เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ฮา..............าาาาาาาา

( ^_^ )

 

คิดได้ยังไง อาจารย์ฉาย
เดี๋ยวนี้มีมุขพัฒนา มาให้ฮาแบบตั้งตัวไม่ติด เอิ๊กๆ

 

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม 2553 เวลา 16.00น.เป็นวันฌาปนกิจอาจารย์สามตา นะครับ

MEMOครับ

 

ไม่ได้เจออาจารย์สุดหล่อซะนาน
ปล่อยมุขทีฮาไป 3 วัน 7 วันเลยอ่ะครับ


ว่าแต่ปั้นน้ำเป็นตัวนี่มันไม่ออกเรทไปหน่อยหรอครับ

 

มีท่านผู้ไม่ประสงค์จะออกนามโอนเงินเข้ามาอีก 3 รายการค่ะ

11/09 100 บาท
12/09 300 บาท
14/09 1,000 บาท

ยินดีในบุญกับทุกท่านตั้งแต่ต้นเลยนะคะ
เค้าว่าการทำทานโดยไม่หวังผลใดๆตอบแทน บุญที่ได้เป็นอนันต์

 

อันนี้ผมเถียงครับ บุญสำเร็จได้ด้วยการอธิฐานครับ

 

วันก่อน เค้าอธิษฐานขอพรนู่นนั่นนี่ไปเยอะมากเลย
..

ไม่รู้แบบนี้จะตะกละเกินไปหรือปล่าว
แต่พระรอนานเลย แอบเกรงใจ แฮ่ะ แฮ่ๆๆๆ

 

อ. บาสกล่าวถูกต้องแล้วค่ะ เรามีความประสงค์จะทำอะไรให้สำเร็จได้เราต้องตั้งความปรารถนาอย่างแน่วแน่ (อธิษฐาน)

ที่วรรณนันท์หมายถึง คือบุญที่ทำด้วยใจเต็มร้อย ไม่ได้ทำเพราะเราอยากให้คนอื่นชมเชยหรือเอาหน้าฯลฯ มีกำลังบุญที่จะหนุนให้คำอธิษฐานสำเร็จได้มาก ถ้าไม่ถูกอย่างไร ขออ.บาสช่วยให้ความรู้ด้วยนะคะ

 

ผมรู้สึกตกใจมากพอได้ทราบข่าวการจากไปของ อ.อาชวิน

ตั้งแต่ได้อ่านบทความของ อจ ผมรุ้่สึกชอบประทับใจ
และกระตือรือร้นที่อยากจะพบ อจ สักครั้ง
และโชคดี ผมก็ได้พบ อ. ถึงสองครั้ง
เพราะคงเป็นบุญวาสนาให้ผมได้ติดตามเรื่องราวของ อ.
จนได้พบกันในที่สุด

กุศลใดๆที่ อจ. ทำไว้ทั้งมวล
ขอให้ อจไปสู่ภพชาติที่ดีๆด้วยเถิด

 

ที่บ้านปลูกต้น กากระทิง ๒ ต้น
มาแบบไม่ได้ตั้งใจ ตอนแรกไม่รู้ต้นอะไร
ดินที่บ้านเปนดินเปรี้ยวปลูกอะไรก็ไม่งาม
แต่กากระทิง กลับเป็นต้นที่ งอกงาม โตเร็วที่สุด

 

เมื่อวานคุณจิรวัฒน์อุตส่าห์แวะมาให้กำลังใจกิจการบูธ042 ที่กำลังทำความสะอาดกันแบบที่เรียกว่าสปริงคลีน แถมยังได้ให้การสนับสนุน เป็นทุนทรัพย์ 500 บาทอีกด้วย มีเพื่อนๆ และน้องๆมาร่วมแรงร่วมใจกันคนละไม้คนละมือ (หุหุ..จำชื่อไม่ได้ครบเลยเลี่ยงไม่เอ่ยนาม) น่าชื่นใจมาก ยินดีในบุญด้วยนะคะทุกท่าน<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->

