มหาบริจาค ๕ ของพระพุทธเจ้า ทำให้สำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย pinkpink, 10 กรกฎาคม 2010.

  1. pinkpink

    pinkpink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,246
    ค่าพลัง:
    +11,631
    มหาบริจาค ๕
    พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ วัดอโศการาม
    จากหนังสือ “ท่านพ่อลี ธัมมธโร”
    ชมรมพุทธศาสน์ กฟผ. พิมพ์เผยแพร่
    http://www.dharma-gateway.com/monk-preach-index-page.html
    <!-- google_ad_section_end -->





    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->[​IMG]





    [​IMG]

    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ นมสฺสามิ
    ปญฺจมหาปริจฺจาเค ติสฺโส จริยนฺตีติฯ
    วันนี้ จะได้แสดงพระธรรมเทศนา ที่มีมาในพระสูตรเกี่ยวด้วยมหาชาติ
    ชาดก ซึ่งเป็นบารมีธรรมส่วนหนึ่งของพระโพธิสัตว์ อันเป็นเหตุให้สำเร็จ
    พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณพระองค์ทรงได้บำเพ็ญประโยชน์ให้สำเร็จ
    เป็นไปแก่มนุษย์พุทธบริษัททั้งหลาย ๓ ประการประโยชน์ชาตินี้มีผลอัน
    จะพึงได้รับ คือปัจจุบัน ประโยชน์ชาติหน้า เมื่อได้บำเพ็ญไว้แล้วในชาตินี้
    บุญกุศลส่วนนั้นย่อมอำนวยผลในชาติหน้า คือสุคติ สวรรค์ เป็นต้น
    ประโยชน์อย่างยิ่งอันจะพึงเกิดขึ้น คือพระนิพพาน อันบรมสุขอย่างเลิศ
    ไม่มีสุขอันใดยิ่งกว่า เรียกว่านิรามิสสุขพระพุทธองค์ทรงเทศนาให้สงฆ์
    สาวกทั้งหลาย ได้บรรลุสำเร็จประโยชน์อันยิ่งใหญ่ คือมรรคผลนิพพาน

    เหตุทั้งหลายที่มีมาในมหาชาติชาดกหมวดนี้ มีข้อความที่จะพึงบำเพ็ญให้
    เกิดขึ้นในตนนั้น มีอยู่ ๕ ประการ ดังจะได้บรรยายไปในกาลบัดนี้

    ธนปริจจาโค พระองค์ได้ทรงสละทรัพย์ทั้งหลาย มีแก้วแหวนเงินทอง
    รัตนะทั้งปวง อันเป็นส่วนอวิญญาณกทรัพย์ และวิญญาณกทรัพย์ คือช้าง
    แก้ว ม้าแก้ว เหล่านี้ ได้เสียสละโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ จากผู้รับ จึง
    เรียกได้ว่ามหาบริจาค พระองค์ได้ทรงพิจารณาแล้วว่า การเสียสละได้
    เช่นนั้น เป็นการยกก้อนหินออกจากพระอุระคือหัวอก เป็นเหตุให้พระองค์
    ทรงเบาพระหฤทัยน้อมใจเป็นไปเพื่อความสงัดปฏิบัติตนที่อยู่ในป่าเป็น
    ฤๅษีในเขาคีรีวงกต ในสมัยเป็นพระเวสสันดรโน้น

    องฺคปริจฺจาโค พระองค์ทรงเสียสละอวัยวะบางส่วนให้เป็นทาน เช่นสละ
    เลือดเนื้อในกายของพระองค์ ให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลและสัตว์อื่น ๆ
    บางจำพวก โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ในบุคคลที่ได้สังเคราะห์ไปแล้ว
    นั้น ในสมัยนี้ก็เทียบได้อย่างหนึ่ง คือบางคนได้เสียสละเลือดของตนให้
    เป็นประโยชน์แก่บุคคลผู้อื่นในคราวที่ป่วย ในการบำเพ็ญเช่นนั้น ก็เรียก
    ได้ว่า อังคบริจาคได้ชนิดหนึ่งในส่วนของร่างกาย

