รูปพระพุทธเจ้า

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 19 กรกฎาคม 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    [FONT=arial,helvetica,sans-serif]เป็นที่สงสัยของผมมานานแล้วว่า รูปที่เห็นนี้เป็นรูปของพระพุทธเจ้าจริงหรือไม่ เพราะพระองค์ท่านปรินิพพานไปแล้ว ย่อมไม่ทรงหวนกลับมาบนโลกนี้อีกแน่นอน และก็ได้ข้อมูลมาหลายอย่างตั้งแต่ว่าฝรั่งไปถ่ายรูปต้นศรีมหาโพธิ์แล้วติด ภาพนี้มา และข้อมูลต่อไปนี้ก็อปปี้มาจาก http://larndham.net/index.php?showtopic=11313 ซึ่ง พิจารณาแล้วน่าเชื่อมากที่สุดครับ แต่หากท่านผู้อ่านมีข้อมูลมาหักล้างอย่างไร โปรดแจ้งให้ทราบกันด้วยนะครับ และที่เห็นอยู่นี่ เป็นภาพเต็มๆครับ และจากนี้ไปเป็นข้อความที่ก็อปมาให้พิจารณากันครับ[/FONT]
    [​IMG]
    "ดู ด้วยตาเปล่าคงทราบนะครับว่ารูป ดั้งเดิมนั้นเป็นรูปวาด ซึ่งอันนี้ก็มีที่มาที่ไปสองกระแส ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลจากฝ่ายใดถูกต้อง กระแสหนึ่งบอกว่าเป็นฝีพระหัตถ์ของโอรสรัชกาลที่ ๕ อีกกระแสหนึ่งบอกว่าเป็นภาพวาดของจิตรกรฝรั่งเศส แต่ไม่ว่ากระแสใดถูกหรือผิด ที่แน่นอนก็คือพุทธนิมิตนี้ไม่ได้เกิดจากการที่ใครถ่ายรูปแล้วติดมาดังคำ ร่ำลือ และก่อให้เกิดความสงสัยไปทั่วประเทศ

    ภาพดั้งเดิมแสดงให้เห็น ว่ามีพลพรรค มารและธิดาพญามารรายล้อมพระศาสดา ซึ่งหมายความว่าเป็นภาพวาดสมมุติในวันตรัสรู้ หากคำนึงถึงความจริง ที่พระองค์ยังคงซูบผอมในวันตรัสรู้ ก็ต้องกล่าวว่าภาพวาดขาดความสมจริงในขณะของเหตุการณ์

    อย่างไรก็ตาม หากคำนึงถึงความเหมือนจริง ตามลักษณะอันควรเป็นสรีระเยี่ยงมนุษย์ ก็ต้องว่าภาพวาดนี้เหมือนพระพุทธองค์ที่ทรงมีเลือดเนื้อยิ่งกว่าพระปฏิมา หรือภาพวาดอื่นๆในโลก ส่วนที่ว่าใครจะลงความเห็นว่า ‘สมจริง’ อย่างไรก็คงต้องดูว่ามีความเหมือนมหาบุรุษลักษณะตามที่บ่งไว้ในคัมภีร์พระ ไตรปิฎกหรือไม่ ผมขอแสดงลักษณะปรากฏแห่งความเป็นองค์พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้ง ๓๒ ประการ ซึ่งมีมาในลักขณสูตร แห่งทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค โดยย่อ คือ