 

ยินดีในบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ เสียดายที่ไม่ได้อยู่เมืองไทยแต่ขอเอาใจช่วยครับ

 

เจอรับน้องใหม่หลายรอบเหลือเกิน ท่านเล็กก็โดน ต้องไป นิวยอร์ก โน่น กำลังจะออกนอกป.ท.เหมือนกัน ไม่ไหวแล้ว เหตุการณ์ตามคลิปเลยจ้า เหมือนกันเป๊ะ เป๊ะ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=onDh4P1cE2E]YouTube - Hugo - 99 Problems[/ame]

ส่วนกระทู้ โดนลบ โดนย้าย ไปหลุมดำ นี่เจอย้ายกลับมาที่จิตวิทยา เมืองไทยเป็นแบบนี้แหละ ต้องทำใจ

เครียดมาก มาก มาก

 

วันนี้ไปเช็คบัญชี มีผู้ไม่ประสงค์จะออกนามโอนเงินเข้ามา 100 บาท เมื่อวันที่ 16/9/2553 ค่ะ ยินดีในบุญด้วยนะคะ

เรื่องผลของทานและความความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นที่เราทำไปเรื่อยๆโดยไม่ได้คิดอะไรมากก็น่าสังเกตนะคะ เวลาเราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือ มีความรู้สึกว่ามันมีทางออก จะเป็นว่ามีคนนำมาให้ หรือไม่ก็มีคนมาชี้ช่องทางหรือชักจูงเราไปยังคนที่จะให้ความช่วยเหลือเราได้ คนที่ชอบให้อาหาร/ขนมคนอื่น เวลาไปไหนมักจะไม่ขาดแคลนของกินเลย

 

ฮั้วต้องอยู่แบบหลังนี่เเน่เลยคะพี่วรรณนันท์ ฮิๆ

 

ไม่ได้เข้ามาเสียพักใหญ่เพราะซ่อมแซมบ้านนะครับ
แล้วมีการย้ายของเลยไม่สดวกที่จะเข้ามาเยี่ยม

ขอแสดงความยินดีกับคุณชยา มารุติที่ได้ลูกสาวและ
ยินดีย้อนหลังสำหรับรางวัลที่ได้รับ

บูธ อ.042 หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาก็จัดเก็บ ได้เกือบ
100 %แล้วหลังจาก2สัปดาห์ที่ผ่านมาชมรมโค้กได้มาขน
ของสะสมเกี่ยวกับโค้กและแปลงสินทรัพย์เป็นทุนสำหรับ
บุตรอาจารย์โดยคุณสุมิตรภรรยาอาจารย์

ที่บูธลุล่วงได้ด้วยดีก็ต้องขอบคุณหลายๆแรงงาน
เช่นคุณบาสและคณะศิษย์อนาคตผู้มีอภิญญาเลือดใหม่
มากมายทั้งช่วยแรงและบางท่านยังพ่วงอาหาร,ขนมมา
ทานกันเหลือเฟือละครับ

และต้องขอบคุณ คุณวรรณนันท์ที่มาทั้งแรงงานและ
ขนมแถมอุปกรณ์การทำความสะอาด

สำหรับคุณอัครวัฒน์นอกจากจะมาช่วยงานแล้วว่าง
งานก็แถมรักษาอาการป่วยให้กับสมาชิกด้วย

ก็ยินดีในบุญกับทุกๆท่านนะครับ

 

อุทกภัยจากทางภาคเหนือทยอยลงมาภาคกลาง
มาสู่กทม.แล้วนะครับเตรียมตัวรับมือนะครับและไม่ใช่
อุทกภัยธรรมดานะครับเห็นว่ามีโรคระบาดตามมาด้วย
ซิครับมีแผลก็เลี่ยงๆ้ำอย่าลุยน้ำนะครับ

