สงครามครั้งสุดท้าย ระหว่าง นรก กับ สวรรค์ (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 1 กันยายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [ คัดลอกมาจาก อ.มดเอ็กซ์ บอร์ดเก่า ]




    ตอนที่ 1
    [​IMG]
    ในตอนก่อนที่ จักรวาลนี้ จะกำเนิดสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
    มีเพียงโลกทิพย์หรือสวนเอเดนเท่านั้น
    ที่ดำรงอยู่ พระเจ้าไม่ว่าจะใน พระนามไหน ล้วนแล้วเป็นองค์เดียวกัน
    พระเจ้าได้สร้างเหล่าเทวดาทั้งหลายให้มีหน้าที่ต่างๆกัน ดังนี้




    1. SERAPHIM เทวดาผู้สยายปีก ปกป้องพระเจ้า และบัลลังก์ ของพระองค์ มีอยู่ด้วยกัน 4 องค์ คือ

    • METATRON ผู้เป็นเสียงแทน พระเจ้า ผู้ถูกชี้ตัวว่า เป็น SATAN
    • KEMUEL ผู้เฝ้าบัลลังก์เบื้องซ้าย ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่าง ISHRAEL กับ HIERARCHS บนสวรรค์ชั้น7
    • NATHANAEL ผู้เฝ้าบัลลังก์เบื้องขวา
    • GABRIEL ผู้เก็บดวงวิญญาณของเหล่าสรรพชีวิต
    เทวดาทั้งสี่มีลักษณะนิสัยที่โกรธเกรี้ยว ดุดัน





    และไม่ค่อยน่าไว้วางใจ เทวดาทั้ง 4 มีปีกองค์ละ 3 คู่


    [​IMG] [​IMG]


    2.CHERUBIM เทวดาที่ทำการปกป้อง



    ต้นไม้ศักสิทธิ์ หรือ ต้นไม้แห่งชีวิต และ ต้นไม้แห่งความอมตะ



    ได้แก่








    • KERUB ปกป้องต้นไม้แห่งชีวิต
    • EZEKIEL ปกป้องต้นไม้แห่งความอมตะ แบ่งได้เป็น 4 องค์ มีลักษณะของใบหน้าที่แตกต่างกัน
      • หัวเป็นคน เฝ้าอยู่ทางด้านหน้า
        หัวเป็นอินทรีย์ เฝ้าอยู่ทางด้านหลัง
      • หัวเป็นสิงโต เฝ้าอยู่ทางด้านขวา
      • หัวเป็นวัว เฝ้าอยู่ทางด้านซ้าย
    แต่ทั้ง 4 ยังคงมีรูปร่างในแบบของมนุษย์อยู่





    และมีปีก องค์ละ 2 คู่ มีขา เป็นวัว


    3. OPHANIM หรือ GALGALLIN


    เทวดาที่ปกป้องยานพาหนะที่ใช้ออกรบ



    มีเทวดาชื่อ RAPHAEL



    เป็นผู้ควบคุม



    4.THE DOMININONS เป็นเทวดาที่ดูแล



    บัญชีรายชื่อรวมถึง สาส์น ที่พระเจ้าใช้บอกแก่เหล่าเทวดา



    โดยผ่านทางคำพูดของ METATRON



    เทวดาที่ควบคุมมีอยู่ 4 องค์ ได้แก่








    • ZADKIEL
    • HASHMAL
    • YAHRIEL
    • MURIEL
    5.THE VIRTUES เทวดาผู้ให้พรทั้งหลาย





    และ ผู้สอนความกล้าหาญแก่มนุษย์คล้ายกับพวกขุนนาง


    ก่อนที่พวกเขาจะตกสวรรค์ มาอยู่บนโลกมนุษย์ มีดังนี้






    • MICHAEL
    • GABRIEL
    • RAPHAEL
    • BARIEL
    • TARSHISH
    • SATANEL
    6.THE POWER ว่ากันว่าเป็นเทวดากลุ่มแรก





    ที่พระเจ้าสร้าง เพื่อป้องกันเขตแดน ของทั้ง 3 โลก ได้แก่




    • CAMUEL ผู้ถูกชี้ตัวว่าเป็น ดยุค ของ นรก เนื่องจากเข้าขัดขว้างการรับพระบัญญัติ 10 ประการ ของโมเสท
    • MAGUS 1 ใน 7 ของเทวดาที่ได้เห็นพระพักษ์ของพระเจ้า
      ทั้ง 2 รักษาความสมดุลระหว่าง ดี กับ เลว
    7.THE PRINCIPALITIES





    เทวดาที่เป็นผู้ปกป้องคำสอนของพระเจ้า หรือ ศาสนา นั้นเอง ได้แก่




    • NISROCK หรือ ASSYRIAN ผู้ถูกชี้ตัวว่าเป็นเจ้าชายแห่งนรก
    • ANAEL 1 ใน 7 เทวดา ที่ให้พลังในด้านการสร้างสรร และเกี่ยวข้องกับ ลักษณะทาง
    • CHALDEAN เทพธิดาแห่งความรักและสงคราม
    • LUCIPHER เทพแห่งควารักและการเกี่ยวพาราศี
    • CERVILL เทพแห่งพลัง ผู้ช่วย DAVID เข่นฆ่า GOLIATH
    อัครเทวทูต THE ARCHANGELS





    ที่สำคัญในการนำทัพเหล่าเทวดาน้อยใหญ่


    เข้าสู่สงครามนรก-สวรรค์ ที่พระเจ้าทำการรบกับ SATANได้แก่






    • MICHAEL
    • GABRIEL
    • RAPHAEL
    • URIEL
    • METATRON
    • REMIEL
    • SARIEL
    • ANAEL
    • REGUEL
    • RAZIEL
    และยังใกล้ชิดกับมนุษย์มากอีกด้วย





    [​IMG]



    ส่วนเทวดาที่เป็นคนกลางระหว่าง พระเจ้ากับมนุษย์นั้น

    จัดเป็นเทวดาระดับล่างสุด คือ ANGELOS


    นอกจากนี้ยังมีเทวดาอีกมากมาย


    ที่ไม่ได้กล่าวถึงซึ่งมีหน้าที่คล้ายกันกับ ANGELOS


    แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด


    ค่อยรับฟังความในใจของมวลมนุษย์


    และดลใจให้ทำสิ่งต่างๆอีกหลายองค์


    [​IMG]


     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ตอนที่ 2

    [​IMG]
    LUCIFER
    "เป็นใหญ่ใน นรก ดีกว่าเป็นทาสบน สวรรค์"
    เป็นคำกล่าวของเทวดาที่เป็นเทพแห่งความรัก
    นั้นคือ LUCIFER เจ้าชายแห่งนรก
    ผู้สร้างอาณาจักรของตนจากไฟแห่งความอิจฉาริษยา
    ในตอนเริ่มต้น พระเจ้า สร้าง LUCIFER และ CHALDEAN เพื่อเป็นเทวดา
    ผู้ให้ความรักก่อเกิดแก่มวลมนุษย์ และเหล่าเทวดาด้วยกันเอง
    เป็นเช่นนั้นอยู่นาน จนกระทั้ง อำนาจแห่ง ปาฏิหาริ์ ของ
    CHALDEAN ได้ทำการสร้างเทวทูตองค์น้อย
    นาม CUPID ขึ้นเนื่องจาก
    [​IMG]
    เมื่อมนุษย์ มีการแพร่ขยาย
    เผ่าพันธุ์ มากขึ้น ภาระหน้าที่ ของเทพทั้ง 2 ไม่เพียงพอ
    ต่อจำนวนมนุษย์ หลังจากที่ได้สร้าง CUPID
    ขึ้นมา ทำให้ LUCIFER ไม่พอใจ
    ที่ CHALDEAN ไม่ปรึกษาตน LUCIFER
    จึงนำเรื่องไปกราบทูลต่อ พระเจ้า
    พระเจ้า ได้เรียก CHALDEAN กับ CUPID น้อย
    เข้ามาหาและสอบถาม แต่ด้วยความน่ารัก
    ของ CUPID น้อยทำให้พระเจ้าทรงเอ็นดู
    ในทุกๆ ห้วงเวลาแห่งโลกทิพย์
    หลังจากที่ อดัม และ เอวา
    ถูกขับไล่ออกจาก สวนสวรรค์แห่งเอเดน
    พระเจ้าก็จะเรียกหาเจ้า CUPID น้อยเข้ามาหา ซึ่งนั่นทำให้
    LUCIFER ผู้ที่พระเจ้าเคยโปรดปราน
    รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่อนานวันเข้า ก็เปลี่ยนเป็นความอิจฉาริษยา
    [​IMG]
    จนกระทั่งในครั้งหนึ่ง LUCIFER ตัดสินใจ
    บุกเข้าไปถามพระองค์ด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวว่า
    ทำไมท่านถึงทรงทำกับข้าพระองค์เช่นนี้
    ใยลำเอียง ไม่ทรงรักข้าพระองค์เหมือนก่อน
    เมื่อพระเจ้าได้ยินดังนั้นก็ทรงกริ้ว
    และแผดเสียงของพระองค์ด้วยภาษาที่ทั้งเหล่ามนุษย์ และเทวดา
    ไม่สามารถจะรับไหว นอกจาก เทวดา
    เพียงองค์เดียวเท่านั้น นั่นคือ METATRON
    ทำให้สวรรค์สะท้านสะเทือนไปทั่ว ด้วยความที่ยังไม่ทันได้ฟัง
    สิ่งที่พระเจ้าตรัสจาก METATRON
    LUCIFER ก็เข้าใจว่าพระเจ้าทรงขับไล่เขาออกไปจากสวรรค์
    LUCIFER ถึงกับประกาศก้องด้วยความโกรธว่า
    "เป็นใหญ่ในนรก ดีกว่าเป็นทาสบนสวรรค์"
    [​IMG]
    พร้อมกับหักปีกของตนทิ้ง คำพูดของ LUCIFER
    ดังกึกก้องไปถึงหูพวก DEMON สัตว์อัปลักษณ์
    ที่วนเวียนอยู่ตามป่าลึกและใต้ผืนดิน
    ต่างพากันลุกฮือ โห่ร้องที่ได้ยินเช่นนั้น
    LUCIFER เริ่มมองหาที่ๆตนจะสร้างอาณาจักรขึ้นเอง
    แต่ในโลกมนุษย์นั้น ไม่มีที่พอสำหรับเขา
    [​IMG]
    เขาจึงดำดิ่งสู่ห้วงมหาสมุทร อันเวิ้งว้าง
    ลึกลงไปจนสุดผืนแผ่นดินใต้มหาสมุทร
    [​IMG]
    เพื่อสร้างอาณาจักรของตนขึ้นด้วยเปลวเพลิงแห่งความอิจฉา
    และแผดเผาทุกอย่างสิ้นด้วยไฟแห่ง โทสะ สร้างบัลลังก์ของตนขึ้น
    จากแรงอาฆาตพยาบาท ริษยา
    [​IMG]
    เพื่อรอวันกลับมาแก้แค้นพระเจ้า...
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ตอนที่ 3

