ความเห็นเกี่ยวกับการแจกพระธาตุ

ในเมื่อคุณบอกเองว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ควร ก้อยากรู้ว่าที่บินผ่านหัวไปมันควรหรือไม่ แล้วคุณจะทำอย่างไรกับสิ่งไม่ควร และผมรู้ว่าภุมิจิตผมต่ำ แต่ผมไม่เคยยกตนข่มใคร ไม่กร้าวร้าวถึงบรรพบุรุษ และกระทู้แรกๆผมก็บอกชัดว่า ทุกคนที่ลงความเห็นกันมา ก็ถูกทั้งนั้น(นั้นหมายถึงทั้งคนที่เห็นดีกับการส่งและคนที่ไม่เห้นดีกับการส่ง)ผมไม่ได้ยึดมั้นว่าต้องส่งเท่านั้นจึงถูกผมใจกว้างพอ..ลองย้อนไปอ่านดูนะครับ

 

คำถาม
1.เข้ามาแสดงความคิดเห็นเรื่องอะไรตรงหัวข้อหรือไม่เราพุดถึงการส่งพระบรมสารีริกธาตุไม่ใช่พระเครื่อง
2.ข้อใดคือสิ่งที่บ่งบอกว่ากระผมก้าวร้าวถึงบรรพบุรุษ
3.ข้อใดแสดงให้เห็นการยกตนข่มท่าน
4.ท่านเข้าใจคำว่า ยกตัวอย่าง มากน้อยเพียงไร
5.ท่านเข้าใจคำว่าแสดงความคิดเห็นแบบสุภาพชน และ กัลยาณมิตร มากน้อยเพียงไร


ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นไม่ได้บังคัีบให้เชื่อหรือกระทำตามโปรดใช้วิจารณญาณ ให้พิจารณาเอาเอง การถกเถียงกันเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าอย่างนั้นเขาจะเรียกว่ากระทู้ทำไม

 

1.พระบรมสารีริกธาตุหรือพระเครื่องพระพุทธรุปล้วนเป็นสิ่งที่เคารพหรือจะบอกว่าพระเครื่องไม่ต้องเคารพกราบไหว้
2.-3.คงต้องให้กลับไปอ่านดูเองคงไม่มีปัญญาชี้นำแต่การบอกว่าภูมิจิตคุณขั้นปรมัตถ์ก้แสดงว่าไม่ะรรมดา
4.ผมก็ไม่รู้ว่าเข้าใจตัวอย่างหรือไม่ รู้ว่าทั้งพระธาตุและพระเครื่อง นั้นเป็นตัวอย่าง
5.ตรงไหนบอกว่าไม่สุภาพ
คุยกันที่เมลดีกว่า boora4@gmail.com

 

-ตรงไหนหรือครับที่ผมบอกมีภูมิจิตภูมิธรรมเป็นปรมัตถ์ ผมบอกว่ามีกำลังใจในการบูชาเป็นปรมัตถ์ กรุณาแยกแยะภาษาด้วย และขอให้ตอบให้ตรงประเด็นด้วยเพื่อความเข้าใจไม่ใช่โยนไปโยนมา ขอคำอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดด้วยครับเพื่อการตอบกระทู้จะได้ประโยชน์

 

-กำลังใจเป็นปรมัตถ์แต่ภุมิจิตไม่ถึง และสามารถบ่งบอกภูมิจิตคนอื่นได้ ก้ต้องมีภูมิจิตที่สูงกว่าซิ
-ที่บอกว่าไม่ตรงประเด็น โยนไปมา ยังไง ในเมื่อบอกว่าผมไม่เข้าใจคำว่าตัวอย่างแล้วที่ผมยกตัวอย่างพระเครื่อง คุณว่าตัวอย่างไหม
-แล้วที่บอกว่า ต้องสุภาพ ก็อยากรู้ตรงไหนไม่สุภาพ ยังไม่ตรงประเด็นหรอ

 