 

ทิพย์จักขุญาณ ฝึกได้ไม่ยากเย็น



การฝึกให้มีตาืทิพย์ หรือ ทิพย์จักขุญาณ ตามโบราณ
พระอริยเจ้า หลวงปู่หลวงพ่อของเราท่านฝึกกันมา
ก็ เริ่ม จากกรรมฐาน 40 กองเป็นหลักสูตรของ
พระพุทธเจ้าโดยตรงครับ เหตุที่ทำให้มีตาิทิพย์
เกิดจากการฝึก เตโชกสิณ โอทากสิณ และอโลกสิณ
ถ้าคนที่ยังไม่ได้ืทิพย์จักขุมาก่อน ก็คงต้องใช้เวลานานพอ
สมควร อาจจะเป็น 7 เดือน 7 ปี หรือทั้งชาติ อันนี้ก็เกิดจาก
การฝึกสะสมมาจาอดีตชาติด้วยครับ ถ้าเป็นผุ้ที่ได้มาก่อน
เพียงแต่มาทำสมาธิแค่อุปจาระสมาธิแล้วจับภาพ
แสงสว่างได้ ทิพย์จักขุบังเกิดทันที


เหมือนกับการฝึก
มโนมยิทธิ ก็เป็นเพียงแค่การทบทวนทิพย์จักขุเท่านั้น
ไม่ได้ฝึกใหม่แต่อย่างใด แต่ทำไม พอใครไปฝึกมโนมยิทธิ
ก็พากันทำได้กันแทบทุกคน ก็เพราะคนที่ไปฝึกเหล่านั้น
เป็นผู้เคยได้ตาทิพย์มากก่อนทั้งนั้นน่ะซิครับ


จะสังเกตได้อย่างไรว่า คนไหนเคย คนไหนไม่เคย
ดูไม่ยากครับ คนที่เคยได้อภิญญามาก่อน
จะเป็นคนที่ชอบนั่งสมาธิเป็นพิเศษ ไม่ต้องมีใครพานั่ง
หรือบังคับให้นั่ง ไม่ต้องบังคับให้ไปวัดทำบุญ
เค้าทำของเค้าเอง แถมชวนคนอื่นนั่งสมาธิด้วย
อันนี้สังเกตุแบบผิวเผิน สังเกตุให้ดีอีกหน่อย
เค้าจะเป็นคนที่รู้อะไรล่วงหน้าเสมอ บางทีเค้าก็ไม่ตั้งใจ
รู้หรอก มันรุ้เอง พวกนี้เค้าจะมีลางสังหรณ์แม่น
ผมยกตัวอย่างเช่น พี่ปานโสม พี่เค้าโทรศัพท์ไปหา คุณ โอม ที่เชียงใหม่
บอกว่า รู้ว่าคิดถึงเลยโทรมา และคุณโอมก็กำลัง
คิดถึงอยู่พอดี หรือที่น้องบาสเค้าเห็นกายทิพย์ผมหมอง ๆ แถมยังดูกรรมให้ผมอีก เป็นต้น
ถ้าอยากจะรู้ว่าใครได้ตาทิพย์จริง ๆ
จัง ๆ ก็ต้องถามพวกที่ได้ตาทิพย์ด้วยกันเองนั้นละครับ
ถึงจะรู้ว่าใครได้มั่ง



ถ้าท่านผู้อ่านได้อ่านเรื่องเล่าของผมมาตั้งแต่หน้าแรก ๆ
ก็จะรู้ ว่า ผมเอง ก็ทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยไม่มีครูบาอาจารย์มาฝึกให้
ได้แต่อ่านหนังสือทำความเข้าใจเอาเอง ตั้งแต่ปี 2525- 2526 ก็แสดงว่า
ผมเองก็น่าที่จะเป็นผุ้ที่เคยได้มาก่อน
แล้วก็ฝึกด้วยตัวเองมาตลอด ก็พอที่จะสัมผัสความเป็นทิพย์
ได้บ้างเป็นบางเวลา ผมต้องทำงานด้วย ทำโน้น นี่
จะให้จิตสะอาดตลอดเวลาคงไม่ได้ครับ