    ชีวิตปริจฺจาโค บางคราวบางสมัย มีเหตุการณ์อันตรายบังเกิดขึ้นแก่
    เพื่อนมนุษย์ทั้งหลาย จนตลอดสัตว์เดียรัจฉาน พระองค์ยอมเสียสละชีวิต
    ความเป็นอยู่ของตน เพื่อให้สำเร็จประโยชน์สันติสุขแก่บุคคลอื่นๆ ใน
    สมัยนี้ เช่นบางท่านซึ่งทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ยอมเสียสละความเป็นอยู่
    ของคน โดยไม่เห็นประโยชน์ส่วนตัวเป็นใหญ่ สละกำลังกาย กำลังทรัพย์
    กำลังความคิด บำเพ็ญดวงจิตของตนของตนให้ตั้งอยู่ในวัฒนธรรม อัน
    จะพึงมีแก่ชาติ ส่วนศาสนา พระองค์ก็ได้ยอมเสียสละตน บำเพ็ญพรต
    พรหมจรรย์ ไม่เห็นแก่ลาภยศสักการบูชาใดๆ ตั้งใจปฏิบัติตนให้ถูกต้อง
    ตามแนวทาง ถึงแม้ชีวิตจะแตกดับไปในเหตุการณ์นั้น ๆ พระองค์ก็ทรง
    ยอมเสียสละ ไม่หวังผลตอบแทนในการทำเช่นนั้น คือไม่เห็นแก่ตัว
    พระองค์ทรงเห็นว่าชีวิตความเป็นอยู่ ถ้าเป็นประโยชน์ได้แก่ปวงชนแล้ว
    ถึงแม้จะล้มหายหายสูญ พระองค์ก็ไม่อาลัยในชีวิต จึงเรียกได้ว่ามหา
    บริจาค เพราะเหตุอันนี้จึงมีอานิสงส์ ที่พระองค์ทรงได้รับการยกย่องบูชา
    ของมนุษย์พุทธบริษัท เป็นบุคคลที่ควรแก่การสักการะเคารพบูชา ตลอด
    มาจนทุกวันนี้

    ปุตฺตปริจฺจาโค พระองค์ทรงยอมเสียสละลูกที่รักในหัวอกทั้งสองให้เป็น
    ทาน คือ กัณหา ชาลี เหตุอันนี้แหละ พระองค์จึงได้เป็นที่รักเคารพ พุทธ
    บริษัททั้งหลายยอมเสียสละตนเป็นทาสหรือศากยบุตร มนุษย์และ
    เทพยุดาย่อมเคารพบูชาอยู่ตลอดกาล เพราะการกระทำของพระองค์นั้น
    ไม่หวังผลตอนแทนใดๆ จึงจัดว่าเป็นมหาบริจาค

    ภริยปริจฺจาโค บางคราวพระองค์ได้ทรงเสียสละภริยาของตนอันเป็นที่
    รักให้เป็นทานไม่หมายมั่นผลตอบแทนใดๆ ทั้งหมด มุ่งต่อพระโพธิญาณ
    เป็นจุดหมายปลายทางเพียงเท่านั้น

    มหาบริจาคทั้ง ๕ ประการนี้ พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญมาแล้วด้วยดี มีมาใน
    เวสสันดรชาดกยกขึ้นเป็นบุคลาธิษฐาน ส่วนพวกเราพุทธบริษัททั้งหลาย
    ผู้หวังต่อสวรรค์และนิพพานก็ควรจะเดินตามแนวทางของท่าน

    พวกเรา พุทธบริษัท ซึ่งตั้งอยู่ในสาวกภูมิก็สมควรที่จะบำเพ็ญมหาบริจาค อันเป็น
    ส่วนธรรมาธิษฐาน ดังจะได้บรรยายไปในกาลบัดนี้ ซึ่งมีอยู่ ๕ ประการ

