คนเคยรับขันธ์

เมื่อสมัยอายุ 21 ปี มีอาการปวดหัวรุนแรง บ่อยครั้ง และมักฝันเห็นสิ่งแปลกๆอยู่เป็นประจำ และมักสัมผัสถึงเรื่องดวงวิญญาณอยู่บ่อยๆ เรื่องสัมผัสกับวิญญาณก็เป็นมาตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบน่ะค่ะ แต่ไม่ได้ศึกษาเรื่องพระพุทธเจ้า แต่ก็แปลกมาก ในวิชาศิลปะ จะชอบรูปพระพุทธเจ้ามาก จึงนำมาวาด ตามแบบ ซึ่งสวยมาก แต่ก็ยังไม่คิดอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งไปตำหนัก ร่างทรง ท่านว่า เธอมีองค์นะ มีหลายองค์ด้วย

เขาให้รับขันธ์ พอวันรับเกิดอาการปวดหัวอย่างแรง จนทนไม่ได้ต้องรีบกลับที่พักเดี๋ยวนั้น ต้องไปหาอาจารย์ แล้วนั่งสมาธิอยู่นาน จนอาการดีขึ้น ร้องไห้ไม่หยุด แล้วก็พูดคุยกันกับอาจารย์ เราเห็นว่าเราพูด แต่ควบคุมไม่ได้ มันคืออะไร จนที่สุดอาจารย์ว่า เราน่ะ มีองค์เทพอยู่สิบกว่าองค์มาเพื่อให้เราสร้างบารมีให้ท่านนะ
ต้องรับขันธ์ ก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำไงบ้าง ก็ยังปฏิบัติได้ไม่ดี ต้องถือศิล 5 ให้ครบ แต่จะครบได้ยังไง เพราะสมัยนั้นต้องทำงานต้องสังสรร เรื่องงาน ต้องกินเหล้า อยู่บ่อยๆ แต่ก็พยายามที่สุด แล้วขันธ์ก็รับแล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าอะไรดีขึ้นเลย รู้แต่เพียงว่า เทพท่านลงบ่อยมาก มากจนรู้สึกไม่ส่วนตัวเลย แต่ไม่คิดอะไรมาก เพราะยังใหม่อยู่

แต่มีองค์ปู่ฤาษีพรหมเมฆ และปู่ฤาษีนารายณ์ ที่ดิฉันรักและนับถือท่านมาก ท่านมักจะมาเข้าฝันอยู่เป็นประจำ มาสอนทำน้ำมนต์ไล่คุณไสย และสอนวิชาต่างๆมากมาย แม้กระทั่งสมาธิ ท่านก็สอน ทั้งที่ยังไม่เข้าใจ เรื่องทางพุทธศาสนา นั่งสมาธิจนตัวเบาลอยเหนือพื้นได้ประมาณ หนึ่งคืบ วันนั้นเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายที่ทำสมาธิ เกิดความกลัว จากเสียงดัง น้องชายปิดประตูบ้านเสียงดังมากจนจิตกระเจิง ปู่พยายามบอกให้ฝึกอีก ฉันก็ไม่ยอมทำสมาธิอีกเลย เรื่องขันธ์ท่านบอกให้ลาเอง ท่านมาเข้าฝันบอก (รับมาแล้ว 3 ปี) ท่านว่า

ขันธ์ที่รับมาไม่สมบูรณ์ ขันธ์นั้นอยู่ในพิธีกรรมไม่ครบ อาจารย์ที่ทำขันธ์ให้ ท่านบอกขอขมา แล้วจะทำขันธ์พรหมให้ ท่านปฏิเสธค่ะ แต่ไปรับขันธ์ อีกที่หนึ่ง ท่านบอว่าอย่าเพิ่งกลับ มีอะไรให้ทำ ก็ไม่เข้าใจ แต่วันนั้นก็เจอจริงๆ หลานอาจารย์เจ้าของตำหนัก ถูกคุณสัยจากอาเขย แล้วปู่ก็ลงฉันสวดมนต์จนความรู้สึกตัวเองควบคุมไม่ได้ ทำพิธีนานเท่าไหร่ไม่ทราบ ตัวเองเหมือนถูกกักอยู่ภายใน ควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็รู้สึกไม่อยากเป็นอย่างนี้อีก