ฉะนั้น
ผมจึงไม่ได้เห็นผีตลอดเวลา จะเห็นตอนนั่งสมาธิ
หรือหลับในสมาธิเท่านั้น จนราวในปี 2539-2540 นี้
กระมังครับ ผมได้เข้ามาอยู่ กทม. ได้ไปถวายสังฆทาน
ที่บ้านซอยสายลม และได้ฝึกมโนมยิทธิในวันเสาร์
และต่อด้วยญาณ 8 ในวันอาทิตย์เลย ตอนที่ฝึกได้ใหม่ ๆ
ตอนนี้ โอ ดูอะไรก็แม่นครับ เพราะการงานยังไม่รัดตัวมาก
จิตสะอาดสะบายผ่องใส จะดูอะไรก็ชัดเจน
ผิดกับตอนนี้ครับ ทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว
ดูมันวุ่นวายซักทุกอย่าง จะหาเวลานั่งจริง ๆ จัง ๆ ก็นาน ๆ ที




แต่ดีที่ว่า ตอนที่ฝึกมโนที่บ้านซอยสายสม
ผมได้วิธิฝึกอีกอย่างหนึ่งจากพระเดชพระคุณท่่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาฝึก
ผมไม่แน่ใจว่า อ่านจากหนังสือหรือฟังจากเทปคาสเซส
เพราะมันนานมากแล้วครับ แต่วิธิฝึกไม่มีลืมครับ
คือการฝึกเข้าอุปจาระสมาธิแบบลืมตา
การฝึกแบบนี้เป็นเหตุให้ผมสามารถเห็น 2 มิติพร้อม ๆ กันได้
คือสามารถเห็นวิิญญาณได้ หรือผี หรือ เทวดาได้
โดยลืมตาอยู่ เหมือนแบบที่ผมเห็นลุงฟ้อนเจ้าของเก่า
บ้านเช่านั่นล่ะครับ



จริง ๆ การเห็นผีโดยตาเนื้อนี้
ผมเห็นบ่อยมาก แต่ไม่ได้เอามาเล่าให้ฟังเพราะมันไม่มีเรื่อง
จะเล่าครับ เดินไปตามถนน เห็นก็คือเห็นแล้วเราได้เดินผ่านไป
ก็แค่นั้น เพราะเราต้องไปทำกิจกรรมอย่างอื่นต่อไป
ไม่เหมือนกับเรานั่งสมาธิอยู่บ้านไม่ได้ไปไหน
สมาธิตั้งมั่นอยู่จึงสามารถพูดคุยกับผีที่มาหาเราได้




วิธีฝึกก็ไม่ยากเลยครับ หาพระพุทธรูปหน้าตักซัก 5 นิ้วมา
สักองค์ ตั้งไว้ในที่ที่เราอยู่นาน ๆ ที่สุด เช่น ที่ทำงาน
ห้องนอน ขณะที่ทำงานไป ให้จำภาพพระให้ได้
แล้วให้สร้างภาพระไว้ตรงหน้าพาก หากลืมภาพก็ให้มองใหม่
แต่ไม่ต้องมีคำภาวนา เพราะการที่เราทำงานก็เปรียบเหมือน
เราท่องคำภาวนา แต่ถ้าหยุดทำงาน แล้วว่าง ๆ อยุ่
ให้ท่องภาวนาด้วย
ให้ทำทุกอริยบท กินเดิน วิ่งก็ได้ นอนลืมตาก็ได้
(แต่ผมนอนจะหลับตาเลย) มีอย่างเดียวที่ผมจะขอห้ามฝึก