    ธนปริจฺจาโค ให้เสียและทรัพย์ของตนที่เป็นโลกียทรัพย์ทั้งหลาย ฝากไว้
    ในธนาคารของพุทธศาสนา เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา โดยไม่
    หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งหมด ให้เห็นว่าเป็นการฆ่ากิเลสของตนเอง แก้
    ห่วงที่ผูกอยู่ คืออุปาทาน เป็นเครื่องฆ่ามัจฉริยะ ความตระหนี่เหนียว
    แน่นอยู่ในใจเสียได้ ก็จัดว่าเป็นมหาบริจาคได้ประการหนึ่ง

    องคปริจจาโค ให้เสียสละความสุขบางส่วน อันพึงจะได้รับในตนเอง
    เช่นเราควรจะกินได้ ๓ เวลา เราก็เสียสละมาบำเพ็ญศีล ๘ หรือธุดงควัตร
    ตัดความสุขที่เนื่องด้วยกายของตนบางส่วน กินมากและให้น้อย นอนมาก
    เสียสละการนอนนั้นเสียบ้าง ความสุขอันจะเกิดขึ้นจากการดื่ม การบริโภค
    บำรุงกาย เมื่อยอมเสียสละได้ ไม่เพลิดเพลินอยู่ในกามคุณทั้ง ๕ มา
    บำเพ็ญตนให้เป็นบุญเป็นกุศลเกิดขึ้น ก็ได้ชื่อว่าอังคบริจาค คือสละ
    รูปออกจากตา และเสียงออกจากหู และกลิ่นออกจากจมูก และรสออก
    จากลิ้น สละสัมผัสออกจากกาย และสละธรรมารมณ์ทั้งหลายที่เป็นบาป
    ให้ห่างไกล

    ชีวิตปริจฺจาโค ให้เสียสละความเป็นอยู่ของตน เพื่อให้เป็นประโยชน์สุข
    แก่บุคคลผู้อื่น อันตรายอันใดจะเกิดขึ้น ก็สร้างความเข้มแข็งต่อสู้ เสีย
    สละความเป็นอยู่ของตนในทางโลกและทางธรรม อีกอันหนึ่ง ชีวิตคือ
    ความเป็นอยู่อันยืดยาว ที่จะเป็นไปในข้างหน้านั้น ได้แก่ความเป็นอยู่
    ของดวงจิต เมื่อจิตตกไปในฝ่ายชั่ว ความเป็นอยู่ของตนก็จะลำบาก
    ทรมานใจ เช่นความโกรธเกิดขึ้น จิตเราก็เป็นอยู่ด้วยความโกรธ ความ
    โลภเกิดขึ้น จิตเราย่อมเป็นอยู่ในความโลภ บางคราวจิตประมาท
    หลงใหล ดวงจิตก็เป็นอยู่ด้วยความลุ่มหลง ชีวิตความเป็นอยู่ของร่างกาย
    นั้นอย่างหนึ่ง ชีวิตความเป็นอยู่ของดวงจิตนั้นอย่างหนึ่ง สิ่งใดเป็นไปใน
    ฝ่ายชั่ว ที่เนื่องด้วยความเป็นอยู่ของตนก็สมควรที่จะเสียสละเพื่อทำชีวิต
    ความเป็นอยู่ของตนให้ปลอดภัยไม่อาศัยความเป็นอยู่ที่ลุ่มหลงนั้นเสียได้
    มิฉะนั้นก็จะทำคนให้เป็นคนรกโลก เป็นเสี้ยนหนามหลักตอ เกิดขึ้นในวงศ์
    ของชาติและพระศาสนาได้ประการหนึ่ง