    [​IMG]
    หลังจากลงสู่ขุมนรกได้ไม่นาน
    LUCIFER ได้แผ่ขยายอำนาจของตนอย่างกว้างขว้าง โดยไม่ฟังเสียงใคร
    แม้ว่า METATRON จะลงมาอธิบายพระวจนะของพระเจ้าที่รับสั่งในวันนั้น
    LUCIFER ก็ไม่เชื่อ
    [​IMG]
    และเนื่องจาก METATRON
    ออกนอกสวรรค์เป็นเวลานาน
    ส่งผลทำให้พระเจ้าและเหล่าเทวดา ต่างกล่าวหาว่า
    METATRON กลายเป็น SATAN ไปอีกคน
    [​IMG]
    เมื่อกลับมายังแดนสวรรค์ จึงถูกพระเจ้าลงโทษมิให้พูดจา
    ใดๆ ได้อีก นอกจาก สิ่งที่พระองค์รับสั่งเท่านั้น
    ทำให้เหล่าเทวดาและมวลมนุษย์
    ค่อยๆลืมความมีตัวตนอยู่ของ METATRON นอกจากเทวดา 4 องค์ที่ทำหน้าที่ส่งสาส์น
    ของพระเจ้าเท่านั้นคือ
    ZADKIEL,HASHMAL,YAHRIELและMURIEL
    ในเวลาไล่เลี่ยกัน ได้เกิดกรณีพิพาทขึ้น เมื่อ AZAZEL เทวดาในอาณัติของ METATRON
    ได้ทำเกินหน้าที่ของตนนอกเหนือจากดูแล อดัม
    ในช่วงที่ยังอยู่ในสวนเอเดน
    เพราะตอนที่พระเจ้าขับไล่
    อดัมและอีฟ ออกจากสวนเอเดนนั้น พระเจ้ามิได้รับสั่งให้ AZAZEL เลิกการติดตามดูแล อดัม
    [​IMG]
    แต่ด้วยความเข้าใจผิดAZAZEL
    หันหลังให้กับ อดัม ตาม พระเจ้า
    และยังไปพูดกับเหล่าเทวดาทั้งหลาย
    ถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ
    พระเจ้าเลยคาดโทษไว้
    [​IMG]
    ด้วยความโกรธ AZAZEL เริ่มไม่ยอมรับในความยิ่งใหญ่และสูงสุดของพระเจ้า
    หนีลงมายังโลก และเริ่มสอนมนุษย์ให้รู้วิธีการทำอาวุธ
    พร้อมกับสอนศิลปะการต่อสู้ให้
    เรื่องรู้ถึง พระเจ้า ทำให้ AZAZEL ผิดใจกับพระเจ้าเป็นอันมาก
    แต่มิได้ทรงขับไล่เพียงแต่ให้ไปอยู่ในโลกใต้สมุทร
    เฝ้าทางเข้าออกของปิศาจที่จะขึ้นมายังโลก
    แต่ด้วยความที่โกรธและเริ่มเสื่อมศรัทธาในพระเจ้า
    AZAZEL จึงชอบแอบลักลอบไปทั้ง 3 โลก เพื่อสืบหาข้อมูล
    และเริ่มปั่นหัว ทั้งเทวดา มนุษย์ และLUCIFER
    ทำให้เกิดสงครามขึ้นและเนื่องจาก AZAZEL
    อยู่ในสังกัดของ METATRON ยิ่งทำให้ พระเจ้ามองเห็นว่า METATRON เป็นผู้ยุยงอยู่เบื้องหลัง
    เลยทำให้พระเจ้าตรัสรับสั่งกับ METATRON น้อยลงไปอีก...
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ตอนที่ 4
    [​IMG]
    วันเวลาล่วงผ่านไป หนึ่งศตวรรษ
    การต่อสู้ระหว่างนรก-สวรรค์ ครั้งแรกก็เริ่มขึ้น
    LUCIFER นำทัพเข้าต่อกรกับ เหล่าเทวดา
    โฉมหน้าบางส่วนของกองทัพปิศาจ
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    เพื่อฝ่าไปหาพระเจ้า แต่ด้วยการนำทัพ สวรรค์
    ของเหล่า อัครเทวทูต ได้แก่ MICHAEL, GABRIEL, RAPHAEL,
    URIEL, METATRON, REMIEL,
    SARIEL, ANAEL, REGUEL, RAZIEL
    ทำให้กองทัพของ LUCIFER ไม่สามารถฝ่าไปได้และพ่ายแพ้กลับไป
    แต่ถึงกระนั้น ความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็ช่างใหญ่หลวงนัก
    เหล่าเทวดา และเหล่าปิศาจ ต่างล้มตาย กันอย่างมากมาย
    ในส่วนของมนุษย์ หลังจากที่ AZAZEL สอนให้ทำอาวุธ
    มนุษย์ก็เริ่มที่จะฆ่าฟันกันเอง ไม่เว้นแม้แต่กับพี่น้องสายเลือดเดียวกัน
    ไม่เกรงกลัวต่อบาป และนับถือพระเจ้าน้อยลง
    [​IMG]
    LUCIFER หลังจากที่พ่ายแพ้สงครามเห็นว่าเจ้าพวกสัตว์ประเสริฐของพระเจ้า
    กระทำการเยี่ยงนี้ จึงคิดหาวิธีเข้าครอบงำจิตใจของมนุษย์
    และเริ่มท้าทายพระเจ้าใหม่โดยการพนันขันต่อกับพระเจ้าว่า
    มนุษย์ สัตว์ประเสริฐที่พระเจ้าสร้างมานั้นจะทำความดีหรือเลวมากกว่ากัน
    และมีทีท่าว่า LUCIFER กำลังจะเป็นฝ่ายชนะ
    เพราะมนุษย์ ยิ่งนับวันก็ยิ่งทำความเลวมากขึ้นๆ
    พระเจ้า ทรงเสียพระทัยมากที่สิ่งที่พระเจ้าสร้างมา
    ให้รูปลักษณ์ เหมือนพระศิริโฉมของพระองค์
    กระทำการชั่วช้า ไม่เกรงกลัวต่อบาป และลืมคำสั่งสอนของพระองค์
    พระเจ้าจึงตรัสรับสั่งกับ METATRON ว่า
    [​IMG]
    "เราจะกวาดล้างมนุษย์ที่เราสร้างขึ้นมาให้สิ้นไปจากแผ่นดิน รวมถึงทุกสิ่งทั้งสัตว์เลื้อยคลาน นกในอากาศด้วย"
    แต่ในบรรดามนุษย์ที่ถูกครอบงำและหลอกล่อให้ทำความชั้ว
    ยังมีคนดีอยู่ นั้นคือ โนอาห์ จึงทำให้เขาเป็นที่โปรดปราณของพระเจ้า
    พระเจ้าจึงตรัสกับ โนอาห์ว่า
    "เราตัดสินใจแล้วว่า จะให้บรรดาเหล่ามนุษย์ถึงแก่ความพินาศเสียที เราจะทำลายพวกเขาไปพร้อมๆกับแผ่นดินโลก เจ้าจงต่อนาวา(เรือ) ด้วยไม้สนโกเฟอร์ ยาว 300 ศอก กว้าง 50 ศอก สูง 30 ศอก แล้วทำเป็นห้องๆ และชันยาเรือทั้งภายในและภายนอก จงทำช่องข้างบนให้สูง 1 ศอก จงตั้งประตูเรือด้านข้าง ทำดาดฟ้าเรือ และแบ่งเป็นชั้นๆ รวม 3 ชั้น เราจะทำให้น้ำถ่วมแผ่นดิน จะทำลายมนุษย์และสัตว์ที่มีลมปราณทั้งปวงใต้ฟ้า ทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะตายสิ้น แต่เราจะตั้งพันธสัญญาไว้กับเจ้า ให้เจ้าเข้าอยู่ในนาวาทั้งบุตรภรรยา และบุตรสะใภ้ จงนำบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตทั้งตัวผู้และตัวเมียทุกชนิดอย่างละ 7 คู่ไปด้วย และจงสะสมเสบียงให้เพียงพอ"
    ครั้นล่วงไป 7 วัน ฝนเริ่มตกอย่างหนัก ฝนตก 40 วัน 40 คืน
    น้ำท่วมสูงกว่ายอดเขาขึ้นไปถึง 15 ศอก
    และท่วมยาวนานถึง 150 วัน
    และเลยไปอีกถึง 40 วันกว่าน้ำจะแห้งหมด
    [​IMG]
    LUCIFER เห็นดังนั้นก็กล่าวหาว่าพระเจ้าใช่วิธีการแบบนี้
    เป็นการกระทำที่นอกเหนือจากที่ตกลง
    และเริ่ม ครอบงำมนุษย์ใหม่
    แต่ครั้งนี้เขากระทำแบบไม่เกี่ยงวิธีการ...
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ตอนที่ 5
    [​IMG]
    หลังจากที่พระเจ้าทำการล้างโลกแล้ว
    พระองค์ทรงทำพันธสัญญากับ โนอาห์ว่า
    "เราจะไม่ทำลายบรรดามนุษย์และสัตว์โดยใช้น้ำอีก...เราจะตั้งสายรุ้งไว้ที่เมฆ
    เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก"
    จากนั้นไม่นาน บุตรชายของโนอาห์ชื่อ เชม
    ก็ได้เกิดบุตรชายคนหนึ่งชื่อ อับราฮัม เป็นคนที่มีคุณธรรม
    และเคารพศรัทธาในองค์พระผู้เป็นเจ้า
    อาศัยอยู่ที่เมืองโซดอม แล้ววันหนึ่งอับราฮัมก็ได้รู้ว่า
    พระเจ้าจะทำการล้างเมืองโซดอมกับโกโมร่าห์
    อับราฮัมมีหลานชายอยู่คนหนึ่ง ชื่อ โลท ก็เป็นคนดีมีคุณธรรมเช่นกัน
    จากการที่พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ 2 องค์ลงมาสอดส่องความเป็นไปในโลกมนุษย์
    ครั้นเวลารุ่งสาง ทูตสวรรค์ทั้ง 2 ก็ได้
    พา โลทและครอบครัวให้หนีออกจากเมืองซะ
    และได้กำชับอย่างหนักแน่นว่า
    "จงหนีเอาชีวิตรอด อย่าได้เหลียวหลัง หรือหยูด ณ ที่ใดที่หนึ่งในลุ่มน้ำนี้ มิฉะนั้น เจ้าจะต้องเสียชีวิต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามหันกลับมามองเป็นอันขาด"
    [​IMG]
    แล้วพระเจ้าก็ให้เทวดาที่ชื่อ LOKI กวัดแกว่งดาบเพลิง
    เกิดเป็นลูกไฟล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า ทำลายเมืองทั้ง 2 สิ้น
    ลูกหลานของโนอาห์อีกหลายชั่วอายุคน
    ได้ขยายเผ่าพันธุ์ของตนออกไปเป็นจำนวนมาก
    แล้วก็อีกเช่นเคยมนุษย์ โดยสันดาน มีความชั่วแฝงอยู่
    บวกกับการยั่วยุ และครอบงำจากเหล่าปิศาจของ LUCIFER
    ทำให้มนุษย์มีความทะเยอทะยาน จนหลงลืมตัว
    คิดว่าตนเป็นพระเจ้าหรือมีอำนาจทัดเทียมพระเจ้า
    [​IMG]
    จากยุคนึงไปอีกยุคนึงไม่สิ้นสุด ก่อกรรมทำชั่ว อวดดี
    จนกระทั้งได้มีการสร้างหอคอย บาแบล ขึ้น
    ในสมัยนั้น มนุษย์พูดภาษาเดียวกันทั่วโลก
    จึงเป็นการง่ายที่จะสื่อสารกัน เมื่อสร้างหอคอยเสร็จ
    ก็ประกาศตนเป็นอิสระไม่อยากให้มีการแทรกแซงจากพระเจ้า
    ไม่นานนัก เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรลงมาเห็น
    ก็เป็นอันเข้าพระทัยทันทีว่า มนุษย์นั้นคิดจะก่อการกบฏต่อพระองค์
    พระองค์จึงตรัสว่า
    "เราจะทำให้ภาษาของคนเหล่านี้วุ่นวายต่างกันไป อย่าให้ได้พูดกันเข้าใจอีก"
    จากนั้นก็ทรงชี้นิ้วลงมายังหอคอย ในฉับพลันก็เกิดสายฟ้าฟาดลงบนยอดหอคอย
    มนุษย์ที่อยู่ในนั้นต่างก็กระเด็นไปคนละทิศละทาง
    และจากคำสาปแช่งของพระเจ้าก็ทำให้
    ผู้คนนั้นพูดกันคนละภาษา ไม่สามารถสื่อสารกันได้ในขณะนั้น
    แต่ LUCIFER ก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงใช่เล่ห์กล อุบายต่างๆ
    เข้าครอบงำความคิดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง....
    การที่มนุษย์กระจัดกระจายกันไป ทำให้มนุษย์หลายเผ่าพันธุ์ยิ่งเหินห่างจากพระเจ้า
    LUCIFER เลยได้โอกาส ส่งสาวกของตนแปลงกายเป็นมนุษย์
    ค่อยยุยงให้ผู้คนหันมานับถือลัทธิต่างๆแทนที่จะนับถือศรัทธาในพระเจ้า
    ให้มีการสร้างเทวรูปต่างๆขึ้นมาสักการะ
    [​IMG]
    จนกระทั้งถึงยุคของ โมเสส
    พระเจ้าได้ประทานอำนาจให้ และให้ขึ้นไปที่
    เขาซีนาย เพื่อนำ บัญญัติ 10 ประการกลับลงมาจากพระเจ้า
    แต่ก็ยังมีคนหลงผิดอีกจำนวนมากมายที่ยังคงบูชาเทวรูปต่างๆ
    จนถึงยุคของกษัตริย์ เดวิด แต่แล้วก็มิวายมีเรื่องที่ทำให้เสื่อมศีลธรรมอีกจนได้
    เมื่อเดวิด สมสู่กับหญิงงามที่มีสามีแล้ว
    และต้องการครอบครองตัวนางโดยการใช้อำนาจเล่ห์กลสั่งให้
    สามีของนางผู้นั้นออกไปตายในสนามรบ
    ต่อมาเดวิดมีบุตรชายชื่อ โซโลมอน แต่แล้วก็ทำผิดต่อพระเจ้าอีก
    ตามเรื่องเล่า โซโลมอน มีมเหสีถึง 700 คน
    [​IMG]
    จนกระทั่งถึงยุคของ พระเยซู.....
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ตอนที่ 6


