เปิดจักระขั้นพื้นฐานผ่านหน้าเว๊บ

ผู้ที่อยากเปิดจักระ ควรเป็นผู้ที่มีพื้นฐานในการทำสมาธิอานาปานสติมาก่อน
เพราะทำให้เข้าขนิกสมาธิได้ง่าย
ก่อนเปิดจักระ ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด
แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย
สวดมนต์ระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย
กราบ9ครั้งระลึก
3ครั้งแรก กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณระลึกว่าสรณะสูงสุดของข้าพเจ้าคือพระรัตนตรัย ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่เคารพตลอดกาลนาน
กราบครั้งที่4 กราบพระปัจเจกพุทธเจ้า
กราบครั้งที่5 ระลึกถึงพระมหาโพธิสัตว์ทั้งหลายและพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ
กราบครั้งที่6 ระลึกถึงคุณบิดา มารดา ทั้งที่ให้กำเนิด และที่ชุบเลี้ยงให้เติบใหญ่ ทุกๆท่านไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ
กราบครั้งที่7 ระลึกถึงคุณอุปัชชาจารย์ ครูบาอาจารย์ ครูตำหรับตำรา ครูพักลักจำ ทุกๆท่านที่ประสิทธิประสาทวิชาให้ทั้งทางโลกและทางธรรม
กราบครั้งที่8 ระลึกถึงคุณแห่งหรพมและเทพยดาทั้งหลาย ตั้งแต่อรูปพรหมไปถึงยมทูตทุกๆท่านไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ
กราบครั้งที่9 ระลึกถึงคุณแห่งธรรมชาติทั้งหมด ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ นิพพาน
ทำใจให้สงบ สบาย โปร่ง โล่ง นั่งตัวตรงดำรงสติ หรือยืนในอิริยาบทที่สบาย หรือนอนหงายในอิริยาบทที่สบาย
สูดลมหายใจเข้าทางจมูกให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ กระดกลิ้นแตะที่เพดานปากด้านบนไว้ กักลมหายใจไว้ นับ1-5 ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกให้ช้าๆและนานที่สุดจนหมดปอด
ทำจนกว่ารู้สึกว่ามีพลังงานความร้อนปรากฏที่ท้องน้อย

ค่อยๆระบายออกทางปาก

 

เซฟรูปข้างบนไว้ใช้เปิดจักระ
ลืมตามองรูปแบบสบายๆ
ให้นึกภาพตัวเองซ้อนในรูปนั้น
วาดมโนภาพถึงพระพุทธเจ้า หรือดวงอาทิตย์ก็ได้ ว่าแผ่รัศมีเป็นลำแสงพุ่งทะลุจักรที่7คือยอดกระหม่อมลงมา
นึกมโนภาพว่าแสงนี้ทะลุลำตัวจากปลายศีรษะทะลุฝีเย็บ
มองที่รูป มองจักระที่7 หลับตาให้ภาพเรากับรูปซ้อนกัน
นึกว่าจักระเอ๋ย จงเปิดออกเถิด
ไล่ตั้งแต่7-6-5-4-3-2 ยกเว้น1ไว้
หากจักระถูกเปิดจะรู้สึกว่ามีพลังงานวนที่กระหม่อม เหมือนบนหัวมีอะไรมาไต่ๆ
กระตุ้นจักรแบบนี้ทุกๆวันอย่างน้อยครั้งละ3นาที
เมื่อพลังงานมาให้นึำว่าขอสิ่งดีๆที่เป็นมงคลจงมา ขอสิ่งต่างๆที่ไม่เป็นมงคล โรคภัยไข้เจ็บจงเปลื่ยนแปลงไปเป็นสิ่งดีๆ
จบชั้นพื้นฐาน

ฝึกเสร็จให้กราบ9ครั้งอีกครั้ง แผ่เมตตาไม่มีสื้นสุดไม่มีประมาณ ทั้ง31ภพ ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ

 

เข้ามารับสิ่งดีๆเป็นคนแรกเลย ขอบคุณที่แนะนำ

 