    ๑. ฝ่าพระบาทราบเสมอกัน
    ๒. ลายพื้นพระบาทเป็นจักร
    ๓. มีส้นพระบาทยาว (ถ้าแบ่ง ๔, พระชงฆ์ตั้งอยู่ในส่วนที่ ๓)
    ๔. มีนิ้วยาวเรียว (หมายถึงนิ้วพระหัตถ์และพระบาทด้วย)
    ๕. ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม
    ๖. ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายดุจตาข่าย
    ๗. มีพระบาทเหมือนสังข์คว่ำอัฐิข้อพระบาทตั้งลอยอยู่หลังพระบาทกลับกลอกได้คล่อง
    เมื่อทรงดำเนินผิดกว่าสามัญชน
    ๘. พระชงฆ์เรียวดุจแข้งเนื้อทราย
    ๙. เมื่อยืนตรง พระหัตถ์ทั้งสองลูบจับถึงพระชานุ
    ๑๐. มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก
    ๑๑. มีฉวีวรรณดุจสีทอง
    ๑๒. พระฉวีละเอียด ธุลีละอองไม่ติดพระกาย
    ๑๓. มีเส้นพระโลมาเฉพาะขุมละเส้น ๆ
    ๑๔. เส้นพระโลมาดำสนิทเวียนเป็นทักษิณาวัฏ มีปลายงอนขึ้นข้างบน
    ๑๕. พระกายตั้งตรงดุจท้าวมหาพรหม
    ๑๖. มีพระมังสะอูมเต็มในที่ ๗ แห่ง
    (คือหลังพระหัตถ์ทั้งสอง หลังพระบาททั้งสอง พระอังสาทั้งสอง กับลำพระศอ)
    ๑๗. มีส่วนพระสรีรกายบริบูรณ์ (ล่ำพี) ดุจกึ่งท่อนหน้าแห่งพญาราชสีห์
    ๑๘. พระปฤษฎางค์ราบเต็มเสมอกัน
    ๑๙. ส่วนพระกายเป็นปริมณฑล ดุจปริมณฑลแห่งต้นไทร
    (พระกายสูงเท่ากับวาของพระองค์)
    ๒๐. มีลำพระศอกลมงามเสมอตลอด
    ๒๑. มีเส้นประสาทสำหรับรับรสพระกระยาหารอันดี
    ๒๒. มีพระหนุดุจคางแห่งราชสีห์ (โค้งเหมือนวงพระจันทร์)
    ๒๓. มีพระทนต์ ๔๐ ซี่ (ข้างละ ๒๐ซี่)
    ๒๔. พระทนต์เรียบเสมอกัน
    ๒๕. พระทนต์เรียบสนิทมิได้ห่าง
    ๒๖. เขี้ยวพระทนต์ทั้ง ๔ ขาวงามบริสุทธิ์
    ๒๗. พระชิวหาอ่อนและยาว (อาจแผ่ปกพระนลาฏได้) ๒๘. พระสุรเสียงดุจท้าว
    มหาพรหม ตรัสมีสำเนียงดุจนกการเวก
    ๒๙. พระเนตรดำสนิท
    ๓๐. ดวงพระเนตรแจ่มใสดุจตาลูกโคเพิ่งคลอด
    ๓๑. มีอุณาโลมระหว่างพระโขนง เวียนขวาเป็นทักษิณาวัฏ
    ๓๒. มีพระเศียรงามบริบูรณ์ดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์

    ขอให้พิจารณาด้วยใจที่เป็นกลางว่ารูปวาดนี้มีความใกล้เคียงหรือแตกต่างจากลักษณะมหาบุรุษมากน้อยเพียงใด

    ข้อ หนึ่งที่พึงสังเกตคือพระปฏิมาใน โลกนี้มีความแตกต่างกัน แต่ก็เหนี่ยวนำให้ใจเราหมายรู้ได้ว่าเป็นรูปแทนพระศาสดา ทำให้เกิดความเบิกบาน มีจิตเป็นกุศล น้อมระลึกถึงพระพุทธคุณได้ง่ายเหมือนๆกัน เมื่อพิจารณาจากความจริงดังกล่าว ก็จะเห็นว่าพระพุทธนิมิตนี้ย่อมปรากฏอยู่ด้วยคุณค่าชนิดเดียวกันด้วย