    [​IMG]
    จาก อับราฮัม ถึงโซโลมอน นับรวม 14 ชั่วคน
    และนับจากเดวิดอีก 14 ชั่วคน คือรุ่นที่ 28 บุตรชายของ โยเซฟ ช่างไม้
    สามีของนางมาเรียให้กำเนิดบุตรชายชื่อ เยซู
    ที่เมือง เบธเลเฮม
    ครั้งหนึ่ง พระวิญญาณ ได้นำพาพระเยซู พลัดเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร
    ทรงอด พระกระยาหารถึง 40 วัน 40 คืน
    [​IMG]
    SATAN วกเวียนเข้ามาหาและทูลว่า
    " ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าจริง ทำไมไม่สั่งให้ก้อนหินเหล่านี้กลายเป็นอาหารซะหล่ะ"
    พระเยซู กล่าวตอบไปว่า
    "มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวหาได้ไม่ แต่บำรุงด้วยด้วยพระวจนะทุกคำที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า"
    SATAN ได้ทดสอบพระเยซูรวม 3 ครั้ง
    ถึงกับใช้บ้านเมืองและโลกทั้งโลกรวมทั้งพลังอำนาจต่างๆมาหลอกล่อ
    ก็ไม่เป็นผล พระเยซูมีโอกาสเผยแพร่คำสอนเพียง 3 ปีเท่านั้น
    ก่อนที่จะถึงวาระสุดท้ายบนไม้กางเขน
    และคนที่ทำให้พระเยซูถูกจับตรึงกางเขนก็ไม่ใช่ใคร
    หนึ่งในสาวกที่ทรยศเพราะเห็นแก่ทรัพย์นั่นก็คือ JUDHAS
    เพียงแค่มารครอบงำจิตใจ ก็ทำให้เขาเกิดความโลภ
    บอกที่สอนของพระเยซูให้กับพวกทหารโรมัน
    พระเยซู ถูกตรึงกางเขนเวลา 9.00 น.เศษ
    ของเช้าวันรุ่งขึ้น ครั้นเที่ยงวัน ขณะที่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่
    พลันก็เกิดลมพายุมืดมัวไปทั่วแผ่นดิน พระเยซู ร้องด้วยเสียงอันดังว่า
    "เอโลอี เอโลอี ลามา สะ บัก ธานี"
    แปลว่า
    " พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ใฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย"
    พอถึงเวลา บ่ายสามโมง พระเยซูได้รับสั่งประโยคสุดท้ายว่า
    " โอ้พระบิดาเจ้า ทรงอภัยให้พวกเขาเถิด พวกเขาไม่รู้ว่าได้ทำอะไรลงไป "
    แล้วพระองค์ก็สิ้นพระชนม์
    ขณะนั้นม่านในวิหารก็ขาดออกเป็น 2 ท่อน
    ท้องฟ้ามืดมัว แผ่นดินไหว เป็นที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง
    JUDHAS รู้สึกละอายใจอย่างมากที่ทรยศ
    จึงทำการแขวนคอตาย แต่ด้วยบาปที่ใหญ่หลวงยิ่ง
    JUDHAS ถูกสาปให้ไร้ชีวิต แต่วิญญาณยังคงอยู่
    และไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์อีกชั่วกัปชั่วกัลย์
    SATAN เห็นดังนั้นจึงเข้าครอบงำวิญญาณของ JUDHAS ทันที
    ทำให้เกิดปิศาจอันดุร้ายและกระหายเลือดขึ้น
    นั่นคือ VAMPIRE ตัวแรกในโลกใบนี้...
    [​IMG]
    หลังจากที่มีปิศาจตนแรกเดินดินอยู่บนโลกมนุษย์
    เป็นช่วงเวลาที่มีเทวดาถูกขับออกจากสวรรค์มากที่สุด
    [​IMG]
    เพราะเนื่องจากเหล่าเทวดาไม่เข้าใจ พระเจ้า
    ว่าเหตุใดจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
    เหล่าเทวดาจึงคิดหาวิธีเอาชนะ SATAN ด้วยวิธีของตน
    นั้นคือ การร่วมสมสู่กับมนุษย์ เพื่อให้มีเทวดาที่เดินดินอยู่ในโลกเช่นเดียวกับ ปิศาจ
    ก่อให้เกิด ลูกครึ่ง หรือ NEPHALIM มากมายบนโลก
    [​IMG]
    พระเจ้าทรงทราบเรื่องในภายหลังจึงขับไล่เหล่าเทวดาที่สมสู่กับมนุษย์
    ออกจากดินแดนศักสิทธิ์ เทวดาเหล่านี้จึงกลายเป็นเทวดา
    ฝ่ายกบฏ แต่ไม่ได้เข้าร่วมกับ SATAN
    เพียงชอบทำอะไรที่นอกเหนือจากคำที่พระเจ้าทรงบอกกล่าว
    เทวดาองค์แรกที่พระเจ้ารับสั่งให้ลงมาคอยสอดส่องมนุษย์และปิศาจก็ไม่ใช่ใครอื่น
    GABRIEL นั้นเอง แต่จนแล้วจนรอด GABRIEL ก็กลับหลงใหลในความ
    ศิวิไลซ์ ของมนุษย์ จนไม่ยอมกลับขึ้นสวรรค์อีก
    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ ทุกอย่างเลวร้ายลง
    ทั้ง 3 โลก มาอยู่รวมกันในโลกใบเดียว
    พระเจ้าจึงตัดขาดสวรรค์ออกจากโลกมนุษย์
    และทำเพียงแค่เฝ้ามอง
    [​IMG]
    ส่วนฝ่ายนรก ก็เช่นเดียวกัน
    ทำแค่คอยเก็บดวงวิญญาณของมนุษย์ที่ชั่วร้าย
    เพื่อรวบรวมกำลังต่อกรกับพระเจ้าต่อไป...
    [​IMG]

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD class=smalltext id=modified_11888 vAlign=bottom></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ตอนที่ 7
    [​IMG]
    SATAN เป็นปฏิปักษ์ กับพระเจ้า
    คนไทยรู้จักกันในนามของ มาร
    ในคัมภีร์ อัลกุรอานเรียกว่า DAJJAL
    ถือว่าเป็นตัวมารที่มีวิธีหลอกล่อทุกรูปแบบที่ทำให้มนุษย์หลงผิด
    ประพฤติชั่ว แม้ว่าพระพุทธเจ้ากับพระเยซูจะทรงเอาชนะพวกมารมาแล้ว
    [​IMG]
    แต่มารก็ยังออกเพ่นพ่านอาระวาดไปทั่วโลก
    สร้างอำนาจท้าทายอิทธิฤทธิ์ของพระเจ้าอย่างต่อเนื่องตลอดมา
    [​IMG]
    ในพระธรรมวิวรณ์ REVELATION เป็นการบันทึกของสาวกคนสำคัญของพระเยซู
    ชื่อ จอร์น ท่านเป็นอัครทูตคนหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนที่แก่ตาย
    ได้เขียนบันทึกถึงวันสิ้นยุค หรือ ARMAGEDDON เอาไว้
    มีการไขปริศนา ของเลข 666
    ซึ่งเป็นเลขของ มาร ปิศาจ หรือ SATAN ในพระธรรมวิวรณ์บทที่ 13 ข้อ 11-18



    ลองมาทดสอบกัน ให้นำตัวอักษร ภาษาอังกฤษ นับจาก A = 1 ไป แล้วลองนำคำว่า COMPUTER อักษรทุกตัวที่ปรากฎ คูณด้วย 6 ดังนี้
    C = 3 x 6 =18
    O=15 x 6 = 90
    M=13 x 6 =78
    P= 16 x 6 =96
    U= 21 x 6 =126
    T= 20 x 6 =120
    E= 5 x 6 =30
    R= 18 x 6 =108
    เมื่อนำผลลัพธ์ที่ได้ มา บวกรวมกัน จะได้ผล = 666 พอดี
    นั่นแสดงให้เห็นว่า SATAN ในยุคปัจจุบันนั่น
    อาจใช้ COMPUTER เป็นเครื่องมือในการล่อลวง
    ผู้คน ให้กระทำการหลายอย่างที่เป็นความชั่วก็เป็นได้
    [​IMG]
    (ข้อมูลจากหนังสือ ฤาจะถึงกาลสิ้นยุค ของ ศ.เจริญ วรรธนะสิน หน้า 230)
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ตอนที่ 8
    [​IMG]
    จากวันที่กำเนิดมนุษย์ จนถึงวันสิ้นสุดศตวรรษที่ 20
    เป็นเวลา 6,795 ปี
    SATAN ครอบงำหลอกล่อมนุษย์ ให้ทำชั่วทุกวิถีทาง
    มีคำถามที่เป็นที่น่าสงสัยว่า
    ทำไม พระเจ้า ทรงสร้างหรือยังปล่อยให้ SATAN ดำรงอยู่
    ทั้งที่ท่านมีอำนาจในการทำลาย
    คำตอบง่ายๆก็คือ พระเจ้า ทรงมองเห็นว่าทุกสิ่งที่ท่านสร้าง
    เป็นสิ่งที่สวยงาม และดีที่สุด หรือ พูดให้ง่ายคือ
    พระเจ้าทรงมีพระเมตตา และ รักในทุกสิ่ง
    SATAN แท้จริงก็เป็น เทวดาองค์หนึ่ง
    ที่หลงผิดคิดว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกต้อง ปล่อยให้ความริษยา เข้าครอบงำตนเอง
    ความโกรธแค้นมีทิฐิ ไม่ยอมรับและอภัยผู้อื่นนั้นเอง
    แต่พระเจ้าก็ยังทรงเมตตาเสมอ
    ทั้งๆที่ SATAN ไม่เคยที่จะคิดได้ ยังคงทำความเลวต่อไป
    ในระยะเวลาช่วง 7 ปี ก่อนถึง
    สงครามครั้งสุดท้ายระหว่าง สวรรค์-นรก
    [​IMG]
    SATAN จะมีอำนาจมากขึ้น และทำให้โลกเกิดความพินาศอย่างน่ากลัว
    [​IMG]
    จากบันทึกมีการกล่าวถึงสัตว์ร้าย 2 ตัว