แต่ท่านไล่ได้จริงๆ เขาเป็นปกติ แต่เราสิแทบตาย ของมันตามเรามา ต้องเชิญปู่ทำน้ำมนต์อาบอีก ทำไมมันลำบากอย่างนี้หนอ การช่วยคนอื่น มันก็เหมือนการเอาเคราะห์คนอื่นมาใส่ตัว โห ช่วยทุกครั้ง ก็ต้องถอนทุกครั้ง ทำไม่ดี ไม่เข้าตัวแย่เหรอเนี่ย ฉันก็เลยขอจากท่าน หวังว่าองค์พ่อ องค์แม่ องค์ปู่ทุกท่านจะไม่ถือโทษโกรธลูกเลย เรื่องที่ไม่อยากเป็นร่างทรงให้น่ะ ลูกเป็นคนธรรดาคนนึง กลัวว่าสักวันมันจะเกิดความโลภ
จากที่ท่านลงจริง จะกลายเป็นตัวเองลงเองไปซะก่อน มันจะบาปหนัก แล้วก็เอ่ยปัญหาร้อยแปด ที่คิดว่าท่านยอมรับได้ ก็พูดว่า องค์ท่านก็คงเคยทราบดี กับการระงับความโกรธจาก องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยใช้มั้ยเจ้าค้ะ

ดิฉันยังเป็นมนุษย์ ขอให้ลูกปฏิบัติในสิ่งที่เป็นได้ไม่ทวนกระแสการดำเนินชีวิตเลยเจ้าค่ะ และขันธ์ที่สองก็ต้องลาเป็นครั้งที่สอง แต่ท่านให้ฝันก่อน ปู่ท่านพาไปเมืองสวรรค์ 3 ภพ ด้วยกัน เห็นตัวเองใส่ชุดเทวดาผู้ชาย สีน้ำเงิน สีเหลือง และสีแสด ท่านให้เห็นวิมานสวยมาก ในวิมานมีแก้ว มณี สวยงาม เห็นแท่นประทับ ประดับด้วยความวิจิต และท่านก็ให้ชมต้นไม้ทิพย์ อาหารทิพย์ ท่านถามว่าอยากอยู่ที่นี่มั้ย

ฉันก็บอกว่า อยากสิ มันสงบ แล้วเสียงเพลงก็เพราะจับใจเหลือเกิน ไม่อยากกลับเลย ท่านว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ๆเจ้าเคยอยู่เป็นสถานที่ที่รอเจ้ากลับมาเป็นเจ้าของ จงประพฤติตนเป็นคนดี จงระวังในหนทาง เมื่อวันสุดท้ายของโลกมาถึง เจ้าต้องอยู่ในศิล ในธรรม จงปฏิบัติให้ถึงที่สุด เวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว(ท่านเตือนเรื่องกลียุคไว้เมื่อปี 1999) ปู่บอกว่าหากเจ้าต้องการเช่นนั้น จงเชื่อมั่นในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ยึดไว้ในจิตใจเสมอ ฉันจึงขอว่าหากวันใดที่ข้าพเจ้าหลงทาง พ้นจากทางธรรมเมื่อใด ขอสักวันจะให้พ้นและชนะกรรมนั้นเพื่อย้อนกลับมาสู่พระพุทธศาสนาเทอญ

ย้อนถึงลาขันธ์ที่สองในวันถัดมาปู่ให้ไปลาขันธ์ที่วัดราดพร้าว ก่อนกลับก็ทำบุญ และได้มองเห็นรูปเหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดเทพ มองเห็น เทพผู้ชายชุดสีน้ำเงินเหมือนที่ฝันเห็นตัวเองใส่ เกิดความปิติจนไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้ ปู่ท่านว่า ร่างกายก็เป็นขันธ์เหมือนกัน เป็นขันธ์ที่มีชีวิต องค์เทพท่านก็ได้รับเช่นกัน ขอให้หมั่นปฏิบัติและส่งบุญให้ท่านเพื่อท่านได้อนุโมทนา เพื่อเป็นบารมีต่อไป ขอบคุณค่ะ หนูรัก ปู่ และองค์พ่อ องค์แม่ ทุกพระองค์ค่ะ