คือตอนขับรถ ผมจะตายเอาหลายครั้งแล้วครับที่
ทำสมาธิแล้วเห็นผีลอยมาจะมาชนรถ
ด้วยสัญชาติญาณของคนขับรถ ก็หักหลบซิครับ
ไม่ลงข้างทางก็ก็ชนรถข้าง ๆ ล่ะครับพี่น้อง
มีครั้งหนึ่งครับ ผมขับรถเร็วมาก วันนั้นผมรุ้สึกเหนื่อย ๆ
ไม่ค่อยมีสมาธิขับรถ ก็เลยว่า จะเข้าสมาธิ เรียกสมธิ
เสียหน่อย แต่ด้วยความเคยชินของจิตที่มันจะเลยเข้า
ระดับฌาณ ไปเลย(สมาธิระดับฌาณ จิตจะไม่รับสัมผัสจากตา
แม้ว่าจะลืมตาอยู่ก็ตามครับ จะเหมือนกับหลับตาขับรถครับ )
แต่ด้วยเหตุผมใดก็ไม่ทราบได้ผมก็ออก
จากสมาธิได้ทันในตอนที่รถกำลังจะขึ้นสะพาน
ดีน่ะครับที่ถนนเป็นทางตรง ถ้าถนนเป็นทางโค้ง
อาจจะไปบวกกะเสาไฟหรือต่อหม้อสะพาน เป็นแน่ครับ
( จำได้ว่าเป็นช่วงแคราย ไปขึ้นสะพานข้ามแยกเกษตรครับ)
ฉะนั้นห้ามทำสมาธิขณะขับรถครับอันตราย





อาจมีคนถามว่า
แค่นี้ก็เห็นผีได้แล้วเหรอ ไม่หรอกครับ จิตจะต้องสะอาด
ด้วยครับ ศีลต้องสะอาดเพราะศีลทำให้เกิดสมาธิ จะต้องไม่มีกังวลใด ๆ
ให้ทรงพรหมวิหารธรรม
ตลอดเวลา เพราะจิตผุ้ที่ทรงวิหารธรรมไว้นี้ จิตจะมีแต่
ความอ่อนโยน จึงน้อมเข้าสมาธิได้ง่าย ยิ่งแถมด้วย
มรณังนุสติอีกด้วยแล้ว จิตจะปลง จิตยิ่งสะอาดครับ
ทิพย์จักขุเกิดได้ง่ายครับ
คิดว่าไม่ยากน่ะครับ ลองฝึกกันดู ได้ผลยังไงก็มา
เล่าสู่กันฟังในกระทู้นี้น่ะครับ ​

 

