โครงสร้างของ UFO

มนุษยชาติ พยายามที่จะเสาะแสวงหา ยานอวกาศของเรา ความรู้ของเรา เทคโนโลยีของเรา ดาวของเรา ทว่านักวิทยาศาสตร์บนโลกนี้สามารถหาสสารที่เป็นเหล็ก ชั้นที่เหนียวที่สุดดีที่สุดได้เพียงไทเทเนี่ยม มีพลังงานที่สามารถส่งยานอวกาศน้ำหนักมหาศาลผ่านแรงดึงดูดของโลก ขึ้นไปได้เพียง ไฮโดรเจน + ออกซิเจน ด้วยพลังงานอันน้อยนิดเท่านี้เท่าที่มนุษย์จะสามารถคิดได้ผ่านหลักวิทยาศาสตร์ที่ยึดกฎเกณฑ์นี้
ไม่สามารถนำสิ่งที่มีชีวิตออกไปจากระบบสุริยะจักรวาลได้เลย ไม่ว่าด้วยกรณีใดก็ตาม ตราบใดที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าใจในธรรมชาติและกฏของจักรวาลที่เกื้อกูลกันอยู่
มนุษยชาติได้สร้างกฏเกณฑ์ขึ้นมาเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเองโดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นการสร้างกรอบความคิดที่สร้างกำแพงปิดกั้นตัวเองออกจากระบบของจักรวาล ยกตัวอย่าง เช่น กฎแรงโน้มถ่วง กฎการเคลื่อนที่แบบต่างๆ ซึ่งกฎเกณฑ์ต่างๆเหล่านี้เองทำให้มนุษย์ยึดติดกับสิ่งที่เห็น เพราะมนุษย์เชื่อมั่นว่ามันสามารถพิสูจน์ได้ เห็นได้ สัมผัสได้ และทุกคนสามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ ผ่านระบบที่มนุษย์เรียกว่า วิทยาศาสตร์ มันจึงกลายเป็นสิ่งที่ถูกน้อมรับในระดับมหภาค และกลายเป็นบทเรียนอันแสนปวดหัวในทุกโรงเรียน โดยขาดการหาความรู้ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องจิตวิญญาณ ซึ่งมันจะนำพามนุษยชาติเดินทางเข้าไปสู่ทางตันและวิถีทางแห่งการทำลายล้างตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในวันข้างหน้า และเพื่อไม่ให้ทุกอย่างสายเกินแก้ พวกเราจะกลับมาอีกครั้งเพื่อนำเทคโนโลยีต่างๆที่ต้องใช้องค์ประกอบของจิตเป็นส่วนประกอบเหล่านี้ให้มนุษยชาติที่ยังเหลือรอดจากมหาภัยพิบัติในวันข้างหน้า ได้ใช้อย่ายั่งยืนต่อไป