    ที่มีหมายเลขประทับที่หน้าผากด้วยเลข 666

    • สัตว์ตัวแรกมี 7 หัว 10 เขา และมี อำนาจเหนือมนุษย์ทุกผู้
    • ส่วนตัวที่ 2 ได้รับอำนาจเสริมจากตัวแรก มีอำนาจให้คนทั้งโลกสยบสยบแทบเท้ามัน
    SATAN จะมีอำนาจในโลกอย่างอหังการ์นาน 7 ปี



    และจะถูกจองจำโดยพระเจ้า ไปนาน 1,000 ปี
    ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงยุคของชาววิไล ยุคแผ่นดินโลกใหม่
    แต่หลังจากนั้น มันก็จะถูกปล่อยออกมาก่อกรรมอีก
    และคราวนี้พระเจ้าจะจับมารซาตาน โยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน
    รวมทั้งสัตว์ร้ายทั้งหลายที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ
    จะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วนิจนิรันดร์ และนั่นคือวาระสุดท้ายของ SATAN
    สงครามขั้นแตกหัก ARMAGEDDON หรือ APOCALYPSE หรือ JIHAD
    น่าจะเป็นการเกิด สงครามโลกครั้งที่ 3
    การทำลายล้างจะทำให้เกิดการสูญเสียของชีวิตมนุษย์
    ไปถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,000 ล้านคน
    ตามบันทึกมีการพูดถึง ดวงตราทั้ง 7 หรือ THE SEVEN SEALS
    เมื่อมีการเปิดผนึกดวงตราทั้ง 7 จะมีการปรากฎตัวของบุรุษลึกลับ 4 คน ขี่ม้า 4 ตัว
    ที่มีลักษณะเหมือนสัตว์ประหลาด
    มีเสียงร้องอันดังดุจสายฟ้าร้อง
    หรือที่เรียกกันว่า THE FOUR HORSEMEN OF THE APOCALYPSE
    หรือ 4 อัศวินแห่งวันโลกาวินาศ
    เหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้น ประกอบด้วย 3 สิ่งใหญ่ๆ
    คือ ดวงตราทั้ง 7 การเป่าแตรทั้ง 7 และการเทขันแห่งพระพิโรธทั้ง 7
    [​IMG]




    • เมื่อตราดวงแรก ถูกเปิดออก จะมีคนลึกลับขี่ม้าขาวออกมา ในมือถือคันธนู ทำให้โลกเกิดความทุกข์ยากไป 3 ปีครึ่ง และ SATAN ที่มีเครื่องหมาย 666 ก็จะเข้าครอบงำโลกมนุษย์อีก 3 ปีครึ่ง หลังจากนั้นจะเกิดสงครามมหาประลัย พระมาซีอา พระมะห์ดีร์ หรือพระศรีอาริยเมตไตรยก็จะเสด็จมา ทรงทำให้โลกเข้าสู่ยุคแผ่นดินโลกใหม่ ยุคของชาววิไล
    • เมื่อดวงตราที่ 2 ถูกเปิดผนึก จะมีคนลึกลับขี่ม้าสีแดงออกมา ในมือถือดาบเล่มใหญ่ คนๆนี้จะทำให้โลกเข้าสู่สงครามอันน่าสะพรึงกลัว มีคนล้มตายถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลก
    • เมื่อดวงตราที่ 3 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่มาสีดำออกมา ในมือถือตราชู ทั่วโลกจะเกิดความกันดาร อดอยาก และกลียุค เขาจะมาในคราบของนักบุญที่นำสันติสุขมาสู่โลก แต่กลับนำพาผู้คนเข้าสู่สงครามมหาประลัย
    • เมื่อดวงตราที่ 4 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่ม้าสีเขียวอมดำ ออกมา คนๆนี้ถือเป็นมัจจุราช มาคร่าชีวิตผู้คนด้วยโรคระบาด ความอดอยาก ทำให้ผู้คนล้มตายไปอีก 1 ใน 4 ของที่เหลือ
    • เมื่อดวงตราที่ 5 ถูกเปิดผนึก วิญญาณของผู้ที่ล้มตายมากมาย จะได้รับเสื้อสีขาวที่พระเจ้าทรงประทานให้ และรับสั่งให้พวกเขาทนรอเพื่อให้ดวงวิญญาณที่ต้องล้มตายครบตามจำนวน
    • เมื่อดวงตราที่ 6 ถูกเปิดผนึก จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง กลางวันกลับมืดมิด กลางคืนดวงจันทร์ทอแสงเป็นสีเลือด ทุกคนจะรู้ดีว่าวันที่พระเจ้าทรงพิโรธ ได้มาถึงแล้ว วิญญาณที่ได้รับเสื้อขาว จะถูกนำตัวไปยังน้ำพุแห่งชีวิต พวกเขาจะไม่หิวกระหายอีกต่อไป ไม่เจ็บป่วยอีกต่อไป
    • เมื่อดวงตราที่ 7 ถูกเปิดผนึก ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์ประมาณครึ่งชั่งโมง
    เทวทูตทั้ง 7 องค์ ได้รับแตร 7 อัน

    มีอยู่หนึ่งองค์ที่ถือกระถางไฟทองคำมาด้วย
    และเตรียมที่จะโยนมันลงมายังโลก เพื่อเผาผลาญคนชั่วให้สิ้นซาก
    จากนั้นเทวทูตทั้ง 7 ก็ทำการเป่าแตร



    • องค์ที่ 1 เป่าแตร ยังผลให้โลกไหม้ไป 1 ใน 3 ส่วน
    องค์ที่ 2 เป่าแตร ยังผลให้เกิดอุกาบาตตกลงในทะเลทำให้ทะเลกลายเป็นสีเลือดไป 1 ใน 3
    องค์ที่ 3 เป่าแตร ยังผลให้อุกาบาตตกลงในแน่น้ำทั้งหลาย ทำให้น้ำมีรสขม ทำให้ผู้คนล้มตายเพราะน้ำนี้
    องค์ที่ 4 เป่าแตร เป็นการเตือนว่าความพินาศจะเกิดแก่คนทั้งหลายบนโลก
    องค์ที่ 5 เป่าแตร อุกาบาตตกลงยังพื้นดินผู้คนที่บาดเจ็บจะได้รับความทรมานแต่ไม่ตายอยู่เป็นเวลา 5 เดือน แม้อยากตายก็ตายไม่ได้
    องค์ที่ 6 เป่าแตรทูตสวรรค์ที่เคยถูกส่งมายังโลกและถูกมารจับตัวไว้จะได้รับการปลดปล่อย และเตรียมตัวทำลายล้างมนุษย์ที่ชั่วช้าที่ถูกSATAN ครอบงำ
    องค์ที่ 7 เป่าแตร แผ่นดินใหม่บังเกิด พระเจ้าชนะสงคราม แต่มารหรือซาตานก็ยังล่อลวงมนุษย์ต่อไป

    [/list]
    ทำให้เกิดการเทขันแห่งพระพิโรธขึ้น

    [​IMG]



    • ขันที่ 1 ผู้ที่บูชา SATAN จะเกิดแผลร้ายเป็นหนองไปทั้งตัว
    • ขันที่ 2 เทลงในทะเล สัตว์ที่อยู่ในทะเลก็ตายจนสิ้น เกิดโลกระบาดไปทั่ว
    • ขันที่ 3 ล้างพวกที่มีจิตใจใฝ่อธรรมจนหมดสิ้น
    • ขันที่ 4 เทลงไปที่ดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์แผดแสงมากยิ่งขึ้น เกิดความแห้งแล้ง ทุรกันดาร อดอยาก
    • ขันที่ 5 เทใส่ บัลลังก์ ของ SATAN ทำให้อาณาจักรของมันมืดมน
    • ขันที่ 6 เทลงในแม่น้ำ ทำให้แม่น้ำเหือดแห้ง ผีโสโครก 3 ตน ปรากฎกายออกมา ปลอมตัวเป็นผู้เผยวจนะของพระเจ้า ล่อลวงให้มนูษย์ทำสงครามกันเอง
    • ขันที่ 7 เทไปในอากาศ METRATON แผดเสียงแทนพระเจ้าดังกังวารว่า "สำเร็จแล้ว" ทำให้เกิดแผ่นดินไหว มหานครต่างๆบนโลก แยกออกเป็น 3 ส่วนบรรดาเกาะใหญ่น้อยทั้งหลายจมลงสู่ใต่บาดาลเชกเช่นตอนที่อาณาจักร ATLANTIS ถูกพระเจ้าทำลายล้าง
    เมื่อเหตุการณ์ทั้งหลายจบลง


    SATAN และสัตว์ร้ายทั้งหลาย ถูกจับตัวและถูกโยนลงไปในบึงไฟ
    และถูกฆ่าตายด้วยแสงที่เปล่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า
    นกทั้งปวงรุมแทะกินเนื้อพวกมันจนแหลกเหลว
    แต่วิญญาณชั่วร้ายของมันยังคงอยู่
    [​IMG]
    แต่ถูกจับมัดและกักขังในบาดาล 1,000 ปี
    แผ่นดินสงบสุขไป 1,000 ปี ก่อนที่วิญญาณชั่วร้ายจะถูกปลดปล่อยอีกครั้ง....
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ตอนที่ 9
    [​IMG]


    SATAN มีกองทัพปิศาจเรียงตามชื่ออักษรได้ดังนี้
    • Abdiel, Abbadon, Abigor, Abraxas, Adramelech, Af, Agaliarept, Agares, Agiel, Alocer, Ahriman, Amaymyon, Ammi, Amon, Amy, Andras, Androalphus, Antichrist, Ariel, Arioch, Asmodeus, Astaroth, Azazel
    • Baal, Balam, Baphomet, Barbatos, Beelzebub, Behemoth, Belial, Belphegor, Berith, Botis, Bifron, Buer, Byleth
    • Camio, Cassiel
    • Dagon
    • Eurynome
    • Flauros, Forcas, Furfur
    • Gaap, Gamygyn, Glasyalabolas, Gremory, Gusoyn
    • Ipes
    • Leviathan, Leonard, Lilith, Lucifuges
    • Malphas, Mammon, Marbas, Marchocias, Mastema, Mephistopheles, Moloch, Morax
    • Naberus
    • Orias, Oze
    • Paimon, Pazuzu, Phoenix, Pursan
    • Ronwe
    • Sabnac, Sallos, Sammael, Satanachia, Scox, Stolas, Sytri
    • Tephros
    • Urobach, Uval
    • Vepar, Volac
    • Zagan, Zepar
    [​IMG]


    และเหล่า ภูติผีที่เป็นลูกสมุน (Gargoyles) อีกนับแสนนับล้านตัว
    [​IMG]



