อยากศึกษาธรรมปฏิบัติจากโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิต

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย อะหยังหว่า, 20 สิงหาคม 2010.

  1. อะหยังหว่า

    อะหยังหว่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +62
    ในเว็บนี้มีบ้างมั้ยครับ ผู้รู้ทางโพธิญาณจริงๆ ไม่เอาตามตำรานะครับ ข้อปฏิบัติๆจริงๆนะครับ
     
  2. kodyhusky

    kodyhusky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +829
    ธรรมทั้งหลายจะหาใครที่ไหน หาที่ใจเรานี่ อยู่แค่นี้เอง
     
  3. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    แนวทางโพธิญาณ ลองศึกษาดูนะ จากแนวทางการปฎิบัติของท่านคำสอนท่านและแนวทางการดำเนินชีวิตของแต่ละพระองค์ ที่ยังทรงธาตุขันธ์ให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน

    1 หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ

    2 หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อยนครปฐม

    3 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงองค์ปัจจุบันของเรา

    4 หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ

    ส่วนที่ละสังขารไปแล้วมีอยู่มากมาย

    หลวงปู่ทวด วัดพะโคะ

    หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก

    ครูบาศรีวิชัย

    หลวงพ่อกบ วัดถ้ำเขาสาริกา

    และอีกมากมาย

    การปราถนา โพธิ์ญาณ ต้องมุ่งมั่นตั้งใจอย่างสุดกำลัง เริ่มต้นจากปลูกโพธิจิตให้มีอยู่ในใจ

    โพธิจิตคือ จิตที่ปราถนาให้ผู้อื่นมีความสุขและพ้นจากทุกข์อยู่เสมอ ไม่เลือกว่าเค้าจะเป็นใคร มาจากไหน เชื้อชาติใด เผ่าพันธ์ใด ดีหรือชั่วแค่ไหน ไม่มีขอบเขต ในความเมตตาของตนเอง ไม่เลือกรูปใด นามใด ไม่มีเลือกที่รักมักที่ชังใดๆกับใครทั้งสิ้น ต้องเป็นผู้เสียสละอยู่เสมอ ตลอดอนันตกาล ไม่ว่าเลือดเนื้อ หรือชีวิตตน ตลอดนานแสนนาน
     
  4. อะหยังหว่า

    อะหยังหว่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +62

    ผมก็เพิ่งเข้ามาศึกษาในเว็บนี้ ถ้าปลูกโพธิจิตกันอย่างข้างต้นนี้ ทำไมในเว็บนี้มีผู้คนปรารถนาโพธิญาณกันมากมาย จึงไม่มีโพธิจิตกันดังกล่าวเลย

    โต้ตอบกันอย่างดุเดือดโคตรๆ หรือว่า จิตอย่าง พูดอย่าง สงสัยอ่ะ

    ทำอย่างไร จิตจะปรารถนาให้คนอื่นมีความสุขได้ตลอดเวลาครับ และไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นอัปปมัญญา

    การเสียสละเพื่อผู้อื่น สละอย่างไรครับ สงสัย??

    บางกระทู้ในนี้ ทำไมจึงว่ากล่าวกันอย่างแสนสาหัส เป็นเมตตาหรือเปล่าครับ
     
  5. วรรณนรี05

    วรรณนรี05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +903
    การศึกษา จากพระ ก็ดี บุคคลทั่วไปก็ดี ล้วนเป็น ธรรม ที่พระพุทธองค์ ทรงสั่งสอนไว้

    ดั่งคำกล่าวที่ว่าผู้ใดเห็น ธรรม ย่อมเห็นตถาคต รอบกายเรานั้นคือ ธรรมทั้งหมด จะไปสนใจกับจิตผู้อื่นอยู่ทำมัย เวบ พลังจิตเป็น สังคมที่ใหญ่ พอตัว จึงมีบุคคล หลากหลายทั้งดีจริงและเข้ามาเพื่อการอื่น อย่าเหมารวมทั้งหมดเลยค่ะ เพราะการที่เขาโต้กันในกระทู้ตรงนั้นก็คือ ตัวตนที่เขาคิดว่าเพียงใช้นามแฝงอยากด่าว่าใครก็แค่ปลายนิ้วสัมผัส ควรถือว่า เขาที่กระทำนั้นน่าสงสารเป็นที่สุด ถ้าเราเขาใจ ถึงคำว่าอัปปมัญญา ชึ่ง ขยาย ออกมา 1 เมตตา 2 กรุณา 3 มุทิตา 4 อุเบกขา สุดที่อุเบกขา เพียงเข้าใจอย่างลึกชึ้งและปฎิบัติได้ ด้วยตัวเองไม่ด้วยตำรา คำตอบอยู่ในจิตของเราเองอยู่แล้ว

