ความโกรธ เกิดจากความคิดปรุงแต่ง (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 6 กันยายน 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]


    ความปรุงใจเป็นสิ่งสำคัญ ทำความรู้ความเข้าใจในเรื่องความปรุงของใจเสียก่อน ให้เห็นแน่ชัดเสียก่อนว่า ความโกรธหรือไม่โกรธ ไม่ได้เกิดจากเสียงภายนอกที่มากระทบประสาทหู

    แต่ความโกรธ หรือไม่โกรธ ชอบหรือไม่ชอบ เกิดจากความปรุงคิดแท้ๆ ความปรุงคิดของในเรานี้แหละ ที่ทำให้เกิดความชอบหรือไม่ชอบ ความโกรธหรือไม่โกรธ เมื่อความชอบหรือไม่ชอบ โกรธหรือไม่โกรธเกิดได้เพราะความปรุงคิด จึงมิได้เพราะบุคคลภายนอกแต่เกิดจากตัวเองเท่านั้น

    ตัวเองนี้แหละเป็นเหตุให้ชอบหรือไม่ชอบ โกรธหรือไม่โกรธ เวลาเกิดความไม่ชอบหรือความชอบ ความโกรธก็เกิดขึ้นจึงควรมีสติรู้ว่าตนเองเป็นผู้ทำให้เกิด ไม่มีผู้อื่นมาทำ เมื่อใจไม่ส่งออกไปโทษผู้อื่นว่าเป็นเหตุ ใจรับความจริงว่าตนเองเป็นเหตุ ความโกรธก็จะลดน้อยถึงหยุดลงได้ สำคัญต้องมีสติรู้ว่าความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดขึ้นเพราะความปรุงในจิตใจของเราเอง มิได้เกิดขึ้นเพราะบุคคลหรือวัตถุภายนอก

    นี่พูดถึงเมื่อความโกรธเกิดขึ้นแล้ว ให้ดับด้วยการมีสติรู้ความจริงว่าตนเองเป็นผู้ทำ แต่ถ้าพูดถึงการป้องกันมิให้ความโกรธเกิด จะต้องฝึกให้สติเกิดเร็วขึ้นอีก และดังกล่าวแล้วในตอนต้น ๆ จะต้องฝึกให้เกิดเหตุผลและปัญญา รวมทั้งเมตตากรุณาด้วย การฝึกในเรื่องเหล่านั้นจำเป็นต้องทำเมื่อความโกรธยังไม่เกิดขึ้นในจิตใจ หรือเมื่อเกิดแล้วแต่ดับแล้ว

    เมตตากรุณาเป็นความรู้สึกตรงกันข้ามกับความโกรธ ผู้ที่มีเมตตากรุณาในผู้ใดอยู่ ความโกรธในผู้นั้นจะเกิดไม่ได้เพราะเมตตาหมายถึงความปรารถนาให้เป็นสุข กรุณาปรารถนาจะช่วยให้พ้นทุกข์ เมื่อมีความรู้สึกดังกล่าวอยู่ในใจ ความโกรธย่อมเกิดไม่ได้เป็นธรรมดา การเจริญเมตตาจึงเป็นการแก้ความโกรธที่ได้ผล

    ผู้เจริญ เมตตาอยู่เสมอ เป็นผู้ไม่โกรธง่าย ทั้งยังมีจิตใจเยือกเย็นเป็นสุข ด้วยอำนาจของเมตตาอีกด้วย ผู้ใดรู้สึกว่าจิตใจเร่าร้อนนัก เมื่อเจริญเมตตาจะได้รู้สึกว่าเมตตามีคุณแก่ตนเองเพียงไร

    แม้เมื่อเจริญเมตตาจะปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข แต่ผู้จะได้รับผลแห่งความสุขก่อนใครทั้งหมด คือตัวผู้เจริญเมตตาเองเช่นเดียวกันการคิดดีพูดดีทำดีทุกอย่าง ผู้ที่ได้รับผลของความดีก่อนใครทั้งหมดคือตัวผู้ทำเอง และได้รับผลของความดีมากกว่าใครทั้งหมดก็คือตัวผู้ทำเอง จึงควรคิดดูน่าจะคิดดีพูดดีทำดีกันเพียงใดหรือไม่

