นาคสุวรรณภูมิให้น้ำท่วมพิชิตคนพาล-อภิบาลคนดี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 27 ตุลาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,495
    'นาค'สุวรรณภูมิให้' น้ำท่วม'พิชิตคนพาล-อภิบาลคนดี

    "นาค"สุวรรณภูมิให้"น้ำท่วม" พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี

    คอลัมน์ สยามประเทศไทย

    สุจิตต์ วงษ์เทศ



    ชาวสุวรรณภูมิ เมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว ยกย่องนับถือนาค (งู) เป็นสัญลักษณ์ของเเผ่นดินกับเเผ่นน้ำ ผู้บันดาลความอุดมสมบูรณ์ในพืชพันธุ์ธัญญาหารให้มนุษย์ดื่มกินเลี้ยงชีวิต

    นาคเป็นทั้งผู้คุ้มครอง "ธรรม" เเละผู้ทำลาย "อธรรม" ล้างสิ่งชั่วร้าย พูดง่ายๆ ว่า "พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี" มีในตำนานทั้งภูมิภาคสุวรรณภูมิ ว่านาคปกป้องคุ้มครองเจ้าเมืองที่ปกครองอาณาจักรอย่างมีธรรม เเต่เมื่อเจ้าเมืองไม่มีธรรมก็ถูกทำลายด้วยฤทธิ์นาค บันดาลให้น้ำท่วมบ้านเมืองล่มจม จึงมีชื่อเวียงหนองล่ม อยู่ทั่วสุวรรณภูมิทั้ง ไทย ลาว เขมร ฯลฯ

    น้ำท่วม เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของบริเวณสุวรรณภูมิ ที่มีลมมรสุมพัดผ่านจากทะเลจีน (ทางอ่าวตังเกี๋ย เขตจีน-เวียดนาม) ส่งผลให้ราษฎรมีอาชีพทำนาปลูกข้าวกินเป็นอาหารหลักเหมือนๆ กัน เเล้วมีระบบความเชื่อคล้ายคลึงกัน เช่น ยกย่องสัตว์เลื้อยคลานเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ พวกงู กบ คางคก จระเข้ เต่า ฯลฯ มีหลักฐานเป็นรูปปั้นเเละลวดลายบนกลองมโหระทึกสัมฤทธิ์ พบทั่วไปในสุวรรณภูมิ ตั้งเเต่ผืนเเผ่นดินใหญ่ถึงหมู่เกาะในอินโดนีเซีย-ฟิลิปปินส์ ฯลฯ

    เรือ เป็นสัญลักษณ์ของนาคเคลื่อนที่ไปตามลำน้ำ ฉะนั้นเมื่อน้ำท่วมใหญ่ ก็ต้องเอาเรือ (นาค) มาทำพิธีวิงวอนร้องขอให้น้ำลดลงเร็วๆ คือ พิธีเเข่งเรือ บางทีเรียกไล่เรือ เเละไล่น้ำ ผลักดันให้น้ำลด เเล้วมีคำเสี่ยงทายอยู่ในกฎมณเฑียรบาล ยุคต้นกรุงศรีอยุธยา เป็นอุบายวิธีให้ราษฎรเตรียมรับสถานการณ์อันเกิดจากธรรมชาติ

    เห่เรือ คือคำวิงวอนร้องขอน้ำเเม่คงคาให้ลดตามจังหวะเวลา ถ้าน้ำไม่ลด ก็ท่วมข้าวตาย คนไม่มีข้าวกิน ฉะนั้นต้องเอาเรือ (นาค) ไปทำพิธีเห่กล่อมกลางแม่น้ำลำคลอง หนอง บึง จึงเรียกเห่ (กล่อม) เรือ (นาค) ไม่ใช่เห่เรือสนุกๆ อย่างที่เข้าใจเเล้วทำกันในปัจจุบัน

    ถ้าน้ำยังไม่ลดลงตามต้องการ จะมีพิธีสุดท้ายเรียกฟันน้ำ คือพระราชาต้องเสด็จไปทางเรือถึงบริเวณสมมุติว่าเป็นสะดือ ก็ชักดาบออกจ้วงฟันสายน้ำนั้นหวังจะให้ขาดจากกัน น้ำจะได้ลดตามที่จินตนาการไว้

    ชาวสุวรรณภูมิเเต่ก่อนอยู่เรือนเสาสูงเหมือนกันหมดตั้งแต่ยูนนานถึงอินโดนีเซีย เรือนไทยก็เป็นเรือนเสาสูงเเบบหนึ่งของสุวรรณภูมิ ไม่ได้มีอะไรพิเศษต่างจากที่อื่นๆ (พวกสถาปนิกอย่าเพ้อเจ้อ หลงใหล ล้าหลัง-คลั่งชาติ) ฉะนั้น ชาวสุวรรณภูมิโบราณจึงไม่เดือดร้อนเมื่อน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก เพราะเคารพอ่อนน้อมต่อธรรมชาติ

    คนปัจจุบันอหังการว่าควบคุมธรรมชาติได้ เลยไม่เอาใจใส่สภาพเเวดล้อมทางสังคม-วัฒนธรรมและธรรมชาติ เลยถูกนาค "พิชิต"



    ที่มา: มติชน
    http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra07271049&day=2006/10/27
     

แชร์หน้านี้

Loading...