    ขอบคุณที่ให้โอกาสแสดงความคิดเห็น
     
  6. อะหยังหว่า

    อะหยังหว่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +62

    เห็นธรรมจั่งได๋ แบบได๋ จึงจะเห็นพระพุทธเจ้าได้ ข่าน้อยฮู้น้อย บอกแหน่เด้อครับ จะได้เฮ็ดให่ถืก

    เข้าใจ คำว่า อัปปมัญญา ให้ลึกซึ้งแค่ไหน อย่างไรจึงจะถูก ตามพระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นอัปปมัญญา

    ถ้าคำตอบอยู่ในจิตทุกอย่างอยู่แล้ว ทำไมคนเราต้องอ่านพระไตรปิฎก ฟังคนอื่นสอนอยู่ละ แล้วจะหาคำตอบในจิตตนเองได้อย่างไร

    ขอความอนุเคราะห์หน่อยเด้อ ...แม่สาวน้อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2010
  7. yoopee_up

    yoopee_up เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +203
    เมื่อพระพุทธเจ้ายังไม่บรรลุ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ก็ยังไม่ทรงสอนปัญจวัคคีย์ทั้ง5 เมื่อพระพุทธเจ้าทรงบรรลุ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ คือ พระญาณเครื่องตรัสรู้โดยชอบอันยอด<WBR>เยี่ยม เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงสอนสอนปัญจวัคคีย์ทั้ง5

    ธรรมของพุทธบริษัท 4ก็มาจากพระพุทธเจ้า
    คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นไปเพื่อความดับทุกข์ ไม่มีกรรมเป็นกำเนิด ไม่มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ เมื่อใดที่ท่านได้รู้หลักธรรมของพระตถาคตเจ้าที่ตรัสไว้ดีแล้วเมื่อนั้นท่านจะหายสงสัยเอง เมื่อศึกษาอ่านแล้วต้องนำไปปฎิบัติด้วย ดั่งผู้รู้ก็รู้ได้ด้วยตนเอง
     
  8. วรรณนรี05

    วรรณนรี05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +903

    คุณเจ้าของกระทู้ ควรเข้าใจการแรกเปลี่ยนความรู้ ชึ่งกันและกัน และควรให้เกรียติ์ผู้อื่น เสมอตนเอง ดั่งเช่นคำว่าแม่สวยน้อย สมควรจะใช้กับเพื่อน รุ่นราวคราวเดียว กับคุณนะ ถ้าการเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแนะแนว ขัดอกขัดใจ คุณ ก็ขอขมามาณที่นี้ด้วยค่ะ ดิฉัน มีความหวังดี ต่อผู้อื่นที่เข้ามาอ่าน
    ว่าอย่าเข้าใจ แต่ตำรา ท่องได้ทุกคำที่สวยหรูแต่ จิตยังไม่เข้าไปเชื่อมโยงกับสิ่งเหล่านั้นเลย ดั่งเช่นที่คุณกระทำอยู่ การคุยเรื่องธรรม ไม่ใช่คุยเพื่อสนุกหรือ
    แค่อวดกัน เพราะทุกตัวอักษรที่พิมพ์ คือ ธรรมทาน เป็นสิ่งที่ส่งผลทั้งภพนี้และภพหน้า และ จะขอ อธิบาย ให้ท่านอื่นที่เข้ามาอ่าน เข้าใจ เมตตา มีแต่ความปราถนาดีต่อผู้อื่นเป็นที่ตั้ง มีความมุ่งหวังความสุขความเจริญ เสมอ เช่นตน หรือยิ่งกว่าในผู้ปฎิบัติเมตตาจึงมีลักษณะ คิดนำสุขให้เขาส่วนเดียว คือละการคิดร้ายและจองเวรผู้อื่น

    กรุณา ความสงสารคิดช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์ มีความรู้สึกหวั่นไหวไม่สบายใจ เมื่อพบผู้อื่นได้รับทุกข์และลำบากเป็นเหตุให้คิดหาทางช่วยเหลือทางใดทางหนึ่ง
    กรุณาจึงมีลักษณะขจัดทุกข์ ช่วยบำรุงสุข ไม่มีจิตคิดเบียดเบียนผู้อื่น