    “ชาลีปริจฺจาโค” ให้เสียสละชาลธรรมอันเป็นเครื่องกีดกันกั้นจิต เหมือน
    กับข่ายเครื่องดักปลาในมหาสมุทรฉะนั้น ความหมายในข้อนี้ ได้แก่นิวรณ
    ธรรม อันเป็นเครื่องกั้นดวงจิตมิให้บรรลุคุณงามความดีคืบหน้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2010
  2. pinkpink

    pinkpink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,246
    ค่าพลัง:
    +11,631
    ปุตฺตปริจฺจาโค ให้เสียสละบุตรของตนอันเป็นที่รัก อันเป็นส่วนในทาง
    ธรรมาธิษฐาน “กณฺหํ ธมฺมํ วิปปาหาย” ให้สละ กัณหธรรม อันเป็นลูกที่
    รักของเราคนหนึ่ง คือ โลโภ ความโลภไม่รู้จักพอ อิ่มไม่เป็น กินหลายไม่
    หายอยาก โกธะ ความโกรธไม่รู้จักหยุด โกรธแล้วโกรธเล่าเป็นหนทางที่
    จะเข้าไปสู่อบาย โมโหโมหา ความหลง ความมืดมิดปิดบังทั้งหลายเหล่า
    นี้ ชื่อว่า กัณหธรรม

    “ชาลีปริจฺจาโค” ให้เสียสละชาลธรรมอันเป็นเครื่องกีดกันกั้นจิต เหมือน
    กับข่ายเครื่องดักปลาในมหาสมุทรฉะนั้น ความหมายในข้อนี้ ได้แก่นิวรณ
    ธรรม อันเป็นเครื่องกั้นดวงจิตมิให้บรรลุคุณงามความดีคืบหน้า

    นิวรณธรรมนั้น มีอยู่ ๕ ประการ
    ๑. กามฉันทะ ความรักใคร่ในพัสดุกามและกิเลสกาม เมื่อดวงจิต
    ของบุคคลผู้ใดตกไปในธรรมข้อนั้น ก็เสมอเหมือนกับปลาที่ติดข่าย
    ของนายพราน

    ๒. พยาปาทะ ความพยาบาท มุ่งร้าย อิจฉา หาหนทางก่อความเสีย
    หายให้เกิดขึ้นแก่ปวงชน ก่อผลที่ร้ายให้ตนและคนอื่น ให้ได้รับ
    ความทุกข์เดือดร้อนโดยประการต่างๆ

    ๓. ถีนมิทธะ ความท้อแท้ง่วงโงกซบเซา เบื่อหน่าย คลายวิริยะคือ
    ความเพียรที่จะบากบั่นบุกไปให้บรรลุคุณงามความดีในข้างหน้า

    ๔. อุทธัจจะกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ เตือนตนเองไม่ได้ ยั้ง
    สติไม่อยู่ปล่อยใจของคนให้ฟุ้งซ่าน ไม่มีฌานเป็นเครื่องอยู่ ย่อม
    มืดมัว เหมือนเมฆหมอกปกปิดพระอาทิตย์และดวงดาวให้มืดมน
    ย่อมเป็นอกุศลอย่างหนึ่งในทางใจ

    ๕. วิจิกิจฉา ความสงสัยลังเล ไม่แน่ชัด ปฏิบัติตนให้ลุ่มหลง เป็น
    เหตุให้เข้าใจผิดย่อมทำดวงจิตของตนให้ขุ่นมัว จะถอยหลังก็ไม่
    กล้า จะก้าวหน้าก็ไม่ไป คิดสงสัย ย่อมตัดความเจริญของตนได้ทาง
    หนึ่ง

    ทั้ง ๕ ประการนี้ เป็นชาลธรรม คือข่าย เครื่องกีดกั้นและดักไว้ซึ่งสัตว์ทั้ง
    หลายในโลก ฉะนั้นจะเป็นสิ่งควรเสียสละ ที่เรียกว่า ชาลีทานํ กฺณหาทานํ
    สละไปไม่ต้องอาลัยอาวรณ์ในอกุศลธรรมเหล่านั้น ผู้จะบำเพ็ญได้เช่นนั้นต้อง

    ทำตนให้ตั้งอยู่ในสัมมาสมาธิประกอบองค์ฌานให้เกิดขึ้นในตน “วิตก”
    ยกอารมณ์ขึ้นสู่ดวงจิตให้เป็นอารมณ์หนึ่ง “วิจาร” พิจารณาอารมณ์นั้น ๆ
    ตั้งขึ้นโดยนิมิตและปฏิภาคธรรม ไตร่ตรองพินิจพิจารณาในอารมณ์นั้น ๆ
    รู้เหตุคือการกระทำ รู้ผลอันเกิดขึ้นจากการกระทำ ได้แก่ ตัวสัมปชัญญะ

