพระขรรค์ ปรากฏว่าพระขรรค์ที่สามารถตัดหินตัดภูเขาได้ ก็บิ่นอีก จึงโกรธมาก

    กลับไปถึงที่อยู่ของตัว ก็ส่งธนูวิเศษชื่อ "วิษศร" มาเพื่อจะทำร้าย ธนูนี้ถือเป็นอาวุธที่สามารถตั้งได้ว่าจะยิงไปให้ถูกเป้าหมายไหน พอยิงไปแล้วสั่งว่าให้ไปทำร้ายใคร ก็ไปทำร้ายเฉพาะคนนั้น

    พระเจ้าพิมพิสาร พอได้ยินเสียงธนูมา บอกว่าจะทำร้ายเฉพาะท่าน ท่านก็หนีเข้าไปในเชตวัน พอธนูตามไป พระพุทธเจ้า ใช้วาโยกสิณหอบคืนไป แล้วเห็นว่าพระยาชมพูบดีมีวิสัยที่จะได้เป็นพระอริยเจ้า จึงให้พระโมคคัลลาน์ไปจัดการ

    พระโมคคัลลาน์ก็จัดแจงแปลงพระเชตวัน กลายเป็นปราสาทราชวังของพระเจ้าจักรพรรดิไปเลย แล้วส่งสามเณรอนาคามีไปเป็นทูต สามเณรก็แปลงตัวแบบลักษณะเต็มบุญเต็มบารมีของท่านไป พระยาชมพูบดีเห็นว่าแค่ทูตยังยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เลยยอมตามมา

    ตามมาถึงเจอคนเฝ้าประตูก็ดีกว่า พ่อค้าแม่ขายอะไรก็ดูสวยกว่าตัวเองไปหมด ทำไมจะไม่สวยกว่าเล่า เพราะส่วนใหญ่ท่านเป็นภิกษุ ภิกษุณีอรหันต์ทั้งนั้น ท่านปลอมตัวมา จนเข้าไปถึงพระบรมมหาราชวัง ซึ่งจริงๆ ก็คือพระเชตวันมหาวิหาร

    พระพุทธเจ้าท่านทรงเครื่องจักรพรรดิเต็มอัตรารออยู่ พระยาชมพูบดีไม่สามารถที่จะต่อต้านพุทธานุภาพได้ จึงยอมฟังธรรม เลยเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าได้

    พระพุทธเจ้าปางที่โปรดพระยาชมพูบดีนั้น จะทรงเครื่องพระเจ้าจักรพรรดิ

    ถ้าจะดูตัวอย่างให้ไปดูที่วัดพระแก้ว จะมีองค์ใหญ่ยืนทรงเครื่องอยู่สององค์ คือพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สององค์นั้นจะเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ เขาเรียกว่า ปางปราบพระยาชมพูบดี ทรงเครื่องสวยมาก

    แล้วลักษณะของพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ก็จะเป็นพระพุทธเจ้าทรงเครื่อง ที่หลวงพ่อท่านใช้ว่า พระวิสุทธิเทพ คือลักษณะทรงเครื่องแบบพระแก้วมรกต


    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2129




    .
     
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    [​IMG]
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา
    [​IMG]</O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2010
  3. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    ด้วยความเครพครับ มีข้อสงสัยครับ

    พระพุทธเจ้าปางที่โปรดพระยาชมพูบดีนั้น
    จะทรงเครื่องพระเจ้าจักรพรรดิ

    ถ้าจะดูตัวอย่างให้ไปดูที่วัดพระแก้ว

    จะมีองค์ใหญ่ยืนทรงเครื่องอยู่สององค์
    คือพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
    สององค์นั้นจะเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ
    เขาเรียกว่า ปางปราบพระยาชมพูบดี ทรงเครื่องสวยมาก

    หมายความว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

    เป็นพระพุทธเจ้าใช่หรือป่าวครับ
     
  4. เพชรกร

    เพชรกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,254
    เพิ่งเข้าใจครับ
    ขอบคุณมากๆครับผม
     
  5. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,431
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,468
    ไม่ใช่ครับ คือ ท่านอธิบายลักษณะของพระพุทธรูปทั้ง 2 พระองค์ว่าเป็นปางทรงเครื่องพระจักรพรรดิครับ
    คือที่คุณถามนะครับนั้นทั้ง 2 องค์ไม่ใช่พระพุทธเจ้าครับ
    พระพุทธเจ้ามีองค์เดียวคือ พระพุทธโคดมของเราครับ
     
