ทำไมด๊อกเตอร์หนุ่มจากอังกฤษ จึงมอบกายถวายชีวิตเพื่อค้นพบสัจธรรมในพระพุทธศาสนา

ทางสายเอก โดย ดร. สนอง วรอุไร<!-- google_ad_section_end -->

<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->เมื่อ ด๊อกเตอร์หนุ่มจากอังกฤษ
มอบกายถวายชีวิตเพื่อค้นพบสัจธรรมในพระพุทธศาสนา

เรื่องราวเป็นอย่างไร เชิญดาวน์โหลดอ่านครับ

 

เขาคงได้พบอะไรบางอย่างที่เป็นสัจจธรรมล่ะมังครับ

แล้วทำไมหลายๆคนในเมืองไทยที่เกิดในพุทธศาสนาชาติ ถึงยังมัวแต่หาตรรกะเกี่ยวกับความเป็นไปได้เรื่องการจะลงมือปฏิบัติอยู่ก็ไม่รู้เนาะ ฮาๆๆ

 

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ดีที่สุดในโลกค่ะ

 

ท่านฉลาดทั้งทางโลกและทางธรรม ใช้สติ-ปัญญา เพื่อศึกษาธรรมะ
เปรียบเป็นบัว พ้นน้ำ เข้าถึงหลักธรรมโดยไม่ยาก อยู่ที่บุญเก่าของท่านด้วยครับ

 

ได้อ่านบทความแล้วรู้สึกดีครับ

 

ก็ดีแล้วนี่ มันก็คนเหมือนกัน มีชอบมีหลง
แล้วด๊อกเตอร์ชาวไทยที่นับถือศาสนาอื่นๆนี่ไม่มีรึ
ไม่ได้กวน ก็ถามดู
เออ แล้วทำไมด๊อกเตอร์ชาวไทยบางคนถึงนับถือศาสนาอื่นๆๆๆ

 

เขาคงคิดได้ว่า ความรู้บนโลกมีหลายๆอย่างต่อให้เรียนจนตายไปก็เรียนได้ไม่หมด

 

อ่านเเล้ว ทำให้เกิดเเรงบันดาลใจในการปฎิบัติค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

คงไม่เกี่ยวกับความเป็นด็อกเตอร์หรือไม่เป็นด็อกเตอร์หรอกครับ ทุกคนมีโอกาสเท่ากันหมดในการนับถือศาสนาใดๆก็ได้ แต่จะเป็นศาสนาอะไรก็เป็นส่วนบุญส่วนกุศลส่วนผูกพันธ์กับศาสนานั้นๆ มีมากมายที่เดิมเป็นพุทธแล้วก็เปลี่ยนไปเป็นคริสต์ หรือบางคนเป็นคริสต์แต่ก็เปลี่ยนมาเป็นพุทธ ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด ไม่ใช่ว่าด็อกเตอร์ทุกคนมานับถือมาศึกษาพุทธศาสนา มีเป็นแค่เพียงบางคนเท่านั้น ชีวิตเป็นของแต่ละคนจะเลือกที่จะเป็นตามผลกรรมจากอดีตจากความผูกพันในอดีต จริงๆไม่มีเรื่องศาสนาหรอกหากตายจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ยังคงอยู่ในวัฏฏะสงสาร พระพุทธองค์ทรงค้นพบทางแห่งการหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารแล้วนำมาถ่ายทอดสู่มวลมนุษย์ก็เท่านั้นเอง

 

จริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับศาสนาหรอก และไม่กี่ยวกับความเป็น..หรือไม่เป็นอะไร ทั้งนั้น ชีวิตของคนเราทุกคนไม่มีอะไรต้องคิด ต้องสงสัยทุกอย่างล้วนอยู่ในตัวเราแล้วทั้งสิ้น
ที่มีผู้กล่าวว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสกับศิษย์"ถ้าเธอพบฉันระหว่างทาง จงฆ่าฉันเสีย อย่าปล่อยให้ฉันยืนอยู่ระหว่างเธอกับความจริง จงจับมือฉันเมื่อเธอไม่อาจเดินได้ด้วยตัวเองตามลำพัง แต่ชั่วขณะที่เธอเดินได้เองตามลำพังแล้ว จงลืมฉันเสีย เดินต่อไป อย่ายึดติดอยู่กับฉัน อย่าพยายามเป็นเงาของฉัน หากเธอพบฉันตามทาง จงฆ่าฉันเสียทันที"
ขอให้ท่านพิจารณาดูเถิด ว่าคำพูดเหล่านี้มีนัยอย่างไร? ทุกคำตอบล้วนอยู่ในตัวเรา
หากมีใครสอนท่านว่าพระพุทธเจ้ากล่าวว่า ปัญหาชีวิตต้องแก้ด้วยการบำเพ็ญทางจิต คนเหล่านั้นก็ไม่เข้าใจพระพุทธเจ้า แต่ถ้าเขาบอกกับท่านว่าปัญหาชีวิตแก้ไขได้โดยเริ่มจากการตระหนักรู้ธรรมชาติแท้แห่งตนในขณะปัจจุบันนี้ คนๆนี้แหละที่เข้าใจพระพุทธเจ้าจริงๆ คนๆนี้แหละที่เข้าถึงหัวใจของพระองค์

"สิ้นสุดแห่งการแสวงหานั้นแหละคือ นิพพาน"

 

ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย

ท่านเคยสร้างเหตุไว้แต่ก่อนด้วยการบำเพ็ญฌาณ ตบะ มานาน
การบรรลุธรรมเป็นไปตามขั้นตอน

ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่เป็นปกติ