    มุทิตา มีความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี เป็นความรู้สึกที่ปราศจากความอิจฉาริษยา
    หรือคุณคามดีของผู้อื่นมุทิตามีลักษณะพลอยโมทนาต่อเขาอย่างเดียว

    อุเบกขา คือการวางเฉย มีความรู้สึกเป็นกลาง มีความยุติธรรมที่ปราศจากอคติ
    ไม่เสียใจเมื่อคนที่ตนรักพบความวิบัติ หรือไม่ดีใจเมื่อคนที่ตนไม่ชอบพบความพินาศ รวมไปถึงการวางกำลังใจเป็นกลาง ว่าสัตว์ทั้งปวงย่อมเป็นผู้รับผลกรรมที่พึงกระทำมา คุณสมบัติละความดีใจเสียใจ หรือความกระทบกระทั่งแห่งใจต่อผู้อื่น อุเบกขายังมีหน้าที่รักษา เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ให้พอเหมาะ
    ไม่ให้มีมากหรือน้อยไปใน ส่วนใดส่วนหนึ่งจนเกิดโทษ
    ดั่งที่กล่าวว่าคำตอบอยู่ที่จิต นี่งัย ถ้าเรามีความรู้สึกอย่างนี้ตลอดเวลาครบถ้วน
    ถือว่าเราลึกชึ้งแล้วกับคำว่าอัปปมัญญา
     
  9. วรกันต์

    วรกันต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +257
    ตอบ จขกท. ครับ ดีใจนะครับ ที่มีคนสนใจ เรื่องนี้

    เพราะอย่างที่รู้ ว่า เดี๋ยวนี้มีแต่กระทู้ ด่ากัน ผมก็เลย ไม่ค่อยยากมายุ่งในเว็บนี้

    พุทธภูมิ ก็มีหลายขั้นนะครับ บางท่านบารมีช่วงต้น มีทิฐิมานะ สูง ก็เป็นอย่างที่คุณเห็นนั่นแหละครับ

    ส่วนคำแนะนำ ก็คือ บำเพ็ญ บารมี 30 ทัศ/พุทธภูมิ ครับ ลองไป Search หาคำพวกนี้ดูน่าจะเจออยู่มากมาย ในความหมาย และการปฏิบัติ

    ลองไปค้นกระทู้เก่า ๆ มากๆ ของผม ผม ได้พยายามอธิบาย อย่างที่คุณต้องการ แบบไม่ใช่ตามตำรา แล้วครับ เพียงแต่ไม่ค่อยมีคนเข้าใจหรอกครับ (ถ้ามันเข้าใจง่ายอย่างนั้น ทุกคนก็คงบรรลุธรรมไปหมดแล้ว จริงมะ)

    อีกอย่างขึ้นอยู่กับ ประเภทของพระโพธิสัตว์ด้วย ปัญญา ศรัทธา วิริยะ จริต หรือ นิสัย ในการปฏิบัติ จะแตกต่างกัน ชัดเจนครับ

    ของคุณ ผม ว่า เป็นศรัทธาธิกะ นะ

    สงสัย อะไร ก็ถามมาละกัน ครับ คุณต้องไปหาข้อมูล มาก่อน จะได้รู้พื้นของคุณ ว่าเข้าใจระดับไหน ครับ ผมจะได้อธิบายถูก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2010
  10. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    ต้องถามท่านเจ้าของกระทู้ก่อนว่า โพธิญาณ หรือ พระโพธิ์สัตว์ ใน ความรุ้สึกของท่าน เป็นแบบไหน ท่านอยากเจอของจริง แต่ท่านทำไม่จริงแล้วจะเจอจริงได้ยังไง จ้ะ มัวแต่สงสัยอยุ่ไม่มีใครตอบให้หมดสงสัยได้หรอกจ้ะ เพราะถ้าสงสัยเฉยๆก็เสียเวลาเปล่า แต่ถ้าสงสัยแล้วพิศูจย์นี่ ขอสรรญเสริญความเพียรของท่านนะ
    ถ้าจริงใจ จึงจะเห็นของจริง ทำอะไรก็ทำให้มันจริงเถอะ จะได้เจอเองล่ะจ้ะ ไม่ต้องอยากก็เจอเพราะจริงเหมือนกันก็คงเจอของจริงเช่นเดียวกัน