    ผม เองก็เคารพและกราบไหว้พุทธนิมิต นี้เช้าเย็น แต่ไม่ได้กราบไหว้เพราะสำคัญว่านี่เป็นปาฏิหาริย์ ทว่าพุทธนิมิตนี้ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าใกล้ชิดพระองค์ท่านมากกว่าพุทธ นิมิตหรือพระปฏิมาไหนๆ เช่นที่เอ่ยแล้วว่ามีความใกล้เคียงกับสรีระมนุษย์ของจริง ผมอยากบอกเพียงว่าอย่างไรเราก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นภาพวาด อย่าไปร่ำลือกันว่าเป็นรูปปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจากการถ่ายรูปที่นั่นที่ นี่แล้วติดมา พุทธแท้ๆไม่จำเป็นต้องอาศัยเรื่องพรรค์นี้มาเป็นจุดดึงดูดศรัทธา และเรื่องพรรค์นี้ก็มักกลายเป็นการเปิดช่องให้พวกต้มมนุษย์ฉวยโอกาสได้ง่าย นำไปสร้างกลหลอกลวงในรูปแบบอื่นๆโดยสะดวก

    ปาฏิหาริย์ที่พระพุทธองค์ ทรงทิ้ง ไว้ให้พวกเราก่อนดับขันธปรินิพพานนั้น คือวิธีสร้างไฟล้างกิเลส และมิใช่ไฟร้อนภายนอก แต่เป็นไฟเย็นภายในอันเกิดจากการประพฤติตนตามครรลองคลองธรรมซึ่งพระพุทธ องค์ตรัสชี้ไว้ดีแล้ว

    ยุคเราจะตกแต่ง ‘ปาฏิหาริย์แห่งระบบดิจิตอล’ มาหลอกหูหลอกตาสักแค่ไหน ใครจะกุเรื่องจากความเหมือนจริงที่ถูกปรุงแต่งขึ้นอย่างไรก็ได้ แต่ใจเราเท่านั้นครับ ที่เป็นสุขจากปาฏิหาริย์แห่งบุญกุศลอย่างแท้จริงไหม เมื่อลิ้มรสสุขอันเป็นยอดแห่งปาฏิหาริย์เช่นนั้นแล้ว ก็จะไม่ถามหาปาฏิหาริย์อื่นใดให้กังขาเปล่าอีก"




    ที่มา
     
  2. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    แต่ที่แย่กว่าคืออันนี้แหละครับ.... มาไงเนี่ย


    [​IMG]
     
  3. โยนิโส

    โยนิโส สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +13
    อนุโมทนา....สาธุค่ะ ดิฉันเห็นด้วยกับคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
     
  4. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ไม่รู้เหมือนกันสิค่ะ.......
     
  5. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    ถ้าเชื่อตามหลวงปู่มั่น พระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นคนไทย หน้าตาก็ควรเป็นอย่างไทยนะ
     
  6. Nattawut8899

    Nattawut8899 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,410
    ค่าพลัง:
    +7,054
    ใครอยากเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ต้องเข้าให้ถึงธรรมของพระองค์
    คือ แม้พุทธองค์ศาสดา ทรงดับขันธปรินิพพานเเล้ว แต่ธรรมะของพระองค์
    ยังคงเป็นศาสดาของเรา พุทธดำรัส "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"
    ผิดถูกอย่างไรขออภัยด้วยครับ
     
  7. benjamina

    benjamina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +289
    เป็นรูปท่าน โพธิธรรม หรือ ปรมาจารย์ ตั๊กม้อ ครับ รูปนี้มีตามวัดจีนน่าจะหาดูได้ไม่ยาก ยืนยันครับ!!!
     
  8. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,766

    เห็นธรรมเมื่อใดก็เห็นท่านเมื่อนั้น


    หากยังติดอยู่ที่อิฐ หิน ปูน โลหะ ภาพวาด ก็จะเห็นเพียงเท่าที่เห็น
    แม้เห็นท่านและได้จับชายจีวร หากยังไม่ได้เห็นธรรมก็หาได้เห็นพระพุทธองค์ที่แท้ไม่
    ท่านย้ำมาตลอดไม่ให้ติดที่รูป
     
  9. smile072

    smile072 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +461
    ถ้าเป็นรูปนี้ละครับ ทุกท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. เด็ก3ขวบ

    เด็ก3ขวบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    349
    ค่าพลัง:
    +1,524
    เกิดไม่ทันเหมือนกันคับถ้าได้อภิญญาเมือไรจะย้อนเวลากลับไปถ่ายรูปมาให้ดูคับ
     