Solar nutrino เทคโนโลยีที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจักรวาล คุณสมบัติของ นิวทริโน สามารถที่จะทะลุทุกสิ่งทุกอย่างๆด้แม้กระทั่งโลกใบนี้ เป็นสสารมืด dark matter จึงเรียกได้ว่ามันคือความว่างเปล่าอย่างแท้จริง เป็นพลังงานที่เกิดมาพร้อมกันตั้งแต่สร้างจักรวาล การใช้งานของพลังงานนี้ง่ายมาก แต่บนโลกนี้ไม่มีเครื่องรับชนิดใดที่สามารถรับพลังงานชนิดนี้ได้และไม่สามารถสร้างได้เองจากสสารที่มีอยู่บนโลกนี้ พลังงานนี้ปกติมีอยู่โดยทั่วไป แต่พลังงานสูงสุดจะต้องมาควบคู่กับแสงอาทิตย์ที่ส่องมาตอนเช้าช่วง 8 โมงถึง 9 โมง โดยแสงอาทิตย์จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนสายไฟฟ้าที่นำพาพลังงานนี้เข้าสู่เครื่องรับ เมื่อชาร์จพลังจนครบ 1 ชั่วโมง ตัวรับจะมีพลังงานสูงมากเปรียบประหนึ่งว่าตัวมันเองนั้นเป็นพระอาทิตย์ซะเอง พลังงานนี้ไม่ก่อให้เกิดความร้อน ประจุไฟฟ้า มลพิษ รวมทั้งคลื่นสนามแม่เหล็กต่างๆ ทำให้อุปกรณ์ต่างๆที่เชื่อมโยงกับพลังงานนี้ไม่เกิดความเสียหายทางกลไก และอิเล็กทรอนิกส์ ตัวเครื่องรับมีขนาดเล็กเพียงเท่าถ่านนาฬิกาข้อมือ และสามารถใช้ได้เป็นล้านๆปีโดยไม่มีการเสื่อมอายุตลอดการใช้งาน ซึ่งในยานอวกาศทุกรุ่น ใช้พลังงานนี้เช่นกันในการบินข้ามกาแล็กซี่ ข้ามจักรวาล บินฝ่าเข้าไปในหลุมดำไปยังที่ต่างๆที่ต้องการ โดยใช้จิตที่ต้องนิ่งสงบเท่านั้นในการควบคุมยานเพื่อกำหนดสถานที่ต่างๆที่ต้องการไป
Permanent steel สสารที่มีความเหนียวและแกร่งอย่างยิ่งยวด ลักษณะทางกายภาพแข็งแกร่งกว่า ไทเทเนียม 10000 เท่า แต่ความถ่วงจำเพาะกลับเบากว่าน้ำ สร้างขึ้นมาจากเทคโนโลยี cryogenic superconducting ในการรีดเอาไอออนต่างๆที่มีอยู่ในเนื้อเหล็กออกมาจนหมด ทำให้เหล็กนั้นไม่เป็นสนิมตลอดกาล โดยใช้พลังงานในการสร้างและผลิตของ solar nutrino ยานบางรุ่นเช่น turion , lost of century , syntian , satian สามารถที่จะวิ่งฝ่าหลุมดำได้โดยไม่มีการบุบสลายแต่ประการใด
Negative gravity เทคโนโลยีที่ใช้ในการต่อต้านแรงคึงดูด โดยการสร้างสนามแม่เหล็กให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสนามแม่เหล็กโลก สามารถทำให้บังคับยานได้อย่างอิสระ รวดเร็ว สามารถสร้างกลุ่มพลังงานสนามแม่เหล็กมาคลุมเพื่อพรางตัวและสร้างเกราะกำบังตัวเองได้ เทคโนโลยีนี้ถ้าใช้พลังงานถ่านหินบนพื้นโลกผลิตเป็นพลังงานแล้วจะต้องใช้ถ่านหินเท่ากับปริมาตรเท่ากับประเทศเขมรทั้งประเทศต่อการบิน 10 วินาที ซึ่งพลังงานที่ใช้ในเทคโนโลยีนี้ก็มาจาก solar nutrino เช่นกัน

