ตามรอย "พระมหาชนก"

<!-- end node-forum.tpl.php -->ปฏิกิริยาพระอาทิตย์จะสูงขึ้น

• 
• Administration

ปฏิกริยาพระอาทิตย์นั้นจะสูงขี้นเรื่อยๆ ตามวัฏจักรประมาณทุกๆ 11 ปีซี่งนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าจะสูงสุดในปี 2013 ส่วนความรุนแรงของปฏิกริยานั้นยังไม่มีใครที่ในวิทยาศาสตร์ที่ใช่ความรู้ ทั่วไปคาดการณ์ได้อย่างเที่ยงตรงในเวลา เราทำได้เพียงการคาดการณ์ความรุนแรงโดยดูจากการเตรียมการขององค์การต่างๆ ทั่วโลก และการแจ้งเตือนกับประชาชน เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนการแจ้งเตือนคือการปล่อยข่าวออกมา ที่ละเล็กน้อยจนว่าประชาชนจะเริ่มปะปิดปะต่อเรื่องราวได้


เรื่องความเสียหายที่พี้นโลกนั้นประเมินได้ยาก ตามหลักวิทยาศาสตร์ทั่วไปคงจะส่งผลต่อระบบไฟฟ้า เพราะทำให้ความต่างศักย์ที่พี้นผิวโลกกระเพื่อมและจะทำให้เกิดความเสียหาย ที่สายส่งและระบบไฟฟ้า ส่วนใหญ่ที่จะส่งผลกับประเทศบริเวณขั้วโลก และ อาจะลามลงมาในประเทศด้านล่างๆ ซี่งความรุนแรงคาดว่าน้อยลงตามระยะทางจากขั้วโลก


แต่ในความเป็นจริงนั้นปฏิกริยาที่พระอาทิตย์ส่งผลกระทบต่อสภาพดินฟ้า อากาศบนโลกด้วย ซี่งเกี่ยวข้องดับแผ่นดินไหว ลมพายุ และ ภูเขาไฟระเบิด ซ๊่งเราเวปเราคาดการณ์ว่าจะสูงขี้นเรื่อยตามปฏิกริยาพระอาทิตย์เช่นเดียว มีเพียงทางเดียวที่เราจะรู้แน่ชัดก็คือการติดตามสถานการณ์ตั้งแต่วันนี้ว่า เป็นไปตามแนวโน้มนี้หรือไม่





พระมหาชนก คาดการณ์ 9 พฤษภาคม 2556 (9 May 2013)
(อันเดียวกันหรือเปล่า) ?

 

เมื่อวานก่อนเขียนไปถาม USGS สำนักแผ่นดินไหวว่ามันคืออะไร
เค้าตอบว่ามันเป็นสมมุติฐานการสร้างเส้นแบ่งเขตเปลือกโลก
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันผ่ากลางประเทศแบบนี้ ต้องลองให้ผู้เชี่ยวชาญมาตอบ


ขอเสียงผู้เชี่ยวชาญหน่อยจ้า

 

ไม่มีผิด ไม่มีถูกหรอก
เล่นกันหนุกๆ
เพราะว่าบางทีตรงที่เรามองเห็นคนอื่นมองไม่เห็น
ปริศนา มันตีออกมาได้หมดแหล่ะจ้า

เล่นต่อๆๆๆ กำลังหนุก

ไม่แน่ตรงนั้นอาจบอกอะไรสักอย่างนะ

 

เล่นเลย มีคนตามอ่านอยู่
เดี๋ยวขอเวลาไปดูรูปก่อน เดี๋ยวเอามาเล่นใหม่

ตอบไม่มีผิด ไม่มีถุกหรอก

ถ้าผิด เดี๋ยวคนที่รู้ว่าถูก ก็มาตอบเอง อาจึ๋ยยยยย...........[Embarrass

 

เมืองอวิชชา

หน้าซ้ายต้นมะม่วงไม่มีผล เลยไม่ถูกทำลาย

 

ได้ๆ จัดเรื่องต้นมะม่วงให้ เอาใจผู้ชม อิอิ
ว่าแต่ว่าช่วยกันไขปริศนาก็ได้ เพราะว่าตัวเองก็ไขไปมั่วๆ เหมือนกัน แป่ว:boo:

 

มาๆ มาช่วยกันแปล

 

ต้นมะม่วง และ ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย

พระมหาสัตว์ประทับบนคอช้าง เสด็จออกจากพระนครด้วยราชบริพารเป็นอันมาก ถึงประตูพระราชอุทยาน ที่ใกล้ประตูพระราชอุทยานนั้่น มีต้นมะม่วงสองต้น มีใบเขียวชอุ่ม ต้นหนึ่งไม่มีผล ต้นหนึ่งมีผล ผลนั้นมีรสหวานเหลือเกิน

