พระสงฆ์สูบบุรี่..ท่านคิดว่ายังไง

คือผมสงสัยว่า..เห็นพระสงฆ์หลายองค์ที่ชอบสูบบุหรี่..เอาเป็นว่าถึงขั้นติดบุรี่ก็ได้..ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์องค์ที่เราเคารพบูชาและเชื่อว่าท่านเป็นผู้สำเร็จแล้ว
..อันนี้ก็เลยสงสัยว่า..ตามหลักผู้ที่สำเร็จอรหันต์ย่อมละจากกิเลสทั้งปวงนั้น..แล้วนี่ยังติดบุหรี่อยู่..มันยังไงกันนเนี่ย../
ขอท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ..จะถามพระท่านก็ไม่กล้า.ถาม...(ขอบพระคุณล่วงหน้า)..:'(

 

ชนะใจตนเองไม่ได้ แล้วจะชนะกิเลสได้อย่างไร

 

เราคิดยังไง เอาไปเปรียบเทียบกับท่านคิดยังไง หากท่านอยู่ในฐานะที่เราไม่เข้าใจ
เอาความเข้าใจของเรา ไปทำความเข้าใจของท่าน ยังไงก็ไม่เข้าใจ ก็เราไม่เข้าใจ สิ่งที่ท่านเข้าใจ

ท่านคิดยังไง ไม่สำคัญเท่าเราคิดยังไง ต่อเราเอง
เมื่อเราเข้าใจ แม้ใครคิดยังไง เราก็เข้าใจ ด้วยเราเข้าใจ

ใครเข้าใจไม่เข้าใจ เราเข้าใจ เราก็จะเข้าใจ

 

ก็ท่านติดมาก่อนจะให้ทำยังไงครับ..

 

บุหรี่ ไม่ได้มีอยู่ในศีล ๒๒๗ ข้อที่พระพุทธเจ้าบัญญัติครับ......

แต่มาสมัยนี้ท่านเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร....ท่านจึงไม่สูบ....เพราะเห็นว่าไม่งาม....ถึงแม้ถ้าสูบก็อย่าให้โยมเห็น.....

พระเถระในอดีตที่ท่านสูบบุหรี่นั้น.....ท่านไม่ได้ผิดศีลนะ.......พระธุดงค์ท่านอยู่ป่า.....ที่แน่ๆในป่ายุงมันเยอะ....การสูบบุหรี่เป็นการไล่ยุงชนิดหนึ่ง....

จะย้ำอีกครั้ง.....สูบบุหรี่....ไม่ผิดวินัยสงฆ์......แต่อนุโลมเป็นสิ่งที่ไม่งาม(ในสมัยนี้)....เท่านั้นเอง....

ก็เหมือนพระเถระที่ท่านดื่ม ชา หรือ กาแฟ ก็เห็นอยู่ว่าถ้าดื่มเป็นประจำอาจติด แต่สมัยนี้เห็นว่าไม่ผิด.....ใครจะไปรู้อีกหน่อยอาจเห็นว่าผิดก็ได้......สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าไม่บัญญัติไม่ผิดครับ....แต่สงฆ์ต้องอยู่กับชุมชน....ต้องดูกาลสมัยนั้นๆว่าเขานิยมแบบใหน....สิ่งใดเห็นว่าดีว่างาม....สิ่งใดเห็นว่าไม่ดีไม่งาม เท่านั้นเอง.....

 

สงฆ์นี้แลสมมุติสงฆ์นี้ พุทธองค์ทรงมอบไว้ เพื่อยังกุศล แลสืบทอดศาสนาจวบจนสิ้นพุทธกาลแห่งพุทธองค์
ไว้เป็นเนื้อนาบุญแห่งพุทธศาสนานิกชนทั้งหลาย ตามกำลังความเหมาะสมของพุทธศาสนิกนแต่ละผู้ ที่จะได้พบซึ่งความบริสุทธิ์นั้น ตามกำลังที่ได้สะสมมา
ดีไม่ดี ก็ได้สะสมกันมา ก็ด้วยสะสมกันมา
ดีได้ดี ก็ด้วยสะสมมา

 

เคยถามผู้รู้แล้ว กรณีที่พระสูบบุหรี่นั้น ไม่ผิดครับ แต่ดูไม่ดี ถ้าจะสูบก็อย่าสูบต่อหน้าโยม ก็น่าจะไม่เป็นปัญหาอะไรนะครับ

 

อนุโมทนาค่ะ คิดว่าติงเข้าใจ สิ่งที่คุณเข้าใจ​

 

พระอาจารย์ที่ติงเคารพ ท่านก็สูบบุหรี่
เป็นบุหรี่ ที่ลูกศิษย์มวนถวาย
ติงไม่สงสัยในจริยาของพระอาจารย์
ท่านยังฉัน ชา กาแฟ หมากพลู ท่านก็รับ และอื่นๆอีก ซึ่งติงก็ไม่สงสัยอยู่ดี
​

 

ฮืม..ใช่เน๊อะ..หลวงปู่แหวนท่านยังสูบเลย..แล้วท่านก็ยังเป็นพระอรหันต์อยู่ดี...
ขอบุคณทุกท่านที่แสดงความเห็น...
เอ...แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดี..อาการติด..อาการอยากบุหรี่เนี่ย..ถือว่าเป็นกิเลสไหม../

 

เอ ผมสงสัยว่าพระอริยะเจ้าท่านหิวข้าวหรือเปล่าครับ แล้วอาการหิวข้าวเนี่ยเป็นกิเลสหรือเปลาครับผม อืมน่าคิดนะครับ