-ผมเขีนตรงไหนที่ต้องไปบังคับคุณว่าต้องสุภาพ มีแต่ขอความกรุณา
-ผมบอกว่า บ่งบอกภูมิจิตภูมิธรรม ก็คือบ่งอกความรู้ทางธรรมไม่ได้บอกอะไรไปมากกว่านั้น คุณคิดเอง เออเอง
-กระทู้คุยกันเรื่องการแจกพระธาตุ ไม่ใช่เรื่องเรียกร้องสิทธิ์ อยากเรียกร้องก็ไปเรียกร้องเอาเอง ผมไม่เกี่ยว กรุณาอ่านอะไรให้เข้าใจก่อนที่จะเขียน
-กระทู้ต่าง ๆที่เขียนเพื่อ ถกกันเรื่องความรู้และข้อคิดเห็นเพื่อเป็นแนวทางในการทำประโยชน์ให้แก่ศาสนา ไม่ใช่เขียนมาเพื่อเรียกร้องสิทธิ์
-ตอบคำถามไม่ตรงประเด็นและหาว่าผู้อื่นสุดโต่ง แล้วเคยคิดย้อนหาตัวเองบ้างหรือเปล่า
-หาว่าผู้อื่นยกตนขมท่าน ไม่ทราบว่า ประเด็นไหนคือยกตนข่มท่าน คิดเอาเองอีกแล้ว
-ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ต่างคนต่างจิตต่างใจ แต่เมื่อมีประเด็นขึ้นมาเพื่อแสดงความคิดเห็น ทุกคนก็มีอิสระทางความคิด ไม่ได้บังคับใครให้ทำตาม อยู่ที่วิจารณญาณ เพราะประเทศไทยเป็นสังคมประชาธิปไตย
-การเขียนอ่านภาษาไทยก็ควรตีความให้ออก ไม่ใช่ตีความไม่ถูกแล้วก็คิดเองสรุปเอง

 

-คุณถามมาข้อ5.ว่าท่านเข้าใจคำว่าแสดงความคิดเห็นแบบสุภาพชนฯเพียงไร..แล้วคุณก็ว่าไม่ได้ถามแล้วผมจะอธิบายไง(ย้อนไปอ่าน5ข้อของคุณนะ)
-ข้อความของคุณก็ว่า..ใช้ปัญญาพิจารณาแล้ว..บ่งบอกภูมิจิตได้...แล้วให้เข้าใจไง
-การเรียกร้องสิทธิอะๆไรผมก็ไม่ได้ไปบังคับเพียงแต่เห็นว่าเมื่อการจัดส่ง..ไม่เหมาะไม่ควร..ก็อยากรู้ว่าที่บินข้ามหัวมันเหมาะไหม และคณมีแนวทางอย่างไรเมื่อเห็นว่าการจัดส่งไม่เหมาะแล้วแบบที่ผมว่ามันก้ไม่เหมาะเหมือนกันเมื่อจะเอาแบบเคร่งครัดเช่นนั้น
-ผมก็ไม่ได้บังคับให้เรียกร้องสิทธิ แต่อยากทราบว่าถ้าเป็นกรณีนี้บ้างคุณจะทำไง
-ผมยอมรับตัวเองเสมอ ถ้าอันไหนไม่ถุกผมก็ยอมรับว่าตัวเองผิดแต่ผมก็ว่าอธิบายในประเด็นอยู่
-ที่ว่ายกตนข่มท่านนะ ที่ว่าเมื่อใช้ปัญญาพิจารณาแล้ว.....บ่งได้ว่าภุมิจิตคนอื่นเป็นไง(พุดง่ายๆก็ว่าที่ผมแลกเปลี่ยนความเห็นมันบ่งว่าภูมิจิตคงเลวทรามมาก)
-ถุกแล้วเมือ่มีกระทู้ก้แลกเปลี่ยนกันเมื่อมีคนถามผมมาผมก็ตอบไปตาม5ข้อของคุณ
-ผมก็ว่าน่าจะตีความถุกเพราะคุณก็ว่าพระธาตุนั้นสูงส่ง ผมก็เห็นด้วยแล้วเปรัยบว่าถ้าเป็นอัฐิบรรพบุรุษละ ..ผมก็เห็นด้วย เพียงแต่ว่าบางอย่างอาจหย่อนลงมาได้ อย่างอัฐิเราก็เคารพแต่เวลาเอาไปลอยน้ำกลับไม่เป็นไร นั้นก็แสดงว่าบางอย่างก็หย่อยได้บ้างไม่ใช้ตึงแปะ มันขึ้นอยู่กับเจตนานั้นแหละครับพี่ ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเมื่อถามมาก็คุยกันไปครับ เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้างก็เท่านั้น

