ทำไม?ชอบมีคนบอกให้ทำตามใจตัวเองดีที่สุด

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย moohamz, 18 สิงหาคม 2010.

  1. moohamz

    moohamz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอคำแนะนำหน่อยได้ไหมค่ะ ว่าในการดำเนินชีวิตไปแต่ละวันก็มีกิเลศอยากได้ อยากมี และอยากเป็นอยู่ค่ะ แต่เวลาที่อยากได้สิ่งของหรืออยากได้อะไรมากๆ แล้วเรารู้ตัวว่ามันไม่จำเป็นหรือไม่สิ่งที่ยังไม่ถึงเวลา หรือยังไม่เหมาะสม ถ้าได้มาก็คงสุขใจช่วงหนึ่งเพราะความอยากได้ของเรา แต่ในใจลึกๆแล้วก็รู้สึกว่ามันยังไม่จำเปขนาดนั้น หนูก็เลยพยายามอดทนยังไม่เอามันมาเป็นของของเรา แต่ก็ทรมานเพราะอยากได้มาก เวลาที่ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆหรือพี่ๆส่วนใหญ่ เค้าก็จะให้คำแนะนำว่า เกิดมาทั้งทีก็ขอให้ได้ทำตามใจตัวเอง ทำแล้วมีความสุขก็ทำไป แล้วสรุปว่าเราต้องทำตามความอยากนั้นเหรอค่ะเพื่อให้สุขใจ หรือเราควรจะอดทนไว้เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นหรือเป็นสิ่งที่เหมาะสม
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,455
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    รบกวนคุณ moohamz มาโหลดหนังสือ " ชีวิตเป็นอย่างนี้ " ใต้ comment ผมไปอ่านได้เลยครับ อ่านเเล้วจะคิดอะไรได้อีกหลายอย่างเเน่นอนครับ เจริญในธรรมครับ
     
  3. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    เวลาที่อยากได้นี่มันจะทุกข์
    เวลาได้ ที่อยากได้ หายไป ไม่ทุกข์ ก็สุข
    ตามใจอยากมากก็ทุกข์มากก่อนถึงจะสุข
    สุขเลยก็ได้......ไม่ต้องรออยาก
     
  4. tarnaka

    tarnaka สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +13
    มาแอบโหลดหนังสือของคุณ วิญญาณนิพพาน ค่ะ
    ขอบคุณนะคะ
     
  5. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เจ้าของกระทู้มีจิตใจใฝ่ดีนะครับ จริงๆแล้วปัจจุบันคนติดวัตถุนิยมมากเกินไป คนส่วนใหญ่ตีค่าความสุขเพียงเปลือกนอก แต่ไม่ได้รู้ซึ้งเลยว่าความสุขที่แท้จริง คือ ความสงบ

    และก็ไม่แปลกที่คนที่คุณพบ จะนำแนวคิดว่าทำอะไรก็ทำไปเถอะ ขอให้มีความสุข มายัดเยียดใส่ในหัวของคุณ เพราะตัวเค้าเหล่านั้นก็ดำเนินชีวิตอย่างนั้นอยู่แล้ว

    ถ้าเราถามใจตัวเราเองอย่างเป็นธรรม เรามาดูกันว่า การที่เราทำตามใจตัวเองนั้น จริงๆแล้วก็คือ การพ่ายแพ้ต่อตัวเราเอง การไม่มีวินัย ความโลภ ความเห็นแก่ตัว และอะไรสารพัด สิ่งเหล่านี้รวมเรียกกันว่า กิเลศ ซึ่งเป็นเครื่องหมายเรากำลังแพ้ใจตัวเอง

    การปฏิบัติธรรมก็ดี หรือแม้กระทั่งการสร้างความสำเร็จในทางโลก เช่น การลดน้ำหนัก ก็ต้องอาศัยการฝืนใจ การบังคับใจ

    ขอให้เปรียบเทียบเหมือนกับปลาเป็น ปลาเป็นต้องว่ายทวนน้ำ ส่วนปลาตายก็ไหลไปตามน้ำ น้ำจะไหลลงหน้าผา ลงคลอง ลงทะเล อะไร ซากปลาตายก็ไหลไปตามนั้น ไม่ได้เป็นต้วของตัวเอง

    แล้วคุณละ อยากจะเป็น...ปลาเป็น หรือปลาตาย ?
     