ผีตามทางหลวง


ไม่ได้เข้ามาเขียนเสียนานครับ ต้องเปิดย้อนไปดูว่าตัวเอง
เขียนไปถึงไหนแล้ว เดี๋ยวจะเขียนซ้ำที่ตัวเองเล่าไปแล้วครับ 555
หลังจากที่ผมซื้อบ้านแล้ว ก็มาคิดว่า มีบ้านแล้วมันก็ต้องมีรถซักคัน
แต่ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ ก็อยากมีรถเอาไว้ขับเท่ห์น่ะครับ
เป็นเพราะ ปีที่ 2 ของการอยู่บ้านใหม่
ผมมีงานรับเหมาก่อสร้างห้องบันทึกเสียงมากขึ้น
บางเดือน ต้องเปิด 2 ไซด์งานพร้อมกัน จำเป็นต้องมีรถเอาไว้ขับ
ไปตรวจงานครับ ถ้าจะอาศัยแท็กซี่ ค่าแท็กซี่คงกินตายเลย
จึงได้ซื้อรถยนต์ 4 ประตู ยี่ฮ่อ เซฟโรเลท รุ่น ออฟตร้า 1.8
เมื่อซื้อมาแล้ว ตามประเพณีไทยเราก็ต้องหาพระอาจารย์
มาเจิมรถให้เป็นศิริมงคล ผมจึงขับรถไปที่ อ. บึงกาฬ จังหวัดหนองคาย
ปัจจุบัน เป็นจังหวัดบึงกาฬแล้วครับ ผมไปที่วัดภูกระแต
ให้ หลวงปู่ทองพูล ศิริกาโม ตั้งใจให้ท่านเจิมให้
ตามปกติแล้วท่านมักมีกิจนิมนต์มาก ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนครับ
มีลูกศิษย์มากมาย วันนั้นโชคดีมาก ท่านอยู่ที่วัดพอดี ท่านก็เมตตาเจิมให้
...ผมขับรถคันมาก 7 ปีแล้ว ไม่เคยขับชนใครเลยครับ มีเฉี่ยวนิด ๆ หน่อย ๆ
ก็เป็นคนอื่นเค้ามาเฉี่ยวครับ...
พอคนมันมีรถครับพี่น้อง มันก็มักจะไม่ค่อยอยู่บ้านเสียแล้ว
เสาร์อาทิตย์ ก็มักจะขับไปเที่ยวต่างจังหวัด......
และเช่นเคย อ. วิรุฬ เพื่อนรัก พอรู้ข่าวว่ามีรถ ก็บอกว่า
จะมานั่งเอาฤกษ์ เอาชัย ก็เลยบอกว่า มาเล๊ย
เดี่ยวจะได้ขับรถเที่ยวต่างจังหวัดกัน...
.......วันนั้นเป็นวันเสาร์ครับ แฟนผมและน้องแฟน ไม่ต้องทำงาน
ก็เลยขอติดรถไปเที่ยวด้วย......ตกลงว่าเราจะไปสักการะสมเด็จพระนเรศวรเจ้า ที่ ดอนเจดีย์ สุรพรรณบุรีครับ


....เราออกตอนสาย ๆ แต่ตอนก่อนจะออกรถ อ. วิรุฬ ก็บอกกับผมว่า
เดี๋ยว อย่างเพิ่งออกรถ ให้เข้าสมาธิก่อน จะพาดูของดีข้างทาง
..ผมก็งงเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ก็ทำตามแต่โดยดี โดยเข้าสมาธิ
อยู่ประมาณ 10 นาที ก็ยั้งตัวไว้ที่ อุปจาระสมาธิ วิรุฬบอกว่า
ให้คงสมาธิไว้ ตรงอุปจาระหยาบ ...ผมก็ทำตามนั้นแล้วก็ขับรถออกจากบ้านไป


เราขับรถไปออกเส้นตลิ่งชัน สุพรรณบุรี ขับไม่รีบเร่ง คุยกันไปด้วย
จอดรถหากาแฟกินบ้าง ตามเรื่อง พอออกมาจากแถวบางใหญ่
วิรุฬก็ให้ลดความเร็วเหลือไม่เกิน 40 กม/ชม. และบอกว่า
เวลาจะขึ้นสะพานแต่ละสะพานให้ขยับสมาธิมาเป็นอุปจาระละเอียด
แต่ไม่หลับตาน่ะครับ อันนี้ต้องคนเคยฝึกมาก่อน ถ้าทำได้
จะสามารถมองเห็น 2 มิติพร้อม ๆ กัน แต่บางคน ก็ทำได้แบบไม่รู้ตัว
คือพวกที่ อ่านหนังสือดึก ๆ และมีสมาธิมากๆ ก็อาจจะเห็นอะไรแว็บ ๆ
แถวหางตา ก็คิดว่าตัวเองตาฟาดไป จริง แล้ว
นั่นล่ะคืออุปจาระหยาบ-ละเอียด แบบลืมตา ที่ทำได้แบบไม่รู้ตัว .