    : ฝึกใจไม่ให้โกรธ
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


    ที่มา ::
     
  2. crabhom

    crabhom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +203
    สาธุ๊ สาธุ๊

    อนุโมทนาค่ะ

    2-3วันนี้ ยอมรับว่าจิตปรุงแต่งมากมาย จึงทำให้มีอารมณ์โกรธ
    แต่ก็พยายามมองจิตตนเองอยู่ทุกวินาทีนะค่ะ ไม่งั้นแย่เชียวค่ะ
     
  3. jojpx

    jojpx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +213
    ผมเองก็ชอบคิดไปเองบ่อยแต่ก็มองจิตตัวเองทำให้ดีขึ้นมากเลย
     
  4. pipat551

    pipat551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +345
  5. pipat551

    pipat551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +345
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน
    เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p

    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่

    www.tangnipparn.com
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา
    [​IMG]</O:p>
     
  7. คนวิเชียร

    คนวิเชียร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +1,298
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ ครับ ความโกรธ อกุศลธรรมเมาทั้งหลาย เมื่อเกิดขึ้นเรานั้นแหละเดือดร้อน เพราะฉะนั้นละให้หมด ทำใจของตนให้ผ่องใส เอาใจละ เอาใจวาง เอาใจถอน ละออก วางออก ถอนออก จากจิตใจของเรานี้ สาธุ
     
  8. Surachai Mankong

    Surachai Mankong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +329
    ขออนุโมทนาสาธุการครับ
    ใช้เลยครับ บางครั้งก็โกรธไปแบบไม่รู้ตัว แล้วก็เก็บเอาสิ่งที่เราโกรธมาคิด


    ______________________________________________________

    ขอเชิญมาเป็น 1 ในเครือข่ายความดี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกคนทำดี
    hi5 - ?PEC?เครือข่ายความดี•?


    หรือเชิญพี่ๆเข้ามาอ่านบทความของท่านพระอาจารย์เอก ได้นะครับ
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญมาเป็นหนึ่งในเครือข่ายความดี.253322/

    สารธารบารมี ขอเชิญร่วมทำบุญกับหลวงพ่อ อลงกต วัดพระบาทนำพุ
    1900222200 ครั้งละ 15 บาท เงินเพียงน้อยนิดอาจทำให้เด็ก อิ่มได้
     