    ความรู้รอบคอบและสมบูรณ์ ต่อจากนั้นก็จะเห็นผลปรากฏขึ้นในใจของ
    ตัว คือ ปีติ กายอิ่ม กายเบา กายสงบ จิตสงบ จิตวิเวก หมดจากนิวรณ์
    ย่อมเกิดความสุขในทางใจ ดวงจิตนั้นย่อมไม่ส่ายไปตามสัญญาอารมณ์
    อันเป็นกระแสนำมาซึ่งกองกิเลสให้ตัดสัญญาอดีต ที่ล่วงไปแล้วทั้งหมด
    ให้ตัดสัญญาอนาคตที่ยังไม่มาถึงทั้งปวง ถ้าปล่อยจิตไปหลงอารมณ์ข้าง
    หน้า สัญญาอนาคต มันจะต้องติดตัวถอยหลังไปหลงอารมณ์สัญญาอดีต
    ที่ล่วงไปแล้ว มันก็จะไปคิดบ่วงเครื่องผูกพันคือสังโยชน์ ให้ตั้งสติกำหนด
    อยู่ในธรรมปัจจุบัน จิตตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียวจนกว่าจะได้บรรลุทุติย
    ฌานต่อไปตั้งใจเจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน ทำจิตสันดาน
    ของตนให้ห่างไกลจากนิวรณ์ความมืดดังนี้

    ภริยปริจฺจาโค ให้เสียสละภริยาอันเป็นที่รักของตน ภริยาในที่นี้กล่าวกัน
    โดยธรรมแล้วมี ๓ ชนิด

    ภริยาคนที่หนึ่ง ชื่อชีวิตมัทรี
    เป็นผู้เมาอยู่ในชีวิตของตน ความเป็นอยู่
    ของประชาชนในโลกนี้ มีอยู่ ๘ ประการ ธรรม ๘ ประการนั้น แบ่งออก
    เป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเปรียบเหมือนกับบุตรอันเป็นที่รักและชอบใจ อีก
    ฝ่ายหนึ่งเปรียบเหมือนกับบุตรที่ชั่วต่ำ อันเป็นที่ไม่พึงปรารถนา ซึ่งแตก
    ออกมาจากนางมัทรี ฝ่ายหนึ่งกล่าวคือ นายยศ นายลาภ นายสรรเสริญ

    นายสุข ที่ตนนี้ย่อมเป็นที่พึงปรารถนาแห่งตน คือการหลงอยู่ในลาภ ยศ
    สรรเสริญ สุขอันเป็นเชือกผูกคอตนไว้ได้เป็นอย่างดี อีกฝ่ายหนึ่งเป็นส่วน
    ที่ไม่พึงปรารถนา คือนายขี้ทุกข์ นายขี้นินทา นายเสื่อมลาภ นายเสื่อม
    ยศ ทั้งสี่คนนี้ เป็นบุคคลประพฤติตัวไม่ดีไม่เป็นที่น่าพอใจ ทำความเป็น
    อยู่ของตนให้ยุ่งยากได้ประการหนึ่ง

    ภริยาคนที่สอง วัยมัทรี
    คือมึนเมาลุ่มหลงอยู่ในวัย เรียกว่านางวัยยา ซึ่งมี
    บุตรของเขาอันเป็นที่รักอยู่ ๓ คน คือความเมาอยู่ในวัยทั้งสาม บุตรคนที่
    หนึ่งคือปฐมวัย เมื่อเป็นเด็กยังเยาว์ก็เมาในความเป็นอยู่ของตน ไม่ศึกษา
    อบรมฝึกฝนหาวิชาความรู้ในทางโลกและทางธรรม บุตรคนที่สองคือ
    มัชฌิมวัย เมื่อตนผ่านพ้นมาแล้วในวัยเด็ก บรรลุนิติภาวะมาเป็นหนุ่มและ
    เป็นสาว ก็มัวเมาอยู่โดยอาการต่าง ๆ เมารูปความสวยงาม แต่งตาทา
    แก้มยิ้มแย้มหลอกลวงกัน เมาเสียงอันไพเราะเสนาะโสต เมากลิ่นเครื่อง