    จริงๆแล้วก่อนจะเกิดสงครามขั้นแตกหักนั้น
    สัตว์ร้ายตัวที่ 2 ก็ไม่ใช่ใครอื่น
    มันมี นามมกร ว่า MAMMON
    ตามคัมภีร์ SATAN บ่งบอกไว้ชัดเจนว่า
    MAMMON นั้นเป็นบุตรของ LUCIFER
    มีบุคลิกเป็นปิศาจที่มุทะลุ ดุดัน และชั่วร้ายมาก
    MAMMON พยายามที่จะข้ามจาก นรก ขึ้นมายังโลกมนุษย์
    เพราะคิดว่าตนเองชั้วร้ายกว่าผู้เป็นบิดา
    ซึ่งเอาแต่รอเวลา แต่ MAMMON ไม่อยากรออีกต่อไป
    อยากขึ้นมายังโลกเพื่อเข่นฆ่าผู้คนให้ตายสิ้นด้วยความคิดที่ว่า
    มนุษย์นั้นมีรูปร่าง หรือร่างกายที่เหมือนพระศิริโฉมของพระเจ้า
    แต่ด้วยความที่MAMMON ถูกสั่งสอนให้เกลียดพระเจ้า
    จึงทำให้มันอยากทำลายทุกสิ่งที่เป็นของพระเจ้า
    แต่การจะข้ามมายังโลกมนุษย์ได้นั้น
    [​IMG]
    MAMMON
    จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้า
    ซึ่งไม่มีวัน มันเลยทำข้อตกลงกับเทวดาองค์หนึ่ง
    ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้จากที่เล่าตอนต้นเรื่อง
    นั่นก็คือ GABRIEL นั่นเอง
    แต่ LUCIFER ไม่ยอม และเข้าขัดขว้าง
    จับลูกตัวเองลากกลับลงนรก
    และรอเวลาที่จะทำสงครามขั้นแตกหัก กับ พระเจ้าด้วยวิธีการของตน
    SATAN เข้าครอบงำใครคนหนึ่ง
    ซึ่งถือเป็น ANTI CHRIST คนที่ 3
    ที่ยังต้องเดากันต่อไปว่าเป็นใครจะเป็นผู้ที่ทำให้โลกปั่นป่วนไปด้วย
    สงครามอันน่าสยดสยอง เขาจะใช้การอ้างพระวจนะอย่างผิดๆ
    เพื่อการทำสงครามในนามของพระเจ้า อย่างโง่เขลา
    แต่เขาก็ไม่รู้ตัวเพราะคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้องตามพระประสงค์ของพระเจ้า
    [​IMG]
    ตามคำทำนายถึงวันสิ้นยุค ได้กำหนดวันที่บ่งบอกถึงสถานการณ์ที่จะเกิดเหตุการณ์ในตอนที่ 8 คือ



    • ตั้งแต่ดวงตราที่ถูกเปิดผนึกดวงแรกนั้น เริ่มนับจากปี ค.ศ. 1999 - มิ.ย. 2002 ดวงดาวในระบบสุริยะเรียงตัวตรงเป็นแนวเดียวกัน
    • ค.ศ.2002 - ม.ค.2006 มีการสู้รบ หรือทำสงคราม เกิดขึ้น เกิดภัยภิบัติทางธรรมชาติบ่อยขึ้น เกิดปัญหาความอดอยากมากขึ้น(ซึนามิ, ไฟไหม้ป่าที่ อินโดนีเซีย,น้ำท่วมใหญ่ในหลายประเทศ, แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น, ชาวยิว ชาติพันธุ์ที่พระเจ้าทรงเลือกให้บุตรของพระองค์มาจุติ ถูกขับไล่ออกจากดินแดนของปาเลสไตล์ ฯลฯ)
    • ค.ศ. 2007 - 2012 จะเริ่มมีการจับมือกันระหว่างพันธมิตร ของชาติต่างๆ แบ่งเป็นกลุ่ม (ถ้าตอนนี้ก็มี รัสเซียกับจีน ที่ทำการซ้อมรบร่วมกันอยู่) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม ปฏิทินของชนเผ่ามายัน นับถ้อยหลังมาจนเหลือศูนย์ในเดือน ธ.ค. 2012
    • ค.ศ.2012 - 2023 สงครามและกลียุคผ่านพ้น บุตรมนุษย์หรือพระศาสดาองค์ใหม่ถือกำเนิด SATAN จะถูกจองจำใต้บาดาลไปนาน 1,000 ปี
    • ค.ศ.3023 SATAN ถูกปลดปล่อยอีกครั้ง เกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ขึ้น ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ไม่มีกลางคืนกลางวันอีกต่อไปแล้ว สัตว์และพืชล้มตาย เกิดความอดอยากแสนสาหัส และสภาพอากาศอันเลวร้ายสุดจะพรรณา โลกกลับเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง มนุษย์ต้องแสวงหาพลังงานความร้อนเพื่อชีวิตที่อยู่รอด ใกล้แกนโลก
    • ค.ศ.4000 SATAN ถูกโยนเข้าไปในบึงไฟกำมะถันทุกข์ทรมานชั่วนิจนิรันดร์ และเข้าสู่ยุคของชาววิไล
      มนุษย์ จะกลับไปอยู่ใกล้พระเจ้าอีกครั้ง เหมือนครั้ง มนุษย์คู่แรกของโลก จนกว่ามนุษย์จะเริ่มทำผิดบาปต่อพระเจ้าอีกครั้ง.....
      ในสมัยสิ้นยุคนั้น เหตุการณ์กลียุคจะเกิดขึ้น มนุษย์จะเห็นแก่ตัว เย่อหยิ่ง ยโส ชอบด่าว่า ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา ไร้มนุษยธรรม ใส่ร้ายกัน การหลอกลวงกัน เข่นฆ่า ขมขื่น การกักขังหน่วงเหนี่ยวซึ่งกันและกัน และอีกสารพัด SATAN เข้าครอบงำมนุษย์แบบเต็มคราบ หรือเต็มรูปแบบ และในไม่ช้า สงครามขั้นแตกหักก็จะเกิดขึ้น สรรพสิ่งทั้งหลายบนโลกจะถูกกวาดล้างสิ้น จนกว่าบุตรมนุษย์ หรือศาสดาองค์ใหม่จะเสด็จมา เพื่อปราบความทุกข์เข่นทั้งมวล
      เมื่อ SATAN ถูกปลดปล่อยอีกครั้งใน 1,000 ปีให้หลัง โลกจะถูกเผาผลาญด้วยไฟแห่งโทสะของมันที่มีมากกว่าเดิม กองทัพของมันจะทำลายทุกสิ่งที่พวกมันจับต้อง พบเห็น แม้แต่เทวดาทั้งหลายก็มิอาจหยุดยั้ง จน พระเจ้าต้องเสด็จมาปราบ SATAN ด้วยตัวพระองค์เอง และ SATAN ก็จะดับสูญชั่วนิรันดร์
      ผู้ที่รอดจะเข้าสู่วัฏจักรแห่งชีวทิพย์อีกครั้ง สวนเอเดน จะกลับคืน และความสงบสุขจะมาเยือนเหล่ามนุษยชาติอีกครั้ง...หากแผนการกับเวลาทั้งหมดนี้...ตรงกัน
    [​IMG]


    "พระเจ้าอยู่ในตัวเจ้า และรอบๆตัวเจ้า แยกไม้ออกจากกัน ข้าอยู่ที่นั่น ยกหินออก เจ้าจะพบข้า"
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
    ตอนที่ 10
    [​IMG]
    SATAN วางเดิมพันกับ พระเจ้า
    ด้วยดวงวิญญาณของมนุษย์ทุกผู้ ห้ามติดต่อกับมนุษย์โดยตรงได้แค่ครอบงำ
    ดังนั้นก็จะเห็นได้ว่า จริงๆแล้วมนุษย์อย่างเราๆท่านๆนั้นเป็นตัวแปรสำคัญ
    ที่ทำให้เกิด สงครามขึ้นระหว่าง นรก กับ สวรรค์
    เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว มนุษย์อย่างเราๆ จะเลือกทำอะไรล่ะ ดี หรือ เลว
    ทุกคนต่างรู้ถึงความหมายของ 2 คำนี้ดี แต่เหตุไฉน
    มนุษย์ถึงยอมให้ มาร หรือ SATAN เข้าครอบงำ
    แม้เราจะมีความเข้าใจว่า ไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบ
    แต่ทำไมถึงใช่ความไม่สมบูรณ์แบบนั้นเอนเอียงไปด้านมืด
    [​IMG]
    SATAN มีผลกับเรามากขนาดนั้นเชียวหรือ
    มันครอบงำเราทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา
    แล้วเราจะมัวตกเป็นทาส เป็นกองกำลังฝ่ายมืดอย่างนั้นหรือ
    พระเจ้า สอนให้เรารักกัน อภัยซึ่งกันและกัน
    แต่ SATAN ทำให้เราตกอยู่ในบาปที่มันโปรดปรานมากที่สุดนั่นก็คือ กิเลส
    เรารู้จักมันดี กิเลส คอยทำให้คน
    หลงละเมอ เพ้อพก ไปกับ อำนาจ ความอยากมี อยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน
    [​IMG]
    แล้วเหตุใด เรายังทำ
    SATAN เจ้าชายแห่งความมืด
    ที่พร้อมจะเปลี่ยนสิ่งที่น่ายินดีที่สุด ให้กลายเป็นสิ่งที่น่าสยดสยองที่สุด
    ความเสแสร้งจอมปลอมที่มันมอบให้เราทุกผู้ชั่งดูหอมหวาน
    น่าพิศมัย จนกว่าผู้นั้นจะได้ตระหนักว่าสิ่งที่ตนทำนั้นไม่ใช่
    ก็ต้องแลกกับความสูญเสียมากมาย
    แต่พระเจ้าก็ยังคงให้อภัยเสมอ ให้เวลาเรากลับตัวเสมอ
    ไม่ว่าเวลานั้นจะยาวนานนับร้อยปี หรือสั้นเพียงแค่ลมหายใจผ่านเข้าออก
    [​IMG]
    แต่มนุษย์ก็ไม่เคยสำเหนียกกับสิ่งที่ได้รับรู้ กลับทำเลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ด้วยสันดานดิบ ที่มีมากซะจน ผู้ที่อยู่เบื้องบนยังเอือมระอา
    [​IMG]
    SATAN บอกว่าโลกมิได้ดับสูญด้วยพระหัตถ์ของพระเจ้า
    แต่โลกจะถือกำเนิดใหม่ในอ้อมกอดของผู้ที่ถูกสาป
    เราจะเชื่อตามนั้นดีไหม ถ้าผู้ถูกสาป มีอภิสิทธิ์ในการสร้างโลกใหม่
    ท่านคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
    โลกที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดจะเป็นอย่างไร
    เราจะอยู่กันอย่างไร กินเลือดกินเนื้อกันอย่างนั้นหรือ
    หลายคนอาจบอกว่าอีกหลายปีกว่าจะเกิดฉันไม่เกี่ยว ก็ถูก
    แต่ลูกหลานเราล่ะ คนที่เรารักล่ะ ท่านจะปล่อยให้คนเหล่านี้กลายเป็น
    สัตว์ร้ายอันน่าสยองพองขน ลุกขึ้นมาชี้นิ้วด่าทอขึ้นไปเหนือท้องฟ้า
    แต่กลับเคารพศรัทธาผู้ที่อยู่ใต้พื้นพิภพงั้นหรือ
    เหล่านี้ขอฝากไว้ในตอนสุดท้าย มิใช่เพื่อตัวเรา
    ... แต่เพื่อมนุษยชาติของเราต่างหาก...
    THE END