 

ใช่ๆๆๆๆ555สาธุๆๆๆชอบใจคุณลุงมากๆๆๆๆ สาธุๆๆ
สูบบุหรี่สูบให้ตายยังไงก็ไม่"เมา" "ไม่ขาดสติ" ส่วนเหล้า-ยาเสบติดพวกยาบ้า-ผงขาว กินเข้าไปเสียสติ ฆ้าคนก็ได้-โกหกก็ได้-ผิดลูกเมียเค้าก็ได้-ขโมยของก็ได้.......เบื่อพวก"นักปราด"สมัยใหม่จริงๆ ชอบทำตัวเก่งกว่าพระพุทธเจ้า

 

กระทู้หัวข้อนี้ตั้งกันในพลังจิตมาเป็นจะสิบกระทู้แล้ว นะครับ....

แนะนำให้ไปดูของเก่าๆที่ตอบกันมา ผิดถูกอย่างไรเอาสมองไปพิจารณากันได้
แต่อย่านึกเอาเองแล้วกัน....

 

แต่ก่อนหน้านั้นการสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติ เจ้านายผู้หญิงหลายๆพระองค์ก็ทรงสูบบุหรี เป็นเรื่องปกติ บางพระองค์ถึงกับทรงตรัสว่า" ข้า..เกลียด(หมาก)ชอบ(ซิกกาแรต) "ข้าหลวงต้องรู้จักการรีดใบตอง การชุบใบยาเส้นกับน้ำสับปะรด ผสมพิมเสน(รสเมนทอล) เค้าหาว่าการสูบบุหรี่ไม่"สุภาพ" ในสมัย "มาลานำไทย" สมัยนั้น

 

ไม่รู้ ทางมหายาน ท่านจี้กง ดื่มเหล้า ฉันเนื้อสุนัขดำ เขาบอกผิดศีล แต่ท่านเป็นอรหันต์...

 

ถือศีลนับ1000ข้อ แต่ใจสกปรก ยกตนข่มท่าน ดูถูก ภูมิธรรมคนอื่นว่าโง่กว่าตน
จะมีประโยชน์อะไร กับคนที่บาปผิดแล้วสำนึก และพัฒนาตัวเองให้ดีรอบคอบทั้งกายและจิตใจ อย่างไหน ขึ้นชื่อว่าคนชอบธรรมละ .....และใจสูงละ

 

หลวงปู่แหวน

ผมคิดว่า ท่านสูบยาเส้นเป็นเพียงกริยาทางกายเท่านั้น ท่านไม่ติด สูบก็ได้ไม่สูบก็ได้

มีคนถวายให้ท่านก็สูบเจริญศรัทธา แต่ใจท่านสะอาดบริสุทธิ ไม่ยึดถือสมมุติมาข้องเกี่ยว

 

ลองคิดสิ ถ้าผิด เพราะอะไร
และถ้าไม่ผิดเพราะอะไร

และถ้าโลกนี้ไม่มีศาสนา มันคือผิดหรือถูก

 

คุณพสภัส..ครับ ผมมิใช่นักปราชญ์ทางพุทธศาสนาอะไรหรอกครับ...ความรู้ภูมิธรรมของผมคงไม่อาจเอื้อมเท่าคุณหรอกครับ..เพียงแต่สงสัยและอยากให้ท่านที่มีวินิจฉัยที่เก่งและแตกฉานทางธรรมอธิบายให้ฟังเท่านั้นเอง...
ถ้าหัวข้อนี้มีอยู่แล้วก็ขอบคุณ ผมจะไปค้นหาดู....และจะพยายามใช้สมองคิดให้มากครับ....
.......นี่หรือบอร์ดพระพุทธศาสนา......อนิจา../.....

 

อืมนะ จะมาน้อยอกน้อยใจอะไรกันอีกหละหนอพ่อ เขาก็ตอบไปตามเรื่องของเขานั่นแหละหนาพ่อเอย เขาจะดุเขาจะด่ามาก็ต้องรับฟังอ่านด้วยใจว่าง อย่าอ่านด้วยอัตตาตัวตนสิหนอพ่อท่าน นี่แหละหนอตัวทุกข์ เห็นตัวทุกข์ไหมพ่อ ตัวทุกข์ไม่ได้อยู่ที่บุหรี่นะ ตัวทุกข์อยู่ที่คนแบกอัตตาต่างหาก

พ่อเอย พ่ออย่าสารเวรต่อเลยนะ พ่อบอกว่าอนิจจา แต่รู้ไหม คำว่าอนิจจาของพ่อหนะมันเป็นห่วงกรรม พ่อสารเวรต่อไม่รู้จบสักทีแล้วเมื่อไหร่พ่อจะวางได้หละ

วางได้ต้องยอมได้นะพ่อ

ครับ ครับผม ขอบคุณครับ แค่เนี้อ อย่าไปทิ้งทวนล่อเหยื่อสิพ่อ มันแว็บๆอัตตาให้เขาเห็นเขารู้นะ ถึงจะใช้ถ้อยคำหวานซึ้งขนาดไหน แต่ภายในมิทันวางได้จริง ถ้อยคำที่สะท้อนออกมานั้นก็ต้องมีจุดบ่งให้รู้ว่าผู้เขียนไม่ยอม ไม่ยอม ไม่ยอม อยู่ดีนะพ่อนะ

หากทำให้ไม่ชอบใจก็ต้องขอโทษนะพ่อ ขอบคุณพ่อมากมาย สวัสดีครับ