  6. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    มาดูปริยัติกันก่อน
    ----------------

    การใช้ชีวิตเป็น ฆารวาส นี่อย่างไรเสีย เราก็หนี เรื่อง การมี การได้ ไปไม่ได้

    แม้เราไม่ใช่ผู้แสวงหาให้ได้มา ก็จะมี คนรอบข้างคอยแนะ คอยเสนอ คอย
    แสดงการมี การได้มา ให้เราเห็น

    ไม่ว่า เราจะแสวงหา แล้วได้มาเอง หรือ คนอื่นแสวงหา แล้วเขาได้ของเขา

    มันก็เกิด ความยินดี ยินร้าย กับการ ได้มาทั้งสองกรณีนั้น ทั้งคู่ หนีไปไม่ได้

    อันหนึ่ง เรียกว่า ธรรมภายใน อีกอันหนึ่ง เรียกธรรมภายนอก ทั้งสองทาง
    ต่างเป็นช่องทางของ ตัณหา อยากได้ อยากมี อยากเป็น ให้เกิดขึ้นที่จิตเรา
    ได้ทั้งหมด

    [ ศึกษา ตัณหา108 เพิ่มเติม ]

    * * * * * *

    ทีนี้ มาดูปฏิบัติ
    -------------

    ตอนปฏิบัติ หรือ ตอนที่เราพิจารณา กับ เหตุเฉพาะหน้า( เฉพาะหน้า ก็คือคำว่า ปฏิบัติ
    นั่นแหละ) เราแยกได้นี่ว่า มันเกิด "อยาก" ขึ้นมาก่อน แล้วก็ตามมาด้วย "ความคิด"
    ซึ่งมักจะเป็น เหตุเป็นผล

    เวลาปฏิบัติ ให้แยก บริหารกับ สองสิ่งนั้นที่ปรากฏ

    * เมื่อความอยากเกิดขึ้น เราก็ระลึกรู้ หากระลึกได้ เห็นความอยากแล้ว ก็ต้อง
    แลให้แน่ใจว่า ไม่ได้แล่นไปตามความอยากนั้นจนเกิดการหวั่นไหวของกายของ
    ใจ (ภาษาชาวบ้านเรียกเนื้อตัวกายใจเต้น) หากเราเห็นอยาก ก่อนกายใจ เต้น
    อันนี้แปลว่าเห็นได้ตามจริง แต่ถ้า กายใจเต้นไปแล้ว ตาแพรวพราวแล้ว ก็ค่อย
    ฝึกดูกันใหม่ เอาให้ทันอาการเห็นจิต "อยาก" ตามจริงก่อน ตรงนี้จะเป็น
    การบริหารความอยาก

    ทีนี้ อยาก เกิดขึ้นแล้ว เราไม่จำเป็นต้องห้าม บังคับ ตัดรอน ก็เรียกว่า มาดู
    ความเหมาะสม มาพิจารณาประโยชน์ คุณและโทษ กาลเทศะ ซึ่งตรงนี้
    จะเกิดเป็น ความคิดเป็นสาย พัลวัน สับสนบ้าง ไม่สับสนบ้าง ไหลไปในห้วง
    ความคิดเรา ก็ให้ดู สายความคิดเหล่านั้นว่ามันเกิดในจิตเรา

    แล้ว เราก็ค่อยเลือกหยิบเฉพาะ ความคิด ที่ใช้ได้ ที่เหมาะ ที่ไม่ก่อโทษ

    หยิบความคิดนั้นมาแล้ว ก็ค่อย ตัดสิน อีกทีว่า จะทำตามเหตุผล หรือว่า
    จะโยนความคิดนั้นไปเลย ตรงนี้จะเป็นการ บริหารความคิด

    เอาเท่านี้ก่อน คนบางคนในโลกมีวาสนาดี มีโอกาสได้สัมผัส ได้มา
    ซึ่งทรัพย์เพราะเราทำบุญไว้ดี เราก็ไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ แต่ว่าได้มา
    แล้วก็ต้องรู้จักสละ หรือ เล็งเห็นว่าเป็นการกินบุญเก่า ก็ควรที่จะหาทาง
    ทำเพิ่ม อย่าได้หลงไปกับการมี การเป็น ว่ามันจะอยู่กับเราตลอด