    สำอาง เป็นเหตุให้เกิดความฟุ่มเฟือย เมารสหลงลิ้นกินแล้ว อยากกินอีก
    ที่ท่านเรียกว่า “กินหลายไม่หายอยาก นอนมากไม่รู้จักตื่น รักคนอื่นยอม
    เสียตัว สิ่งควรกลัวกลายกล้า” พาให้เสียทรัพย์และชื่อเสียง บุตรคนที่สาม
    คือปัจฉิมวัย ผ่านไปเป็นคนแก่ชราภาพ เมื่อแก่เข้าแล้วก็เมาอยู่ในความ
    แก่ของตน ความแก่ในที่นี้คือทุพพลภาพของร่างกาย ตามืด หูตึง หลัง
    ขด แก้มตอบ เดินสามขา จะประกอบกิจการอันใดก็ลำบาก อ้างภาวะของ
    ตนมากีดกั้นกันเสีย จะบำเพ็ญความดีทางโลกก็ไม่ได้ จะอาศัยความดี
    ทางธรรมก็ขัดข้องคือเห็นว่าตัวเป็นตนแก่แล้วย่อมเมาอยู่ หลงอยู่ในภาวะ
    ของตน

    ภริยาคนที่สาม อโรคยมัทรี
    เมาอยู่ในความไม่มีโรค เมื่อตนมีความสุข
    กายสบายใจอยู่ด้วยอามิสก็คิดเมา เข้าใจว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นของตน ขวน
    ขวายหาแต่สิ่งที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร ตนมีความสุขกายไม่มีโรค ก็เมาอยู่
    ในกาย ไม่นึกถึงความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่จะผ่านมาในข้างหน้า มีความ

    สุขใจสบายจิต บางคราวก็หลงอยู่ในอารมณ์นั้น ๆ แสวงหาความสุข แต่
    อารมณ์ที่ชอบดีชั่วผิดถูก มิได้คำนึงถึง ตนไม่ขวนขวายแสวงหาความดี
    อย่างอื่นในทางธรรม จึงจัดว่าเป็นผู้เมาอยู่ในอโรคยมัทรี

    ภริยาทั้งสามคนนี้ ย่อมก่อความยุ่งยากและวุ่นวายให้เกิดขึ้น ฉะนั้นจึงเป็น
    สิ่งที่ควรเสียสละบริจาคไปเสีย จึงได้นามว่า ภริยปริจฺจาโค
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2010
  3. pinkpink

    pinkpink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,246
    ค่าพลัง:
    +11,631
    ช้างแก้ว คือ หัตฺถีรตนปริจฺจาโคให้บริจาคช้างแก้วพระที่นั่งของเราเสีย
    คือ อวิชชา ความไม่เข้าใจรู้แจ้งในตน ไม่รู้ความจริงก็สำคัญว่าตนรู้จริง
    คุยโม้โอหัง นั้นก็คือช้างอวดงา จิตฟุ้งซ่าน พูดมากปากเปิด มองเห็น
    เหงือก ลักษณะอย่างนี้คือพูดดี แต่ความประพฤติต่ำ ทำให้คนอื่นแลเห็น
    ปมด้อยของตน คือไม่รู้แจ้งในอดีต ที่เรียกว่า “ปุพพนฺเต อญาณํ” ไม่แจ้ง
    ในอนาคตทีเรียกว่า “ปรนฺเต อญาณํ” ไม่รู้แจ้งในปัจจุบัน ที่เรียกว่า
    “มชฺเฌ อญาณํ” ลักษณะอย่างนี้ชื่อว่าอวิชชา หัตถีรัตนัง เป็นเครื่องทรง
    ของคนหลงในโลก ฉะนั้น เมื่อพวกเราทั้งหลาย ได้ทำการมหาบริจาคดัง
    กล่าวมา ก็จะให้สำเร็จประโยชน์ใหญ่คือ พระนิพพาน ให้ธรรมะเป็นทาน
    มีอานิสงส์อย่างเลิศ “สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ” ให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะเสียซึ่งทานทั้งปวง”