 

ถ้าอยากจะ เลิกยุ่ง กับ เทพ กับ ขันธ์ ทั้งปวง ให้ วางสังขารให้เป็น

แต่ ต้องมีกำลังใจสูงนะ อย่างไรก็ตาม ให้ สวดมนต์นี้

สัพพะพุทธา นุภาเวนะ

สัพพะธัมมา นุภาเวนะ

สัพพะสังฆา นุภาเวนะ

ขอจงมาป้องกัน อย่าให้สังขารใดๆ มากร้ำกราย

ค่อยๆ ฝืน ค่อยๆ ทวน ละ ความรู้สึกที่จะไหลไป เคลิ้มคล้อยไป ให้ทวนบ่อยๆ

ทำบุญ ให้ เจ้ากรรมนายเวร บ่อยๆ

ขอให้ถึง อัตตาหิ อัตตโนนาโถ และ พระรัตนไตร

 

รับขันธ์อันตราย ส่วนใหญ่เป็นขันธ์ผีทั้งนั้น ต้องระวังเป็นอย่างมากครับ

 

สมัยก่อน นักศึกษาเพาะช่างปีหนึ่งทุกคนที่นับถือศาสนาพุทธ จะต้องผ่านพิธีกรรมครอบครูช่าง ที่โรงละครแห่งชาติ มีพราหมณ์ มีครูบาอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาสาขาศิลปกรรมไทยแต่ละแขนง มาทำพิธีครอบครูแบบประเพณีโบราณ เศียรครู เศียรเทพ เช่น เศียรพระวิษณุกรรม และอีกหลายต่อหลายเศียร จะถูกครอบมาที่นักศึกษาแต่ละคน บรรยากาศเข้มขลังอลังการ งดงามประณีตวิจิตรบรรจงมาก น่าจะเป็นคนละอย่างกับรับขันธ์ตามตำหนักเจ้าพ่อเจ้าแม่น่ะนะ

 

การช่วยเหลือผู้อื่นก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมนะครับ แต่ถ้าทำให้เรายิ่งทุกข์ ก็ขอความเมตตาจากทุกองค์ดีกว่าครับ

...ผมไม่ทราบว่า'ขันธ์' ที่ว่านี้ใช่ 'ขันธ์ 5' ที่พระพุทธเจ้าท่านให้ละเสียหรือเปล่านะครับ ผมงงๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะครับ ทุกวันนี้ตามวัดต่างๆ บอกจัดงานรับขันธ์ๆ แต่คำสอนพระพุทธเจ้าให้ละขันธ์ทั้งห้าเสียไม่ใช่เหรอครับ (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ผู้รู้ช่วยหน่อยนะครับ ผมใหม่ ผมงง หรือมีในพระไตรปิฏกบทไหนอ่ะครับ เรื่ององค์ลง องค์ออกเนี่ย...สงสัยจังว่าสิ่งเหล่านี้เป็นศาสนาพุทธหรือเปล่าน่ะครับ...

 

อาจารย์คง ร่างทรงเจ้าพ่อดำเกิงเดช เป็นแบบฉบับของการทักชาวบ้านว่ามีองค์

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

 

อนุโมทนาด้วยค่ะ อยากทราบว่า การรับขันธ์มีความเป็นมาอย่างไร ใครที่จะรับได้หรือไม่ได้บ้าง เพราะก่อนหน้านี้เวลาจะมีพิธีทางศาสนา หรือจะมีการจัดพิธีกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็มีคนเคยมาชวนไปรับขันธ์บ้าง ครอบครูบ้าง ก็เลยมีประสงค์ที่จะทำความเข้าใจค่ะ ขอความกรุณาท่านผู้รู้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ

 

อนุโมทนา กับเจ้าของกระทู้ค่ะ

ก็เคยมีคนมาทักเหมือนกันว่ามีองค์ ต้องรับขันธ์ ทั้งตำหนักทรง และวัดบางวัดที่มีการให้ลูกศิษย์รับขันธ์ (ไม่ขอเอ่ยชื่อวัดนะคะ เพราะพระท่านก็เป็นพระที่น่าเลื่อมใสค่ะ)