 

ผมเห็นด้วยกับความคิดของพี่ทั้ง 2 นะครับ ที่ตอบกันไปมา พี่ทั้ง 2 ตอบกระทู้กันได้มันจริงๆๆ ครับ น้องอ่านแล้วสนุกดี แต่ไม่ได้คิดอื่นนะครับ น้องขอกลางๆๆ

___________________________________________________

ขอเชิญมาเป็น 1 ในเครือข่ายความดี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกคนทำดี
hi5 - ?PEC?เครือข่ายความดี•?

หรือเชิญพี่ๆเข้ามาอ่านบทความของท่านพระอาจารย์เอก ได้นะครับ
http://palungjit.org/threads/ขอเชิญมาเป็นหนึ่งในเครือข่ายความดี.253322/

สารธารบารมี ขอเชิญร่วมทำบุญกับหลวงพ่อ อลงกต วัดพระบาทนำพุ
1900222200 ครั้งละ 15 บาท เงินเพียงน้อยนิดอาจทำให้เด็ก อิ่มได้

 

อนุโมทนา สาธุ อย่างสูง ค่ะ

 

คุณเชื่อไหมว่าถ้าหากคุณมีศรัทธาจริง แม้สิ่งที่ท่านบูชาจะไม่ใช่พระบรมสารีริกธาตุ อต่ด้วยแรงศรัทธาของคุณ อาจจะเกิดปาฏิหาริย์ได้

 

ขออนุโมทนาบุญในส่วนที่เป็นบุญกุศลจริงๆ ในการทำงานและการแสดงความคิดเห็น แต่สิ่งที่เจือด้วยบาปโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผมไม่ขอรับในส่วนตรงนั้น

 

มหาอนุโมทนาบุญทั้งผู้ให้และผู้รับ
ถ้าทำด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์เบื้องบนท่านคงอนุโมทนาบุญครับ
และเพื่อเป็นการช่วยกันเผยแผ่ศาสนาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในการทำความดีของพุทธศาสนิกชน

 

อนุโมทนาสาธุกับน้ำใจอันประเสริฐของคุณแม่หนิงครับ เพชรก็คือเพชร ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้

สิ่งไดๆที่ปรารถนาขอสิ่งนั้นจงสำเร็จแก่คุณแม่หนิงและญาติมิตรทุกประการครับ สาธุ

 

นานาจิตตังครับ แล้วแต่เจตนา
สุดท้ายแล้วก็เพื่ออะไรล่ะ?
มองด้านบวก คิดบวก จิตเป็นกุศล...นิพพาน สุขขัง .....(^_^)

 