ใครๆ ไม่อาจเก็บผลจากต้นนั้น เพราะผลซึ่งมีรสเลิศอันพระราชายังมิได้เสวย พระมหาสัตว์ประทับบนคอช้างทรงเก็บเอาผลหนึ่งเสวย ผลมะม่วงนั้นพอตั้งอยู่ปลายพระชิวหาของพระมหาสัตว์ ปรากฎดุจโอชารสทิพย์ พระมหาสัตว์ทรงคิดว่า: "เราจักกินให้มากเวลากลับ" แล้วเสด็จเข้าสู่พระราชอุทยาน

คนอื่นๆ มีอุปราชเป็นต้น จนถึงคนรักษาช้าง รักษาม้า รู้ว่าพระราชาเสยผลมีรส เลิศแล้วก็เก็บผลเอามากินกัน ฝ่ายคนเหล่าอื่นที่ยังไม่ได้ผลนั้น ก็ทำลายกิ่งด้วยท่อนไม้ ทำเสียไม่มีใบ ต้นก็หักโค่นลง มะม่วงอีกต้นหนึ่งตั้งอยู่งดงาม ดุจภูเขามีพรรณดังแก้วมณี

พระราชาเสด็จออกจากพระราชอุทยาน ทอดพระเนตรเห็นดังน้น จึงตรัสถามเหล่าอมาตย์ว่า: "นี่อะไรกัน"

เหล่าอมาตย์กราบทูลว่า: "มหาชนทราบว่าพระองค์เสวยผลรสเลิศแล้ว ต่างก็แย่งกันกินผลมะม่วงนั้น"

พระราชาตรัสถามว่า : "ใบและวรรณะของต้นนี้สิ้นไปแล้ว ใบและวรรณะของตันนอกนี้ยังไม่สิ้นไป เพราะเหตุไร."

อมาตย์ทั้งหลายกราบทูลว่า: "ใบและวรรณะของอีกต้นหนึ่งไม่สิ้นไป เพราะไม่มีผล."

พระราชาสดับดังนั้น ได้ความสังเวช

ทรงดำริว่า: "ต้นนี้มีวรรณะสดเชียวตั้งแต่อยู่แล้ว เพราะไม่มีผล แต่ต้นนี้ถูกหักโค่นลงเพราะมีผล. แม้ราชสมบัตินี้ก็เช่นกับต้นไม้มีผล บรรพชาเช่นกับต้นไม้หาผลมิได้.

ภัยย่อมมีแก่ผู้มีความกังวล
ย่อมไม่มีแต่ผู้ไม่มีความกังวล

ก็เราจักไม่เป็นเหมือนต้นไม้มีผล จักเป็นเหมือนต้นไม้หาผลมิได้."


พระราชาเสด็จสู่พระนคร เสด็จขึ้นปราสาท ประทับที่พระทวารปราสาท ทรงนมสิการ ถึงวาจาของนางมณีเมขลา ในการที่นางอุ้มพระมหาสัตว์ขึ้นจากมหาสมุทร พระราชาทรางจดจำคำพูดของเทวดาไม่ได้ทุกถ้อยคำ เพราะพระสรีระเศร้าหมองด้วยน้ำเค็มตลอดเจ็ดวัน
แต่ทรงทราบว่า เทวดากล่าวชี้ว่าพระองค์ยังเข้ามรรคาแห่งความสุขไม่ได้ หากไม่กล่าวธรรมให้สาธุชนได้สดับ

นางมณีเมขลาให้พระองค์ตั้งสถาบันการศึกษา ใ้ห้ชื่อว่า ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย แม้ในกาลนั้นก็จะสำเร็จกิจและได้มรรคาแห่งบรมสุข

พระมหาสัตว์ทรงดำริว่า:
"ทุกบุคคลจะเป็นพ่อค้าวาณิช เกษตรกร กษัตริย์ หรือสมณะ ต้องทำหน้าที่ทั้งนั้น. อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเราต้องหาทางฟื้นฟูต้นมะม่วงที่มีผล"

 

ตามคำเรียกร้อง อ่านกันเอาเอง อิอิ

 

เอามาเรียบเรียงคำพูดใหม่

แม้ราช สมบัตินี้ก็เช่นกับต้นไม้มีผล บรรพชา เช่นกับต้นไม้หาผลมิได้.