แต่ตัดสินใจไม่รับ เพราะ มานั่งคิด ทบทวนแล้วก็คิดว่า เราน่าจะทำความดี หรือบูชา เทพ เทวา ครูบาอาจารย์ได้ โดยไม่ต้องมีขันธ์ ทุกอย่างอยู่ที่ใจมากกว่านะคะ

 

ผมว่าดีนะครับ เหมือนมีท่านมาคอยเตือนสติเรา ให้เรา คิดดี พูดดี ตลอด

 

ผมก็เคยรับ รับมาหลายที่ หลายสำนักแต่ก็คืนเขาหมดไม่เอา อยู่กับคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ดีที่สุดเป็นสรณะอันเกษมสูงสุด.......ดวงรัตนทั้งสามนี่ มีแต่ความสงบเย็น ไม่มีเคล็ด ไม่มีกล น้อมนำสู่จิต สู่ใจ ...แล้วทำให้เกิดการวาง การคลาย เบาสบาย

 

ขันธ์ที่ส่วนใหญ่รับกันในสมัยก่อนนะค้ะ ในขันธ์จะมีข้าวสาร ถั่วเขียว ถั่วแดง งาขาว งาดำ ดอกไม้ 9 สีมีใบขนุน มะเขือ ดอกเข็ม มีใบตองทำเป็นชั้นๆ (บายศรี)และมีธูปเทียนแพ ถวาย ขันธ์ในที่นี้ หมายถึง การอันเชิญเทพ ประทับที่ขันธ์นั้นเพื่อทำการบูชา ขันธ์มีหลายขั้น ขันธ์ 5 ต้องถือศิล 5 หรือ ศิล 8 ขันธ์พรหม ต้องถือศิล 8 ขึ้นไปค่ะ ส่วนที่บอกว่าร่างกายก็เป็นขันธ์ เพราะ ร่างกายเรามี ธาตุครบ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และธาตุต่างๆในร่างกาย รวมกันเป็นขันธ์ ที่พระพุทเจ้าให้ละขันธ์นั้นก็เป็นสิ่งเดียวกันค่ะ แต่ที่เทพท่านให้บูชา ก็เนื่องจากท่านไม่มีขันธ์(คือร่างกาย เช่นมนุษย์ ซึ่งจะสามารถทำศิลได้ครบ ในเรื่องของการทำบุญ ในการช่วยผู้อื่นเพื่อสร้างบารมีของท่านต่อไป) ทางสายนี้ส่วนใหญ่จะเป็นทางอินเดียค่ะ พราหม ความจริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจนะค้ะ แต่หากปฏิบัติดี ปฏิบัติขันธ์ถูกต้อง ถือศีล 5 ไม่ผิดพลาดก็จะได้อะไรดีๆเยอะค่ะ แต่หากคุณพลาด แม้สักข้อเดียว และบ่อยครั้ง ก็ไม่พ้น ต้องได้รับการลงโทษ และหนักมากจากองค์ท่าน เหมือนดั่งที่เคยมีข่าวเรื่องร่างทรงถูกฆ่า หรือมีอันเป็นไป เนื่องจากการปฏิบัติทีบกพร่อง จากเทพ จะกลายเป็นผี หรือดวงวิญญาณอื่นๆมาแทน เพราะฉนั้น ผู้รับขันธ์ จึงต้องถือศิล 5 ให้มั่น อย่าให้บกพร่องค่ะ

 