    เครดิต คุณ Mckaforce http://www.sookjai.com/index.php?topic=2918.0
     
  11. Hikikomori

    Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    Satan นี่ก็เก่งจริงๆทำยังไงก็ไม่รู้จักตาย สู้นรกของพระพุทธศาสนาได้เปล่าโหดกว่าอีก ใครเคยไปท่องนรกมาช่วยคอนเฟริมที ผมคนหนึ่งละ
     
  12. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ถ้าแบบไทยๆก็ น่าจะเป็น สงครามระหว่างพระอินทร์ กับ เหล่าอสูร
    เป็นไปได้มั้ยจากในตำนานที่เขียนๆมาข้างบน ก็คือ พระเจ้า = พระอินทร์ satan = อสูร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2010
  13. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="1" width="700"><tbody><tr><td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] อสุรกายภูมิ เป็นภูมิของโอปปาติกกำเนิด อีกมติหนึ่งซึ่งเป็นที่อยู่
    ของผู้ที่ทำบาปไว้และต้องไปเสวยผลของบาป มีชีวิตเป็นอยู่อย่างแร้นแค้นฝืดเคือง ขาดเครื่องอุปโภคบริโภค ทุกข์ยากลำบาก กาย จิตใจหดหู่เหี่ยวแห้งไม่สนุกสนานรื่นเริง เข้าในลักษณะที่ว่าหน้าเศร้าอกตรม
    [/FONT]</td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr> <td>
    <table border="1" cellpadding="2" cellspacing="2" width="82%"> <tbody> <tr> <td bgcolor="#ffece3" height="60">
    [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อสุรกายภูมิ [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]แบ่งออกเป็น ๓ พวกใหญ่ ๆ คือ[/FONT][/FONT]​
    </td></tr> <tr> <td>
    <table bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="90%"> <tbody> <tr> <td width="33%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๑. เทวอสุรา[/FONT]</td> <td align="center" width="14%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ได้แก่ [/FONT]</td> <td width="53%">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อสุรกายที่เป็น เทวดา[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๒. เปติอสุรา[/FONT]</td> <td align="center">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ได้แก่ [/FONT]</td> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อสุรกายที่เป็นพวก เปรต[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๓. นิรยอสุรา[/FONT]</td> <td align="center">[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]ได้แก่ [/FONT]</td> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อสุรกายที่เป็นสัตว์ นรก[/FONT]</td></tr></tbody></table>​
    </td></tr></tbody></table>​
    </td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] เทวอสุรกาย คือ อสุรกายจำพวกเทวดา บางพวกก็พอจะมีความสุขอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีความสุข [/FONT]</td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr> <td>
    <table border="1" cellpadding="2" cellspacing="2" width="90%"> <tbody> <tr> <td bgcolor="#ffece3" height="60">
    [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC][FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เทวอสุรกาย[/FONT] มีอยู่ ๖ พวกด้วยกัน คือ [/FONT]​
    </td></tr> <tr> <td>
    <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="90%"> <tbody> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๑. เวปจิตติอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๒. ราหุอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๓. สุพลิอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๔. ปหารอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๕. สัมพรตีอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]อสุรกาย ๕ พวกนี้ อยู่ใต้ภูเขาสิเนรุ เป็นศัตรูกับเทวดาชั้นดาวดึงส์ มีเรื่องเล่าว่า เดิมเคยอยู่บนชั้นดาวดึงส์ สมัยเมื่อมาฆะมานพ และ บริวาร ๓๒ คน ขึ้นไปเกิดเป็นพระอินทร์พร้อมกับบริวาร ๓๒ คน(รวมกันเป็น ๓๓ ดาวดึงส์ แปลว่า ๓๓) ได้มีการฉลองกันเป็นการใหญ่ เมื่ออสุรกาย ๕ พวกนี้เมาสุราได้ที่ จึงถูกพวกพระอินทร์และบริวาร โยนลงจากยอดเขาสิเนรุ มาอยู่ใต้เขาสิเนรุจนกระทั่งทุกวันนี้ ทำให้อสุรกาย ๕ พวกนี้ แค้นเทวดาชั้นดาวดึงส์มาก และได้เคยยกพวกขึ้นเขาสิเนรุ ไปตีกับเทวดาชั้นดาวดึงส์หลายครั้ง บางครั้งก็ชนะบางครั้งก็แพ้ ซึ่งมีเรื่องเล่ายาวพอสมควร[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๖. วินิปาติกอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เป็น พวกที่มีรูปร่างเล็ก มีอำนาจน้อยกว่าเทวดาชั้นดาวดึงส์ อาศัยอยู่ในมนุษยโลกนี้ จะอยู่ตามป่า ตามเขา ตามต้นไม้ และตามศาลที่เขาปลูกไว้ เป็นบริวารของภุมมัฏฐเทวดา จัดสงเคราะห์เข้าในพวกเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา[/FONT]</td></tr></tbody></table>​
    </td></tr></tbody></table>​
    </td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr><td>
    </td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] เปรตอสุรกาย คือ อสุรกายชนิดที่เป็นเปรต ซึ่งมีความเป็นอยู่ยากลำบากกว่าพวกอสุรกาย ที่เป็นเทวดา มีรูปร่างที่น่าเกลียดน่ากลัว [/FONT]</td></tr> <tr> <td>
    <table border="1" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"> <tbody> <tr> <td bgcolor="#ffece3" height="60">
    [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เปรตอสุรกาย[/FONT] [FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]แบ่งได้เป็น ๓ ชนิด คือ[/FONT] ​
    </td></tr> <tr> <td>
    <table border="1" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"> <tbody> <tr> <td> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"> <tbody> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๑. กาลกัญจิกเปรตอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เป็น พวกที่มีรูปร่างกายใหญ่โต แต่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง มีเลือดฝาดน้อย มีสีสันคล้ายใบไม้แห้ง ตาโปนออกมาเหมือนตาปู มีปากเล็กเท่ารูเข็มอยู่บนกลางศีรษะ หิวน้ำอยู่ตลอดเวลา เดินหาน้ำอยู่ตามลำธารน้ำไหลกลางป่า ทั้ง ๆ ที่เดินท่องอยู่บนลำธารน้ำไหล แต่กลับมองเห็นน้ำที่ไหลมา ขาวเหมือนหินอ่อน ได้ยินเสียงน้ำไหลแต่มองไม่เห็นน้ำ เพราะกรรมบันดาลให้มองไม่เห็นน้ำ กินน้ำก็ไม่รู้จักอิ่ม เพราะปากเล็กเท่ารูเข็ม พระธุดงค์พบเข้าแม้จะช่วยกันกรอกน้ำใส่ปาก น้ำก็ไหลออกหมด เพราะเล็กเท่ารูเข็มเท่านั้น จึงต้องหิวโหยอยู่ตลอดเวลา [/FONT]</td></tr></tbody></table></td></tr> <tr> <td> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"> <tbody> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๒. เวมานิกเปรตอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เป็น เปรตชนิดที่เสวยทุกข์ในเวลากลางวัน แต่เสวยสุข ในเวลากลางคืนเหมือนกับความสุขของเทวดาในชั้นดาวดึงส์ เพราะทำบุญกับบาปพร้อมกันไป เหมือนกับการฆ่าไก่ เพื่อถวายเป็นอาหารแก่พระธุดงค์ หรือการได้ทรัพย์มาโดยทางทุจริต แต่ก็นำเอาทรัพย์นั้น มาทำบุญใส่บาตรอีกต่อหนึ่ง[/FONT]</td></tr></tbody></table></td></tr> <tr> <td> <table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="100%"> <tbody> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]๓. อาวุธกเปรตอสุรกาย[/FONT]</td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC]เป็น เปรตชนิดที่ต้องประหัตประหารกันด้วยอาวุธ มีแต่ความไม่พอใจซึ่งกันและกันตลอดเวลา ซึ่งตรงกันข้ามกับ เทวดาชั้นดาวดึงส์ ที่มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน พวกนักเลงหัวไม้ หรืออันธพาลที่ชอบว่าจ้าง ให้ทำร้ายร่างกายหรือประหัตประหารผู้อื่น เมื่อสิ้นชีวิตลงจะต้องไปเสวยทุกข์ในนรก เมื่อพ้นจากนรกแล้วก็ต้องมาเสวย ทุกข์ทรมานด้วยการเป็นเปรตประเภทนี้อีก[/FONT]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>​
    </td></tr></tbody></table>​
    </td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr> <td>
    [​IMG]
    </td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] นิรยอสุรกาย เป็นสัตว์จำพวกเดียวกัน ที่เกาะอยู่ตามขอบจักรวาลที่มืดมิด มีลักษณะเหมือนค้างคาว มีความหิวกระหายเป็นกำลัง เกาะไปพลาง ไต่ไปพลาง พอไปพบพวกเดียวกัน จะโผเข้าหากันเพื่อกินเป็นอาหาร ก็จะพลัดตกไปในน้ำกรดข้างล่าง ละลายหายไปทันที แล้วเกิดขึ้นมาใหม่ ตกตายไปอีกวนเวียนเช่นนี้ จนกว่าจะหมดกรรม[/FONT]</td></tr> <tr> <td>
    </td></tr> <tr> <td>[FONT=BrowalliaUPC, CordiaUPC, AngsanaUPC] โดยสรุปแล้ว ในอสุรกายภูมินี้ ถ้าจะสงเคราะห์แล้วก็ จัดสงเคราะห์เข้าในเปรตภูมิ แต่พวกที่มีความเป็นอยู่เป็นพิเศษ ที่เป็นปฏิปักษ์ หรือเป็นศัตรูกับเทวดาชั้นดาวดึงส์เท่านั้น เรียกว่า อสุรกาย [/FONT]</td></tr></tbody></table>
     
  14. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    พระเจ้า ก็คือ ความดีงาม, ความหลุดพ้นจากวัฏสงสาร, นิพพาน, ดวงตาเห็นธรรม
    ซาตาน ก็คือ ความชั่วร้าย, กิเลสตัณหา, อวิชชา

    แต่สมัยนู้น จะอธิบาย แบบนี้ให้ชาวบ้านฟัง ก็ไม่มีใครเข้าใจ ก็ต้องเรียกแทนด้วย พระเจ้า กับซาตาน
     
  15. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ตำนานพระอินทร์รบกับเหล่าอสูรในธชัคคสูตร


    พระปริตรนี้ โดยปรกติเรียกว่า ธชัคคสูตร แต่ในที่บางแห่งแม้ในอรรถกถาของพระสูตรนี้เอง เรียกว่า ธชัคคปริตร เห็นจะเป็นเพราะการนำเอามาทำเป็นพระปริตรนั้นเอง
    [​IMG]
    ...... มีเรื่องเล่าว่า พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนพระภิกษุทั้งหลายให้ระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ โดยทรงนำเอาเรื่องสงครามระหว่างพวก เทวดา และพวกอสูร เมื่อครั้งกำลังติดพันกันในสมัยก่อน มาตรัสเป็นตัวอย่างว่า