  9. PimPoo

    PimPoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +291
    ใช่เลย ถ้าคนเรายังมีความโกรธอยู่อยู่ในจิตใจเราแล้ว จิตใจคนนั้นก็จะขาดความเมตตา
    แต่ถ้าจิตใจของคนนั้นมีแต่เมตตา มีแต่ให้อภัย ความโกรธนั้นก็จะไม่มี จิตดีเท่านั้นเป็นฝ่ายบุญ บุญไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล แค่ทำใจข้างในให้ดีก็ส่งผลข้างนอกออกมาดีด้วยนี่คือ บุญแท้จริง ขอให้ทุกคนพยายามมีสติระลึกรู้บ่อยๆ ทำให้มันชิน จิตจะได้สงบใจก็เป็นสุขเอง ดวงจิตแท้จริงแล้วบริสุทธิ์ทุกดวงแต่ใครจะมีกิเลสตัณหาฯมากน้อยเพียงที่ไปบดบังไปรบกวนให้จิตเราไม่มีความสุขเท่าที่ควร
    เพราะฉะนั้นเราจึงควรหมั่นเจริญภาวนาหรือเจริญสติอยู่บ่อยๆด้วยเหตุนี้เอง คือได้ชำระล้างจิตใจขงเราให้สอดได้แค่ระดับหนึ่งก็ยังดี ถ้าใครทำได้อย่างถาวรต้องเรียนรู้อิยสัจจ์ให้แจ่มแจ้งให้ท่องแท้ ถึงจะดับทุกข์ทางใจได้อย่างถาวร คือให้จิตรู้เองว่าสิ่งั้งหลายที่เข้ามาทางทวารทั้ง6ก็คือตัวทุกข์ล้วนๆนั่นเอง ไม่ใช่คนที่วิ่งเข้าหาสุขมัวติดสุขหรือวิ่งหนีทุกข์อยู่นั้น เป็นบุคคลยังไกลต่ออริสัจจ์ ฝึกดูกายดูจิตมันไม่ยาก มันยากเฉพาะคนไม่ปฎิบัติเท่านั้น...
    ขอฝากให้ทุกคนมีแต่เมตตาให้กันมากๆ โดยการมีสติก่อนแล้วค่อยหมั่นทำภาวนาเจริญสติ ขอให้ทุกท่านจงมีแต่ความสุข อย่าได้ทุกข์เลย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดแล้วก็ต้องดับเป็นธรรมดา อย่าเอาจิตไปยึดถืออะไรมันเลยในโลกนี้ เพราะว่าสิ่งทั้งปวงเป็นอนิจจัง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นตามเป็นจริงที่พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ดีแล้ว ขอให้ทุกคนเอาแบบอย่าง ท่านบอกให้ละ มิใช่เอา คิดเอาละไม่ได้ นี่ไงคือต้นตอของความทุกข์ ในเมื่อเราๆท่านเอาแต่ทุกข์เข้าหาใจตนเอง แล้วมีทุกข์เข้ามในใจ แล้วเจ้าจะไปโทษใครเขาเล่า....ได้โปรดพิจารณาให้ดีๆ ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ธรรมเป็นเฉพาะบุคคลสอนกันไม่ได้ จนกว่าผู้น้นจะลงมือปฎิบัติด้วยตนเองเท่านั้น ถึงจะเห็น ถึงจะจะรู้และชอบเอง
    หลวงพ่อจรัญฯวัดอัมพวันบอกว่า นิสัยคนรานั้นเปลี่ยนยาก นอกเสียจากคนนั้นได้ปฎิบัติธรรมสมถวิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น ถึงจะเปลี่ยนใจคอบุคคลนั้นได้(แต่ต้องชำระกิเลสตนเองให้ได้ซะก่อน ไม่งั้นมองไม่เห็น เพราะว่าธรรมะเป็นสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จะเห็นด้วยปัญญาเท่านั้น).ธรรมะพูดง่าย แต่ทำยาก..ขอฝากด้วยครับ
    จาก...ธรรมะแค่หางอึ่ง ไม่ได้มาสอนผู้รู้นะที่นี่ แต่มาบอกว่า พระธรรมของพระพุทธองค์สุดยอดและของแท้แน่นอน....ใครปฎิบัติตามผู้นั้นมีแต่ความสุขความเจริญเข้ามาในชีวิต...
     
  10. lesha

    lesha สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +5
    มีสติรู้ว่าตนเองเป็นผู้ทำให้เกิด ไม่มีผู้อื่นมาทำ เมื่อใจไม่ส่งออกไปโทษผู้อื่นว่าเป็นเหตุ ใจรับความจริงว่าตนเองเป็นเหตุ ความโกรธก็จะลดน้อยถึงหยุดลงได้
    ----------------
    ใช่เลยค่ะ ปกติคิดตลอดเลยค่ะว่าถ้าเค้าไม่ทำเราก็ไม่โกด สงสัยต้องเย็นลงหน่อยเเล้วค่ะ
    ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ นะค่ะ

    อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  11. โลกุตตระ

    โลกุตตระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    448
    ค่าพลัง:
    +2,624
    เมื่อเจริญเมตตาจะปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข แต่ผู้จะได้รับผลแห่งความสุขก่อนใครทั้งหมด คือตัวผู้เจริญเมตตาเอง เช่นเดียวกันการคิดดีพูดดีทำดีทุกอย่าง ผู้ที่ได้รับผลของความดีก่อนใครทั้งหมด คือตัวผู้ทำเอง และได้รับผลของความดีมากกว่าใครทั้งหมดก็คือตัวผู้ทำเอง จึงควรคิดดูน่าจะคิดดีพูดดีทำดีกันเพียงใดหรือไม่ ...

    อนุโมทนาสาธุ ครับ...
     