เปิดจักระ แล้วจะเห็นพวกวิญญาณ สัมภเวสีมั้ยครับ

 

สูดลมหายใจเข้าทางจมูกให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ กระดกลิ้นแตะที่เพดานปากด้านบนไว้ กักลมหายใจไว้ นับ1-5 ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกให้ช้าๆและนานที่สุดจนหมดปอด
ทำจนกว่ารู้สึกว่ามีพลังงานความร้อนปรากฏที่ท้องน้อย

ไล่ตั้งแต่7-6-5-4-3-2

เหมือนในหนังจีนกำลังภายในเลยคับ
ตอนที่เจ้าสำนักกำลังถ่ายทดเคล็ดวิชาให้กับศิษเพื่อเป็นเจ้าสำนักรุ่นต่อไป หรือฝึกวิชาจากคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น
อย่างเช่น วัดเส้าหลิน ง้อไบ๊ ที่เป็นศาสนาพุทธ นิกายมหายาน หรือ เซน มีพระต๊กม้อเป็นปรามาจารย์ ว่ากันว่า ท่านได้นั่งสมาธิในถ้ำหลังวัดเส้าหลินนานถึง 9 ปี จนบรรลุธรรมและขณะที่ฝึกทำสมาธิท่านก็ได้คิดค้นวิธีดูแลร่างกายไม่ให้ออ่นแอ เจ็บป่วย จนได้ออกมาเป็นวิชาเปลียนเส้นเอ็น และวิชาถ่ายใขกระดูก ทั้งสองสำนักต่างก็เป็นสำนักที่บำเพ็ญธรรม เพื่อบรรลุโสดาบันและนิพพาน
และอีกสำนัก ก็คือ บู๊ตึ้ง มีท่านเตียซำเฮงหรือจางซานฟงเป็นปรามาจารย์ ได้คิดค้นวิชาไท้เก็กซึ่งมีพื้นฐานมาจากวิชาเปลียนเส้นเอ็นแล้วเอามาบวกกับคำสอนของเต๋าจนเกิดเป็นวิชาใหม่ที่เรียกว่า"ไท้เก็ก"จนถึงปัจจุบันนี้ บู้ตึ๊งเป็นสำนักที่ถือลัทธิเต๋า เรียกตัวเองว่านักพรต หรือเต้าหยิน ต่างก็บำเพ็ญพรตเพื่อนบรรลุเทพและเป็นเซียนชั้นสูง

 

มาร่วมอนุโมทนากับพี่ด้วยคนและขอให้บารมีที่ทำให้พี่หายเจ็บป่วยนะค่ะ
ด้วยความห่วงใย
ญาณิศา กระบี่ศรี(หลิน)

 

ขอบคุณมากครับในเมตตาจิตของน้อง
การเจ็บเท้าและสะโพกของผมเป็นโรคกรรมครับ
เพราะแพทย์สมัยใหม่หาสาเหตุไม่เจอ
วัดยูริคสูงก็จริงแต่ไม่ได้เป็นเก๊าท์
ไปX-RAY ก็ปกติ
ฝังเข็มก็แล้ว
เป็นวิบากกรรมที่เป็นนักรบมาทุกชาติ ยกเว้นชาตินี้
ที่ไปกวาดต้อนเชลยด้วยการร้อยเอ็นข้อเท้าแล้วลากไป
วันเสาร์ที่ผ่านมาไปที่งานไม่ได้ตั้งใจจะไปรับการรักษาแต่จะไปดู
อ.หม่าม๊าเมตตามาก ออกมาทำการรักษาให้
บอกว่ารู้มั้ยว่าอะไร
เราก็ตอบว่ารู้ครับ
อ.หม่าม๊าบอกเองเลยว่า ลากเขาไป ดูแล้วเศร้า
ให้คุกเข่าขอขมากรรม
มานะที่มีอยู่ไม่ได้คุกเข่าขอขมาตอนนั้น เพราะยังอวดดีอยู่
กลับมาบ้านมาทำเอง
ควบคู่ไปกับการกินยาและเดินพลัง
ตอนนี้หาย99เปอร์เซนต์แล้วครับ
ขอธรรมรักษาน้องหลินและครอบครัวทุกๆคนครับ