อาตมาไม่ขอออกความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงแต่อยากขอให้หยุดเพียงแค่นี้เถอะนะโยมที่ผ่านมาคนในชาติยังทะเลาะกันไม่พออีกเหรอ!แตกความสามัคคีกันไม่พออีกเหรอ! พระพุทธองค์ไม่ได้ต้องการที่จะเป็นเหตุให้พุทธบริษัทของพระองค์ต้องมาทะเลาะกันด้วยเหตุของการปฏิบัติต่อพระองค์ของใครหลายๆคนว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม พระพุทธองค์เพียงต้องการให้พุทธบริษัททั้งหลายนั้นปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ที่พระองค์ทรงทิ้งเหลือไว้เป็นสิ่งสุดท้ายให้พวกเราได้ประพฤติปฏิบัติกันเพื่อความพ้นทุกข์และเพื่อการมีความสุขในชีวิตประจำวัน ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมประพฤติตนเป็นคนดีไม่เบียดเบียนผู้อื่นและสรรพสัตว์ทั้งหลายเพียงเท่านี้ไม่ใช่หรือที่พระองค์ทรงต้องการ ขอท่านทั้งหลายจงอย่าได้นำเอาบรรทัดฐานของใครคนนึงมาเป็นบรรทัดฐานของใครหลายๆคนว่าต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้จึงจะถูกจริงๆแล้วไม่มีใครผิดใครถูกทั้งนั้น ใครที่เคยประพฤติปฏิบัติมายังไงแล้วนั้นมันทำให้ผู้นั้นเข้าถึงพระธรรมคำสอนก็ปฏิบัติไปตามแนวของตนเองเถิด จงอย่าได้จ้องการปฏิบัติของผู้อื่นคนนั้นคนนี้ว่าถูกหรือไม่ อันว่าคนเรานั้นมันไม่เหมือนกันไปทุกคนหรอกต่างคนต่างที่มา ต่างพ่อต่างแม่ หลายร้อยเหตุผล ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีเหตุผลของตนทั้งสิ้น อันว่าความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ก็เหมือนกับการที่จะห้ามแดดไม่ให้ออก ห้ามฝนไม่ให้ตกฉันใดก็ฉันนั้น ขอทุกท่านจงหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้เถอะก่อนที่ทุกอย่างจะลามไปมากกว่านี้ อันวันเวลานาทีล่วงเลยผ่านไปบัดนี้เราจักทำอะไรอยู่ ขอให้ทุกท่านจงกลับมาหันมองสำรวจตัวเองพิจารณาตนเองว่าวันหนึ่งๆเราคิดเรื่องที่เป็นกุศลกี่ครั้ง คิดชั่วกี่ครั้งแล้วคิดเรื่องที่มีสาระและไม่มีสาระกี่ครั้ง บุคคลใดทำได้ดังนี้ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้มีสติตลอดเวลา อาตมาไม่อาจกล่าวได้ว่าอาตมาเป็นผู้แตกฉานแต่ประการใดเพราะอาตมาก็เป็นผู้หนึ่งที่ปฏิบัติอยู่เช่นกันจึงไม่อาจกล่าวอะไรได้มากกว่านี้เพราะอาจมีผู้รอบรู้กว่าอาตมาก็เป็นได้ ดังนั้น อาตมา ขอบิณฑบาตต่อทุกท่านให้หยุดไว้เรื่องนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้เถิด ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านด้วย สาธุ

(ความฮู้เต็มพุงกะตามซางโตสอนโตบ่ได่ไผสิย้องว่าดี)
พระรวีโรจน์ อธิปัญโญ​

 

ขออนุโมทนากับท่านพระคุณเจ้าด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ก่อนอื่น ข้าพเจ้าขอกราบขอขมา และกราบขอบพระคุณทุกคน ที่อยู่ในเว็บนี้ที่ทำงานเกียวกับ
พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุทั้งหมด เนื่องจากพวกเราเป็นพี่น้องกันทั้งหมดในยุคพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ การทำงานที่เกี่ยวเนื่องด้่วยพระองค์ท่านและเพื่อพี่น้องทุกคนที่อยู่ในโลกนี้ ตัวข้าพเจ้าเองอยากให้ทุกคนได้ใช้กำลังกาย กำลังใจ สติปัญญา และใช้ความรอบคอบและเมตตาให้มากกว่าปกติที่ทำกันอยู่นี้ เพราะ มีข้อบกพร่องอยู่มากตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไปแล้ว อยากจะให้พิจารณาตรงนี้ให้เป็นธรรมมากที่สุด ว่า อะไรควรอะไรไม่ควร มีเหตุมีผลอยางไร ให้คน ตัดสินใจเองได้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ถูกหรือผิด การเริ่มการทำงานเป็นสิ่งที่ยากแต่ไม่มาก แต่การแก้ไขในสิ่งที่พลาดมันหนักและยากยิ่งกว่า เพราะต้องใช้กำลังใจและการละสักกายะทิฐิที่มีทั้งตัวตนของเรา ลาภยศสรรเสริญ ความมีหน้ามีตาและหัวโขนทั้งหมดที่แบกไว้ได้หรือเปล่า ขึ้นอยู่กับทุกคนว่าเราจะเคารพพระรัตนตรัยเป็นสิ่งมงคลสูงสุดหรือเราจะยึดตัวตนของเราเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ตัวข้าพเจ้าเองจะไม่ขอออกความคิดเห็นอะไรนอกเหนือจากนี้อีกแล้ว ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจริตใครอย่างไรและบารมีของแต่ละคนที่สร้างสมกันมา ก็ขอให้พิจารณาตามเนื้องานที่ทำ ซึ่งเป็นสิ่งบอกภูมิจิตภูมิธรรม บารมีของแต่ละคน ขอกราบขอขมาและกราบขอบพระคุณอีกครั้งอีกครั้งครับ