 

เอามาจากไหนคับอยากรู้ที่มาอะคับ

 

ชอบ ชอบ

 

เทคโนโลยีcryogenicบนโลกนี้ก็มีแต่ทำได้เพียงเรียงไอออนเท่านั้นไม่สามารถรีดออกไปได้เพราะพลังงานที่เราเอามาทำนั้นมีคลื่นรบกวนและความร้อนแฝงกับสนามแม่เหล็กในพลังงานนั้น ส่วนในยานอารยธรรมอื่นนั้นใช้พลังงานที่ว่ามาก่อนหน้านี้ ส่วนคำถามที่ว่ารู้มาได้ยังไง .......... ณ. เวลานี้ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์จะต้องได้รับรู้และยอมรับพลังงานรูปแบบนี้ซึ่งจะเป็นพลังงานในอนาคตเพราะเราขุดน้ำมันไม่ได้แล้วนี่คือความจริงแต่จะมีเพียงบางคนเท่านั้นที่ได้ใช้ คนที่มีจิตใจที่ดีและสงบเท่านั้นที่ผ่านเวลาของ วันนั้น ไปได้

 

คุณvincent308ไม่คิดจะลองเอาไปเสนอ'เมกา มันดูหรอคับ แล้วที่กฏทางฟิสิกที่เราเรียนทุกวันนี้เมื่อรู้อย่างนี้แล้วทำไมเราต้องเรียนด้วยใช่ไหมคับ มันน่าจะใช่แล้วนะครับที่คุณว่า "มนุษย์เชื่อมั่นว่ามันสามารถพิสูจน์ได้ เห็นได้ สัมผัสได้ และทุกคนสามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ ผ่านระบบที่มนุษย์เรียกว่า วิทยาศาสตร์ มันจึงกลายเป็นสิ่งที่ถูกน้อมรับในระดับมหภาค และกลายเป็นบทเรียนอันแสนปวดหัวในทุกโรงเรียน โดยขาดการหาความรู้ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องจิตวิญญาณ ซึ่งมันจะนำพามนุษยชาติเดินทางเข้าไปสู่ทางตันและวิถีทางแห่งการทำลายล้างตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในวันข้างหน้า" มนุษย์จะทำให้สิ่งที่ตนคิดได้เป็นที่ยอมรับจึงเอาทฤษฎีอะไรไม่รุ้มารองรับความคิดของตนเองเป็นการล้อมกรอบตนเองทำให้คิดว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นดีแล้ว ไม่มีไรเทียบได้ จะเรียนไปทำไมหนอ v,s,t,g,θ,δ,λ,μ,ω,σ,Σ,Δ และ π(ไพ) เฮ้อ...

 

เห็นด้วย ๆ ๆ

 

คุณคือใคร vincent38 และเอาข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน

 

มนุษย์มักสร้างเหตุผลของตนขึ้นมา เพื่อครอบงำความจริงแท้อยู่เสมอ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มองเห็นไม่ได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ จับต้องไม่ได้ แต่รับรู้ได้โดยความรู้สึก สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่สามารถนำมาอธิบายเป็นบทบัญัติ ทฤษฎีที่ตายตัวได้ แต่สักวันมนุษย์เราคงจะหาคำตอบให้กับสิ่งเหล่านี้ได้ เหมือนกับที่เมื่อก่อนมนุษย์เราเคยเกรงกลัวต่อฟ้าร้องและฟ้าผ่า คิดว่าเป็นการกระทำของเทพเจ้า ต่อมามนุษย์ได้เรียนรู้และเข้าใจว่าเป็นเพียงปรากฎการณ์อย่างหนึ่งของธรรมชาติไม่จำเป็นต้องกลัวกันอีกต่อไป ฉะนั้นแล้วทุกสิ่งในตอนนี้ที่มนุษย์เราคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหลไม่มีจริง แต่คงมีสักวันนึงที่มนุษย์เราคงจะเรียนรู้เข้าใจและอธิบายได้ใของสิ่งเหล่านี้อย่างถูกต้อง .....ทุกสิ่งล้วนอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่

 

เคยได้ยินมาว่า UFO บินได้ด้วยการสร้างสนามแม่เหล็กเทียม เพื่อต่อต้านกับสนามแม่เหล็กโลก เพื่อให้บินได้อย่างว่องไวและรวดเร็ว ไร้เทียมทาน

หากสนามแม่เหล็กโลกไม่นิ่ง มีการแกว่ง --> UFO ตกแหง๋มๆ

 

สุดยอดที่สุดคงต้องบินด้วยพลังงานคือเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานแล้วจึงเคลื่อนที่ เป็นการย้ายตำแหน่งที่สมบูรณ์ที่สุดก็ว่าได้ น่าจะถึงขั้นสามารถวาร์ปได้เลยล่ะมั้ง

 

การเรียนในห้องเรียนเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อศึกษาในสิ่งที่ตัวเองเชื่อที่ตัวเองคิดว่าถูกสิ่งที่สร้างขึ้นโดยความคิดและกฎเกณที่ไม่มีผู้ใดทราบว่าจริงหรือไม่ นอกจากธรรมชาติ แต่ความเป็นจริงแล้วสิ่งที่มนุษย์ควรเป็นคือ อยู่กับธรรมชาติ เรียนรู้จากธรรมชาติ ศึกษาจิตของตัวเอง ธรรมชาติจะสอนทุกสิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรมีในชีวิตหนึ่ง เพราะธรรมชาติสร้างมนุษย์

 

ผมกำลังออกแบบรูปแบบการลอยได้แบบใหม่อยู่ การบินโดยไม่ใช้ปีก ขอเวลาอีกนิด

 