 

เข้าใจถูกแล้วครับ
ผมเป็นคนบ้าวิชาการต่อสู้มาก่อน
ฝึกลมปราณสมัยก่อนจะยึดจุดจักระที่2เป็นหลัก
แต่ลมปราณไม่สามารถทะลวงสู่ขม่อมได้
มาพบอาจารย์ที่มีเมตตาเปิดจักระและสอนแนวทางให้
เลยผสานวิชากำลังภายในกับจักระเข้าด้วยกันครับ

 

ถึงมีพลังแค่ไหนก็แพ้กรรมครับ
รักษาคนอื่นได้ แต่รักษาตัวเองทำได้ยาก เพราะรักษาคนอื่นเราให้โดยไม่หวังจึงมีพลังยิ่งใหญ่ รักษาตัวเองมันกิเลสเยอะครับ เพราะอยากหาย มันไม่เหมือนกับให้คนอื่น
ต้องกราบขอบคุณอ.หม่าม๊าอีกครั้งครับที่รักษาให้

 

มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ นำมาจากบทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญหรือมี "มงคลชีวิต" ซึ่งก็มี ๓๘ ประการได้แก่
<CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" cols=3><TBODY><TR><TD>๑. การไม่คบคนพาล</TD><TD>๑๔.ทำงานไม่ให้คั่งค้าง</TD><TD>๒๗.มีความอดทน</TD></TR><TR><TD>๒. การคบบัญฑิต</TD><TD>๑๕.การให้ทาน</TD><TD>๒๘.เป็นผู้ว่าง่าย</TD></TR><TR><TD>๓. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา</TD><TD>๑๖.การประพฤติธรรม</TD><TD>๒๙.การได้เห็นสมณะ</TD></TR><TR><TD>๔. การอยู่ในถิ่นอันสมควร</TD><TD>๑๗.การสงเคราะห์ญาติ</TD><TD>๓๐.การสนทนาธรรมตามกาล</TD></TR><TR><TD>๕. เคยทำบุญมาก่อน</TD><TD>๑๘.ทำงานที่ไม่มีโทษ</TD><TD>๓๑.การบำเพ็ญตบะ</TD></TR><TR><TD>๖. การตั้งตนชอบ</TD><TD>๑๙.ละเว้นจากบาป</TD><TD>๓๒.การประพฤติพรหมจรรย์</TD></TR><TR><TD>๗. ความเป็นพหูสูต</TD><TD>๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา</TD><TD>๓๓.การเห็นอริยสัจ</TD></TR><TR><TD>๘. การรอบรู้ในศิลปะ</TD><TD>๒๑.ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย</TD><TD>๓๔.การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน</TD></TR><TR><TD>๙. มีวินัยที่ดี</TD><TD>๒๒.มีความเคารพ</TD><TD>๓๕.มีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม</TD></TR><TR><TD>๑๐.กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต</TD><TD>๒๓.มีความถ่อมตน</TD><TD>๓๖.มีจิตไม่เศร้าโศก</TD></TR><TR><TD>๑๑.การบำรุงบิดามารดา</TD><TD>๒๔.มีความสันโดษ</TD><TD>๓๗.มีจิตปราศจากกิเลส</TD></TR><TR><TD>๑๒.การสงเคราะห์บุตร</TD><TD>๒๕.มีความกตัญญู</TD><TD>๓๘.มีจิตเกษม</TD></TR><TR><TD>๑๓.การสงเคราะห์ภรรยา</TD><TD>๒๖.การฟังธรรมตามกาล</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>​

เมื่อฝึกพลังจักรวาลวิถีพุทธนี้ เวลาที่จักรกระหม่อมหมุนด้วยลำแสงแห่งพุทธะหรือแสงแห่งจักรวาลผ่านกระหม่อมเข้ามา
ให้นึกถึงมงคล38ประการนี้ ว่าขอให้ลูกจงประสบแต่มงคลทั้ง38ประการนี้ สิ่งทั้งหลายที่เป็นอวมงคลจงอย่าได้กรายกล้ำลูกผู้เป็นบุตรแห่งพุทธะเลย
ขอโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย หากสมควรแก่เวลาที่จะหาย ก็ขอให้หายพลันทันที หากยังไม่ถึงเวลาที่จะหาย ขอให้อาการจงทุเลาเบาบางลง
ขอเราจงเป็นผู้ คิดดี พูดดี ทำดี ด้วยเทอญ