    ถ้า บริหารตัวอยาก กับ บริการความคิด ได้บ้างแล้ว ก็ลองสดับธรรมะ
    เพิ่มเติมอีกเนาะ ( มีปฏิเวธแล้วก็ควรนำมาต่อยอดเพิ่มเติม )

    * * * * *

    หากจะถามว่า เอ เหมือนให้ตามใจตัวเองเลย ก็ต้องว่า ไม่เหมือน
    เพราะ คนอื่นเขาไหลเลยทันที แต่เรา พิจารณา บริหารจัดการก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2010
  7. kjkjkj

    kjkjkj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +139
    ตัณหา คือ ความทะยานอยาก ความดิ้นรน ความปรารถนา ความแส่หา

    ตัณหา แบ่งออกได้ 3 ประเภท

    กามตัณหา ความทะยานอยากในกาม อยากได้ อารมณ์อันน่ารักใคร่

    ภวตัรหา ความทะยานอยากในภพ อยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่

    วิภวตัณหา ความไม่อยากเป็นนั่น ไม่อยากเป็นนี่ ภาวะไม่ชอบใจ


    การจะดับ ตัณหา ความทะยานอยาก เหล่านี้ ต้องละความยินดี ยินร้าย ความชอบใจ และไม่ชอบใจ เมื่อความพอใจ ชอบใจ ไม่พอใจ ไม่ชอบใจเหล่านี้ สะสม เสวยอารมณ์ รู้สึกแบบนี้บ่อยๆเข้า ก็จะกลายเป็นตัณหา3นี้แล

    สรุป ละความยินดี ยินร้ายได้ เห็นภัยในภพ ชาติต่างๆ ก็จะละความอยาก ได้
     
  8. moohamz

    moohamz สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +5
    หนังสือที่คุณ วิญญาณนิพพาน แนะนำ อ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรดีๆอีกหลายอย่างเลยค่ะ

    และก็ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกๆท่านนะคะ

    จะนำไปปฏิบัติค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2010
  9. B5234T5

    B5234T5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2005
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +210
    อยากทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าให้ผิดในทางธรรม

    อยากทำสิ่งดีๆ ก็เป็น เรื่องดี

    การอยากที่จะทำตามใจตัวเอง(ในที่นี้คือ ทำตามเสียงเรียกร้องของกิเลส) ก็เหมือนความกระหาย อาจจะทรมานสักหน่อย แต่คนส่วนมากยังคิดว่าการทำตามใจแล้วมีความสุขก็พอ แค่นั้นยังน้อยเกินไป เพราะยังไม่เล็งเห็นสิ่งที่แอบแฝงอยู่

    สุขจากวัตถุมันก็แค่แปบเดียว บางครั้งมีไหมที่ซื้ออะไรมาสักอย่าง แล้วเพิ่งคิดได้ว่า ไม่น่าซื้อมาเลย, น้องทำดีแล้วครับที่หักห้ามความอยากได้

    พยายามชนะตัวเองให้ได้ครับ ขอให้เจริญในธรรม
     
  10. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ถ้าทุกคนเอาแต่ทำอะไรตามใจตนเอง โลกนี้คงหาความสันติสุขไม่ได้ เพราะคนถูกบงการด้วยกิเลส ตัณหา การตามใจตนเองก็ไม่ต่างกับการตามใจกิเลส ตามใจตัณหา แล้วของแบบนี้ก็มีแต่ทำให้ใจเคยชินกับการทำความเลว ชินกับความประมาทในการใช้ชีวิต ชินกับการเป็นผู้เห็นแก่ตัว มัวเมาในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ยอมทำอะไรก็ได้ที่กิเลส ตัณหา มันบงการ แม้จะผิดศีลผิดธรรม

    ดังนั้น พระพุทธศาสนาท่านจึงสอนให้ฝึกใจตนเอง ให้ฝืนใจคลายความชินในอารมณ์ชั่ว อดทนใจเพียรสร้างความดี เพื่อความสุขในปัจจุบันและสัมปรายภพ
     
  11. Surachai Mankong

    Surachai Mankong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +329
    ถ้าเป็นผมอยากจะได้อะไรก็ต้องดูดีๆ เสียก่อนว่ามันจำเป็นหรอป่าวแล้วค่อยเก็บตังซื้อ ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่จำเป็นต้องไปคิดถึงมัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...