  11. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    ข้าพเจ้าว่าแค่พระนาม ก็มีคุณมหาศาล แล้วล่ะจ้า รูปนั้น จะจริงไม่จริงนั่นไม่สำคัญ เรา ถือว่าเป็นรูปพระพุทธเจ้า เราไม่ได้ไหว้รุปนิจ้ะ เราไหว้พระพุทธเจ้า ตะหาก ไหว้ความดี ไหว้ศีล ของพระองค์ ประโยชน์มากมายเหลือเกิน ไม่ต้องพกรูปหรือมีพระก็ยังได้เลย ถ้า เรา มีความ จริงใจ ต่อ พระพุทธคุณจริง ไปที่ไหนให้สังเกตุ นะ อันนี้ สำหรับผู้ที่มั่นใจแล้ว จะเห็นได้ว่า
    จากการสังเกตุของตัวเองส่วนตัวนะ

    1.ไม่อดข้าว
    2.ไม่ประสบอุบัติเหตุ ง่ายๆ ถ้าจะประสบก็เหมือนจะรุ้ก่อน ล่วงหน้าสักเล็กน้อย
    3.ไม่พบเจอคนพาล มาข่มเหง รังแก เอาง่ายๆ
    4.เป็นที่ ยำเกรงในหมู่คนพาล และ เป็นที่น่าคบหาในหมู่คนดี
    5.มีตัวช่วยเสมอๆ ในยามคับขัน เช่น ไปในที่ๆ เราไม่คุ้นเคย เราจะ เจอคนที่บอกทางเราได้
    6.หมู่สัตว์ ไม่ ทำตัวเป็นศตูร
    7.อันนี้แปลก ปัจจัยต่างๆไม่ขาดมือ แต่ไม่ถึงกับรวย แต่เรียกว่า ต่อชีวิตได้เรื่อยๆ
    9.เมื่อ พบเจอ สิ่งร้ายแรง ก็จะ เบาลง อันนี้ สังเกตุเอานะ เบาลงทางไหน สำหรับข้าพเจ้า ใจมันเบา มันเลยไม่แรง
    10.เยอะ บอกไม่ถูกแต่ รุ้สึกได้เลยล่ะ ว่า ท่านช่วยจริงๆ

    ผิดถูกประการใดขออภัยนะจ้ะ นี่เป็นการสังเกตุส่วนตัวนะจ้ะ ไม่ได้มีการแอบอ้างใดๆมาทั้งสิ้น ถ้าท่านใดมีมาเพิ่มเติม ก็ ขอ ให้ท่านมาเล่าให้กันฟังบ้างนะจ้ะ
     
  12. ปกาศิต

    ปกาศิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +72
    กรวด ดิน หิน ทราย โลหะ หากเป็นพุทธปฏิมาแล้ว ก็สามารถกราบได้อย่าไม่ลังเลสงสัย เพราะเรานำจิตผ่านดินหินทราย สู่คำสอน ความดี ข้อวัตรปฏิบัติของพระพุทธเจ้า อนุโมทนาสาธุกับพุทธบุตร ผู้จรรโลกรักษาพระศาสนาทุกท่าน สาธุๆ
     
  13. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    มีข้อมูลหรือที่แน่ชัดค่อยเอามากล่าวดีกว่า เรื่องนี้มันเก่าแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2010
  14. chaianant

    chaianant Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +26
    รูปอ่ะเป็นรูปแต่งขึ้นเคยมีผู้มาโพสแล้วโยม อย่าทำให้คนอื่นเข้าใจผิดมันบาปถ้ารู้ไม่จริงอย่าเอามาแสดงดีกว่าจะกลายเป็นมิจฉาทิฐินะ ลงอบายภูมิ อย่างเดียว
    ส่วนภาพที่บอกว่า ตอนพุทธองค์อายุ 41 นะ ดูจากภาพก็รู้ว่าไม่ใช่คนอินเดียและก็ไม่ใช่ลักษณะของมหาบุรุษ 32ประการ เป็นรูปคนจีนอาตมาก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร พูทธองค์ปลงพระเกศาบวชก่อนอายุ 41 อีก นี่โยมก็เอามาโพส มั่วอีก ใครจะเชื่อของให้เชื่อด้วยปัญญานะโยม ไม่แน่ใจจงไต่ถามครูบาอาจารย์ หรือหาอ่านได้จากพระไตรปิฎก เจริญพร
     