คนอื่นๆ มีอุปราชเป็นต้น จนถึงคนรักษาช้าง รักษาม้า รู้ว่าพระราชาเสยผลมีรส เลิศแล้วก็เก็บผลเอามากินกัน ฝ่ายคนเหล่าอื่นที่ยังไม่ได้ผลนั้น ก็ทำลายกิ่งด้วยท่อนไม้ ทำเสีย ไม่มีใบ ต้นก็หักโค่นลง มะม่วงอีกต้นหนึ่งตั้งอยู่งดงาม ดุจภูเขามีพรรณดังแก้วมณี
(เพิ่มเติม - คนอื่นๆ เช่น อุปราช คนรักษาช้าง รักษาม้า อยากลิ้มรสมะ่ม่วงที่มีรสหวานเหลือเกิน กินแล้วไม่เก็บต้นไว้ อีกหน่อยจะได้กินอะไรอีก กินทีเดียวจบ ต้นไม่มีลูกให้กิน)

บรรพชา เช่นกับต้นไม้หาผลมิได้.
ก็เราจักไม่เป็นเหมือน ต้นไม้มีผล จักเป็นเหมือนต้นไม้หาผลมิได้."
(เพิ่มเติม - พระมหาชนกตั้งจิตเพื่อที่จะเป็นต้นไม้ไม่มีผล คือ บรรพชา ต้องการจะออกบวช)

ภัย ย่อมมีแก่ผู้มีความกังวล
ย่อมไม่มีแต่ผู้ไม่มีความกังวล
(เพิ่มเติม - พระมหาชนกจะไม่มีภัย เพราะไม่มีความกังวล อันนี้มั่วเอา) ฮ่าๆ

พระราชาทรางจดจำคำพูดของเทวดาไม่ได้ ทุกถ้อยคำ เพราะพระสรีระเศร้าหมองด้วยน้ำเค็มตลอดเจ็ด วัน
(เพิ่มเติม - พระมหาชนกจำคำพูดของเทวดาไม่ได้ทุกคำ เพราะร่างกายหน้าตาเศร้าหมอง ตลอดทั้งเจ็ดวัน (วันอาทิตย์-วันเสาร์)) หรือเปล่า??

แต่ทรงทราบว่า เทวดากล่าวชี้ว่าพระองค์ยังเข้ามรรคา แห่งความสุขไม่ได้ หากไม่กล่าวธรรมให้สาธุชนได้สดับ
(เพิ่มเติม - แต่พระมหาชนกทราบว่า เทวดาบอกว่าพระองค์ยังเข้าถึงมรรคผลนิพพานไม่ได้ ถ้ายังไม่บอกให้ประชาชาชนรู้ถึงอะไรสักอย่าง) <-- ไม่แน่ใจ


นางมณีเมขลาให้พระองค์ตั้งสถาบันการศึกษา ใ้ห้ชื่อว่า ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย แม้ในกาลนั้นก็จะสำเร็จกิจและได้มรรคาแห่งบรมสุข
(เพิ่มเติม - นางมณีเมชลาให้พระองค์ตั้งสถาับันการศึกษา ชื่อว่า ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย หลังจากทำสำเร็จพระองค์ก็จะเข้าถึงมรรคา)


พระมหาสัตว์ทรงดำริว่า:
"ทุกบุคคลจะเป็นพ่อค้าวาณิช เกษตรกร กษัตริย์ หรือสมณะ ต้องทำหน้าที่ทั้งนั้น. อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่นเราต้องหาทางฟื้นฟูต้นมะม่วงที่มีผล"
(เพิ่มเติม - การที่จะตั้งปูทะเลย์มหาวิชชาลัยได้ ก่อนอื่นเลยต้องมาฟื้นฟูต้นมะม่วง (เพื่อจะได้มีต้นเพื่อเกียวเกี่ยวผลกินในอนาคต)) แล้วหน้าที่นี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ขาย ชาวนา ชาวสวน พระมหากษัตริย์ พระภิกษุสงฆ์ ทุกคนล้วนแต่มีหน้าที่ฟื้นฟูต้นมะม่วงนี้)

มามา มาฟื้นฟูต้นมะม่วงกัน

 

ยังติดใจแผนที่ของพระมหาชนก 4 อันเลย

อันแรกที่เกิดแล้ว ยังแปลความหมายไม่หมด คือว่า ถ้าแปลได้ (หาแม่กุญแจได้) ที่เหลือไขออกหมด

9 May 2013 เนี่ยะน่าเอามาพิจารณากันหลายๆ หนนะ เพราะว่าในแผนที่ลมพัดกระหน่ำ ทั่วทั้งทวีป พระมหาชนกยังลอยอยู่กลางมหาสมุทรเล้ย

เดี๋ยวจะลองๆ เอาข้อมูลมาเสริม ใครจะเสริมเรื่องอื่นว่ามาเลย
ส่วนประกาศในรูปขยายให้แล้ว