..ผมก็ตั้งจิตให้มั้นขึ้นอีกนิด ก็มาที่อุปจาระละเอียด .....
.สะพานเแรก วิรุฬบอกให้มองทาง ขวาของสะพาน ผมก็เห็น เป็นเด็กนักเรียน
คาดว่าอายุราว ๆ 10-12 ปี นั่งยอง ๆ เลือดท่วมตัวอยู่บนสะพาน
ซึ่งก็ตรงกันกับที่วิรุฬบอก แต่ แฟนผมและน้องแฟน ต่างก็ไม่เห็นอะไร
ได้แต่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างหลัง สะพานแล้วสะพานเล่า
ก็มีผีที่ตายและยังไม่รู้ว่าตัวเองตาย และ ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนอีกมากมาย
อยู่ตามถนนสายต่าง ๆ รอส่วนบุญส่วนกุศลจากพวกเรา
ที่จะแผ่เมตตาให้ ถ้าท่านใดได้อ่านเรื่องนี้ ถ้าขับรถไปต่างต่่างจังหวัด
ก็แผ่เมตตาให้พวกเค้าด้วยน่ะครับ
​

 

ผีตาม 4 แยก

ถ้าจะพูดถึงสัมภเวสี หรือว่าผีนี้ ถามว่าผี ชอบอยู่ที่ไหน จริง ๆ
แล้วน่ะครับ ตามที่ผมเห็นนี่ ผมเห็นอยู่ทุกที่จริง ๆ ตาม สะพาน
ตาม 4 แยก ตามหน้าศาลเจ้า แม้กระทั่งบ้านคน
ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านผม
ก็มีสัมภเวสีมาแวะเวียนบ่อย ๆ แต่ที่น่าแปลกใจที่สุด
ที่ผมได้เคยเห็นสัมภเวสีมาที่ เกิดขึ้นที่ 4 แยก ผมจำชื่อแยกไม่ได้ แต่เป็นแยกถนนพระราม 9
ตัดกับถนนเลียบท่างด่วนรามอินทรา ที่มาพร้อมกันมากมายจริง ๆ



วันนั้น ผมจำได้คลับคล้ายคลับคราว่า ไปส่งงานที่บริษัทรถไฟดนตรี
แล้วก็จะกลับบ้าน
ออกจากบริษัท ก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 9 วันนั้นรถติดมาก
รถผมมาจอดติดไฟแดงเตรียมเลี้ยวขวาเข้าถนนเลียบทางด่วน
เพื่อจะเข้าถนนลาดพร้าว ด้วยวันนั้นรถติดมาก และไฟแดงแต่ละรอบนั้น
นานมาก ผมก็เลยจะหลับตาเพื่อพักสายตาซัก 2-3 นาที
ด้วยความเคยชินครับพอหลับตาลงก็จับลมหายใจแล้วภาวนาพุทโธ
โดยอัตตโนมัติ ภาวนาไปราว 1 นาที ผมก็เห็นเป็นคน
หลาย 10 คนแต่งตัวมอมแมมมายืนล้อมรถผม หน้าตาหน้ากลัวมาก
เนื้อตัวดูราวกับศพไหม้ ไม่หมด ดูแล้วน่าเวทนามาก ทุกคนต่างพนมมือ
ราวจะขออะไรซักอย่าง ผมก็รู้ทันทีว่า
คงเป็นสัมภเวสีที่ตายด้วยอุบัติเหตุต่าง ๆ กัน มาขอส่วนบุญ
ผมก็จึงตั้งใจแผ่ส่วนบุญให้ เขาทั้งหลายก็ดูดีขึ้นและค่อย ๆ จางหายไป
ก็พอดีกับ ไฟเขียว ผมก็จึงขับเลี้ยวขวาไป ตั้งหน้ากลับบ้าน



อย่าลืมน่ะครับ สัมภเวสี ตามถนนหนทาง ยังรอส่วนบุญจากพวกเราอยู่ครับ
​