  15. pipehiso

    pipehiso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +156
    ตามตำนานกล่าวไว้ว่า พระยาผู้ครองเมืองพุทธรสะได้ค้นพบประวัติ(ตำนาน) เมื่อนมจตุจุลศักราช 1,213 ปีระกา เดือน 6 วันจันทร์ พระพุทธเจ้าได้เสด็จออกโปรดเมตตาสรรพสัตว์โดยทั่วทางอภินิหารจนพระองค์ได้เสด็จมาถึงเขตเวียงพุทธรสะ (อำเภอเชียงคำในปัจจุบัน) พระพุทธองค์ได้ประทับอยู่บนดอยสิงกุตตระ (พระธาตุดอยคำในปัจจุบัน) ทรงแผ่เมตตาประสาทพรตรัสให้พระยาคำแดงเจ้าเมืองพุทธรสะในขณะนั้น สร้างรูปเหมือนพระองค์ไว้ยังเมืองพุทธรสะแห่งนี้ ครั้งเมื่อพระพุทธองค์ทรงตรัสจบก็ปรากฏว่าได้มีพระอินทร์หนึ่งองค์ พระยานาคหนึ่งตน ฤาษีสององค์ และพระอรหันต์สี่รูป ช่วยกันเนรมิตเอาดินศักดิ์สิทธิ์จากเมืองลังกาทวีปเป็นเวลา 1 เดือนกับอีก 7 วัน จึงแล้วเสร็จ ครั้นเมื่อพระพุทธองค์ได้โปรดสัตว์ทั่วถึงแล้ว จึงเสด็จเข้าสู่เมืองพุทธรสะอีกครั้ง ทรงเห็นรูปเหมือนที่โปรดให้สร้างขึ้นนั้นเล็กกว่าองค์ตถาคต พระพุทธองค์จึงตรัสให้เอาดินมาเสริมให้ใหญ่เท่าพระพุทธองค์ จึงได้แผ่รัศมีออกครอบจักรวาลรูปปั้นจำลองได้เลื่อนลงจากฐานชุกชี(แท่น) มากราบไหว้พระพุทธองค์ตรัสกับรูปเหมือนพระพุทธองค์ที่ได้สร้างขึ้นนั้นว่า “ขอให้ท่านจงอยู่รักษาศาสนาของกูตถาคตให้ครบ 5,000 พระพรรษา” พระรูปเหมือนจึงได้น้อมรับเอาแล้วประดิษฐานอยู่ ณ พื้นดินที่นั้นสืบมา ด้วยเหตุนี้พุทธบริษัทจึงหมายเหตุเอาพระรูปเหมือนของพระพุทธองค์ว่า พระเจ้านั่งดิน
    เป็นที่น่าสังเกตว่า พระเจ้านั่งดินในปัจจุบันนี้ไม่ได้ประทับฐานชุกชีหรือพระแท่นเหมือนกับพระพุทธรูปในวิหารวัดอื่นๆทั่วไป มีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าขานสืบกันมาว่า เคยมีชาวบ้านได้พากันสร้างฐานชุกชีแล้วได้อัญเชิญพระเจ้านั่งดินขึ้นประทับ แต่ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ฟ้าได้ผ่าลงมาที่กลางพระวิหารถึง 3 ครา พุทธบริษัททั้งหลายจึงอาราธนาพระเจ้านั่งดินมาประดิษฐานบนพื้นดินดังเดิมตราบจนทุกวันนี้



    เคยเห็นรูปนี้ ไหมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • py-065.jpg
      py-065.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.8 KB
      เปิดดู:
      157
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2010
  16. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    โมทนา ครับ
    รูปสวยครับ
    แต่ไม่ใช่ พระรูปฉายของพระพุทธเจ้าครับ
     
  17. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ขอที่มาได้ไหมครับ
    ว่าหลวงปู่มั่น ท่านเทศน์ ที่ท่านพิมพ์มานะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...