    เรียกได้ว่า ทานปรมัตถปารมี เป็นความดีส่วนหนึ่งที่จะพึงเกิดขึ้นจากจริยา
    วัตรทั้งหลาย ได้แก่การประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์แก่ตนของตน
    เอง ที่เรียกว่า “อตฺตตฺถจริยา” เป็นเครื่องจักรเครื่องยนต์จะได้ส่งผลให้ถึง
    พระนิพพาน ธรรมอันประเสริฐ ”ญาตตฺถจริยา” จะได้พากันทำประโยชน์
    ให้เกิดแก่บุพพการีบุคคล มีบิดามารดา ครูบาอาจารย์ วงศาคณาญาติทั้ง
    ปวง จะได้ถ่ายหนี้หมดสินสิ้นชาติมรณา “โลกตฺถจริยา” เราเกิดมาในโลก
    นี้ ความดีอันใดที่มีแล้วในตน ควรแจกจ่ายเจือจานให้สำเร็จประโยชน์แก่
    มนุษย์พุทธบริษัททั้งปวงในโลก ที่ควรได้ควรถึง เรื่องอันใดอันเป็นหน
    ทางก่อความเจริญให้เกิดขึ้นในโอกาสโลก ท้องถิ่นของตน ถ้าเรามีหน
    ทางใดๆ ที่จะให้เจริญได้โดยถูกต้องตามศีลธรรม ก็ควรประกอบให้เกิดขึ้น
    ในสถานที่นั้นๆ

    “มนสฺสโลเก” มนุษย์ทั้งหลาย ที่มีวิญญาณครองอยู่ในโลก คนจำพวกใด
    ที่เห็นว่าเราควรสงเคราะห์เขาได้โดยธรรม ก็ไม่ควรอยู่นิ่งดูดาย ช่วยทาง
    กายไม่ได้ก็และทรัพย์แทนตัว ตั้งจิตเมตตาปรารถนาดีแก่คนทั้งหลายทั่ว
    ไป คนต่ำอย่าเหยียบย่ำให้จมดิน ได้แก่การดูถูกกันคนสูงอย่าฉุดลงมาใน
    เบื้องต่ำ คืออิจฉาริษยา กลัวเขาดีกว่าตัว ควรทำใจของตนให้ตั้งอยู่ใน
    พรหมวิหาร เราควรสงสารเมตตาคนเบื้องสูง มีบิดามารดา พระราชาเป็น
    ต้น ที่เรียกว่า “เมตฺตาปารมี” เราควรสงสารปรารถนาดีแก่เพื่อนมิตรสหาย
    ควรช่วยเหลือทางกาย วาจา ใจ เป็นต้น ที่เรียกว่า “เมตฺตาอุปารมี” เรา
    ควรแผ่ไมตรีจิต ทำความสนิทเสมอเหมือนบุตรที่รักในอก ในคนและสัตว์
    เบื้องต่ำที่เป็นศัตรู ให้เรามีจิตเมตตาภาวนาอุทิศกุศลแผ่ให้ตามควร เมื่อ
    ทำจิตได้เช่นนั้นท่านเรียกว่า “เมตฺตาปรมตฺถปารมี”

    ธรรมะทั้งหลายที่ได้แสดงมาเหล่านี้เป็นมหาบริจาค เมื่อใครประพฤติตน
    ได้แล้วย่อมสำเร็จประโยชน์ใหญ่ คือ พระนิพพาน ไม่หลงในสังขาร คือ
    ความไม่เที่ยง ไม่เอียงซ้าย คือความทุกข์ ไม่ติดสุขแห่งอามิส ทำจิตของ
    ตนให้พ้นจากอาสวะทั้งปวง ไม่ติดบ่วงอยู่ในอัตรา ที่เรียกว่าตัวตนทำจิต
    ให้พ้นไปจากอนัตตา ฉะนั้น เมื่อใครปรารถนาความดีประโยชน์ใหญ่ก็ควร
    พินิจพิจารณาน้อมธรรมทั้งหลายที่ได้แสดงมานี้ ให้มีอยู่ในตน ก็จะเป็น
    แนวทางให้สำเร็จความมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ

    ได้แสดงมาในมหาชาติคาถา ที่เป็นบุคลาธิษฐานให้สำเร็จพระโพธิญาณ
    ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างหนึ่ง ธรรมาธิษฐานให้พวกเราพุทธบริษัท
    ทั้งหลาย สาวกสาวิกา จงประพฤติปฏิบัติตามธรรมเหล่านั้น จะเป็นเหตุให้
    ประสบพบเห็นแต่ความเจริญงอกงามทุกทิพาราตรีกาล มีใจความดังได้
    แสดงมา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ฯ

    [​IMG]
    <!--BEGIN WEB STAT CODE----><SCRIPT language=javascript1.1> page="มหาบริจาค ๕ หลวงพ่อลี ธมฺธโร";</SCRIPT><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://hits.truehits.in.th/data/i0017685.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_donate_1.8.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://lvs.truehits.in.th/func/th_common_1.4.js"></SCRIPT>
     
  4. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,689
    ค่าพลัง:
    +9,239

    [​IMG]


    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  5. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    อนุโมทนานะครับ
    แต่ทำไมใช้ตัวหนังสือเล็กจังครับ อ่านยาก
     
  6. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,444
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,509
    อนุโมทนาในธรรมทานด้วยครับ การบริจาคนี้ถือเป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่จะต้องทรงกระทำก่อนจะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ถือได้ว่าเป็นการเสียสละเพื่อจะนำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากทะเลแห่งทุกข์ ไปสู่เมืองนิพพาน สาธุ สาธุ
     
  7. มนุสฺโส

    มนุสฺโส สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +16
    สาธุครับ ในปัจจุบันนี้ทานในระดับอุปบารมี พวกเราทั้งหลายสามารถทำได้
    โดยการบริจาคเลือด อวัยวะ ร่างกาย ^^
     
  8. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321
    Anumothana..... Sathu
     
  9. kanyaratsrimane

    kanyaratsrimane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +570
    ขออนุโมทนาค่ะ เจริญในธรรม อนุโมทนาสาธุ
     
  10. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,307
    อนุโมทนา
    สาธุ
    สาธุ
    สาธุ
    [​IMG]
     
  11. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    ขอกราบ อนุโมทนา สาธุ ๆ
    ในมหาทานของพระพุทธองค์ ตลอดจนท่านทั้งหลายด้วยครับ
    และท่านที่ได้นำพระธรรมมาเผยแพร่ด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  12. นายสาธิต

    นายสาธิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,066
    สาธุ สาธุ สาธุ จร้า การบริจาคนี้เรา(คนไทย)เป็นที่หนึ่งอยู่แล้วให้มากให้น้อยแตกต่างกัน แต่สงสัยเราบริจาคหมดกล่องไหนกล่องไหนวางไว้บางทีก้อมูลนิธิคริสต์มาเรี่ยไรมาขอแต่ทำไมเรายื่นให้คริสต์ทำบ้างเค้ากลับบอกว่าเค้าเป็นคริสต์เค้าไม่ทำการถือพุทธนี่มันน่ารังเกียจหรือไร หรือเราทำทานได้เยี่ยมกว่าเราถึงปราถนาอย่างเยี่ยมยอดได้
     
  13. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    เห็นเขาบริจาคโลหิตกัน....เรายังเดินหนี สงสัยคงอีกหลายร้อยชาติ

    เปรียบกันแล้ว...ห่างกันหลายขุมเลยนะเนี่ย.....ความจริงแล้วปรียบกันไม่ได้เลย.
     

แชร์หน้านี้

Loading...