    ขอทุกท่านโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้านิพพานด้วยเทอญ
     
  11. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    ทำไมต้องมาหาเฉพาะในเว็บนี้ แล้วไม่เอาตามตำราด้วย
    ก็เห็นมีเพี้ยนๆ ตั้งหลายกระทู้


    อยากศึกษาธรรมปฏิบัติจากโพธิสัตว์ที่ยังมีชีวิต

    ไปฟังของจริงดีกว่า นี่ของจริงอีกท่านนึง
    http://palungjit.org/threads/พระธรรมาจารย์-เซน-ติช-นัท-ฮันห์-เยือนเมืองไทยตุลาคมนี้3.253403/

    8
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2010
  12. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,671
    ท่านผู้มีปัญญา แต่ถ่อมตน ขอให้เข้าใจโลกโลกก็เข้าใจคุณ

    ศาสนาพุทธ ท่านไม่เลือกว่าใครเป็นอะไร นับถืออะไร
    ดังคำที่ว่า สัพเพสัตตา สัตว์ทังหลาย เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด เเก่ เจ็บ ตาย
    แต่ท่านให้ดูผลของการปฎิบัติ ทำเองรู้เอง ไม่ทำ ไม่รู้

    ถ้าหากท่านเข้าใจข้อความที่เน้น ท่านจะไม่สงสัยในพระพุทธศาสนาเลย

    อนุโมทนา
     
  13. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,642
    เห็นธรรมจั่งได๋ แบบได๋ จึงจะเห็นพระพุทธเจ้าได้ ข่าน้อยฮู้น้อย บอกแหน่เด้อครับ จะได้เฮ็ดให่ถืก

    มองที่ตัวคุณเองสิครับ ก็จะเข้าใจธรรมของพระพุทธเจ้า

    เข้าใจ คำว่า อัปปมัญญา ให้ลึกซึ้งแค่ไหน อย่างไรจึงจะถูก ตามพระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นอัปปมัญญา

    อัปปมัญญา คืออะไร

    ถ้าคำตอบอยู่ในจิตทุกอย่างอยู่แล้ว ทำไมคนเราต้องอ่านพระไตรปิฎก ฟังคนอื่นสอนอยู่ละ แล้วจะหาคำตอบในจิตตนเองได้อย่างไร

    อ่านพระไตรปิฏก อ่านเพื่ออะไร ฟังคนอื่นสอน ฟังเพื่ออะไร แล้วจะให้ผลอย่างไรกับจิตของตนเมื่ออ่านพระไตรปิฏก และฟังคนอื่นสอน

    ก.เป็นคนฉลาดขึ้น ข.เป็นคนโง่ขึ้น
     
  14. อะหยังหว่า

    อะหยังหว่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +62
    อืม... นั่นก็เป็นความเห็นส่วนตัว คุณเต้าเจี้ยวฟังธรรมะจากพระ จากครู ที่คิดว่าเป็นของจริง จริงโดยคำพูด หรือจริงเพราะคิดว่า (ตามความชอบส่วนตัว)จริง

    อะไรคือความเพี้ยน เพี้ยนเพราะไม่ตรงกับความเห็นของตนเอง หรือเพี้ยนเพราะไม่ตรงกับหลักสัจธรรมที่คุณเต้าเจี้ยวรู้แจ้งจริงๆ
     
  15. อะหยังหว่า

    อะหยังหว่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +62
    คุณอาทมาฏตอนนี้เป็นคนโง่หรือฉลาดขึ้น เมื่อได้อ่านพระไตรปิฎกแล้ว หรือว่ารู้แจ้งแล้ว หรือว่ายังมืดบอดอยู่


     
  16. อะหยังหว่า

    อะหยังหว่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +62
    จริง ไม่จริง เอาอะไรเป็นบรรทัดฐาน

    Armarmy;3689448]ต้องถามท่านเจ้าของกระทู้ก่อนว่า โพธิญาณ หรือ พระโพธิ์สัตว์ ใน ความรุ้สึกของท่าน เป็นแบบไหน

    ผมไม่มีความรู้ใดๆเกี่ยวกับโพธิญาณเลยครับ จึงถามผู้ที่รู้จริง เพราะเข้ามาดูในเว็บนี้ เห็นแต่คนรู้จักทางโพธิญาณจากตำราบ้าง จากการปฏิบัติเองบ้าง ก็เลยตั้งคำถาทนะครับ