    ...... ในสงคราม ครั้งนั้น ได้มีพระอินทร์ หรือท้าวสักกะ ผู้เป็นใหญ่ของพวกเทวดาทั้งหลาย ได้ตรัสแนะนำให้พวกเทวดาที่เข้าสงคราม ถ้าเกิดความหวาดกลัว ก็ให้ดูยอดธงที่ งอนรถ เพื่อให้หายหวาดกลัว หานความครั่นคร้าม หายความสยดสยองต่อข้าศึก ซึ่งมีมูลเหตุมาจากการแย่งที่อยู่กันบนสวรรค์ เพราะแต่เดิมนั้น เทวโลกบนยอดเขาสุเมรุ เป็นที่อยู่ของเทวดาพวกหนึ่ง เรียกว่า เนวาสิกเทวบุตร (เทวบุตรผุ้อยู่ประจำ) มีท้าวเวปจิตติเป็นหัวหน้า ต่อมา เมื่อ “มฆะมาณพ” ชาวบ้านอจลคามในอาณาจักร มคธ ผู้บำเพ็ญวัตตบท ๗ ประการ กับภรรยา ๔ คน ได้ชักชวนเพื่อนอีก ๓๒ คน ร่วมกันสร้างกุศลกรรมต่างๆ ครั้นตายลง มฆะมาณพกับพวกเพื่อน ๓๒ คน และภรรยา ๓ คน (ขาดนางสุชาดา) ได้ไปเกิดในเทวโลกบนยอดเขาสุเมรุ ที่พวกเนวาสิกเทวบุตรอยู่ มฆะมาณพไปเกิดเป็นพระอินทร์ คือท้าวสักกะ ผู้เป็นใหญ่ ของเทวดา ส่วนนายช่างของ มฆะมาณพไปเกิดเป็น วิสสุกรรมเทวบุตร นายช่างเทวดา ภรรยา ๓ คน คือ นางสุธัมมา นางสุนันทา นางสุจิตรา ก็ไปเกิดเป็นมเหสีของพระอินทร์

    ...... ฝ่ายเนวาสิกเทวบุตร เมื่อเห็นพวกเทวดามาเกิดใหม่ ก็จัดเครื่องดื่มพวกน้ำเมา (เรียกว่า ทิพพปานะบ้าง คันธปานะบ้าง) เลี้ยงต้อนรับผู้มาใหม่ แต่ท้าวสักกะ นัดหมายมิให้พวกพ้องของตนร่วมดื่ม พวกเนวาสิกเทวบุตร พากันดื่มฝ่ายเดียวจนเมามาย นอนหลับไหล อยู่ตามภาคพื้น ท้าวสักกะ จึงบอกแก่พวกของตนว่า เราไม่ต้องการให้ราชสมบัติ ณ ที่นี้ เป็นสาธารณะแก่พวกเนวาสิกเทวบุตร จึงสั่งให้พรรคพวกของตน จับพวกเทวบุตรขี้เมา ขว้างลงไปในมหาสมุทร ณ เชิงเขาพระสุเมรุ พอตกลงมาถึงกลางช่วงเขา พวกเนวาสิกเทวบุตรได้สติ จึงปรารภกันว่า แต่นี้ไปเราจะไม่ดื่มสุรากันอีกแล้ว แต่นั้นมาพวกเนวาสิกเทวบุตร จึงมีนามใหม่ว่า “อสุรา” แปลว่า ผู้ไม่ดื่มสุรา และด้วยบุญญานุภาพของพวกเนวาสิกเทวบุตร จึงดลบันดาลให้มีอสูรภิภพเกิดขึ้น ณ เบื้องล่างเขาพระสุเมรุ มีต้นไม้ชื่อ จิตตปาลี (แปลว่าต้นแคฝอย) เกิดขึ้นเป็นต้นไม้ประจำพิภพของอสูร ส่วนเทวโลกบนยอดเขาสุเมรุ ก็กลายเป็น สุทัศนเทพนคร ของพระอินทร์ กับพรรคพวกผู้เป็นสหาย มีวิมาน มีอุทยาน มีสระโบกขรณี มีเวชยันต์ปราสาท เวชยันต์ราชรถ และอื่นๆ เกิดขึ้นด้วยอานุภาพของ ท้าวสักกะกับมเหสี และเทวดา ๓๒ องค์ ซึ่งสร้างกุศลร่วมกันมา ตั้งแต่นั้น สวรรค์ชั้นนี้จึงมีนามว่า ดาวดึงส์เทพนคร (นครของเทวดา ๓๒ องค์) ท่านกล่าวว่า เทพนครกับอสูรนครนั้น มี สมบัติเท่าเทียมเสมอกัน

    ....... ส่วนนางสุชาดา ภรรยาอีกคนหนึ่งของ มฆะมาณพ นั้น เมื่อภรรยา ทั้ง ๓ คนเขาสร้างกุศลกัน ตนเองก็มิได้ร่วมสร้างด้วยเพราะคิดเสียว่าตัวเป็นภรรยา เมื่อสามีทำแล้วก็เท่ากับตนเองทำด้วย จึงสาละวนอยู่กับการแต่งตัว มิได้ขวนขวายก่อสร้างการกุศลใด ครั้นตายลงจึงไปเกิดเป็นนกยาง วันหนึ่งพระอินทร์ทรงรำพึงว่า เมื่อครั้งเราก่อสร้างสิ่งกุศลอยู่เมืองมนุษย์ เคยมีภรรยา ๔ คน บัดนี้มาเกิดอยู่ร่วมกัน ๓ คน แล้วนางสุชาดาอีก ๑ คนไปอยู่ที่ไหน

    ....... เมื่อตรวจดู ไปก็ทรงทราบว่านางสุชาดาไปเกิดเป็นนกยาง จึงลงมาแนะนำให้รักษาศีล มิให้กินปลาเป็น ให้กินแต่ปลาตาย เมื่อหาปลาตายกินไม่ได้ นางนกยางนั้นก็อดอาหาร และซูบผอมลงแล้วก็ตายไปเกิดเป็น ธิดาช่างหม้อ พระอินทร์ ก็ลงมาแนะนำให้รักษาศีล ครั้นนางสิ้นชีพในชาตินั้น ก็ไปเกิดเป็นธิดาผู้งดงามของท้าวเวปจิตติ ราชาแห่งอสูร ผู้เป็นศัตรูคู่แค้นกับท้าวสักกะ ครั้นเจริญวัยบิดาก็งานสยุมพรให้พระธิดาเลือกคู่ครอง พอดีพระอินทร์ทรงทราบ จึงแปลงองค์เป็นอสูรแก่มายืนอยู่ท้ายสุดของที่ชุมนุม แล้วด้วยบุพเพสันนิวาส นางก็โยนพวงมาลัยมาให้อสูรชรา คือท้าวสักกะ ที่ชุมนุมก็อลเวงพวกอสูรหนุ่มก็หาว่านางไปเลือกอสูรแก่ไม่คู่ควรกัน พระอินทร์ผู้เป็นอสูรแก่ปลอมก็อุ้มนางพาไปขึ้นเวชยันต์ราชรถ ซึ่งมาตลีเทวบุตรนำมาซุ่มรอไว้ พากันเหาะหนีไปยังสุทัศนเทพนคร ซึ่งเป็นมูลเหตุอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้พวกอสูรแค้นเคืองพวกเทวดามาก

    ....... ตั้งแต่นั้นมา ครั้นถึงฤดูที่ต้นจิตตปาลี ต้นไม้ประจำพิภพอสูร ผลิดดอกบาน พวกอสูรก็รำลึกถึงต้รน ปาริฉัตรที่เคยเป็นของตน อสูรก็ยกทัพมารบกับเทวดาพวกของพระอินทร์ เป็นสงครามประจำฤดูกาลและผลัดกันแพ้ - ชนะ ด้วยเหตุนี้ท้าวสักกะผู้เป็นราชาแห่งเทวดาทั้งหลาย จึงตรัสแนะนำให้เทวดาทั้งหลายที่เข้าสงครามดูยอดธงของพระองค์ ถ้าไม่เห็นก็ให้ดูยอดธงของเทวราช อีก ๓ องค์ ซึ่งมาในกองทัพคือ เทวราชผู้มีพระนามว่า ปชาบดี เทวราชผู้มีนามว่า วรุณ และเทวราชผู้มีนามว่า อีสาน ซึ่งพระอรรถกถรจารย์ (พระพุทธโฆสฯ) อธิบายว่าเทวราชพระนามว่า ปชาบดี นั้นมีผิวพรรณและอายุเท่ากันกับท้าวสักกะ และประทับนั่งมา ณ อาสนะเป็นอันดับ ๒ ส่วนเทวราช วรุณ และอีสาน ก็อยู่เป็นอันดับ ๓ และ ๔ ถัดไป

    ....... พระพุทธเจ้าได้ทรงยกเอาเรื่องสงครามระหว่างเทวดากับอสุร และคำตรัสแนะนำของท้าวสักกะที่ตรัสแก่ทวยเทพเป็นแนวเปรียบเทียบ แล้วตรัสสอนให้ภิกษุทั้งหลาย ผู้ปฏิบัติกัมมัฏฐาน หรือสมาทานธุดงต์ ไปอยูตามโคนไม้ หรือในอาคารที่สงัด ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เพื่อระงับความกลัว ความครั่นคร้าม และความสยดสยอง เช่น ข้อความในธชัคคปริตร ซึ่งพระอรรถกถาจารย์กล่าวไว้ว่า อานุภาพของพระปริตรบทนี้แผ่ไปทั่วอาณาจักรเขตแสนโกฏิจักรวาฬ ผู้ที่ระลึกพระปริตรนี้แล้วแล้วรอดพ้นจากทุกข์ที่เกิดจากภัยมียักษ์และโจร เป็นต้น นับไม่ถ้วน ผู้มีจิตเลื่อมใส ระลึกถึงพระปริตรนี้ ย่อมจะได้หลักพึ่งพิงได้


    จากหนังสือสวดมนต์ ฉบับอุบาสก อุบาสิก : วัดเกตุมดีศรีวราราม จ.สมุทรสาคร
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สมมุติบัญญัติ ก็ว่ากันไปต่างๆนาๆ ตามความคิดความเข้าใจของหมู่เหล่าต่างๆ
    แต่สัจจธรรมความจริงย่อมมีหนึ่งเดียว
    เหมือนกับความดีความชั่ว ที่ไม่ว่าใช้คำสมมุติแบบใด ก็เข้าใจตรงกันว่าคืออะไร
    เทวดากลายเป็นมารซาตานได้ ก็เพราะหลงผิดด้วยมิจฉาทิฏฐิ ยอมให้กิเลสตัณหา โทสะ โมหะ โลภะ
    อิจฉาริษยา พยาบาท เข้าครอบงำจิตใจและวิญญาณ ก็เข้าใจเรื่องราวได้ตรงกัน เพราะ
    ความจริงเหล่านี้เราสัมผัสได้รู้จักได้เป็นความจริงในตัวเรา เราก็เข้าใจความจริงนั้นได้
    ตามจริง ถึงจะต่างชาติต่างภาษา แต่ก็เข้าใจความจริงของกิเลสตัณหา พยาบาท
    ความอิจฉาริษยาได้ตรงกัน เนาะ

    ปล.เรื่องสงครามระหว่างเทวดาและอสุรา นี่เป็นเรื่องคลาสสิค จริงๆ เนาะ มีในคำสอนทุกศาสนา
    นับว่าเป็นเรื่องที่เปิดหูเปิดตาเราได้มาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2010
  17. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    นิทานสนุกดีไว้หลอกเหล่าลูกแกะที่รอshepperd
    การรบที่รู้ผลล่วงหน้าแบบนี้ รบไปทำไม
    จอมทัพผู้ปรีชาชาญจะไม่รบในสงครามที่ตนเองไม่มีทางชนะ