 

สาธุๆๆ

เรื่องคุรเจ้าของกระทู้ตั้งมานั้น ล้วนเป้นปัญหาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่มีการแจกพระธาตุทางเน็ตในยุคแรกๆแล้วครับ ต่าก็มีการถกเถียงถึงปัญานี้อย่างกว้างขวางแต่สุดท้าย ก็มิอาจหาข้อสรุปอันเป็นที่ลงตัวได้ เพราะ
1 การส่งพระธาตุทางไปรษณีย์ เป้นวิธีการเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้พระธาตุแพร่หลายและถึงมือผุ้รับ โดยไม่ต้องเสียเงินทองค่าเดินทางมากที่สุด แต่ข้อเสียก็ระหว่างการขนส่ง การเกิดการสูญหายหรือชำรุดได้ และพนักงานอาจจะกระทำการมิบังควร ซึ่งไม่เป็นการดี
2 ฝ่ายที่ยืนยันว่าควรรับมอบจากมือโดยตรงก็ให้ความเห็นว่าเป็นการแสดงถึงความเคารพสูงสุด ในการอัญเชิญครั้งนี้ แต่ก็มีปัญหาว่า ผุ้อยุ่ไกลผู้ให้ ยากที่จะมารับได้และยิ่งเป้นผู้มีทุนทรัพย์น้อย หรือเป็นผู้เยาว์ย่อมลำบากในการเดินทาง

จากเหตุทั้งสอง้อนี้ทำให้เกิด การตกลงกันว่าน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลองใครจะทำแบบใดล้วนเป้นการเผยแพร่ พระธาตุและพระศาสนาให้หยั่งรากลึกลงไปในกมลสันดานล้วนแต่เป็นผลดีต่อพระศาสนาและผู้รัลไปบูชาทั้งนั้น โดยส่วนตัวทุกอย่างขึ้นกับใจ ถ้าหากเราไม่มีการปรามาสแล้วไซร์ บาปบ่อมไม่เกิดแนอน

 

ขอแสดงความเห็นในเรื่องการแจกพระธาตุนะครับ

1. การแจกพระธาตุด้วยจิตอันบริสุทธิ์ มีเจตนาเพื่อสืบทอดธำรงรักษาพระพุทธศาสนา และความปรารถนาดีต่อผู้อื่นเป็นกุศลกรรม

2. เรื่องวิธีการแจก (ส่งต่อ) นั้น ไม่ได้อยู่ที่ผิด ถูก หรือ ดี ชั่ว ส่วนตัวคิดว่า เป็นเรื่องของ "บังควร" กับ "มิบังควร" ลองใช้ปัญญาพิจารณาดูเอา

3. วิธีการที่มากความ อาจเป็นเครื่องป้องกันที่ดีในความเสี่ยงต่อการกระทำที่มิบังควร หากยึดถือได้เป็นบรรทัดฐาน การก้าวล่วงเหตุมิบังควรก็จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกโดยถือเป็นหลักปฏิบัติ หากผู้อื่นใดปฏิบัตินอกหลัก ถือว่านอกหลักนอกรีต (ให้ลองคิดถึงเรื่องศีล เหตุด้วยมนุษย์เป็นสัตว์ที่อาจกระทำสิ่งที่มิบังควรขึ้นได้ ศีลจึงได้ถูกบัญญัติขึ้น เพื่อให้มีหลักที่บังควรเป็นตัวยึดถือปฏิบัติ)

4. เรื่องของใจเป็นสิ่งสำคัญ หากผู้ใดยึดถือปฏิบัติอย่างไรก็กระทำไป "นานาจิตตัง"


“กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้ต่างกัน”

 

อนุโมทนาครับ

ขอน้อมจิตอนุโมทนาในส่วนที่เป็นกุศลทั้งสิ้นครับ สาธุ...