  12. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    [​IMG]

    ผู้เจริญ เมตตาอยู่เสมอ
    เป็นผู้ไม่โกรธง่าย
    ทั้งยังมีจิตใจเยือกเย็นเป็นสุข
    ด้วยอำนาจของเมตตาอีกด้วย
    ผู้ใดรู้สึกว่าจิตใจเร่าร้อนนัก
    เมื่อเจริญเมตตาจะได้รู้สึกว่าเมตตามีคุณแก่ตนเองเพียงไร

    [​IMG]
     
  13. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    [​IMG]

    วันก่อน(วันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2553)
    ติงรับทราบได้ถึงจิตตนเองที่ปรุงแต่งอย่างชัดเจน

    เนื่องด้วยเย็นวันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2553
    พระอาจารย์ที่ติงเคารพศรัทธายิ่ง ท่านออกจากการเข้าเพียร
    (ไม่ฉันภัตตาหาร ไม่พูด ไม่สรงน้ำ 10 วัน)

    ก็มีการจัดสถานที่เตรียมสำหรับให้พระอาจารย์นั่ง
    ก็มีโยมท่านหนึ่ง เอาผ้าขาวไปปูลาด เพื่อพระอาจารย์จะได้วางเท้า
    ติงกับน้องเอฟ ก็มองหน้ากัน
    ติงพูดกับน้องว่าดีจังเลยนะคะ
    ถ้าเรามีผ้าเช็ดหน้าคงดี
    เอาไปปูถวาย....พระอาจารย์ท่านเหยียบ
    น้องก็บอกว่า น้องไม่ได้พกผ้าเช็ดหน้า
    แล้วบอกว่าน้องถอดเสื้อขาวไปปูได้
    ติงบอกว่าไม่เป็นไรหรอกนะ
    ...
    ดูสิคะ...ติงกับน้อง...ปรุงไปได้มากมาย
    สุดท้าย พระอาจารย์ไม่ได้มานั่งตรงนั้น
    แต่ญาติโยม ลงไปกราบพระอาจารย์ที่ถ้ำ
    ...
    จิตนี่เร็วมาก สามารถปรุงแต่งได้มากมาย หากเราไม่มีสติกำกับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2010
  14. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    ความโกรธหากมีขึ้นเฝ้าดูที่ตัวเรา
    แรกๆๆที่เริ่มพิจารณาเมื่อเวลาที่ความโกรธเกิดขึ้น
    เห็นได้ว่าคนที่ได้รับโทษจากความโกรธก็คือตัวเรา
    เพราะมันตุ๊บๆๆอยู่ที่อก และรู้สึกได้ว่าหน้าตาเราเหมือนยักษ์ยังไงไม่รู้
    แต่เมื่อพิจารณาความโกรธบ่อยๆๆ จนความโกรธเบาบางลง
    บางครั้งโกรธแต่แค่รู้ไม่ยุ่งกับมัน ไม่สนใจสักพักมันก็ไป
    คนที่ได้รับความสบายใจจากการไม่ยึดถือความโกรธเอาไว้ ก็คือเราเองจริงๆๆค่ะ
    ขอให้ทุกท่านรู้เท่าทันความโกรธและมีแต่ความสบายใจค่ะ
    อนุโมทนาค่ะ
     
  15. march5

    march5 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +10
    อนุโมทนากันข้อคิดหล้กธรรมอันนี้ด้วยครับ ระงับ ลดและหยุด ได้ ใจก็สงบไม่วุ่นวาย สติก็อยู่กับตัวทำให้รู้ตัวทั่วพร้อม ว่าเกิดสิ่งใดแล้วพิจารณาถึงความจริง ด้วยเหตุผลอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปรุงแต่งจิตเข้าข้างตน อย่างถือตน และดื่อรั้นทำแต่สิ่งที่ไม่ควรทำ จิตก็ไม่เกิดการปรุงแต่งไปตามสภาวะของอารมณ์ตน อกุศลบาปทั้งหลายก็ไม่เกิด
     
  16. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    อ่านแล้ว คิดว่าพระที่ไหนมาเทศน์ซะอีก ท่านนี่ช่างรอบรู้ดีจริงๆ ขออนุโมทนา
     
  17. arteminiis

    arteminiis Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +37
    กราบอนุโมทนาค่ะ
    ตอนนี้เริ่มทำความรู้จักกับความโกรธได้แล้วค่ะ จะเห็นได้ว่าเวลาเราโกรธจะเป็นทุกข์อย่างมาก แต่คนที่ทำให้เราโกรธกับมีความสุขกัน ตอนนี้เวลาโกรธ รู้สึกได้ว่า ความโกรธจะลดน้อยลงค่ะ สบายใจขึ้นมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...