    น.อ. จอม รุ่งสว่าง
    รอง ผบ.รร.สธ.ทอ./ ผู้แปล
    ตำราพิชัยสงคราม SUNTZU ๑๓ บทไม้ตาย
    บทที่ ๑ แผนศึก
    บทที่ ๒ เตรียมศึก
    บทที่ ๓ นโยบายศึก
    บทที่ ๔ ศักย์สงคราม
    บทที่ ๕ จลน์สงคราม
    บทที่ ๖ หลอกล่อ
    บทที่ ๗ การแข่งขัน
    บทที่ ๘ เก้าเหตุการณ์
    บทที่ ๙ เคลื่อนกำลัง
    บทที่ ๑๐ ภูมิประเทศ
    บทที่ ๑๑ เก้าสนามรบ
    บทที่ ๑๒ ไฟ
    บทที่ ๑๓ สายลับ
    บทที่ ๑ แผนศึก
    ๑. SUNTZU กล่าวไว้
    การสงครามเป็นงานยิ่งใหญ่ มีความสำคัญต่อชาติใหญ่หลวง ชี้ขาดความเป็นตายคนในชาติเกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของชาติ จึงต้องคิดอ่านพิจารณาด้วยความรอบคอบอย่างถึงที่สุด ฉะนั้นจะต้องคิดคำนึงถึงเรื่องสำคัญ ๕ ประการ และพิจารณาเปรียบเทียบ ๗ ประการ เพื่อเข้าใจสถานการณ์ได้ถ่องแท้ .... ๕ ประการดังกล่าว ได้แก่ :-
    • หนทาง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนแต่ละชั้นว่าสามารถอยู่ร่วมกัน ตายร่วมกันได้เพียงใด ( การเมืองภายใน )
    • สภาพแวดล้อม เงื่อนไขเอื้ออำนวยของจังหวะเวลา และภูมิอากาศ
    • สภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์
    • แม่ทัพนายกอง ลักษณะคน
    • กฎ ระเบียบ วินัย
    ปกติการคิดคำนึง และศึกษาเรื่องราว ๕ ประการ แม่ทัพนายกองทุกคนเข้าใจดีอยู่แล้ว
    แต่ผู้เข้าใจลึกซึ้งกว่าเป็นผู้ชนะ ผู้เข้าใจลึกซึ้งน้อยกว่าเป็นผู้ไม่อาจชนะ
    ฉะนั้นเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งกว่าจำเป็นต้องมีการพิจารณาเปรียบเทียบอีก ๗ ประการ ดังนี้ :-
    • ผู้นำประเทศฝ่ายใดกำจิตใจคนในชาติมากกว่ากัน
    • แม่ทัพนายกองฝ่ายใดมีความสามารถมากกว่ากัน
    • เงื่อนไขทางภูมิศาสตร์ฝ่ายใดได้เปรียบ
    • ฝ่ายใดรักษากฎ ระเบียบ วินัย เคร่งครัด กว่ากัน
    • กองทัพฝ่ายใดเข้มแข็งกว่ากัน
    • ทหารหาญฝ่ายใดได้รับการฝึกมามากกว่ากัน
    • การให้รางวัล และการลงโทษ ฝ่ายใดมีความยุติธรรมกว่ากัน
    สำหรับ SUNTZU แล้ว จากที่กล่าวมา แม้ยังมิได้รบก็รู้แพ้ชนะกระจ่างแจ้งแล้ว
    ๒. ในกรณีแม่ทัพนายกองปฏิบัติตามการคิดคำนวณ ๕ ประการ และเปรียบเทียบ ๗ ประการของข้าพเจ้า ถ้าเอาคนนี้มาใช้งานจะได้รับชัยชนะแน่นอน ต้องเอาคนคนนี้มาใช้งาน
    ในกรณีแม่ทัพนายกองมิได้ปฏิบัติตามการคิดคำนวณ ๕ ประการ และเปรียบเทียบ ๗ ประการของข้าพเจ้า ถ้าเอาคนนี้มาใช้งานจะประสบความพ่ายแพ้แน่นอน ต้องปลดคนคนนี้ทิ้งเสีย
    ถ้าปฏิบัติตาม และเข้าใจความคิดอ่านนี้ การเตรียมการก่อนออกศึกจะเกิด “ พลังอำนาจ ” ซึ่งจะช่วยกองทัพในการศึก พลังอำนาจที่กล่าวช่วยให้ฝ่ายเราสามารถใช้ความอ่อนตัวบังคับสถานการณ์ได้เปรียบให้ตกอยู่กับฝ่ายเรานั่นเอง ( พลังอำนาจ ...... ศักย์สงคราม )
    ๓. การศึกนั้นเป็นการเคลื่อนไหวด้วยเล่ห์เหลี่ยม หมายถึงการกระทำที่กลับกันกับการกระทำปกติ ฉะนั้น เมื่อเข้มแข็งต้องให้เห็นว่าอ่อนแอ เมื่อกล้าต้องให้เห็นว่ากลัว เมื่อใกล้ให้ดูไกล เมื่อไกลให้ดูใกล้ เมื่อข้าศึกต้องการประโยชน์เอาประโยชน์เข้าล่อ เมื่อข้าศึกวุ่นวายสับสนให้ฉวยโอกาสข้าศึกเหนียวแน่นให้ป้องกัน ข้าศึกเข้มแข็งให้ถอยออกมา เมื่อข้าศึกโกรธให้ยั่วยุ ข้าศึกสบายทำให้พวกเขาเหนื่อยล้า เมื่อข้าศึกกลมเกลียวทำให้แตกแยก โจมตีข้าศึกในที่ซึ่งไม่มีการป้องกัน รุกเข้าไปในที่ซึ่งข้าศึกไม่คาดคิด เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ข้าศึก ก่อนรบไม่มีผู้ใดล่วงรู้ได้ว่าจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นไร ..
    ๔. ปกติการคิดอ่านก่อนออกศึกแล้วชนะ หมายถึงผลจากการคิดคำนวณ ๕ ประการเปรียบเทียบ๗ ประการ แล้วมีทางชนะมากกว่าทางแพ้นั่นเอง แต่หากคิดอ่านก่อนออกศึกแล้วไม่อาจชนะก็หมายถึงผลจากการคิดคำนวณ ๕ ประการเปรียบเทียบ ๗ ประการแล้วมีทางชนะน้อยนั่นเอง ดังนั้น จากการคิดคำนวณก่อนออกศึก ถ้ามีทางชนะมากจะชนะ ถ้ามีทางชนะน้อยกว่าก็จะมิอาจชนะ สำหรับข้าพเจ้า เพียงสังเกตดังกล่าว ก็รู้แพ้ชนะชัดเจนแล้ว
     
  18. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    ๓. กฎของสงครามโดยทั่วไป
    เมื่อมีกำลัง ๑๐ เท่าเข้าโอบล้อม เมื่อมีกำลัง ๕ เท่าเปิดเกมรุก เมื่อเท่ากันให้สู้ ถ้าน้อยกว่าให้ถอย ถ้ากำลังปะทะกันไม่ได้ให้หลบซ่อน โดยปกติกำลังน้อยกว่าปะทะตรงหน้ากับกำลังที่มากกว่าย่อมทำไม่ได้เป็นทางปกติ กำลังที่น้อยนิดคิดแต่จะใช้ความห้าวหาญ รังแต่จะถูกจับเป็นเชลยของกำลังที่มากกว่าเท่านั้น
    บทที่ ๔ ศักย์สงคราม
    ๑. SUNTZU กล่าวไว้
    ยอดนักรบ ตั้งมั่นในที่ซึ่งไม่มีใครอาจชนะเขาได้ รอคอยโอกาสซึ่งใครก็ได้อาจชนะต่อข้าศึกรูปแบบที่ไม่มีใครอาจชนะได้อยู่ที่ฝ่ายเรา รูปแบบที่ใครก็ได้อาจสามารถชนะได้อยู่ที่ฝ่ายเขาแม้จะเป็นยอดนักรบที่สามารถตั้งมั่นในที่ซึ่งไม่มีใครอาจชนะได้ ก็ไม่สามารถทำให้ข้าศึกตั้งอยู่ในที่ซึ่งใครใครก็อาจชนะได้จึงจำเป็นต้องรู้จักอดทนรอคอย รูปแบบที่ไม่มีใครอาจชนะได้นั้น เป็นรูปแบบเกี่ยวข้องกับการตั้งรับ รูปแบบที่ใครก็อาจชนะได้ เป็นรูปแบบเกี่ยวข้องกับการรุก รับเนื่องจากกำลังรบไม่เพียงพอ และรุกเนื่องจากกำลังรบมีอยู่เพียงพอ นักรบที่ตั้งรับเก่งเหมือนซ่อนอยู่ใต้ของใต้แผ่นดิน นักรบที่รุกเก่งเหมือนเคลื่อนไหวอยู่เหนือของเหนือฟ้า ฉะนั้นจึงอยู่ในที่ปลอดภัย และสามารถเอาชัยเด็ดขาดได้สำเร็จ
    ๒. ระดับชัยชนะที่คนทั่วไปมองออกยังมิใช่ยอด รบกันแล้วได้ชัยชนะคนทั่วโลกแซ่ซ้องสรรเสริญยังมิใช่เยี่ยม หยิบถือเส้นผมได้ว่ามีกำลังมิได้ มองดวงอาทิตย์จะบอกว่าตาดีไม่ได้ ฟังเสียงฟ้าร้องว่าหูดีมิได้ สมัยก่อนยอดนักรบคนทั่วไปมองไม่ออก เขาจะเข้ายึดโอกาสชนะง่ายแล้วชนะ เพราะฉะนั้น การต่อสู้ของยอดนักรบนั้น มิได้มีชื่อเสียง มิได้ใช้ความรู้ความสามารถหรือความมานะพยายามพิเศษพิศดารและกล้าหาญใดใด เนื่องเพราะเขาจะทำสงครามที่ชนะแน่นอนเท่านั้น สงครามที่ชนะแน่นอนก็คือเข้าตีข้าศึกที่แพ้แน่นอนแล้วชนะนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ยอดนักรบจะตั้งมั่นในที่ซึ่งไม่มีใครอาจชนะได้รอคอยโอกาสชนะ และไม่ปล่อยให้โอกาสชนะโอกาสแรกหลุดลอยไปนั่นเอง
    กองทัพที่มีชัย คือกองทัพที่ก่อนออกศึกได้รับชัยชนะแล้วจึงรบ กองทัพที่พ่ายแพ้ คือกองทัพที่ออกรบแล้วจึงแสวงหาชัยชนะนั่นเอง
     
  19. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    ซาตานจะรบไปทำไม พระเจ้ายิ่งใหญ่เป็นomnipotent รบอย่างไรก็แพ้
    หรือเป็นแค่อาการของเด็กเอาแต่ใจ ฟาดงวงฟาดงาเล่นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพระเจ้าเท่านั้นเองหรือ
    ทำไมพระเจ้ากับซาตานถึงเล่นสนุกเหมือนพ่อหยอกลูกบนความเดือดร้อนของมนุษย์เล่า
    Omnipotence (from Latin: Omni Potens: "all power") is unlimited power.
     
  20. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    Propaganda is a form of communication that is aimed at influencing the attitude of a community toward some cause or position.
    French Postcard - French Military Humour Propaganda : The Ingordo, too hard - unknown Year, approximately 1915. Kaiser Wilhelm II of Germany caricatured trying to eat the world, but finds it "too hard".
    Carte postale de France - Propagande militaire française humoristique - L'ingordo, trop dur - Année 1915
    หรือพระเจ้ากลัวแพ้เลยเล่นสงครามแย่งชิงมวลชนโดยบอกบรรดาพวกลูกแกะว่าไม่ต้องกลัวเราชนะแน่
    เพราะทั้งพระเจ้าและซาตานก็ต้องกาศัยพลังศรัทธาของลูกแกะเป็นแหล่งพลัง ใครครอบครองลูกแกะได้มากกว่า คนนั้นจะชนะ
    พ้าเป็นเช่นนั้นสงครามนี้โผอาจพลิกก็ได้ ใครจะไปรู้ เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...