 

ท่านที่ได้ฝึกแล้วมีประสบการณ์ทางจิตอย่างไร หรือติดขัดสงสัยสิ่งใด ขอได้โปรดอย่าลังเลที่จะถามนะครับ
ผมจะตอบเต็มความรู้ความสามารถที่มี
ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณที่แนะนำครับ จะลองนำไปปฏิบัติดูครับ

 

การฝึกจักระขั้นกลางจะใช้เรื่องสีของจักระและแสง จัดเป็นกสินสีและอาโลกกสิน อาโลกกสินเป็นฐานของการมองด้วยจิต
อย่างไรก็ตามการเที่ยวอยากเห็นอะไรๆที่ธรรมชาติปิดไม่ให้เห็น เป็นการส่งจิตออกนอกไม่เป็นผลดีกับผู้แสวงหาสติ และปัญญาญาณครับ
เราฝึกจักระเพื่อเป็นบาทฐานของการฝึกสมาธิเพราะวิตกวิจารได้เร็วไม่ต้องกำหนดนิมิต เข้าอุปจารสมาธิได้คล่องใช้ประโยชน์เอากำลังแห่งสมาธินี้มาฝึกสติได้ดีพิจารณาธรรมโดยยกกฏไตรลักษณ์มาพิจารณาบวกกับกำลังของสมาธิทำให้ตัดอารมณ์ที่เข้ามากระทบใจได้เร็ว เป็นเครื่องมือต่อสู้กับโลกธรรมให้ใจไม่ฟองฟูหรือเหงาเศร้าเกินไป

 

เห็นด้วย ครับ
ด้วย เหตนี้ อย่างหนึ่ง ทำให้ คนที่ ฝึกพลัง แล้วไม่ได้ ไปช่วยรักษาผู้อื่น
นานไป
ก็ ลืม หมด ... เหมือนคนทำไม่เป็น

การรักษา ตัวเอง ยาก กว่า รักษา คนอื่น ... จริง
แต่ ก็ รักษา ได้ นะครับ ยืนยัน

อาจ ต้อง + กับ กรรมวิธี หรือ เทคนิค พิเศษ บ้าง เท่านั้น

 

คุณอัคนีวาต เคยลองไปรักษาที่นี้หรือยังคะ ที่บ้านคุณลุง ม.ล อัคนี นวรัตน์ อยู่ประชานิเวศน์ 1 หลังโรงพิมพ์หนังสือพิมพ์มติชน เห็นหลายคนที่ไปอาการดีขึ้น และหายเป็นปกติ

ท่านรับรักษาโรค โดยการใช้พลังหินบำบัดคะ ถ้าสนใจลองโทรไปสอบถามรายละเอียดดูสิคะที่ tel 025803559

ศิลามณี ไปเอาหินที่บ้านคุณลุงหมอบ่อยๆนะคะ ท่านขายไม่แพง ให้ในราคาญาติธรรม มากๆเลย ขอให้คุณหายไวๆนะคะ บายๆๆ

 

ขอบคุณในเมตตาจิตของคุณศิลามณีมากครับ
ผมใช้หินสะเก็ดดาวครับ ถูกจริตที่สุด
ขอให้คุณมีพลานามัยที่สมบูรณ๋และสุขภาพดีเช่นกันครับ

 

เวลารักษาตัวเองแต่ก่อนมันทุกข์อยากให้หาย ตอนนี้ มันเสียดายเวทนาที่จะเอามาพิจารณาให้เกิดความไม่อาลัยในโลกครับ เวลาเจ็บตัวแต่ใจมันนิ่งๆมันเป็นประสบการณ์ที่เอาไว้ฝึกสติรับกับความตายดีครับ
ความตายจะมาเยือนเมื่อไร ในรูปแบบไหนใครจะไปรู้
จะตายทรมานหรือเปล่าไม่ทราบได้
เวลามันเจ็บมากๆเอาเป็นแบบฝึกหัดใจได้ครับ
ถ้าเวทนาเกิดทางกายแต่ใจไม่ทุกข์ตามก็น่าจะพอรับมือกับความตายได้ครับ