    คุณArmarmy รู้มั้ยครับว่าโพธิญาณเป็นอย่างไร

    ท่านอยากเจอของจริง แต่ท่านทำไม่จริงแล้วจะเจอจริงได้ยังไง จ้ะ

    ทำอย่างไรจึงจะเรียกว่าทำจริง ทำอย่างไรเรียกว่าทำไม่จริง

    มัวแต่สงสัยอยุ่ไม่มีใครตอบให้หมดสงสัยได้หรอกจ้ะ เพราะถ้าสงสัยเฉยๆ ก็เสียเวลาเปล่า แต่ถ้าสงสัยแล้วพิศูจย์นี่ ขอสรรญเสริญความเพียรของท่านนะ


    ถ้าจริงใจ

    แล้วคุณArmarmy จริงใจและรู้สึกดีที่ได้ตอบกระทู้มั้ยครับ หรือว่าตอบด้วยอัตตะมานะ

    จึงจะเห็นของจริง ทำอะไรก็ทำให้มันจริงเถอะ จะได้เจอเองล่ะจ้ะ ไม่ต้องอยากก็เจอเพราะจริงเหมือนกันก็คงเจอของจริงเช่นเดียวกัน

    ขอทุกท่านโปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตราบเท่าเข้านิพพานด้วยเทอญ
     
  17. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    1.ผู้ปราถนามีตั้งมากมาย แต่ผู้ที่ทำได้จนถึงที่สุดนั้นแทบไม่มีเลย การตอบโต้กันนั้น ผมก็ไม่ทราบว่าจิตเค้าเป็นอย่างไรเพราะผมดูแค่จิตตัวเอง และผมก็ไม่ชอบไปตอบโต้กับใคร เพราะผมเองก็ไม่มีดีอะไรไปอวดใครมีแต่ความชั่วช้าอยู่เต็มหัวใจ

    2 ตื่นขึ้นมาก็แผ่เมตตา การแผ่เมตตาต้องแผ่ออกจากหัวใจที่อยากให้ทุกๆคนทุกชีวิต ทุกๆดวงจิตมีความสุขจริงๆอย่างสุดหัวใจโดยไม่หวังอะไรตอบแทน แผ่เมตตาบ่อยๆทำได้ทั้งวันตั้งแต่ตื่นจนหลับ ทำทานบริจาคทานใดๆก็ไม่หวังอะไรตอบแทน แม้ว่าใครจะด่า ว่าเรา ทำร้ายเรามากแค่ไหนก็ตาม เราก็พร้อมที่จะให้เค้าอยู่เสมอ เพราะภายใต้ร่างกายและจิตใจที่มีกิเลสหนามากแค่ไหนก็ตาม ก็ยังมีดวงจิตที่สว่างสดใสไร้ซึ่งกิเลสอยู่ และวันนึงเค้าก็ต้องถึงซึ่งนิพพานอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม และตัวเราเองนั้นก็ยังเคยเลวเคยชั่วช้ามาก็มากมาย ก็ยังมีวันที่จะกลับตัวกลับใจได้ในชาตินึง ในกาลเวลาที่แสนยาวนานนี้ไม่มีใครที่ไม่เคยทำไม่ดีมาก่อน หรือหลงผิดมาก่อน ทุกคนล้วนต้องเคยทำมาแล้ว เคยหลงผิดมาแล้ว เคยเห็นแก่ตัวมาแล้วทั้งหมดทั้งสิ้น แม้แต่ตัวเราเอง เราจึงไม่มีสิทธิ์ไปว่าใครเพราะต่างคนก็ต่างกรรมต่างวาระ แต่สุดท้ายก็จะถึงที่สุดบริสุทธิ์หลุดพ้นด้วยกันทั้งนั้น เราจึงควรปฏิบัติกับทุกชีวิตอย่างดีที่สุด อย่างที่ปฏิบัติกับผู้บริสุทธิ์หลุดพ้น

    3 สละทุกสิ่งเท่าที่เราจะทำได้ เช่นสละแรงกายช่วยเหลือผู้อื่น เห็นผู้ตกทุกข์ได้ยากก็ช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ บริจาคทรัพย์เพื่อประโยชน์ของสาธารณะอยู่เสมอๆ ไม่เห็นแก่ตัว เป็นห่วงผู้อื่นก่อนตนเองอยู่เสมอ ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้ผู้อื่นไม่มีความทุกข์ มีความสุข แม้เล็กๆน้อยๆก้ไม่ควรมองข้าม เป็นผู้กตัญญูรู้คุณ เมื่อมีผู้ช่วยเหลือเราแม้เพียงเล็กน้อยเราก็ต้องคิดอยู่เสมอๆในใจว่าเราจะตอบแทนเค้าอย่างไม่รู้จบรู้สิ้น แม้เพียงน้ำแก้วเดียวหรือเงินเพียงบาทเดียว เราจะถือว่าเค้าเป็นผู้มีพระคุณของเราไปตลอดกาล