เป็นความเข้าใจผิด สักหน่อยนะค้ะ เพราะส่วนใหญ่ที่มากันขององค์เทพก็เป็นมาจากเทพรักษาประจำตัวเรานี่แหละค่ะ จะเหมารวมว่าเป็นผีทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะการมาช่วยเรา และมนุษย์คนอื่นๆนั้นก็เพื่อสร้างบุญ และท่านก็มาอยู่ด้วยก็เพราะสาเหตุที่เราเคยเป็นบริวารท่านสมัยอดีตชาติ มนุษย์เราที่เกิดมา ไม่ได้เกิดเพียงชาติเดียวค่ะ จึงมีองค์เทพรักษาอยู่หลายองค์ด้วยกัน มีความผูกพันกันมาน่ะค่ะ แต่อย่างที่บอก เมื่อรับขันธ์แล้วคุณสามารถทำได้มั้ย ถือ ศิล 5 ไม่ให้บกพร่อง ดิฉันคิดว่าเป็นการยากมาก และกลัวของเข้าตัว จากการช่วยเหลือคนอื่น เป็นการนำเคราะห์ของผู้อื่นมาติดที่ตัวเรา แล้วต้องคอยตามแก้กรรมเหล่านั้น ถ้าหากกรรมมีมากจนแก้ไม่ทัน บุคคลที่แย่ก็คือผู้ที่เป็นร่าง คือการเป็นร่างทรงนั้นต้องมั่นจริงๆค่ะ จะพลาดไม่ได้เลย กรรมต่างๆสามารถฆ่าร่างนั้นได้ด้วยเป็นสิ่งที่น่ากลัว ดิฉันจึงขอปฏิเสธการเป็นร่างทรงค่ะ (ขออภัย หากเป็นข้อความที่ทำให้คุณขุ่นใจค่ะ)

 

ถ้าพูดถึงเรื่ององค์เทพ ผมก็ศึกษาด้วยประสบกาณ์จริง ๆ มาหลายครังหลายครา ในหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นหมอดู พระสงฆ์ หรือ หลาย ๆ ตำหนัก ทายทักมาเหมือนกันหมดว่ามี และเป็นองค์ใด...แต่ตอนหลังผมได้ตัดสินใจไม่รับ เพราะว่า ผมนับถือและศรัทธาในพระพุทธเ้จ้าเป็นที่สูงสุดและอย่างมากแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าองค์เทพของผมนั้นไม่มีหรือไม่เคยช่วยเหลือผม...ผมรู้สึกได้ว่าผมได้รับการช่วยเหลือตลอดมาและก็ศรัทธาและเคารพทุก ๆ พระองค์...อีกทั้ง ผมก็กำลังต่อสู้กับขันธ์ 5 พยายามปล่อย ละ ไม่ยึด ดังคำสอนพุทธองค์นี้อยู่ทุกวันอย่างลำพังด้วยตัวเองก็เหนื่อยมาก ลำบากจิตด้วย ต้องข่มให้ปลง มีมานะอยู่เสมอ ซึ่งถ้าผมจะ ยึดมันอีกหรือรับมาอีก ก็คงจะหนักอึ้งเลยล่ะครับ...ดังคำสอนของพระอริยเจ้าเกจิอาจารย์หลาย ๆ องค์...ผมเลย หันมาทำบุญทำกุศลให้เหล่าเทพและเทวดาที่ปกป้องคุ้มครองผมและระลึกถงท่านอยู่เสมอทุก ๆ วัน แทนดีกว่า สบายใจกว่าเยอะครับ

ทาง...มีให้เดิน แล้วแต่ตัวท่านเองเถิด หากถึงพ้อมแล้วด้วยความไม่ประมาท

 

รับทำไมศาสนาพุทธสอนอะไร พระไตรลักษณ์ อนิจัง ทุกข์ขัง อนันตา
ท่านสอนให้ละไม่ใช่หรือ
เอหรือท่านสอนให้รับ
ระวังจะหลงจนกู่ไม่กลับนะครับ
อุตส่าห์เกิดมาพบพระพุทธศาสนาเเล้วควรปฏิบัติด้วยนะครับ
เทวดาหรือผีผมก็ไม่รับ
เเค่ขันธ์ของผมก็หนักพออยู่เเล้ว
ดันไปรับขันธ์คนอื่นอีก ฮิฮิฮิ

 

ทางเดียวกันเลยนะ อนุโมทนาด้วยครับ

 

ให้กำลังใจคนที่กำลังมีปัญหา สู้ต่อไป อนุโมทนากับผู้ที่ฝ่าฟันอุปสรรคได้สำเร็จ
บุญใดที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ ตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ขอให้ส่งถึงพ่อแม่ ญาติพี่น้องครอบครัว ทุกท่านที่เป็นสมาชิก พลังจิต.com ด้วยความจริงใจ