กสิณไฟ กสิณพระอาทิตย์ คนที่ฝึกสำเร็จทำอะไรได้มาก จะแสดงหรือไม่เท่านั้น ที่อินเดีย มีเสาเหล็กไร้สนิมอยู่ เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นวิทยาการของมนุษย์ว่าทำได้แล้ว สิ่งที่เราไม่รู้ยังมีอีกมาก แต่สิ่งที่ควรรู้ พระพุทธองค์ ได้ชี้แนวทางและแสดงให้ชาวพุทธได้รับรู้แล้ว ผ่านทาง พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่พึ่งได้

 

ถ้ามีเหล็กหรือแร่ ที่ไม่เป็นสนิมตลอดกาล คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า ทุกอย่างล้วนไม่เที่ยงแท้ หรือไม่มีสิ่งไดยั่งยืนยงก็คงผิดหละสิ

เครื่องบินหรือยานที่ดีที่สุดที่มนุษย์จะสร้างได้คือ คือเครื่องบินหรือยาน
ที่บินได้แบบ แมลงวัน

การเดินทางที่ดีที่สุดที่มนุษย์จะทำได้ คือการเดินทางโดย จิต

 

แม้มันไม่เป็นสนิม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะผุพังสลายตัวไม่ได้นิครับอาจแค่ใช้เวลานานหน่อยแค่นั้น ของหลายๆอย่างที่ไม่เปนสนิมมันยัง สลายตัวตามกาลเวลาเลยคับ

 

<TABLE class=tborder id=post473724 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>demonicus<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_473724", true); </SCRIPT>
สมาชิก





</TD><TD class=alt1 id=td_post_473724 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ผมกำลังออกแบบรูปแบบการลอยได้แบบใหม่อยู่ การบินโดยไม่ใช้ปีก ขอเวลาอีกนิด
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ไม่ทราบว่าใช้หลักการอะไรเป็นพื้นฐาน? พอจะบอกได้รึเปล่าครับ (หลักอากาศพลศาสตร์, หลักการของสนามแม่เหล็ก หรือ หลักการของสนามไฟฟ้าสถิต) พอดีผมสนใจมากๆ ครับ ขอบคุณล่วงหน้า

 

อยู่เป็นไปตามกฎของกลุ่ม Illuminati ครับบบบบบ ตามน้ำไป..(แต่อย่าตามมาก ตามอย่ามีขอบเขตของตนเอง) ........เรียนเอาสังคมครับบ ส่วนตัวผมนะ

อนุโมทนาครับบบ

 

ตอบ

.....ไม่ตกแหงมๆ หรอกครับ...การที่ สนามแม่เหล็กโลกมีค่า ลดลง หรือ แปรปรวน ในขณะที่ ยู เอฟ โอ ยังคงมี กำลังพลังงาน ในการยกตัว และ ขับเคลื่อนปกติ อย่างมาก ก็แค่ บินไม่เรียบ...ซึ่งไม่น่าจะเป็นปัญหามากนัก..เพราะ สิ่งเหล่านี้ ได้ ออกแบบป้องกันไว้ แล้ว....

 

....เครื่องยนต์ ยู เอฟ โอ รุ่นที่ ๑ มีคนสร้างได้ หลาย ชาติ แล้ว ครับ...ใช้ พลังงานสนามแม่เหล็กไฟฟ้าพลาสม่า จาก ซูเปอร์ คอนดัคเตอร์ และ ผม ค่อนข้างแน่ใจว่า ไม่ใช่ฝีมือ คนไทย แน่นอน...เพราะ พวก คนไทย มัวแต่ สนใจกับเรื่อง หาเงินหาทอง มากเกินไป...

...เชื่อว่า...ที่เห็นบินๆ กัน บนฟ้า นั้น มี ฝีมือ ของ มนุษย์ บนโลก นี้ ปะปนอยู่...แต่ ยังเป็นแบบที่ บิน หักมุม หรือ บิน ซิกแซก ด้วยความเร็วคงที่ ไม่ได้...อย่างหลังนี้ ของแท้ครับ

 

ผมขอสนับสนุนเรื่องที่ท่าน <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->vincent308 นำมากล่าวนั้น ว่าเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง แต่โดยกรอบและความคิดที่ยึดติดทำให้หลายคนไม่ยอมรับและไม่พยายามที่จะแสวงหามัน

และยังมีอีกเรื่องที่ท่าน <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->vincent308 ยังไม่กล่าวถึง คือการนำพลังงานจากจุดศูนย์(ZERO ENERGY)มาใช้