    4 การกล่าวว่ากันอย่างที่ว่านั้น ผมก็ไม่ทราบว่าเค้าเป็นอย่างไร มีเมตตาหรือไม่ และผมเองก้ไม่ชอบไปตอบโต้กับใคร เพราะผมเองก็ไม่มีดีไปอวดใคร ยังรู้น้อย ปัญญาน้อย ยังต้องศึกษาเรียนรู้ไปอีกนานแสนนาน.......
     
  18. อะหยังหว่า

    อะหยังหว่า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +62
    อืมมมมมมมมม

    อืมมมมมมมมม

    ผมได้เข้ามาเพื่อธรรม แต่เข้ามาเพื่อเรียนรู้ครับ อัตตามานะเธอช่างสูงส่งจริงๆ ขอโทษครับต่อการเบียดเบียนทางวาจาที่ใช้คำว่า แม่สวาน้อย ถ้าคำนี้ทำให้ทุกข์ใจ ก็ขออภัยด้วยครับ
     
  19. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,801
    ทำอย่างไรถึงจะเห็นธรรม

    1 ต้องเป็นผู้มีศีล ศีลที่เข้าไปถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจ คือผู้มีสติสำรวมระมัดระวังอยู่เสมอมิให้ผิดศีล5แม้แต่ยามหลับยามฝันก็ยังไม่ทำผิดศีลแม้ในฝันก็ยังไม่ผิดศีลจึงจะเรียกว่าพอใช้ได้หรือยอมตายไม่ยอมผิดศีล5 จึงจะเรียกว่าใช้ได้ เช่นมีคนเอาปืนจ่อหัวให้เหยียบมด1ตัวให้ตาย ถ้าไม่ตายโดนยิง จะต้องเลือกให้ตัวเองตายแทนมด จะไม่ยอมผิดศีลจึงจะเรียกว่าใช้ได้ เป็นศีลที่พระอริยเจ้าทั้งหลายพึงพอใจ
    2 เมื่อเราเป็นผู้มีศีลแล้ว จิตใจของเราก็จะสงบเมื่อทำสมาธิแล้วจิตก็จะรวมง่ายเหมาะแก่การภาวนา เมื่อจิตรวมง่ายสมาธิทั้งหลายกี่ขั้นๆเราก็ฝึกได้ไม่ยาก
    3 เมื่อเรามีสมาธิที่มั่นคง แล้วเราก็พิจารณาสรรพสิ่งทั้งปวงให้เห็นตามความเป็นจริง พิจารณาโลก ข้อธรรมทั้งหลายอยู่เสมอๆตลอดทั้งวันที่เราใช้ชีวิต หรือพบเจอปัญหา ตามเหตุและปัจจัยจนถึงที่สุดของเหตุของปัญหา และก็ทำสมาธิสลับกับการพิจารณาอยู่เสมอ คือทำจิตให้มีสมาธิอยู่บ้างก่อนพิจารณาหรือมีสมาธิอยู่บ้างขณะพิจารณา จะทำให้ความรู้ที่เราพิจารณานั้นไม่อยู่แค่สมองหรือความจำแต่จะทำให้สิ่งที่เรารู้และเข้าใจนั้น ลงไปถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจได้ คือรู้จริงมิใช่รู้จำทำเช่นนี้อยู่เสมอๆ ก็จะพึงเห็นธรรม

    ผิดหรือถูกอย่างไรก็ขออภัยให้ผู้น้อยด้วย เป็นเพียงความคิดเห็นของข้าพเจ้าอาจจะไม่ถูกต้องหรือไม่สมควรอย่างไรก็อภัยให้แก่ผู้น้อยที่ด้อยปัญญาด้วยครับ
     
  20. tanatteab

    tanatteab เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +236
    วิษณุกรรมเทพบุตร

    พูดมากเสียมาก พูดน้อยเสียน้อย นิ่งเสียโพธิสัตว์ หยุดเป็นตัวสำเร็จ หยุดจากความชั่วทั้งปวง เอวัง ก็มีด้วยประการะเช่นนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...