  6. ธ.เธียรไท

    ธ.เธียรไท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,735

    ใช่พระพุทธเจ้าทั้งสององค์ครับ
    เเต่เขาถวายพระนามให้พระพุทธรูปทั้งสององค์เพื่อเป็นอนุสรครับ
     
  7. OZANI

    OZANI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +30
    สงสัยเหมือนกันเลย
    ขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง
     
  8. Charls

    Charls เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,343
    [​IMG] [​IMG]



    ทั้งสององค์เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองแบตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้าเสมอพระอุระ (อก) เป็นกิริยาห้าม บางแบบเป็นพระทรงเครื่อง (บางตำราเรียกว่าเป็นปางห้ามพยาธิ หรือ ปางห้ามญาติ เป็นพระพุทธรูปในลักษณะเดียวกัน) เป็นพระพุทธรูปที่รัชกาลที่ ๓ ทรงสร้างอุทิศให้กับรัชกาลที่ ๑ และ ๒ ศิลปะรัตนโกสินทร์ สูง ๓ เมตร ทรงเครื่องต้นพระจักรพรรดิราช เป็นพระพุทธรูปสำริดหุ้มทองคำลงยาราชาวดี เครื่องต้นประดับเนาวรัตน์ ใช้ทองคำเท่ากับทองที่หุ้มพระศรีสรรเพชญ ในสมัยอยุธยา

    เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ มีพระราชปรารภว่า ในสมัยอยุธยา สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ ทรงหล่อพระศรีสรรเพชญ์ และพระเจ้าแผ่นดินองค์ต่อๆ มา ทรงหล่อพระรูปสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ผู้ทรงเป็นบรมกษัตริย์ขึ้นไว้สักการบูชา ด้วยอาศัยปรารภเหตุทั้งสองอย่างนี้ จึงทรงพระราชศรัทธาสร้างพระพุทธรูปใหญ่ หุ้มด้วยทองคำ เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์ รัชกาลที่ ๑ และรัชกาลที่ ๒ เมื่อทรงปรึกษาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งยังทรงผนวช จึงมีพระราชดำริว่าพระพุทธรูปความมีความสูงในราวหกศอก จึงได้ทรงสร้างพระพุทธรูปทรงเครื่อง อย่างจักรพรรดิราช ๒ องค์ จารึกพระนามองค์หนึ่งว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระราชอุทิศถวายสมเด็จพระบรมอัยกาธิราช จักรพรรดินารถบพิตร อีกพระองค์หนึ่งจารึกพระนามว่า พระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ทรงพระราชอุทิศถวายสมเด็จพระบรมชนกนารถธรรมิกราชบพิตร ซึ่งเดิมเรียกว่า แผ่นดินต้น แผ่นดินกลาง จึงมีพระบรมราชโองการให้ตั้งนามแผ่นดินตามพระพุทธปฏิมากรทั้ง ๒ พระองค์ แผ่นดินต้นให้ใช้ว่าแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก แผ่นดินกลางให้ใช้ว่าแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เปลี่ยนสร้อยพระนามเป็น “นภาลัย”

    พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รูปซ้ายมือข้างบน) ประดิษฐานด้านทิศเหนือ ส่วนพระพุทธเลิศหล้านภาลัย อยู่ด้านทิศใต้ ด้านหน้าพระแก้วมรกต ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามครับ

    ข้อมูลจากวิกิมีเดียครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • R2.jpg
      R2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.8 KB
      เปิดดู:
      3,552
    • R1.jpg
      R1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.2 KB
      เปิดดู:
      3,565
  9. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,354
    ขอบคุณครับที่ให้ความรู้เพิ่ม

    เข้าใจแล้วครับ
     
  10. samaice

    samaice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,018
    เคยฝันเห็น เมื่อก่อนไม่รู้จัก ตอนนี้รู้จักแล้ว เข้ามาศึกษาค่ะ
     
  11. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,941
    ขอบคุณครับ..วันนี้ได้ความรู้ใหม่ประดับสมองแล้ว
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...