 

เคยรับขันธ์

เชื่อในเรื่องที่คุณบอก เชื่อในเรื่องที่คุณเป็น แต่เคยได้ยินมาว่า หากไม่รับขัน หรือรับแล้วเลิก จะไม่ดี จะมีอันเป็นไป หรือบางคนก็แย่มากๆ เห็นใจแต่บางคนและหลายๆ คน บอกว่าดี ท่านจะช่วยเราคุ้มครองเรา เราเชื่อ แต่จริงๆ อยากให้คนที่รู้จริง บอกว่ามันคืออะไรแน่ แต่ไม่ต้องการคนที่ไม่ชอบก็บอก ไม่ดี คนที่ชอบก็บอกว่าดีค่ะ

 

รับขันธ์ ไหว้ครูก่อนปัฎติบัติธรรม กับรับขันธ์เข้าทรงต่างกันใช้ไหมครับ แต่ตอนผมรับผมปวดเขามากเพราะเมื่อยขา พอดีผมไปสถานปัติบัติธรรม เราก็คิดว่าการรับขันธ์คือ การดูความไม่เที้ยงของขัน ปวดขาตั้งอยู่ก้ดับไป มันเป็นเรื่องธรรมดาของขันธ์อยู่แล้วหนิครับ ขาปวดมากก็คิดว่าใช้กรรมไป จิตจะได้ไม่โทสะงุหงิดจากความปวด แต่มันคนละเรื่องกับ จ ข ก ท เน้อ..........

 

เคยมีคนทักว่ามีเทพมาอยู่ด้วยเหมือนกันจ๊ะ...แต่คนที่บอกว่าเรามีเทพมาอยู่นั้น

เค้าก็บอกว่าอยู่ที่เราจะรับหรือไม่รับ..แต่ถ้าเราจะรับเทพท่านให้เราถือศีล5 หรือศีล 8

แล้วก็ให้เรากินเจ...แต่เราคิดว่าเรายังตัดกิเลสยังไม่ได้ก็เลยนึกในใจว่า..ถ้าจะมาอยู่กับลูก

ก็ขอให้มาอยู่ได้แต่ไม่ขอรับขันธ์..เพราะกลัวว่าจะทำตามข้อกำหนดที่ท่านตั้งมาไม่ได้..

เพราะเราก็มีครอบครัว..เราก็ขอให้ท่านมาอยู่แบบคอยปกปักรักษาคุ้มครองตัวเรากับครอบครัวของเรา

แล้วก็ให้เทพท่านมาร่วมอนุโมทนาบุญตอนที่เราสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนด้วย...

ก่อนที่เราจะเริ่มมาสวดมนต์แล้วก็แผ่เมตตาจริงๆจังนี้เรามักจะเป็นโรคปวดหัวไหล่..

หรือไม่ก็โรคคอเคล็ดเป็นประจำเลย..แต่พอเราได้มาสวดมนต์เราก็ไม่ค่อยเป็นโรคนี้เท่าไหร่

แต่ถ้าช่วงไหนที่หยุดสวดมนต์แบบว่าขี้เกียจอ่ะนะ..ไม่เกิน 2 คืน..มาเลย..เคล็ดอีกแล้ว

เรื่องรับขันธ์อะไรนี่เราก็ไม่แนะนำให้เพื่อนสหายธรรมไปรับหร่อกนะจ๊ะ..ถ้าเรามีบุญเกี่ยวเนื่อง

กันกับเทพจริงๆท่านจะมาอยู่กับเราเองโดยที่เราไม่ต้องไปรับขันธ์หรืออะไรทั้งสิ้นหร่อกจ๊ะ

เพราะเทพที่จะมาติดต่อกับมนุษย์นั้นก็เพื่อที่จะมาสร้างบารมีหรือมาร่วมทำบุญกับเรานั้น

ท่านไม่ต้องบังคับเราให้รับท่านหร่อกนะ..อนุโมทนาค่ะ....สาธุ..สาธุ...สาธุ