 

ผมเป็นคนที่ศรัทธาพระอาจารย์ชา แห่งวัดหนองป่าพงมาก บั้นปลายเห็นท่านต้องเจ็บป่วยจนพูดไม่ได้ คอเบี้ยวอยู่อย่างนั้นแล้วเอามาปลงสังเวชครับ
แม้แต่พระอริยะที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบยังหนีกรรมไม่พ้น
เลยเตือนตัวเองให้ทำแบบฝึกหัดมากๆไว้ครับ เพราะจุดจบของเราอาจจะแย่กว่าท่านก็ได้

 

ไม่ทราบว่า คุณอัคนีวาต ถ้ามองผ่านภาพถ่าย จะมองเห็นมั้ยครับว่า คนนั้น จักระ ในตัวเปิดแล้วหรือ ยัง หรือ มีจุดไหนติดขัด ถ้าได้อยากให้ คุณอัคนีวาต ช่วยดูให้หน่อยอะครับ(deejai)(deejai)

 

ปกติเมื่อจักระถูกกระตุ้นแล้ว บุคคลนั้นจะสามารถกระตุ้นจักรตัวเองให้หมุนคล่องได้ทุกจักระ
ส่วนคำพูดที่มักพูดกันว่าจักระคนนี้เปิดไม่หมดนั้นแปลว่าบุคคลนั้นกำลังป่วยเป็นโรคอันเนื่องจากจักระนั้น
เช่นจักรที่3ไม่หมุนเมื่อใช้pendulum scan อาจเป็นเพราะบุคคลนั้นกำลังมีปัญหาเรื่องระบบการย่อยอันเกี่ยวเนื่องกับกระเพาะหรือลำไส้
การวิเคราะห์โรคจากรูปถ่ายทางทฤษฎีทำได้หากรูปถ่ายนั้นถ่ายตอนเผลอตัวตามธรรมชาติ
และรูปนั้นควรเป็นรูปถ่ายเต็มตัว
แต่ผลอาจมีความคลาดเคลื่อนได้
ขออนุญาตแนะนำว่าแทนที่จะนั่งกังวลว่าจักระใดของเราเปิดหรือยังหรือที่ใดติดขัด
ลองฝึกตามที่ผมได้แนะนำดูก่อน เพราะจักระของเราเอง เราเองย่อมรู้ดีว่าเราชอบกระตุ้นจักระใดเป็นพิเศษและมักละเลยจักระใด
ผู้ฝึกจึงควรฝึกกระตุ้นจักระทั้ง6ยกเว้นจักระที่1อย่างสม่ำเสมอ
ตัวผมเองเมื่อไม่ได้ทำอะไรก็หมุนจักรกระหม่อมไปเรื่อยๆทั้งวันเป็นการฝึกปราณเพื่อสุขภาพและใช้จักระเป็นจุดกำหนดสติความรู้เนื้อรู้ตัว
จนจักรหมุนแทบทุกอิริยาบทแล้ว ตราบใดที่มีสติกำกับอยู่จักระผมหมุนตลอดครับ แม้กระนั้นผมก็มีนิสสัยที่มักไม่หมุนจักรที่3 เพราะไม่ถูกกับจริต
จึงควรใส่ใจไม่ละเลยเพื่อให้ทุกจักรหมุนคล่องดีเหมือนกัน
ส่วนจักรที่1มักหมุนเองเวลาเกิดอารมณ์เพศทำให้สติกำกับการตัดสินใจได้ว่าจะสู้หรือจะหนีดีครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเจอเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นเพศตรงข้ามที่เคยผูกพันกันมาก่อนจักรที่1จะร้อนเหมือนไฟลุกเลยครับ ทำให้เราหนีทัน